ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS Your Blommor AllxYoungjae MarkJae 2Jae YugJae JackJae

    ลำดับตอนที่ #9 : Åtta blommor: Orchid -NiorJae- 3/3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 685
      6
      24 มิ.ย. 58






    "ดอกกล้วยไม้"


    Orchid

    อกกล้วยม้ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง  ความรัก และความสง่างาม   แสดงถึงความประเสริฐ เลิศ  และความงามอันละเมียดละไม  ในหมู่ชาวกรีกสมัยก่อน ดอกกล้วยไม้แสดงถึง การสืบเผ่าพันธุ์  แต่สำหรับชาวจีนเรียกดอกกล้วยไม้ว่าเป็น 

    “พืชแห่งกลิ่นกษัตริย์” หรือเป็นดอกไม้ที่ไว้บอกภาษารักว่า “ฉันไม่อาจห้ามใจให้คิดถึงเธอได้" 





    ยองแจหยุดยืนมองสายฝนมากมายที่พร่างพรูลงมาจากท้องฟ้าสีคราม 

    เขาขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย

    ถ้าเขาเอ่ะใจและพกร่มติดตัวมาตามที่พยากรณ์อากาศช่วงเช้าบอกก็คงดี



    เขาเพิ่งเลิกเรียน วันนี้คลาสของเขาเลิกเรียนช้ากว่าเวลาเล็กน้อย

    และเขาพึ่งส่งข้อความไปหามาร์คเพื่อนสนิทว่าให้กลับไปก่อนเลย


    เพราะวันนี้มาร์คกับจินยองเรียนคนล่ะคลาสกับเขา 

    คลาสที่มาร์คเรียนเลิกก่อนเวลาไปแล้วตั้งหนึ่งชั่วโมง 

    ไหนจะลำบากมาร์คเพราะมาร์คต้องไปรับน้องแบมแบมก่อนถึงค่อยวนมารับเขา

    คณะที่น้องเรียนกับตึกที่เขาอยู่มันก็ค่อนข้างไกลกันเกิน 

    แล้วคนขี้เกงใจแบบเขาจะให้เพื่อนมารับสร้างความลำบากทำไม

    มาร์คก็ดูจะเห็นดีเห็นงามกับความคิดนี้ 

    แม้เพื่อนสนิทจะบอกตอนก่อนจะวางสายว่าให้เขารีบกลับก็เถอะ



    แต่ตอนนี้เขากำลังเจอกับปัญหาใหญ่เลยล่ะเพราะเขาไม่ได้พกร่มมาในวันนี้

    และการให้เขาเดินตากฝนท่ามกลางฝนที่ตกลงมาแบบเทน้ำเทท่าแบบนี้ไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อเดินทางกลับหอนั้นมันก็ค่อนข้างเป็นวิธีที่ค่อนข้างลำบาก



    มันไม่มีแม้แต่เปอร์เซ็นเดียวว่าเขาจะไม่เปียก



    ถึงตัวเขาเปียกมันก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่กระดาษชีทเรียนของเขานี่สิ 

    อีกสองวันเขาก็จะมีสอบแล้ว การขาดกระดาษพวกนี้อาจนำพาปัญหาหนักมาให้เขาได้



    ยองแจได้แต่ถอนหายใจกับสถานการณ์นี้ วันนี้เขาคงไม่รอดพ้นจากการเปียกฝนเป็นแน่



    กระเป๋าและหนังสือเรียนตอนนี้ถูกเปลี่ยนให้มาอยู่ในอ้อมอกของยองแจแทน 

    เขากอดมันอย่างหวงแหนเพราะถ้ามันเปียกเขาคงอาจจะมีปัญหาได้


    ในขณะที่เท้าข้างหนึ่งของยองแจกำลังจะก้าวออกไปเหยียบบนพื้นที่มีแต่น้ำเจิ่งนองนั้นก็มีเงาหนึ่งที่เข้ามาคลุมตัวเขาไว้

    เสียงที่คุ้นเคยและการกระทำที่แสนอบอุ่นนั้นทำให้ยองแจรู้ว่าเงานั้นเป็นใคร

    “ จินยอง " เจ้าของเงานั้นคือจินยองเพื่อนสนิทอีกคนของเขา


    จินยองคว้าตัวของยองแจให้เข้ามายืนอยู่ใต้ร่มเดียวกัน ความใกล้ชิดที่เกิดก่อให้เกิดความเงียบ ยองแจเลือกที่จะทำลายความเงียบนี้ด้วยการชวนเพื่อนสนิทคุย



