ความเห็นของผู้เขียน

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

ชื่อ : นายปพิชญา อาจหาญ ( เชื่อว่าหลายคนคิดว่านี่มันชื่อของผู้หญิง เพราะขนาดสมัยผมอยู่มัธยมต้นถูกประกาศเป็น เด็กหญิงปพิชญา อาจหาญถึงสามครั้ง T-T )

ชื่อเล่น : เปา ( นานๆทีโดนล้อว่า เป้า ไม่ก็ ท่านเปา ไม่ก็ ซาลาเปา )

นามปากกา/นามสมมุติ : Pao44445 

วันเกิด : วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2540 ( คำนวณอายุกันเองนะ 555+ )

ปัจจุบันอาศัยอยู่ใน : จ.พิจิตร

ปัจจุบันกำลังศึกษาในระดับชั้น : มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม จ.พิจิตร

งานอดิเรก

- เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ( ไม่ใช่เกมแนว F2P หรือ P4W นะครับ เป็นเกมบน Steam และ Origin ล้วนๆ ส่วนมากชอบแนว FPS ตั้งแต่ Action Adventure Horror ไปจนถึง Indie กันเลยทีเดียว )

- สะสมกันพลา ( โมเดลกันดั้มนั้นแหละครับ ส่วนใหญ๋ผมสะสม Master Grade มากกว่าเพราะขนาดใช่ได้ราคาแพงดี เอะ? )

- แต่งนิยาย ( ก็มีหลายเรื่องแต่ในที่นี้ผมกล่าวถึง Guardian Angels ไว้ก่อนเพราะเป็นเรื่องเอก )

- อ่านหนังสือ ( ที่ไม่ใช่หนังสือเรียน )

- ฟังเพลง แนว ป็อบ ร็อค แอลเทอร์เนทิพ พังค์ อินดี้ เดนส์ ซึ่งไม่ใช่เพลงไทยเลย 


ความสามารถพิเศษ

- เล่น Crossword ( ไม่เก่งมากครับไม่ถึงแค่ระดับภาคแล้วก็ตกรอบ )

- เข้าใจภาษาอังกฤษได้ระดับหนึ่ง ( สะสมประสบการณ์จากการเล่นเกมตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้ใส่ใจฝึกฝนเลยแม้แต่น้อย รวมทั้งไม่ฟังเพลงไทยเลย )

- ใช้คอมพิวเตอร์เป็น

- กระดิกหูได้ ( มันใช่ไหมนี่ -,.- ) 






 



 
 

เนื้อเรื่อง

          สวัสดีผู้อ่านทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยนะครับ ผมนายเปาวันนี้ก็จะว่าแสดงความคิดเห็นและอธิบายในส่วนต่างๆของนิยาย Guardian Angels ครับ ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องกันผมขออนุญาตเล่าความเป็นมาของนิยายเรื่องนี้ก่อนเลยคงไม่ว่าอะไรนะครับ ( แหะๆ == ไม่ว่ากันนะ )

ความเป็นมา (ช่วงแรก)

          Guardian Angels เป็นนิยายแนวแฟนตาซีผจญภัยและแอคชั่น ที่ผมได้มีแนวคิดสานต่อจาก Striker ( เป็นแค่ชื่อเรียกเล่นๆเท่านั้นครับ ไม่ได้ตั้งจริงๆจังๆ ) ในตอนนั้นผมที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมต้น ผมชอบเล่นการ์ดยูกิโอมากเล่นแพ้เพื่อนสนิททุกวันได้ไม่เบื่อ ในเด็คของผมมีการ์ดอยู่ใบหนึ่งที่ชอบมากๆ ตอนแรกผมก็ไม่รู้ชื่อหรอก แต่เรียกมันว่าสไตร์เกอร์ เอฟเฟคของมันนี่ดีพอสมควรนั่นคือในช่วงเมนเฟสสามารถโจมตี LP ฝ่ายตรงข้ามโดยตรงได้ทันทีแต่มอนสเตอร์ตัวอื่นจะโจมตีไม่ได้

