คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 Dopamine, Dopamine, Dopamine
Chapter
6: Dopamine, Dopamine, Dopamine
“นั่นแหละคริส”
บีพึมพำอย่างเหม่อลอย –เธอคงไม่พูดออกมาถ้าสมองเธอยังทำงานอยู่เต็มร้อย—ในปากคาบบุหรี่นอกที่ยังไม่ได้จุด
เธอเอื้อมมือไปควานหาไฟแช็คจากในกระเป๋าบาเลนซิเอก้าที่ถูกเหวี่ยงทิ้งไว้ข้างเตียงอย่างไม่ใยดี
ร่างเปลือยชุ่มเหงื่อของเธอเหนียวติดกับที่นอนเหมือนเธอเพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนัก
ก็นะ เซ็กซ์เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง
ขุนหันหน้ามามองเธอด้วยสายตาที่ครุ่นคิดราวกับเขากำลังหาคำพูดที่ถูกต้อง
“คนตรงบันไดน่ะเหรอ” เขาพูดนิ่งๆ หลังจากพักใหญ่
เสียงนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย “จะเอายังไงล่ะ”
บีคีบบุหรี่ออกจากปากแล้วทิ้งมันไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม
ไม่มีใครชอบบุหรี่นอกจากคนที่สูบมันหรอก “นายรู้จักฉันดีกว่าตัวฉันเองอีก
งั้นบอกฉันหน่อยสิ”
“ถ้าเธอเป็นฉัน...” ขุนถอนหายใจ –เขาดูกังวลไม่แพ้กับเธอ--
แล้วเอามือก่ายหน้าผากเปียกอย่างเหนื่อใจ “ถ้าเธอเป็นฉัน เธอจะบอกตัวเองว่าอะไร”
บีคิด คิดถึงหน้าผู้หญิงตัวเล็กกว่า คิดถึงทุกครั้งที่ตาของเธอเป็นประกายเมื่อบีเดินเข้ามา
เหมือนเธอเป็นเด็กและบีเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลกสำหรับเธอ
บีทำให้คริสมีความสุข และมันทำให้เธอมีความสุข
เธอสงสัย
สงสัยว่าความรู้สึกที่เธอมีให้คริสจะอยู่ได้นานแค่ไหน สองเดือน หรือสามเดือน เธอรู้ว่าสิ่งที่คริสต้องการจากเธอคือความรัก
แต่สำหรับเธอความรักไม่ใช่สิ่งที่คงอยู่ตลอดไป บีอยากจะเขย่าตัวคนที่พูดอะไรก็ตามน้ำเน่าๆ
เกี่ยวกับความรักจนพวกนั้นได้สติคืนมา –ความรักไม่ใช่เซ็กซ์ ความรักชนะทุกอย่าง
แต่กี่ครั้งแล้วนะที่เธอเห็นผู้ชายพร้อมกับแหวนบนนิ้วยอมทิ้งความรักเพียงเพราะต้องการครอบครองร่างกายของเธอเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
คริสอยู่ในหัวของเธอตลอดเวลา
ความต้องการที่จะสัมผัสริมฝีปากชมพู
ที่จะได้เป็นหนึ่งกับร่างกายชองอีกคนสุมอยู่ในตัวเธอ
มันพร้อมที่จะเผาได้ทุกเมื่อถ้าคริสไม่มาดับไฟร้อนให้เธอ
แต่ถ้าครั้งหนึ่งมันดับไปแล้ว แล้วคริสยังต้องการไออุ่นนั้นอีก
บีกลัวว่าจะให้เธอไม่ได้เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีไฟไหนจะลุกโชนได้ตลอดไปหรอก
และไฟที่เผาไหม้รุนแรงก็มอดเร็วเสียด้วย
“ฉันคงบอกตัวเองให้รู้สึก”
หลังจากตลอดช่วงเช้าวันจันทร์ที่บีขลุกอยู่บนเตียงกับขุน
–พูดถึงทุกเรื่องที่ไม่ใช่คริส--ต่อรองกับตีญ่า
