ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF :: รักนะ..ไอเด็กหน้าหล่อ II [end]
2
เช้าวันเปิดเทอมที่ไม่สดใสสำหรับลีฮยอกแจที่ตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้าก็ยังไม่ได้นอนเลยสักนิดแถมยังต้องมามหา’ลัยพร้อมไอตัวต้นเหตุที่ทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่ออกจากบ้านอีก
ถึงแม้ว่าไอเด็กหน้าหล่อจะพยายามชวนคุยแค่ไหนแต่ ณ ตอนนี้ เวลานี้ ลีฮยอกแจไม่มีอารมณ์จริงๆ
ทั้งสองจึงเดินทางโดยไร้เสียงจนถึงหน้ามหาลัย
“ถ้างั้น..แล้วเจอกันนะนูน่า..ฟอด”ก่อนจากกันไอเด็กหน้าหล่อยังทำให้ได้อายแล้ววิ่งหนีไปเหลือไว้แต่คนน่ารักที่ยืนแข็งเป็นก้อนหินกับหน้าขาวแดงระเรื่อ..
.
.
“ไอฮยอกมันเป็นไรของมันว่ะ”ฮีชอลที่เพิ่งมาถึงพยักเพยิดหน้าไปทางคนที่นั่งหน้าแดงกุมแก้มตัวเองสักพักก็ถูแรงๆจนช้ำแล้วหยุดทำสลับกันไป
“ไม่รู้ว่ะฉันเห็นมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่มาถึงแล้ว”อีทึกว่าก่อนจะสนใจหนังสือในมือต่อ
“แล้วแกอ่านไรอยู่อ่ะ”อดไม่ได้ที่จะถามแล้วชะโงกหน้าไปดูด้วยก่อนจะทำตาโต..เพื่อนเขาอ่านหนังสือแนวนี้ด้วยหรอ
“สนใจสักเล่มมั้ย”เจ้าของหนังสือถามยิ้มๆแล้วก้มหน้าอ่านนิยายYaoiหรือนิยายชายรักชายต่อเข้าสู่โลกของตัวเองไปอีกคน
ถ้าใครเดินผ่านมาทางนี้จะเห็นคนหน้าสวยที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่รู้จะทำอะไร..คนตาสวยที่หลงเข้าไปในโลกนิยาย..และคนน่ารักที่วันนี้รู้สึกจะมีปัญหากับแก้มแต่ถึงยังไงเพื่อนซี้ทั้งสามก็ยังเป็นที่จับตามองของคนทั้งมหา’ลัยอยู่ดี
“ฉันหิว..ไปกินข้าวกันเถอะ”แล้วก็กลายเป็นคนหน้าสวยที่เอ่ยทำลายความเงียบ
“หืม..เอาสิยังไงวันนี้ก็ไม่ได้เรียนอยู่ดี..ไอฮยอกเป็นไรมากเปล่าว่ะไปโรงอาหารกัน”อีทึกที่ยอมละจากหนังสือที่รักสะกิดเรียกอีกคนที่ดูท่าว่าจะยังถูแก้มตัวเองไม่สะใจพอทั้งๆที่ตอนนี้มันแดงเถือกแล้ว
“เรียกอย่างนั้นแล้วเมื่อไหร่มันจะรู้สึกตัวห๊ะทึกกี้..มันต้องอย่างนี้”
ป้าบ!!~
ฝ่ามือเรียวสวยประทับลงกลางหลังของฮยอกแจพอดิบพอดีไม่หนักเกินไปแต่ก็แรงพอจะทำให้คนที่กำลังบ้าอยู่กับแก้มตัวเองสนใจสิ่งรอบข้างได้บ้าง
“โอ๊ย..อ้าว..พวกแกสองคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่”ไม่ได้กวนก็แค่ไม่รู้จริงๆ..มือก็พยายามลูบหลังตัวเองคลายอาการคันยิบๆที่เพิ่มมากขึ้น
“แกไม่รอถามตอนฉันกลับบ้านเลยละวะ”ประโยคประชดประชันของเพื่อนไม่ได้ทำให้คนฟังโกรธเพราะรูว่านี่แหละคิมฮีชอล..ถึงจะหิวก็ยังมีอารมณ์กวน
“นั่นสิมีอะไรรึเปล่านะฮยอกแจ”อีทึกถามอย่างเป็นห่วง
“เปล่าหรอก”ก้มหน้าหลบสายตาเพื่อนแต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อเช้ามือเรียวก็ยกขึ้นถูแก้มอย่างอัตโมนัติ
“เปล่าบ้านแกสิ..นั่งถูหน้าตัวเองจนแดงเถือกขนาดนี้..ไหนจะขอบตาหมีแพนด้าอีก..บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น”ฮีชอลก็ยังเป็นฮีชอลอยู่วันยังค่ำเป็นห่วงแต่คำพูดนั่นมันขู่กรรโชกชัดๆ - -
“อ่าแกหิวไม่ใช่หรอ..ไปกินข้าวกันเถอะ”ไม่ใช่ไม่อยากบอกเพียงแต่ไม่รู้จะบอกยังไงดี
“อย่ามาทำเนียน..จะบอกดีๆหรือบอกด้วยน้ำตา”ไม่พูดเปล่ายังถลกแขนเสื้อตัวเองเตรียมพร้อมเต็มที่
“เอาน่าซิน..ฮยอกมันอาจจะยังไม่พร้อมก็ได้”อีทึกบอกเมื่อเห็นแล้วว่าฮยอกแจคงไม่อยากพูดตอนนี้ฮีชอลทำหน้านิ่งอันที่จริงก็ไม่ได้อยากจะรู้อะไรมากมายหรอกก็แค่เป็นห่วง
“เดี๋ยวฉันบอกตอนกินข้าวแล้วกันนะ”แขนขาวกอดแขนเรียวของเพื่อนอย่างออดอ้อนเห็นหน้าเพื่อนอย่างนี้แล้วอดรู้สึกผิดไม่ได้
“ตกลงงั้นเราไปกินข้าวกันเถอะ..ป่ะทึกกี้”ฮีชอลยิ้มกว้างก่อนจะคว้าแขนของอีกคนแล้วมุ่งหน้าสู่โรงอาหารทันที
.
