ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักร้าว ในเงามาร

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 13: ยิ่งใกล้...หัวใจยิ่งเจ็บ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 463
      2
      6 ม.ค. 56


    กลิ่นหอมของอาหารจากห้องครัว ทำให้ผมเยี่ยมหน้าไปหาป้านวลในห้องครัว ป้านวลสาละวนกับการทำอาหารจนไม่มีแก่ใจมองมาที่ผมซึ่งคนมาเข้าใหม่ ผมเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ

    “ทำอะไรเยอะแยะครับ” ผมมองอาหารที่เรียงรายบนโต๊ะไม่ต่ำว่าเจ็ดอย่าง ป้านวลสะดุ้งน้อยๆ

    “ครูแกง---มาซะป้าตกใจเชียว” ป้านวลเอามือทาบอก ก่อนจะตีแขนผมเบาอย่างเอ็นดู

    “ทำไมทำอาหารเยอะแยะขนาดนี้ มีงานเลี้ยงเหรอครับ” ผมก้มมองอาหารน่าทานก่อนหันมายิ้มกับแม่ครัววัยกลางคนที่แสนดี

    “ครูแกง.... ---ไม่รู้จริงๆเหรอว่าวันนี้คุณฮั่นเค้าออกจากโรงพยาบาลมา” ป้านวลพูดพลางผัดผักจึงไม่ทันสังเกตเห็นว่าผมนิ่งไปเมื่อได้ยินชื่อของคนๆนั้น

    “ไม่ครับ---ผมไม่รู้อะไรเลย” ผมตอบเบาๆ ผมไม่รู้อะไรเลยจริงๆ และจะไม่มีวันรับรู้อะไรที่เกี่ยวกับคนๆนั้นอีกต่อไป สร้อยเส้นนั้น...ผมถือว่าผมตอบแทนที่คนๆนั้นช่วยผมเมื่อหกปีก่อน บุญคุณของเรามันจบสิ้นกันไปแล้ว.... จากนี้ไปจะเหลือแต่ความว่างเปล่า จะไม่มีอีกแล้วความรู้สึกดีๆที่เราเคยมีให้กัน

    “ครูแกง---อย่าหาว่าป้ายุ่งเรื่องของครูเลยนะ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมครูถึงไม่ไปหาคุณฮั่นอีกละ--ทะเลาะกันรึเปล่า” ป้านวลถามพร้อมสายตาที่จับจ้องราวกับจะเค้นความจริงทุกอย่างจากผมให้ได้

    “มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด มันเป็นแค่สิ่งที่ผมคิดไปเอง... ผมไม่อยากเป็นคนโง่อีกแล้วครับป้า” ผมพูดเบาๆ แต่ความจริงดังก้องอยู่ในหัวใจ “พี่น้อง” ระหว่างผมกับเค้า...มันเป็นพี่น้องเท่านั้น

    “แต่ป้ารู้ว่าคุณฮั่นเค้ารักครูนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ป้าแน่ใจว่าคุณสองคนรักกัน” ป้านวลวางมือจากการทำอาหาร หันมาพูดกับผมอย่างจริงจัง ผมส่ายหน้าเบาๆ

    “ในเมื่อมันเป็นคำพูดจากปากเค้า---นั่นมันก็หมายความว่าเค้าต้องการอย่างนั้นจริงๆ”

    “โธ่---ครูแกง” ป้านวลลูบหัวผมด้วยความเห็นใจ ผมฝืนยิ้มทั้งเจ็บในใจเหลือเกิน ทุกครั้งที่ต้องพูดถึงหรือได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคนๆนั้น มันเจ็บแปลบในอก... จะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่กัน ผมต้องเจ็บแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันนะ

    “แกงส้มมมมมมม---แกงส้มมมมม” เสียงพี่ฮัทดังลั่น ป้านวลส่ายหน้ากับความเป็นขี้โวยวายของพี่ฮัท

