Fic Snsd ห้องน้ำนี้เป็ดดุYulsic [Yuri] - Fic Snsd ห้องน้ำนี้เป็ดดุYulsic [Yuri] นิยาย Fic Snsd ห้องน้ำนี้เป็ดดุYulsic [Yuri] : Dek-D.com - Writer

    Fic Snsd ห้องน้ำนี้เป็ดดุYulsic [Yuri]

    เสียงอะไรบางอย่างที่ออกมาจากห้องน้ำ ทำให้สองขาของฉันยิ่งอยากจะก้าวไปข้างใน แต่แล้ว... จบแล้วค่ะ+พิเศษ

    ผู้เข้าชมรวม

    5,572

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    5.57K

    ความคิดเห็น


    104

    คนติดตาม


    41
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 มิ.ย. 54 / 21:04 น.

    แท็กนิยาย

    สยองขวัญ snsd yuri yulsic



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    แหะๆ แวะมาเปิดเรื่องสั้นจ้า เป็นชุดแนวสยองขวัญ สนองนิ้ดของตนเอง ฮ่าๆ  ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยน้า เรื่องเก่ายังไม่จบ จะมาเปิดเรื่องใหม่อีก
    เรื่องนี้ให้คู่ยูลสิกทั้งเรื่องเลย อาจจะใช้คำไม่สุภาพ ก็ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยค่ะ
    อ่านของแทนี่ จิ้มค่ะ http://writer.dek-d.com/ok-lets/story/view.php?id=709566

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                 เขาว่ากันว่า ในห้องน้ำมักมีสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่ แต่สำหรับคนอย่างฉัน ควอนยูริ ไม่มีวันเชื่อซะหรอก มันก็เป็นแค่เรื่องแต่งกันขึ้นมา เหอะๆ ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย ก็แค่นิทานหลอกเด็กไปวันๆ

                "เฮ้ย ไอ้ยูล วันนี้ไปสำรวจห้องน้ำหลังโรงเรียนกันมะ เห็นไอ้อูยองบอกว่าผีเจ้าแม่แมร่งโคตรดุแต่สวยนะเว้ย ไปดูกันมะ" ยุนอาถามเพื่อนซี้ซึ่งก็คือฉัน

                "มึงจะไปทำห่าอะไร ไปให้ผีมันเชือดคอ หรอวะ มึงกลัวผีไม่ใช่หรอ" ซูยองเพื่อนของฉันอีกคนบอกก่อนที่ทั้งสองจะกัดกันเหมือนเดิม ฉันก็เลยต้องห้ามทัพ(?)

                "พวกมึงอยากไปก็ไปสิวะ ไปก็เท่านั้น ผีแมร่งไม่มีในโลกหรอก เกิดมาไม่เคยเห็น ไร้สาระจริงเลยนะพวกมึง"ฉันด่าพวกมัน

                "เฮ้ย ไอ้ยูล มึงไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เดี๋ยวถ้าเจ้าแม่ได้ยินเดี๋ยวได้หักคอมึงตาย"ยุนอาว่าก่อนจะกอดคอซูยองขึ้นห้องเรียนไป ฉันเลยถอนหายใจออกมา

                "ถ้าผีมีจริง เราก็คงเห็นตั้งนานและ" จากนั้นฉันก็ขึ้นห้องเรียนตามพวกมันไป

                หลังเลิกเรียนฉันรีบออกมาจากโรงเรียนทันทีเพราะเดี๋ยวไอ้พวกนั้นก็ตามให้ฉันไปสำรวจผีอะไรไร้สาระของมันอีก แต่เหตุผลจริงๆก็คือ ฉันจะได้มาคุยกับน้องซอสุดน่ารัก คนที่ฉันกำลังตามจีบอยู่ น้องเขาโคตรเด็กเรียนเลย แต่น่ารัก ขาวสวย หมวย อึ๋มไหม? ไม่อึ๋มหรอก เรื่องนั้นฉันไม่สนใจ สนใจแต่ว่า ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก

                "น้องซอจ๋า วันนี้ไปกินข้าวกับพี่ไหม พี่เลี้ยงเลยน้า" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่หวานที่สุดเท่าที่จะทำได้

                "อ๋อ ไม่อ่ะค่ะ ซอต้องรีบกลับบ้านไปดูหนังสือ" แล้วน้องเขาก็เดินหนีฉันไปเลย ไม่ได้ มันจะเป็นอย่างนี้ไม่ได้ ควอน ยูริคนนี้ทำอะไรก็ต้องทำให้สำเร็จ

                "เดี๋ยวพี่ติวให้ก็ได้ หนังสืออ่ะ ไปกินข้าวกัน นะคะ ^ ^" ฉันตื้ออีกครั้งและก็ยิ้มที่คิดว่าละลายใจส่งไปให้น้องซอสุดที่รัก(?)

               "ได้ข่าวว่า พี่ยูริได้เกรดเฉลี่ย 1.55ไม่ใช่หรอคะ แล้วจะมาสอนซอ ไม่ดีมั้งคะ เอาเป็นว่าไว้วันหลังละกันนะคะ ไปก่อนละ บายๆๆ" แล้วน้องซอก็เดินจากไปเหลือฉันที่ยังยืนเอิ่ม.......

