ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE GANG เรื่องวุ่นวัยเรียน

    ลำดับตอนที่ #9 : เพื่อนไม่ใช่ร้านขายยา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.14K
      43
      5 มิ.ย. 46

    THE GANG

    เรื่องวุ่นวัยเรียน



    ตอนที่ 9 : เพื่อนไม่ใช่ร้านขายยา

    CHAPTER 9 : Friend Forever



              “ไอ้ไม้” กระทาชายวัยคะนองผู้มีรูปร่างและหน้าตาเป็นอาวุธ สาวน้อยสาวใหญ่ต่างต้องมาสยบแทบเท้ามันเกือบทุกราย ไอ้ไม้ขึ้นชื่อว่าเป็นคาสโนว่าประจำโรงเรียน จีบผู้หญิงเป็นว่าเล่น บางคนตกลงปลงใจคบกันยังไม่ถึงสัปดาห์ก็มีอันต้องเลิกรากันไปเสียแล้ว ทุกคนในโรงเรียนรู้ซึ้งถึงชื่อเสียงด้านความเจ้าชู้เพลบอยของไอ้ไม้เป็นอย่างดี แต่ไอ้ไม้ของพวกเราก็ไม่เคยสร้างเรื่องฉาวโฉ่ให้ใครประนามหยามหมิ่น



              ไอ้ไม้เป็นเพื่อนคนแรกในชีวิตที่ผมให้ความสนิทสนมด้วย ไอ้ไม้กับผมคบกันมานานมากแล้วตั้งแต่สมัยแบเบาะ แม่ของผมรู้จักกับแม่ของไอ้ไม้จึงทำให้ครอบครัวของเราสองคนใกล้ชิดกัน น่าสงสารที่ไอ้ไม้ต้องเสียแม่ไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อครั้งที่มันเรียนอยู่ชั้น ป.4 ไอ้ไม้จึงต้องอยู่ในการดูแลของพ่อเพียงคนเดียวตั้งแต่ยังเล็ก ความกำพร้าแม่อาจเป็นเรื่องรุนแรงที่กระทบกระเทือนจิตใจของไอ้ไม้มากเสียจนทำให้มันต้องไขว่ขว้าหาที่พึ่งทางใจอยู่ตลอด ไอ้ไม้กับผมสนิทกันมากถึงขั้นยอมตายแทนกันได้เลย เรากิน นอน เที่ยว เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ครั้งแรกที่ผมได้ข่าวว่าไอ้ไม้สอบติดโรงเรียนเดียวกันผมดีใจกระโดดจนตัวลอย ไอ้ไม้กับผมเป็นคู่หูผู้บุกเบิกกลุ่มห้าพยัคฆ์หนี สมาชิกในกลุ่มของพวกเราห้าคนสามัคคีกันมาก เฮไหนเฮนั่นไม่เคยเกี่ยง แต่ช่วงหลังๆมานี่ไอ้ไม้เริ่มทำตัวห่างเหิน ติดผู้หญิงเสียจนพวกผมอยากจะพามันไปเลิกที่วัดถ้ำกระบอก บางครั้งพวกผมก็แอบน้อยใจที่ไอ้ไม้มันทิ้งเพื่อนไปขลุกอยู่กับบรรดาสาวๆของมัน ซึ่งคนที่ดูท่าทางออกอาการรุนแรงมากที่สุดในกลุ่มนั้นก็คงจะเป็นไอ้ตี๋      



              “เพื่อนนะเว้ย ไม่ใช่ร้านขายยา” เป็นคำพูดที่ไอ้ตี๋ใช้เหน็บแนมไอ้ไม้อยู่บ่อยๆเวลาที่มันอกหักซมซานคลานกลับมาหาพวกเรา ครั้งหนึ่งไอ้ไม้กับไอ้ตี๋เคยผิดใจกันเพราะเรื่องผู้หญิง ทั้งสองคนดันไปชอบผู้หญิงคนเดียวกันเข้า ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้นกับกลุ่มของพวกเรา คุณผู้หญิงคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ก็คือ “น้องแป้ง” สาวน้อยรุ่นน้องในโรงเรียนของพวกเราผู้มีเรือนร่างที่ชายทุกคนใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง น้องแป้งเป็นสมาชิกชมรมว่ายน้ำ ชมรมเดียวกับไอ้ไม้ น้องแป้งเป็นทั้งนักกีฬาโรงเรียนและนักกีฬาเยาวชน เคยเป็นตัวแทนไปแข่งขันว่ายน้ำระดับชาติมาแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาและความสามารถ ประกอบกับชื่อเสียงที่โด่งดัง จึงทำให้เธอเป็นที่หมายปองของพวกไอ้เข้ไอ้โขงทั้งหลาย เมื่อตอนที่พวกเราอยู่ชั้น ม.4 น้องแป้งคบหาเป็นแฟนกับไอ้ตี๋เลยมีเหตุให้ต้องเข้ามาพัวพันกับกลุ่มห้าพยัคฆ์หนีของผม ทั้งสองคนรักกันหวานชื่น แต่จี๋จ๋ากันได้แค่ประมาณสองเดือนไอ้ตี๋กับน้องแป้งก็มีอันต้องแยกทางเพราะน้องแป้งเกิดปันใจให้ไอ้ไม้ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิทสนมมากกว่า ไอ้ไม้จึงโดดเข้ามารับช่วงต่อเป็นไม้ผลัดที่สอง เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับไอ้ตี๋พอสมควรถึงขนาดไม่พูดไม่จากับไอ้ไม้เลยเชียว โดยสันดานส่วนตัวของไอ้ไม้นั้นคบกับใครได้ไม่นาน เดือนถัดมามันก็สลัดน้องแป้งทิ้งอย่างไม่ใยดี ไอ้ตี๋ถึงยอมกลับมาคุยกับไอ้ไม้เหมือนเดิม แต่ก็ยังมีการพูดแขวะกัดประชดประชันกันตลอด เป็นที่รู้กันในกลุ่มว่าไอ้ตี๋กับไอ้ไม้นั้นแอบไม่พอใจกันอยู่ลึกๆ