    “ครับ----ผมอยู่ในห้องครัวครับ” ผมส่งเสียงบอกพิกัด ร่างสูงยิ้มแป้นเดินเข้ามาในห้องครัวเกือบจะทันที

    “โห.... นี่กินกันกี่คนเนี่ย???” ทันทีที่พี่ฮัทเห็นอาหารก็อุทานออกมาเสียงดัง

    “ก็ทำต้อนรับคุณฮั่นกลับมาจากโรงพยาบาลนี่จ๊ะ” ป้านวลพูดอย่างภูมิอกภูมิใจกับฝีมือตัวเอง

    “น่าอิจฉาจริงๆ แม่ครัวก็รัก เจ้าของบ้านก็รัก เกิดมาเป็นพี่ฮั่นเนี่ยมันโชคดีจริงๆ” พี่ฮัทพูดลอยๆขึ้นมา ป้านวลตวัดสายตามองมาที่ผมด้วยความเป็นห่วงสภาพจิตใจที่ป้านวลคงมองออกว่ามันเจ็บช้ำเพียงใด

    “ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผมรีบออกจากห้องครัว สาวก้าวไปตามทางเดินอย่างเร็ว

    “แกง---แกงส้ม” พี่ฮัทวิ่งกระหอบกระหืดตามผมมา และคว้าแขนผมได้ที่หน้าประตูห้องของผม

    “เป็นอะไรรึเปล่า???---ทำไมหน้าตาดูไม่สดใสเลย” น้ำเสียงของพี่ฮัทไม่แจ่มใสเช่นเคย ดูมีความอาทรซึ่งนั้นทำให้ผมอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด น้ำตาแห่งความเจ็บปวดที่คับคั่งในอกทะลักออกมาอย่างสุดห้าม วันนี้แล้วความทรมานที่สุดกำลังจะมาถึง วันที่ผมต้องเห็นหน้าพี่ฮั่น... คำพูดที่แสนกรีดแทงหัวใจดังก้องในโสตประสาท ผมทนมันได้จริงเหรอ???... ทำไมถึงไม่ไปจากที่ตรงนี้ ทำไมต้องทำบ้าๆอย่างนี้ด้วยนะ ทำไม ทำไมกัน!!!

    “ร้องไห้ทำไม??? อย่าร้องเลยนะคนดี” เสียงอ่อนโยนนั้นกระซิบอยู่ข้างใบหู ร่างกายของผมถูกห่อหุ้มด้วยร่างสูงของพี่ฮัท ผมรู้ว่าอ้อมกอดนี่ไม่ใช่อ้อมกอดที่ผมต้องการ... แต่ผมอ่อนแอเหลือเกิน ขอเพียงสักแห่งให้ผมได้พักหัวใจที่แสนบอบช้ำ ขอสักคนที่ห่วงใยและรักใคร่ผมอย่างจริงใจ ผมทิ้งตัวสะอื้นภายใต้อ้อมกอดนี้อย่างหมดอาย พี่ฮัทสักวันผมจะตอบแทนความรู้สึกที่พี่มีให้ผม สักวันหนึ่งผมจะลืมคนๆนั้นให้หมดหัวใจ สักวันหนึ่ง...ถึงแม้ผมเองไม่รู้ว่าจะนานเท่าไหร่

     

    HUNZ talk

    ภาพที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นความจริงหรือนั่น... ผมหวังให้มันเป็นเพียงฝันร้าย แกงส้มกำลังอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่น ปิศาจร้ายในใจผมกำลังเรียกร้องให้ร่างกายกระชากร่างสูงโปร่งนั้นมากกกอดไว้เพียงคนเดียว แกงส้ม...พี่โหยหา พี่คิดถึง พี่แสนจะรัก หัวใจพี่มันกำลังรวดร้าวไปแล้วทั้งดวง---

