คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 8027 สายเรียกเข้า
มนุษย์ทุกคนล้วนมีบาปอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ.... บาปที่เก็บซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากผู้ดีแสนจอมปลอม
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือข้างเตียงส่งเสียงกลางค่ำคืนดึกสงัด
ปลุกยามาโมโตะ ทาเคชิ ให้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา ชายหนุ่มกุมขมับหัวเขาปวดตุบอย่างกับอาการคนแฮงค์เหล้าอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาที่ยังลืมได้ไม่เต็มที่ปรายมองตามทิศของเสียงด้วยความใคร่รู้ หากแต่ชื่อปลายสายที่แสดงบนหน้าจอก็ขับอาการงัวเงียไปหมดสิ้น
“อา สึนะ โทรมาซะดึกเลยมีอะไรหรือเปล่า?”
"ตอนนี้เลย?”
“ที่ไหนล่ะ?”
ชายหนุ่มผุดลุกจากเตียงเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมข้าวของบางส่วน
ขณะที่มืออีกข้างยังถือสายโทรศัพท์แนบหู
“โอเค เข้าใจแล้ว..”
บ้านซาวาดะยังคงเหมือนเดิมแม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม คุณนานะเสียไปด้วยอาการป่วยตั้งแต่ลุกชายเพิ่งอายุได้เก้าขวบทำให้เด็กหนุ่มต้องเติบโตมาเพียงลำพัง
โดยมีพ่อที่ล้มเหลวในหน้าที่ของตนคอยส่งเงินมาให้ไม่ขาดสายแทนการเลี้ยงดู ทาเคชิเองก็เป็นเพื่อนสนิทสึนะโยชิตั้งแต่เด็ก
แต่เพราะระยะทางบวกกับต้องคอยช่วยงานร้านซูชิที่บ้านก็ทำให้ไม่สามารถดูแลอีกฝ่ายได้ดีพอ
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขารู้สึกว่า..ทุกครั้งยามเขามองไปในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นมันราวกับจะสะท้อนความนึกคิดที่ถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจ
ความโศกเศร้าความโกรธแค้นชิงชังในชีวิตของตน... บางทีทั้งหมดนั่นอาจเป็นเพียงบ่อเกิดของเรื่องราวทั้งหมด
บาปนั้นคือริษยา...
“สึนะ?”
เงียบสงัดจนได้ยินเสียงหายใจ
“เข้าไปนะ”
สิ่งแรกที่ประสาทสัมผัสจับได้คือความมืดก่อนจะถูกกลิ่นเหม็นคาวรุนแรงโจมตีจนประสาทรับรู้เพี้ยน
ทาเคชิเดินตรงไปยังห้องน้ำภายในตัวบ้าน ที่ที่เดียวที่มีแสงสว่าง...
“เหวอ..”
ภาพที่ปรากฎแก่สายตาทำเขาหลุดร้องอุทาน
ร่างของหญิงสาวที่นอนจมกองเลือดอยู่แทบเท้าของอีกฝ่าย บาดแผลเหวอะหวะทั่วร่างจากการกรีดแทงซ้ำกับใบหน้าที่เผยถึงความทรมาณหวาดหวั่นจนตาเหลือกลนเดาไม่ยากว่าคงถูกทำร้ายในขณะที่ยังมีชีวิต
ไม่ต่างจากคนที่ยืนอยู่ที่โชกชุ่มไปด้วยคาวเลือดทั่วทั้งกายแต่หาใช่ของตนไม่ด้วยใบหน้าเรียบสนิท
“นายทำอะไรไม่ปรึกษาฉันอีกแล้วนะ”
ทาเคชิพูดเสียงอ่อน
“ขอโทษที่โทรไปเวลานี้นะ”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ว่าอะไรหรอก”
ทาเคชิไม่ได้สบตาอีกฝ่าย เขาให้ความสนใจกับการควานหาของในกระเป๋าสะพายที่ตัวเองนำมาด้วย
“อะ เปลี่ยนชุดก่อนนะ เดี๋ยวตรงนี้ฉันจัดการเอง”
การคร่าชีวิตผู้คนเป็นสิ่งที่สึนะโยชิมักทำทุกค่ำคืน...
“มันอาจจะเร็วกว่าถ้าเอาไปทิ้งลงน้ำ แต่คงไม่ดีแน่ถ้าถูกพบเข้า”
เสียงรูดซิบกระเป๋าใบใหญ่ดังขึ้น
“อุ หวา..”
ร้องอุทานเบาๆอีกหนเมื่อพลิกศพกลับมาเผยให้เห็นใบหน้าชัดๆ ทาเคชิจำได้เธอได้..
นากามิยะ มิสึกิ ผู้จัดการชมรมเบสบอลของเขา
เมื่อสึนะโยชิเดินกลับมาก็เป็นช่วงที่ทาเคชิก็เก็บกวาดทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพอดี
“โอ๊ส ที่นี่ไม่มีอะไรต้องจัดการแล้วล่ะ”
ทาเคชิผุดขึ้นยืนขณะที่ยกกระเป๋าใบใหญ่พาดบ่า “ไปเลยไหม?”
