ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter1: love true than fiction
ภายในบ้านหลังหนึ่งที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก พื้นที่ส่วนหนึ่งมีส่วนเล็กๆปลูกต้นไม้ดอกไม้วางแนวอย่างเป็นระเบียบ มองดูเเล้วร่มรื่นตา เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในบ้านหลังนี้ มีชิงช้าสีขาวตัวยาวมีเถาวัลย์เลื้อยตามเเนวชิงช้าอย่างสวยงาม ภายในห้องครัวของบ้านหลังนี้มีผู้หญิงที่มีใบหน้ายิ้มแย้มทำอาหารเช้าอย่างอารมณ์ดี
หมับ
"แม่ฮะ ลู่หานหิวเเล้วนะ" เสียงหวานของร่างบาง พร้อมกับกอดจากด้านหลังบอกคนเป็นเเม่อย่างออดอ้อนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ จนติดเป็นนิสัยของลู่หาน
"ลู่หาน แม่ตกใจหมดเลยลูก อาหารใกล้จะเสร็จเเล้ววันนี้เเม่ทำอาหารเลี้ยงลูกสาว เอ้ย! ลูกชายคนสวยของแม่ที่เปิดเรียนเข้ามหาลัยวันแรกอยู่นะจ้ะ" คุณเเม่คนสวยบอกลูกชายแต่สิ่งที่คนเป็นแม่บอกเหมือนจะขัดหูร่างบางจึงทำให้ร่างบางยู่ปากเข้าหากันน้อยๆ
"แม่อ่า ลู่หานไม่ใช่ลูกสาวนะ สาวอะไรจะหล่อขนาดนี้" ว่าเเล้วใบหน้าน่ารักก็เอียงซ้ายเอียงขวาตัวให้คนเป็นเเม่ดู คนเป็นเเม่ก็ได้เเต่ยิ้มขำที่ลูกตัวเอง ที่ยังไม่รู้ตัวสักทีว่ายิ่งโตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสวยมากขึ้นเท่านั้นเเต่เจ้าตัวก็ยังปฏิเสธอยู่ร่ำไปลูกชายของเขามีคนเข้ามาจีบมากมาย เเต่ก็ไม่มีหนุ่มคนไหนทำที่ให้ลูกชายเเสนน่ารักของเขาสนใจสักคน เมื่ออาหารเช้าเสร็จเเล้ว คนตัวเล็กก็นั่งกินอาหารเช้ากับแม่พร้อมกับเสียงหัวเราะและหยอกล้อ ที่คนรอบบ้านหลังนี้ได้ยินในทุกเช้า
----------------------------------------
"กรี๊ดดดดดดด !!! พี่คริสมาเเล้ว" เสียงกรีดร้องของสาวๆในมหาวิทยาลัยดังขึ้นเมื่อเห็นรถคันหรูสีดำที่คุ้นตาว่าเป็นรถของประธานนักศึกษา ผู้ชายที่เดินลงจากรถส่วนตัวคันหรูของตัวเองอย่างสง่างาม สมกับลูกเจ้าของอัญมณีของเอเชียใบหน้าคมคาย ประดับด้วยนัยน์ตาคมกริบใบหน้าที่นิ่งขรึมนั้น ไม่มีใครรู้ว่าอู๋ฟานคนนี้กำลังคิดว่า
กรี๊ดอะไรเยอะเเยะ หนวกหู ก็เดินลงรถแบบนี้ทุกวัน
กึก
เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเขาหันมองโต๊ะมุมหนึ่งเพียงเเวบเดียว เเละเขาก็ได้เดินเข้าตึกเพื่อกดลิฟท์ขึ้นชั้นบนสุดพร้อมกับกดยิ้มมุมปากอย่างมีความหมาย พอเขาขึ้นมาชั้นบนเขาก็กดโทรศัพท์เลือกที่จะติดต่อกับจงแดที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยคนสำคัญของเขา
จงแด ฉันมีอะไรให้นายทำ...