    “บัดสีที่สุด ทำอะไรไม่อายผีบ้านผีเรือนเลยรึไงห๊ะ!!!” เสียงสูงดังขึ้นมาอย่างไม่พอใจ คุณหนูปล่อยแขนผมก้าวไปต่อว่าทั้งสองอย่างเคืองขุ่น แกงส้มขยับร่างออกห่างจากฮัท หันมามองทางผมด้วยความตกใจ แต่เมื่อสายตานั้นเห็นผมก็สะบัดใบหน้าไปทางอื่นโดยทันที

    “แล้วมายุ่งอะไรกับเรื่องของคนอื่นเค้า” ฮัทหันมาต่อว่าคุณหนูกลับ แต่วสายตาของฮัทยังคงมองแกงส้มไม่วางตา ผมรู้โดยทันทีว่าฮัทมีความสุขดีๆให้แกงส้มไม่น้อย สายตานั้นทั้งห่วงหาอาทร และมีประกายแห่งรักอย่างเต็มเปี่ยม

    “แต่นี่มันบ้านชั้นนะ---พี่ฮั่นคะเข้าห้องเถอะค่ะ อย่ามามองให้มันเปลืองตาเลย” คุณหนูคว้าแขนผมเพื่อจะให้เดินเข้าไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง

    “เมื่อกี้ยังร้องกรี๊ดๆ บัดสงบัดสี นี่ถึงขั้นลากผู้ชายเข้าห้องกันเลย แก่แดดแก่ลมไปมั้ย???” ฮัทร้องแทรกขึ้นมา คุณหนูถลึงตาด้วยความไม่พอใจ

    “ไอ่บ้าๆๆๆ แกกล้าคิดแบบนี้ได้ยังไง ชั้นไม่ทำตัวแบบนั้นหรอกนะ ไม่เหมือนใครบางคนมากกมากอดกัน รอให้ลับตาคนหน่อยก็ไม่ได้ หน้าด้านที่สุด” น้ำเสียงท้ายประโยคจู่โจมไปที่แกงส้มซึ่งกำลังหน้าเสียเพราะคำพูดเผ็ดร้อนของคุณหนู แกงส้มเดินก้าวอาดๆเปิดประตูห้องเข้าไปทันที ฮัทมองตามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันมามองคุณหนูที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้แกงส้มต้องหนีเข้าไปในห้อง

    “พี่ฮั่นครับ ผมไปแล้วนะครับ เบื่อเด็กแก่แดดปากปลาร้า!!!” ฮัทพูดทิ้งท้ายทำให้คุณหนูโกรธแทบเต้น

    “ไอ่บ้า!!!” คุณหนูสบถเสียงดังอย่าหัวเสียก่อนจะเดินไปทันที ผมมองไปที่ประตูไม้ที่ร่างสูงเพิ่งก้าวผ่านเข้าไป ชาติที่แล้วผมไปทำอะไรไว้กันนะ... ทำไมเรื่องราวแบบนี้ต้องมาเกิดกับผมด้วย ผมต้องทนเห็นคนที่ผมรักไปรักกับคนอื่นต่อหน้าอย่างนี้หรือ??? ผมต้องทนเห็นแกงส้มโอบกอดกับคนอื่นอีกสักกี่ครั้ง รอยจูบสุดท้ายที่ประทับบนริมฝีปากหวานนั้นยังเป็นของผมอยู่รึเปล่า??? มันจะมีความเจ็บที่มากกว่านี้อีกมั้ย??? เพราะแค่นี้ผมก็แทบทนไม่ไหวแล้ว หัวใจผมมันแหลกละเอียดไปแล้ว... ถ้ามันจะเจ็บมากไปกว่านี้แล้วผมจะเอาหัวใจที่ไหนมาทรมานอีก.....