และจูบกับคนบางคนที่ทำให้เธอนอนตาค้างทั้งคืน
บีวิ่งออกจากอพาร์ตเมนท์ไปพร้อมกับรองเท้าวิ่งคู่แพงที่ผู้ชายตัวสูงซื้อมาให้เพราะคิดว่าเธอน่าจะชอบ
เธอต้องการเวลาคิด ต้องการเวลาหาวิธีแก้ปัญหา
แต่เธอจะทำได้ยังไงในเมื่อเธอต้องอยู่ใต้หลังคาเดียวกับตัวปัญหาตลอดเวลา
ในเมื่อเธอยังบอกไม่ได้ว่าปัญหาคือเธอหรือคริสกันแน่
เหตุการณ์บนดาดฟ้า –หรือบนชานพักบันได— หลังจากที่เธอออกวิ่งหนึ่งอาทิตย์ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
ความจริงทุกอย่างมันแย่ลงด้วยซ้ำ จะเป็นสีที่คริสชอบงั้นเหรอนอกจากจะฟังดูน่ารักแล้วยังฟังดูเป็นคนดีอีกด้วย
คริสกำลังเปลี่ยนบี และบีบอกไม่ได้ว่าเธอเต็มใจที่จะยอมเปลี่ยนเพื่อคริสไหม
แต่ตอนเธออยู่กับคริส มันรู้สึกราวกับว่าเธอสามารถยอมทำได้มากกว่านั้นอีก
ถ้าคริสสั่งเธอให้กระโดดตึกไปตอนนั้น บีคงทำตามอย่างไม่คิด
แล้วถ้าวันหนึ่ง คริสสั่งให้บีรักเธอขึ้นมาล่ะ
เธอจะเข้มแข็งพอที่จะปฏิเสธไหม
เธอจะเข้มแข็งพอที่จะทำตามไหม
ตอนที่บีบอกว่าเธอต้องการคริสในคืนไร้ดาววันนั้น
สำหรับเธอมันมากกว่าการบอกรักเสียอีก –ความต้องการก็คือความรักประเภทหนึ่งไม่ใช่เหรอ
ความรักที่รุนแรงกว่า แรงกล้ากว่าที่รวมตัวกันภายในช่วงเวลาสั้นๆ
ก่อนที่จะหายไปเมื่อพลังงานบางอย่างได้ถูกปลดปล่อย
บีกับคริสโซซัดโซเซเข้ามาที่ห้อง 507 –เพราะความจริงก็คือ
ห้องบีครบกว่า— ร่างกายของทั้งสองไม่อยากและไม่สามารถแยกออกจากกันได้
สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องของบีคืนนั้น –หรือว่ามันเกิดขึ้นยังไง—
ไม่ได้ต่างจากคืนอื่นๆ ของบีกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เธอไม่คิดจะจำชื่อ มันเหนื่อย
มันสนุก มันทำให้อดรีนาลีนพลุ่งพล่าน และหลังจากนั้นก็โดพามีน โดพามีน และโดพามีน
เพียงแต่บีรู้สึกถึงบางอย่างในตัวเธอที่เปลี่ยนไป
รวมถึงบางอย่างในตัวคริสด้วย เธอมองออกเมื่อจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น
ราวกับคืนนี้ไม่ใช่เพียงแค่การแลกเปลี่ยนทางร่างกาย
แต่ส่วนหนึ่งของคริสได้เข้ามาในหัวใจของบี และบีของคริส
เพราะบีสัมผัสได้ว่ามือของเธอที่ลูบไล้ไปตามหลังเปลือยของคริสอย่างอ่อนโยนไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยทำ
ส่วนสายตาของคริสก็ทำให้บีนึกถึงตัวเอง
“บี” คริสเรียก เสียงของเธอแหบพร่ากว่าปกติ มันทำให้บีรู้สึกใจเต้นมากเกินกว่าที่เธอจะชอบ
คริสนอนคว่ำอยู่บนเตียงของเธอ จุดที่ขุนเคยนอนเป็นประจำ
ผ้าห่มผืนแดงทิ้งแผ่นหลังเธอไว้ให้เห็น
ส่วนบีนอนมองนาฬิกาที่ปลายเตียงกระพริบบอกเวลาตีหนึ่งห้าสิบหกนาที –เธอนอนจ้องมันมาตั้งแต่สิบหกนาทีที่แล้ว