กรี๊ดอะไรเยอะเเยะ หนวกหู ก็เดินลงรถแบบนี้ทุกวัน
กึก
เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเขาหันมองโต๊ะมุมหนึ่งเพียงเเวบเดียว เเละเขาก็ได้เดินเข้าตึกเพื่อกดลิฟท์ขึ้นชั้นบนสุดพร้อมกับกดยิ้มมุมปากอย่างมีความหมาย พอเขาขึ้นมาชั้นบนเขาก็กดโทรศัพท์เลือกที่จะติดต่อกับจงแดที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยคนสำคัญของเขา
จงแด ฉันมีอะไรให้นายทำ...
--------------------------------------------
แต่ในทางกลับกันจากสาวๆที่กรี๊ดกันลั่นคือ โต๊ะมุมหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ชัดเจนทุกอย่างในนั้นคือคนที่มีดวงตากลมโตอย่างคยองซู ที่ใบหน้าขมวดคิ้วเเล้วอุดหูพร้อมกับแบคฮยอน ที่นั่งอุดหูเช่นกันปากก็พึมพำสาปแช่งงึมงำส่วนลู่หานที่ตอนมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย
"โอ๊ย จะกรี๊ดอะไรนักหนาก็เเค่พี่คริส ประธานนักศึกษาเรียนบริหารธุรกิจเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง รูปหล่อเเถมยังรวยมากๆอีก แค่นั้นจะกรี๊ดอะไรนักหนา" เสียงของแบคฮยอนที่ติดอารมณ์เสียเล็กน้อย ทำให้เพื่อนรักอย่างคยองซูเห็นด้วยเเต่มีอีกคนหนึ่งที่ตอนนี้นิ่งไป เพราะเหตุใดไม่มีใครรู้จนเพื่อนทั้งสองได้เเต่มองหน้ากันงุนงง เเล้วเม้าท์กันต่อเพื่อรอพี่มหาลัยเรียกรวมตัว
ไม่จริงน่า..ใจจ๋าอย่าเต้นเเรงแบบนี้สิ
ไม่จริงน่า..ใจจ๋าอย่าเต้นเเรงแบบนี้สิ
----------------------------------------
"เอาล่ะน้องปีหนึ่งรวมตัวกันตรงนี้นะครับ"เสียงประกาศจากรุ่นพี่ปีสามดังออกมาจากบนเวทีขนาดใหญ่พื้นที่รวมตัวแห่งนี้เป็นหอประชุมที่จุนักศึกษาได้จำนวนมาก นักศึกษาปีหนึ่งเริ่มทยอยกันเข้ามาในหอประชุมแห่งนี้เกือบเต็มเเล้วขณะที่คนหน้าหวานสามคนที่เป็นเพื่อนรักกัน กำลังถูกผู้คนจับตามองเป็นพิเศษมีทั้งสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมกับความน่ารักเเละก็มีทั้งสายตาอิจฉาของพวกผู้หญิง ที่คนหน้าหวานทั้งสามมีร่างที่บอบบางเเละมีผิวพรรณที่ขาวผ่องอย่างธรรมชาติไม่เติมเเต่งเครื่องสำอางใดๆ
ตอนนี้เพื่อนรักทั้งสามคนนั่งอยู่ตรงกลางของหอประชุมพอดี ถ้ามองจากเวทีก็จะยิ่งเป็นจุดสนใจมากขึ้นใบหน้าหวานทั้งสามที่ไม่รู้ถึงสายตาที่คนอื่นมองมา ก็ได้เเต่นั่งยิ้มหัวเราะกับเรื่องเล่าที่คยองซูพบเจอในช่วงปิดเทอมรอเข้ามหาวิทยาลัยเเต่เสียงประกาศจากรุ่นพี่ทำให้ทั้งสามคนหยุดหัวเราะเเล้วตั้งใจฟัง ทำให้หนุ่มๆที่มองตาเป็นมันอยู่ต้องละสายตาจากรอยยิ้มที่พาให้หัวใจกระชุ่มกระชวยในยามเช้า
"สวัสดีน้องปีหนึ่งทุกคนเข้าสู่มหาวิทยาลัยแห่งนี้.."เสียงรุ่นพี่ที่กำลังกล่าวต้อนรับรุ่นน้องปีหนึ่งอย่างอบอุ่นก็กล่าวไปเรื่อยๆ สายตาของลู่หานก็หันไปมองรอบๆหอประชุมเเละลู่หานก็มองห้องกระจกสีดำที่คนด้านในมองเห็นคนข้างนอกอย่างชัดเจน
กึก
ลู่หานรู้สึกถึงสายตาของคนด้านในห้องกระจกสีดำ เป็นสายตาเดียวกับที่เขาเห็นเพียงแวบเดียวในตอนเช้าลู่หานจึงรีบหันกลับมาหน้าเวทีที่มีรุ่นพี่พูดอยู่ เหมือนเขาจะตั้งใจฟังเเต่สิ่งที่รุ่นพี่พูดแต่ไม่เลยลู่หานไม่มีสมาธิที่จะรับฟังสิ่งที่พี่ปีสามพูดบนเวทีเเม้เเต่นิดเดียว เขาที่นั่งเงียบไม่คิดจะหันไปมองอีกก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อรุ่นพี่คนนั้นประกาศว่า..