 

           ผมชอบรูปร่างของเจ้านี่มากๆเพราะมันให้ความรู้สึกถึงความว่องไวและรุนแรง ผมจึงสร้างเนื้อเรื่องของมันขึ้นมารวมทั้งใช้ Rapide Warrior เป็นต้นแบบของรูปร่างสไตรเกอร์อีกด้วย กล่าวถึงชุดเกราะที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้แล้วใช้มันเพื่อการต่อสู้รบในสงครามจริงๆเราเรียกมันว่า สไตรเกอร์ โดยมีตัวละครเอกถึงสามคน พวกเขามีสไตรเกอร์ที่แตกต่างกัน ตัวแรกสีฟ้า มีพลังปล่อยไฟฟ้าออกมาได้เหมือนกับ Rapid Warrior มาก ตัวที่สองสีแสด เป็นสไตรเกอร์ที่มีกำลังขับเคลื่อนที่สูงมากและให้ความร้อนสูงได้ เอาไอเดียมาจาก Burnout 3 Takedown ( เกมแข่งรถในตำนาน )

 
 

            ตัวที่สามมีสีดำและเงา ขนาดใหญ่และเกราะที่หนาจนแทบไม่มีอะไรทำลายมันได้ ตรงนี้ละครับ! ที่ผมนำมาดัดแปลงเป็นตัวละครใน Guardian Angels ต่ออีกทอดหนึ่ง โดยถอดเอกลักษณ์และความสามารถของสไตรเกอร์นั้นมา เพราะผมคิดว่าสไตรเกอร์ที่เอาแต่ใสเกราะยิงกันนี่มันอาจจะดูน่าเบื่อไปหน่อยเพราะมันตายตัวเกินไปโน้นก็สไตรเกอร์นี่ก็สไตร์เกอร์ หากเราเอาสไตรเกอร์ออกไปแล้วเปลี่ยนให้เป็นเวทมนต์หรือพลังพิเศษแทนคิดว่ามันจะหลากหลายและน่าดูมากกว่าไหม? ด้วยเหตุนี้ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เอาสไตรเกอร์ออกไปแล้วเอาเวทมนต์เข้ามา เปลี่ยนฉากเรื่องเป็นยุคกลาง ( Medieval ) แทนซะเลย ตัวละครหลักจากสไตร์เกอร์ทั้งหลายผมเอามาปรับปรุงใหม่แต่คงความสัมพันธ์ของตัวละครเหล่านั้นเอาไว้ เนื้อเรื่องผมแกะเอามาปรับปรุงบางส่วนให้มันเข้ากับยุคสมัยของเรื่อง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นเริ่มแรกครับ    

  ความเป็นมา (ช่วงปลาย)

          หลังจากที่ผมเปลี่ยนไอเดียทั้งหมดของสไตรเกอร์แล้ว ผมก็คิดเนื้อเรื่องได้ต่อไปไม่หยุดแต่มักจะไม่ต่อกัน มันขึ้นอยู่กับแรงบัลดาลใจที่ผมได้รับ ถ้าพูดถึงแรงบัลดาลใจในการแต่งเรื่องนี้ส่วนใหญ่ผมได้มาจากการ “ฟังเพลง” ครับ ประมาณว่าพอฟังเพลงที่โดนใจแล้วเนื้อเรื่องมันก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดทันที (หะ...ดอกอะไรนะ ) ผมก็เลยใช้เวลาหาเพลงที่ตัวเองชอบซะนานกว่าจะหาได้ ( ใครมีเพลงทำนองฮุคดีๆเอามาฝากกันบ้างนะครับ ^^ ) ช่วงนี้จะมีตัวละครจากเรื่องอื่นเข้ามามากเพราะเพลงที่ผมฟังมันอารมณ์ต่างจากที่เคยฟัง ทำให้เกิดเนื้อเรื่องที่ให้อารมณ์ต่างกันอีกเช่นเดียวกันครับ ไม่ว่าจะเป็น ดาร์ค หรือ เลิฟ เริ่มเข้ามาบ้างแล้ว รวมทั้งได้ไอเดียจากเกมที่เล่นมาด้วยครับ เนื้อเรื่องก็มากสมควร

