ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS Your Blommor AllxYoungjae MarkJae 2Jae YugJae JackJae

    ลำดับตอนที่ #11 : Pray of love: -MarkJae-

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.51K
      5
      12 ก.ค. 58









    เพราะมาร์คต้วนน่ะไม่ได้รักยองแจมาตั้งแต่เริ่มต้น


    ในใจของผู้ชายคนนั้นมีคนคนเดียวที่เป็นเจ้าของ คนที่ชื่อจินยอง....


    ยองแจก็คงเป็นแค่รุ่นน้องธรรมดาคนหนึ่ง คนที่เข้ามาในช่วงเวลาที่มาร์คไม่มีใครพอดี



    “ อ๊าว ยองแจยังไม่กลับบ้านหรอ " เสียงของเพื่อนสนิทอย่างหวังแจ็คสันที่ดังขึ้นทำให้ยองแจหลุดออกมาจากภวังค์ที่ตัวเองสร้าง


    “ อ๋อ เรายังไม่กลับหรอก รอพี่มาร์คอยู่น่ะ " ยองแจเพียงได้แค่ส่งยิ้มเจื่อนๆไปให้เพื่อนสนิท


    เพราะแจ็คสันรู้ว่ายองแจกับพี่มาร์คอยู่ในสถานะไหน


    “ แล้วพี่มาร์คไปไหนหรอ ถึงปล่อยให้ยองแจมานั่งรอแบบนี้ " เขาก็ไม่รู้...ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพี่มาร์คไปไหน ถึงได้ปล่อยให้เขามานั่งรอแบบนี้


    “.........."


    “ ยองแจ......ยองแจ " แจ็คสันเอ่ยพร้อมกับกระตุกแขนเพื่อนสนิทเพื่อเตือนสติให้ร่างบางหลุดออกจากภวังค์


    “ เราเห็นยองแจเงียบมาตั้งนาน ทะเลาะกับพี่มาร์คหรอ? " เพียงแค่ประโยคเดียวที่ทำให้มีน้ำตาคลอในตาของร่างบาง


    เพียงแค่นี้มันก็เป็นคำตอบให้กับแจ็คสันได้แล้ว ว่าที่ยองแจเป็นแบบนี้เพราะใคร


    “ ไม่เป็นไรใช่ไหม " แจ็คสันเอ่ยพร้อมดึงเพื่อนสนิทมากอดไว้


    “ ฮืออออแจ็ค เราเหนื่อยจังเลย " ยองแจโผเข้าไปกอดเพื่อนสนิทพร้อมร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย


    “ ยองแจเหนื่อยเรื่องอะไรล่ะ " แจ็คสันลูบหัวร่างบางไปเพื่อปลอบใจพร้อมกับตั้งคำถามที่ทำให้ยองแจสงสัย


    นั่นสินะแล้วเขาเหนื่อยเรื่องอะไรกัน


    “ ยองแจเหนื่อยที่ต้องมานั่งคอยพี่มาร์คแบบนี้ หรือว่ายองแจเหนื่อยที่จะรักพี่เขาแล้ว " แจ็คสันจับใบหน้าสวยของเพื่อนสนิทให้เงยหน้าขึ้นมาตอบคำถาม


    “ เราไม่รู้แจ็คเราสับสน บางครั้งพี่เขาก็ทำเหมือนมีใจให้เรา

    บางครั้งก็เมินเฉยเรา บางครั้งเราอาจจะเหนื่อยที่ต้องรักพี่มาร์คฝ่ายเดียวก็ได้นะ " เพราะขนาดยองแจยังหาเหตุผลของมันไม่ได้เลย


    “ เราไม่รู้นะว่าแจเหนื่อยเรื่องอะไรกันแน่ แต่เราอยากจะบอกแจเอาไว้อย่างนะ ที่เรามานั่งเฝ้าแจแบบนี้คิดว่าเป็นเพราะแจ็คกับแจเป็นเพื่อนกันอย่างเดียวหรอ "