               นาฬิกาตีบอกเวลาสองทุ่มแล้ว ฉันนั่งเล่นเกมอย่างเมามันส์ เรื่องการบ้านไม่ต้องไปสนใจ ขี้เกียจ โดนตีก็แค่นั้น แล้วก็จบ ไม่เห็นจะมีอะไรต้องแคร์ จู่ๆฉันก็รู้สึกปวดท้องไส้มาก ไม่ไหวๆ แล้วฉันก็ลุกเข้าห้องน้ำไป

               "oh oh ปานึล ซารังเฮ Aaaaa มานี มานีเฮ" โอ้ยๆๆๆ คนกำลังปลดทุกข์อยู่จะโทรมาทำไมวะ 

              "ว่าไง ไอ้ซู" ฉันกรอกเสียงลงไปอย่าง หงุดหงิด บังอาจมาขัดเวลาความสุขของฉัน ชิส์

              "ไอ้ลิง มึงช่วยกูหน่อยดิ ฮึกๆ" เพื่อนซี้ตัวสูงของฉันบอก ดูท่าทางเสียงมันสั่นๆ เหมือนกับกลัวอะไรซักอย่าง

              "มีอะไรก็รีบพูดมาสิวะ ชักช้าอยู่ได้" ฉันตะโกนตอบ

              "กูติดอยู่ในห้องน้ำ อ่ะ ประตูล็อกหมดเลย กูตะโกนออกไปไม่มีใครได้ยินกูสักคน"

              "แล้วไอ้ยุนอ่ะ"

              "มันไม่ได้มาสำรวจผีห่าอะไรของมันหรอก มันป็อด วันนี้กูก็ซ้อมบาสถึงเย็นเลย กูเข้าห้องน้ำแล้วอยู่ดีๆประตูแมร่งก็ปิดเองอ่ะ กูพยายามถีบแล้ว ก็ถีบไม่ออก ฮือๆๆๆ ไอ้ลิง มึงช่วยกูด้วย" เพื่อนสนิทมันพูดไปร้องไห้ไป

             "เออๆ เดี๋ยวไปก็ได้ แค่นี้แหละ ติ้ดดดด" ฉันกดตัดสายไปก่อนที่จะใส่เสื้อคลุมตัวเก่งแล้ววิ่งออกจากบ้านไป

             "จะไปไหน ยูล" เสียงแม่ถามส่วนฉันก็กำลังใช้ความคิดที่จะตอบคำถามแม่

             "พอดียูลลืมของไว้ที่โรงเรียนค่ะ ของสำคัญมากกกกก พรุ่งนี้ต้องใช้ แหะๆ" ฉันตอบแม่ไปอย่างเนียนๆ

             "อืมๆ แล้วอย่ากลับดึกมากนะลูก(ได้ข่าวว่าตอนนี้ก็ดึกแล้ว)"

             "อาค่ะ  เดี๋ยวมา" แล้วฉันก็รีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที


             ตอนนี้ฉันก็มาถึงโรงเรียนเรียบร้อย รู้สึกมันวังเวงยังไงบอกไม่ถูก บรรยากาศต่างจากเมื่อตอนกลางวันมาก แต่ฉันก็หลุดจากความคิดของตัวเองได้ ก่อนจะเดินเข้าไปตามหาเพื่อนของฉัน ป่านนี้มึงจะเป็นไงบ้างวะเนี่ย มันบอกว่าห้องน้ำ งั้นไปดูห้องใกล้ๆที่มันซ้อมดีกว่า ว่าแล้วฉันก็รีบเดินตามหามันทันที แต่.....ฉันก็ไปสะดุดตากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง น่าจะอายุประมาณเท่าฉันแหละ แล้วทำไมอยู่คนเดียวตอนกลางคืนเนี่ย ฉันก็ไม่ได้สงสัยอะไรนักหรอก แต่สองเท้าของฉันก็ก้าวไปหาเธอคนนั้นอย่างรวดเร็ว

            "นี่เธอ ฉันมีเรื่องจะให้ช่วยหน่อยนะ" ฉันสะกิดเธอ แต่เธอก็ไม่ยอมหัน จะมาทำหยิ่งอะไรตอนนี้วะ คนกำลังต้องการความช่วยเหลือ

            "มีอะไรหรอ" เสียงเธอคนนั้นช่างเย็นยะเยือกยิ่งนัก

            "มาช่วยเพื่อนฉันหน่อยสิ เพื่อนฉันติดอยู่ในห้องน้ำนะ กุญแจก็ไม่มีไข ไปขอภารโรงด้วยกันหน่อยนะ" ฉันพูดจาหว่านล้อมเธอแล้ว แต่เธอก็ยังยืนนิ่งๆไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด

            "นี่ จะมาทำตัวหยิ่งอะไรนักหนา เพื่อนฉันกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่นะ ไหนให้ฉันดูหน้าชัดๆหน่อยสิ ว่าเธอเป็นใคร" 

            "อยากเห็นหน้าฉันจริงๆหรอ" เสียงเธอที่เย็นยะเยือกถาม

            "อืม" ฉันตอบสั้นๆ แล้วเธอคนนั้นก็หันมา โอ้ว แม่เจ้า เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นคนอะไรสวยอย่างกับนางฟ้า ปากนิด จมูกหน่อย แถมขาวหมดจด ขาวยิ่งกว่าน้องซออีก ผมสีบลอนด์ทองยาวสลวยประบ่า

           "ตะลึงเลยหรอ ฉันจอง ซูยอนนะ ยินดีที่ได้รู้จัก ควอน ยูริ"