.
.
.
.
เรื่องราวระหว่างฮยอกแจกับเด็กหน้าหล่อออกมาจากริมฝีปากแดงอวบอิ่มตั้งแต่เรื่องเมื่อสิบปีก่อนจนถึงเรื่องเมื่อวานนี้โดยที่สองเพื่อนก็ทำหน้าที่รับฟังอย่างดีพร้อมกับการกิน!!
…ช่างเป็นเรื่องที่เพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารอย่างยิ่ง = =
“แล้วตกลง..เด็กหล่อนั่นเอาของฝากจากแกคืนรึยังล่ะ”ฮีชอลถามอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก
“บ้านแกนะสิ..เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนทั้งคืน..เพราะกลัวมันจะเอาของฝากคืนนี่แหละ”เสียงหวานตวาดลั่นพร้อมกับเลือดที่พร้อมใจกันขึ้นมากองอยู่บนหน้าขาว
…ตั้งแต่ไอเด็กหล่อนั่นมารู้สึกว่าร่างกายฉันจะสูบฉีดมากเกินไปแล้วนะ
“มิน่าละ..ตาแกถึงเป็นอย่างนี้”อีทึกพยักหน้าอย่างเข้าใจมองขอบตาที่ดำคล้ำของเพื่อนแล้วก็สงสาร
“ฮยอกแจนูน่า~~~”
พรวดด!! ~~
“แค่ก..แค่ก”น้ำนมสีชมพูสวยพุ่งออกจากปากอวบอิ่มเตชะบุญของลีฮยอกแจที่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามนั้นว่างเปล่าเพราะฮีชอลกับอีทึกนั่งเยื้องไปทางขวา
ตาเรียวเบิกกว้างอย่างตกใจหันไปมองทางเข้าโรงอาหารก็เจอกับเจ้าของเสียงที่ถึงแม้จะไม่มองก็รู้ได้ว่าเป็นใคร -*-
เด็กหน้าหล่อของฮยอกแจเดินเร็วๆเข้ามาหาหน้าตายิ้มแย้มเป็นอาแป๊ะจากเมืองจีนข้างกายมีสองร่างสูงของเพื่อนเดินตามมาด้วย
“ฮยอกแจนูน่า..ไม่ได้เรียนเหมือนกันหรอครับวันนี้”หน้าหล่อถือวิสาสะนั่งลงข้างคนน่ารักทันทีไม่สนใจสิ่งมีชีวิตอื่นรอบข้างแม้แต่น้อยส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันก็นั่งลงข้างๆฮีชอลกับอีทึกแล้วคุยกัน
การกระทำดังกล่าวออกจะน่าสงสัยสำหรับฮันกยองว่ามันไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าคนตัวเล็กข้างๆนี่อีกแล้วละ
“เออ..ฉันไม่มีเรียน..แล้วก็เลิกเรียกฉันว่านูน่าได้แล้วฉันอายเขา”ประโยคแรกบอกเสียงแข็งแต่ประโยคหลังพูดเบาๆหันซ้ายหันขวาก็มีแต่คนมองมาทางพวกเขาแล้วซุบซิบนินทากัน
“แต่ผมไม่อาย..”ลอยหน้าลอยตาพูดก่อนตาคมจะหันไปป๊ะกับสองคนสวยที่นั่งร่วมโต๊ะกับฮยอกแจนูน่าของตน((?))กำลังมองมาพอดี
“โอ๊ะ..เพื่อนนูน่าหรอครับ..ผมฮันกยองแฟนฮยอกแจนูน่ายินดีที่ได้รู้จักครับ”เอ่ยอย่างอารมณ์ดีแต่คนที่ถูกตู่ว่าเป็นแฟนนั้นช็อคไปแล้วเรียบร้อยโรงเรียนจีน..
ผมฮันกยองแฟนฮยอกแจนูน่า..~
ผมฮันกยองแฟนฮยอกแจนูน่า..~
ผมฮันกยองแฟนฮยอกแจนูน่า..~
“เอ๋..ไม่เห็นไอฮยอกมันจะบอกเลยว่ามีแฟนแล้ว”คนสวยหันไปทำตาโตคาดโทษเพื่อนโทษฐานที่มีแฟนแล้วแต่ไม่บอกกันบ้างแต่อนิจจาคนโดนคาดโทษไม่รู้ตัวสักนิดเพราะยังช็อคอยู่..อาเมน( _ _”)
“ฉันว่าแกถลึงตาใส่มันยังไงมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก..นั่งช็อคเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่นั่น”อีทึกบอกมองไปทางคนที่ถูกพูดถึง
ฮีชอลเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาเขย่าตัวเพื่อนเพื่อเรียกสติแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลหน้าหล่อยกยิ้มกว้างอย่างถูกใจแววตาเจ้าเล่ห์ปรากฏแวบหนึ่งก่อนจะจางหายไป
“เดี๋ยวผมจัดการเองดีกว่าครับ”ว่าจบก็โน้มหน้าหล่อๆไปใกล้กับหน้าน่ารักมองตาอีกคนที่ยังเลื่อนลอยปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะประกบจูบปากแดงที่ลอยอยู่ตรงหน้าไม่มีการลุกล้ำใดๆแต่สัมผัสชวนวาบหวิวนั่นกลับปลุกคนช็อคให้มีสติขึ้นมาได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้คนในโรงอาหารเงียบกริบเป็นป่าช้าทันที
โครมม!!~
ร่างสูงร่วงไปกองอยู่กับพื้นจากลูกถีบของฮยอกแจที่ตอนนี้วิ่งหนีออกจากโรงอาหารไปแล้วไม่ได้เอ่ยลาหรือมองหน้าใครสักคนเพราะความอาย
