NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] Silent Song

    ลำดับตอนที่ #67 : บทที่ 56 ใจกลางผนึกของจิ้งจอกเก้าหาง 100 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.12K
      111
      15 เม.ย. 64


     

    บทที่ 56  ใจกลางผนึกของจิ้งจอกเก้าหาง


     

    นารูโตะมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เชื่อสายตา  เขาจำได้เหมือนกับที่น้าสาวของเขาเล่าให้ฟัง คนตรงหน้าคือพ่อของเขา

    นามิคาเสะ มินาโตะ

    หลังจากที่กลับมาที่หมู่บ้าน ทุกอย่างพังพินาศ เพื่อนของเขาตาย อาจารย์ของเขาก็ตาย เขาโกรธแค้นเพน แห่งแสงอุษาที่กล้าทำร้ายคนที่เขามากมายขนาดนี้

    รวมไปถึงคนในครอบครัวของเขา

    เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีก จักระในตัวเต้นตุบเสียงดังก้อง ปลุกความโกรธจนไร้สติสัมปชัญญะ พอรู้สึกตัวอีกก็ทรมาน ร่างกายแผดเผาไปหมด เสียงของผู้คนที่ร่ำร้องด้วยความทรมานไหลวนเข้ามาในหัว

    ถ้าไม่ได้มือของร่างสูงตรงหน้าที่เป็นพ่อของเขาดึงกลับมา ป่านนี้เขาคง ได้ตายไปจริงๆแล้ว

    “ลูกยังตายไม่ได้ นารูโตะ” มินาโตะเอ่ย  “นี่เพิ่งจะแค่ก้าวแรกเท่านั้น”

    นารูโตะไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้ และสิ่งที่พ่อของเขาได้พูดกับเขานั้น ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มมีแรงใจมากขึ้นไปอีก

    เราได้รับรู้แล้ว ว่าเรา...เกิดมาจากความรักของทั้งคู่  เหมือนอย่างที่น้ามิกิเคยพูดเอาไว้

     

     

    จ๋อม.... จ๋อม...

    เสียงหยดน้ำดังก้องสะท้อนไปทั่วทางเดินยาวท่ามกลางความมืด ไอจักระของสัตว์หางมันยังไม่สงบลง หญิงสาวยังคงยืนมองดูเบื้องหน้าด้วยความเป็นห่วง

    เท้าทั้งสองข้างของเธอก้าวไปตรงหน้าทันที จนทำให้เกิดเสียงคลื่นน้ำสะท้อนไปมา

    จ๋อม... จ๋อม...

    ทางเดินเหมือนกับว่ามันยาวไร้ที่สิ้นสุด เมื่อหญิงสาวก้าวเข้าไปในความมืด เธอใช้สัมผัสจักระหาจุดปลายทางไปแทน

    เบื้องหน้าที่เป็นที่สถิตของเก้าหาง

    “....”

    กรงประตูบานใหญ่สูงตระหง่าน ยากนักที่จะใช้คนๆเดียวเปิดมันออกได้ มีแผ่นผนึกปิดอยู่

    ....มันเกือบจะหลุดออกมาแล้ว...

    มิกิรับรู้ได้ว่าผนึกบางๆบนประตูนั้นมันช่างอ่อนแอยิ่งนัก เมื่อเวลาผ่านมานานถึง 16 ปี แต่นี้ก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นผนึกของสัตว์หาง

    รอบด้านไม่มีวี่แววของนารูโตะหรือมินาโตะด้วยซ้ำ

    เบื้องหลังในเงามืดเป็นกลุ่มก้อนสีดำขนาดใหญ่ เสียงขู่เบาๆแฝงด้วยอารณ์โกรธที่แผ่กระจายไปทั่วจนหญิงสาวแทบหายใจไม่ออก

    “ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นที่เจ้าจะแวะเข้ามาเดินเล่นนะ ยัยหนู” เสียงจากภายในกรงเอ่ยขึ้น

    มิกิไม่อาจตอบได้ ความกดดันจากเบื้องหน้ามันกดดันเธออย่างที่สุด

    ดวงตาของจิ้งจอกจ้องมองมาที่เธออย่างดุดัน

    “แกคือ ยัยหนูน้องสาวของเจ้ารุ่นสี่ แกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”

    เก้าหางจ้องเธอไม่วางตา มิกิยังคงยืนนิ่งไม่ตอบ เธอเคยสัมผัสความน่ากลัวของสัตว์หางมาแล้ว ถึงตอนนี้มันจะอยู่ในกรงก็ตาม

    “จะมาผนึกข้าอีกคนงั้นสิ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวแท้ๆที่ข้าจะได้ฆ่าเจ้านารูโตะ” สัตว์หางว่า “แต่เจ้าสองพี่น้องก็เข้ามาขัดขวางตลอด”

    “....”