           " เอ่อ...ฉัน ควอน ยูริ ว่าแต่เธอรู้ชื่อฉันได้ยังไง" ฉันสงสัยจริง เกิดมาไม่เคยเจอเธอคนนี้มาก่อน แล้วอยู่ดีๆมารู้ชื่อฉันแบบนี้ได้ไงกัน

           "เอาเป็นว่าฉันรู้ก็แล้วกัน จะไปช่วยเพื่อนเธอไหมเนี่ย มัวแต่ยืนคุยอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวเพื่อนเธอก็กลายเป็นศพตายคาห้องน้ำหรอก" แล้วเธอคนนั้นก็เดินออกไป ทำให้ฉันได้สติขึ้นมา

           "ซูยอน รอด้วยสิ" แล้วฉันก็วิ่งตามเธอไป คนอะไรเดินไวชะมัด-*-


           ฉันกับซูยอนเดินเข้ามาถึงห้องน้ำหลังโรงเรียน โคตรวังเวงเลยอ่ะ มืดก็มืด ทำไงดีวะเนี่ย เราก็ผู้หญิงกันทั่งคู่ด้วยสิ แล้วฉันก็ตัดสินใจบอกซูยอนให้ถีบเข้าไป แต่ซูยอนกลับส่ายหัวปฏิเสธก่อนจะบิดลูกบิด ปรากฎว่าลูกบิดกลับถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย ทำเอาฉันยิ่งงง ก็เมื่อกี้ไอ้ซูมันบอกอยู่ว่ามันเปิดยังไงก็เปิดไม่ออก แต่เวลานี้ความสนใจของฉันไปอยู่ที่เพื่อนสนิทของฉันที่กำลังสงบแน่นิ่งไปอยู่

           "ไอ้ซู ตื่นสิเว้ย ไอ้ซู" ฉันเรียกมันอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดมันก็ค่อยๆลืมตาออกมา

           "ไอ้ลิง ฮึกๆ มึงมาจริงๆด้วย" แล้วมันก็โผเข้ากอดฉันราวกับเด็กๆ

           "แน่สิ เพื่อนช่วยเพื่อนนิหว่า ป่ะ เดี๋ยวฉันไปส่งแกที่บ้าน" แล้วฉันก็ค่อยๆพยุงตัวมันที่ใหญ่กว่าฉันนิดนึง แต่เอ๊ะ เมื่อกี้ซูยอนก็อยู่ด้วยนี่ แล้วหายไปไหนหว่า?

           "มึง เมื่อกี้เห็นเด็กผู้หญิงอีกคนมาช่วยแกด้วย แกเห็นป่าววะ" ฉันหันไปถามเพื่อนที่ยังตัวสั่นงั่นงกอยู่

           "เห็นบ้าอะไร ก็เห็นมึงอยู่คนเดียว ไอ้ลิง มึงอย่ามาอำกูเลยดีกว่า" ซูยองว่าก่อนจะลูบแขนตัวเอง

           "กูพูดจริง ก็เธอคนนั้นบิดประตูให้ฉันเข้าไปหาแกนี่ แล้วทำไมหายไปได้ยังไง" ฉันยิ่งสงสัยเข้าไปอีก

           "เฮ้ย ไอ้ลิง มึงโดนผีเจ้าแม่อำหรือเปล่าวะ" ซูยองทักขึ้นมันน่าเตะกระเด็นซะจริง ใครเขาให้พูดถึงผีตอนกลางคืนมั่งวะ 

           "จะผีได้ไง เธอสวยเหมือนนางฟ้าเลย แล้วก็ปกติดีด้วย" ฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดต่อ

           "เดี๋ยวฉันโทรบอกแม่แกว่าวันนี้แกนอนบ้านฉันละกัน ป่ะๆ" แล้วฉันก็ลากเพื่อนฉันกลับบ้าน ตัวก็หนักฉิบหาย ยังจะให้ฉันลากอีก ชิส์~ ก่อนจะคิดถึงใบหน้าของคนที่ฉันเจอเมื่อครู่

           "เธอเป็นใครกันนะ ซูยอน"


                                     มาต่อแล้วค่ะ


          ฉันกว่าจะพาสังขารของตัวเองพร้อมไอ้เพื่อนสนิทกลับมาบ้านได้ก็เกือบสี่ทุ่ม โชคดีที่แม่หลับไปแล้วฉันก็เลยลากมันกลับมาได้ พอมาถึงห้องฉันก็เลยได้ถามไอ้ซูอย่างจริงๆจังๆซักที

          "มึงเข้าไปติดในห้องน้ำได้ไง ไอ้ซู ประตูก็ไม่เห็นจะล็อก" ฉันถามด้วยความสงสัย ก็ซูยอนยังเปิดออกเลย

          "ไม่ล็อกบ้านมึงสิ กูทั้งถีบ ทั้งบิดแมร่งยังไม่ออกเลย เรียกใครก็ไม่มีใครได้ยิน ดีนะที่เป็นกู ถ้าเป็นไอ้ยุนนะมึง ตายคาห้องน้ำแน่ ในห้องน้ำก็น่ากลัวฉิบหาย ก่อนที่มึงมาอ่ะ กูได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ด้วย แบบโหยหวนเลย แล้วกูก็เลยเดินไปตามเสียง แล้วกูก็เห็น..." 