“อูย..พวกมึงไม่คิดจะช่วยกูเลยใช่มั้ยไอซีวอน..ไอคังอิน”ฮันกยองครางเรียกเพื่อนตัวดีทั้งสองที่นั่งมองเฉยๆ
“ทีอย่างนี้เห็นหัวพวกกูเลยนะมึง”ซีวอนว่าก่อนจะหิ้วปีกคนโอดโอยคนละข้างกับคังอิน
“นั่นนะสิ..แล้วมึงจะไม่ตามนูน่าที่รักมึงไปหรอไง”คังอินว่าสายตามองไปยังร่างของคนตัวเล็กที่วิ่งไกลออกไปจากโรงอาหารทุกทีๆ
“กำลังจะไปนี่แหละ..ตัวก็เล็กแต่ตีนหนักชิบหายเลยว่ะ”ทั้งๆที่บ่นแต่ขายาวก็ก้าวเท้าออกวิ่งตามนูน่าไปทันทีทิ้งเพื่อนไว้กับรุ่นพี่คนสวยทั้งสอง
ฮยอกแจที่วิ่งหนีมาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังไปทางไหนรู้เพียงแค่ว่าต้องไปให้พ้นสถานการณ์น่าอายนั่น
ร่างเล็กหยุดลงที่ทะเลสาบของมหา’ลัยบริเวณโดยรอบเงียบสนิทไร้ผู้คนฮยอกแจหย่อนกายลงนั่งบนพื้นหญ้านิ่มก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้นะ..”มือเรียววางทาบที่อกด้านซ้ายที่ตอนนี้มันเต้นระรัวเหมือนจะหลุดออกจากอก ใบหน้าร้อนวูบวาบเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป
…ทั้งๆที่ฉันควรจะโกรธที่นายทำรุ่มร่ามกับฉัน
…แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกดีอย่างนี้ล่ะ -///-
…ลีฮยอกแจ!!นี่แกรู้สึกดีกับสัมผัสของไอเด็กหล่อนั่นอย่างนั้นหรอ
…แกเพิ่งเจอเขาเมื่อวานนี้เองนะ ทำไมแกใจง่ายอย่างนี้~~~
…อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!~~~
เพราะมัวแต่ทึ้งหัวจิกผมตัวเองอยู่จึงไม่ได้รับรู้การมาของใครอีกคน..ฮันกยองมองการกระทำนั้นไม่วางตาปากหยักคลี่ยิ้มน้อยๆก่อนจะย่องเบาๆไปข้างหลังคนตัวเล็ก
“ฮยอกแจนูน่า~~”สัมผัสอบอุ่นจากข้างหลังหยุดชะงักการกระทำทั้งหมดทันที
“ทะ..ทำอะไร..ขอ..ของนายนะห๊ะ!!!”เสียงหวานตวาดกลบเกลื่อนความเขินอายรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะเลย
ทั้งหลังบอบบางที่ตอนนี้แนบชิดกับแผ่นอกกว้างของอีกฝ่าย..ใบหน้าคมคายที่เกยอยู่ที่ไหล่ตนลมหายใจที่พ่นใส่คอนุ่มจนขนลุกแล้วยังมีมือกาวนี่อีกเมื่อไหร่จะปล่อยสักที
…ฮยอกแจอยากหายตัวไปจากตรงนี้แล้วจริงๆนะ -///-
“ทำไมนูน่าถีบผมอย่างนั้นละ..ผมเจ็บนะรู้รึเปล่า”ไม่พูดเปล่าจมูกโด่งกดลงที่ซอกคอขาว ฮยอกแจพยายามเบี่ยงคอหลบแต่กลับเป็นการเปิดทางให้กับฮันกยองแทน
“รู้สิไม่งั้นจะถีบทำไมวะ!”ถึงจะหวั่นไหวกับสัมผัสนั่นแต่ปากอิ่มก็ยังคงทำงานดีเหมือนเดิมฮยอกแจดิ้นสุดแรงให้หลุดจากอ้อมกอดแต่ผลกลับตรงกันข้าม
ยิ่งดิ้นแรงเท่าไหร่อ้อมกอดแกร่งก็ยิ่งแน่นขึ้นเท่านั้น
“เมื่อไหร่จะปล่อยวะเนี่ย”เมื่อกระทำไม่สำเร็จก็ใช้เสียงนี่แหละ
“นูน่าต้องสัญญาก่อนว่าถ้าผมปล่อยจะไม่วิ่งหนีอีก แล้วเรามาคุยกัน”ข้อเสนอของฮันกยองทำเอาคนในอ้อมกอดคิดหนัก
…อืม..ถ้าไม่สัญญาก็จะต้องโดนมันกอดอย่างนี้ต่อไป
…แต่ถ้าสัญญาฉันจะกล้ามองหน้า จะกล้าคุยกับมันหรอ อายนะเว้ย
“ตกลง..ฉันจะไม่หนี”อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆนั่นให้ใจสั่นเล่นๆโดยไม่รู้ว่าจะเป็นลมเพราะเลือดสูบฉีดมากไปเมื่อไหร่
แขนแกร่งปล่อยฮยอกแจแต่โดยดีก่อนจะหมุนตัวอีกคนให้หันมาเผชิญหน้ากัน
“หืม..ทำไมหน้าแดงละนูน่า”แววตาอ่อนโยนที่มองมาเพิ่มปริมาณเลือดบนใบหน้าให้เพิ่มขึ้นโดยที่ฮันกยองเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้เพียงแต่เขาชอบมองหน้านูน่าของเขาตอนเขินอายจริงๆ
“…”
“ไม่ตอบก็ไม่เป็นไรแต่..ทำไมนูน่าถึงหนีผมมาล่ะ”
“คะ..ใครมันจะหน้าด้านเหมือนนายเล่า”พูดจบก็ก้มหน้ามองพื้นหญ้าไม่อยากสบตาอีกฝ่ายเท่าไรนัก
“ผมหน้าด้านตรงไหน”
“ก็ตรงที่นายจู..จู..จูบฉันนะสิ (_///_)”พูดเองก็กระดากปากเอง