ภายในป่านั้นหนาวเหน็บจนกายสั่น เสียงร้องหริ่งไรดังน่าปวดหู
หากแต่ท่อนขาของคนทั้งสองก็ยังก้าวต่อไปภายใต้ความมืดมิดของราตรีกาล
“ขอโทษ...”
เสียงแผ่วเบาของสึนะโยชิดังแทรกเสียงขุดดิน
“หืม?”
“ที่ต้องมาเจอแบบนี้เสมอ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า” ทาเคชิเอ่ยปลอบ ใช้ขาข้างหนึ่งยันร่างร่างวิญญาณลงก้นหลุมแล้วกลบให้เรียบร้อย
“เรื่องใช้แรงแบบนี้ ฉันเก่งนะขอบอก”
“นี่สึนะ”
ทาเคชิเอ่ยทำลายความเงียบ
“นายหึงเหรอ?”
สึนะโยชิส่ายหน้า ดวงตาคู่นั้นมีแต่ความว่างเปล่า
“ฉันก็ไม่รู้...”
“งั้นเหรอ” ทาเคชิครางรับก่อนจะยื่นมือไปกุมมือบางแน่น
“กลับกันเถอะ”
หลายครั้งที่คนเราตระหนักได้ว่าอะไรถูกอะไรควร ทว่าบาปนั้นก็ช่างยั่วยวนเกินทานทน
ราวกับผลไม้ต้องห้ามแห่งสวนเอเดนที่น่าลิ้มรส.....
สึนะโยชิรักแม่มาก... แน่นอนว่าแม่ก็รักเขา
แม่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุขเท่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะเลี้ยงลูกได้ตามลำพัง
แต่ความในใจสึนะโยชิที่ไม่เคยได้มีโอกาสบอกออกไปเลย ความจริง แค่มีแม่อยู่เคียงข้างเท่านี้เขาก็มีความสุขแล้ว...
มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอันยาวนานแทบนิจนิรันดร์
ทว่าในความจริงความสุขนั้นช่างแสนสั้น
‘แม่ขอโทษนะซือคุง ขอโทษจริงๆ ฮึก’
‘ผมไม่ได้โกรธแม่เลย ทำไมแม่ต้องขอโทษด้วย ฮือ..’
เด็กน้อยไม่เข้าใจเหตุผลที่แม่พร่ำขอโทษ
แต่เขารับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าเสียจนตัวเขาเองก็พลอยเศร้าตาม
คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวโดยไร้ผู้ตอบ
ทำไม.. ทำไม... ทำไมเขาถึงไม่ได้รับความสุข
ผู้เป็นแม่เอื้อมมืออันอ่อนแรงมาซับน้ำตา...
มือที่มักจะอบอุ่นอยู่เสมอในยามนี้มันกลับหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ
‘เข้มแข็งไว้นะ ซือคุง’
ทำไมทุกคนถึงได้มันมาง่ายดายจนไม่เห็นคุณค่าในขณะที่เขาไขว่คว้าหาแทบตาย
เด็กน้อยหมายจะยื่นมือไปกอบกุมมือสั่นเทาของแม่หากแต่มันกลับร่วงหล่นจนใจเด็กน้อยกระตุกวูบ
ร่วงหล่น.. ดังต้นไม้ที่โรยรา
ทำไมถึงช่วงชิง ทำไม
เสียงสัญญาณชีพส่งเสียงดังลั่นห้องผู้ป่วย เด็กน้อยร้องไห้จ้า
ยามนี้เขารู้แล้วว่าเหตุใดแม่ถึงพร่ำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแล
ขอโทษที่ไม่ได้เคียงข้างจนเติบใหญ่ ขอโทษที่พาไปด้วยไม่ได้...
‘ทำไมกัน ฮึก ฮือ...’
ทำไมถึงต้องพรากความสุขของเขาไป
“นายจะเกลียดฉันหรือเปล่า?”
“ไม่สึนะ” ทาเคชิตอบทันควัน
เขาพลิกกายคล่อมทับอีกฝ่าย มองลึกไปในดวงตาคู่นั้น “ฉันรักนาย”
สึนะโยชิเบนหน้าหนี ก่อนจะถูกฝ่ามือหนาเกาะกุมโน้มกลับมาสบตาคู่คม
“แค่เพียงนาย รักมากกว่าใคร...”
ใบหน้าของสึนะโยชิร้อนผ่าว ในท้องปั่นป่วนราวกับมีผีเสื้อนับพันบินวนอยู่
ดวงใจเต้นระรัวแรงจนหวาดหวั่นว่าคนตรงหน้าจะรับรู้ได้ ใช่..