         "เห็นอะไร" ฉันถามอย่างตื่นเต้น

         "กูเห็นผู้หญิงอายุประมาณเราเนี่ยแหละ แมร่ง เลือดเต็มตัวเลย แล้วก็ค่อยๆเดินมาหากู ตานี่แบบโปนจะออกจากเบ้าอยู่แล้ว จากนั้นกูก็ไม่รู้สึกตัวอีก จนมึงมาเรียกเนี่ยแหละ กูยังขนลุกไม่หายเลย"ไอ้ซูมันว่า

         "โป้ก" ฉันเคาะกบาลมันไปทีหนึ่งโทษฐานพูดจาอะไรไร้สาระอีก

         "กูว่ามึงเลิกเพ้อเจ้อเหอะ ผีแมร่งมีจริงๆที่ไหน มึงก็เชื่อเป็นตุเป็นตะอีก" ฉันส่ายหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา

         "มึงไม่เจอแบบกูมึงไม่รู้หรอก กูไม่น่าพูดเลย พูดไปมึงก็ไม่ฟังกูอยู่ดี กูนอนดีกว่า" แล้วมันก็ล้มตัวลงไปนอนทันที

         "ยังไงในโลกนี้ก็ไม่มีผีจริงๆหรอก ถ้าเจอก็เจอไปนานและ แต่ละคน เฮ้อ" ฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะโน้มตัวลงนอนตาม


         เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส ไร้ซึ่งฝนตก วันนี้ฉันเดินไปกับไอ้เพื่อนสนิทที่กำลังตัวสั่น มันจะกลัวอะไรของมันนักหนาวะ 

         "ทักทาย ไอ้ยูล ไอ้ซู อ่าวมึงเป็นอะไรของมึง ตัวสั่นอย่างกับยีราฟตกน้ำ" เสียงไอ้ยุนที่ทักมันช่างแหลมาก เหอะๆ แล้วไอ้ซูมันก็เปลี่ยนเป้าหมายไปยืนคู่กับไอ้ยุนแทน แล้วมันก็ซุบซิบอะไรกันก็ไม่รู้ฉันไม่ได้ฟัง แต่ดูจากสีหน้า ซักพัก ไอ้ยุนก็ทำตาโต 0o0

        "จริงหรอวะ ไอ้ซู ดีนะที่กูไม่ไปด้วย ถ้าเป็นกูฉี่ราดไปและ" ไอ้ยุนมันทำหน้าทำตาก่อนจะลูบแขนตัวเองไปมา

        "มึงจะกลัวอะไรกันหนักหนาเนี่ย บางทีอาจจะมีใครนึกแกล้งมึงก็ได้" ฉันบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา

        "เรื่องแบบนี้กูบอกมึงไปตั้งหลายครั้งแล้ว ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ สาธุ ขอให้มึงได้เจอกับตัวเข้าสักวันเหอะ มึงจะได้รู้" ไอ้ยุนบอกก่อนจะเดินหนีฉันไปพร้อมไอ้ซู ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมารอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวันก่อนจะขึ้นห้องเรียนขึนไปเรียน


        ตอนเย็นของวันนี้ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน ฉันอยากจะรู้จริงๆเลยว่าผีมีจริงหรือเปล่า นี่มันก็หกโมงจะครึ่งแล้ว บรรยากาศก็โพล้เพล้ชวนวังเวง จู่ๆขนแขนฉันก็แสตนด์อัพขึ้นมา สงสัยจะเริ่มเข้าฤดูหนาวแล้วมั้งแล้วสายตาฉันก็เหลือบไปเห็น เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ คุ้นๆเว้ยเฮ้ย แต่ก็ดีมีเพื่อนคุย

        "สวัสดี ซูยอน ทำไมยังไม่กลับบ้านล่ะ" ฉันถามเมื่อเห็นอีกคนหันหน้ามาให้ ก่อนที่เธอจะยิ้มออกมาบางๆ

        "แล้วยูริล่ะ ทำไมไม่กลับบ้าน" เธอถาม แต่จะให้ฉันตอบเธอว่ามาพิสูจน์หาผีอ่ะหรอเดี๋ยวเธอจะหาว่าฉันไร้สาระอีก

        "เอ่อคือ.....คือว่า......เรายังไม่อยากกลับบ้านอ่ะ แล้วทำไมซูยอนยังไม่กลับล่ะ"

        "ก็เรารอพ่ออยู่ พ่อเรายังไม่มาเลย ยูริกลับไปเหอะ เราอยู่คนเดียวได้ เดี๋ยวอีกสักพักพ่อก็คงมาแล้วแหละ" เธอยิ้มตอบบางๆ

        "จริงๆแล้ว เราจะมาพิสูจน์ว่าผีในห้องน้ำหลังโรงเรียนว่ามีจริงๆหรือเปล่า เพื่อนเราบอกว่ามีผีเจ้าแม่อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ แต่นี่ก็มืดแล้ว ไม่เห็นมีเลย" ในที่สุดฉันก็กล้าพูดออกมาก่อนที่เธอจะหัวเราะออกมาเบาๆ

        "แล้วยูริก็เชื่ออย่างนั้นหรอ เรารอพ่อคนเดียวที่โรงเรียนถึงดึก เรายังไม่เคยเจอเลย ผีมันไม่มีในโลกหรอก"เธอพูดอย่างขำๆทำให้ฉันคิดได้ นั่นสิ ผีมันจะมีจริงๆได้ยังไง ไอ้พวกนั้นก็บ้าเกินเหตุ เมื่อได้เวลาสมควรฉันก็บอกลาเธอกลับบ้าน