“ก็ผมจูบแฟนของผมมันผิดตรงไหน”
“ใครเป็นแฟนนายกัน!!!”เสียงหวานตวาดลั่นเผลอเงยหน้ามองคนขี้ตู่ที่ตอนนี้หน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้ตนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้จนจมูกของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่เส้นผมพาดผ่านเท่านั้นเอง
เหมือนเวลาหยุดหมุนสองสายตาจ้องมองกันเนิ่นนาน ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดกัน
มือหนาดันท้ายทอยอีกคนไว้ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะทาบทับลงบนกลีบปากอิ่มที่เชิญชวนอยู่ตรงหน้า
คราวนี้ไม่ใช่เพียงแค่สัมผัส..ลิ้นร้อนไล้เล็มปากอิ่มเป็นเชิงขออนุญาติก่อนจะส่งทูตสัมพันธไมตรีตัวน้อยเข้าเก็บความหอมหวานในโพรงปากนั่น
ลิ้นเล็กที่เกี่ยวตวัดตอบรับถึงแม้จะไม่ประสาแต่กลับให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบมือเรียวโอบรอบคออีกฝ่ายอย่างเผลอไผลปรับองศาหน้าให้รับสัมผัสได้มากขึ้น
เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้แต่น้ำใสที่ไหลออกมามากมายคงเป็นตัวบอกได้อย่างดีก่อนที่อะไรจะเลยเถิดมากไปกว่านี้ฮันกยองจึงจำใจผละออกจากความหอมหวานตรงหน้าประคองหน้าหวานที่ยังมัวเมากับรสจูบให้สบสายตากัน
“นูน่าไง..แฟนของผม”
“…”
“…”
“ฉันจำมะ..ไม่ได้สักนิดว่านายเคยขอฉันเป็นแฟน-///-”ฮยอกแจเอ่ยเบาๆสติที่หลุดลอยค่อยๆกลับคืน
“นูน่าเป็นแฟนผมตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วล่ะ”ฮันกยองวางแขนทั้งสองข้างพาดบนไหล่เล็กก้มหน้าลงให้อยู่ระดับเดียวกัน
“เห..นายหมายความว่าไง”คิ้วเรียวขมวดมุ่นกัดปากตัวเองอย่างคนใช้ความคิด
“ก็ใครได้First Kissของผมไปคนนั้นก็เป็นแฟนผม”ขี้ตู่เอาเองคงเป็นนิสัยอย่างหนึ่งของฮันกยอง
“แล้วมันเกี่ยวกับฉันตรงไหน”
“โถ่..ก็นูน่าได้จูบแรกผมไปตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วนะสิ-///-”ใครว่าฮันกยองหน้าด้านมาดูตอนนี้จะเห็นว่าคนหน้าด้านหน้าแดงแค่ไหน
“ละ..แล้วยังไงละ..บอกรักฉันนายก็ยังไม่ได้บอกแล้วจะให้ฉันเป็นแฟนนายเนี่ยนะ!!!”พูดแล้วก็อยากตบปากตัวเอง
ลีฮยอกแจแกพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไงเดี๋ยวไอเด็กหล่อมันก็คิดว่าแกอยากเป็นแฟนกับมันหรอก
ฮันกยองยิ้มกว้างรั้งร่างบางมากอดไว้แน่นก่อนจะกระซิบบางประโยคข้างหูขาว
“ผมรักฮยอกแจนูน่า..เป็นแฟนกับผมนะ”
“อืม^///^”ใจง่ายจังเลยฉัน
“อะไรกันนูน่าจะไม่บอกรักผมหน่อยหรอ”
“ฉันก็อายเป็นนะไอเด็กบ้านี่!!!”
“อ่า..นูน่าคงไม่ได้รักผมนะสินะ”เสียงทุ้มเศร้าหมองแต่แววตาเจ้าเล่ห์ฮันกยองผละตัวออกห่างปล่อยฮยอกแจเป็นอิสระก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ฉันก็รักนายนะ..ไอเด็กหน้าหล่อ!!”แล้วนูน่าก็ตกหลุมพรางเข้าจนได้
นิทราอันแสนสุขเป็นอันต้องหยุดลงกระทันหันเพราะสัมผัสชวนหวาบหวามในยามวิกาลตาเรียวค่อยๆปรือขึ้นก่อนจะต้องตกใจเพราะหน้าของไอเด็กหล่อลอยอยู่ห่างแค่คืบ
..มันขึ้นมาบนเตียงเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย O_O
“ทำบ้าอะไรของนายนะ!!!”
“ก็ผมอยากนอนกอดนูน่านี่นา”มือแกร่งซุกซนลูบไล้ผิวเนียนพร้อมๆกับใบหน้าหล่อที่ซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่น
…กอดบ้านแกอย่างนี้เรอะ ไอเด็กหล่อ
“นี่..ยะ..หยุดนะ”ความรู้สึกเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ความง่วงงุนทันที
“ไม่ได้หรอกนูน่า..ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าผมจะเอาของฝากคืน..ฉะนั้นนูน่าคืนของฝากให้ผมซะดีๆ”
“ห๊ะ..อุ๊บ”
สงสัยนูน่าคงต้องคืนของฝากไอเด็กหน้าหล่อทั้งคืนแน่ๆ อิอิ
End.
