Black_Blubber
ดู Blog ทั้งหมด

และแล้ว วันที่ต้องเอาตัวรอดก็มาถึง

เขียนโดย Black_Blubber
สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 11.00 น.

เที่ยวบิน...(จำไม่ได้ 5555) กำลังจะออกเดินทาง  รู้แต่นั้งสายการบิน Korean Air กำลังจะไปต่อเครื่องที่เกาหลี 

ย้อนกลับไปนิดนุง 
ช่วงจัดกระเป๋า ซื่อเสื้อผ้ากันให้วุ่น เพราะไม่ค่อยจะไปไหน เสื้อผ้าก็ไม่มี ขนาดกระเป๋ายังต้องซื้อใหม่ ปกติเขาจะให้เอากระเป๋าโหลดใ้เครื่องได้ 2 ใบ ไม่เกิน 20โล (อันนี้ต้องเช็คของแต่ละสายการบิน แต่ปกติเขาจะแจ้งให้เรารู้เอง) ส่วนตั๋วเครื่องบิน เอกสารอะไรไม่ต้องห่วงเลย เพราะโครงการเขาจัดการให้หมดเลย ขนาดวีซ่า เขาก็ขอให้ สบายไปอีก 555 ไม่ต้องไปสัมภาษณ์เหมือนไปเมกาด้วย ก็รอไปแต่ตัวพร้อมskill การเอาตัวรอดขั้นสูง 


กลับมาที่สนามบิน ร่ำลาครอบครัวเพื่อนฝูง ตอนนั้นกลั้นน้ำตาแทบตาย ไม่อยากให้พ่อกับแม่เป็นห่วง แข่งกันกลั้นกับแม่ 555 แล้วเราก็ต้องลากัน เดินเข้าgate ปุ๊ป น้ำตาหยดแรกล่วงออกมา ไม่ได้ไหลนะ มันล่วงออกมาจริงๆ เราก็เดินต่อไป  ในใจก็คิดนะ อีกตั้ง11 เดือนกว่าจะได้กลับมา กว่าจะได้เจอพ่อแม่ แค่ตอนนั้นก็คิดถึงแล้ว เคยไม่กลับบ้านนานสุดก็3 วันไปเข้าค่ายรร. ให้ตายเถอะ แต่ก็นั้นและ ความตื่นเต้น เริ่มเปลี่ยนเป็นความกลัว กลัวว่าตัวเองจะรอดมั้ยนะ นั้งคิดวนไป 

ได้เวลาขึ้นเครื่อง นั้งปุ๊ป รีบยัดหมากฝรั่ง 2แผ่นเข้าปาก กลัวเมาเครื่อง เพราะแค่รถ ยังเมา แต่พอเครื่องออก แบบดีอ่ะ ไม่เป็นไรเลย นั้งสบาย ชิวๆ 6ชม. กับการกินๆ นอนๆ ดูหนัง แอร์ยังเป็นคนไทย คุยรู้เรื่อง แต่หลังจากนี้นะสิ จะรอดมั้ยนะ 

Arriving Seoul,

ช่วงต่อเครื่องเนี่ย กระเป๋าหายห่วง แต่ต้องห่วงตัวเอง ที่ว่าจะไปต่อเครื่องถูกมั้ย เรายังโชคดี ที่มีเพื่อนไทยอีก5คนนั้งไปด้วย ก็เกาะกลุ่มพากันหลงไป 555 ไปนั้งกินข้าวเดินเล่น รอขึ้นเครื่อง แต่คนที่มีเวลาต่อเครื่องน้อยแบบหนึ่งถึงสองชม ต้องระวังตกเครื่อง ต้องรีบหาgate เพราะสนามบินมันหลงง่ายมากก ถ้าหาไม่เจอพยายามหาป้าย หรือถามพนง.เลย ให้เขาพาไป 



Next Station Seoul-Toronto, 
นั้งเครื่อง15 ชม. นั้งกันให้รากงอกกันไปข้างนึง นานไปอีก ขอเตือนว่าถ้าเป็นคนที่ฉี่บ่อยเนี่ย พยายามนั้งข้างนอก เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าต้องนั้งกับใครบ้าง อย่างเราเนี่ย ต้องนั้งตรงกลาง อีกข้างเป็นเพื่อน อีกข้างเป็นคนจีน แบบอื้อหือ นอนตลอดเวลา แล้วตอนเราปวดฉี่ก็ไม่กล้าปลุกเขา บางทีปลุกก็ไม่ตื่น ทรมานไปอีก แถมมีเสียงเด็กร้อง กว่าจะลับหูลับตานอนได้ แถบแย่ นอนยาวๆไป ไม่มีอารมณ์จะดูหนังละ เราต้องนั้งข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ผ่านทางอลาสก้า เอาง่ายๆ ผ่านทั้งแคนาดา แต่ ฮรือ เปิดหน้าต่างออกไปก็เห็นแต่ก้อนเมฆ 555 

ระหว่างนี้เราจะแนะนำ เรื่อง Pocket money ซึ่งจำเป็นมากๆ อย่างน้อยเราควรจะพกไป100-200 ดอล เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เราจะเจอตู้กดตังค์เมื่อไหร แล้วอีเครื่องมันจะรับบัตรเรามั้ย แล้วบัตร ก็ควรจะทำเผื่อไว้สัก2ใบ ของเราใช้กสิกรกับไทยพาณิชย์  เพราะบางเครื่องก็ไม่รับบัตรเราจริงจัง  (เราจะใช้Canada Trust บ่อย เพราะมันรับบัตรเราแน่นอน) แต่กดทีก็เสียค่าธรรมเนียมเกือบครั้งละ100 กดทีก็เลยชอบกดเยอะ แต่ก็ต้องเก็บดีๆ อีกอย่าง เวลาไปไหนต้องพกเงินสดติดตัวไว้ตลอด เพื่อความปลอดภัย เพราะตู้กดตังก็หายากเอาเรื่อง ถ้าไม่ได้อยู่ในเมือง 

อีกเรื่องที่สำคัญคือ โทรศัพท์ขาดไม่ได้ (เดียวจะมาเล่าว่าถึงแม้มีโทรศัพท์ แต่ก็เกือบกลายไปเป็นhomeless)  ควรไปจัดการเป็นRoaming  ให้โทรกลับมาไทยได้ อย่างน้อยสักสัปดาห์เผื่อฉุกเฉินมากๆ แล้วค่อยไปสมัครsim ตอนไปอยู่ถาวร จะดีกว่า เพราะมันหาwifiต่อยาก 

Landing on Toronto Pearson International Airport,
ชิบแล้ว โดนกักตัวอยู่ในด่าน ทำไงดี 


To Be Continued 



ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น