    “ฮึ " ยองแจเลือกที่จะส่ายหัวให้กับคำถามของเพื่อนสนิท


    “ แล้วทุกครั้งเวลาทานอาหารเราก็จะเขี่ยผักที่ยองแจไม่กินออกให้ เพราะอะไร " แจ็คสันเพียงแค่เอ่ยถามพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ร่างบาง


    “ เราไม่รู้ " ใช่ยองแจไม่รู้ และถ้าแจ็คสันไม่บอกยองแจก็คงไม่มีทางรู้


    “ นายชอบกินทุกอย่างยกเว้นแตงกวา นายชอบดื่มน้ำหวาน ไม่ชอบฉีดยา  แต่ทุกสิ่งเหล่านี่เราที่เป็นเพื่อนสนิทยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ แต่นายอยากรู้ไหมทำไมอยู่ดีๆเราถึงรู้ "


    “ อยาก " ยองแจเอ่ยพร้อมพยักหน้าเพื่อเสริมให้แจ็คสันรู้ว่ายองแจอยากรู้จริงๆ


    “ พี่มาร์คเป็นคนบอกเรา เพราะพี่เขาบอกให้เราดูแลนายดีๆ เวลาป่วยก็อย่าให้ดื่มน้ำเย็น นายไม่เคยสังเกตุเลยหรอว่าทำไมนายรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่ตลอด” ใช่มีคนแอบมองยองมาตลอด และยองแจก็รับรู้ความรู้สึกนี้ได้


    “ พี่มาร์คเขาห่วงแจนะแต่เขาแค่ไม่อยากทำให้แจเจ็บก็เท่านั้น พี่เขากำลังสับสน เราอยากให้ยองแจลองให้เวลาพี่เขาดู แต่ถ้าเหนื่อยก็บอกเรา เข้าใจไหม "


    “ เราเข้าใจแล้ว " ขอบคุณมากนะแจ็คสัน


    “ หลังจากนี้เราไม่รู้ว่ายองแจจะตัดสินใจยังไงนะ แต่เราอยากให้ลองนึกถึงเวลาที่แจอยู่กับพี่มาร์คดู แจมีความสุขที่ได้ยืนอยู่ข้างๆพี่เขาแบบนี้ไหม แจจะยอมให้มีคนอื่นที่จะมายื่นข้างๆพี่มาร์คแทนแจไหม แล้วอยากให้ทุกสิ่งที่ทำมามันหายไปรึเปล่า "


    นั้นสินะ ถ้าถึงวันนั้นเขาจะทนที่จะมีคนมายื่นข้างๆพี่มาร์คได้ไหม เขาจะทนให้ทุกสิ่งที่เป็นอยู่มันหายไปไหมนะ รอยยิ้มที่เคยส่งมาให้เขา สายตาที่อ่อนโยน ถ้ามันเป็นของคนอื่นไปเขาจะทนได้ไหม


    “ ไปเถอะกลับบ้านกันเดียวเราไปส่ง " หลังจากนั้นแจ็คสันก็ดึงกระเป๋ายองแจไปถือให้



    ทั้งคู่เดินมาเรื่อยและแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันไปจนมาถึงห้องของยองแจ

    ห้องที่มาร์คและยองแจอยู่ด้วยกัน


    “ เข้าห้องไปเถอะเราจะกลับแล้ว " แจ็คสันเอ่ยพร้อมไล่ให้เพื่อนสนิทเข้าไปในห้อง


    “ อือ บายนะแจ็ค " ยองแจเลือกที่จะส่งยิ้มไปให้เพื่อนสนิท เขารู้ว่าแจ็คสันคงไม่เชื่อหรอกว่าเขายิ้มจริงๆ แต่เพื่อสบายใจของเขาเท่านั้นแหล่ะทำให้แจ็คสันเลือกที่จะเชื่อ


    “ บาย " ทำไมเขาไม่รู้ว่าเพื่อนรู้สึกยังไง แจ็คสันเดินออกมาจากห้องของยองแจก่อนที่จะต่อสายไปหาใครคนหนึ่ง





    ตู๊ด)))))))))))



    “ ยอโบเซโย "


