N.Mangkala
ดู Blog ทั้งหมด

เรื่องของน้ำพุ

เขียนโดย N.Mangkala
เมื่อวันพุธที่14 พฤศจิกายน  50  ได้เรียนชั่วโมงภาษาไทย อาจารย์ได้สั่งให้อ่านหนังสือนอกเวลาเรื่อง เรื่องของน้ำพุ  เมื่อได้อ่านก็รู้ซึ้งกับเรื่องนี้เมื่อ คำนำเริ่มต้นด้วย      
          น้ำพุเกิดเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๙ นั้นเป็นชื่อที่เรียกกันเล่นๆในครอบครัว และเลยเรียกติดปากมาจนกระทั่งน้ำพุโตเป็นหนุ่ม

           น้ำพุจบชั้นมัธยมที่โรงเรียนศรีวิกรม์ และจากนั้นได้จากไปเรียนที่เชียงใหม่ปีหนึ่ง ที่ไปเรียนก็เพราะน้ำพุตามใจแม่ เมื่อเห็นว่าควรเรียนที่นั่นจะดีกว่า น้ำพุก็ไปตามคำ เมื่อไปเรียนจึงรู้ว่าน้ำพุไม่ได้ชอบวิชาที่เรียนเลย แต่ชอบศิลปะมากกว่า จึงได้ขอแม่มาเรียน ก่อนการเปิดเรียนในปีนั้น น้ำพุได้บวชเณรอยู่เดือนหนึ่ง เมื่อเปิดภาคเรียนแล้วจึงสึกออกมาเรียนต่อ ระหว่างนั้น น้ำพุอยู่ในความอุปการะของป้า

           ระหว่างปีสุดท้ายของการเรียน น้ำพุเริ่มคบเพื่อนหน้าตาแปลกๆ และพาเข้ามาในบ้านให้แม่เดือดร้อนใจอยู่เสมอ เช่น ริอ่านทำความรู้จักกับเหล้าแห้ง กัญชา และยาเสพติดชนิดต่างๆ

           จากนั้นน้ำพุก็เปลี่ยนใช้ยาที่แรงขึ้นๆ จนกระทั่งถึงเฮโรอีน เมื่อมาสารภาพว่าติดแล้วนั้น น้ำพุกำลังเตรียมตัวจะไปอดที่ถ้ำเขากระบอก มาขอเงินแม่สามร้อยบาท ครั้งแรกตั้งใจจะไปโดยไม่บอก แต่หาเงินเท่าไรก็ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมาสารภาพ ระหว่างนั้นตัวข้าพเจ้าเองต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัด จึงไม่อาจจะไปดูแลน้ำพุที่ถ้ำเขากระบอกได้ เมื่อกลับมาน้ำพุสดใสขึ้นมาก ทำให้ครอบครัวมีความหวังว่าน้ำพุคงจะดีขึ้น      มีคนถามข้าพเจ้าเสมอ หลังจากที่น้ำพุได้สิ้นชีวิตแล้วว่า "เลี้ยงลูกยังไงถึงได้ปล่อยให้ติดเฮโรอีน"

           ทำให้ต้องนิ่ง และไม่อาจจะหาคำตอบได้

           แต่ถ้าจะให้ตอบจริงๆแล้ว ก็จะต้องโทษตัวเองว่า "เลี้ยงลูกไม่เป็น"

           และเมื่อเหตุไรที่ลูกชายสิ้นชีวิตไปเพราะยาเสพติด จึงนำเอามาเปิดเผย เพราะไม่ใช่เรื่องที่ดี น่าจะปิดเป็นความลับไว้มากกว่า

           คำตอบตรงบรรทัดนี้มีอยู่ว่า เพราะไม่อยากให้ลูกของคนอื่นๆ ต้องเสียชีวิตไปเพราะยาเสพติดอีก ถ้าเรื่องของน้ำพุจะเป็นประโยชน์ต่อลูกของใครอื่นได้ ข้าพเจ้าก็จะยินดีอย่างยิ่ง และจะไม่ขออะไรอื่นนอกจากผลกุศลที่ได้เกิดจากสิ่งที่ทำไปแล้วนี้ ขอให้น้ำพุจงไปมีความสุขในโลกใหม่ หรือที่ใดก็ตามที่น้ำพุขึ้น ไปอยู่      เมื่อน้ำพุกลับมาแล้วก็ตั้งใจเรียนดีขึ้น หลังจากที่ได้เสียเวลาไปถึงสองปี ปีแรกที่เชียงใหม่ และปีที่สองไม่ได้สอบที่โรงเรียนช่างศิลป์ เพราะต้องเข้าโรงพยาบาลถึงเดือนครึ่งเนื่องด้วยโรคไวรัสลงตับ เวลาเรียนมีไม่พอสอบ