****************************************
จบกันไปแล้วกับ SF เรื่องแรก งง กันมั้ยค่ะ
ติ ชม กันมาได้เลยค่ะ^^
รักฮยอก เม้นต์
รักป๋า เม้นต์
รักฮันฮยอก ก็เม้นต์เหมือนเดิม^^
เจอกันเรื่องหน้าค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ค่ะ^ ^
Happy New Year 2010 นะคะทุกคน คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา มีความสุขมากค่ะ
และสุดท้ายนี้
Happy Birth Day to Lee Sungmin
สุขสันต์วันเกิดกระต่ายตัวน้อยๆของวง ลีซองมิน
เช้าวันเปิดเทอมที่ไม่สดใสสำหรับลีฮยอกแจที่ตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้าก็ยังไม่ได้นอนเลยสักนิดแถมยังต้องมามหา’ลัยพร้อมไอตัวต้นเหตุที่ทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่ออกจากบ้านอีก
ถึงแม้ว่าไอเด็กหน้าหล่อจะพยายามชวนคุยแค่ไหนแต่ ณ ตอนนี้ เวลานี้ ลีฮยอกแจไม่มีอารมณ์จริงๆ
ทั้งสองจึงเดินทางโดยไร้เสียงจนถึงหน้ามหาลัย
“ถ้างั้น..แล้วเจอกันนะนูน่า..ฟอด”ก่อนจากกันไอเด็กหน้าหล่อยังทำให้ได้อายแล้ววิ่งหนีไปเหลือไว้แต่คนน่ารักที่ยืนแข็งเป็นก้อนหินกับหน้าขาวแดงระเรื่อ..
.
.
“ไอฮยอกมันเป็นไรของมันว่ะ”ฮีชอลที่เพิ่งมาถึงพยักเพยิดหน้าไปทางคนที่นั่งหน้าแดงกุมแก้มตัวเองสักพักก็ถูแรงๆจนช้ำแล้วหยุดทำสลับกันไป
“ไม่รู้ว่ะฉันเห็นมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่มาถึงแล้ว”อีทึกว่าก่อนจะสนใจหนังสือในมือต่อ
“แล้วแกอ่านไรอยู่อ่ะ”อดไม่ได้ที่จะถามแล้วชะโงกหน้าไปดูด้วยก่อนจะทำตาโต..เพื่อนเขาอ่านหนังสือแนวนี้ด้วยหรอ
“สนใจสักเล่มมั้ย”เจ้าของหนังสือถามยิ้มๆแล้วก้มหน้าอ่านนิยายYaoiหรือนิยายชายรักชายต่อเข้าสู่โลกของตัวเองไปอีกคน
ถ้าใครเดินผ่านมาทางนี้จะเห็นคนหน้าสวยที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่รู้จะทำอะไร..คนตาสวยที่หลงเข้าไปในโลกนิยาย..และคนน่ารักที่วันนี้รู้สึกจะมีปัญหากับแก้มแต่ถึงยังไงเพื่อนซี้ทั้งสามก็ยังเป็นที่จับตามองของคนทั้งมหา’ลัยอยู่ดี
“ฉันหิว..ไปกินข้าวกันเถอะ”แล้วก็กลายเป็นคนหน้าสวยที่เอ่ยทำลายความเงียบ
“หืม..เอาสิยังไงวันนี้ก็ไม่ได้เรียนอยู่ดี..ไอฮยอกเป็นไรมากเปล่าว่ะไปโรงอาหารกัน”อีทึกที่ยอมละจากหนังสือที่รักสะกิดเรียกอีกคนที่ดูท่าว่าจะยังถูแก้มตัวเองไม่สะใจพอทั้งๆที่ตอนนี้มันแดงเถือกแล้ว
“เรียกอย่างนั้นแล้วเมื่อไหร่มันจะรู้สึกตัวห๊ะทึกกี้..มันต้องอย่างนี้”
ป้าบ!!~
ฝ่ามือเรียวสวยประทับลงกลางหลังของฮยอกแจพอดิบพอดีไม่หนักเกินไปแต่ก็แรงพอจะทำให้คนที่กำลังบ้าอยู่กับแก้มตัวเองสนใจสิ่งรอบข้างได้บ้าง
“โอ๊ย..อ้าว..พวกแกสองคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่”ไม่ได้กวนก็แค่ไม่รู้จริงๆ..มือก็พยายามลูบหลังตัวเองคลายอาการคันยิบๆที่เพิ่มมากขึ้น
“แกไม่รอถามตอนฉันกลับบ้านเลยละวะ”ประโยคประชดประชันของเพื่อนไม่ได้ทำให้คนฟังโกรธเพราะรูว่านี่แหละคิมฮีชอล..ถึงจะหิวก็ยังมีอารมณ์กวน
“นั่นสิมีอะไรรึเปล่านะฮยอกแจ”อีทึกถามอย่างเป็นห่วง
“เปล่าหรอก”ก้มหน้าหลบสายตาเพื่อนแต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อเช้ามือเรียวก็ยกขึ้นถูแก้มอย่างอัตโมนัติ
“เปล่าบ้านแกสิ..นั่งถูหน้าตัวเองจนแดงเถือกขนาดนี้..ไหนจะขอบตาหมีแพนด้าอีก..บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น”ฮีชอลก็ยังเป็นฮีชอลอยู่วันยังค่ำเป็นห่วงแต่คำพูดนั่นมันขู่กรรโชกชัดๆ - -
“อ่าแกหิวไม่ใช่หรอ..ไปกินข้าวกันเถอะ”ไม่ใช่ไม่อยากบอกเพียงแต่ไม่รู้จะบอกยังไงดี
“อย่ามาทำเนียน..จะบอกดีๆหรือบอกด้วยน้ำตา”ไม่พูดเปล่ายังถลกแขนเสื้อตัวเองเตรียมพร้อมเต็มที่
“เอาน่าซิน..ฮยอกมันอาจจะยังไม่พร้อมก็ได้”อีทึกบอกเมื่อเห็นแล้วว่าฮยอกแจคงไม่อยากพูดตอนนี้ฮีชอลทำหน้านิ่งอันที่จริงก็ไม่ได้อยากจะรู้อะไรมากมายหรอกก็แค่เป็นห่วง
“เดี๋ยวฉันบอกตอนกินข้าวแล้วกันนะ”แขนขาวกอดแขนเรียวของเพื่อนอย่างออดอ้อนเห็นหน้าเพื่อนอย่างนี้แล้วอดรู้สึกผิดไม่ได้
“ตกลงงั้นเราไปกินข้าวกันเถอะ..ป่ะทึกกี้”ฮีชอลยิ้มกว้างก่อนจะคว้าแขนของอีกคนแล้วมุ่งหน้าสู่โรงอาหารทันที
.
