ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิทานก่อนนอนของคิม จงแด

    ลำดับตอนที่ #14 : [KaiChen] My Bodyguard

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 722
      3
      15 ม.ค. 57

    Tag: My Bodyguard

    Paring: KaiChen

    Tag: Romantic Comedy

    Note: แนวหวานๆ ค่ะ

     

     

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    "'ข่าวใหญ่ ลูกชายคนเดียวของคิม แดฮวา นักธุรกิจชื่อดัง ปฏิเสธการที่จะเข้าพิธีหมั้นกับหนุ่มหล่อทายาทเจ้าของสายการบินชื่อดังอย่าง คริส' ข่าวนี้มันหมายความว่าไงกันจงแด!!!"เสียงหวานแต่ทรงอำนาจเริ่มสั่นน้อยๆ ตั้งแต่อ่านพาดหัวข่าวในช่วงต้น ก่อนจะแปลเปลี่ยนเป็นตวาดเสียงดังลั่นทันทีที่อ่านพาดหัวข่าวจบ เจ้าของชื่อนั่งนิ่งอย่างไม่ทุกข์ร้อน

     

    “ก็ตามที่หม่ามี้อ่านนั้นแหละครับ"คิม จงแดตอบผู้เป็นมารดาอย่างไม่ทุกข์ร้อนกับการที่เขาปฏิเสธลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าของสายการบินที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเชีย มือบางที่เริ่มกร้านเพราะการจับสายไวโอลินหยิบเอาแก้วชาที่คนรับใช้นำมาเสิร์ฟให้ขึ้นจิบ สองสามีภรรยาถอนหายใจกับความแก่นเซี้ยวของลูกชายคนเดียว หาผู้หญิงมาให้ก็ไม่สน หาผู้ชายมาให้ก็ไม่เอาเห็นทีคงจะต้องหาวิธีทางที่จะทำให้อีกฝ่ายเป็นเด็กดีเสียแล้วก่อนที่จะขึ้นคาน เพียงเพราะแอบชอบเพื่อนสนิทตัวเอง...

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    ช่วงบ่าย

     

    คฤหาสน์ตระกูลคิม

     

    “นี่จีน่า แอมเบอร์ไปไหนแล้วล่ะ”เสียงหวานถามหาบอร์ดิการ์ดคนสนิทจากคนรับใช้ส่วนตัว ทั้งๆ ที่ปกติเธอจะวนเวียนรอบตัวเด็กหนุ่มแท้ๆ

     

    “เห็นนายท่านว่าส่งคุณแอมเบอร์ไปคุมโรงงานแล้วนะคะ”จีน่าตอบหลังจากครุ่นคิดอยู่นาน และก่อนที่จงแดจะได้เอ่ยถามอะไรจากจีน่ามากไปกกว่านี้ สาวใช้ส่วนตนของมารดาก็วิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เด็กสาวหอบหายใจต่อหน้าร่างบางที่กำลังนั่งปรับสายไวโอลินอยู่

     

    “มีอะไรรึเปล่าซอลรี”ถามอย่างสงสัย พลางหยุดมือที่กำลังปรับเสียงไวโอลินลง

     

    “คุณผู้หญิงให้หนูมาตามคุณหนูไปพบที่ห้องรับแขกค่ะ เห็นว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยค่ะ”ซอลรีตอบ ใบหน้าหวานชักสีหน้าขึ้นด้วยความสงสัย ปกติถ้ามีธุระที่สำคัญจะคุยกันที่ห้องทำงานของพ่อแท้ๆ แต่ทำไมวันนี้ถึงได้นัดให้ไปคุยกันที่ห้องรับแขกซะอย่างนั้น

     

    “รู้รึเปล่าว่าคุณแม่มีเรื่องอะไรจะคุย”จงแดถามอย่างสงสัยก่อนจะเก็บไวโอลินแสนรักลงกล่อง ทั้งๆ ที่ยังซ่อมมันไม่เสร็จ มือบางคว้าเอาคุ้กกี้ในจานแถวนั้นขึ้นมางับเล่น

     

    “หนูก็ไม่ทราบเช่นกันคะ”ซอลรีตอบ ร่างบางนั่งนิ่งอย่างวิเคราะห์เพราะเขาไม่รู้ว่าคราวนี้พ่อแม่ส่งใครมาเป็นบอร์ดิการ์ดคนใหม่ ร่างบางถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นและเดินตามเด็กรับใช้ของมารดาไป

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    ห้องรับแขก

     

    “ขอโทษที่มาช้าครับ”เสียงหวานของลูกชายคนเดียวดังขึ้นมาจากด้านนอกประตู ทำให้ประมุขตระกูลคิมต้องหยุดการสนทนากับแขกเอาไว้และส่งเสียงบอกให้ลูกชายเปิดประตูเข้ามาได้

     

          แอ๊ด!!!

