ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ KHR reborn ] short fic 1827 5927 6927 2718 X27 G27 10027 127 8027 R27 0027 All27

    ลำดับตอนที่ #11 : 8027 สายเรียกเข้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.53K
      87
      1 พ.ค. 62










     Chapter EIGHT สายเรียกเข้า 

     

     



                มนุษย์ทุกคนล้วนมีบาปอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ.... บาปที่เก็บซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากผู้ดีแสนจอมปลอม

     

     

                เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือข้างเตียงส่งเสียงกลางค่ำคืนดึกสงัด ปลุกยามาโมโตะ ทาเคชิ ให้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา ชายหนุ่มกุมขมับหัวเขาปวดตุบอย่างกับอาการคนแฮงค์เหล้าอย่างไรอย่างนั้น ดวงตาที่ยังลืมได้ไม่เต็มที่ปรายมองตามทิศของเสียงด้วยความใคร่รู้ หากแต่ชื่อปลายสายที่แสดงบนหน้าจอก็ขับอาการงัวเงียไปหมดสิ้น

     

                “อา สึนะ โทรมาซะดึกเลยมีอะไรหรือเปล่า?”

     

                "ตอนนี้เลย?”

     

               “ที่ไหนล่ะ?”

     

                ชายหนุ่มผุดลุกจากเตียงเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมข้าวของบางส่วน ขณะที่มืออีกข้างยังถือสายโทรศัพท์แนบหู

     

                “โอเค เข้าใจแล้ว..

     

     

               บ้านซาวาดะยังคงเหมือนเดิมแม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม คุณนานะเสียไปด้วยอาการป่วยตั้งแต่ลุกชายเพิ่งอายุได้เก้าขวบทำให้เด็กหนุ่มต้องเติบโตมาเพียงลำพัง โดยมีพ่อที่ล้มเหลวในหน้าที่ของตนคอยส่งเงินมาให้ไม่ขาดสายแทนการเลี้ยงดู ทาเคชิเองก็เป็นเพื่อนสนิทสึนะโยชิตั้งแต่เด็ก แต่เพราะระยะทางบวกกับต้องคอยช่วยงานร้านซูชิที่บ้านก็ทำให้ไม่สามารถดูแลอีกฝ่ายได้ดีพอ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขารู้สึกว่า..ทุกครั้งยามเขามองไปในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นมันราวกับจะสะท้อนความนึกคิดที่ถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจ ความโศกเศร้าความโกรธแค้นชิงชังในชีวิตของตน... บางทีทั้งหมดนั่นอาจเป็นเพียงบ่อเกิดของเรื่องราวทั้งหมด

     

     

                บาปนั้นคือริษยา...

     

     

                “สึนะ?”

     

                เงียบสงัดจนได้ยินเสียงหายใจ

     

                “เข้าไปนะ

     

                สิ่งแรกที่ประสาทสัมผัสจับได้คือความมืดก่อนจะถูกกลิ่นเหม็นคาวรุนแรงโจมตีจนประสาทรับรู้เพี้ยน ทาเคชิเดินตรงไปยังห้องน้ำภายในตัวบ้าน ที่ที่เดียวที่มีแสงสว่าง...

     

                “เหวอ..

     

                ภาพที่ปรากฎแก่สายตาทำเขาหลุดร้องอุทาน

     

                ร่างของหญิงสาวที่นอนจมกองเลือดอยู่แทบเท้าของอีกฝ่าย บาดแผลเหวอะหวะทั่วร่างจากการกรีดแทงซ้ำกับใบหน้าที่เผยถึงความทรมาณหวาดหวั่นจนตาเหลือกลนเดาไม่ยากว่าคงถูกทำร้ายในขณะที่ยังมีชีวิต ไม่ต่างจากคนที่ยืนอยู่ที่โชกชุ่มไปด้วยคาวเลือดทั่วทั้งกายแต่หาใช่ของตนไม่ด้วยใบหน้าเรียบสนิท

     

                “นายทำอะไรไม่ปรึกษาฉันอีกแล้วนะ

     