"ตอนนี้ขอเชิญประธานนักศึกษาอู๋ฟาน ขึ้นมากล่าวอะไรกับรุ่นน้องปีหนึ่งครับ"
!!!
อะไรนะ หูฝาดไปใช่มั้ย
เมื่อสิ้นความความคิด ร่างสูงมาพร้อมกับใบหน้าที่เเสนเย็นชาทำให้คนในหอประชุมยิ่งเงียบสนิทสายตาก็จ้องมองมาที่จุดตรงกลางของหอประชุม ลู่หานที่ตอนนี้รู้สึกแอร์ในหอประชุมมันร้อนไปหมดเมื่อสายตานั้นมาหยุดลงตรงที่เขา
ฮือออ ลู่หานอยากตาย
เสียงเข้มเอ่ยออกมาต้อนรับรุ่นน้องปีหนึ่ง ลู่หานสังเกตเห็นมุมปากของคนทีพูดตอนนี้กระตุกมุมปากขึ้นมาชั่วเเวบหนึ่งเเล้วก็จางหายไป เเละใจดวงน้อยก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่างของร่างสูงที่อยู่บนเวที
ตอนนี้เพื่อนรักทั้งสามคนนั่งอยู่ตรงกลางของหอประชุมพอดี ถ้ามองจากเวทีก็จะยิ่งเป็นจุดสนใจมากขึ้นใบหน้าหวานทั้งสามที่ไม่รู้ถึงสายตาที่คนอื่นมองมา ก็ได้เเต่นั่งยิ้มหัวเราะกับเรื่องเล่าที่คยองซูพบเจอในช่วงปิดเทอมรอเข้ามหาวิทยาลัยเเต่เสียงประกาศจากรุ่นพี่ทำให้ทั้งสามคนหยุดหัวเราะเเล้วตั้งใจฟัง ทำให้หนุ่มๆที่มองตาเป็นมันอยู่ต้องละสายตาจากรอยยิ้มที่พาให้หัวใจกระชุ่มกระชวยในยามเช้า
"สวัสดีน้องปีหนึ่งทุกคนเข้าสู่มหาวิทยาลัยแห่งนี้.."เสียงรุ่นพี่ที่กำลังกล่าวต้อนรับรุ่นน้องปีหนึ่งอย่างอบอุ่นก็กล่าวไปเรื่อยๆ สายตาของลู่หานก็หันไปมองรอบๆหอประชุมเเละลู่หานก็มองห้องกระจกสีดำที่คนด้านในมองเห็นคนข้างนอกอย่างชัดเจน
กึก
ลู่หานรู้สึกถึงสายตาของคนด้านในห้องกระจกสีดำ เป็นสายตาเดียวกับที่เขาเห็นเพียงแวบเดียวในตอนเช้าลู่หานจึงรีบหันกลับมาหน้าเวทีที่มีรุ่นพี่พูดอยู่ เหมือนเขาจะตั้งใจฟังเเต่สิ่งที่รุ่นพี่พูดแต่ไม่เลยลู่หานไม่มีสมาธิที่จะรับฟังสิ่งที่พี่ปีสามพูดบนเวทีเเม้เเต่นิดเดียว เขาที่นั่งเงียบไม่คิดจะหันไปมองอีกก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อรุ่นพี่คนนั้นประกาศว่า..