     

          ประตูไม้บานใหญ่สีขาวเปิดออกเผยให้เห็นร่างบอบบางอยู่ในชุดไปรเวทสีหวาน เจ้าตัวเดินก้มหน้าเข้ามาในห้องรับแขกและเดินไปนั่งข้างมารดาโดยไม่คิดจะมองหน้าแขกของพ่อแม่แม้แต่น้อย

     

          “เป็นอะไรไปลูกจงแด ทำไมไม่มองหน้าน้องเขาหน่อยล่ะ”คุณนายคิมว่าลูกชายที่เอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆ เจ้าตัวไม่ตอบแต่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอยู่ข้างๆ สิ่งแรกที่พบคือรอยยิ้มมุมปากที่ดูคุ้นตาพิกล แต่ยิ่งมองไล่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เท่านั้นล่ะชัดเลย!

     

          “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับจงแดนูน่า”

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    “ไม่เอา! ให้แม่บังคับให้ตายยังไงผมก็จะตอบว่าไม่!”เสียงหวานร้องบอกเสียงดังพลางสะบัดหน้าหนีคนที่นั่งยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้าม คุณคิมและคุณนายคิมถอนหายใจกับความดื้อรั้นของลูกชาย

     

    “โธ่จงแดนูน่าครับ หมั้นกับผมนี่ไม่ดีตรงไหนเหรอฮะ”คิม จงอินถามพร้อมยิ้มๆ เมื่อรู้ว่าคู่หมั้นของตนเองคือนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เขาได้รับเป็นมรดกจากบิดาของตนแถมยังเป็นเพื่อนสนิทของภรรยาของเพื่อนเขาอีกต่างหาก ถึงเขาจะเด็กกว่าอีกฝ่ายก็เถอะ

     

    “ไม่ดีสุดๆ เลยล่ะ!”เจ้าตัวหันมาพูดใส่หน้าเสียงดัง แต่แทนที่จงอินจะโกรธเจ้าตัวกับรู้สึกสนใจกับความน่ารักของจงแดแทนซะงั้น

     

    “ถึงจงแดนูน่าจะไม่อยากได้ผมเป็นคู่หมั้น แต่ผมอยากได้จงแดนูน่าเป็นแม่ของลูกนะครับ”สิ้นคำพูดนั้นเล่นเอาร่างเล็กถึงกับใบ้กิน ใบหน้าหวานขึ้นสีนิดๆ

     

     

     

     

     

    ไม่ได้นะเรียววุค! นายจะหลงคารมหมอนี่ไม่ได้นะ หมอนี่มันเจ้าชู้จะตาย ทำปากหวานไปงั้นแหละ!!

     

     

     

     

    “ไม่! ไม่ว่านายจะทำเป็นปากหวานขนาดไหน ฉันก็จะขอตอบว่าไม่!”ร่างบางยังคงยืนยันคำเดิม ใบหน้าหวานเชิดขึ้นอย่างคนดื้อรั้น ร่างสูงหัวเราะเบาๆ ไม่ให้อีกคนได้ยิน

     

    “ถ้าอย่างนั้นเรามาลองศึกษานิสัยกันดูก่อนมั้ยล่ะครับ”ร่างสูงยื่นขอเสนอที่คนตัวเล็กเริ่มที่จะสนใจ

     

    “ยังไง???”

     

    “ตอนนี้จงแดนูน่าไม่มีบอร์ดิการ์ดใช่มั้ยครับ”ร่างสูงไม่ตอบแต่หันไปถามคุณนายคิมแทน

     

    “ใช่จ๊ะจงอิน ทำไมหรือจ๊ะ”คุณนายคิมตอบก่อนจะถามอย่างสงสัย

     

    “ถ้าอย่างนั้น...ผมจะให้จงแดนูน่าศึกษานิสัยผมในฐานะที่พี่เป็นบอร์ดิการ์ดของนูน่าดีมั้ยครับ”

     

    “ว่าไงนะ”ร่างบางถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ตลอดมาคู่หมั้นผู้ชายที่แม่หามาให้ทุกคนไม่เคยมีใครอยากจะลองศึกษานิสัยกับจงแดเลยสักคน

     

    “มี้ว่าก็ดีนะจงแด ระหว่างนี้ก็ให้น้องเขาเป็นบอร์ดิการ์ดให้ลูกในช่วงที่แม่ยังหาบอร์ดิการ์ดใหม่ให้ลูกไม่ได้ แถมลูกยังจะได้ศึกษานิสัยของน้องเขาไปด้วยนะ”คุณนายคิมว่าอย่างเห็นดีเห็นงามกับความคิดกับความคิดของ(ว่าที่)ลูกเขย

     

    “แต่ผมว่า...”ร่างบางเอ่ยราวกับจะขัดแต่พอเห็นสายตาของมารดาเท่านั้นล่ะร่างบางก็รีบเปลี่ยนคำตอบทันที

     

    “ผม...ตกลงก็ได้ฮะ แต่...เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะคิม จงอิน!!!!!!

