ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic reborn ] Scar of love G??18

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter Ten: Saviors

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      21
      12 เม.ย. 56

     

    Chapter Ten: Saviors

     


              ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ในโลกนี้และในเมืองนี้

    “ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

    “ช่วยด้วยยย หมี หมี!!! รุ่นที่ 10 วิ่งเร็วครับ!

    “หมีค่ะ หมีตัวเบ้อเริ่มเลยค่ะ คุณสึนะ!!

    “สึนะ วิ่งเร็ว หมีมันมาแล้ววววว”

    นั่นคือเสียงโหวกเหวกที่ดังมานานหลายชั่วโมงแล้ว ในป่าแห่งนี้ สึนะรีบโกยตูดเผ่นเน่บไปเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมากำลังไล่ตามพวกเข้ามาโดยมีเพื่อนๆของเขานั่นวิ่งนำไปไกลแล้ว

    ให้ตายเถอะ พวกนั้นใช้อะไรวิ่งกันเนี่ย!!

    “รุ่นที่ 10 เร็วครับบ”

    “คุณสึนะ หมีมันกำลังมาแล้วค่ะ”

    “สึนะ!!

    “กรี๊ดดดดดดดดด”  นั่นคือเสียงสึนะ

    ฟุ่บ!

    “โฮวกก”

    ทันใดนั้นเองพอสึนะหลับตาร้องลั่นไม่เป็นภาษาขณะที่เห็นหมีตัวนั้นจะตะครุบเล็บที่แหลมคมนั้นใส่เขา จู่ๆก็มีแสงสีเงินวาวพุ่งไปทางหมีตนนั้น หมีใหม่เมื่อเห็นวัตถุสีเงินเฉียดผ่านร่างของมัน มันก็รีบหนีไปทางอื่นทันที

    “รุ่นที่ 10 !! เป็นไงบ้างครับ”

    “บาดเจ็บรึเปล่าสึนะ” โกคุเดระและยามาโมโตะวิ่งมาหาเขาด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ถูกร่างบางแซงหน้าโผกอดสึนะอย่างแรงแทบจุก

    “คุณสึนะ!! ฮืออ ฮารุคิดว่า คุณสึนะ จะโดนเล็บของคุณหมีเสียบทะลุท้องซะแล้ว ฮืออออ”

    ดูแม่คุณเธอคิดซะสยอง

    “พวกเจ้า...ไม่มีใครเป็นอะไรใช่ไหม” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งถาม สึนะหันไปมองด้านหลังฮารุมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนมองเขาอยู่

    เรือนผมของเธอสีน้ำตาลอ่อนยาวเป็นลอนถึงกลางหลังมีหน้าม้าปรกลงมาใต้ตาแต่ไม่อาจบดปังดวงตาสีน้ำตาลสีเดียวกับเรือนผมนั่นไว้ เธอรวมเสื้อแขนยาวมีระบายที่ปกเสื้อสีครีมและประโปรงสีเลือดหมูคลุมยาวถึงต้นขา เธอใส่รองเท้าบู๊ท

    ใบหน้านั่น ! สึนะ มองไม่ผิดเธอเหมือนมิสึกิมาก

    “มิสึกิจัง?”

    “ไม่ใช่หรอก ฮารุ คนๆนี้ไม่ใช่มิสึกิ” สึนะบอก รู้สึกได้ว่าลางสังหรณ์ของเขาบอกถูก

    หญิงสาวคนนั้นยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ย “ข้าชื่อว่า อลิน วอลเตอร์ พวกเจ้าดูเหมือนจะไม่ใช่คนเมืองนี้สินะ”

    “ครับ พวกเรา....”

    อลินมองสึนะตั้งแต่หัวจรดเท้า “อย่างที่เขาบอกจริงๆด้วยสินะ...”