เขาเองก็รักทาเคชิมากเหลือเกิน
สึนะโยชิเอื้อมแขนคว้ากอดรอบลำคอของอีกฝ่าย
ประทับจูบล้ำลึกสอดแทรกลิ้นควานหาความหวานไม่มีสิ้นสุด เสียงลมหายใจหอบ
อุณภูมิร่างกายร้อนผ่าวและกระแสอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง
“จูบฉัน กอดฉัน ได้โปรด.. ให้ฉันมั่นใจว่านายจะยังอยู่กับฉันไม่ไปไหน”
“แน่นอนสึนะ แน่นอน...”
จุ๊บ จ๊วบ..
“อา อ๊ะ”
ร่างกายที่แนบเข้าหากันนั้นร้อนรุ่ม
มือของทาเคชิค่อยๆลูบไล้ที่สะโพกแล้วสอดมือเข้าไปที่ชายเสื้อขณะที่อีกข้างก็ถอดกางเกงออกมา
หยาดน้ำลายใสที่มันย้อยออกมาจากปากเพราะจูบที่ห่างกันทำให้มันขาดราวกับน้ำตาลใส่
ร่างของสึนะโยชิถูกจับคว่ำทับลงกับร่างของทาเคชิทุกครั้งที่ถูกกระตุ้นร่างกายมันมักจะกระตุกตลอด
ทุกครั้งที่อีกฝ่ายลูบไล้ตัวเขาราวกับมีเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ
พอถูกจับให้คุกเข่ากับเตียงก็อดไม่ได้ที่จะยกมือมาปิดใบหน้าด้วยความเขินอาย
“ฮึก... ยามาโมโตะ”
ความร้อนมันเผาร่างกายไปหมด
รู้สึกว่าหมดเรี่ยวแรงไปในพริบตาเมื่อปากอุ่นร้อนมันครอบเข้ามาที่ส่วนกลาง
สึนะโยชิทิ้งตัวอย่างหมดแรงขณะที่อีกฝ่ายยังคงใช้ปากเล้าโลมทั่วกาย
ทาเคชิผละออกมอบจุมพิตร้อนระอุป้อนกลิ่นคาวลงลำคอร่างเล็ก ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบเข้าหากันความกระหายอยากยิ่งทวีคูณมากยิ่งขึ้น
ฟืบ..
“อ๊ะ!”
ความแข็งขืนความร้อนระอุที่อยู่ภายในทำให้ดวงตาพร่ามัว
รู้สึกดีจนพูดไม่ออก จังหวะสอดประสาน เสียงครางหวานอย่างสุขสมก่อนทั้งสองจะปลดปล่อยออกมา
ทาเคชิแนบจูบ มือทั้งสองสอดประสานกันไปมา
“แย่เลยแฮะ ฝนตกแบบนี้”
ทาเคชิเปรยกับร่างเล็กข้างกายขณะที่มองสายฝนตกลงมา
“สึนะเอาร่มมาหรือเปล่า”
ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าก็พลอยโล่งใจ
“อา น่าจะดูพยากรณ์อากาศก่อนออกมา”
เสียงพร่ำบ่นของเด็กสาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างนักเรียกความสนใจทาเคชิ
ชายหนุ่มยื่นร่มในมือให้
“ขอโทษนะ เอาของฉันไปใช้ก่อนก็ได้”
“อ่ะ เอ๋ ยามาโมโตะคุง”
“พวกฉันกลับทางเดียวกันน่ะ เธอเอาไปใช้ก่อนเถอะ”
เธอรับร่มจากชายหนุ่ม
เอ่ยขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมทั้งสัญญาว่าจะเอามาคืนให้ ก่อนเดินกลับบ้านไป
มนุษย์ทุกคนล้วนมีบาปอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ.... บาปที่เก็บซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากผู้ดีแสนจอมปลอม
“สึนะ!”
ทาเคชิเผยยิ้มกว้าง
“ตอนนี้ฉันไม่มีร่มแล้ว ไปด้วยได้หรือเปล่า?”
สึนะโยชิยิ้มรับ “ได้สิ”
บาปนั้นคือริษยา...
ท่ามกลางดึกคืนนั้นทาเคชินั่งอยู่ที่ปลายเตียง
โทรศัพท์มือถือในมือส่งเสียงร้อง
รอยยิ้มกว้างเผยบนในหน้าก่อนจะกดรับสายกรอกน้ำเสียงงัวเงียลงไป
“ฮัลโหล สึนะ?”
Talk with (FONG)Writer
คิดถึงกันไหมคะ.....
จริงๆแล้วฟิคตอนต่อไปควรจะเป็นเรื่องสั้นฉลองครบสองร้อยผู้ติดตามค่ะ
แต่เพราะเกิดเรื่องไม่คาดคิด ไฟล์งานทั้งหมดหาย ทำเอาฉันไปไม่เป็นเลยล่ะค่ะ ต้องขออภัยสำหรับผู้ที่รอจริงๆนะคะ
ยอมรับว่าการที่ไม่ค่อยมีใครอ่านคำชี้แจงของฉันเลยทำให้ค่อนข้างรู้สึก
‘ผิดหวัง’ ไม่ใช่น้อย
ด้วยรัก
ฟง จิ้งจอกสีชาด
ความคิดเห็น