          ผมขึ้นมัธยมปลายแล้ว! ผมก็คิดว่าผมน่าจะเขียนนิยายลงเน็ตบ้าง เพราะอยากให้คนอ่านได้รับรู้เนื้อเรื่อง แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อเรื่องเลยยยย! ( อนาถมาก คิดเป็นปีๆไม่มีชื่อเรื่อง ;_; ) ผมก็ครุ่นคิดว่าจะเอาชื่อว่ายังไงดีที่จำง่ายๆไม่ยุ่งยากแต่ก็ยังคิดไม่ออก ( ไม่ถูกใจดีกว่าครับ 555+ ) จนกระทั่งผมได้มาฟังเพลง Guardian Angel ของ Abandon All Ships ก็ปิ้งขึ้นมาทันที เอาชื่อตามนี้เลยละกัน GUARDIAN ANGEL เติม S! ช่วงแรกตัวผมเองยอมรับว่ายังไม่คุ้นหูแต่พอผ่านมาซักพักก็เริ่มโอเคกับชื่อนี้มากขึ้น

          หลังจากได้ชื่อเรื่องแล้วก็ได้เวลาแต่งลงเน็ตกันเสียที   เอาละ! เริ่มเรื่องมาเจ้าหนู....... เออ....... เจ้าหนู..... ยังไม่ได้ตั้งชื่อตัวละครเลยยยยย! ( อันนี้หนักกว่าชื่อเรื่องเพราะขนาดเอามาจากไอเดียต้นตำหรับสไตรเกอร์ก็ยังไม่มีชื่อให้เขาเลย ) ผมยอมรับเลยว่าตรงจุดนี้ผมลำบากใจมากเพราะคิดชื่อไม่ได้ซะที แต่บางตัวละครนี่ก็คิดออกทันทีเลยเพราะชื่อเข้ากับลักษณะนิสัยและให้อารมณ์ตรงกัน หลังจากคิดชื่อได้แล้วก็ต้องมาหานามสกุลอีก ( ฮืออออ T-T )  โดยส่วนใหญ่หาตามเว็บต่างประเทศที่มีชื่อของทารกให้มากมายหลายชื่อ ผมก็หาอันที่ถูกใจนี่ละ ( มาคิดดูนี่ เรามาตั้งชื่อให้ลูกหรือให้ตัวละครกันแน่ 555+ )   หลังจากได้ชื่อแล้วก็เป็นอันสมบูรณ์ของการเริ่มต้นอย่างจริงๆจังๆ เสียทีนะครับ นี่คือทั้งหมดของที่มาของ Guardian Angels ซึ่งมีชื่อไทยว่า!........ยังไม่ได้ตั้งชื่อไทยเลยยยยย! (ใครคิดได้มาบอกมั้งนะ - -* )  ทีนี้ก็เข้าเรื่องจริงๆละกันนะครับ สำหรับความเห็นของผม

ความคาดหวัง

          เรื่อง Guardian Angels เป็นความฝันหลักของผม ผมตั้งใจไว้ว่าอนาคตจะเห็นมันได้เป็นอนิเมะดั่งในปัจจุบันที่มีอนิเมะใหม่ๆเข้ามาทุกปี อาจเป็นเรื่องยากแต่ความฝันไม่ใช่สิ่งที่จะวิ่งเข้ามาหา ผมจึงเริ่มทำสิ่งที่ตัวผมทำได้ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วรอจนกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ ผมอาจใช้เวลาส่วนมากไปกับนิยายหรืออื่นๆ มากกว่าเรื่องเรียนบ้าง ผมยอมรับว่าผมเป็นคนไม่สนใจการเรียนเลยก็ได้แต่ไม่ถึงกับช่างมันคิดว่ามันก็เป็นหนึ่งในช่วงเวลาชีวิตของวัยเด็กและวัยรุ่นที่ต้องผ่านไปซักวันหนึ่ง ก็มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกท้อใจกับตัวเอง แต่หลังจากที่ผมได้ฟังคำพูดของปิกัสโซที่กล่าวว่า "เด็กทุกคนเป็นศิลปิน แต่ปัญหาคือเขาจะรักษามันไว้อย่างไรเมื่อเขาเติบโตขึ้น " ทำให้ผมนึกได้ว่าการเป็นตัวเองในตอนนี้ดีที่สุดแล้ว แม้มันจะมีปัญหาเรื่องโน้นนี่บ้างแต่โลกนี่ก็ไม่ได้มีใครดีเพอร์เฟคทุกอย่างนี่นา