    ทั้งหมดมองหญิงสาวไม่วางตาแต่ฮารุก็พูดแทรกขึ้น

    “เอ่อ...เมื่อกี้ขอบคุณมากนะค่ะที่อุตสาห์ช่วยเรา”

    “ไม่หรอก ข้าคิดไว้แล้วว่าอาจจะเจอพวกเจ้าที่ไหนสักแห่ง”

    “คุณรู้เหรอครับ!” สึนะถาม

    อลินพยักหน้า

    “ข้าเพิ่งกลับมาจากแถบตะวันออกได้ไม่กี่วัน แล้วข้าก็ได้พบกับคนแบบเดียวกับพวกเจ้า...”

    “คุณฮิบาริกับมิสึกิ!!

    อลินเอียงคอ

    “เป็นผู้ชายนะ มีคนเดียว”

    “งั้นก็แปลว่าคุณฮิบาริปลอดถัย โล่งอกไปที”

    “ชิ !” โกคุเดระสบถเบาๆ

    “มิสึกิ?เจ้าจะบอกว่ามีผู้หญิงด้วยงั้นเหรอ” อลินถาม

    “ครับ คือว่าเธอ...” สึนะหยุดพูดไป ราวกับรู้สึกไม่ดีที่จะพูด

    อลินมองเด็กหนุ่มคนนี้อย่างพิจารณาความรู้สึกที่คุ้นเคยนั่นนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยพบหน้าเด็กพวกนี้ที่ไหนกัน ใบหน้าของเด็กหนุ่มทั้งสามคนนั้น ทำให้เธออดคิดถึงเด็กหนุ่มที่เธอรู้จัก

    จ๊อด....

    “เอาล่ะ ข้าว่าพวกเจ้าไปที่ที่พักข้าดีกว่า พวกเจ้าท่าทางจะเหนื่อยกับเจ้าหมีตัวนั่นมานานซักพักเลยนะ”

    ทั้งหมดจึงตามหญิงสาวผู้นั่นไปถึงบ้านของเธอ

     

     

    “โบถส์เหรอ?” สึนะมองสิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าพวกเขาหลังจากที่ลงจากรถของอลินมา

    “ที่นี่ปลอดภัยที่สุดแล้ว ที่จะคุยกัน” จากนั้นก็มีบาทหลวงคนหนึ่งเดินมาทักทายอลิน ไม่นานจากนั้นบางหลวงผู้นั่นก็พามาที่ห้องหนึ่ง

    “ใช้ที่นี่ไปก่อนละกันนะ”

    “ขอบคุณมากค่ะ คุณพ่อ ข้าจะรบกวนไม่นานหรอก”

    “พวกเจ้าจะเอาอาหารหน่อยไหม”

    “รบกวนคุณพ่อช่วยหาให้เด็กๆพวกนี้ล่ะกันค่ะ”

    แล้วบาทหลวงคนนั้นก็จากไป

    ทั้งห้องก็เหลือแต่พวกสึนะและอลินอยู่ในห้อง

    “เอาล่ะ มาให้ข้าทำแผลพวกเจ้าเถอะ แล้วเราค่อยคุยกัน”

    “ทำแผล?” ฮารุถาม

    อลินขำเบาๆ “ข้าเป็นหมอนะ ข้าไม่ทำอันตรายเจ้าหรอก แม่หนูน้อย”

    แต่ว่าการทำแผลของท่านมันน่าสยองมากเลยครับ

    “เอ่อ..ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ คุณอลิน”

    “ว่ามาเลย พ่อหนูวองโกเล่”

    “เอ๋?”สึนะตกใจ ยามาโมโตะและโกคุเดระก็เริ่มจะไม่ไว้ใจเธอด้วย

    “ใจเย็นก่อนเถอะ พวกเจ้าทั้งสอง ข้าไม่มีเหตุผลอันใดที่จะสู้กับพวกเจ้าเลยนะ”อลินบอก “ข้าแค่รู้สึกไม่ดี...”

    “เจ้ารู้รึเปล่าว่าที่นี่คือที่ไหน”

    “เอ่อ...อิตาลี ในอดีตครับ พวกเรามาจาก...”