    “ ผมพาเขามาส่งห้องแล้วนะครับ " ผมพาเขามาส่งตามที่พี่ขอแล้วนะ


    “ ขอบคุณมากนะ แล้วเขาเป็นไงบ้าง " ถ้าพี่เป็นห่วงทำไม่มาดูแลเองล่ะครับ


    “ ก็โอเคแล้วครับ แต่พี่เมื่อไหร่จะทำอะไรให้มันชัดเจนซักทีครับ

    เมื่อไหร่พี่จะเลิกทำให้เพื่อนผมร้องไห้ซักที ทำให้มันชัดเจนก่อนที่มันจะสายเกินไปเถอะครับ " เพราะผมก็เจ็บที่ต้องมานั่งน้ำตาเพื่อนสนิทแบบนี้เหมือนกัน


    “ พี่รู้แล้วล่ะว่าใครสำคัญกับพี่จริงๆ ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือมาตลอดนะน้องชาย " ใช่เพราะพี่คือพี่ชายของผม ผมจึงได้แต่ช่วยพี่แบบนี้


    “ พี่มาร์ครีบทำก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำเถอะครับ เพราะถ้าพี่เสียโอกาสนี้ไปผมจะคว้ามันมาและไม่ปล่อยเขาไปอีกแล้วนะครับ แล้วที่ผมปล่อยเขาไปก็เป็นพี่หรอกนะครับ ที่ผมต้องมาทนเห็นน้ำตาของเขาก็เพราะพี่นะครับ " เพราะแจ็คสันเป็นน้องไง บางครั้งเขาก็ยอมพี่มาตลอด ยอมขนาดที่ทำร้ายหัวใจตัวเองเพื่อพี่ชาย


    “ ขอบคุณมากนะแจ็คสัน พี่ขอบคุณจริงๆ " เพียงแค่ผมเห็นรอยยิ้มของคนที่ผมรักมันก็พอแล้วล่ะ


    “ งั้นแค่นี้นะครับ ถ้าพี่กลับมาก็รีบมาปรับความเข้าใจกันนะครับ บาย " หลังจากที่วางสายจากมาร์คไป เขาเลือกที่จะมองไปที่หน้าต่างห้องของยองแจอีกครั้ง


    “ รีบๆปรับความเข้ากันนะ รีบๆยิ้มอย่างสดใสแบบที่เคยเป็นได้แล้ว แม้รอยยิ้มนั้นเราจะไม่ได้เป็นคนทำให้แจยิ้มก็เถอะ " แจ็คสันก็เพียงแค่เอ่ยมันไปตามสายลมก็เท่านั้น เขาไม่ได้หวังให้มีใครมาได้ยินหรอก....








    ติ๊ด...ติ๊ด


    เสียงการปลดล็อคของรหัสทำให้คนที่อยู่ในห้องรับรู้ได้ว่ามีใครอีกคนเข้ามาแล้ว 

    ภายในห้องเงียบจนเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่

    ทั้งสองยืนจ้องมองกันอยู่อย่างและไม่มีใครพูดอะไรเลยซักคำ

    จนทำให้ยองแจทนความอึดอัดไม่ไหวเขาเอ่ยทักท้ายมาร์คเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะขอตัวเข้าห้องไป


    มาร์คที่รู้ตัวว่ายองแจคงจะอึดอัดเขาก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรไป

    เพียงแค่เดินไปเปิดโทรทัศน์เพื่อไม่ให้ห้องมันเงียบจนเกินไป

    เขานั่งดูรายการต่างๆไปเรื่อยถึงแม้สายตาจะจับจ้องอยู่ที่รายการที่ฉายแต่จิตใจเขากับไปจดจ่อที่ประตูห้องของยองแจแทน


    มาร์คลุกขึ้นและนั่งลงเหมือนเดิมหลายครั้งจนเหมือนหนูติดจั่น

    ถ้ามีใครมาเห็นตอนนี้คงหาว่ามาร์คเป็นบ้าแน่ๆ แต่มาร์คว่าเขาคงจะได้กลายเป็นบ้าแน่ๆถ้าไม่ได้คุยกับร่างบางที่อยู่ในห้อง ความอึดอัดที่เกิดตัวระหว่างเขาทั้งสองมันทำให้มาร์คไม่สบายใจ


