ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : [SF] I'm gonna be alright - BNior
[sf] i'm gonna be alright
pairing : bnior
note : แรงบันดาลใจจาก https://youtu.be/TZRKg-qJpZk
1.
ผมตื่นขึ้นมาประมาณหกโมงเช้า พลางคิดในใจว่าวันนี้อากาศดีความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ดีมากเสียขนาดนั้น
แต่เคยมีบางคนบอกผมไว้ว่า ไม่ว่าในตอนเช้าอากาศจะแย่แค่ไหนให้คิดไว้เสียว่าวันนี้อากาศดี
ความคิดแรกในตอนเช้าสำคัญ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่กำหนดชีวิตทั้งวันของเรา
"เฮ้ พี่มาเยี่ยมนายแล้วนะ" คำพูดที่ดูตลกนี่ทำให้ผมนึกถึงเดทแรกของเรา
"สบายดีสินะ นายชอบหน้าฝนมากพี่รู้ แต่พี่ก็เกลียดมันแทบตาย ยิ่งมันมาทำให้นายไปจากพี่แบบนี้
"วันนี้อากาศดี เพราะงั้นวันนี้จะเป็นวันดี ถึงจะเป็นวันครบรอบที่นายไป
เขาพูดแบบนั้น และผมเชื่อเขาสนิทใจ จนกลายมาเป็นคติในการใช้ชีวิตของผม
2.
ผมเปิดตู้บนเคาท์เตอร์ครัวแล้วหยิบกระป๋องเมล็ดกาแฟมาใส่ในเครื่องชงกาแฟที่ผมคิดว่ามันช่างสิ้นเปลืองสิ้นดี
เปลืองทั้งเวลาและเงิน แต่ในเมื่อผมตัดสินใจซื้อมาแล้วและวันนี้เป็นวันพิเศษที่ผมลางาน
ใช้เวลาแบบสิ้นเปลืองซักหน่อยคงไม่เสียหาย
กาแฟสดที่ผมชงเองรสชาติไม่ได้ดี
แต่ในความคิดผมมันก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียวกับคนที่กินกาแฟสำเร็จรูปมาทั้งชีวิตและใช้เครื่องบ้านี่แค่ปีละสามครั้งแบบผม
ไม่ใช่เขา คนที่มีเวลาว่างเหลือเฟือพอที่จะชงกาแฟสด
และบังคับให้ยอมรับไอ้เครื่องบ้าที่ใหญ่เกินกว่าเคาท์เตอร์ครัวในคอนโดจะรับไหว
3.
โต๊ะและเก้าอี้ที่ริมระเบียงยังคงทำหน้าที่ตากแดดตากฝนได้ทนทานเหมือนเดิม สีที่เคยสดใสกลับซีดไปตามกาลเวลา
ผมยังจำนาทีที่กลับจากบริษัทแล้วเจอโต๊ะเก้าอี้สีน้ำตาลที่เคยเข้าชุดกันกลายเป็นวัตถุหลากสี
โต๊ะสีฟ้าเก้าอี้ตัวหนึ่งสีเขียว และอีกตัวกำลังจะกลายเป็นสีเหลือง รอยยิ้มของเขากับแปรงทาสีในมือ
4.
เราควรมีเวลาพักใจและสมองเสียบ้าง การนั่งเฉยๆจิบกาแฟไปด้วยในตอนเช้าอากาศดีๆน่ะยอดเลย
เขาเคยพูดไว้แบบนี้ในเช้าวันหนึ่งที่อุตส่าห์ขุดผมจากที่นอน บังคับให้ผมนั่งชิมกาแฟที่เขาเป็นคนทำ
ปกติผมจะตื่นหลังเก้าโมงในทุกวันหยุดและจะหงุดหงิดถ้ามีคนพยายามจะปลุกผม แต่วันนั้นผมกลับคิดว่ามันไม่เลวที่จะตื่นเช้า
เพราะเราจะได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นอีกสักชั่วโมง เขาเป็นคนที่มีอิทธิพลกับผมมากกว่าที่เขารู้เสียอีก
5.
