ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC GOT7 X YOUNGJAE 2JAE : MARKJAE : JACKJAE : NIORJAE : BAMJAE : YUGJAE

    ลำดับตอนที่ #14 : [SF JACKJAE] SNITCH : CHAPTER 4 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 987
      14
      2 ส.ค. 58

    SNITCH
    CHAPTER 04
    JACKJAE

     

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างทำให้ห้องนอนสีขาวสว่างจ้า  ในที่สุดเช้าวันจันทร์วันเริ่มต้นของสัปดาห์ก็เดินทางมาถึง  

    “เสร็จสักที” ยองแจยืนบิดขี้เกียจมองกระดาษแผ่นสุดท้ายไหลออกมาจากปริ้นเตอร์ ก่อนที่จะหยิบมันไปรวมกับกองกระดาษที่ปริ้นออกมาก่อนหน้านี้  เค้าค่อยๆจัดเรียงและเย็บเข้าเล่มอย่างเป็นระเบียบ

    “อันนี้ของชเวยองแจ นี่ของอิมแจบอม และก็ของ.....หวังแจ็คสัน” ยองแจหยิบผลงานของตัวเองขึ้นมาดูทีละเล่ม ก่อนจะทอดสายตาผ่านหน้าต่างออกมองบ้านข้างๆ  เค้าต้องอดหลับอดนอนทั้งคืนเพื่อทำรายงานพวกนี้ให้เสร็จทันส่งในเช้าวันนี้ แค่อดหลับอดนอนมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับยองแจเท่าไหร่ แต่ถ้าตอนนี้หัวใจและความรู้สึกเค้าอยู่ในสภาพปกติมันคงจะไม่เหนื่อยขนาดนี้  ร่างขาวในชุดนอนสีครีมเอนตัวแผ่ลงนอนบนที่นอนเหมือนคนหมดแรง ตาเรียวเล็กค่อยๆหลับลงเพื่อพักสายตา

    +++++++++++++++++++++++++

    วันเสาร์หลังกลับจากการแข่งบอล ยองแจก็พยุงแจ็คสันไปส่งที่บ้าน ก่อนจะเดินกลับมาบ้านตัวเอง บนโต๊ะอาหารเย็นทั้งพ่อและแม่คอยถามไถ่ถึงความเป็นไปในชีวิตประจำวันของลูกชายคนเดียวเสมอ แต่ยองแจก็ไม่รู้สึกรำคาญหรือเบื่อที่จะเล่าให้ฟังเลย เค้าเลือกที่จะเล่าเรื่องที่ได้รับชัยชนะมาวันนี้ ทั้งพ่อแม่ดูดีใจซะเหมือนว่ายองแจเป็นคนเตะลูกโทษได้ซะเอง ทั้งๆเค้าแค่มีหน้าที่ยืนอยู่ข้างสนาม

    “แล้วแจ็คสันบาดเจ็บมากมั้ย” พ่อของยองแจถามลูกชายตัวเองด้วยความเป็นห่วง แจ็คสันก็หมือนลูกเค้าอีกคน เห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆ ทั้งยังเป็นเพื่อนยองแจลูกชายของเค้าอีก

    “ขานี่นะพ่อ เขียวไปหมดเลย เห็นละปวดแทน  แต่นายนั่นน่ะอึดมากเลย” ยองแจเล่าด้วยอาการโอเวอร์แอคติ้งแบบสุดๆ

    “งั้นพรุ่งนี้แม่ต้มไก่ตุ๋นโสมไปเยี่ยมดีกว่า ยองแจเอาไปให้แจ็คสันด้วยนะ ไปดูของในครัวดีกว่าต้องซื้ออะไรเพิ่มมั้ย” ว่าแล้วคุณนายชเวก็ลุกไปทันที

    “อ้าววว ทำไมต้องเป็นผมอะ” ยองแจชี้ที่ตัวเองทำหน้างง

    “ก็ลูกเป็นเพื่อนแจ็คสันไง เพื่อนเจ็บไม่ใช่หรอ” ผู้เป็นพ่อขยี้ผมลูกชายตัวแสบด้วยความเอ็นดู

    “ไปก็ได้”

     

    เช้าวันต่อมา คุณนายชเวตื่นมาทำอาหารให้เพื่อนลูกชายข้างบ้านแต่เช้าตามที่บอกไว้

    “หอมจังเลยยยยยย” เสียงลูกชายจอมขี้เซา เดินทำจมูกฟุตฟิตเข้ามาในห้องครัวทั้งชุดนอน ผู้เป็นแม่ ไม่คิดว่าจะได้เห็นหน้าเห็นตากันแต่เช้าในวันอาทิตย์แบบนี้

    “วันนี้พายุจะเข้าหรือป่าวนะ ลูกชายแม่ตื่นเช้า”

    “ฮ้าววว ววว ก็การบ้านมันเยอะ จริงๆก็ไม่ได้อยากตื่นซะหน่อย” ยองแจยืนบิดขี้เกียจสักพัก ก่อนจะตรงเข้าไปเปิดตู้เย็นหยิบนมกล้วยขอโปรดขึ้นมาเจาะดื่ม

    “ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะ อย่าหักโหมล่ะรู้มั้ย” ผู้เป็นแม่หันมายิ้มให้ลูกชายทั้งที่ตัวยังคงยืนอยู่หน้าเตา

    “รู้แล้วหน่า ไปอาบน้ำละ” เค้าโยนขวดนมว่างป่าวลงทั้งขยะก่อนที่จะขโมยหอมแก้มและวิ่งหนีไป คนเป็นแม่ได้แต่มองตามความไม่รู้จักโตของลูกชายคนเดียวอย่างเอ็นดู ถึงลูกชายของเธอจะเป็นเด็กที่ความคิดความอ่านดูโตกว่าอายุมากแค่ไหน แต่เวลาอยู่กับพ่อแม่ก็ยังคงทำตัวเป็นเด็กเล็กๆไม่เปลี่ยน

    หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทุกคนพร้อมกันที่โต๊ะอาหาร รับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข

    “เดี๋ยวไก่ตุ๋นโสมใกล้เสร็จละ ยองแจเอาไปให้บ้านแจ็คสันด้วยนะ” ยองแจพยักหน้ารับทั้งที่ยังอมข้าวอยู่เต็มแก้ม

    เมื่อทานมื้อเช้าของตัวเองเสร็จยองแจก็รีบขึ้นไปทำรายงานที่ค้างไว้ต่อทันที จนกระทั่งผู้เป็นแม่เรียกให้เอาอาหารไปให้คนเจ็บข้างบ้าน

    “สวัสดีครับน้าโซเฟีย” หญิงวัยกลางคนเดินมาเปิดประตูให้ยองแจใบหน้ายิ้มแย้ม ถึงแจ็คสันจะโตขนาดนี้แล้ว แต่ผู้เป็นแม่ก็ยังดูหน้าตาอ่อนเยาว์กว่าอายุ ถ้าบอกว่าเป็นพี่สาวแจ็คสันก็คงไม่มีใครขัด

    “เข้าบ้านมาก่อนยองแจ มาหาแจ็คสันหรอ”

    “คือแม่รู้ว่าเจ็บก็เลยทำไก่ตุ๋นโสมมาให้น่ะครับ” เค้าพูดพร้อมยกกล่องอาหารในมือขึ้นมา

    “งั้นเดี๋ยวน้าจัดใส่ถ้วยให้ดีกว่า ยองแจขึ้นไปหาแจ็คสันที่ห้องก่อนก็ได้” ยองแจส่งกล่องอาหารให้แม่แจ็คสัน พลางคิดในใจว่าตัวเองควรจะขึ้นไปหาแจ็คสันดีมั้ย เค้าตั้งใจแค่เอาของมาให้ตามที่แม่สั่ง แต่ว่า……ขึ้นไปดูอาการสักหน่อยก็ได้

    “งั้นผมขึ้นไปข้างบนนะครับ” ยองแจก้มหัวแล้วเดินไปทางบันได เค้ารู้จักบ้านหลังนี้ดีพอๆกับที่แจ็คสันรู้จักบ้านของเค้าเช่นกัน

    “เออ!ยองแจ” แม่แจ็คสันเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็เรียกไม่ทันซะแล้วยองแจเดินหายขึ้นบันไดไปแล้ว

    “จะฝากบอกแจบอมซะหน่อยว่าเสื้อผ้าเมื่อคืนแม่ซักรีดให้แล้ว”

    ยองแจเดินมาหยุดที่หน้าห้องของแจ็คสันกำลังจะยกมือเคาะประตู แต่ประตูตรงหน้านั้นดันเปิดแง้มไว้อยู่แล้ว จนได้ยินเสียงสนทนาของคนข้างในอย่างชัดเจน

    “เมื่อคืนแม่งเมาชิบหายเลย เสียดายมึงไม่ไปด้วย” เสียงอิมแจบอม ยองแจถอนหายใจเบาๆคนเดียวก่อนจะหันหน้าออกเตรียมกลับเค้าไม่อยากอารมณ์เสียเพราะอิมแจบอมแต่เช้า

    “กูว่าช่วงนี้มึงกับยองแจดูสนิทกันไปมั้ยวะ แต่ก่อนล่ะกูไม่เห็นมึงจะมองหน้ามันเลย” ยังไม่ทันจะก้าวไปไกลก็ได้ยินชื่อตัวเองในบทสนทนายองแจจึงหยุดและตั้งใจฟัง   สนิทกันงั้นหรอ แจ็คสันเกลียดขี้หน้าเค้าจะตายจ้องแต่หาเรื่องแกล้ง จะสนิทได้ยังไง ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ยองแจก็แอบหัวใจเต้นแรงและตั้งใจรอฟังคำตอบจากอีกคน

    “สนิทไรวะ ไม่เห็นมีไรเลยก็บ้านข้างกันเนี่ย มึงไปอาบน้ำไปเหม็นเหล้า” แจ็คสันซึ่งนอนขาเจ็บอยู่บนเตียงรีบปฏิเสธออกไป  ขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บของเค้าขึ้นรอยช้ำสีม่วงคล้ำชัดเจนกว่าเมื่อวาน โชคดีที่ไม่ได้มีอาการบวมอักเสบมาก เจ้าตัวยังพอเดินด้วยตัวเองได้อยู่ แจบอมมานอนบ้านแจ็คสันตั้งแต่เมื่อเช้ามืดหลังจากที่ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆในทีม เป็นเรื่องปกติที่เวลาเมาแล้วแจบอมจะมาขออาศัยบ้านแจ็คสันเป็นที่หลับนอน เพราะถ้ากลับบ้านสภาพนี้คงถูกพ่อแท้ๆเตะออกมานอนนอกบ้านแน่ๆ

    ยองแจยังคงยืนฟังอยู่หน้าห้องเงียบๆ ถึงจะรู้สึกชาๆกับคำตอบของแจ็คสัน แต่เค้าคิดว่ามันก็เป็นแบบที่แจ็คสันตอบจริงๆเราก็แค่บ้านข้างๆกัน มันจะมีอะไรมากไปกว่านั้นได้ยังไง

    “อย่ามาเฉไฉเลยมึง กูว่ามึงมองมันแปลกๆนะ ยิ่งเมื่อวานที่โรงเรียนทั้งโอบทั้งกอด มึงอย่าคิดว่ากูไม่เห็น” แจบอมมองคนขาเจ็บบนเตียงแบบขาดคั้นต้องเอาคำตอบให้ได้ แจ็คสันหันหน้าหนีไม่อยากสบตาขีดของเพื่อนตรงหน้า

    “เออออ มึงเห็นหรอ กูว่ามึงเพ้อเจ้อละ กูขาเจ็บยองแจมันก็มาพยุงกูกลับบ้านแค่นั้น  มึงคิดว่าอย่างกูนี่นะ จะชอบคนแบบชเวยองแจได้ลง ในโรงเรียนมีใครชอบนายนั้นบ้างหละ เลิกพูดเปลี่ยนเรื่องๆ อารมณ์เสียเลยมึงเนี่ย” พูดเสร็จแจ็คสันก็ลุกขึ้นยืนและเดินกระเพลกเข้าห้องน้ำไป