          ในเนื้อเรื่องของ Guardian Angels ผู้อ่านจะได้รับรู้ลักษณะนิสัยและกระบวนการคิดของตัวละครแต่ละคนได้ทันที เช่น คนนี่พูดจาห้วนๆหรือ มีหางเสียง คนนี่ให้ความสนใจกับสิ่งรอบข้างของตัวเองมากนอยแค่ไหน มีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวพวกเขาและพวกเขารู้สึกอย่างๆรกับมัน ตัวละครหลักทั้งสามมีความแตกต่างกันทั้งรูปร่างและนิสัย ผมก็อยากจะให้ผู้อ่านลองหาข้อคิดในตัวของพวกเขาพอๆกับติดตามเนื้อเรื่องเลยหละครับ และสิ่งที่ผมคาดหวังข้อสุดท้ายคือขอให้ผู้อ่านมีความสุขในการอ่านนิยายเรื่องนี้นะครับ

Guardian Angels (Review)

1.อาณาจักรไพร์ทแลน

          เรื่องการ์เดียนแองค์เจิล เป็นแนวแฟนตาซี ผจญภัยและแอคชั่นเพราะในเนื้อเรื่องมีทั้งเวทมนต์และการต่อสู้เกิดขึ้น แต่ก็มีฉากที่ตลกขบขันหรือเลิฟคอมมาดีเข้ามาบ้างเพื่อไม่ให้มันน่าเบื่อเกินไป ถ้าให้เข้าใจง่ายๆจะคล้ายๆกับ Fairy Tale ครับ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดในอาณาจักรขนาดใหญ่นามว่า "ไพร์ทแลน " ( Plightland ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทวีปแกรนไดออสครับ ผมก็คิดไว้ว่าถ้าเราจะเขียนนิยายแฟนตาซีคงต้องมีอะไรซักอย่างให้เราเกิดความสะดวกสะบายในการวางแปลนโครงเรื่องได้แน่นมากขึ้น ( ช่วยในการแต่งให้ง่ายขึ้นนั้นแหละครับ 55+ ) อีกทั้งนี่เป็นนิยายแฟนตาซีถ้าไม่มีแผนที่ ผมก็เดินเรื่องไร้ทิศทางเลย

 แผนที่ของแกรนไดออส

 

           อย่าเพิ่งตกใจหรือสงสัยนะครับ คือเรื่อง Guardian Angels เกิดขึ้นในไพร์ทแลนเท่านั้น สำหรับอาณาจักรอื่นจะกล่าวถึงในเรื่องอื่นหรือทีหลัง ไพร์ทแลนมีจุดเด่นหลักๆคือทรัพยากรธรรมชาติที่มากกว่าอาณาจักรอื่นๆ มีความสวยงามทางภูมิทัศน์มากส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้ากว้างรองลงมาก็เป็นป้าไม้ที่หนา โดยไพร์ทแลนมีเมืองหลวงชื่อ Sentinel เป็นศูนย์กลางของอาณาจักร แต่เมืองที่มีความสำคัญไม่ได้มีเมืองเดียว ยังมีเมืองอื่นๆอีกเช่นกัน รูปแบบการปกครองเป็นแบบรวมศูนย์การปกครองไว้ที่กษัตริย์ไว้เพียงคนเดียว  ปัจจุบันผมเองก็ยังใส่รายละเอียดไม่ครบไหนจะเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ประเพณีวัฒนธรรมของชาวเมืองหรือชาวบ้าน ความเป็นอยู่ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาจริงๆ ผมคิดอยู่ว่าจะเอาไอเดียมาจากไหนดีที่มากพอจะสร้างโลกขึ้นมาใหม่ได้ ( ผมอาจจะต้องเดินทางรอบโลกซะละมั่งนี่ ) แค่นั้นก็ยังไม่ครบยังมีพวกมาตรวัดต่างๆ น้ำหนัก ความยาว หรือแม้กระทั่งสื่อกลางที่ใช้แลกเปลี่ยนสิ่งของ ( เงินนั้นแหละ - -* ) ส่วนใหญ่ผมก็ไปศึกษามาจากยุคกลางของยุโรปเลยนั้นแหละครับ แล้วก็เรื่องของการนับวันเวลา ตรงจุดนี้ยังคงใช้ 12 เดือนแต่ละเดือนมี 30 หรือ 31 วันเหมือนโลกของเรา แต่มีการเปลี่ยนชื่อบ้าง