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    สองสัปดาห์ต่อมา

     

    “นี่จงอินเร็วๆ หน่อยสิฮยองหิว!”เสียงหวานของคนตัวเล็กร้องสั่งร่างสูงที่เดินตามหลังมาอย่างเชื่องช้าเพราะสัมภาระหลายถุงในมือ

     

    “ครับๆ ใจเย็นๆ สิครับจงแดนูน่า”ร่างสูงร้องบอกพลางพยายามเดินให้เร็วขึ้นเพื่อตามหลังร่างเล็กๆ ให้ทัน ที่เขาเดินช้าก็ไม่ใช่อะไรหรอกมัวแต่เดินคิดถึงเรื่องเมื่อช่วงสองอาทิตย์ก่อน

     

    ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างจงแดและจงอินดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ จงแดยอมให้จงอินเป็นน้องหลังจากเริ่มสถานะเจ้านายกับบอร์ดิการ์ดกันเพียงแค่สี่วัน ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างรู้รสนิยมของกันและกัน และพบว่ารสนิยมนั้นแทบไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ทำให้ทั้งสองคนนี้สนิทกันมาก เวลาที่จงแดอยู่กับจงอินนั้นเหมือนจงแดลืมไปว่าตัวเองเคยแอบชอบเพื่อนสนิทของตัวเองมาก่อน

     

    “อ้าว จงแดนูน่าหายไปไหนกันเนี่ย”ชายหนุ่มบ่นออกมาเมื่อเลี้ยวตามร่างบางที่เลี้ยวมาก่อนนั้นปรากฏว่าไม่พบเจ้าตัวอยู่เลย มือหนาหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมากดโทรคู่หมั้นของตน ก่อนจะยกขึ้นแนบหูหากแต่เสียงที่ได้ยินกลับมีเพียงแต่เสียงของชู้รักของเขา

     

    ((ขออภัยค่ะ ขณะนี้เลขหมายที่ท่านเรียกไม่เปิดใช้บริการในขณะนี้ค่ะ))

     

    ได้ยินเพียงเท่านี้ร่างสูงก็กดวาง ก่อนจะเตรียมวนหาอีกคนเพราะคิดว่าอีกคนของคิดจะแกล้งเขาแน่นอน หากแต่ผ่านไปแล้วสิบนาทีก็ไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มจะเจอร่างบางสักนิด ความกลัวเริ่มเกาะกินภายในใจ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินสะดุดกับอะไรบางอย่าง จงอินย่อตัวลงและหยิบมันขึ้นมาพบว่าเป็น...

     

    ...โทรศัพท์ของจงแดนูน่า...

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    อีกด้านหนึ่ง...

     

    “ปละ...ปล่อยนะ”เสียงหวานร้องบอกหนุ่มฉกรรจ์หลายคนที่นั่งเฝ้าเขาที่ถูกมัดอยู่ในโกดังมืดๆ เหม็นอับหน่อยๆ เจ้าพวกนั้นไม่แม้แต่จะสนใจเขาด้วยซ้ำ และก่อนที่จงแดจะได้เอ่ยอะไรมากไปกว่านี้ ประตูโกดังก็เปิดออกเผยให้เห็นหัวโจกที่ลักพาตัวเขามา

     

    “ค...คริส ปล่อยฉันไปเถอะ”ร่างเล็กร้องขอชายหนุ่มรูปหล่อในชุดไปรเวทที่ดูดีด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง หากแต่คริสไม่มีความคิดที่จะทำตามคำขอนั้นแม้แต่น้อย มุมปากหนายกยิ้มอย่างสะใจที่จะได้สั่งสอนคนที่บังอาจปฏิเสธเขา

     

    “เสียใจด้วยนะจงแด ก่อนที่ฉันจะปล่อยนายไป ขอฉันสนุกกับนายซะหน่อยก่อนเถอะ”ร่างสูงว่าพลางเดินเข้ามาบีบคางมนเอาไว้อย่างแรงราวกับจะบีบให้แหละคามือ ร่างบางมองอีกฝ่ายด้วยความหวาดกลัว เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะร้ายกาจได้ขนาดนี้มาก่อน

     

     

     

     

    จงอินช่วยฉันด้วย!!!

     

     

     

     

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    คฤหาสน์ตระกูลคิม

     

    “เป็นยังไงบ้างตาจงอินได้ข่าวน้องบ้างมั้ย”คุณแม่ของจงแดเอ่ยถามร่างสูงที่กลับเข้ามาในคฤหาสน์อีกครั้งหลังจากร้องโทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เป็นตำรวจ ร่างสูงส่ายหน้าอย่างจนใจ คุณนายคิมรู้สึกสิ้นหวัง

     

    “คุณทำใจดีๆ ไว้นะลูกเราต้องไม่เป็นอะไร”คุณคิมปลอบภรรยาที่เริ่มซบหน้าลงกับมือตัวเองเพื่อร้องไห้ออกมา

     

    “ผมขอโทษนะครับ...”จู่ๆ เสียงทุ้มก็เอ่ยออกมาแสนแผ่วเบา เรียกให้คุณคิมและคุณนายคิมเงยหน้าขึ้นมามองคนพูด

     

    “ผมขอโทษที่ดูแลจงแดนูน่าไม่ได้”ร่างสูงเอ่ยอย่างรู้สึกผิด ถ้าหากเขาระมัดระวังตัวกว่านี้จงแดก็คงไม่ต้องหายตัวไปแบบนี้

     

    “อย่าโทษตัวเองเลยจ้ะจงอิน มันไม่ใช่ความผิดของเราหรอกนะ”คุณนายคิมเอ่ยบอกทั้งน้ำตา เมื่อเห็นหญิงสาวที่เขาเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ปลอบทั้งน้ำตาแบบนี้จงอินยิ่งรู้สึกผิด มือหนากำโทรศัพท์แน่น

     

     

     

         โธ่เว้ย! ผมปกป้องพี่ไม่ได้อีกแล้ว ผมขอโทษจงแดนูน่า...