.
.
.
.
เรื่องราวระหว่างฮยอกแจกับเด็กหน้าหล่อออกมาจากริมฝีปากแดงอวบอิ่มตั้งแต่เรื่องเมื่อสิบปีก่อนจนถึงเรื่องเมื่อวานนี้โดยที่สองเพื่อนก็ทำหน้าที่รับฟังอย่างดีพร้อมกับการกิน!!
…ช่างเป็นเรื่องที่เพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารอย่างยิ่ง = =
“แล้วตกลง..เด็กหล่อนั่นเอาของฝากจากแกคืนรึยังล่ะ”ฮีชอลถามอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก
“บ้านแกนะสิ..เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนทั้งคืน..เพราะกลัวมันจะเอาของฝากคืนนี่แหละ”เสียงหวานตวาดลั่นพร้อมกับเลือดที่พร้อมใจกันขึ้นมากองอยู่บนหน้าขาว
…ตั้งแต่ไอเด็กหล่อนั่นมารู้สึกว่าร่างกายฉันจะสูบฉีดมากเกินไปแล้วนะ
“มิน่าละ..ตาแกถึงเป็นอย่างนี้”อีทึกพยักหน้าอย่างเข้าใจมองขอบตาที่ดำคล้ำของเพื่อนแล้วก็สงสาร
“ฮยอกแจนูน่า~~~”
พรวดด!! ~~
“แค่ก..แค่ก”น้ำนมสีชมพูสวยพุ่งออกจากปากอวบอิ่มเตชะบุญของลีฮยอกแจที่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามนั้นว่างเปล่าเพราะฮีชอลกับอีทึกนั่งเยื้องไปทางขวา
ตาเรียวเบิกกว้างอย่างตกใจหันไปมองทางเข้าโรงอาหารก็เจอกับเจ้าของเสียงที่ถึงแม้จะไม่มองก็รู้ได้ว่าเป็นใคร -*-
เด็กหน้าหล่อของฮยอกแจเดินเร็วๆเข้ามาหาหน้าตายิ้มแย้มเป็นอาแป๊ะจากเมืองจีนข้างกายมีสองร่างสูงของเพื่อนเดินตามมาด้วย
“ฮยอกแจนูน่า..ไม่ได้เรียนเหมือนกันหรอครับวันนี้”หน้าหล่อถือวิสาสะนั่งลงข้างคนน่ารักทันทีไม่สนใจสิ่งมีชีวิตอื่นรอบข้างแม้แต่น้อยส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันก็นั่งลงข้างๆฮีชอลกับอีทึกแล้วคุยกัน
การกระทำดังกล่าวออกจะน่าสงสัยสำหรับฮันกยองว่ามันไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าคนตัวเล็กข้างๆนี่อีกแล้วละ
“เออ..ฉันไม่มีเรียน..แล้วก็เลิกเรียกฉันว่านูน่าได้แล้วฉันอายเขา”ประโยคแรกบอกเสียงแข็งแต่ประโยคหลังพูดเบาๆหันซ้ายหันขวาก็มีแต่คนมองมาทางพวกเขาแล้วซุบซิบนินทากัน
“แต่ผมไม่อาย..”ลอยหน้าลอยตาพูดก่อนตาคมจะหันไปป๊ะกับสองคนสวยที่นั่งร่วมโต๊ะกับฮยอกแจนูน่าของตน((?))กำลังมองมาพอดี
“โอ๊ะ..เพื่อนนูน่าหรอครับ..ผมฮันกยองแฟนฮยอกแจนูน่ายินดีที่ได้รู้จักครับ”เอ่ยอย่างอารมณ์ดีแต่คนที่ถูกตู่ว่าเป็นแฟนนั้นช็อคไปแล้วเรียบร้อยโรงเรียนจีน..
ผมฮันกยองแฟนฮยอกแจนูน่า..~
ผมฮันกยองแฟนฮยอกแจนูน่า..~
ผมฮันกยองแฟนฮยอกแจนูน่า..~
“เอ๋..ไม่เห็นไอฮยอกมันจะบอกเลยว่ามีแฟนแล้ว”คนสวยหันไปทำตาโตคาดโทษเพื่อนโทษฐานที่มีแฟนแล้วแต่ไม่บอกกันบ้างแต่อนิจจาคนโดนคาดโทษไม่รู้ตัวสักนิดเพราะยังช็อคอยู่..อาเมน( _ _”)
“ฉันว่าแกถลึงตาใส่มันยังไงมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก..นั่งช็อคเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่นั่น”อีทึกบอกมองไปทางคนที่ถูกพูดถึง
ฮีชอลเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาเขย่าตัวเพื่อนเพื่อเรียกสติแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลหน้าหล่อยกยิ้มกว้างอย่างถูกใจแววตาเจ้าเล่ห์ปรากฏแวบหนึ่งก่อนจะจางหายไป
“เดี๋ยวผมจัดการเองดีกว่าครับ”ว่าจบก็โน้มหน้าหล่อๆไปใกล้กับหน้าน่ารักมองตาอีกคนที่ยังเลื่อนลอยปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะประกบจูบปากแดงที่ลอยอยู่ตรงหน้าไม่มีการลุกล้ำใดๆแต่สัมผัสชวนวาบหวิวนั่นกลับปลุกคนช็อคให้มีสติขึ้นมาได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้คนในโรงอาหารเงียบกริบเป็นป่าช้าทันที
โครมม!!~
ร่างสูงร่วงไปกองอยู่กับพื้นจากลูกถีบของฮยอกแจที่ตอนนี้วิ่งหนีออกจากโรงอาหารไปแล้วไม่ได้เอ่ยลาหรือมองหน้าใครสักคนเพราะความอาย
“อูย..พวกมึงไม่คิดจะช่วยกูเลยใช่มั้ยไอซีวอน..ไอคังอิน”ฮันกยองครางเรียกเพื่อนตัวดีทั้งสองที่นั่งมองเฉยๆ