    “เออ ให้มันจริงเหอะมึง!!” แจบอมตะโกนไล่หลังตาม

    คนด้านในไม่รับรู้เลยว่าบุคคลที่สามที่พูดถึงอย่างยองแจก็รับรู้และได้ยินทุกประโยคสนทนาของพวกเค้า ยองแจรู้สึกหัวใจตัวเองเต้นแรงผิดปกติ เค้ารู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก มือเรียวยกขึ้นมาจับที่หน้าอกซ้ายเอาไว้ ต้องออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด เค้ากำลังคาดหวังอะไรอยู่ในคำตอบนั้นกันแน่ เมื่อไม่เป็นตามที่คาดเค้ารู้สึกเหมือนถูกผลักลงมาจากตึกสูง ยองแจเดินจากออกมาอย่างเงียบๆ

    “อ้าวยองแจกลับแล้วหรอลูก” แม่แจ็คสันเอ่ยทักเมื่อเห็นยองแจก้าวลงบันไดมายองแจเพียงพยักหน้าและก้มหัวลาตามมารยาทก่อนจะรีบเดินออกไปทันที

    หลังยองแจกลับไปแล้วแจ็คสันและแจบอมก็ลงมากินข้าว

    “โหแค่ขาเจ็บนิดเดียวเองถึงกับต้องบำรุงกันขนาดนี้เลยหรอแม่ ฮ่าๆ” แจ็คสันถึงกับตกใจเมื่อเห็นอาหารที่ตั้งรอไว้บนโต๊ะ

    “แม่ทำที่ไหนหละ ยองแจเอามาให้เมื่อกี้ ยองแจไม่ได้บอกหรอ”

    “หืมบอกอะไรอะ ไม่หนิ” แจ็คสันขมวดคิ้วสงสัยสิ่งที่ผู้เป็นแม่พูด ละยองแจจะบอกเค้าตอนไหนเค้ายังไม่เจอตัวเลย

    “ก็เมื่อกี้” แม่แจ็คสันเหมือนจะพูดอะไรต่อแต่ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาก่อน

    “หอมมากเลยอะ งั้นขอกินเลยนะครับ” เป็นแจบอมที่นั่งลงที่โต๊ะอาหารก่อนใคร เค้าคุ้นชินกับบ้านหลังนี้และคนที่บ้านนี้เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองไปแล้ว

    “อะงั้นกินกันตามสบายเลยนะ กินเยอะๆนะทั้งสองคนเลย แม่จะออกไปข้างนอก กินเสร็จแล้วจัดการให้เรียบร้อยด้วยล่ะ” แม่แจ็คสันมองลูกชายทั้งสองของเธอด้วยความเอ็นดูเพื่อนลูกชายก็เหมือนลูกชายเธออีกคนนึงเช่นกัน  ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วออกจากบ้านไป 

    “เออดีเนาะ ขาเจ็บก็มีคนทำอาหารมาให้บำรุง มันธรรมดามั้ยหละมึงว่า” ถึงอาหารจะเต็มปากแต่อิมแจบอมก็ยังเป็นอิมแจบอมแขวะชาวบ้านไม่เลิก แจ็คสันไม่ตอบโต้อะไรได้แต่คีบอาหารตรงหน้าเข้าปากพลางนึกถึงคนที่แม่บอกว่าเป็นคนเอาอาหารมาให้ แล้วยองแจมาทำไมไม่คิดจะขึ้นไปดูอาการเค้าบนห้องสักนิดมันน่าจริงๆเลย เมื่อวานอุตส่าห์ช่วยไว้แท้ๆ
    หรือว่าแม่บอกว่าไอ้แจบอมมันอยู่ยองแจเลยไม่อยากขึ้นไป คงงั้นแหละมั้ง


    ++++++++++++++++++++++++++

    ยองแจเมื่อกลับถึงบ้านและรีบวิ่งขึ้นห้องของตัวเองทันที เค้ากระโดดขึ้นไปนอนคว่ำหน้าซุกหมอนบนที่นอน ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บในหัวใจขนาดนี้ คำว่าเกลียดจากเพื่อนที่โรงเรียนที่เค้าแสนจะชินชา แต่ทำไมพอมันออกมาจากปากหวังแจ็คสันวันนี้มันกลับทำให้รู้สึกเสียใจได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็รู้มาตลอดอยู่แล้วว่าแจ็คสันเกลียดเค้า

    เกลียดแล้วช่วงนี้ทำไมต้องมาทำดีด้วย ไม่ต้องมองหน้าไม่ต้องทักทายไม่ต้องคุยกันเหมือนก่อนหน้านี้สิ มาทำให้รู้สึกดีทำไม  เป็นความคำถามที่วนเวียนไปมาอยู่ในหัวยองแจในตอนนี้


    เค้านึกย้อนไปหลายวันที่ผ่านมาที่เค้ากับแจ็คสันกลับต้องมีเหตุต่างๆนาๆทำให้ต้องมาใกล้ชิดกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
    หลายๆครั้งการที่อยู่ใกล้ๆกันหรือบางอย่างที่แจ็คสันทำมันทำให้เค้ารู้สึกดีในใจอย่างบอกไม่ถูก
    บางทีก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวยามที่ใกล้กัน  ทั้งที่ก่อนเกิดเรื่องยูคยอมเราก็เล่นด้วยกันใกล้ชิดกันมาก่อนทำไมตอนนั้นไม่เห็นรู้สึกแบบนี้เลย

