แต่ใครจะรู้เล่าว่า ในบรรดาวงการบันเทิงยังมีคนที่เปี่ยมความสามารถในการขีดเขียนแฝงฝังไม่น้อย จำเป็นอย่างยิ่งที่สังคมเราจักต้องหวนกลับมาทบทวนบทบาทของ "นักเขียนดารา" กันใหม่ เพราะมีไม่น้อยที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการถ่ายทอดความเป็นตัวตนของเขาระบายออกมา ให้ประจักษ์แก่สายตานักอ่าน
อุ้ม - สิริยากร พุกกะเวส เป็นอีกผู้หนึ่งที่กำลังก้าวไปสู่วงการวรรณกรรม แม้ภาพลักษณ์ของเธอจะเป็นนักแสดงเจนเวทีจนเป็นที่ยอมรับของวงการมานาน และมีรางวัลเกี่ยวกับการแสดงออกมาเป็นเครื่องการันตีชั้นหนึ่ง แต่ความพยายามในการขีดเขียนของเธอไม่เคยลดละ
สิ่งแรกที่เป็นแรงบัลดาลใจของเธอก็คือการอ่าน ที่บ้านของเธอจะมีหนังสือทั้งไทยและอังกฤษเป็นจำนวนมาก เริ่มจากชั้นหนังสือที่บ้านของคุณพ่อเธอ ทำให้เธอคลุกคลีอยู่กับการอ่านมาตั้งแต่เด็กจนติดเป็นนิสัย และด้วยตัวละครที่โลนแล่นได้อย่างประทับใจในตัวอักษรของหนังสือแต่ละเล่ม ทำให้เธอมีหนังสือที่คลั่งไคล้และนักเขียนในดวงใจหลายคน จึงไม่แปลก ที่เธอจะรู้จัก ศรีบูรพา จากการอ่านนวนิยายหลายเล่มของนักเขียนนามกระเดื่องผู้นี้ เธอรู้จัก หม่อมเจ้าอากาศดำเกิง รพีพัฒน์ จากเรื่อง ละครแห่งชีวิต หรือแม่แต่นวนิยายแปลในอดีตและวรรณกรรมเยาวชนอีกมากมาย เช่น นักเขียนญี่ปุ่น นัตสึเมะ โซเซะติ, มิยาคาวะ ฮิโร
ตัวละครหลายตัวที่ดำเนินบทบาทอยู่ในตัวอักษรก็เป็นแรงบันดาลใจให้เธอชื่นชอบ และอยู่ในใจเป็นพิเศษ เช่นเรื่อง I AM A CAT ของ Natsume Soseki เรื่อง โต๊ะโตะจัง ของ คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ เรื่อง เมืองนิมิตร* ของ มาลัย ชูพินิจ ก็ยังประทับใจอยู่ไม่คลาย และโดยเฉพาะเรื่อง บ้านเล็กในป่าใหญ่ ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อชีวิตวัยเด็กของเธอเป็นอย่างมาก และหลังจากเป็นหนอนหนังสือมานาน เธอก็เริ่มขีดเขียนด้วยตนเองบ้างด้วยการเขียนบันทึกประจำวันเรื่อยมา
จนวันหนึ่ง เธอเริ่มสนใจงานแปล หนังสือที่เธอได้อ่านและประทับใจคือเรื่อง คิทเช่น ที่ เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย แปล ทั้งที่เธอเคยอ่านจากต้นฉบับภาษาอังกฤษมาก่อนแล้ว แต่เมื่อสะดุดใจกับสำนวนแปลของแปลผู้นี้ ทำให้ไฟฝันแห่งความฮึกเหิมที่อยากมีผลงานแปลเป็นของตัวเองเริ่มเฉิดฉายในใจเธอ
จนวันหนึ่ง สังคมก็ได้ประจักษ์และยอมรับในความพยายามของเธอ เมื่อสำนักพิมพ์ใหญ่แห่งหนึ่งเปิดตัวหนังสือ 'หญิงสาวกับต่างหูมุก' (Girl with a Pearl Earring) ซึ่งประพันธ์โดย เทรซี เชวาเลียร์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับคนรับใช้ซึ่งไปหลงรักศิลปินใหญ่ และต่อมาเธอก็ได้มีผลงานเขียนเป็นของตัวเองจากรวมคอลัมน์ 'แหงนหน้าเล่า' หลังจากนั้น ชื่อเสียงในงานเขียนของเธอก็เริ่มมีมากขึ้น