     

    เค้าจะรู้สึกอะไรบ้างมั้ย??? พี่ฮั่นพี่เห็นรึเปล่าว่าผมกำลังอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่น พี่รู้สึกอะไรบ้างมั้ย??? แต่ถึงพี่จะรู้สึกเจ็บแค่ไหน มันคงไม่เท่าที่หัวใจผมรู้สึก หัวใจผมมันกรีดร้องเหมือนคนบ้าพร่ำบอกว่า “รักพี่เหลือเกิน” แต่มันคงส่งไปไม่ถึงสินะ ในเมื่อเจ้าของหัวใจของพี่ก็ยืนอยู่ตรงนั้น!!!

    “แกงส้ม แกงส้ม--เปิดประตูให้พี่หน่อย” เสียงของพี่ฮัทดังขึ้นมาจากด้านนอก ผมหายใจเข้าลึกๆ ปาดน้ำตาที่ท่วมใบหน้า ก่อนจะก้าวยาวๆไปเปิดประตูห้องให้พี่ฮัทเข้ามา

    “มีอะไรหรือครับ” ผมพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ พี่ฮัทมองผมราวกับจะมองให้ทะลุดวงตานี้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้ร่างกายของผม

    “พี่---พี่รู้ว่าแกงส้มกำลังทุกข์ ถึงไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรหรือเพราะใคร แต่ขอร้องนะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีใคร เพราะพี่จะอยู่ข้างๆแกงส้มตรงนี้ พี่จะไม่มีวันไปไหน” พี่ฮัทคว้ามือผมไปกุมก่อนจะยื่นมืออีกข้างมาไล้ไปตามใบหน้า น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลพรากออกมาอีกครั้ง ผมยืนนิ่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น เสียงเปิดประตูฝั่งตรงข้ามดึงสายตาของเราทั้งสองไปที่ต้นเสียง ร่างสูงที่ดูอิดโรยเล็กน้อยยืนเบิกตากว้างมองมาที่ผมและพี่ฮัท พี่ฮัทค่อยปล่อยมือผมอย่างสุภาพยกมือมาเกาหัวแก้เก้อ ส่วนผมรีบเช็ดน้ำตาไม่อยากให้เค้ารู้ว่าผมยังเจ็บปวด ไม่อยากให้เค้ารู้ว่าการกระทำนั้นยังสร้างรอยแผลบาดลึกในหัวใจของผม

    “มายืนทำอะไรตรงนี้---” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามขึ้น สายตานั้นจ้องมองมาที่ผม แวบแรกผมเห็นความน้อยใจส่องประกายแต่ภายในชั่วไม่กี่วินาทีมันก็กลายเป็นเพียงความเย็นชาเท่านั้น

    “ก็—ผมก็เป็นห่วงแกงส้มเค้า เมื่อกี้ถูกดุซะยกใหญ่ ร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆเลย” พี่ฮัทตอบกึ่งเล่นกึ่งจริง พี่ฮั่นยังคงส่งสำรวจผมไม่ละสายตา ซึ่งนึกมันทำให้หัวใจของผมสั่นขึ้นมาอีกครั้ง ผมเจ็บใจตัวเองที่ลึกๆแล้วยังคงปล่อยให้พี่ฮั่นมีอิทธิพลเหนือจิตใจของตัวเอง

    “จะเป็นห่วงอะไรกันชั้นไม่ว่าอะไรนายหรอกนะ แต่จะทำอะไรก็แคร์สายตาคนอื่นบ้าง ชั้นไม่ชอบให้มีเรื่องเสียๆหายๆในบ้าน” น้ำเสียงนั้นดูไม่ยี่หระ ไม่ยินดียินร้ายอะไรทั้งนั้น... ใช่สิ---มันจบลงไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าผมจะทำอะไรกับใคร เค้าก็คงไม่แคร์กันแล้ว เค้าห่วงเพียงชื่อเสียงของบ้านหลังใหญ่หลังนี้เท่านั้น!!!