    “น่าหงุดหงิดยิ่งนัก”

    เก้าหางสัมผัสจักระของเด็กสาวตรงหน้า สัมผัสได้เพียงแค่ความหวาดกลัว จากนั้นก็เริ่มตั้งคำถาม

    ทำไม....ถึงไม่มีความเกลียดชังผุดออกมาจากตัวเธอเลย...

    ทั้งๆที่ สัตว์หางอย่างเราคือต้นเหตุที่ทำให้คนๆมากมายต้องสูญเสียคนรัก

    เหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยงั้นสิ พวกนามิคาเสะ

     

     


     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เดี๋ยวมาต่อน้า 

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

    “อยู่ในนี้คงเหงาแย่เลยสินะ เก้าหาง”

    “หา?”

    ในที่สุดมิกิก็พูดขึ้น เธอคิดอะไรไม่ออก เมื่อเห็นว่าปีศาจตรงหน้าไม่สามารถทำอะไรเธอได้ เธอจึงไม่รู้จะทำอะไรต่อไป

    “ทั้งเธอและนารูโตะ ต่างก็ต่อสู้กันอย่างโดดเดี่ยวมาตลอด ทั้งๆที่พวกเธออยู่ด้วยกันแท้ๆ ทำไมถึงต้องพยายามทรมานเขาด้วย”

    เก้าหางแสยะยิ้ม ตระหนักได้ว่า ยัยเด็กคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากคนอื่น

    “มนุษย์อย่างพวกเจ้าจะไปรู้อะไร ความโกรธและเกลียดชังที่ข้ามีกับพวกเจ้ามันมีเต็มเปี่ยม รอวันที่จะออกไปเพื่อทำลายพวกเจ้าซะ”

    มิกิรับรู้ถึงความโกรธที่เต็มเปี่ยมจากเก้าหาง เธอตระหนักได้ว่าไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้  สัตว์หางพวกนี้เป็นสาเหตุให้เกิดสงคราม การสูญเสียผู้คนมากมาย แม้กระทั่งครอบครัวของเธอด้วย

    “สิ่งหนึ่งที่ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่โหดร้ายเกี่ยวกับเธอ มีเพียงอย่างเดียว คือการที่พรากชีวิตของผู้ที่เป็นพลังสถิตร่าง”

    “.....”

    “พลังสถิตร่าง...ที่เอาชีวิตของพี่ชายของฉันไปด้วย”

    “.....”

    มิกิยิ้มขัน “เป็นคนแบบไหนกันนะ ที่สามารถยอมให้คนรักตายตามไปด้วย ต้องรักแค่ไหน...”

    ทำให้เธอไม่เหลือใคร ....

     

    ดำมืด

    จักระของยัยหนูจุดหนึ่งมันดำมืดสนิท เกินกว่าที่มนุษย์จะสัมผัสได้  

    ดวงตาคมก้มมองไปยังร่างเล็กด้านหน้า บางสิ่งที่เก้าหางสัมผัสหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอ

    ยัยหนูที่จิตใจไม่มีความเกลียดชัง ความแค้น แต่กลับมีเพียงจุดเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยความดำมืดสนิท หรือว่านี่จะเป็นเพียงความรู้สึกที่เธอเก็บเอาไว้

    เก้าหางเห็นเธอตั้งแต่เล็กๆแล้ว ก่อนที่จะถูกผนึกในร่างของอุสึมากิ คุชินะ เสียอีก หลังจากที่เจ้านารูโตะเกิด ก็มียัยหนูนี่ที่คอยอยู่ข้าง ไร้ความเกลียดชังในตัวพลังสถิตร่าง

    แล้วทำไม ตอนนี้มีแต่ความริษยาอยู่ในใจ

    คำถามนั้น เก้าหางยังคงเก็บเอาไว้ในใจเพราะเขาไม่ไว้ใจใครอีกต่อไป

    ครืนน ครืนน

    แรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นอีกครั้ง จนหญิงสาวไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้อีก

    “มันเกิดอะไรขึ้น...”

    “หึ ครั้งนี้เจ้านารูโตะได้เจ้ารุ่นสี่ช่วยไว้ได้ แต่ครั้งหน้าข้าจะไม่ยอมแน่ ฝากไว้ก่อนเถอะ” สิ้นเสียงของเก้าหาง ขาของมิกิก็จมลงสู่ผืนน้ำห่างจากห้องผนึกนั้นลงไป

    เดี๋ยว ...