    แบบนี้มันเรียกความรักจริงๆแล้วใช่มั้ย



    ชเวยองแจชอบหวังแจ็คสัน


    มึงคิดว่าอย่างกูนี่นะ จะชอบคนแบบชเวยองแจได้ลง ในโรงเรียนมีใครชอบนายนั้นบ้างหละ


    ยองแจดิ้นไปมาบนเตียงนอน  จนผ้าห่มหมอนต่างๆบนที่นอนกระจัดกระจาย ยองแจพยายามจะปฏิเสธความรู้สึกตัวเองที่มีต่อแจ็คสันมาตลอด คิดว่ามันคงไม่ใช่ คิดว่ามันคงเป็นความรู้สึกดีๆเมื่อมีคนมาทำดีกับเราเท่านั้น แต่เค้าก็ไม่ได้ใสซื่อขนาดจะหลอกตัวเองไปได้ตลอด

    “อ๊ากกกกก อะไรกันวะเนี่ย ชเวยองแจ ทำไมต้องไปชอบไอ้คนบ้าแบบนั้นด้วย” ยองแจลุกขึ้นนั่งสองมือสวยทึ้งหัวตัวเองจนผมฟูไม่เป็นทรง

    “แค่ชื่อชั้นมันก็สามารถทำนายอารมณ์เสียได้แล้ว  เพราะฉะนั้นชั้นควรจะตัดใจจากนายตั้งแต่ตอนนี้เพราะยังไงนายก็เกลียดชั้น   ชเวยองแจนายต้องทำได้นะ นายแค่เผลอไปนิดเดียวกลับมาเป็นคนเดิมนะต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม อ่านหนังสือเยอะสนใจเรื่องเรียนเยอะๆแล้วก็จะลืม” ถึงจะบอกตัวเองไปแบบนั้นแต่ในใจก็ยังรู้สึกชาไม่หายสักที ยองแจลุกขึ้นไปที่โต๊ะทำงานเพื่อทำงานที่ค้างไว้ต่อ เป็นรายงานของแจ็คสันที่เค้าทำค้างไว้ในคอม

    “โอเคหวังแจ็คสัน งานนี้จะเป็นงานสุดท้ายที่ชั้นจะช่วย นายคงไม่ยินดีมากนักหรอกถ้ารู้ว่าคนทำคือชั้น” ยองแจพยายามสะกดความรู้สึกตัวเองให้นิ่งและเดินหน้าทำงานต่อ


    +++++++++++++++++++++++++

     

    ด้วยตำแหน่งหัวหน้าห้องทำให้ยองแจต้องรวบรวมงานไปส่งก่อนเข้าชั้นเรียน วันนี้เค้าจึงออกจากบ้านเร็วกว่าปกติโดยไม่ได้กินอะไรรองท้องมาสักนิดเดียว

    “อ้าว!จินยองนายหายดีแล้วนะ” ระหว่างที่นั่งเช็คจำนวนรายงานอยู่  เพื่อนคนเดียวของยองแจ จินยองก็เข้าห้องมาพอดี

    “อืม หายดีแล้วหละ แล้วนายล่ะดูหน้าเหนื่อยๆนะ” จินยองวางกระเป๋าแล้วนั่งลงโต๊ะตัวเองข้างๆยองแจ

    “อะ หน้าชั้นมันโทรมขนาดนั้นเลยหรอ” คนถูกทักรีบเอามือจับที่หน้าตัวเอง

    “เป็นเพราะชั้นหรือเปล่าที่รบกวนนาย ชั้นไม่น่ารบกวนนายเลยชั้นเป็นคนอาสาทำมันเองแท้ๆ ทั้งที่นายก็ห้ามแล้ว” สายตาจินยองหลุบต่ำลงอย่างรู้สึกผิด

    “ไม่เป็นไรหรอก จินยองเป็นเพื่อนชั้นก็ต้องช่วยสิ แต่คราวหน้านายเองน่ะอย่าไปยอมสองคนนั้นอีกนะ รักมากแค่ไหนก็ยอมเรื่องแบบนี้ไม่ได้” ยองแจส่งยิ้มให้กับเพื่อนตรงหน้าพร้อมใช้มือตบที่ไหล่เบาๆให้กำลังใจ

    “ขอบใจนายมากนะยองแจ นายเป็นคนดีมากจริงๆ” จินยองมองยองแจด้วยสายตาซาบซึ้ง

    “อย่ามามองแบบนั้นนะปาร์คจินยอง ชั้นนี่นะคนดี ใครๆก็เกลียดชั้นทั้งนั้นแหละ” ประโยคหลังเสียงพูดของยองแจอ่อนลง สายตาหันไปมองที่นั่งว่างหลังห้องโต๊ะเรียนของแจ็คสัน ก่อนจะรีบดึงความคิดตัวเองกลับมาหาเพื่อนข้างหน้า

    “อะนี่รายงานชั้น” จินยิงยื่นรายงานของตัวเองให้ยองแจ

    “งั้นก็ครบพอดีเลย ชั้นเอาไปส่งอาจารย์ที่ห้องพักครูก่อนนะ”

    “งั้นชั้นช่วยถือไปนะ” เพียงแค่มีจินยองคนเดียวที่ยอมเป็นเพื่อนเค้ายองแจก็ดีใจมากแล้ว ถึงจะไม่ได้สนิทกันมากแต่มันก็ทำให้ยองแจไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเกินไปในโรงเรียนแห่งนี้

    ­­­­­­­­­­­­วิชาเรียนในช่วงเช้าสำหรับวันนี้มันช่างยาวนานกว่าทุกวันสำหรับยองแจ เค้าแทบไม่มีสมาธิในการเรียนเลย ทั้งง่วงนอนทั้งปวดหัวจากการอดนอนและปวดท้องเพราะไม่ได้กินข้าวเช้า  ยองแจรู้สึกเหมือนตาจะปิดอยู่ตลอดเวลา นั่งหน้าสุดจะแอบงีบก็ไม่ได้ ง่วงแค่ไหนก็ต้องนั่งถางตาฟังที่ครูสอน ยังดีที่มีจินยองนั่งข้างๆคอยสะกิดเวลาที่จะเผลอหลับ ถ้าเป็นพวกแจ็คสันหรือแจบอม ถ้าง่วงนอนพวกนั้นคงฟุบหลับลงไปที่โต๊ะเรียนได้อย่างไม่แคร์ใคร แต่ตั้งแต่เช้ายองแจยังไม่เห็นแจ็คสันกับแจบอมเลยคงกอดคอพากันโดดไปไหนสักที่  เที่ยงนี้กินข้าวเสร็จยองแจก็กะจะไปขอยาแก้ปวดหัวและแอบงีบที่ห้องพยาบาลสักพักเหมือนกัน