     

     

     

     

     

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    ทางด้านจงแด

     

    “โอ้ย ปล่อยฉันนะ!”จงแดโวยวายเสียงดังลั่นเมื่อตอนนี้เขาถูกพวกชายฉกรรจ์แบกออกมาจากโกดัง ซึ่งกำลังตรงไปไหนไม่รู้

     

    “โอ้ย!”ร่างเล็กร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อถูกโยนลงบนเตียงในบ้านพักเล็กๆ หลังหนึ่ง ร่างบางมองไปรอบๆ อย่างหวาดกลัว เหล่าชายฉกรรจ์เดินจากไปพร้อมปิดประตูลงเสียงดังสนั่น เมื่ออยู่ในความเงียบเสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงน้ำไหลออกมาจากประตูเล็กๆ บานหนึ่งที่ร่างบางคาดว่าหน้าจะเป็นห้องน้ำ

     

    “จะทำยังไงดีจงแด”ร่างบางพึมพำเสียงเบาพลางมองไปรอบๆ เพื่อหาทางหนีหากแต่ประตูทางออกกลับมีเพียงทางเดียว และหน้าต่างด้านนอกนั้นมีลูกกระเล็กปกป้องเอาไว้ และก่อนที่จะได้คิดหาทางออกไปมากกว่านี้ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของคริสในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเพียงตัวเดียว

     

    “ทำไมมองว่าที่สามีแบบนั้นล่ะจงแด”ร่างสูงเอ่ยอย่างหยอกเหย้าพลางนั่งลงที่ปลายเตียง จงแดถอยหลังไปชิดพนักหัวเตียงโดยไม่รู้ตัว นัยน์ตาโตหวานมองอีกคนอย่างหวาดกลัว มือหนาเอี้อมออกไปลูบไล้ใบหน้าหวานด้วยความใคร่ ร่างบางรู้สึกขยะแขยงตัวเองเหลือเกิน คริสไม่รอช้ารั้งร่างของร่างบางให้มานอนแผ่หลาอยู่ใต้ร่างตน อมยิ้มกับใบหน้าที่ดูตกใจมากของร่างบางก่อนจะก้มลงสูดดมความหอมหวานของร่างข้างใต้ มือหนาค่อยๆ เลิกชายเสื้อเชิ้ตสีหวานของร่างบางขึ้นไปกองไว้ที่คอ ริมฝีปากอุ่นร้อนกดจูบบนลงผิวเนื้อนิ่ม ตอนนี้สมองสั่งการให้ร้องขอความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด หากแต่อาการเสียงหายดังเกิดขึ้นอีกครั้ง ร่างบางได้แต่นอนตัวเกร็งกลัว...กลัวไปหมดทุกอย่าง

     

    “ฮึก...จงอินช่วยฮยองด้วย...”สิ้นเสียงหวานที่แสนแผ่วเบามือหนาทั้งสองข้างค่อยๆ ปลดเข้มขัดและกระดุมกางเกงก่อนจะเลื่อนลงอย่างช้าๆ มันกำลังจะไปกองอยู่บนพื้นในอีกไม่กี่นาทีแต่ทว่า...

     

    ปัง! โครม! ตึง!

     

    ประตูไม้เนื้อหนาถูกเปิดออกด้วยบางสิ่งพร้อมกับการปรากฏร่างสูงๆ ของคนที่ร่างบางต้องการมากที่สุดในตอนนี้

    จงอิน!

     

    “เฮ้ยแกเป็นใครวะ มาพังประตูบ้านคนอื่นแบบนี้ได้ไง!”คริสพูดอย่างหัวเสียที่มีคนมาขัดอารมณ์ของต มองอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจนัก

     

    “จริงๆ กูก็ไม่อยากมีเรื่องกับมึงหรอกนะ แต่คนที่มึงพามากกน่ะเมียกู!”สิ้นประโยคนั้นของจงอิน คริสก็เบิกตาโพลงอย่างตกใจ

     

    “กูไม่เชื่อ! มึงอย่ามาหลอกกูซะให้ยาก จงแดคือคู่หมั้นกู!”สิ้นคำบอกจากปากของคริส จงอินก็ทำเพียงแค่แค่นหัวเราะกับคำโกหกของอีกคน

     

    “หึ! มึงไม่เชื่อก็ตามใจนะ เฮ้ย! เลย์จัดการมันซะ”ร่างสูงกระตุกยิ้มชั่วร้ายที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยสั่งชายหนุ่มหน้าหวานในชุดสูทสีดำที่อยู่ข้างหลังให้มาจัดการต่อ ส่วนตนเองก็เดินเข้าไปโอบกอดคนที่นอนตัวสั่นด้วยความกลัว

     