        "บายๆ ซูยอน รอพ่อดีๆนะ อยู่คนเดียวได้แน่นะ" แล้วฉันก็โบกมือลา อย่างน้อยฉันก็ได้เพื่อนเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยแหละ


        หนึ่งเดือนผ่านไป

         วันนี้ฉันตื่นเช้ากว่าปกติไปโรงเรียน เพราะอะไรนะหรอ? ก็เพราะฉันอยากเจอเพื่อนใหม่นะสิ หลังจากที่ได้คุยกันมาก็ทำให้รู้ว่า ซูยอนอยู่ม.5ห้องเอ แต่ฉันอยู่ห้องเอฟ(ห่วยสุดๆ) ซูยอนค่อนข้างจะเรียนเก่งน่าดูเลยแหละ หน้าตาก็น่ารัก แถมเรียนเก่งอีกต่างหาก เสป็คภรรยาในอนาคตของฉันเลย คิดอะไรอยู่เนี่ยเรา เพิ่งเจอเธอแค่เดือนเดียวเอง

         "วันนี้ถ้าจะฝนตกในฤดูหนาว ลูกแม่ไปโรงเรียนแต่เช้าเชียว" แม่ทักฉันแบบนี้ฉันเซงเลย อุตส่าห์ตื่นเช้าแล้วนะเนี่ย

         "ก็อยากตั้งใจเรียนขึ้นอ่ะแม่ ไปก่อนนะ" แล้วฉันก็โบกมือลาแม่ แม่ก็ได้ส่ายหน้าไปมา แล้วฉันก็เดินไปโรงเรียนอย่างมีความสุข ความสุขจริงๆ

         "อ้าว ไอ่ลิง มาเช้าจังนะมึง" ไอ้ซูเข้ามาทักฉัน วันนี้ทุกคนตื่นเช้าแฮะ ใจตรงกัน อิอิ

         "เออ มึงมาก็ดีเลย กูจะไปห้องม.5เอ มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ" แล้วฉันก็ลากมันไปยังห้องม.5เอทันที บางทีเธออาจจะมาเช้าก็ได้

         "ฮันเน่ มึงจะมาจีบสาวห้องคิงหรอวะ แล้วน้องซอ ไม่จีบต่อแล้วหรอ เพื่อนกูเนี่ย หล่อเลือกได้จริงๆนะเว้ย ฮ่าๆ"แล้วมันก็หัวเราะขึ้นมา จนฉันต้องส่ายหน้า

         "เบาๆหน่อยสิมึง อายเขามั่ง" ฉันหันไปว่ามันก่อนที่จะรอซูยอนต่อไป

         จนเวลาล่วงเลยไปถึงเวลาเข้าเรียน ฉันก็ไม่เห็นซูยอนแม้แต่เงา อาจจะยังไม่มาก็ได้มั้ง แล้วฉันก็ลากไอ้ซูกลับไป

         "มึงไปรู้จักเด็กห้องเอได้ไงวะ ห้องนั้นเด็กเรียนจะตาย ไหนมึงบอกว่ามึงเกลียดเด็กเรียนไง"

         "ไม่รู้สิ พอเจอครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาเลยมั้ง แล้ววันนั้นเธอคนนี้แหละที่มาช่วยกูเอามึงออกจากห้องน้ำมาได้" ฉันว่าแล้วไอ้ซูมันก็ลูบแขนตัวเอง ไร้สาระอีกและมึง


         ตอนเย็นของวันนี้ ฉันก็หาเรื่องอยู่โรงเรียนถึงเย็นอีก อ้างแม่ว่าจะดูไอ้ซูซ้อม กลับบ้านคนเดียว เหงาตาย แล้วฉันก็เหลือบไปเห็นเธอคนเดิม ซูยอน

         "สวัสดี ซูยอน ฉันไปหาเธอที่ห้องเรียนด้วย ไม่เคยเห็นเธอเลย เธอมาสายหรอ" ฉันถามเธอ ส่วนเธอก็ตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ

         "อืม วันหลัง ยูริไม่ต้องไปหาฉันที่ห้องเรียนทุกวันหรอก ฉันก็มารอยูริทุกๆหกโมงอยู่แล้วนี่นา ฉันดีใจมากเลยนะ ที่มียูริเป็นเพื่อนคุยทุกวัน ฉันไม่เหงาเลย"

         "ฉันก็ดีใจนะที่มีเพื่อนคุยอย่างซูยอน ทำไมซูยอนรอพ่อคนเดียวทุกวันเลยล่ะ" ฉันถามอยู่ดีๆก็สงสัยขึ้นมาซะงั้น

         "พ่อฉันทำงานถึงตอนเย็นทุกวัน เลยมารับฉันช้าน่ะ แต่ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันอยู่คนเดียวได้ ยูริไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก แต่ก็ขอบคุณ" เธอว่าก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา

         "แต่ฉันอยากอยู่เป็นเพื่อนซูยอนนี่นา ฉันชอบซูยอนนะ" เฮ้ย ฉันพูดอะไรออกมาวะเนี่ย แต่แล้วฉันก็เห็นเธอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยดึงเธอเข้าไปกอดไว้

         "ฮึกๆๆๆ ขอบคุณนะยูริ ที่ดีกับฉัน เธอเป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวเลยนะที่ดีกับฉันแบบนี้" เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จากนั้นฉันก็คลายอ้อมกอดก่อนจะซับน้ำตาให้เธอ

         "ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นกับฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่ฉันรู้ก็คือ ฉันอยากปกป้องเธอ อยากดูแลเธอ" แล้วฉันก็ดึงเธอเข้ามากอดอีกรอบ ส่วนเธอก็ร้องไห้ใหญ่

         "ขอบคุณมากๆนะ ยูริ ฮึกๆๆ" 


         ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำหลังโรงเรียน หลังจากแยกย้ายกับซูยอน แต่แล้ว....ฉันก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างออกมาจากห้องน้ำ ทำให้สองขาของฉันยิ่งอยากจะก้าวไปข้างใน จากนั้น.........