     

    50%
     

    กริ่งงงงง ง ง งง ง

    สัญญาบอกเวลาพักกลางวันดังขึ้นเหมือนเสียงสวรรค์ของยองแจวันนี้เค้าไม่เคยรู้สึกโหยหาเวลาพักกลางวันขนาดนี้มาก่อนทั้งหิวทั้งง่วงยองแจรีบไปกินข้าวที่โรงอาหารอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะแยกจากจินยองเพื่อไปที่ห้องพยาบาลตามที่คิดไว้

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    หลังจากที่เคาะประตูห้องตามมารยาทแล้วยองแจค่อยๆเลื่อนประตูกระจกเปิดติดฟิล์มสีดำออก คงเพราะเป็นเวลาพักเที่ยงเลยไม่มีคุณครูประจำอยู่เลยสักคน  ภายในห้องเงียบสนิท ตรงส่วนที่เป็นเตียงฝั่งนึงถูกผ้าม่านปิดไว้ เหลือเตียงว่างเพียงเตียงเดียวอีกฝั่ง  ยองแจค่อยก้าวเข้าไปในห้องอย่างเงียบที่สุดกลัวว่าจะไปรบกวนคนที่นอนอยู่หลังม่านเข้า ยองแจเดินตรงไปที่ตู้ยาเล็กๆบริเวณโต๊ะครูประจำห้องพยาบาลใกล้กับม่านที่ปิดอยู่ เค้าเคยมาขอยาแก้ปวดหัวแล้วเห็นครูหยิบให้จากตรงตู้นี้ มือเล็กค่อยๆหยิบกระปุกยามาอ่านที่ละกระปุก

    อันนี้ยาแก้ท้องเสีย ไม่ใช่

    อ๊ะ!!ยังไม่ทันจะเจอยาที่เจ้าตัวต้องการ มือก็พลาดปัดไปถูกกระปุกยาใกล้ๆกันนั้นหล่นลงพื้นเสียงดัง

    งานเข้าแล้วไงยองแจยืนมองยาเม็ดสีขาวกระจายไปทั่ว แล้วได้แต่ถอนหายใจ เค้าควรจะเก็บมันลงกระปุกแบบเดิมมั้ย แต่ว่ายานี่มันตกพื้นแล้วมันจะใช้ต่อได้ยังไง เค้าควรเก็บมันทิ้งและอยู่รอสารภาพบาปกับครูห้องพยาบาลสินะ

    ระหว่างที่ยองแจกำลังเก็บยาที่ตกนั้นทิ้ง เจ้าตัวไม่รู้ตัวว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลัง มือเรียวยังค่อยๆเก็บยาเม็ดสีขาวอย่างตั้งใจ

    แจ็คสันเข้ามานอนในห้องพยาบาลนี่ตั้งแต่คาบเรียนแรกเพราะความขี้เกียจเรียนล้วนๆ และเพราะขาที่เจ็บอยู่จึงไม่ยากที่จะใช้เป็นข้ออ้างกับครูประจำห้องพยาบาลขอเข้ามานอนสบายๆที่นี่ได้โดยไม่มีข้อสงสัย
    แรกๆเค้าก็นอนกดโทรศัพท์เล่นเกมไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็เผลอหลับไปรู้ตัวอีกทีคือสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงวัตถุบ้างอย่างหล่นกระทบพื้น เค้าจึงค่อยๆแหวกม่านออกเล็กๆเพื่อแอบดู แผ่นหลังเล็กที่คุ้นตามองเพียงครู่เดียวก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร ชเวยองแจกำลังตั้งใจเก็บยาเม็ดสีขาวที่กระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง นี่สินะต้นเหตุที่ทำเค้าตื่น แจ็คสันค่อยๆก้าวลงจากเตียงไปยืนทางด้านหลังยองแจ ตั้งใจจะแกล้งให้อีกคนตกใจ แจ็คสันทิ้งระยะห่างจากด้านหลังยองแจเพียงแค่ประมาณหนึ่งฟุต แต่เหมือนเจ้าตัวที่ตั้งใจทำอะไรอยู่จะมีสมาธิมากเกินไปจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยสักนิด

    ให้มันได้แบบนี้สิยองแจถ้าชั้นเป็นฆาตกรนายโดนหิ้วไปฆ่าได้แบบไม่รู้ตัวเลยนะ แจ็คสันได้แต่ยืนกอดออกมองคนข้างหน้าแล้วเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

    ยองแจหมุนตัวหันหลังไปอีกทางเพื่อจะเก็บยาที่กระจายอยู่

    “อะ!!”ยองแจหมุนตัวไปชนกับขาของคนที่ยืนดูอยู่พอดียองแจรีบเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ

     “แจ็คสันโอ๊ยย”เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคืนใครยองแจตกใจอีกครั้งไม่ทันระวังจากที่นั่งยองอยู่ก็ล้มลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น

     “เห้ย!!ยองแจ!!”แจ็คสันรีบคว้าแขนอีกคนไว้แต่ก็ไม่ทัน เค้ายังเจ็บขาอยู่นิดๆทำให้ยังเคลื่อนไหวไม่ถนัดนัก

    ยองแจนึกโทษแต่โชคชะตาตัวเอง ทำไมต้องเผชิญหน้ากับแจ็คสันแบบนี้บ่อยๆด้วยนะ สวรรค์เล่นตลกกับความรู้สึกอะไรเค้ากันหนักหนา แค่นี้ก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว จะช่วยให้ตัดใจง่ายๆไม่ได้เลยหรือไงนะ