    “จงแดนูน่าเป็นอะไรรึเปล่าครับ”จงอินถามอีกคนด้วยความเป็นห่วง พลางรีบคว้าเอากางเกงมาใส่ให้อีกคน จงแดซุกหน้าลงกับอกกว้างความรู้สึกดีใจพองโตอยู่เต็มหัวใจ

     

    “ฮึก...จงอิน”

     

    “จงแดนูน่า! ร้องไห้ทำไมครับ มันทำอะไรเรา”ถามอย่างตกใจเมื่อสัมผัสได้ว่าคนในอ้อมกอดนั้นร้องไห้กำลังจะหันไปสั่งให้ลูกน้องคนสนิทยำไอ้คนที่นอนอยู่บนพื้นให้เละกว่าเดิม หากแต่หัวกลมๆ ของคนที่ซุกหน้าอยู่กับอกของเขาไม่สั่นปฏิเสธซะก่อน มีหวังคริสได้เตรียมไปเฝ้ายมบาลก่อนแต่งงานแน่!

     

    “เฮ้อ...กลับบ้านกันนะครับ”ร่างสูงถอนหายใจอย่างโล่งใจเมื่อรู้ว่าร่างเล็กไม่ค่อยบุบสลายเท่าไหร่ ก่อนจะอุ้มอีกคนในท่าอุ้มเจ้าสาวขึ้นจากเตียงพร้อมทั้งเอ่ยบอกที่ข้างหู ลำแขนเล็กยกขึ้นโอบกอดลำคอแกร่งอย่างแน่นหนา...

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    คฤหาสน์ตระกูลคิม

     

    “จงแด!!”เสียงนุ่มหวานที่แสนคุ้นเคยเรียกให้คนที่ก้มหน้าก้มตาเดินเข้ามาเงยหน้าขึ้นก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

     

    “ฮึก...แพคฮยอน”ทันทีที่เข้าสู่อ้อมกอดของคุณแม่ลูกสาม น้ำตาที่เก็บกักเอาไว้ก็ไหลลงมาอีกครั้ง ใบหน้าหวานซวนซบอยู่ที่ไหล่บางของคนท้องห้าเดือน มือบางยกลูบไหล่เพื่อนรักอย่างปลอบโยน

     

    “มึงเป็นยังไงบ้างวะจงอิน”ชานยอลถามเพื่อนรักที่มองคนที่เขารักร้องไห้ด้วยสายตาเจ็บปวด

     

    “ก็เจ็บ...”เอ่ยตอบเพื่อนเสียงแผ่ว ไม่อยากให้อึกคนได้ยิน

     

    “มากมั้ย”ถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงความเป็นห่วงเอาไว้

     

    “มาก”จงอินตอบพลางนั่งลงข้างๆ เพื่อน สายตาเหม่มองคนที่กำลังร้องไห้ด้วยสายตาเจ็บปวด

     

    “แล้ว...เมื่อไหร่มึงจะบอกความรู้สึกของมึงให้เขารู้ซะที”พอได้ยินคำถามนี้ของเพื่อน ชายหนุ่มรู้สึกมันแทงใจดำ เล็บคมจิกลงไปในพนักแขนของโซฟาผ้าเนื้อดี

     

    “มึงก็รู้ว่าเขาจำกูไม่ได้ บอกเขาไปเขาจะคิดว่ากูโกหกเขาน่ะสิ”ร่างสูงว่าพลางเงยหน้ามองเพดาน ชานยอลรู้ดีว่าการกระทำแบบนี้หมายถึงเพื่อนเขากำลังจะหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมา

     

    “เอาเถอะ ความรักมันต้องอาศัยเวลา...”

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    หลายวันต่อมา

     

    ตั้งแต่วันนั้นจงอินก็เอาแต่หลบหน้าจงแด ร่างบางโทรหาก็ไม่รับ ส่งข้อความมาก็ไม่ตอบ จนร่างบางนึกเป็นห่วงแม้จะทำเป็นปากแข็งอยู่บ้างแต่ก็รู้ใจตัวเองดี สุดท้ายก็ยอมแพ้ถามที่อยู่ของชายหนุ่มจากมารดาก่อนจะบึ่งมานี้ตามที่หัวใจเรียกร้อง...

     

    “ไม่ทราบว่ามาหาใครหรือเจ้าคะ”เมดสาวถามเมื่อเห็นจงแดมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูบ้าน

     

    “ผมหามาคุณจงอินครับ”เมื่อได้รับคำตอบเมดสาวก็แทบจะแบกร่างบางเข้าบ้านเสียด้วยซ้ำ

     

    “ถ้าเช่นนั้นเชิญทางนี้ค่ะ”บอกเพียงแค่นั้นก่อนจะหันหลังกลับและเตรียมเดินนำขึ้นไปยังชั้นสองหากไม่ถูกทักเอาไว้เสียก่อน

     

    “ใครมากันน่ะจีอึน...หือ...อุ๊ยตายแล้วหนูจงแด!”เสียงหวานของหญิงสาวมีอายุหากแต่ยังสวยยังสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับการปรากฏร่างของเธอ เธอร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นแขก

     

    “ส...สวัสดีฮะ”เอ่ยทักทายกลับไปให้สุภาพที่สุด

     

    “สวัสดีจ้ะมาหาจงอินใช่มั้ย ขึ้นไปเลยจ้ะห้องเดิมน่ะ”หญิงคนนั้นพูดรัวเร็วพร้อมยิ้มเบาๆ

     

    “เอ่อคือ...”