"ตอนนี้ขอเชิญประธานนักศึกษาอู๋ฟาน ขึ้นมากล่าวอะไรกับรุ่นน้องปีหนึ่งครับ"
!!!
อะไรนะ หูฝาดไปใช่มั้ย
เมื่อสิ้นความความคิด ร่างสูงมาพร้อมกับใบหน้าที่เเสนเย็นชาทำให้คนในหอประชุมยิ่งเงียบสนิทสายตาก็จ้องมองมาที่จุดตรงกลางของหอประชุม ลู่หานที่ตอนนี้รู้สึกแอร์ในหอประชุมมันร้อนไปหมดเมื่อสายตานั้นมาหยุดลงตรงที่เขา
ฮือออ ลู่หานอยากตาย
เสียงเข้มเอ่ยออกมาต้อนรับรุ่นน้องปีหนึ่ง ลู่หานสังเกตเห็นมุมปากของคนทีพูดตอนนี้กระตุกมุมปากขึ้นมาชั่วเเวบหนึ่งเเล้วก็จางหายไป เเละใจดวงน้อยก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่างของร่างสูงที่อยู่บนเวที
-----------------------------------------------------
หลังจากที่ได้ฟังคำต้อนรับจากรุ่นพี่เเละประธานนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเเล้ว ตอนนี้นักศึกษาปีหนึ่งก็รวมตัวกันอยู่ที่ลานสนามกว้างๆ ที่จะมาทำกิจกรรมรับน้อง
"น้องๆปีหนึ่งครับ กิจกรรมรับน้องเกมส์ที่หนึ่งนะครับ ให้รุ่นพี่ปีสามของเเต่ละคณะเข้าไปเลือกน้องๆมาเล่นเกมส์เเล้วใช้ผ้าปิดตาน้อง ให้น้องเดินไปหารุ่นพี่คณะของตัวเองให้ถูกต้องนะครับเพื่อนๆตะโกนบอกทางเพื่อนได้นะครับ" หลังจากฟังวิธีเล่นเเล้วรุ่นพี่แต่ละคณะก็เดินหาน้องที่จะออกมาเล่นเกมส์ ส่วนพี่คณะนิเทศน์ของเขาได้เดินมาทางลู่หาน
"น้องมาเล่นกับพี่นะ พี่ชื่อคีย์" รุ่นพี่ที่มีใบหน้าน่ารักมาชักชวนลู่หานด้วยร้อยยิ้มหวานเเละเป็นมิตร
"เอ่อ..ได้ฮะ ผมชื่อลู่หานฮะ" ลู่หานยิ้มรับเเละได้เเนะนำชื่อให้รุ่นพี่ได้รู้จักเเล้วก็ถูกรุ่นพี่ปิดตาด้วยผ้า ใบหูก็ได้ยินเสียงแบคฮยอนพูดสู้ๆให้กับลู่หาน เขาก็พยักหน้ารับเเล้วไปยืนที่จุดเริ่มเกมส์
"น้องๆเเต่ละคณะครบเเล้วนะครับ งั้นเตรียมตัว หนึ่ง..สอง..สาม"
ปี๊ดดดด
เสียงนกหวีดที่ขึ้นเพื่อเป็นการบอกว่าเริ่มเกมส์เเล้ว มีเสียงดนตรีเป็นจังหวะที่ตื่นเต้นสำหรับลู่หานที่ตอนนี้เดินไปข้างหน้าเอนซ้าย เอนขวาตามที่คยองซูบอก
"ลู่หานซ้ายย เดินไปอีกนิดนะ ไปอีกนิดสิ" เสียงของคยองซูที่บอกอย่างเนิบนาบทำให้แบคฮยอนรู้สึกขัดใจจึงตะโกนบอกเเทน
"ลู่หานไปทางขวา! นั้นแหละเดินไปเลย เอ้าๆขวาไงขวา" เสียงของแบคฮยอนที่บอกอย่างออกรสชาติทำให้ลู่หานเดินได้เร็วขึ้น เเต่เเล้วเสียงของเพื่อนเเละเสียงเพลงก็ค่อยๆเงียบลงไปเเต่ลู่หานก็ยังคงเดินต่อไปอย่างไม่รู้เหตุการณ์ข้างหน้า
"นี่ คยองซู แบคฮยอนบอกทางฉันทีสิ" บางคนก็ถอดผ้าปิดตาออกเเล้วส่วนบางคนก็หยุดนิ่ง ลู่หานที่ยังคงพยายามเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่เห็นหนทางข้างหน้าแต่แล้วก็
ปึ้ก!!