    “อูยยยย เจอนายที่ไรชั้นเจ็บตัวทุกทีเลย”สองมือจับที่ก้นของตัวเอง พลางเงยหน้ามองค้อนคนที่ยืนกลั้นหัวเราะตรงหน้า ยองแจพยายามรวบรวมสติทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เคยคุยกันยังไงมันก็ควรจะเป็นแบบเดิม

    “อ้าว โทษกันอีกนายไม่ระวังเองต่างหาก”ว่าแล้วแจ็คสันก็ยื่นมือให้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า หวังดีจะช่วยดึงให้ลุกขึ้นมา

    มึงคิดว่าอย่างกูนี่นะ จะชอบคนแบบชเวยองแจได้ลง ในโรงเรียนมีใครชอบนายนั้นบ้างหละ

    นึกถึงคำพูดนั้นแล้วมันก็น้อยใจขึ้นมา เกลียดกันไม่ใช่หรอแล้วจะช่วยทำไม ยองแจมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่สุดท้ายยองแจเลือกที่จะ ปฏิเศษความหวังดีนี้ โดยการพยายามลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง

    ทำให้คนหวังดีถึงกับขมวดคิ้วชนกันด้วยความไม่พอใจเล็กๆ แต่เหมือนสวรรค์นั้นจะกลั่นแกล้งยองแจอย่างไม่สิ้นสุด เมื่อเท้าเล็กดันไปเหยียบเม็ดยาบนพื้นที่ยังเก็บไม่หมดทำให้ยองแจเสียการทรงตัวอีกครั้ง
    แต่ระหว่างที่ร่างของอีกคนจะหงายหลังลงไปสองมือของแจ็คสันคว้าเอวยองแจแล้วดึงเข้ามาประชิดตัวเองไว้ได้ทันท่วงที ถึงจะรู้สึกเจ็บที่ขาข้างที่เจ็บอยู่นิดนึงตอนออกแรงดึงอีกคนเข้ามาเพราะทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงที่ขาทั้งสองข้าง แต่แจ็คสันก็ตั้งใจดึงยองแจเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง

    สองมือเล็กเกาะที่เสื้อของแจ็คสันไว้แน่นโดยอัตโนมัติ เป็นอีกครั้งที่หน้าของยองแจและแจ็คสันห่างกันแค่คืบเดียวเท่านั้น สายตาทั้งคู่ต่างจ้องมองเข้าไปในตาของอีกฝ่าย บรรยากาศภายในห้องเงียบกริบ เงียบจนต่างคนต่างได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นรัวอย่างชัดเจน 

    แจ็คสันรู้สึกชอบใจเวลาเห็นคนตรงหน้าทำหน้าเหวอตกใจมันหน้าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก เค้าชอบมอง เค้ารู้สึกว่าเค้าหลงไหลในการมองหน้าสบตาคนตรงหน้านี้มากเหลือเกิน ยิ่งได้มองใกล้ๆยิ่งไม่อยากจะละสายตา
    ยิ่งเวลาที่ได้แกล้งทำให้เขินหน้าแดง ยองแจยิ่งหน้ามอง ริมฝีปากสีแดงตรงหน้าตัดกับผิวสีขาวยิ่งหน้าหลงไหล

    เป็นยองแจที่หลบสายตาหนีก่อนเมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเค้าถูกวงแขนคนตรงหน้ากระชับให้เข้ามาใกล้กันมากกว่าเดิม

    “ปะปล่อยชั้นได้แล้ว”ยองแจพยายามขยับตัวออกจากอ้อมแขนที่กอดรัดร่างกายเค้าอยู่ เค้าไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองหน้าแดงไปถึงขนาดไหนแล้วเค้าพยายามก้มหน้าไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นถึงความผิดปกติ แต่เหมือนแจ็คสันจะยิ่งกอดแน่นขึ้นไปกว่าเดิมอีก

    “นี่เขินหรอ หน้าแดงไปถึงหูเลย”แจ็คสันแกล้งขยับหน้าไปใกล้ยิ่งกว่าเก่า ยองแจพยายามพลักตัวเองออกให้หลุดจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย

    “ปล่อยได้แล้ว แกล้งกันพอหรือยัง ชั้นต้องรีบไป”ยองแจพูดเสียงแข็ง ถ้ายังอยู่ในสภาพนี้ต่อไปเค้าต้องแย่แน่ๆ ทั้งในใจที่เต้นแรงและอาการใบหน้าร้อนผ่าวนี่อีก

    “ไม่ปล่อยแล้วจะทำอะไรชั้นได้ ดิ้นให้ตายก็ไม่หลุดหรอก แรงนายกับแรงชั้นคิดว่าใครจะชนะ อยากหยิ่งไม่รับความช่วยเหลือจากชั้นดีนัก พูดดีๆสิอ้อนชั้นสิ อาจจะปล่อยไปง่ายๆ”แจ็คสันยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ โดยไม่รู้เลยประโยคที่เพิ่งพูดออกไปเมื่อครู่ได้ตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับคนตรงหน้าอีกครั้ง ยองแจเบือนหน้าหนีไปอีกทางไม่อยากมองหน้าคนใจร้ายตรงหน้าอีกต่อไป

    สุดท้ายแล้วนายก็แค่แกล้งชั้นสินะแจ็คสัน แกล้งเพื่อความสนุกความพอใจของนาย

    ……………….