    “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ---คราวหน้าผมจะทำให้มันลับตาผู้คนกว่านี้...พอใจรึยังครับ---คุณฮั่น” คำพูดเหล่านั้นคงไม่ซึมผ่านความรู้สึกที่ด้านชาของพี่ฮั่นได้...ในเมื่อคนมันไม่มีใจ แต่ผมขอต่อสู้บ้าง---ถึงแม้ว่าสิ่งที่ทำไปมันจะทำร้ายความรู้สึกของตัวเองเช่นเดียวกัน

    “ดี---ดี คิดได้อย่างนั้นก็ดี” เมื่อพูดเสร็จพี่ฮั่นก็เดินไปตามทางเดินทันที พี่ฮัทเลิกคิ้วมองผมด้วยความสงสัย

    “ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนปากร้ายเหมือนกัน” พี่ฮัทบอกกับผมอย่างยิ้มแย้ม ผมฝืนหัวเราะเบาในลำคอ มอฝตามร่างสูงที่เคลื่อนห่างออกไปด้วยความรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก.... พี่ฮั่น---ผมควรจะลืมพี่จริงๆใช่มั้ย??? สิ่งที่พี่ทำคือการเปิดโอกาสในผมเริ่มต้นกับคนใหม่ใช่มั้ย??? พี่ไม่แคร์ผมสักนิดไม่คิดหึงหวงกันบ้างเลยเหรอ??? ผมไม่มีค่าสำหรับพี่อีกต่อไปแล้ว.... ร้อยล้านคำถามที่พรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกของความรู้สึก ไม่มีคำถามไหนมีคำตอบที่ทำให้ผมรู้สึกดี---ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันตอกย้ำให้ผมรู้ว่า ผมควรจะตัดใจจากคนใจร้ายคนนั้นซะที!!!

     

    HUNZ talk

    มันคือสิ่งที่เราต้องการ... ท่องเอาไว้ว่านี่มันคือสิ่งที่ควรจะเป็น.... มันไม่มีประโยชน์หรอกกับการตอบสนองหัวใจตัวเองด้วยการรั้งแกงส้มไว้อย่างนี้ ในเมื่อเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ผมจะไม่เห็นแก่ตัวอีกแล้ว... แกงส้มควรจะมีความสุขกับคนที่สามารถดูแลเค้าได้จริงๆ มันต้องแบบนี้ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า มันก็ต้องจบแบบนี้ แต่ทำไมนะ---ทำไมถึงอยากดึงร่างนั้นเข้ามากอด อยากจะพาแกงส้มหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว หนีจากความจริงทุกอย่าง อยากประคองใบหน้าใสนั้นพรมจูบในสมกับความรักที่มันทะลักล้นใจ กลิ่นหอมอ่อนยังตรึงใจ รสริมฝีปากที่หอมหวานละมุนยังทำให้ผมใจสั่นทุกครั้งที่นึกถึง เพียงแค่เอื้อมแต่มันช่างดูห่างไกล น้ำตาที่รินไหลบนใบหน้านั้น...ผมอยากเป็นคนซับให้แต่ทำไม---ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้!!!

    “หงุดหงิดเหรอคะ???” เสียงสูงนั้นทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

    “คนรักมีคนอื่นต่อหน้าต่อตา มันคงเจ็บหน้าดูสิ” เจนจิราพ่นวาจาที่ร้ายกาจออกมา ไม่ว่าใบหน้าจะสวยงามแค่ไหน...สำหรับผมแล้วผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก ผมเลือกที่ก้าวหนีจากเจนจิรามากกว่าจะตอบโต้ให้ต้องหมางใจกันมากไปกว่านี้

    “ทนไม่ได้รึไง??? เดี๋ยวไอ่ครูนั้นก็ต้องกอดต้องจูบกับคนอื่น เหมือนที่คุณเคยแอบทำกับมันตามซอกตามหลืบ แล้วคุณก็จะไม่มีตัวตนสำหรับมันอีก---”

    “หยุดได้แล้ว!!” ผมปรี่เข้าไปคว้าร่างบางนั้นด้วยแรงโทสะ แต่แววตาของหญิงสาวไม่ได้มีความประหวั่นพรั่นพรึงเลยแม้แต่น้อย