เสื้อเชิ๊ตสีขาวที่ผมใส่ทุกวันจนชินแต่วันนี้ไม่ใช่กับกางเกงสแล็คสีดำและสูทราคาแพง
เชิ๊ตสีขาวยีนส์สีดำรองเท้าผ้าใบสีดำและแจ็กเก็ตยีนส์ ใบหูเต็มไปด้วยหมุดสีดำและเงิน
เป็นการแต่งตัวที่ดูขัดกับหน้าที่การงานอย่างสิ้นเชิง
เขาเคยบอกแค่ว่าไม่ว่าผมจะใส่สูทหรือแต่งตัวแบบไหนแต่นั่นก็คือผม ผมที่เป็นตัวของผม
ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าลูกน้องหรือใครมาเจอจะเป็นยังไง เพราะเขารักที่ผมเป็นผม
เพราะเหตุผลนั้น ผมเลยไม่แคร์ที่จะต้องดูดีน่านับถือตลอดเวลา เพราะตราบใดที่เขาและผมชอบ ผมจะไม่เปลี่ยน
6.
บริการขนส่งสาธารณะเป็นสิ่งที่ผมไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกแบบไหนกับมันดี ถึงจะสะดวกแต่กลับเบียดเสียดเหลือเกิน
ในตอนสายของวันธรรมดาแบบนี้คนบนรถไฟฟ้าไม่เยอะทำให้ผมเบาใจลงไปได้บ้าง
ดอกไม้สีขาวกลีบบางในมือคงไม่ได้รับการกระทบกระเทือนจนบอบช้ำก่อนจะถึงจุดหมาย
7.
รถเมล์สายนี้ยังคงเหมือนเดิม ทั้งบรรยากาศและทิวทัศน์สองข้างทาง
ไม่ใช่ผมไม่มีรถยนต์แต่ผมแค่คิดถึงวันนั้นที่เขาพาผมมาที่นี่ด้วยรถไฟฟ้าและรถเมล์
เหตุผลเพียงเพราะเขาคิดว่าการเดินทางแบบนี้มันได้อารมณ์มากกว่าการขับรถเอง
ผมคิดว่าเขาแค่อยากจะเจอผู้คนเยอะๆเพื่อไปสร้างแรงบันดาลใจในงานเขียนของเขามากกว่า
8.
ผมคุกเข่าลงบนพื้นหญ้าสีเขียวชะอุ่มของฤดูฝน
ยื่นมือออกไปวางดอกลิลลี่บนพื้นหินอ่อนสีขาวพลางกลืนก้อนแข็งๆลงคอ
ใช้เวลาไม่ถึงนาที แต่สำหรับผมกลับนานเหมือนเป็นปี มือที่วางไว้บนตักเปลี่ยนเป็นกำหมัดแน่น
ผมช่างอ่อนแอเหลือเกิน
ไม่กล้าแม้แต่จะมองป้ายหินอ่อนที่มีรูปเขากับรอยยิ้มสว่างจ้านั่น ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากอะไรซักคำ
"เฮ้ พี่มาเยี่ยมนายแล้วนะ" คำพูดที่ดูตลกนี่ทำให้ผมนึกถึงเดทแรกของเรา
ผมเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งเขี่ยเค้กไปมาแล้วพูดว่า 'เฮ้ พี่มาแล้วนะ'
"สบายดีสินะ นายชอบหน้าฝนมากพี่รู้ แต่พี่ก็เกลียดมันแทบตาย ยิ่งมันมาทำให้นายไปจากพี่แบบนี้
พี่ยิ่งเกลียดมันมากกว่าเดิมอีก"
ผมกลั้นหายใจ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ไม่มีเสียงสะอื้นหลุดออกมาจากปากของผม
แม่ของเขาเคยบอกกับผม เขาฝากมาว่าถ้าไม่มีเขาแล้วขออย่าให้ผมร้องไห้เพราะเขาอีก
จบประโยคนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมร้องไห้ต่อหน้าคนเป็นสิบ ต่อหน้าครอบครัวของเขา ครอบครัวของผม
หมอ พยาบาล และเครื่องช่วยหายใจ เสียงสัญญาณลากยาวนั่นเหมือนฆ่าผมให้ตายทั้งเป็น