           วันสุดท้ายที่ได้พบลูกนั้น เป็นคืนวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ตอนเย็นลูกไปหาที่โรงพิมพ์ พาสาวน้อยหน้าตาจุ๋มจิ๋มไปด้วย และบอกว่าขอเงินไปเอากางเกงนักเรียน ได้หยิบเงินให้ไปและสั่งว่าอย่ากลับค่ำ น้ำพุก็รับคำเป็นอันดี เมื่อไปถึงบ้านนั้นประมาณสามทุ่ม น้ำพุมาเปิดประตูรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ใครจะรู้ว่านั่นเป็นการเปิดประตูครั้งสุดท้ายของลูก จากนั้นน้ำพุก็เอารูปมาอวด

           และบอกว่า

           "ตั้งแต่เกิดมาน้ำพุยังไม่เคยเขียนรูปได้ดีเท่านี้เลยแม่"

           ข้าพเจ้ารับมาดูและชมด้วยใจจริงว่า "ดูดีนี่ แต่ทำไมไม่ใช้ดินสอดำ"

           "น้ำพุไม่ชอบสีดำ"ข้าพเจ้าขึ้นนอน ยังนอนไม่หลับ ลูกสาวคนโตก็กลับ เธอมีงานที่มหาวิทยาลัยจึงกลับล่าไปมาก น้ำพุออกไปช่วยพี่สาวขนของ มีรูปซึ่งเป็นภาพพิมพ์ และกล่องผ้าเช็ดหน้าที่ทำขายในงานของมหาวิทยาลัย ซึ่งน้ำพุสนใจมาก เลิกเรียนแล้วก็ไปนั่งดูว่าพี่สาวจะขายผ้าเช็ดหน้าได้สักเท่าไร จะขาดทุนหรือได้กำไร

           "พี่กบ วันนี้ขายได้เท่าไร" น้ำพุถาม... โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำก่อนที่จะออกไปช่วยพี่สาวขนของลงจากรถ

           เราเอารูปภาพพิมพ์ที่ได้มาจากเพื่อนๆ ของลูก ไปลองติดตามห้องต่างๆ น้ำพุลองติดห้องของพี่ของน้อง เดินไปทั่วบ้านราวกับจะสั่งลา ท้ายสุดนั้นข้าพเจ้าและลูกอีกสองคนเดินลงมาชั้นล่าง...ก็ที่ห้องน้ำพุนั่นแหละ ไม่ทราบว่าลงมาทำไมเหมือนกันทั้งที่ดึกมากแล้ว น้ำพุยังไม่นอน บอกว่าจะทำการบ้าน และพูดกับข้าพเจ้าเป็นคำสุดท้ายว่า

           "แม่...น้ำพุจะซื้อสีน้ำมัน แม่ซื้อให้พุนะ...จะเอามาเขียนรูปติดห้อง แม่ว่าพุเขียนได้ไหม
  "ได้ซิ" แล้วข้าพเจ้าก็ออกมาจากห้องลูก...ขึ้นนอน น่าแปลกที่นอนไม่หลับเลย จนเกือบจะรุ่งสางจึงหลับไปได้นิดหนึ่ง รู้สึกได้ยินเสียงเหมือนอะไรล้มอยู่ข้างล่าง แต่ก็แว่วๆ เต็มที มานึกได้ทีหลังเสียอีกด้วย

           ก่อนเข้าบ้านในวันนั้น น้ำพุโทรศัพท์ไปหาอ๊อด เพื่อนสนิท ชวนมานอนบ้าน แต่อ๊อดไม่มา

           คนใช้ไปปลุกข้าพเจ้าตอนเช้ามืดให้ไปดู 'คุณพุ'