    ไม่สบายใจที่ต้องทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเจ็บ


    เขาตัดสินใจเดินไปที่ประเจ้าปัญหาก่อนที่จะเปิดมันไป

    ยองแจไม่เคยล็อคประตูนั่นคือสิ่งเขาเคยบอกกับร่างบางไว้

    และยองแจก็ทำตามมันมาตลอด


    ------------------



    ภายในคอนโดหรูแห่งหนึ่งมีหนึ่งชีวิตกำลังนอนหายใจรวยรินอยู่

    เหตุผลที่ทำให้ยองแจต้องมานอนเหนื่อยแบบนี้น่ะหรอก็เพราะกิจกรรมที่ทำมาทั้งวันนั้นทำให้เหนื่อยเหมือนไปวิ่งรอบโลกมาก็ไม่ปาน

    ส่วนพี่มาร์คนั้นก็ได้แต่ยิ้มเหมือนสงสารเขาแต่ก็ไม่ยอมมาช่วยกัน


    “ พี่บอกให้เราพักก่อนก็ไม่เชื่อกัน " มาร์คเดินเข้ามานั่งใกล้ๆยองแจก่อนที่จะใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ถือในมือเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาตามไรผมของยองแจ


    “ ก็ผมอยากจัดให้เสร็จไวๆนี่ครับ " ยองแจพูดพร้อมกับยู่ปากใส่มาร์คราวกับถูกขัดใจ


    “ แล้วก็มานั่งเหนื่อยแบบนี้น่ะหรอ " มาร์ครินน้ำใส่แก้วที่วางอยู่ใกล้ก่อนที่จะยื่นไปให้คนตรงหน้า


    “ มาดื่มน้ำก่อนเร็ว " ยองแจรีบรับน้ำแก้วนั้นพร้อมกับเอ่ยขอบคุณมาร์คเบาๆก่อนที่จะดื่มน้ำแก้วนั้นอย่างกระหาย เพียงแค่แป็ปเดียวน้ำที่เคยมีอยู่เต็มแก้วก็หายไป หลังจากดื่มน้ำเสร็จยองแจก็หันมาส่งยิ้มตายี๋ให้มาร์คราวกับขอบคุณ มาร์คยิ้มขำๆให้กับความน่ารักของร่างบางตรงหน้า


    “ เอ่อ....นี่ยองแจ " มาร์คเอ่ยหลังจากที่ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ


    “ อะไรหรอครับ? "


    “ ประตูห้องไม่ต้องล็อคหรอกนะ " หลังจากประโยคนั้นมาร์คก็รับสีหน้างงงวยจากยองแจทันที


    “ เวลาพี่อยากกอดนายจะได้เข้าไปหาได้ไง " มาร์คส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ยองแจ


    “ พี่มาร์คคนบ้า ” เพียงแค่มาร์คเอ่ยจบประโยคมันก็ราวกับมีรถบรรทุกมะเขือเทศมาล้มคว่ำอยู่บนใบหน้าของเขาทันที  ยองแจใช้หมอนอิงที่อยู่ข้างตีรัวๆไปที่มาร์คแก้เขินทันที


    หลังจากนั้นก็มีสงครามหมอนเล็กเกิดขึ้นในห้องนั้นแต่กับมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของทั้งสองฝ่ายมากกว่าการทะเราะกัน


    -----------------



    มาร์คยิ้มให้กับความทรงจำเก่าๆที่ผ่านมา


    ตอนนี้เขาเข้ามายืนอยู่ในห้องของยองแจภายในห้องไม่ค่อยได้เปลี่ยนไปมากเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้เข้ามาในห้องนี้เกือบหนึ่งเดือนเต็มๆ

    มาร์คเดินไปนั่งที่ปลายเตียงที่คุ้นเคยทันที เสียงสายน้ำที่ไหลรินนั้นทำให้รู้ว่ายองแจกำลังอาบน้ำอยู่ แต่คงอาจจะพึ่งเข้าไปเพราะเสียงน้ำที่กระทบกับพื้นยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง


    เขาจึงเลือกที่จะนอนลงไปที่เตียงนุ่มๆ หลับตาลงพร้อมกับทบทวนเรื่องราวต่างๆผ่านเข้ามาจนลืมสังเกตไปว่าเสียงน้ำนั้นได้หยุดลงแล้ว


    แกร็ก…



    ยองแจที่ออกมาจากห้องน้ำได้แต่ตกใจกับใครอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงของเขา

    พี่มาร์คเข้ามาที่ห้องเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยองแจเดินไปนั่งข้างๆคนที่กำลังหลับไหลอยู่ก่อนที่จะเอ่ยประโยคตัดพ้อที่ทำให้ที่แกล้งนอนอยู่อย่างมาร์คอยากที่จะดึงร่างบางมากอด


    “ พี่น่ะใจร้ายกับผมเกินไปนะครับ พี่เป็นของผมใช่ไหม เราทั้งสองรักกันใช่ไหมครับ " ยองแจเอื้อมมือไปลูบแก้มคนของมาร์ค ตอนนี้พี่คือคนรักของผมใช่ไหมครับไม่ใช่ของคนอื่น


    “ ถ้าผมได้รับความใส่ใจ เวลา และความรักจากพี่ซักครึ่งหนึ่งจากพี่จินยองก็คงดีนะครับ "


    น้ำเสียงที่เคยมั่นคงดูสั่นไปเล็กน้อย หยดน้ำที่ไหลรินออกมาจากตาหล่นลงไปกระทบแก้มของคนที่นอนอยู่ ยองแจใช้มือเพื่อเช็ดน้ำตานั่นออก แต่ในขณะที่กำลังจะชักมือออกก็มีมือหนึ่งมากุมมือเขาไว้

    มือของคนที่เหมือนกำลังหลับไหลนั้นไง


    ก่อนที่มาร์คจะลืมตาขึ้นมา ดวงตาทั้งสองดวงกำลังจ้องมองกันราวกับต้องการให้ใครอีกคนพูดขึ้นมาก่อน



    “ พี่ขอโทษ " เพียงแค่คำคำเดียวก็ทำให้ยองแจอยากจะร้องไห้ออกมา ทุกครั้งเรื่องนี้มักจะจบที่คำคำนี้เสมอ ไม่มีการอธิบายใดใดแต่ยองแจก็แค่จะบอกว่าไม่เป็นไรตลอด



    “ พี่กับจินยองเราสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก จินยองเป็นคนที่ป่วยง่าย ครอบครัวเขาจึงฝากให้พี่ดูแล และที่พี่หายไปก็เพราะจินยองเข้าโรงพยาบาล " และนั้นคือสิ่งที่ยองแจไม่เคยได้รู้เขาคิดมาเสมอว่าจินยองคือแฟนเก่าของมาร์ค เขามักจะน้อยใจมาร์คเสมอเพราะทุกครั้งอะไรในชีวิตมาร์คก็มักจะมีแต่จินยองเสมอ


    “ แต่พี่กับเขา "


    “ จินยองคือคนที่พี่ต้องดูแล แต่ยองแจคือคนที่พี่อยากดูแลนะ เชื่อพี่ได้ไหม " ผมจะเชื่อพี่ได้ไหม? นั้นคือสิ่งที่ยองแจสงสัย


    มาร์คที่เห็นยองแจดูเหมือนจะลำบากใจ เขาดึงคนที่นั่งอยู่ข้างๆมาไว้ในอ้อมกอดทันที ก่อนที่จะเอ่ยประโยคที่ทำให้ยองแจยินดีที่จะเชื่อมาร์คแบบเต็มใจ


    “ พี่รักเรานะ "


    “ผมก็รักพี่ครับ "


    ถึงแม้ว่าพี่จะหลอกผมแต่ผมก็จะยอมเชื่อเพียงเพราะประโยคเดียวเท่านั้นที่ทำให้ยังมีความมั่นใจอยู่ ต่อให้เจ็บมากกว่านี้ผมก็ยอมเจ็บ


    คืนนั้นก็จบลงที่ทั้งสองนอนกอดกันอยู่บนเตียงของยองแจ เรื่องราวมักจะจบอยู่ตรงนี้เสมอ


    ยองแจก็แค่รักมาร์คจนยอมเจ็บ แต่มาร์คก็แค่คนที่รักยองแจมากเช่นกัน

    แต่เขาก็ดูแลใส่ใจร่างบางไม่ค่อยได้เพราะเขานะมีเพื่อนสนิทอีกคนที่ต้องคอยดูแล













    แถม....!!