"ขอโทษที่ร้องไห้แบบนี้ พี่ไม่รักษาสัญญาเลยสินะ ผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว ไม่มีปีไหนที่พี่ทำได้เลย"
ผมกลืนก้อนแข็งๆนั่นลงคออีกครั้ง สูดลมหายใจลึกๆแล้วเงยหน้ามามองแผ่นหินอ่อนสีขาว
"วันนี้อากาศดี เพราะงั้นวันนี้จะเป็นวันดี ถึงจะเป็นวันครบรอบที่นายไป
แต่พี่จะคิดเหมือนที่นายเคยบอกไว้ว่าวันนี้เป็นวันที่ดี ทุกวันเป็นวันที่ดี"
ผมพร่ำไปเรื่อย เรื่องที่ผมหยุดกินยาหลังจากการบำบัดเมื่อสองปีที่แล้ว เรื่องผมจะเลิกบุหรี่เป็นครั้งที่แปด
เรื่องที่ผมได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ เรื่องเพื่อนของเราที่จะไปแต่งงานที่อเมริกา เรื่องแมวของคนข้างห้อง
เรื่องอัลบั้มที่สิบของนักร้องที่เขาชอบ เรื่องที่ผมเริ่มทำกับข้าวกินเองทุกมื้อแล้ว เรื่องที่ผมติดวอลเปเปอร์ห้องของเราใหม่
พูดทุกเรื่องในหนึ่งปีและทุกเรื่องที่ผมนึกได้กับหลุมศพของเขา หวังแค่เขาอาจจะฟังผมอยู่ซักที่ไม่ไกลจากตรงนี้
ผมลุกขึ้นยืน ทอดสายตาไปที่โบสถ์สีขาวกลางทุ่งหญ้า
โบสถ์ที่เขาพยายามดั้นด้นมาในวันครบรอบห้าปีและเป็นเดทสุดท้ายของพวกเรา
โบสถ์ที่ผมเห็นครั้งแรกแต่กลับบอกเขาว่าจะกลับมาจัดงานแต่งงานที่นี่ เขาจะแต่งงานกับผมได้ไหม
เขาแค่หัวเราะแล้วจูงมือผมเข้าไปในโบสถ์และสาบานต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าว่าเขาจะรักผมตลอดไป
ผมหัวเราะ กล่าวคำสาบานเลียนแบบเขา
9.
ผมหันหลังกลับไปมองเนินเล็กๆที่เต็มไปด้วยแผ่นป้ายหินอ่อนสีขาว ถึงแม้ว่าตัวผมจะเดินออกมาแล้วแต่ผมรู้
รู้ว่าผมไม่เคยเดินออกมาจากที่ตรงนั้นตลอดห้าปี ผมไม่เคยห่างจากร่างที่นอนสงบอยู่ใต้แผ่นหญ้าสีเขียวนั่นตลอดสิบปีที่ผ่านมา
10.
"ที่นายเคยขอพี่ไว้ว่าให้รักคนอื่นถ้านายไม่อยู่แล้ว ขอโทษนะ พี่ทำไม่ได้จริงๆ พี่ยังรอนายอยู่นะ จินยอง"
------------------------------------------------------------------------------------
talk ;
หายไปนาน ไม่มีใครจำได้ รู้หรอก555555555555555555555555555555
จากเม้นตอนที่แล้วเราก็พอจะเดาอนาคตออกแล้วค่ะ ทำถูกแล้วที่เธอเลือกเขาและทิ้งฉันไว้ตรงกลางทาง
ฟิคออาจจะไม่ค่อยตรงกับเพลงเท่าไหร่ แต่เราชอบนะคะ ได้แกล้งปม555555
ถ้าให้แค่เลิกกันมันไม่ดี ต้องให้ปมทนทุกข์ทรมาน ดีค่ะ มีความสุขได้แกล้งเมน
ขอบคุณไวลินมากๆที่ทวงฟิคทุกวัน แม้พี่จะไม่เคยแต่งเลย เรื่องนี้ยกให้ไว
ของขวัญแฟนฟิคดีเด่น55555555555
ปล.ใส่เลขทำไมไม่รู้ แต่ใส่แล้วรู้สึกเท่ดีค่ะ
ปล.2 อย่าสงสารคนไปเลยแฮร์รี่ สงสารคนอยู่เถอะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น