    “ว่าไง พูดเสียงหวานหวาน แจ็คสันปล่อยยองแจนะ อะไรแบบเนี่ยทำเป็นมั้ย”แจ็คสันพูดเสียงเล็กเสียงน้อยอย่างหน้าหมั่นไส้

    “ปล่อย ชั้นไม่สนุกด้วยหรอกนะ ถ้าครูห้องพยาบาลกลับมาเห็นนายกับชั้นสภาพนี้เข้าจะทำไง”ยองแจคิดว่าต้องออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ ยองแจพยายามดิ้นมากเท่าไหร่แจ็คสันยิ่งกอดเค้าไว้แน่ยิ่งกว่าเก่า 

    “กลัวคนเห็นหรอ ไม่เห็นจะยากเลย”ยังไม่ทันทียองแจจะได้ถามต่อว่าไม่ยากของแจ็คสันคืออะไร แจ็คสันก็หมุนตัวทั้งเค้าและยองแจเข้าไปหลังม่านกันเตียงในห้องพยาบาลทันที

    “นายจะทำอะไร! ปล่อยเดี่ยวนี้”

    “ก็นายกลัวคนมาเห็น ตอนนี้อยู่หลังม่านแบบนี้ก็ไม่มีใครเห็นแล้วไง”ยองแจเห็นสภาพเตียงนอนที่ยับก็พอจะนึกออกแล้วว่าทำไมแจ็คสันถึงเข้ามาอยู่ในห้องนี้ได้โดยที่เค้าไม่รู้ เป็นเพราะแจ็คสันคือคนที่นอนอยู่ที่เตียงหลังม่านนี้นี่เอง

    “ปล่อย ถ้านายไม่ปล่อยชั้นจะไปบอกครูว่านายโดดเรียน!”ยองแจรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมากกว่าเก่าเค้าไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนตรงหน้านี้อีกต่อไป ทั้งใจทั้งร่างกายตอนนี้เค้ารู้สึกแย่เอามากๆ

    “หึ อุตส่าห์คิดว่านายทำตัวน่ารักขึ้นมาบ้างแล้วเชียว สุดท้ายก็ยังขี้ฟ้องเหมือนเดิม”

    “ทำไม ก็ชั้นเป็นแบบนี้ของชั้น นายก็ปล่อยสิวะ นายทำเรื่องแย่ๆอะไรไว้ชั้นจะฟ้องคะ อุ๊บ!”ยังไม่ทันจะพูดได้จบ ประโยคสองแขนที่กอดรัดอยู่ที่เอวยองแจก็เปลี่ยนมาจับล็อคที่หน้าของเค้าเอาไว้ ริมฝีปากบางถูกทาบลงมาปิดด้วยริมฝีปากของเจ้าของมือหยาบนั้น  ยองแจเม้มปากแน่นสองมือเล็กพยายามดึงมือที่เหมือนคีบเหล็กล็อคหน้าตัวเองออกแต่ก็ไม่สามารถทำได้ดั่งใจแรงอีกคนนั้นเยอะมากเหลือเกิน จึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นที่หน้าของอีกฝ่ายแทน เค้าพยายามดันหน้าของแจ็คสันออกคราวนี้ความพยายามเป็นผล

    แจ็คสันปล่อยให้ริมฝีปากบางของอีกฝ่ายได้รับอิสระ

    “ยังจะกล้าไปฟ้องอีกมั้ย ถ้ายังกล้าชั้นจะจูบนายอีก”สายตายองแจมองมาอย่างแข็งกร้าว คนพูดไม่เพียงแค่ขู่โน้มหน้าเข้ามาหวังครอบครองริมฝีปากบางอีกครั้ง แต่คราวนี้ยองแจเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ทัน และเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

    “ไม่ฟ้องแล้วพอใจหรือยัง”จากนั้นก็ใช้มือเรียวเช็ดที่ปากตัวเองไปมาจนริมฝีปากที่แดงอยู่แล้วแดงช้ำมากขึ้นกว่าเดิม แจ็คสันเห็นการกระทำของคนตรงหน้าจึงรวมมือเล็กไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของเค้า ยองแจเงยหน้ามองแจ็คสันอีกครั้งด้วยสายตาตัดพ้อ

    หลังจากที่ถอนจูบออกมาความคิดในสมองของแจ็คสันตีกันวุ่นวายกับการกระทำของตัวเอง เค้าไม่รู้ตัวว่าทำไมถึงตัดสินใจชั่ววูบทำอะไรแบบนี้ลงไป เริ่มแรกเค้าแค่อยากแกล้งให้อีกฝ่ายโมโหเล่นๆ เค้าชอบมองหน้ายองแจชอบมองไม่ว่าจะกำลังทำหน้าแบบไหน และมันเป็นช่วงจังหวะที่เค้าควบคุมตัวเองไม่ได้หน้าอยู่ใกล้กันแค่คืบ แถมยองแจยังมาท้าทายให้เค้าโมโห ปากสวยที่ชอบพูดจาประชดประชันจนเค้าทนไม่ไหว

    “ทำแบบนี้ทำไม”ยองแจถามด้วยเสียงสั่นเครือ พยายามจะสกัดกั้นความอ่อนแอของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดดวงตาสวยเริ่มแดงกล้ำน้ำใสๆเริ่มเอ่อขึ้นมา

    “คะ คือ”แจ็คสันไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่ตัวเองทำกับคนข้างหน้ายังไงในเมื่อเค้าเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำไมถึงทำแบบนี้

    “เกลียดกันมากขนาดนั้นเลยหรอ แกล้งชั้นมันสนุกมากนักใช่มั้ย ขอร้องหละถ้าเกลียดกันนักก็ต่างคนต่างอยู่เถอะนะ อย่าทำแบบนี้อีกเลย”น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงมาอาบแก้มใสอยากลั้นไม่อยู่

    หัวใจของยองแจถูกคนที่ตัวเองชอบทำลายลงหมดแล้ว จูบที่เค้าคิดมาตลอดว่าคนที่รักกันเท่านั้นถึงจะสามารถจูบกันได้ จะจูบกันได้ต้องรักกันสิ แต่ตอนนี้จูบกลับกลายเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งจากคนที่เกลียดเค้านักหนา แจ็คสันโกธรที่เค้าจะเอาเรื่องที่โดดเรียนไปฟ้องครู เลยแกล้งต้องเห็นเค้าอับอายด้วยวิธีนี้ จะด่าจะว่าประชดประชันอะไรเค้าจะแกล้งอย่างอื่นก็ทำได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องมาเล่นกับความรู้สึกของเค้าแบบนี้มันใจร้ายเกินไปแล้ว