“ทีอย่างนี้เห็นหัวพวกกูเลยนะมึง”ซีวอนว่าก่อนจะหิ้วปีกคนโอดโอยคนละข้างกับคังอิน
“นั่นนะสิ..แล้วมึงจะไม่ตามนูน่าที่รักมึงไปหรอไง”คังอินว่าสายตามองไปยังร่างของคนตัวเล็กที่วิ่งไกลออกไปจากโรงอาหารทุกทีๆ
“กำลังจะไปนี่แหละ..ตัวก็เล็กแต่ตีนหนักชิบหายเลยว่ะ”ทั้งๆที่บ่นแต่ขายาวก็ก้าวเท้าออกวิ่งตามนูน่าไปทันทีทิ้งเพื่อนไว้กับรุ่นพี่คนสวยทั้งสอง
ฮยอกแจที่วิ่งหนีมาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังไปทางไหนรู้เพียงแค่ว่าต้องไปให้พ้นสถานการณ์น่าอายนั่น
ร่างเล็กหยุดลงที่ทะเลสาบของมหา’ลัยบริเวณโดยรอบเงียบสนิทไร้ผู้คนฮยอกแจหย่อนกายลงนั่งบนพื้นหญ้านิ่มก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้นะ..”มือเรียววางทาบที่อกด้านซ้ายที่ตอนนี้มันเต้นระรัวเหมือนจะหลุดออกจากอก ใบหน้าร้อนวูบวาบเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป
…ทั้งๆที่ฉันควรจะโกรธที่นายทำรุ่มร่ามกับฉัน
…แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกดีอย่างนี้ล่ะ -///-
…ลีฮยอกแจ!!นี่แกรู้สึกดีกับสัมผัสของไอเด็กหล่อนั่นอย่างนั้นหรอ
…แกเพิ่งเจอเขาเมื่อวานนี้เองนะ ทำไมแกใจง่ายอย่างนี้~~~
…อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!~~~
เพราะมัวแต่ทึ้งหัวจิกผมตัวเองอยู่จึงไม่ได้รับรู้การมาของใครอีกคน..ฮันกยองมองการกระทำนั้นไม่วางตาปากหยักคลี่ยิ้มน้อยๆก่อนจะย่องเบาๆไปข้างหลังคนตัวเล็ก
“ฮยอกแจนูน่า~~”สัมผัสอบอุ่นจากข้างหลังหยุดชะงักการกระทำทั้งหมดทันที
“ทะ..ทำอะไร..ขอ..ของนายนะห๊ะ!!!”เสียงหวานตวาดกลบเกลื่อนความเขินอายรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะเลย
ทั้งหลังบอบบางที่ตอนนี้แนบชิดกับแผ่นอกกว้างของอีกฝ่าย..ใบหน้าคมคายที่เกยอยู่ที่ไหล่ตนลมหายใจที่พ่นใส่คอนุ่มจนขนลุกแล้วยังมีมือกาวนี่อีกเมื่อไหร่จะปล่อยสักที
…ฮยอกแจอยากหายตัวไปจากตรงนี้แล้วจริงๆนะ -///-
“ทำไมนูน่าถีบผมอย่างนั้นละ..ผมเจ็บนะรู้รึเปล่า”ไม่พูดเปล่าจมูกโด่งกดลงที่ซอกคอขาว ฮยอกแจพยายามเบี่ยงคอหลบแต่กลับเป็นการเปิดทางให้กับฮันกยองแทน
“รู้สิไม่งั้นจะถีบทำไมวะ!”ถึงจะหวั่นไหวกับสัมผัสนั่นแต่ปากอิ่มก็ยังคงทำงานดีเหมือนเดิมฮยอกแจดิ้นสุดแรงให้หลุดจากอ้อมกอดแต่ผลกลับตรงกันข้าม
ยิ่งดิ้นแรงเท่าไหร่อ้อมกอดแกร่งก็ยิ่งแน่นขึ้นเท่านั้น
“เมื่อไหร่จะปล่อยวะเนี่ย”เมื่อกระทำไม่สำเร็จก็ใช้เสียงนี่แหละ
“นูน่าต้องสัญญาก่อนว่าถ้าผมปล่อยจะไม่วิ่งหนีอีก แล้วเรามาคุยกัน”ข้อเสนอของฮันกยองทำเอาคนในอ้อมกอดคิดหนัก
…อืม..ถ้าไม่สัญญาก็จะต้องโดนมันกอดอย่างนี้ต่อไป
…แต่ถ้าสัญญาฉันจะกล้ามองหน้า จะกล้าคุยกับมันหรอ อายนะเว้ย
“ตกลง..ฉันจะไม่หนี”อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆนั่นให้ใจสั่นเล่นๆโดยไม่รู้ว่าจะเป็นลมเพราะเลือดสูบฉีดมากไปเมื่อไหร่
แขนแกร่งปล่อยฮยอกแจแต่โดยดีก่อนจะหมุนตัวอีกคนให้หันมาเผชิญหน้ากัน
“หืม..ทำไมหน้าแดงละนูน่า”แววตาอ่อนโยนที่มองมาเพิ่มปริมาณเลือดบนใบหน้าให้เพิ่มขึ้นโดยที่ฮันกยองเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้เพียงแต่เขาชอบมองหน้านูน่าของเขาตอนเขินอายจริงๆ
“…”
“ไม่ตอบก็ไม่เป็นไรแต่..ทำไมนูน่าถึงหนีผมมาล่ะ”
“คะ..ใครมันจะหน้าด้านเหมือนนายเล่า”พูดจบก็ก้มหน้ามองพื้นหญ้าไม่อยากสบตาอีกฝ่ายเท่าไรนัก
“ผมหน้าด้านตรงไหน”
“ก็ตรงที่นายจู..จู..จูบฉันนะสิ (_///_)”พูดเองก็กระดากปากเอง
“ก็ผมจูบแฟนของผมมันผิดตรงไหน”
“ใครเป็นแฟนนายกัน!!!”เสียงหวานตวาดลั่นเผลอเงยหน้ามองคนขี้ตู่ที่ตอนนี้หน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้ตนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้จนจมูกของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่เส้นผมพาดผ่านเท่านั้นเอง