              เรื่องของน้องแป้งเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับพวกเราเพราะเกือบจะทำให้กลุ่มต้องแตก แต่คนอย่างไอ้ไม้ไม่เคยเข็ดหลาบ หลังจากนั้นไม่นานไอ้ไม้ก็ทิ้งพวกเราไปหาสาวอื่นอยู่เรื่อยๆ กิจกรรมที่พวกเราเคยทำด้วยกันบ่อยๆอย่างเช่น กินข้าว เตะฟุตบอล หรือแม้แต่เดินเตร็ดเตร่ในโรงเรียน ไอ้ไม้ก็ไม่เคยมีเวลาให้กับพวกเราอีกเลย จนกว่าผู้หญิงของมันหมดความสำคัญมันถึงจะกลับมาตายรัง พวกผมรู้สึกน้อยใจที่หมดความหมายกลายเป็นหมาหัวเน่า พวกเราจึงเคยรวมหัวกันต่อต้านไอ้ไม้อยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไอ้ไม้กำลังมีเรื่องเดือดร้อนครั้งใหญ่



              นับเป็นความโชคร้ายของไอ้ไม้ที่มันบังเอิญไปเห็นอาจารย์คนหนึ่งกระทำการอนาจารลวมลามนักเรียนหญิงตัวเล็กๆไร้ทางสู้ ด้วยสำนึกของความเป็นคนดีไอ้ไม้จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือเด็กคนนั้นเอาไว้ได้ทัน แต่สภาพจิตใจของเด็กหญิงนั้นแย่มากถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล เหตุการณ์จึงกลับตาลปัตร อาจารย์คนนั้นนำเรื่องไปบอกอาจารย์ใหญ่ว่าไอ้ไม้เป็นคนลงมือข่มขืนนักเรียนหญิง แล้วอาจารย์บังเอิญเดินผ่านมาเห็นจึงเข้าไปช่วยเหลือจนเกิดการต่อสู้กันขึ้น คำพูดของอาจารย์คนนั้นมีน้ำหนักมากกว่าคำให้การของไอ้ไม้หลายเท่านัก ไอ้ไม้โดนกล่าวหาอย่างหนัก ชื่อเสียงของไอ้ไม้เสียหายมาก ถูกทุกคนในโรงเรียนรุมประนาม ไอ้ไม้พยายามมาขอความช่วยเหลือจากพวกเราแต่ทุกคนกลับเฉยชา ไม่มีใครสักคนที่ไอ้ไม้พอจะพึ่งพาได้ เรื่องนี้ทำให้ไอ้ไม้ตัดสินใจคิดสั้นถึงขั้นจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย พอดีมีคนคาบข่าวมาบอกพวกเราว่าเห็นไอ้ไม้กำลังยืนเก้ๆกังๆอยู่บนดาดฟ้าอาคารเรียน พวกเราจึงใส่เท้าหมารีบวิ่งด้วยความเร็วไปห้ามมันไว้ คนที่เข้าไปคว้าตัวไอ้ไม้มาประคองกอดไว้เป็นคนแรกคือไอ้ตี๋ ทั้งสองคนนั่งกอดกันร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดออกมาไม่เป็นภาษาคน น้ำตาแห่งมิตรภาพของลูกผู้ชาย ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆ ถึงแม้ว่าไอ้ตี๋จะเคยโกรธเกลียดไอ้ไม้แค่ไหนแต่ความเป็นเพื่อนก็ไม่เคยจางหายไปจากใจของมันเลย ผมดีใจที่เพื่อนๆในกลุ่มของผมทุกคนรักกัน ผมรู้สึกได้ว่าเพื่อนของผมทั้งสองคนได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้งหนึ่งแล้ว



              หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นเรื่องทุกอย่างก็ค่อยๆคลี่คลายลง เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายได้กลับมาให้การกับอาจารย์ใหญ่ ความจริงถูกเปิดเผย อาจารย์ชั่วคนนั้นโดนไล่ออก ไอ้ไม้ก็กลายเป็นฮีโร่ไปในทันที เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากที่สวยงามและน่าประทับใจสำหรับพวกเรากับไอ้ไม้ เพราะหลังจากพวกเราจบชั้น ม.5 ไอ้ไม้ใช้วุฒิสอบเทียบเอ็นทรานซ์เข้าไปศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังได้สำเร็จ ไอ้ไม้จึงจำใจต้องโบกมือลาจากพวกเราตามหลังเพชราไปติดๆ แต่ถึงแม้พวกผมกับไอ้ไม้จะต้องห่างไกลกันสักเพียงไหน มิตรภาพความผูกพันอันลึกซึ้ง และคำว่า “เพื่อน” ก็จะยังคงอยู่ในใจของพวกเราเสมอ … ตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง                          









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×