    “ เอ่อ...จินยองยังไม่กลับหรอ " เสียงใสใสของยองแจเอ่ยถามออกไป 

    เพราะเขาจำได้จินยองเลิกคลาสไปนานแล้ว


    ก่อนที่เท้าทั้งสองจะก้าวเดินออกไปข้างนอกตามทางเดินเพื่อไปที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย


    “ เรามาทำธุระน่ะ " จินยองตอบออกมาสั้นๆตามฉบับคนพูดน้อย


    “ แล้วทำจินยองทำธุระเสร็จรึยัง มาส่งเราแบบนี้เราทำให้ลำบากรึเปล่า " ยองแจยังคงเอ่ยถามออกไปตามประสาคนขี้เกงใจ ถึงแม้รู้ว่าเพื่อนตัวสูงที่อยู่ข้างๆเต็มใจก็เถอะ


    “ เสร็จแล้วล่ะ ส่วนที่ลำบากไหม มันไม่มีอะไรลำบากหรอกนะถ้าเราทำให้ยองแจทุกอย่างเราเต็มใจ "



    หลังจากนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นกับทั้งคู่ ยองแจรู้เพราะทุกอย่างมันเป็นแบบนี้มาค่อนข้างนาน 

    ตั้งแต่ที่เขาบอกจะให้โอกาสกับจินยองไปนั้นอีกฝ่ายก็เริ่มจีบและเทคแคร์เขาแบบเปิดเภยมากขึ้น



    สายฝนที่เหมือนจะตกลงมาแรงมากขึ้นทำให้ยองแจเบียงเบนความสนใจจากคนข้างๆไปได้



    และตอนนี้เขาทั้งสองก็มายืนอยู่ที่หน้าป้ายรถเมล์แล้ว แต่สวรรค์ก็คงจะเป็นใจให้เขาบ้างเพราะรถสายที่เขาต้องขึ้นมันมาพอดี



    บนรถเมล์มีผู้คนเพียงเล็กน้อยทำให้สามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ 

    ที่นั่งสองที่ติดริมกระจกหน้าต่างถูกจับจองด้วยเด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยสองคน


    ยองแจเลือกที่เข้าไปนั่งด้านในสุดที่นั่งข้างๆจึงถูกจองโดยจินยองแบบปฏิเสธไม่ได้


    อาจจะเพราะสายลมเย็นๆและการที่เขาโดนน้ำฝนกระเซ็นมาโดนนิดหน่อย 

    ทำให้ร่างบางของยองแจสั่นเล็กน้อยแต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆก็จับสังเกตุได้อยู่ดี


    “ ยองแจหนาวหรอ " จินยองเอ่ยถามออกตามประสาคนขี้เป็นห่วง


    “ อือ นิดหน่อยน่ะ เราง่วงด้วย " 


    ยองแจบอกพร้อมกับหาวโชว์จินยองเพื่อบอกให้รู้ว่าง่วงจริงๆ


    จินยองถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกมาพร้อมกับนำมันมาห่มให้ร่างบาง


    “ ถ้ายองแจง่วงก็เอนหัวมาทางไหล่เราเลย หลับซะถ้าถึงแล้วเดียวเราปลุก "



    การกระทำที่แสนอบอุ่นนั้นทำให้ผู้ถูกกระทำถึงกับใจเต้นแรง

    ใช่เขาหวั่นไหวกับเพื่อนสนิทข้างๆนี่ 

    เป็นคุณคุณจะไม่ใจเต้นแรงเวลาที่มีคนมาดูแลคุณแบบนี้หรอครับ 

    และยิ่งคนนั้นเป็นจินยองแล้วมันยิ่งทำให้ยองหวั่นไหวไปใหญ่



    ยองแจเลือกที่จะเอนหัวของตัวเองไปที่ไหล่ข้างๆพร้อมกับหลับตาเพื่อแสร้งไม่ให้เพื่อนสนิทรู้



    จินยองที่คิดว่ายองแจนั้นหลับไปแล้ว เขาเริ่มสำรวจใบหน้าของเพื่อนสนิทร่างบางทันที ตาตี๋ๆที่จะยีเหมือนเส้นตรงเวลาที่ยองแจยิ้มนั้นตอนนี้ถูกปิดสนิท 

