Linin
ดู Blog ทั้งหมด

เรื่องน้ำๆ

เขียนโดย Linin
28 กันยายน 2551
ฉันเกือบจมหายไปกับน้ำ
อยู่ดีไม่ว่าดี เห็นแดดเปรี้ยงๆ มาได้ตั้งเป็นอาทิตย์
ไอ้เราก็เลยสบายใจออกไปห้างใช้เงินซะหน่อย
 
อุตส่าห์กลับบ้านตั้งแต่ 4 โมงเย็น (16.30) (นับว่าเร็วกว่าปกติเอาการ)
พอก้าวขึ้นรถเมล์เท่านั้นแหละ ฝนเริ่มตกปรอยๆ
 
อ๊ะ ไม่เป็นไร ตกแค่นี้ตากฝนกลับบ้านได้สบาย
 
สองนาทีถัดไป
 
เริ่มตกแรงขึ้นอีกหน่อย รถยังวิ่งได้ไม่ถึง 10เมตรเลย (จอดรอรับคนอยู่)
 
สิบนาทีต่อมา
 
โหย มันมาจากไหนนักหนาเนี่ย
ตกอย่างกับฟ้าจะถล่ม  จนรถเมล์ต้องค่อยๆ คลานไป
(ด้วยความเร็วราวๆ 70 กม./ชม.)
 
ยี่สิบนาทีต่อมา
 
เอ๊ะ อะไรเนี่ย ถนนหนทางที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ
ทำไมมันถึงมีน้ำท่วมถึงฟุตบาทล่ะ
 ท่อไม่ระบายรึไง
 
ว่าแล้วก็หันไปมองท่อระบายน้ำ (o o )(- -)( o o)
โหย มันก็ไหลลงนี่หว่า แล้วทำไมน้ำท่วมละเนี่ย
(0o0)
 
ตายละหว่า ฝนตกแรงมากขนาดนี้ มีหวังได้นั่งอยู่ป้ายรถเมล์รอให้ซาสักครึ่งชม.แน่เลยเรา
(-*-)
 
อ๊ะ ป้ายหน้าจะลงแล้วลุกขึ้นไกดกริ่งดีกว่า
 
อีก50เมตรจะถึงป้าย... "กริ๊งงงงง"
 
เอ.. ทำไมโชเฟอร์ไม่ลดความเร็วลงเลยฟระ
อีก10 เมตรจะถึงป้าย... กดอีกทีแระกัน "กริ๊งงงง"
 
ตาโชเฟอร์ได้ยินเสียงกริ่งแล้วรีบเหยียบคันเร่ง
เหมือนเพิ่งนึกได้ว่าเมียที่บ้านมีชู้
ต้องรีบกลับไปจามหัวคนอย่างด่วน
 
เลยป้ายที่จะลงไป5เมตรกดมันอีกรอบ เอามันส์
ไหนๆ ก็ไม่ได้ลงแล้วนี่ "กรี๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง"
 
 
โชเฟอร์คงหัวเสียน่าดู
สมน้ำหน้ามัน
 
คนที่หัวเสียควรจะเป็นคนลงอย่างฉันนี่
ฝนเทอย่างกับฟ้าจะถล่ม
พี่แกยังจะมีกะใจแถมให้อีกป้ายนึงเรอะ
เอาอะไรมาคิด
กดกริ่งแล้วไม่จอด จะให้ไปจิ้มหัวคนขับหรอ ถึงจะจอดได้
 
เอาเถอะถึงไงก็ได้แค่บ่นนั่นแหละ
รถร่วมสีขาว ราคา 10 บาท สาย 27
 
ให้ทำไงได้ ถนนสายนี้ไม่มีรถเมล์ ขสมก. วิ่งผ่าน
 
ได้แค่บ่นเท่านั้น แจ้ง 184ไปก็ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา
 
ยัง.. ยังไม่พอ
 
ลงมันป้ายหน้า
 
มองฟ้าฝนแล้ว โหยๆ เดินย้อนไปอีกป้ายไม่ไหวแน่
ตกหนักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
(ในทางกลับกันคล้ายสบายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน)
 
 
ยืนดูทีท่าสัก5นาที
รถเก๋งบ้าเลือดมาจากไหนไม่รู้
หรือว่าเมียมีชู้อีกคนก็ไม่แน่ใจ
ขับเร็วแข่งกับสายฝน (ถ้ารถลื่นชนขอบทางจะไม่แปลกใจเลย)
ขับผ่านป้ายรถเมล์โดยไม่ลืมปาดน้ำบนถนนที่ท่วมขังกรีดขึ้นสาดใส่คนในป้าย
(มี3 คน)
เปียกตั้งแต่หัวจนถึงเท้า
 
ไม่ได้เปียกฝนแต่เปียกน้ำบนถนน เจริญล่ะ
 
ไม่ไหวแล้วโว้ย ต้องเรียกแท๊กซี่เสียอีก 40 บาทเพื่อกลับรถ
แล้วก็เข้าซอยไปเกยถึงหน้าบ้าน
 
ยิ่งคิดยิ่งโมโหรถเมล์ สาธุขอให้มันเจอยิ่งกว่านี้ 100เท่า
 
เอาฟระไม่พูดเรื่องเก่า
ก้าวลงจากแท๊กซี่แล้วเจอะไรน่ะหรอ
น้ำท่วมหน้าบ้านสูงราวๆ  1 ฟุต
 
ตกใจมากพอควรเดินลุยน้ำดุ่มๆ ไปไขกุญแจเข้าบ้าน
เปิดประตูบ้านเข้าไป
เฮ้ยทำไมแมวถึงอยู่บนโต๊ะหมดเลย
เปิดไฟปุ๊บ...
 
(0o0)
 
น้ำหยดจากฝ้าเพดานนองพื้นชั้นล่างหมดเลย
กรี๊ดดดดดดด นี่มันวันวินาศันตโรอะไรกันเนี่ย
 
ผ้าที่ตากไว้เละหมดยังไม่พอ
เก็บผ้ามากองๆไว้ก่อน เช็ดพื้นจนหมด
(เล่นเอาหอบ)
 
ฝนก็ยังไม่มีทีท่าจะเบาลงเลย
 
ในที่สุด...
โอ้ ไม่นะ
น้ำกำลังท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ
อีกไม่ถึง10 เซนติเมตร น้ำจะท่วมพื้นบ้านชั้นล่างแล้ว
ตายแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไงดีละทีนี้
 
จิตวิปริตอยู่ราวๆ 30 นาที
ในที่สุดฟ้าก็เห็นใจ ฝนซาลงเล็กน้อย
จนกระทั่งน้ำลดเองในที่สุด
 
เฮ้อ..........
 
เหนื่อยจริงๆ แต่ยังนะ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ร้องไห้
 
วันรุ่นขึ้นเพิ่งมาพบว่า อ่างปลาหน้าบ้าน...
เละเป็นโจ๊ะ
 
น้ำท่วมทะลักลงอ่างปลา
ปลาไหลไปกับน้ำเกินครึ่ง
เหลืออยู่นิดเดียวเอง
 
สงสารปลาที่ไหลลงไปในท่อระบายน้ำ(เน่า) มากๆ
แต่ไม่รู้จะทำยังไง
พยายามช้อนขึ้นมามันก็ว่ายหนีอีก
 
สุดท้ายเลยต้องกันไว้ก่อน
ตักปลาที่เหลืออยู่ใส่ถัง ยกขึ้นไว้ที่สูง
เพราะข่าวแว่วๆ ว่าจะมีฝนตกหนักอีกหลายวันเศร้า

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น