เหมือนเวลาหยุดหมุนสองสายตาจ้องมองกันเนิ่นนาน ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดกัน
มือหนาดันท้ายทอยอีกคนไว้ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะทาบทับลงบนกลีบปากอิ่มที่เชิญชวนอยู่ตรงหน้า
คราวนี้ไม่ใช่เพียงแค่สัมผัส..ลิ้นร้อนไล้เล็มปากอิ่มเป็นเชิงขออนุญาติก่อนจะส่งทูตสัมพันธไมตรีตัวน้อยเข้าเก็บความหอมหวานในโพรงปากนั่น
ลิ้นเล็กที่เกี่ยวตวัดตอบรับถึงแม้จะไม่ประสาแต่กลับให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบมือเรียวโอบรอบคออีกฝ่ายอย่างเผลอไผลปรับองศาหน้าให้รับสัมผัสได้มากขึ้น
เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้แต่น้ำใสที่ไหลออกมามากมายคงเป็นตัวบอกได้อย่างดีก่อนที่อะไรจะเลยเถิดมากไปกว่านี้ฮันกยองจึงจำใจผละออกจากความหอมหวานตรงหน้าประคองหน้าหวานที่ยังมัวเมากับรสจูบให้สบสายตากัน
“นูน่าไง..แฟนของผม”
“…”
“…”
“ฉันจำมะ..ไม่ได้สักนิดว่านายเคยขอฉันเป็นแฟน-///-”ฮยอกแจเอ่ยเบาๆสติที่หลุดลอยค่อยๆกลับคืน
“นูน่าเป็นแฟนผมตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วล่ะ”ฮันกยองวางแขนทั้งสองข้างพาดบนไหล่เล็กก้มหน้าลงให้อยู่ระดับเดียวกัน
“เห..นายหมายความว่าไง”คิ้วเรียวขมวดมุ่นกัดปากตัวเองอย่างคนใช้ความคิด
“ก็ใครได้First Kissของผมไปคนนั้นก็เป็นแฟนผม”ขี้ตู่เอาเองคงเป็นนิสัยอย่างหนึ่งของฮันกยอง
“แล้วมันเกี่ยวกับฉันตรงไหน”
“โถ่..ก็นูน่าได้จูบแรกผมไปตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วนะสิ-///-”ใครว่าฮันกยองหน้าด้านมาดูตอนนี้จะเห็นว่าคนหน้าด้านหน้าแดงแค่ไหน
“ละ..แล้วยังไงละ..บอกรักฉันนายก็ยังไม่ได้บอกแล้วจะให้ฉันเป็นแฟนนายเนี่ยนะ!!!”พูดแล้วก็อยากตบปากตัวเอง
ลีฮยอกแจแกพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไงเดี๋ยวไอเด็กหล่อมันก็คิดว่าแกอยากเป็นแฟนกับมันหรอก
ฮันกยองยิ้มกว้างรั้งร่างบางมากอดไว้แน่นก่อนจะกระซิบบางประโยคข้างหูขาว
“ผมรักฮยอกแจนูน่า..เป็นแฟนกับผมนะ”
“อืม^///^”ใจง่ายจังเลยฉัน
“อะไรกันนูน่าจะไม่บอกรักผมหน่อยหรอ”
“ฉันก็อายเป็นนะไอเด็กบ้านี่!!!”
“อ่า..นูน่าคงไม่ได้รักผมนะสินะ”เสียงทุ้มเศร้าหมองแต่แววตาเจ้าเล่ห์ฮันกยองผละตัวออกห่างปล่อยฮยอกแจเป็นอิสระก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ฉันก็รักนายนะ..ไอเด็กหน้าหล่อ!!”แล้วนูน่าก็ตกหลุมพรางเข้าจนได้
นิทราอันแสนสุขเป็นอันต้องหยุดลงกระทันหันเพราะสัมผัสชวนหวาบหวามในยามวิกาลตาเรียวค่อยๆปรือขึ้นก่อนจะต้องตกใจเพราะหน้าของไอเด็กหล่อลอยอยู่ห่างแค่คืบ
..มันขึ้นมาบนเตียงเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย O_O
“ทำบ้าอะไรของนายนะ!!!”
“ก็ผมอยากนอนกอดนูน่านี่นา”มือแกร่งซุกซนลูบไล้ผิวเนียนพร้อมๆกับใบหน้าหล่อที่ซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่น
…กอดบ้านแกอย่างนี้เรอะ ไอเด็กหล่อ
“นี่..ยะ..หยุดนะ”ความรู้สึกเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ความง่วงงุนทันที
“ไม่ได้หรอกนูน่า..ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าผมจะเอาของฝากคืน..ฉะนั้นนูน่าคืนของฝากให้ผมซะดีๆ”
“ห๊ะ..อุ๊บ”
สงสัยนูน่าคงต้องคืนของฝากไอเด็กหน้าหล่อทั้งคืนแน่ๆ อิอิ
End.
****************************************
จบกันไปแล้วกับ SF เรื่องแรก งง กันมั้ยค่ะ
ติ ชม กันมาได้เลยค่ะ^^
รักฮยอก เม้นต์
รักป๋า เม้นต์
รักฮันฮยอก ก็เม้นต์เหมือนเดิม^^
เจอกันเรื่องหน้าค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ค่ะ^ ^
Happy New Year 2010 นะคะทุกคน คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา มีความสุขมากค่ะ
และสุดท้ายนี้
Happy Birth Day to Lee Sungmin
สุขสันต์วันเกิดกระต่ายตัวน้อยๆของวง ลีซองมิน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น