    ไหนจะแก้มอวมๆที่น่าฟัดนั่น ตอนนี้คนข้างกายเขาเหมือนเด็กน้อยที่หลับไหลมากๆเลย

    จนทำให้คนที่แอบมองยิ้มออกมา 


    เขาเอื่อมมือมาปัดผมหน้าม้าที่บังหน้าตาให้ยองแจก่อนที่ตัดสินใจคว้ามือคนข้างๆมากุ้มไว้



    ส่วนคนที่ถูกกระทำได้แต่อมยิ้มกับการกระทำแสนอบอุ่นของเพื่อนสนิท 

    ก่อนที่จะหลับไปจริงๆ



    เกิดความเงียบระหว่างทั้งสองอีกครั้งแต่ความเงียบครั้งนี้มันไม่ได้มีความอึดอัดผสมอยู่ด้วยเลย



    จนในที่สุดรถก็เคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าหอของร่างบางแล้วตอนนี้

    จินยองปลุกยองแจเล็กน้อยก่อนที่จะลากเพื่อนสนิทพร้อมหิ้วกระเป๋าของร่างบางลงจากรถ 

    ตอนนี้จินยองก็คงไม่ต่างกับผู้ปกครองของเด็กชายยองแจเลยแม้แต่น้อย


    ภาพที่ผู้ชายตัวที่ค่อนขางสูงลากเด็กน้อยตาตี๋แก้มอวบที่ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยมีสติลงจากรถ ไหนจะการจับมือไม่เด็กตาตี๋นั้นขยี้ตาแต่เป็นตัวเองที่เอื้อมมือไปเช็ดให้ 

    เป็นภาพที่ทำให้ผู้คนพบเห็นได้แต่ยิ้มเอ็นดู



    “ เอ่อ.....จินยองรีบลงทำไมหรอ ยังไม่ถึงป้ายที่จินยองต้องลงนี่ " ยองแจเอ่ยถามหลังจากที่ตื่นเต็มตาแล้ว 

    จินยองจะรีบลงทำไมในเมื่อมันยังไม่ถึงป้ายที่ต้องลงจริงๆรึว่าจินยองจะขึ้นไปหามาร์ค?


    “ เราจะเดินไปส่งยองแจให้ถึงห้องก่อน " เท่านั้นก็ทำให้ร่างบางร้องอ๋อ


    “ แต่มันจะเสียเวลาจินยองรึเปล่า แค่นี้เองเราเดินขึ้นห้องเองได้ " 

    ส่วนยองแจก็ยังเป็นยองแจวันยันค่ำร่างบางเคยเกงใจแบบไหนก็ยังคงเป็นแบบนั้น


    จนทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอดทนไม่ไหว เขาดันให้ร่างบางเดินไปตามทางด้วยแรงของตัวเองเล็กน้อย


    “ เราเต็มใจ ไปเถอะ "


    ตอนนี้ทั้งสองได้มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของยองแจแล้ว

    ยองแจปลดล็อครหัสห้องพร้อมเดินเข้าไปนำกระเป๋าไปวางไว้ก่อนที่จะเดินมาหาเพื่อนสนิทที่อยู่หน้าห้อง


    “ ขอบคุณที่มาส่งนะจินยอง " ยองแจเอ่ยขอบคุณจินยองและร่ำลากันเล็กน้อย 

    ก่อนที่จินยองจะขอตัวเดินออกไป


    ยองแจจัดการปิดประตูแต่ในหัวสมองเขากับคิดอีกเรื่องหนึ่งว่า ฃตอนนี้ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเพื่อนสนิทเป็นยังไง?