     

    “ไม่ขึ้นไปล่ะจ๊ะ เมื่อก่อนหนูออกจะมาบ่อยนี้หนา”หญิงสาวว่า

     

    “คือ...ผมเพิ่งเคยมาบ้านนี้ครั้งแรกนะครับ”

     

    “อ้าว ตายแล้ว! จริงเหรอจ๊ะ แต่น้าจำได้นะว่าเมื่อก่อนหนูมาออกจากบ่อย หนูเคยประสบอุบัติเหตุรึเปล่าจ๊ะ”หญิงคนนั้นถามอย่างแปลกใจ

     

    “ก็...เคยครับ”จงแดตอบหลังจากนึกอยู่นาน

     

    “ตอนนั้นหนูประสบอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับศีรษะใช่มั้ยจ๊ะ”หญิงคนนั้นยังถามต่อพร้อมส่งยิ้มอ่อนโยนอบอุ่นมาให้ มือหนาเอื้อมมาดึงมือบางไปกุมเอาไว้และจูงให้เดินตามเข้ามานั่งด้วยกันที่โซฟายังห้องรับแขก

     

    “ใช่ครับ...ว่าแต่คุณ...”ยังเอ่ยไม่ทันจบประโยคหญิงคนนั้นก็ขัดขึ้นเสียก่อน

     

    “อย่าเรียกคุณเลยจ๊ะเรียกแม่เถอะ เพราะเดี๋ยวยังไงหนูก็ต้องมาเป็นสะใภ้แม่อยู่ดี”เธอว่าพร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าหวาน

     

    “ฮะ คุณแม่ คือ...คุณแม่ทราบได้ยังไงครับว่าผมเคยประสบอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับศีรษะ”ร่างบางถามอย่างสงสัย เพราะตนเองก็รู้มาจากมารดา

     

    “จงอินเล่าให้แม่ฟังจ๊ะ แม่ว่าหนูคงจะจำมันไม่ได้หรอก เดี๋ยวแม่จะเล่าให้ฟัง...

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    หลายปีก่อน...

     

    “แม่ครับผมไปเล่นกับจงแดนูน่าที่สวนสาธารณะนะฮะ”เสียงเล็กๆ ของเด็กชายเจ็ดขวบในชุดลำลองธรรมดาแต่ดูดีบอกกับมารดาที่กำลังสั่งงานกับเหล่าสาวใช้ในบ้านอยู่

     

    “จ๊ะ แต่อย่ากลับมืดนักนะจงอิน”คุณนายคิมร้องบอกลูกชายก่อนจะมองลูกชายที่วิ่งออกจากบ้านไปตามหลังด้วยลูกชายของเพื่อนสนิท เธอถอนหายใจก่อนจะหันกลับมาสั่งงานต่อ

     

     

    อีกด้านหนึ่ง

     

    “อินนี่รอพี่ด้วย”เสียงเล็กๆ ของเด็กชายตัวเล็กวัยสิบสองขวบเอ่ยร้องเรียกเด็กชายที่ตัวสูงกว่า ใหญ่กว่า ด้วยน้ำเสียงเล็กๆ ติดหอบเพราะต้องวิ่งตามน้องชายที่ขายาวกว่า

     

    “โอเคครับ ถ้างั้นผมจะเดินช้าๆ นะจงแดนูน่า”เด็กชายที่ถูกเรียกว่าอินนี่เอ่ยพร้อมยิ้มก่อนจะค่อยๆ ลดระยะจังหวะการก้าวเท้าลงจนในที่สุด พี่ชายที่เขาหลงรักหมดหัวใจก็เดินตามมาทัน

     

    “พี่อยากให้ไฟข้ามเปลี่ยนเป็นสีเขียวเร็วๆ จัง”เด็กชายตัวน้อยที่ถูกเรียกว่าจงแดนูน่าว่า พลางเงยขึ้นมองสัญญาณข้ามที่ยังคงเป็นสีแดง ถึงแม้ที่นี่จะเป็นหมู่บ้านของคนรวย หากแต่รถก็พลุกพล่านพอสมควร เพราะวันนี้มีงานแต่งงานของบ้านหลังหนึ่ง

     

    “อ่ะ สัญญาณไฟเปลี่ยนสีแล้ว”จงแดร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าสัญญาณไฟข้ามเปลี่ยนสีแล้ว อินนี่พยักหน้ารับก่อนที่เด็กทั้งสองคนจะออกเดินเพื่อข้ามทางม้าลาย ทางม้าลายดูเหมือนสั้นหากแต่ก็ยาวในความคิดของเด็กๆ เช่นกัน

     

    “อินนี่...”จู่ๆ เด็กหนุ่มก็เอ่ยเรียกคนที่อายุน้อยกว่าเสียงแผ่วซึ่งเดินอยู่ข้างๆ เด็กชายรับคำในลำคอ

     

    “หืม...”