ในชีวิตการประพันธ์ เธอยอมรับว่าเธอเป็นนักเขียนประเภทเขียนตามอารมณ์และความรู้สึก มิได้นั่งเทียนเขียนไปเรื่อยๆ โดยนึกว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องเขียน ดังนั้นงานเขียนของเธอส่วนใหญ่จึงออกมาจากห้วงใจส่วนลึกของเธออย่างแท้จริง เป็นผลให้นักอ่านที่ได้ลิ้มรสตัวอักษรจากเธอเข้าใจความรู้สึกที่เธอถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มที่ ทั้งความรู้สึกที่แท้จริง และภาษาที่นุ่มนวลลื่นตา
ในอีกไม่กี่อึดใจนี้ เธอกำลังจะมีผลงานแปลอีกหนึ่งเล่ม อันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตงานแปลที่เธอตั้งใจไว้แต่แรกแล้ว....
....How to change you entire life by doting absolutely nothing เป็นดั่งบทพิสูจน์ของอาชีพนักแปลของเธอ เป็นการก้าวไปสู่ความเป็นนักแปลอาชีพที่สมบูรณ์แบบ เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือภาพสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้ดีขึ้น อันเป็นจุดหนึ่งที่สอดคล้องกับบุคลิกของตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง โดยสำนักพิมพ์ เนชั่นบุ๊คส์ มีความเชื่อมั่นให้เธอแปลหนังสือเล่มนี้ ด้วยมั่นใจว่าเธอจะเป็นผู้หนึ่งที่จะสร้างสรรค์งานแปลได้อย่างมีอรรถรส
อีกทั้งจะเป็นอีกบันไดก้าวหนึ่งไปสู่การเป็นนักแปลอาชีพของเธอ ด้วยความที่เธอเป็นผู้ที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ดีอยู่แล้ว...
"ขณะที่อุ้มทำ อุ้มคิดว่าเป็นอาชีพ อุ้มทำจริงๆ ไม่ว่าอุ้มจะทำอะไรก็ตาม เมื่ออุ้มแปลอุ้มก็คิดว่าอุ้มเป็นนักแปล อุ้มไม่คิดว่ามันเป็นอาชีพรอง อาชีพเสริม มองภาพรวมทั้งชีวิตแล้ว การแสดงอุ้มก็ทำมานาน อุ้มก็รักมันด้วย ไม่มีเหตุผลที่อุ้มจะไม่ทำมัน อุ้มไม่มีเหตุผลที่จะเลือกอย่างไรอย่างหนึ่งตอนนี้ เพราะฉะนั้นถ้าทำอะไรได้ก็ทำ รายการตัวเองก็ชอบ เป็นพิธีกรก็ชอบ แล้วจริงจังหมดทุกอย่าง เพียงแต่ว่าวันไหนทำอะไรเท่านั้นเอง"
และนี่ก็คือภาพฝันของเธอเกี่ยวกับถนนบนเส้นทางน้ำหมึก อันเป็นหนทางหนึ่งที่กำลังจะดำเนินต่อไปในชีวิตของเธอ ซึ่งเริ่มต้นด้วยอาชีพนักแปลของเธอได้อย่างสวยงาม สมกับทัศนะของนักเขียนซีไรต์ จิระนันท์ พิตรปรีชา ที่กล่าวถึงเธอว่า
"ในฐานะนักแปล สิริยากร พุกกะเวส สามารถสื่อสารร้อยเรียงเรื่องราวออกมาได้อย่างน่าประทับใจ"
ความคิดเห็น