เพราะเธอไม่กล้าหันไปมองคนสวยที่อยู่ข้างกายเธอ—
ส่วนหมอนกอดเจ้ากรรมก็ถูกเหวี่ยงหายไปทุกครั้งที่เจ้าของมีร่างอุ่นๆ มากอดแทน
“แล้วตอนนี้เราเป็นอะไรกัน”
คริสถามคำถามเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้น้ำเสียงเธอนิ่ง
แต่มันกลับทำให้บีนึกถึงความนิ่งก่อนพายุใหญ่
บีขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด
เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ทั้งสองเป็นอะไรกัน เธอแค่รู้ว่าเธอไม่อยากยอมรับว่าเธออยากให้ทั้งสองเป็นอะไรกัน
“ก็เป็นแบบที่เราเป็น” บีพูดในที่สุด
“ไม่ใช่ทุกอย่างต้องมีชื่อเรียกก็ได้”
“งั้นถ้าคริสมีคนอื่น...” คริสกลืนน้ำลาย
“บีก็ไม่ว่าใช่ไหม”
“ไม่ว่า” บีรีบตอบ—รีบเกินกว่าที่จะเป็นความจริง--
บีหัวเราะเฝื่อนๆ กลบเกลื่อนก่อนที่จะถอนหายใจอีกครั้ง
ทุกวันนี้เหมือนสิ่งเดียวที่เธอทำคือถอนหายใจ “ไม่รู้สิ คริส
ตอนนี้มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว”
“บีบอกว่าบีต้องการคริส”
บีบอกไม่ถูกว่าผู้หญิงข้างๆ กำลังรู้สึกอะไร “แต่ตอนนี้บีได้คริสแล้ว
บียังต้องการคริสอยู่ไหม”
มันไม่ต่างอะไรกับการถามว่าบีรักเธอไหมเลย
บีอาจจะตอบไปแบบนั้น สารภาพทุกอย่าง บอกคริสว่าเธอไม่กล้าคบกับคริสเพราะทุกการผูกมัดมันต้องจบ
เธอยอมให้คริสไม่เป็นของเธอดีกว่าที่เธอจะต้องเสียคริสไปในที่สุด แต่เธอเลือกที่จะไม่พูด
“ตอนนี้บีไม่สนแล้วว่าบีต้องการอะไร” เธอบอก
หันหน้าไปมองคริส แววตาของคริสวาวแวบเหมือนมีน้ำตา แต่บีไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพียงแค่แสงที่สะท้อนหรือเปล่า
“คริสต้องการอะไรล่ะ”
คริสสูดหายใจเข้าเต็มปอดเหมือนเธอกำลังจะพูดอะไรที่ลำบากใจออกไป
หรือบางทีเธออาจจะแค่ต้องการซื้อเวลาเรียบเรียงคำตอบ “คริสต้องการทั้งบีและความรู้สึกของบี
แต่ถ้าบีให้คริสได้แค่นี้ คริสเป็นใครที่จะมาบังคับบีให้ให้คริสมากกว่านี้”
บีฝังเสียงในหัวตัวเองที่พูดว่า คริสอาจเป็นคนเดียวที่ทำได้
ลงไปในส่วนลึกที่สุดของจิตใจ เธอยิ้มน้อยๆ ให้ผู้หญิงตรงหน้า
เธอไม่ได้ยิ้มด้วยความจริงใจขนาดนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ
ขุนเคยพูดกับแฟนคนล่าสุดของเธอ –ซึ่งนั่นคือเมื่อแปดปีที่แล้ว—ว่าบีเป็นเหมือนนกในป่า
เธอเหมาะที่จะอยู่ในโลกกว้าง ให้เธออิสระที่จะได้สยายปีกสวยของตัวเอง
และบางทีเธออาจจะไม่มองความรักเป็นกรงขังอีกต่อไป
แต่เป็นบ้านที่เธอเต็มใจจะกลับมาทุกครั้งเพราะไม่ว่าคนที่รักอิสระแค่ไหนก็ต้องมีบ้านเป็นของตัวเอง
“ขอบคุณที่เข้าใจกันนะ”
บีพูด ให้กับทั้งผู้หญิงข้างๆ และผู้ชายในความคิด
#TopOTW
ความคิดเห็น