         "กรี๊ดดดดดดดด" เสียงกรี๊ดดังออกมาจากห้องน้ำแล้วสิ่งที่ฉันเห็นคือ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกแขวนคอไว้ด้วยเชือกหนาแลบลิ้นปลิ้นตาออกมา หน้าท้องเห็นลำไส้ไหลออกมา ดวงตาโปนแทบจะออกมาจากเบ้า ทั่วเรือนร่างอาบไปด้วยเลือด จากนั้นเธอก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ทำให้ฉันได้เห็นเธอชัดเจน จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก

        " ซูยอน"

        "ซูยอนนนนนนนนนนนนนนนนนน ไม่นะ"


         ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา โธ่ มันก็แค่ฝันเท่านั้นเอง แต่เมื่อกี้มันเหมือนจริงมาก มากจนฉันกลัว กลัวว่าซูยอนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่มันจะจริงได้ไง ในเมื่อฉันก็คุยกับซูยอนทุกเย็น มีโดนตัวกันบ้างอะไรบ้าง แต่เธอก็เป็นเหมือนคนธรรมดา ไม่น่าจะเป็นผีไปได้ แต่ผีมันมีจริงซะที่ไหนกันเล่า แต่ทำไมฉันถึงฝันแบบนี้กันนะ คำถามมากมายผุดขึ้นในสมองของฉันตอนนี้
        

        เช้าวันนี้ ฉันตื่นขึ้นมาในสภาพที่บอกได้คำเดียวว่าแย่มากๆ กว่าฉันจะนอนหลับลงก็เกือบๆตีสี่ แล้วแถมยังต้องตื่นหกโมง นอนแค่สามชั่วโมงเองจะไปพออะไร

        "ยูล เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ" เสียงแม่ถามอย่างห่วงใย

        "นอนไม่ค่อยหลับค่ะแม่ ฝันร้าย แหะๆ" ฉันยิ้มแห้งๆก่อนจะถือขนมปังก้อนหนึ่ง คาบไว้ในปาก แล้วก็บอกลาแม่เหมือนอย่างเคย

         วันนี้ฉันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก อาจจะเครียดเรื่องฝันก็เป็นได้ ฉันเลยตัดสินใจเดินทางลัดไปโรงเรียนแทนที่จะใช้เส้นทางเก่าเหมือนปกติ ฉันคิดอะไรเพลินๆกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็มีแมวสีดำตัวใหญ่กระโจนผ่านหน้าฉันไป ทำให้ฉันเสียจังหวะการเดิน แล้วก็ล้มลงในที่สุด

         "เชี่ย...แมร่ง ทำไมต้องมาตัดหน้ากูด้วยวะเนี่ย ไอ้แมวบ้า" ฉันพูดกับตัวเองอย่างหัวเสียก่อนจะลุกขึ้นมาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปในโรงเรียน

         ตลอดเวลาของวันนี้ทั้งวัน หนังสือฉันแทบจะไม่ได้สนใจมันแม้แต่นิดเดียว เพราะมัวแต่คิดไอ้เรื่องความฝันบ้าๆที่มันเกิดขึ้นกับฉัน อีกทั้งวันนี้ยังโดนแมวจรจัดที่ไหนก็ไม่รู้กระโจนผ่านหน้าฉันจนฉันล้มได้แผลมา แต่ก็ยังสงสัยตัวเองอยู่ดี ว่าทำไมจะต้องมาคิดมาสนใจไอ้เรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วย มันก็แค่ฝัน ควอน ยูริ ท่องไว้ แค่ความฝัน 

         "ควอน ยูริ ตกลง เธอจะเรียนวิชาคณิตศาสตร์หรือจะเรียนวิชาสวดมนต์ ถ้าไม่เรียนเชิญออกไปข้างนอก" อาจารย์แทคยอนจอมโหดว่าทำให้ฉันสะดุ้งโหยง

         "ขอโทษค่ะ ทุกคน แหะๆ" แล้วฉันก็นั่งลงไปต่อแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น

         "มึงเป็นอะไรของมึงวะ หน้าเครียดๆ แล้วก็สวดภาวนาอะไรของมึง" ไอ้ยุนว่าก่อนจะส่ายหัวแล้วนั่งเรียนต่อ

         "ถ้าพวกมึงฝันเห็นคนที่พวกมึงรู้จักตาย พวกมึงจะทำไงวะ" ฉันได้แต่คิดเรื่อยเปื่อยไปคนเดียวก่อนจะถอนหายใจออกมา
        

         เย็นของวันนี้ ฉันเป็นฝ่ายมารอซูยอนก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วซูยอนจะมารอฉัน เพราะคนอย่างฉันจะต้องพิสูจน์ และอีกประการหนึ่งฉันก็อยากรู้ว่า ความฝันแบบนี้เป็นนิมิตหรือฉันคิดไปเองกันแน่ แล้วฉันก็รอซูยอนต่อไป......