    “อนาคต ใช่ ข้ารู้จากหนุ่มที่ชื่อฮิบาริแล้วล่ะ”

    “เดี๋ยวก่อนนะ หล่อน!! พูดอะไรแปลกๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว หล่อนเป็นใครกันแน่!!

    “โกคุเดระคุง ใจเย็นก่อนเถอะ”

    “ก็บอกไปแล้วว่าข้าชื่อ อลิน วอลเตอร์ บุตรสาวคนโตของบอสมาเฟียเทอร์บาสโกแฟมิลี่ที่ล้มสลายไปเมื่อ 5ปีก่อน “

    “เทอร์บาสโกแฟมิลี่? มาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจีน รุ่นที่ 10 ครับ ถอยออกมาก่อนครับ”

    “พวกข้าได้หลบหนีไปอยู่ที่จีนก็จริง ตอนนี้ที่นี่เทอร์บาสโกก็มีข้าแค่คนเดียว หนุ่มวายุ” อลินบอก “ดูท่าประวัติศาสตร์ระหว่างแฟมิลี่ข้ากับวองโกเล่จะไม่ลงรอยกันตั้งแต่ตอนนั้นสินะ”

    “คุณ...”

    “ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามาจากอนาคตอันแสนไกล วองโกเล่ตัวน้อย ข้าขอเรียกชื่อเจ้าแทนได้ไหม”

    “เอ่อ..ซาวาดะ สึนะโยชิครับ”

    “สึนะโยชิสินะ อืม ...เป็นชื่อที่ดี” เธอยิ้มให้สึนะอย่างอ่อนโยน “แล้วพวกเจ้าทั้งสามคนล่ะ”

    “ยามาโมโตะ ทาเคชิครับ ส่วนคนนี้น่ะ โกคุเดระ ฮายาโตะ” ยามาโมโตะชี้ไปที่โกคุเดระ

    “อย่ามาแนะนำตัวแทนสิเฟ้ย”

    เหมือนจริงๆแหะ

    “เอ่อ... มิอุระ ฮารุค่ะ”

    “เป็นสตรีคนเดียวในหมู่บุรุษช่างกล้าหาญจริงๆนะ ฮารุ” เธอชม

    “ได้โปรดเถอะครับคุณอลิน ช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น” สึนะเร่ง แต่ขณะที่อลินจะเริ่มเล่านั้นประตูห้องก็เปิดออกแล้วมีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา

    “เจ้า!!” บางหลวงหนุ่มผู้หนึ่งมองอลินอย่างตกตะลึง “ข้าขอแรงเจ้าทีได้ไหม อลิน”

    “เกิดเรื่องอะไรรึ นัคเคิล”

    นัคเคิล ผู้พิทักษ์อรุณวองโกเล่รุ่นแรก!! พวกสึนะคิดในใจ

    “ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ....มีเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ ข้า...”

    “เข้าใจแล้ว...”ร่างเพรียวหยิบกล่องพยาบาลที่วางอยู่บนโต๊ะวิ่งตามบาทหลวงหนุ่นคนนั้นได้ทันที สึนะก็เช่นกันเมื่อรู้สึกสังหรณ์บางอย่าง พอทั้งหมดตามไปห้องอีกห้องหนึ่งที่มีร่างบางร่างหนึ่งนอนสลบไม่ได้สติอยู่บนเตียง สึนะถึงกับอึ้ง

    “นี่มัน...”

    “ญาติของเธอใช่ไหม อลิน” นัคเคิลถาม

    “อะไรนะ?”

    “พรีโม่บอกว่าเด็กคนนี้คือญาติของเจ้าที่รอดชีวิตจากวันนั้น”

    อลินมองร่างบางบนเตียงสลับกับบาทหลวงก่อนจะส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก..”