     

    “ถ้า...ฮยองมีอันตรายอินนี่จะปกป้องและมาช่วยพี่มั้ย”

     

    “แน่นอนผมจะปกป้องและไปช่วยพี่แน่นอน ผมสัญญาด้วยเกียรติของผมเลย เอาไว้โตไปผมจะไปเป็นบอร์ดิการ์ดให้พี่นะ”

     

    “อินนี่สัญญาแล้วนะ”เด็กชายว่าพลางหยุดยืนอยู่กลางถนนที่โล่งไร้ซึ่งรถ พลางยื่นนิ้วก้อยเล็กๆ ไปตรงใบหน้าหล่อเหลา เด็กน้อยยกนิ้วขึ้นมาเกี่ยวก่อนที่ทั้งสองจะยิ้มให้กันและเตรียมจะออกเดินอีกครั้ง แต่ทันใดนั้น...

     

    บรื้นนนน

     

    เสียงเครื่องยนต์ที่เร่งเต็มที่คำรามดังมาแต่ไกล เด็กทั้งสองหันไปมองเห็นว่ารถยนต์คันหนึ่งวิ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงและไม่มีทีท่าว่าจะชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อย เด็กน้อยเริ่มใจไม่ดีมือที่เริ่มหยาบกร้านเตรียมจะผลักร่างเล็กๆ ของพี่ชายคนสนิทให้ออกห่างจากรัศมีการชน แต่ก็ช้าไปเด็กชายตัวเล็กผลักร่างสูงๆ ออกไปจากรัศมี ทำให้ตัวเองหนีไม่ทันจนโดนรถยนต์คันนั้นชนเข้าไปเต็มๆ ! และกระเด็นไปตามแรงกระแทกจนลอยไปแม้จะไม่ใกล้มากนักราวกับวางแผนไว้ ร่างเล็กๆ นั้นกระแทกเข้ากับขอบฟุตบาทโดยเฉพาะส่วนศีรษะ

     

    หลังจากชนเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งเข้าไปเต็มๆ คนขับไม่มีทีท่าว่าจะลงมาดูอาการผู้ที่ถูกชน กลับกันคนขับขับรถหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที ทิ้งให้เด็กน้อยตัวโตเบิกตากว้างมองร่างเล็กที่โชกไปด้วยเลือดอย่างตกใจ และเมื่อตั้งสติได้เด็กชายก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งตรงเข้าไปกอดร่างที่โชกเลือดนั้นเบาๆ พร่ำบอกคำบางอย่างที่เป็นคำสุดท้ายของความทรงจำนี้..

     

    ผมขอโทษจงแดนูน่า ผมขอโทษ! ที่ปกป้องพี่ไม่ได้ ทั้งๆ ที่เราสัญญากันไว้แล้วแท้ๆ...”

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    “...นี่แหละจ๊ะ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้หนูสูญเสียความทรงจำ”เธอว่าพลางลูบไล้โครงหน้าหวานที่แทบไม่แตกต่างกันเมื่อก่อนเลยสักนิด ลูบไล้เบาๆ อย่างเอ็นดู

     

    “.....”ร่างบางนิ่งเงียบกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่ได้รับฟังมา ความจริงก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับเส้นทางตั้งแต่ขับรถมาแล้วล่ะ

     

    “แม่ว่าแค่สิ่งที่แม่เล่าหนูคงจำไม่ได้หรอก อีกเดี๋ยวจงอินก็จะกลับมาแล้วล่ะจ๊ะ หนูขึ้นไปรอจงอินที่ห้องจงอินก่อนดีกว่านะ จีอึน”เธอพูดราวกับอ่านใจได้ก่อนจะเรียกเมดสาวคนเดิมให้พาร่างบางออกไปจากห้องรับรองแขกไปอยู่ภายในห้องของจงอิน...

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

     

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา

     

    “ผมกลับมาแล้วครับแม่”ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทว่า พลางส่งเสื้อนอกให้เมดสาวส่วนตนเองก็สาวเท้าเข้าไปในห้องรับรองแขกหอมแก้มมารดาเสียหนึ่งที

     

    “วันนี้กลับช้าอยู่เหมือนกันนะจงอิน ป่านนี้พี่เค้ารอเราจนหลับแล้วมั้งเนี่ย”คุณนายคิมเอ่ย พอได้ยินสรรพนามที่มารดาใช้เรียกใครอีกคนมาตั้งแต่เมื่อก่อน หัวใจของจงอินกระตุกวูบ

     

    “แม่ว่าใครรอใครจนหลับนะ”ร่างสูงถามเพื่อความมั่นใจของตน

     

    “หือ...ก็หนูจงแดน่ะสิ พี่เค้ามารอแกตั้งแต่เมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง ป่านนี้คงหลับอยู่ในห้องเราล่ะมั้ง”คุณนายคิมว่าพลางหันกลับไปสนใจโทรทัศน์ต่อ ร่างสูงรู้สึกชาวาบ ถ้าขึ้นไปรอเขาถึงห้องแบบนี้แสดงว่าแม่เขาคงเราเรื่องที่อีกคนลืมไปหมดไปแล้วล่ะ