    เดี๋ยวสิ... ฉันยัง ไม่อยากห่างจากพี่ตอนนี้เลยนะ ...

    พี่คะ

     

    .

    .

    .

    .

    คาคาชิ...คาคาชิ

    เสียงหนึ่งเอ่ยเรียกชายหนุ่มจากที่ไกลๆ ร่างกายของเขาเบาหวิวไม่เคลื่อนไหวใดๆ

    อย่าเพิ่งยอมแพ้นะ คาคาชิ...

    ฉันเปล่ายอมแพ้ซักหน่อย เขาตอบ มันถึงเวลาของฉันแล้วที่จะไปหาพวกเธอยังไงละ ริน โอบิโตะ

    ที่ผ่านมาทั้งชีวิต ถึงยังมีเรื่องที่อยากทำอีกมาก แต่นี่ก็เป็นการชดใช้

    คาคาชิ เธอต้องกลับไปนะ ปกป้องมิกิจัง

    ริน นั่นคือเสียงของรินงั้นสินะ

    สัมผัสอุ่นวาบที่ใบหน้าของเขา เสียงหวานใสใกล้หูเขามาก ทว่าเขาไม่สามารถลืมตาได้

    ได้โปรด คาคาชิ อย่าทิ้งมิกิจังเอาไว้เลยนะ แบบนี้มันดีแล้วงั้นเหรอจ๊ะ  รินเอ่ยถาม

    คำถามผุดขึ้นมาในใจของคาคาชิ ฉันยังสามารถกลับไปได้อีกงั้นเหรอ?

    ได้สิ!

    ทั้งๆที่ฉันสมควรตายเพราะฉันไม่สามารถปกป้องเธอนะ ริน

    เสียงของรินเงียบไปชั่วครู่

    .....

    สิ่งเดียวที่ฉันต้องการให้เธอชดใช้นะ คาคาชิ เพียงสิ่งเดียว

    .....

     

    คือการที่เธอและมิกิพบความสุขที่แท้จริงเสียทีนะจ๊ะ 


     

     

    แว่วเสียงของรินยังก้องสะท้อนไปมา คาคาชิยังคงหลับตา รับสัมผัสที่อบอุ่นแสนประหลาดนี้

    คาคาชิ....

    เขาอยากขอโทษเจ้าของมือสัมผัสอุ่นตรงหน้ามากกว่าที่จะรับความหวังของเธอ

    ฉัน....ไม่ใช่คนที่สมควรได้รับความสุขที่แท้จริง

    ฉัน....พลั้งมือฆ่าคนไปมากมาย

    ฉัน....ที่ไร้พลังปกป้องเพื่อนคนสำคัญ

    ความตายแบบนี้ยังถือว่าเมตตาต่อฉันเสียด้วยซ้ำนะ

    อย่างน้อย ฉันก็อยากบอกทั้งเธอ และโอบิโตะว่าขอโทษ

     

    “ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่ไปบอกเขาตรงๆเองเลยซะล่ะ”

    คาคาชิรู้สึกถึงการบีบรัดที่คอของเขา เขาลืมตาขึ้น เบิกกว้าง ภายใต้มวลน้ำสีแดง เขาลอยเคว้งอยู่ในนั้น

    “อิจฉา อิจฉาที่สุด... โดนแย่งทุกอย่างที่รักไปจนหมด น่าอิจฉาซะเหลือเกิน”

    เสียงของคนตรงหน้า ร่างบางผมยาวแผ่สยาย เรียวแขนยืดตึงบีบรัดที่รอบคอของคาคาชิ

    “ระ...ริน!!” เขาพยายามพูดออกมา ฟองอากาศจากตัวเขาลอยวนไปมาจนไม่สามารถเห็นร่างตรงหน้าได้อย่างชัดเจน

    พลังจักระนี่มัน แข็งแกร่ง!!

    หรือว่านี่เป็นพลังจะดวงวิญญาณ

    “เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด เอาคืนมาไม่ได้ ของๆฉัน”

     

    ไม่ใช่ ! เสียงแบบนี้ ไม่ใช่

    ร่างบางที่ลอยอยู่เหนือตัวเขา ฉายชัดอีกครั้ง แสงสีแดงสะท้อนสีผม สีบลอนด์อ่อน

    “!!”

    “เอาคืนมา เอาของๆฉันคืนมา”

     

    มิกิ !?

     

     

     

     

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------

    มาอัพ จบตอนค่ะ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×