          โดยรวมแล้วผู้คนในอาณาจักรไพร์ทแลนด์ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและค้าขายเป็นหลัก แต่ก็มีธุรกิจส่วนตัวอยู่มากเช่นเดียวกัน ผมต้องการความหลากหลายในสังคมเลยปรับปรุงเรื่องของค่านิยมให้เหมือนกับปัจจุบันแต่เป็นยุคกลางแทนครับ ลองจินตนาการถึงยุคกลางที่มีคอนเสิร์ต มีนิตยสารรายเดือนหรือมีโรงเรียน จนถึงมหาวิทยาลัยที่มีวัยรุ่นหนุ่มสาวมากมาย ไม่ก็ตลาดกลางเมืองที่มีผู้คนเดินจ้อกแจ้ก รวมทั้งแฟชั่นการแต่งกายที่ค่อนข้างเห็นความต่างกันระหว่างเมืองใหญ่และบ้านนอก เทศกาลสากลหลายอย่างที่คล้ายกับโลกของเรา เช่น การฉลองปีใหม่ เป็นต้น

2.ตัวละคร

          ตัวละครหลักทั้งสามในเรื่องนี้พวกเขาเรียกง่ายๆเลยว่าสามหนุ่มสามมุม เพราะไม่มีอะไรที่เข้ากันได้เลย พวกเขาจึงมักขัดแย้งกันมากกว่าปรองดองเมื่อเจอหน้ากัน

ลูอิส -  หนุ่มน้อยผู้อาศัยอยู่กับคุณปู่และแม่เลี้ยง เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ร่าเริงและสดใส มีความน่ารักอยู่ในตัว น่ารักในที่นี้หมายถึงในสายตาของผู้หญิงนะครับ บางครั้งเขาก็ไร้เดียงสาไปบ้าง มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้ดีกว่าตัวละครอื่น แต่ลูอิสเป็นเพียงแค่เปลือกนอกของลีฟเท่านั้น ลีฟคือตัวตนที่แท้จริงของเขา มีนิสัยที่จริงจังต่อความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น มีความคิดสติปัญญามากกว่าลูอิสและที่สำคัญเขาเป้นชายที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย เหตุผลที่ผมไม่แยกพวกเขาออกนั่นเพราะผมต้องการอารมณ์ราวกับว่าคนเรามองภายนอกไม่ได้นั่นเอง ลูอิสหรือลีฟเป็นตัวละครที่ให้ความรู้สึกในแง่บวก ดังนั้นเขาจึงเป้นตัวละครที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับอารอน

เอ็ดดี - ชายหนุ่มหัวร้อนที่สมาธิสั้น ไม่มีมารยาทหรือให้ความเคารพต่อคนอื่นน้อยมาก หัวรั้นไม่ฟังใคร ถึงกระนั่นเขาก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาและมีความพยายามสูง ไม่ยอมแพ้ให้กับอะไรง่ายๆ แต่เบื้องลึกของความหัวรั้นนั้นมีความโศกเศร้าซ่อนเอาไว้ เอ็ดดีไม่มีเพื่อนมากมายเพราะเขาเป็นเด็กที่ห่วยแตกมากสมัยเด็ก เขาเป็นคนชอบใช้กำลังทำงานทำให้เขาเป็นชายที่มีรูปร่างสมบูรณ์และแข็งแรงมากในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงไม่มีใครเหลี่ยวมองเลย เพราะนิสัยมุทะลุและพูดจาห้วนๆนั่นเอง เหตุผลที่ผมต้องการให้เขาเป็นคนหัวรั้นเพราะอยากให้ผู้อ่านได้รู้ว่าคนหัวรั้นหรือดื้อดึงบางคนก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนไม่ดีหรืออยู่ในสังคมไม่ได้เสมอไป เอ็ดดีเป็นคนที่ปล่อยวางกับอะไรได้ง่ายมาก โดยการพูดว่า "ช่างมันเถอะ " เขาไม่ยึดติดกับควารู้สึกมากเกินไป เป็นตัวละครที่ยืนระหว่างลูอิสและอารอน

อารอน - เรามีตัวละครที่ไร้เดียงสาและหัวรั้นกันไปแล้ว ผมคิดว่าน่าจะมีตัวละครที่โดดเด่นต่างจากนี่บ้าง นั่นคือชายผู้มีรูปร่างสูงใหญ่และเป็นที่หลงไหลในหมู่ของหญิงสาว เป็นชายที่แทบจะเพอร์เฟคเลยก็ว่าได้แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่รู้ตัวเลยเพราะผมก็อยากให้มีอะไรเป็นเรื่องตลกหรือแปลกบ้างเพราะเนื้อเรื่องของชายคนนี้จะหนักพอดู อารอนมีนิสัยที่เด็ดเดี่ยวและแข็งกร้าวต่อคนอื่นบางครั้ง แต่เบื้องลึกอารอนเป็นคนที่อ่อนโยนมากแต่เขาไม่แสดงออกให้คนอื่นได้เห็นยกเว้นคุณแม่ของเขา ดังนั้นคนที่เข้าใจและเห็นใจเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นอีกนอกจากคุณแม่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมตั้งใจไว้มากพอดูกับตัวละครนี้คือ เขาเป็นคู่ปรับตลอดกาลของลีฟ เพราะชายทั้งสองคนมีความคิดที่ตรงข้ามกัน อารอนเป็นคนที่คิดในแง่ความจริงมากซึ่งตรงข้ามกับลูอิส ( ผมบอกตรงๆว่า ผมกลัวสาววาย ) อารอนเป็นหนึ่งในตัวละครที่ผมคาดหวังมากว่าผู้อ่านจะชื่นชอบเขานะครับ

          นี่คือทั้งหมดของการแสดงความเห็นของตัวผมต่อเรื่อง Guardian Angels ครับจริงๆแล้วมีมากกว่านี่อีกแต่ยังไม่เปิดเผยจะเป็นการสปอยโดยใช่เหตุ  ช่วงสุดท้ายนี่ผมขอฝากรายชื่อเพลงที่เป็นแรงบัลดาลใจที่มีส่วนทำให้เกิดเนื้อเรื่องนะครับ ( พูดง่ายๆคือ Opening ที่ผมอยากใส่เข้าไปมาก ) ถ้าสังเกตดีๆจะรู้ว่าเพลงของแต่ละตัวละครให้ความรู้สึกต่างกันครับ ( เอาเฉพาะ Season 1 นะครับ )

Guardian Angels Main Theme

Abandon All Ships - Guardian Angel ( ผมอาจเลือก No screamo version นะครับ )

Louis

Destine - Where Are You Now 

Destine - Four Leaf Clover

Novice - Tonight

Eddy

ยังไม่มีครับ ใน Season 1 เขาแทบจะไม่มีบทบาทเลย

Aron

Yashin - Stand Up ( รวมทั้ง Acoustic )

Stealing Eden - All I Need

ผมเองก็ขอลาไปเขียนต่อละครับ สวัสดีครับ!