    “ว่าไงนะ งั้นพรีโม่ก็โกหกเรางั้นรึ”

    “ข้าไม่รู้จะอธิบายยังไง นัคเคิล ทำไมเด็กคนนี้ถึงเหมือนกับข้ามาก”

    “มิสึกิ...เป็นเพื่อนของผมครับ” สึนะตอบมองร่างบางที่ดูซูบผอมและมีผ้าพันแผลเต็มตัวไปหมด “เกิดอะไรขึ้นกับเธอน่ะครับ”

    “เจ้าเป็นใคร”

    “เด็กคนนี้ชื่อว่า สึนะโยชิ ข้าได้ช่วยพวกเขาในป่ามาน่ะ”

    สึนะรู้ว่านัคเคิลมองเขาไม่วางตา

    “ทำไมถึง...”

    “อย่าพึ่งถามดีกว่านะ ข้าอยากรู้ว่า ทำไมเด็กคนนี้ถึงมีสภาพร่างกายแบบนี้”อลินกำหมัดแน่น “ทำไม...ถึงยังจะมีอีก..”

    หมายความว่ายังไง?

    “อลิน...ข้าจะอธิบายให้ฟังเท่าที่เข้ารุ้นะ  ตอนนี้พรีโม่เปลี่ยนไปแล้ว”

    “เรื่องนั้น ข้ารู้แล้ว ข้าถึงกลับมานี่ไง”

    “แต่มันสายไปแล้ว”

    “อะไรนะ”

    “สัปดาห์ก่อน พรีโม่พาเธอคนนี้กลับมาที่ปราสาท แล้วบอกพวกเราทุกคนว่าเด็กคนนี้คือญาติของเธอ”

    “ทำแบบนั้นมันเท่ากับว่าเด็กคนนี้เป็นศัตรูของพวกเจ้าเลยนะ”

    นัคเคิลถอนหายใจ

    “หลังจากนั้นเด็กคนนี้ก็อยู่ที่ปราสาทนั้นตลอด ข้าก็ชักสงสัยพฤติกรรมของพรีโม่ที่มีต่อเด็กคนนี้แล้ว แต่วันนี้ข้ากลับพบเด็กคนนี้ไม่ไกลจากโบสถ์นัก ล้มนอนไม่ได้สติเอาแต่พึมพำไม่หยุด”

    อลินพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”

    “เดี๋ยวสิครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้น มิสึกิเป็นอะไรไปเหรอครับ”

    “จากบาดแผลตามตัว ข้าก็พอรู้แล้วล่ะ เพราะข้าช่วยเด็กแบบนี้มาเยอะเหมือนกัน”

    “อลิน! เจ้าแน่ใจ” นัคเคิลถาม

    “ยิ่งท่านบอกว่าเด็กคนนี้พึมพำว่าอะไรนั้น ข้ายิ่งแน่ใจมาก”อลินมองเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนพิมพ์เดียวกับชายคนนั้นด้วยสายตาที่อ่อนลง “สึนะโยชิ เด็กคนนี้ถูกทำร้ายร่างกาย”

    “จากใครครับ”

    “จากบอส” เสียงผู้มาใหม่ด้านหลังเอ่ยพร้อมกับร่างสูงใส่ชุดขุนนางญี่ปุ่น

    “อุเก็ตซึ เจ้า...!

    “บอสสั่งให้ทีมของกระผมตามหาคุณหนูมิสึกิขอรับ”

    อลินหน้าตึงทันทีเมื่ออุเก็ตซึบอก

    “แต่กระผมคงไม่ทำเช่นนั้นหรอก กระผมจะพาคุณหนูกลับญี่ปุ่นให้เร็วที่สุด”

    อะไรนะ?

    “บอสรู้แล้วเหรอ” นัคเคิลถาม

    อุเก็ตซึพยักหน้า “พอกลับมาก็ทราบข่าวทันทีว่าคุณหนูหนีออกจากปราสาท ตอนนี้บอสก็โกรธอยู่ด้วยขอรับ”

    “บอส...”