                ทาเคชิพูดเสียงอ่อน

     

                “ขอโทษที่โทรไปเวลานี้นะ

     

                “ไม่เป็นไร ฉันไม่ว่าอะไรหรอก

     

                ทาเคชิไม่ได้สบตาอีกฝ่าย เขาให้ความสนใจกับการควานหาของในกระเป๋าสะพายที่ตัวเองนำมาด้วย

     

                “อะ เปลี่ยนชุดก่อนนะ เดี๋ยวตรงนี้ฉันจัดการเอง

     

     

                การคร่าชีวิตผู้คนเป็นสิ่งที่สึนะโยชิมักทำทุกค่ำคืน...

     

     

                 “มันอาจจะเร็วกว่าถ้าเอาไปทิ้งลงน้ำ แต่คงไม่ดีแน่ถ้าถูกพบเข้า

     

                เสียงรูดซิบกระเป๋าใบใหญ่ดังขึ้น  

     

                “อุ หวา..

     

                ร้องอุทานเบาๆอีกหนเมื่อพลิกศพกลับมาเผยให้เห็นใบหน้าชัดๆ ทาเคชิจำได้เธอได้.. นากามิยะ มิสึกิ ผู้จัดการชมรมเบสบอลของเขา

     

                เมื่อสึนะโยชิเดินกลับมาก็เป็นช่วงที่ทาเคชิก็เก็บกวาดทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพอดี

     

                “โอ๊ส ที่นี่ไม่มีอะไรต้องจัดการแล้วล่ะ ทาเคชิผุดขึ้นยืนขณะที่ยกกระเป๋าใบใหญ่พาดบ่า ไปเลยไหม?”

     

                ภายในป่านั้นหนาวเหน็บจนกายสั่น เสียงร้องหริ่งไรดังน่าปวดหู หากแต่ท่อนขาของคนทั้งสองก็ยังก้าวต่อไปภายใต้ความมืดมิดของราตรีกาล

     

                “ขอโทษ...

     

                เสียงแผ่วเบาของสึนะโยชิดังแทรกเสียงขุดดิน

     

                “หืม?”

     

                “ที่ต้องมาเจอแบบนี้เสมอ

     

                “ไม่เป็นไรหรอกน่า ทาเคชิเอ่ยปลอบ ใช้ขาข้างหนึ่งยันร่างร่างวิญญาณลงก้นหลุมแล้วกลบให้เรียบร้อย

     

                “เรื่องใช้แรงแบบนี้ ฉันเก่งนะขอบอก

     

     

                “นี่สึนะ

     

                ทาเคชิเอ่ยทำลายความเงียบ

     

                “นายหึงเหรอ?”

     

                สึนะโยชิส่ายหน้า ดวงตาคู่นั้นมีแต่ความว่างเปล่า

     

                “ฉันก็ไม่รู้...

     

                “งั้นเหรอ ทาเคชิครางรับก่อนจะยื่นมือไปกุมมือบางแน่น กลับกันเถอะ

     

     

                หลายครั้งที่คนเราตระหนักได้ว่าอะไรถูกอะไรควร ทว่าบาปนั้นก็ช่างยั่วยวนเกินทานทน ราวกับผลไม้ต้องห้ามแห่งสวนเอเดนที่น่าลิ้มรส.....

                

     

                สึนะโยชิรักแม่มาก... แน่นอนว่าแม่ก็รักเขา แม่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุขเท่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะเลี้ยงลูกได้ตามลำพัง แต่ความในใจสึนะโยชิที่ไม่เคยได้มีโอกาสบอกออกไปเลย ความจริง แค่มีแม่อยู่เคียงข้างเท่านี้เขาก็มีความสุขแล้ว...

     

                มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอันยาวนานแทบนิจนิรันดร์ ทว่าในความจริงความสุขนั้นช่างแสนสั้น

     

                ‘แม่ขอโทษนะซือคุง ขอโทษจริงๆ ฮึก

     

                ‘ผมไม่ได้โกรธแม่เลย ทำไมแม่ต้องขอโทษด้วย ฮือ..