    เขารู้สึกว่าการที่มีจินยองอยู่ข้างกายเป็นเรื่องที่ดี 


    เวลาที่เศร้าเขาก็นึกถึงจินยองเป็นคนแรก 


    ดี๋ยวนี้เขายิ้มมากขึ้นก็เพราะจินยอง 


    เขาใจเต้นแรงเวลาที่อยู่ใกล้จินยองแต่ไม่ใช่กับมาร์ค



    ยองแจตัดสินใจเปิดประตูออกไปอีกครั้ง 

    เขาเห็นแผ่นหลังของจินยองกำลังจะเดินไปที่ลิฟต์

    ยองแจตะโกนเรียกจินยองให้หันหลังกลับมา ก่อนที่จะกวักมือเรียก


    จินยองที่รู้ตัวว่ายองแจเรียกก็รีบวิ่งกลับมาเพราะกลัวเพื่อนสนิทจะลืมอะไรไว้


    “ มีอะไรรึเปล่ายองแจ " จินยองเอ่ยถามพร้อมกับหอบเล็กน้อย


    เพราะระยะทางจากห้องของร่างบางกับลิฟต์ค่อนข้างไกลเล็กน้อย


    “ เอ่อคือจินยอง พรุ่งนี้มาส่งเราอีกนะ มาส่งแบบที่จินยองขอโอกาสเราไว้น่ะ "

    ยองแจพูดออกมาเร็วๆแล้วไม่ปล่อยให้คนฟังได้เข้าใจเขาก็ปิดประตูเข้ามาก่อน


    ส่วนคนที่อยู่หน้าห้องหลังจากที่เขาประมวลผลคำพูดที่ร่างบางบอกมาได้นั้นเขาก็ตะโกนและชกอากาศไปมาอย่างดีใจ ความดีของเขาชนะใจร่างบางได้แล้วใช่ไหม ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ วันนี้เขามีความสุขมากๆจริงๆ มากกว่าวันไหนที่ผ่านมา


    ส่วนคนที่ยืนอยู่หลังประตูนั้นก็ระบายยิ้มออกมา 

    เขารู้สึกขอบคุณตัวเองเล็กน้อยที่รู้ใจตัวเองไว และไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป 

    และคงต้องขอบคุณจินยองมากๆที่ไม่ปล่อยเขาไปไหน และอดทนรอเขามาตลอด




    และนั้นก็คือเรื่องการสารภาพความในใจในวันที่ฝนตกของยองแจ........: )











    “ ที่รักอ่านอะไรอยู่ครับ " จินยองเอ่ยถามร่างบางที่กำลังก้มอ่านอะไรบ้างอย่างที่โต๊ะคอมก่อนที่เขาจะก้มลงไปหอมแก้มคนรัก


    “ ยองแจอ่านไดอารี่ที่เคยเขียนไว้น่ะจินยอง " ยองแจตอบคนรักพร้อมส่งยิ้มไปให้


    “ จริงๆตอนนั้นถ้ายองแจไม่ตกลง เราก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงเลย " จินยองพูดพร้อมกับทำถ้าคิดเล็กน้อย


    “ เราอาจจะกำลังตามจีบยองแจแบบที่เคยทำก็ได้นะ ".


    “ จินยองไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะไม่ไปเจอคนอื่น แล้วก็หมดความอดทนกับเราก่อนนะ " ร่างบางเอ่ยเย้าแหย่คนรักของตนเล็กน้อย


    “ ก็เพราะรักยองแจไงเราถึงมั่นใจ " คำตอบที่จินยองตอบมานั้นทำให้แก้มของเขารู้สึกร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ


    แม้เราทั้งสองจะคบกันมานานมากขนาดไหน อาจจะเก้าถึงสิบปีได้แล้ว

    แต่ยองแจก็ยังคงเขินกับคำบอกรักของจินยองมาตลอด


    “ เราก็รักจินยองนะ "

    ยองแจรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกที่มีจินยองอยู่ใกล้ๆมาตลอด 

    และยองแจก็รักคนที่ทำให้ยองแจรู้สึกว่าตัวเองโชคดี มากที่สุดในโลกเหมือนกัน




    I'm so lucky to have you





    Talk With Me

    กราบขอโทษคนที่รอก่อนเลยค่ะ(ถึงมีไม่กี่คนก็เถอะ) คือฟิคเรามันเป็นฟิคสดอะค่ะ 
    เขียนเสร็จแล้วลงเลยไม่ได้เขียนให้เสร็จไว้ก่อนㅠ ㅠ แล้วตอนจบเรื่องนี้เราไม่รู้ว่าจะให้มันจบยังไงอะค่ะ คือสมองตันมากตอนแต่ง แต่ว่าจบแบบนี้หวังว่าจะชอบกันนะคะ^^ enjoy readingนะคะ
    ปล.ใครอยากอ่านคู่ไหนรีเควสเรามาได้เลยนะคะ




    CR.SHL

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×