    ทั้งหมดหันไปที่เตียงร่างบางลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าแน่น ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง สั่นหัวรัว “ไม่....ไม่เอา กลัว อย่านะ บอส ไม่..”

    “มิสึกิ..นี่ฉันเอง สึนะไง” สึนะเดินมาหาเธอ

    “สึนะ..สึนะ นาย มาอยู่ที่ได้ไง ไม่ ไม่ได้นะ นายต้องรีบหนีไป บอสเขาไม่ใช่..”

    “มิสึกิ”อลินเดินเข้ามา “หายใจลึกๆนะ ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าปลอดภัยแล้ว ข้า อลิน ข้าเป็นหมอ ข้าจะดูแลเจ้าเอง”

    มิสึกิตวัดสายตามองหญิงสาวทันที “อลิน...”

    “คุณหนูมิสึกิ...”

    “คุณนี่เอง!! ที่ทำลายชีวิตชั้น!!

    “อะ เจ้า..”

    มิสึกิมองเธอด้วยสายตาที่แข็งกร้าว

     “เพราะคุณ เขาถึงเอามาลงที่ชั้น!! เพราะ...คุณ คุณอลิน คุณรู้ไว้ซะด้วย!

    อลินได้แต่ยืนนิ่งค้างอยู่ตรงนั้นมองร่างบางที่พยายามจะเข้าถึงตัวเธอแต่อุเก็ตซึกับสึนะกันเอาไว้ ร่างบางมองเธอราวกับจะบอกอะไรบางอย่าง ดวงตาเธอมองมาที่หญิงสาวไม่มีความโกรธเลย

    ทำไมกันล่ะ..

    “รู้รึเปล่า ว่าทุกครั้งที่เขามองฉัน เขากลับนึกถึงคุณ คุณรู้ไหมว่า เขารอแต่คุณน่ะ”

    “....”

    “เขารอแต่คุณ...คุณอลิน...”

    “มิสึกิ! มิสึกิ! ทำใจดีๆเอาไว้” สึนะร้องเรียก เมื่อเห็นร่างบางหลับลงอีกครั้ง หายใจแผ่วเบามาก

    ทำไมกัน วองโกเล่พรีโม่คนนั้นน่ะเหรอ ทำไมถึงทำแบบนี้

    “สึนะโยชิ..” อลินเอ่ย “เจ้าและเพื่อนออกไปก่อนเถอะ ให้ข้าได้ทำแผลให้เพื่อนเจ้าเถอะ”

    “แต่ว่า ถ้ามิสึกิตื่นมาอีก อาจจะ...”

    อลินส่ายหน้า

    “ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ยังไม่ฟื้นง่ายๆหรอก”

     

     

    หลังจากนั้นไม่นาน อลินก็เดินออกมาจากห้องพักของมิสึกิ สีหน้าของเธอดูเครียดเล็กน้อย เมื่อนึกถึงคำพูดของเด็กสาวคนนั้น

    เขารอแต่คุณ....

    รอข้า...ทำไมถึงยังจะรอข้า

    ทั้งๆที่...ข้าทรยศเจ้า จ๊อต ทั้งๆที่ข้าทิ้งเจ้า

    “อลิน..”

    “...”

    “อลิน”

    คนเป็นหมอสะดุ้งหลุดจากภวังค์ เงยหน้ามองคนที่เรียกตน

    “อาการของเด็กคนนั้นล่ะ” นัคเคิลเอ่ยถาม

    “ไม่เป็นอะไรหรอก ตอนนี้ปล่อยให้พักเถอะ ...แล้วพวกสึนะโยชิล่ะ”

    “ตอนที่เจ้ารักษาเธออยู่พวกข้าได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกเขาฟัง  ข้าว่าเจ้า...”

    “คุณอลินกลับมาแล้ว!!