    วันนี้เป็นวันประถมนิเทศ 

    ยองแจเดินเข้ามามหาวิทยาลัยด้วยความงงงวยเพราะเพื่อนสนิทของเขาแจ็คสัน 

    นัดไปเจอกันที่ที่เขายังไม่เคยไปสำรวจมา


    ด้วยความที่ยองแจเป็นคนอึนๆอยู่แล้วการที่จะเดินไปหาแจ็คสันนั้นก็เป็นเรื่องยากถึงแม้เพื่อนสนิทจะเขียนแผนที่แบบระเอียดยิบมาให้เขาก็เถอะ


    ยองแจที่เหมือนจะให้ความสนใจกับแผนที่ในมือมากเกินไปจนทำให้เขาเดินไปชนกับรุ่นพี่คนหนึ่ง


    รุ่นพี่คนนั้นแค่ได้มองเพียงครั้งก็อาจจะตกหลุมรักใบหน้าหล่อๆนั้นได้

    แต่ข้างกายของเขากับมีใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างใบหน้าที่น่ารักราวกับตุ๊กตา

    รูปร่างที่ดูบอบบางน่าทะนุทะนอมทำให้ทั้งดูเหมาะสมกัน


    ยองแจรีบเอ่ยขอโทษก่อนที่จะเดินหาตึกที่เพื่อนสนิทนัดไว้จนลืมสังเกตว่าตัวเองทำอะไรหล่นไว้



    มาร์คที่ดูวิณณาญหลุดออกจากร่างบางไป ร่างสูงยืนนิ่งอยู่อย่างงั้นจนเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างต้องสะกิดเรียก


    “ มาร์คไปเถอะ เราต้องไปหาพี่หมอนะ "


    ในขณะที่มาร์คกำลังจะเดินก้าวผ่านไปสายตาของเขาก็ไปเจอกับผ้าเช็ดหน้าลายเรียบๆที่ดูเหมือนจะปักเองเพราะมันดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่

    ในผ้านั้นมีตัวอักษรสลักไว้ว่า YJ


    ทำให้มาร์คนึกถึงเด็กเดินชนเขาเมื่อซักครู่ เด็กที่ตัวไม่ได้เล็กมาก

    ส่วนสูงไล่เลี่ยกับจินยอง ใบหน้าที่น่ารักนั้นมีแก้มที่ทำให้ใครเห็นก็อยากจะหยิกเจ้าแก้มนั้นเล่น และมาร์คก็คงเป็นอีกคนหนึ่ง

    ตอนที่ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาขอโทษนั้นทำให้เขารู้สึกว่าเหมือนทุกอย่างมันหยุดเคลื่อนไหว แต่เสียงการเต้นของหัวใจเขามันดังมาก

    มาร์คคิดว่าตัวเองกำลังเจอรักแรกพบเข้าให้แล้ว



    และนั้นก็คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวของทั้งสอง..: )

       

                                             I wish you would love me
                        





    Talk with me

    Hmmmm my markjae ฟิคเรื่องนี้ไม่ใช่ฟิคดราม่านะคะ 55555555 //อย่าปารองเท้าใส่เรา
    เราฟินกะรูปมากๆเลยค่ะ ผช.ใกล้จะคัมแบคแล้ว(ปรบมือ) 

    คือตอนแรกเราหวังแบบswagจากกัซมาก แต่........เอาที่ลุงผักสบายใจ 55555

    Enjoy reading นะคะ


    SF by KATTUNGEN







                                    



                                      



    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×