     

                เด็กน้อยไม่เข้าใจเหตุผลที่แม่พร่ำขอโทษ แต่เขารับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าเสียจนตัวเขาเองก็พลอยเศร้าตาม คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวโดยไร้ผู้ตอบ

     

     

                ทำไม.. ทำไม... ทำไมเขาถึงไม่ได้รับความสุข

     

     

                ผู้เป็นแม่เอื้อมมืออันอ่อนแรงมาซับน้ำตา... มือที่มักจะอบอุ่นอยู่เสมอในยามนี้มันกลับหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ

     

                ‘เข้มแข็งไว้นะ ซือคุง

     

     

                ทำไมทุกคนถึงได้มันมาง่ายดายจนไม่เห็นคุณค่าในขณะที่เขาไขว่คว้าหาแทบตาย

     

     

                เด็กน้อยหมายจะยื่นมือไปกอบกุมมือสั่นเทาของแม่หากแต่มันกลับร่วงหล่นจนใจเด็กน้อยกระตุกวูบ ร่วงหล่น.. ดังต้นไม้ที่โรยรา

     

     

                 ทำไมถึงช่วงชิง ทำไม

     

     

                เสียงสัญญาณชีพส่งเสียงดังลั่นห้องผู้ป่วย เด็กน้อยร้องไห้จ้า ยามนี้เขารู้แล้วว่าเหตุใดแม่ถึงพร่ำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแล ขอโทษที่ไม่ได้เคียงข้างจนเติบใหญ่ ขอโทษที่พาไปด้วยไม่ได้...

     

                ‘ทำไมกัน ฮึก ฮือ...

     

     

                ทำไมถึงต้องพรากความสุขของเขาไป

     

     

     

                “นายจะเกลียดฉันหรือเปล่า?”

     

                “ไม่สึนะ ทาเคชิตอบทันควัน เขาพลิกกายคล่อมทับอีกฝ่าย มองลึกไปในดวงตาคู่นั้น ฉันรักนาย

     

                สึนะโยชิเบนหน้าหนี ก่อนจะถูกฝ่ามือหนาเกาะกุมโน้มกลับมาสบตาคู่คม

     

                “แค่เพียงนาย รักมากกว่าใคร...

     

                ใบหน้าของสึนะโยชิร้อนผ่าว ในท้องปั่นป่วนราวกับมีผีเสื้อนับพันบินวนอยู่ ดวงใจเต้นระรัวแรงจนหวาดหวั่นว่าคนตรงหน้าจะรับรู้ได้ ใช่.. เขาเองก็รักทาเคชิมากเหลือเกิน

     

                สึนะโยชิเอื้อมแขนคว้ากอดรอบลำคอของอีกฝ่าย ประทับจูบล้ำลึกสอดแทรกลิ้นควานหาความหวานไม่มีสิ้นสุด เสียงลมหายใจหอบ อุณภูมิร่างกายร้อนผ่าวและกระแสอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง

     

                “จูบฉัน กอดฉัน ได้โปรด.. ให้ฉันมั่นใจว่านายจะยังอยู่กับฉันไม่ไปไหน

     

                “แน่นอนสึนะ แน่นอน...

     

                จุ๊บ จ๊วบ..

     

                “อา อ๊ะ

     

                ร่างกายที่แนบเข้าหากันนั้นร้อนรุ่ม มือของทาเคชิค่อยๆลูบไล้ที่สะโพกแล้วสอดมือเข้าไปที่ชายเสื้อขณะที่อีกข้างก็ถอดกางเกงออกมา หยาดน้ำลายใสที่มันย้อยออกมาจากปากเพราะจูบที่ห่างกันทำให้มันขาดราวกับน้ำตาลใส่ ร่างของสึนะโยชิถูกจับคว่ำทับลงกับร่างของทาเคชิทุกครั้งที่ถูกกระตุ้นร่างกายมันมักจะกระตุกตลอด ทุกครั้งที่อีกฝ่ายลูบไล้ตัวเขาราวกับมีเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ พอถูกจับให้คุกเข่ากับเตียงก็อดไม่ได้ที่จะยกมือมาปิดใบหน้าด้วยความเขินอาย