    “ชั้นรู้ว่าคุณไม่ทำอะไรชั้นหรอก---หรือว่าคุณอยากทำ...” นิ้วมือเรียวบางไล้ไปตามช่วงอกของผมอย่างเย้ายวน ผมจับมือเจนจิราไว้ รอยยิ้มยั่วเย้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าเฉี่ยวสวย

    “ชั้นรู้ว่าคุณกำลังสับสน---และคุณหนูเองก็ตอบสนองความต้องการที่เร้าร้อนของคุณไม่ได้...”

    “คุณกำลังเข้าใจผมผิดแล้วเจน---ผมไม่ต้องการให้ใครมาตอบสนองความต้องการผมทั้งนั้น”

    “คุณอยากโกหกตัวเองเลยนะค่ะฮั่น---ชั้นรู้ว่าคุณกำลังต้องการ...” เจนจิราดันร่างของผมติดผนัง ร่างกายอวบอัดเบียดร่างผมจนแนบแน่น กลิ่นน้ำหอมยั่วเย้าลอยกระทบจมูก

    “ใช่---ผมต้องการ แต่สิ่งที่ผมต้องการ...ไม่ใช่คุณ” ผมผลักร่างบางนั้นออกไปจากตัวเบาๆ เจนจิราหายใจแรงด้วยความโกรธ

    “และชั้นจะไม่มีวันให้คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการ ชั้นสาบานว่าชั้นจะทำทุกอย่างให้คุณกับมันเจ็บ เจ็บที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะไอ่ครูคนนั้น มันจะต้องเจ็บ—เจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!!!

    “ห้ามแตะต้องแกงส้มเด็ดขาด...อย่าทำอะไรแกงส้มเด็ดขาด ถ้าแกงส้มเจ็บ—แม้แต่เพียงปลายเล็บ ผมจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่!!!” ผมขู่เจนจิราด้วยความอาฆาต ผมเจ็บ ผมไม่เป็นไร... ผมทรมาน ผมไม่เป็นไร แต่สำหรับแกงส้ม... ไม่วันที่ผมจะปล่อยให้แกงส้มต้องเป็นอะไรไปเด็ดขาด

    “ชั้นจะไม่แตะต้องคนรักของคุณหรอกฮั่น---แต่คุณอย่าลืมว่าชั้นมีปิศาจอยู่ในมือ และปิศาจนั่นสามารถทำทุกอย่างเพื่อคุณได้ คุณเองก็รู้ดีว่าคุณไม่สามารถห้ามได้” เมื่อพูดจบเจนจิราหัวเราะในลำคออย่างโหดเหี้ยม ผมทิ้งตัวทรุดลงนั่งกับพื้น เจนจิรากำลังหลอกใช้คุณหนู นั่น...เป็นเรื่องที่ผมกลัวมากที่สุด ความไร้เดียงสาของคุณหนูทำให้คนอย่างเจนจิรายืมมือทำร้ายคนอื่นได้ไม่ยาก....ทั้งคุณหนูและแกงส้ม กำลังจะตกในเงื้อมมือคนอย่างเจนจิรา คนที่ผมต้องปกป้องทั้งสองคนกำลังจะตกเป็นเครื่องมือความร้ายกาจของเจนจิรา หนึ่งคนที่ผมต้องปกป้องด้วยชีวิต และหนึ่งคนที่ผมต้องปกป้องด้วยหัวใจ.... ผมต้องทำอย่างไร!!!

     

    ปล. แต่งเองยังรู้สึกว่ามันน่าอึดอัดเลย ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะจ๊ะ ต่อไปเนื้อเรื่องเข้มข้นเรื่อยๆ พี่ฮั่นจะทำยังไง??? แกงส้มจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า??? ติดตามกันด้วยนะจ๊ะ>>>>> รักรีดเดอร์ทุกคนนะจ๊ะ ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×