    ยังไม่ทันทีบาทหลวงหนุ่มจะเอ่ยให้จบ ร่างเล็กๆร่างหนึ่งก็วิ่งปรี่มาหาร่างของหญิงสาว พร้อมกับร่างเล็กอีกหลายคนวิ่งเข้ามาหาเธอ

    “ใช่คุณอลินจริงๆด้วย”

    “คุณอลิน!!

    “พวกเจ้า?” อลินเอ่ยเบาๆมองใบหน้าที่สดใสของเด็กๆที่วิ่งมาหาเธอ เด็กพวกนี้คือเด็กๆที่เธอช่วยเอาไว้จากพวกค้ามนุษย์ในเมืองแถบนี้

    “เมื่อกี้ ข้าเห็นมีใครก็ไม่รู้ถูกหามเข้ามาในโบสถ์ ใครกันเหรอค่ะ คุณอลิน”

    “คุณอลินช่วยรักษาเธอใช่ไหม”

    “เธอชื่ออะไรเหรอครับ”

    “เอ่อ...ใจเย็นๆก่อน พวกเจ้า เธอเพิ่งจะหลับไปน่ะ ขอเวลาให้เธอพักผ่อนหน่อยเถอะ”

    “เอ๋?” เด็กๆทุกคนร้องพร้อมกันอย่างน่าเสียดาย

    “ไว้เธอฟื้นเมื่อไหร่ พวกเจ้าค่อยเข้าไปล่ะกันนะ”

    “เย้!!!

    เด็กๆพวกนี้ เป็นเด็กกำพร้าจากสลัมที่สมัยเธอยังเด็กแอบหนีไปแถวนั้น เธอและจีอ๊อตโต้ต่างช่วยกันรับเด็กๆพวกนี้มาเลี้ยงที่โบสถ์แห่งนี้

    ตลอดหลายปีที่เธออยู่กับพวกวองโกเล่

    เธอมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือเด็กๆ

    ไม่นานหลังจากนั้น ก็เกิดเรื่องร้าย...

    “นัคเคิล ข้าขอตัวออกไปข้างนอกหน่อยนะ”

    “เจ้าจะไปไหน”

    “พบกับคนๆหนึ่งน่ะ แล้วจะรีบกลับมา”

    “เดี๋ยวก่อนซิ...”

               

               ชายป่าแห่งหนึ่ง

    “อืม...เข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปทำงานตัวเองเถอะ”

    “ขอรับ”

    อลาวดี้ยืนนิ่งรับฟังรายงานของตำรวจนายหนึ่งก่อนจะไล่กลับไป ชายหนุ่มหยิบนาฬิกาแบบพกสีทองขึ้นมา เปิดมันออกเผยให้เห็นตัวอักษรที่สลักอยู่ภายใน

    To our friendship

    มิตรภาพ ชั่วนิรันดร์...

    เขาปิดฝาพับลงแล้วเก็บมันลงไปในกระเป๋ากางเกงตัว

    “ไม่นึกว่าเจ้าจะกลับมานะ ...อลิน”

    ด้านหลังอลาวดี้ หญิงสาวปรากฏตัวออกมา เธอมองแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย

    “เจ้าคง...ไม่อยากเจอข้าหรอก..ใช่ไหม”

    “....”

    อลาวดี้ไม่ตอบ และไม่ได้หันมาสบตาเธอ

    “ข้าขอโทษ...” อลินก้มหน้าลง “ที่ข้าหนีไปโดยไม่บอกเจ้า ข้า...”

    “ไม่ต้องพูดอะไรหรอก ...ถ้าเจ้ามีเหตุผลจำเป็น” อลาวดี้เอ่ย “และที่เจ้ากลับมาเพราะพรีโม่สินะ...”

    คำพูดนั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกผิดเข้าไปอีก เธอเงียบไม่ตอบคำถามนั่นซึ่งคำตอบก็เป็นคำตอบที่อลาวดี้รู้อยู่แล้ว

    เจ้า...ไม่เคยลืมเขาเลยสินะ อลิน...

     

     

     

     

     
     
     

     

     
     
     

     

     

     

     

     
     
     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×