     

                “ฮึก... ยามาโมโตะ

     

                ความร้อนมันเผาร่างกายไปหมด รู้สึกว่าหมดเรี่ยวแรงไปในพริบตาเมื่อปากอุ่นร้อนมันครอบเข้ามาที่ส่วนกลาง สึนะโยชิทิ้งตัวอย่างหมดแรงขณะที่อีกฝ่ายยังคงใช้ปากเล้าโลมทั่วกาย ทาเคชิผละออกมอบจุมพิตร้อนระอุป้อนกลิ่นคาวลงลำคอร่างเล็ก ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบเข้าหากันความกระหายอยากยิ่งทวีคูณมากยิ่งขึ้น

     

                ฟืบ..

     

                “อ๊ะ!”

     

                ความแข็งขืนความร้อนระอุที่อยู่ภายในทำให้ดวงตาพร่ามัว รู้สึกดีจนพูดไม่ออก จังหวะสอดประสาน เสียงครางหวานอย่างสุขสมก่อนทั้งสองจะปลดปล่อยออกมา ทาเคชิแนบจูบ มือทั้งสองสอดประสานกันไปมา

     





     

                “แย่เลยแฮะ ฝนตกแบบนี้

     

                ทาเคชิเปรยกับร่างเล็กข้างกายขณะที่มองสายฝนตกลงมา

     

                “สึนะเอาร่มมาหรือเปล่า

     

                ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าก็พลอยโล่งใจ

     

                “อา น่าจะดูพยากรณ์อากาศก่อนออกมา 

     

                เสียงพร่ำบ่นของเด็กสาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างนักเรียกความสนใจทาเคชิ ชายหนุ่มยื่นร่มในมือให้

     

                “ขอโทษนะ เอาของฉันไปใช้ก่อนก็ได้

     

                “อ่ะ เอ๋ ยามาโมโตะคุง

     

                “พวกฉันกลับทางเดียวกันน่ะ เธอเอาไปใช้ก่อนเถอะ

               

                เธอรับร่มจากชายหนุ่ม เอ่ยขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมทั้งสัญญาว่าจะเอามาคืนให้ ก่อนเดินกลับบ้านไป

     

     

                มนุษย์ทุกคนล้วนมีบาปอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ.... บาปที่เก็บซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากผู้ดีแสนจอมปลอม

     

     

                “สึนะ!”

     

                ทาเคชิเผยยิ้มกว้าง

     

                “ตอนนี้ฉันไม่มีร่มแล้ว ไปด้วยได้หรือเปล่า?”

     

                สึนะโยชิยิ้มรับ ได้สิ

     

     

                บาปนั้นคือริษยา...

     

     

                ท่ามกลางดึกคืนนั้นทาเคชินั่งอยู่ที่ปลายเตียง โทรศัพท์มือถือในมือส่งเสียงร้อง รอยยิ้มกว้างเผยบนในหน้าก่อนจะกดรับสายกรอกน้ำเสียงงัวเงียลงไป

     

                “ฮัลโหล สึนะ?”

     

     

     

       

     


     

     

     

     

    Talk with (FONG)Writer    

     

    คิดถึงกันไหมคะ.....

     

    จริงๆแล้วฟิคตอนต่อไปควรจะเป็นเรื่องสั้นฉลองครบสองร้อยผู้ติดตามค่ะ แต่เพราะเกิดเรื่องไม่คาดคิด ไฟล์งานทั้งหมดหาย ทำเอาฉันไปไม่เป็นเลยล่ะค่ะ ต้องขออภัยสำหรับผู้ที่รอจริงๆนะคะ

     

    ยอมรับว่าการที่ไม่ค่อยมีใครอ่านคำชี้แจงของฉันเลยทำให้ค่อนข้างรู้สึก ผิดหวัง ไม่ใช่น้อย

     

     

    ด้วยรัก

    ฟง จิ้งจอกสีชาด

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×