"น้องๆปีหนึ่งครับ กิจกรรมรับน้องเกมส์ที่หนึ่งนะครับ ให้รุ่นพี่ปีสามของเเต่ละคณะเข้าไปเลือกน้องๆมาเล่นเกมส์เเล้วใช้ผ้าปิดตาน้อง ให้น้องเดินไปหารุ่นพี่คณะของตัวเองให้ถูกต้องนะครับเพื่อนๆตะโกนบอกทางเพื่อนได้นะครับ" หลังจากฟังวิธีเล่นเเล้วรุ่นพี่แต่ละคณะก็เดินหาน้องที่จะออกมาเล่นเกมส์ ส่วนพี่คณะนิเทศน์ของเขาได้เดินมาทางลู่หาน
"น้องมาเล่นกับพี่นะ พี่ชื่อคีย์" รุ่นพี่ที่มีใบหน้าน่ารักมาชักชวนลู่หานด้วยร้อยยิ้มหวานเเละเป็นมิตร
"เอ่อ..ได้ฮะ ผมชื่อลู่หานฮะ" ลู่หานยิ้มรับเเละได้เเนะนำชื่อให้รุ่นพี่ได้รู้จักเเล้วก็ถูกรุ่นพี่ปิดตาด้วยผ้า ใบหูก็ได้ยินเสียงแบคฮยอนพูดสู้ๆให้กับลู่หาน เขาก็พยักหน้ารับเเล้วไปยืนที่จุดเริ่มเกมส์
"น้องๆเเต่ละคณะครบเเล้วนะครับ งั้นเตรียมตัว หนึ่ง..สอง..สาม"
ปี๊ดดดด
เสียงนกหวีดที่ขึ้นเพื่อเป็นการบอกว่าเริ่มเกมส์เเล้ว มีเสียงดนตรีเป็นจังหวะที่ตื่นเต้นสำหรับลู่หานที่ตอนนี้เดินไปข้างหน้าเอนซ้าย เอนขวาตามที่คยองซูบอก
"ลู่หานซ้ายย เดินไปอีกนิดนะ ไปอีกนิดสิ" เสียงของคยองซูที่บอกอย่างเนิบนาบทำให้แบคฮยอนรู้สึกขัดใจจึงตะโกนบอกเเทน
"ลู่หานไปทางขวา! นั้นแหละเดินไปเลย เอ้าๆขวาไงขวา" เสียงของแบคฮยอนที่บอกอย่างออกรสชาติทำให้ลู่หานเดินได้เร็วขึ้น เเต่เเล้วเสียงของเพื่อนเเละเสียงเพลงก็ค่อยๆเงียบลงไปเเต่ลู่หานก็ยังคงเดินต่อไปอย่างไม่รู้เหตุการณ์ข้างหน้า
"นี่ คยองซู แบคฮยอนบอกทางฉันทีสิ" บางคนก็ถอดผ้าปิดตาออกเเล้วส่วนบางคนก็หยุดนิ่ง ลู่หานที่ยังคงพยายามเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่เห็นหนทางข้างหน้าแต่แล้วก็
ปึ้ก!!
----------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น