        
         "จะสองทุ่มแล้ว ทำไมซูยอนถึงยังไม่มานะ เอ๋" จู่ๆฉันก็นึกถึงความฝันขึ้นมาได้ ทำไมมันเหมือนความฝันอย่างนี้

         ว่าแล้วฉันก็ทำตามความฝันโดยการค่อยๆเดินไปยังห้องน้ำหลังโรงเรียน แล้วก็เปิดประตูเข้าไป

         "ผ่างงงงง ฉันเปิดประตูออกมา เปิดไฟก่อนจะเดินไปยังข้างใน

         "คลุกคลักๆๆๆ" เสียงอะไรดังออกมาจากห้องน้ำห้องสุดท้าย ฉันค่อยๆเดินไปยังห้องน้ำห้องนั้นและตัดสินใจเปิดออกมา 

         "ซะ ซูยอน มาทำอะไรในห้องน้ำ" ฉันถามแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพของเธอที่มีเลือดเต็มตัว แล้วเธอก็ร้องไห้ออกมาน้ำตาไหลออกมาเป็นเลือด ทำให้ฉันค่อยๆถอยออกมา แต่เธอก็ตามฉันมา

         "อย่าแกล้งฉันสิ ซูยอนฉันกลัวนะ"

        "ไหนบอกว่าไม่เชื่อเรื่องผีไง ควอน ยูริ หึหึๆ" เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วก็น่ากลัวเป็นที่สุด

         "เธอรู้ไหม เธอเป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวในชีวิตของฉัน เธอทำให้ฉันกลับมามีความสุขอีกครั้ง ถึงแม้เธอจะอยู่คนละโลกของฉันก็ตาม และเธอก็ทำให้ฉันรู้จักคำว่า รัก" เธอพยายามเข้ามากอดฉันแต่ฉันก็หลบเธอได้ ก่อนจะหนีมาเข้าห้องน้ำ แล้วสิ่งที่ฉันเห็นคือ สภาพศพของเธอที่ข้อมือมีรอยแผลใหญ่ และใบหน้าซีดเซียว ดวงตาแทบจะออกมานอกเบ้า  ใบหน้าแสยะยิ้ม ทำให้ฉันจะถอยหนีออกมา แต่ขาดันไม่ขยับนะสิ พยายามจะร้องออกมาก็ร้องไม่ได้ รู้ตัวอีกที เธอก็มายืนอยู่หน้าฉัน

        "ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว ฉันไม่ให้เธอรู้ว่าฉันเป็นผีจะดีกว่า ฉันคิดเอาไว้แล้วแหละว่าถ้าเธอรู้ความจริง ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ฉันจะไม่อยู่แล้ว เขาจะมารับฉันแล้ว ฉันขออะไรเธออย่างหนึ่งได้ไหม ฮึกๆ" ตอนนี้ความกลัวมันหายไปแล้ว ฉันก็เลยได้แต่พยักหน้าหงึกๆ

        "ฉันขอกอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายจะได้ไหม" ฉันก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆแล้วก็รู้สึกได้ถึงแรงที่โถมเข้ามาหาตัว ซูยอนกำลังกอดฉันอยู่ ฉันจึงโอบเธอไว้อย่างเก้ๆกังๆ แล้วร่างของเธอก็ค่อยๆเลือนหายไป ส่วนฉันเมื่อตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปหาภารโรงอีกสองสามคน

        "ลุงคะ หนูเจอศพค่ะ" ฉันรีบวิ่งออกมาบอกพวกภารโรงให้เขาวิ่งตามฉันไป เมื่อถึงห้องน้ำฉันก็ได้เข้าไปดู

        "ขอบใจหนูมากนะที่เจอ เราหากันมาเกือบยี่สิบปี ไม่เจอ เราจะได้เอาศพไปให้พวกญาติๆเขาทำพิธีได้" ลุงภารโรงพูดพลางยิ้มให้ฉัน

        "เมื่อยี่สิบปีก่อน มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ จอง ซูยอน เธอเป็นเด็กที่น่ารักและสวยมาก แต่น่าเสียดายที่พ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเพราะทำแต่งาน ส่วนเพื่อนๆก็ไม่มีใครคบ เพราะคิดว่าเธอหยิ่ง เธอคงจะเครียดมากถึงขั้นฆ่าตัวตาย ไม่มีใครหาศพเธอเจอเลยซักคน แต่พอนานๆไปก็ได้ข่าวผีเจ้าแม่อาละวาดซึ่งคงจะเป็นเธอจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ลุงว่ามันนานนะ ที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในนั้น แต่ก็บังเอิญที่หนูมาเจอก่อน ศพเธอจะได้ไปประกอบพิธี เธอจะได้ไปสู่สุขคติ" ลุงภารโรงกล่าว ส่วนฉันก็พยักหน้าหงึกๆรับรู้ เพราะเคยคุยกับเธอมาแล้ว ก่อนที่ฉันจะบอกลา แล้วเดินกลับบ้านไปด้วยจิตใจอันหดหู่

        ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วว่า สิ่งที่มองไม่เห็นพิสูจน์ไม่ได้นั้นมีอยู่จริง อยู่ที่ว่าเราจะได้มีโอกาสเห็นมันหรือเปล่า  และทีสำคัญที่สุด  อย่าไปลบหลู่สิ่งที่มองไม่เห็นเด็ดขาด เพราะอาจจะเจอดีแบบที่ฉันเจอก็เป็นได้
       