           น้ำพุนอนเหยียดยาวอยู่หน้าเตียง แผ่นเสียงยังหมุนและไฟยังเปิด น้ำพุสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ถอดเสื้อ

           เหมือนหัวใจจะขาดตามลูกไปด้วย ได้อุ้มลูกขึ้นรถ ให้พี่สาวน้ำพุขับไปโรงพยาบาล

           หมอสันนิษฐานว่า น้ำพุหัวใจวาย

           แต่ใครๆก็รู้ว่าน้ำพุไปเพราะยาเสพติด น้ำพุอาจจะหวนกลับไปใช้ยา ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้ว่าเป็นยาชนิดใด และยานั้นคงจะรุนแรง จนสามารถทำให้หัวใจน้ำพุหยุดโดยเฉียบพลัน ไม่มีใครช่วยได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 21
เรากำลังทำรายงานเรื่องนี้อยู่พอดี ขอบใจ^^"
ความคิดเห็นที่ 22
ข้าพเจ้ากำลังให้ทำรายงานเรื่องนี้ส่งคุณครูอยู่เลย ก็เลยค้นหาทางอินเตอร์เน็ต หวังว่าคงได้ความรู้จากเว็บนี้มากพอสมควร เด็กโรงเรียนสะพลี (บางกอกโพสต์ศึกษา) นู๋ป๊บ
ความคิดเห็นที่ 23
ซึ้งจังเลย และ สงสารน้ำพุมาก
ความคิดเห็นที่ 24
อยากดูเป็นละคร เพราะจะให้ความรู้กับวัยรุ่นสมัยนี้จะได้ปรับตัวลง
ว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ได้ดีเลย
ความคิดเห็นที่ 25
ทัมรายงาน เเก้0 อ่เรื่องนี้ ห้าๆๆๆ
ความคิดเห็นที่ 26
ตอนเรียนไม่เคยสนใจอ่านพอมีลูกเลยอยากหามาอ่าน
ความคิดเห็นที่ 27
ตกลงใคคมันเป็นคนเขียนพ่อหรือแม่
catza23
catza23 1 มิ.ย. 54 / 20:42
 ขอบคุณมากนะคะ กำลังจะสอบเรื่องนี้เลย อ่านแล้วรู้สึกซึ้ง 
fair-fiona
fair-fiona 12 มิ.ย. 54 / 19:38
โดนอ่านนอกเวลาเรียนเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ
ความคิดเห็นที่ 30
kookik_kik@hotmail.com
ความคิดเห็นที่ 31
อยากได้ตัวละครด้วยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 32
มีที่มากๆๆๆๆกว่านี้ป่าวอะครับ
ความคิดเห็นที่ 33
อ่าน งง บ้าง ขี้เกียจซือหนังสือมาอ่าน
มันเยอะ หาซื้อยากมาก
ความคิดเห็นที่ 34
อ่านเเล้วดีจริง
ความคิดเห็นที่ 35
ดีแต่น้ำพูไม่น่าเสพยาเสพติดเลย
ความคิดเห็นที่ 36
เป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับวัยรุ่น รุ่นนี้คะ
ความคิดเห็นที่ 37
ขอขอบคุณเป็ยอย่างยิ่งที่มีเรื่องย่อดีไว้อ่าน...ขอบคูณมากคะ
ความคิดเห็นที่ 38
- ห ร อ ย ๆ
- ส ง ส า ร จั ง เ ล ย
- ทำ ร า ย ง า น ยุ่ พ อ ดี
- ไ ม่ ต้ อ ง ยื ม ห นั ง สื อ ละ ล่ะ เรา 5 5 5 5 5 5
ความคิดเห็นที่ 39
ผมต้องสบเลยหาดูในห้องสมุดโรงเรียนก็ดันหมด
เลยต้องมาหาดูในเว็ปเอง
โดนพ่อ-แม่
บ่นว่าไม่ตั้งใจเรียนอีก
(ชีวิตรันทดดด)
ความคิดเห็นที่ 40
ชอบมากค่ะ อ่านแล้วซึ้งมากๆๆๆๆๆๆๆ
สงสารจังเนอะ
อ่านแล้วเกือบร้องไห้ น้ำตาซึมเลย
< 1 2 3 >