เรื่องสมานฉันท์ เป็นเรื่องที่พูดกันมานาน แต่พูดกันเฉพราะในคนต้องการเท่านั้น คนที่ไม่ต้องการเขาไม่สนใจ เขาไม่พูด เขาต้องการแต่สิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น มันเป็นเรื่องของการต้องการ
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 อธิบายคำ”สมานฉันท์”ไว้ว่า “ความพอใจร่วมกัน ความเห็นพ้องกัน” แต่ความพอใจหรือความเห็นพ้องต้องกันจะเกิดขึ้นได้ ก็จาก พฤติกรรมของทั้งสองฝ่าย ใช่หรือไม่?
ในเมื่อมันเป็นเรื่องของคนทั้งสองฝ่าย ให้ไม้เคาะอย่างไร แต่ไม่มีระฆัง ไม่มีฆ้อง หรือระฆัง ฆ้อง ไม่พร้อม ไม่ต้องการที่จะดัง แล้วจะดังไปได้อย่างไร ไม้เคาะลมไปเท่านั้นเอง แล้วจะมีประโยชน์อย่างไร มันก็ไม่มีวันสิ้นสุดหรอก
ต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน มีความเห็นที่ตรงกัน เข้าใจกันและกัน
อีกความหมายหนึ่ของสมานฉันท์ คือคำว่า Harmony ซึ่งแปลว่า ความกลมกลืน ความปรองดอง และความสามัคคี
กลมกลืน ไม่ใช่ต้องเป็นอย่างเขา หรือเขาต้องเป็นอย่างเรา เขาก็เป็นเขา เราก็เป็นเรา นั่นแหละ
แต่มีความกลมกลืน คือ เข้ากันได้ อยู่กันได้ ไปด้วยกันได้ รักกันได้
ปรองดอง คือ มีสิ่งไร ก็ปรึกษาหารือกัน เอาเหตุผล เอาปัญหาเป็นปัญญา ทำให้ปัญญาเกิดขึ้น ให้เกิดปัญญา ทะเลาะกันด้วยเหตุผล ทะเลาะกันด้วยปัญญา คนที่เขาทะเลาะกันด้วยเหตุผล ด้วยปัญญา จะไม่เกิดเรื่องอะไร จะไม่เกิดการเบียดเบียนกันและกัน ทำร้ายกัน เพราะการทำเช่นนี้ จะไม่มีทางระงับปัญหา
สังคมไทย กำลังอยู่ในภาวะของการทะเลาะด้วยตัวกู ของกู ไม่ใช่ทะเลาะกันด้วยปัญญา
สามัคคี คือ ความพลักพร้อม เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นใครบ้าง ไม่ต้องมองหน้า เมื่อถึงเวลา ต้องหึดพร้อมกัน สิ่งของใหญ่ ๆ ต้องการคนหลายคนช่วยกันยก ไม่ใช่คนนั้นยกที คนนี้ยกที หรือมายกพร้อมกัน ต้องออกแรงไม่พร้อมกัน ก็เปล่าประโยชน์ หรือ จองมองแต่ผู้อื่น ว่า คนนั้นเป็นอย่างไร คนนี้เป็นอย่างไร
แทนที่เวลานี้ ไม่ต้องมองว่าใครเป็นอย่างไร แค่ขอให้ช่วยกัน พร้อมกัน ในการนำพาประเทศชาติพ้นวิกฤตให้ได้ |
ที่มา : แว่วมา กับเสียงธรรม(พระมหาสถาพร) |
ความคิดเห็น
พระบารมีอันแผ่ไพศาล ย่อมบริบาลผู้ที่มีความจงรักภักดีตลอดไป
ผู้ใดคิดร้ายทำลายชาติจะพินาศจนสิ้นดี ผู้ใดจงรักภักดีจะสวัสดีศรีมงคล
บรรพบุรุษท่านต่อสู้กอบกู้ชาติ ศาสน์ ราชัน แล้วเราเป็นใครกันไม่รักษาให้จงดี
Gangkaitia "รักในหลวง"