                                                                   The end
        
      .......................................................................................................................................

      special part


           ฉันนั่งตรวจบทความเกี่ยวกับเรื่องสยองขวัญอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำไมเขียนกันมาแบบนี้เนี่ย ไม่เห็นจะน่ากลัว และไม่ใช่ความจริงใดๆเลย แต่งขึ้นทั้งเพ เฮ้อ ฉันต้องการเรื่องจากประสบการณ์จริงๆ    หลังจากเรียนจบ ฉันก็ได้เข้ามาทำงานในสำนักพิมพ์ที่ทำงานเกี่ยวกับหนังสือผี เรื่องสยองขวัญ สิ่งที่มองไม่เห็น พิสูจน์ไม่ได้ จนตอนนี้ฉันได้เป็นบรรณาธิการแล้ว น่าภูมิใจจริงๆที่ฉันได้เป็น
      บรรณาธิการตั้งแต่อายุยังไม่ถึง30 แต่ยิ่งตำแหน่งสูง งานก็ยิ่งยากขึ้น อยากได้คนมาช่วยจริงๆแล้วนะเนี่ย

           "พี่ยูล ฟานี่หาคนมาช่วยพี่แทนฉันได้แล้ว เป็นเพื่อนฉันเองแหละ" ทิฟฟานี่ลูกน้องของฉันเอง เธอคอยช่วยฉัน เวลาที่ฉันทำงานไม่ทัน

           "อืม จะไปฮันนีมูนกับไอ้แทใช่ไหม เที่ยวให้สนุกล่ะ ถ้าไอ้แททำมิดีมิร้าย บอกพี่ได้ พี่จะไปจัดการมัน ฮ่าๆ" 

           "พี่แทอยู่ในโอวาท ค่ะ อิอิ เดี๋ยวเพื่อนฟานี่จะมาตอนเที่ยงนะคะ นี่ก็สิบเอ็ดโมงห้าสิบและ อีก10นาที คงมาถึงแล้วแหละ ฟานี่ไปรับเพื่อนก่อนนะ บายๆ" แล้วคุณเธอก็เดินไป

           "โอ้ะ" คุณเธอเสือกสะดุดส้นสูงล้มอีก ก่อนจะหันมาทำหน้าแหย  ฉันได้แต่หัวเราะเบาๆ

           "ซุ่มซ่ามจริง ผีผลักหรือไง ยัยฟานี่ ฮ่าๆ"

           "พี่ยูลอ่ะ ชิส์"ฉันมองเธอเบาๆก่อนจะหันไปตรวจงานต่อ

           นี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว ไหนบอกว่าจะพาเพื่อนมาไง มาช้าจริง เดี๋ยวพ่อจะตัดเงินเลย

           "มาแล้วๆๆๆ เพื่อนฟานี่เอง ชื่อ จอ......" เสียงคุณเธอดังมาแต่ไกล ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามอง แล้วก็.......

           "ผะ....ผีซูยอน" ฉันแทบตกใจ หน้าเหมือนกันมาก เหมือนซูยอนอย่างกับแกะ ถอดแบบกันมาเป๊ะ

           "ผีบ้านพี่สิ พี่ยูล นี่เจสสิก้า เพื่อนฟานี่ เขาออกจะสวย สมัยเรียนเป็นดาวมหา'ลัยเลยนะ ไปว่าเขาหน้าเหมือนผีอีก ปากเสียจริงนะพี่ยูล"

          "ฉันจอง เจสสิก้าค่ะ คุณ ควอน ยูริ" เธอแนะนำตัวก่อนจะยิ้มให้ฉัน เหมือนซูยอนมาก เหมือนมากจริงๆ

          "เอ่อ ซูย..เอ้ย คุณเจสสิก้าจะมาสมัครเป็นเลขาส่วนตัวของฉันใช่ไหม"

          "อ่อ ใช่ค่ะ ก็ยัยฟานี่บอกอย่างนั้นแล้วจะให้ฉันเริ่มงานวันนี้เลยหรือเปล่าคะ"

          "เอ่อ..อืมใช่ เริ่มเลย โดยการเลี้ยงข้าวฉัน"

          "ห้ะ!!!!"เสียงของยัยฟานี่+เจสสิก้า

          "ก็ใช่นะสิ จะสงสัยอะไรกัน ยัยฟานี่จะไปกินข้าวด้วยกันป่ะล่ะ นี่อย่าลืม เมื่อวานฉันเลี้ยงเธอไปแล้ว"

          "ก็ได้ค่ะ เจ้านาย ยัยสิก้า ช่วยฉันแชร์ด้วย เลี้ยงเจ้านาย"

          "อืม" เจสสิก้าพยักหน้า

          "โอเค ไปกันเลย" แล้วฉันก็เดินนำหน้าออกไป ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เจอเธออีก ใบหน้า คำพูด กริยาท่าทางเหมือนกันเป๊ะ ทำให้ฉันคิดถึงเธอขึ้นมาอีกครั้ง ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ซูยอน ส่วนแม่เลขาคนใหม่นะหรอ เราคงได้เจอกันอีกนาน หึหึ

      .........................................................................................................................................
      โอเคค่ะ มาตามคำร้องตอนพิเศษ  ขอบคุณสำหรับเม้นท์ค่ะ ขอตัวไปปั่นแทนี่ก่อน ฟิ้วววววววว

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×