     

    “งั้น...ผมขอตัวขึ้นไปดูพี่เค้าก่อนนะครับ”ร่างสูงเอ่ยกับมารดาเสียงแผ่วก่อนจะตรงไปยังห้องนอนของตัวเองบนชั้นสองทันที

     

    แกร๊ก แอ๊ด

     

    ร่างสูงค่อยๆ บิดลูบบิดประตูห้องนอนของตัวเองเข้าไปอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่ามันจะรบกวนคนที่กำลังอาจจะหลับอยู่ในห้องของเขา และก็เป็นดั่งที่คาดเอาไว้ จงแดนั่งสัปหงกอยู่บนเตียง ทั้งๆ ทีบนตักยังคงมีอัลบั้มรูปสมัยเขาเด็กๆ กับเจ้าตัววางคาอยู่บนตัก ร่างสูงอมยิ้มแผ่วเบาที่มุมปาก เดินตรงไปยืนข้างๆ เตียง ก่อนจะค่อยๆ ดึงอัลบั้มรูปออกจากตักของคนตัวเล็กนำไปวางไว้ยังโต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นจึงสอดแขนเข้าที่บริเวณคอและข้อพับเข่ายกร่างเล็กขึ้นกำลังจะจัดท่านอนให้อีกคนดีๆ หากแต่จู่ๆ เจ้าตัวก็ลืมตาขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

    “จงอิน...”ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียนิดๆ

        

    “หืม? ไม่ง่วงแล้วเหรอครับจงแดนูน่า”ร่างสูงถามพลางค่อยๆ วางอีกคนลงอย่างเดิม

        

    “ก็นิดหน่อย ว่าแต่นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

        

    “ผมมาถึงเมื่อกี้เอง”ร่างสูงตอบเสียงเบาก่อนจะนั่งลงบนเตียงหันหลังให้ร่างเล็ก แม้จะมองจากด้านหลังจงแดก็รู้ว่าอีกคนกำลังเศร้า เจ้าตัวรวบรวมความกล้าก่อนจะค่อยๆ คลานเข้าไปสวมกอดแผ่นหลังกว้างจากทางด้านหลังพร้อมเอ่ยประโยคบางประโยคออกมา

     

    “อินนี่ ฮยองขอโทษ...”เสียงหวานเอ่ยสรรพนามที่ไม่ได้ยินมานานอย่างแผ่วเบา ร่างสูงเบิกตสกว้างอย่างตกใจ รีบหันไปมองอีกคนที่ปล่อยกอดออกแล้วก็ยิ่งตกใจนักกว่าเดิม ใบหน้าหวานนองไปด้วยหยาดน้ำใสอาบแก้มนวลไปหมด นิ้วเรียวเกลี่ยมันออกให้อย่างอ่อนโยน

     

    “ฮยองขอโทษที่ลืมคำสัญญาของเรา”ร่างบางเอ่ยปนสะอื้น น้ำตายังคงไม่หยุดไหล ภาพความทรงจำที่หายไปไหลย้อนคืนมา

     

    “.....”จงอินไม่เอ่ยอะไรยังคงนิ่งเงียบเพื่อนรอฟังอีกคนพูดต่อ

     

     “ฮึก...ฮยองขอโทษจริงๆ ถึงแม้ฮยองจะลืมคำสัญญาของเรา แต่ฮยองไม่ลืมที่จะบอกนายว่าฮยองรักอินนี่...”สิ้นคำบอกรักของคนที่นั่งร้องไห้อยู่ ราวกับเวลาทุกอย่างถูกหยุดลง โดยไม่รู้ตัวจู่ๆ ร่างเล็กก็ถูกดึงเข้าไปซบอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น ใบหน้าหวานซุกอยู่กับอกแกร่งได้ยินเสียงหัวใจของชายหนุ่มเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

     

    “ไม่ต้องขอโทษผมแล้วฮะ จงแดนูน่า ผมรู้ว่าฮยองไม่ได้ตั้งใจจะลืมคำสัญญาของเรา”ร่างสูงเอ่ยบอกอยู่ที่ข้างหู

     

    “....”

     

    “...เพราะถึงฮยองจะจำมันไม่ได้ แต่ผมก็จะขอเป็นบอร์ดิการ์ดให้ฮยองไปตลอดชีวิต...ที่รักของผม”

     

     

    End…

     

     

    ++++++ My Bodyguard ++++++

     

    ขอไคเฉินลัดคิวมาเสิร์ฟก่อนล่ะกันนะคะ อิอิ

    สำหรับตอนนี้ไรต์ดัดแปลงมาจากฟิคเย่เรียวค่ะ

    เห็นมันดูจะเข้ากับคู่นี้ดีค่ะ เลยจับมาแต่งซะเลย^^

    ไรต์รู้สึกว่ายิ่งจัดเล่มหน้าเหมือนหน้ามันจะยิ่งเกินนะเนี่ย

    เอาล่ะไรต์ไปก่อนคะ บะบาย

     

    ปล.ลิงค์สั่งจองรวมเล่มของไรต์ ด้านล่างเลยค่ะ

    รวมเล่มลูกเป็ด






    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×