    “คือยองแจ ชั้นไม่ได้ตั้งใจ”แจ็คสันไม่ได้คิดว่ามันจะทำให้คนตัวเล็กข้างหน้าเค้าร้องไห้ออกมาได้ขนาดนี้แจ็คสันปล่อยมือยองแจลงเพื่อจะใช้มือของตัวเองเช็ดน้ำตาให้ยองแจ  แต่ยองแจกลับหันหน้าหนีไม่ให้อีกฝ่ายได้ทำตามที่ตั้งใจ ก่อนจะใช้มือของตัวเองเช็ดน้ำตาออกอย่างลวกๆ

    “ต่อจากนี้ไม่ว่านายจะทำอะไรชั้นก็จะไม่เข้าไปยุ่ง และไม่ว่าชั้นจะทำอะไรนายก็ไม่ต้องมายุ่งมาใส่ใจ ต่างคนต่างอยู่ เหมือนกัน”

    เป็นเหมือนก่อน  ยองแจก็เจ็บปวดมากพอแล้วกับการที่ไม่มีเพื่อน

    แต่ถ้าต้องให้มันเป็นอยู่แบบนี้มันยิ่งเจ็บปวดมากยิ่งกว่า  เมื่อคนที่ชอบไม่ชอบ มากกว่านั้นคือแจ็คสันเกลียดยองแจ

    “ขอโทษ”แจ็คสันเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด แจ็คสันยอมรับว่าน้ำตาของยองแจมีผลกระทบต่อความรู้สึกเค้ามากอย่างไม่หน้าเชื่อ เค้ารู้สึกเจ็บปวดไปด้วยเมื่อเห็นยองแจเสียใจแต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร รู้แค่ว่าไม่ชอบให้ร้องไห้

    “จูบหนะ เค้าต้องทำกับคนที่รักกันไม่ใช่หรอ ถ้านายไม่ได้รักชั้น อย่ามาเล่นกับความรู้สึกคนอื่นแบบนี้อีก”ยองแจเช็ดน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่อีกครั้งสบตาแจ็คสันด้วยสายตาตัดพ้ออีกครั้ง  ก่อนหมุนตัวรูดเปิดม่านที่กั้นอยู่ออกไป แจ็คสันไม่ได้เดินตามออกไป

    “จูบหนะ เค้าต้องทำกับคนที่รักกันไม่ใช่หรอ”

    คำพูดสุดท้ายที่ยองแจพูดไว้ก่อนออกไป ทำให้แจ็คสันยิ่งสับสน  เพราะแจ็คสันก็เป็นคนที่คิดแบบที่ยองแจพูดมาตลอด เค้าหนะจะจูบกับคนที่เค้ารักเท่านั้น ถ้าไม่ใช่คนที่เค้าตกลงคบเป็นแฟนหรือมีความรู้สึกดีๆด้วยจริงคนอย่างแจ็คสันไม่ได้มอบจูบให้ใครง่ายๆ พวกผู้หญิงที่เข้ามาชั่วข้ามคืนเค้าไม่เคยรู้สึกอยากจะจูบด้วยเลยสักนิด

    แต่แล้วนี่ชเวยองแจคืนคนที่เค้าเกลียดขี้หน้าไม่ใช่หรอ  ทำไมเค้าถึงมีความคิดอยากสัมผัสปากบางนั้น
    จนในที่สุดก็ทำมันลงไป

    แจ็คสันเริ่มรวบรวมความคิดและการกระทำหลายอย่างของตัวเองเข้าด้วยกันเพื่อหาคำตอบให้ตัวเอง
    ยิ่งคิดมันยิ่งชัด ทุกความรู้สึกที่เค้ามีต่อชเวยองแจ มันไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมห้องเหมือนเดิม และมันก็ไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนตอนวัยเด็กด้วยอีกเช่นกัน เค้าไม่ได้เกลียด แต่เค้าชอบชเวยองแจ ชอบแบบไม่ใช่เพื่อน

    เค้าไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ตอนนี้เค้ามั่นใจว่าใช่

    แต่จะให้ทำยังไง เกลียดขี้หน้ากันมาตั้งนานจะให้บุกไปจีบเลยมันก็เสียฟอร์มเกินไปหน่อย

    แควกกกก!  ม่านข้างหน้าแจ็คสันถูกแหวกออก

    “แจ็คสัน ใครทำยาพวกนี้หกลงมา นายอยู่ในห้องนี่คนเดียว ตอบมาสิ!

    เป็นครูประจำห้องพยาบาลจอมเนี้ยบที่กลับมาจากพักกลางวันพอดี แจ็คสันมองตามยาเม็ดที่กระจัดกระจายเต็มห้อง

    “คือ ผมขอโทษครับ”แจ็คสันก้มหัวลงเป็นการสำนึกผิด ไม่รู้จะบอกยังไง คือเค้าก็ไม่ใช่คนทำหรอก แต่เค้าเป็นคนทำให้คนที่ทำหกวิ่งหนีออกไปแล้ว

    “หางานให้ชั้นจริงเลย ถ้าจะใช้ให้เธอเก็บชั้นก็จะใจร้ายเกินไปใช่มั้ยใช้คนเจ็บขาเนี่ย”

    “ขอโทษจริงๆครับที่ผมไม่ทันระวัง”แจ็คสันก้มหัวขอโทษอยู่หลายครั้ง

    “ละนี่นายจะไม่ไปเรียนหรอ ดูว่าจะไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่แล้วหละมั้ง”

    “เรียนครับ ดีขึ้นมากแล้วครับ ไปแล้วครับ”แจ็คสันรีบก้มหัวลาอีกครั้งก่อนจะรีบเดินหนีออกไปจากห้องพยาบาลให้เร็วที่สุดไม่งั้นโดนบ่นหูชาต่อแน่

    ยองแจเดินกลับมาที่ห้องเรียน  ตั้งใจจะเก็บของ  วันนี้เค้าจะขออนุญาตครูกลับบ้านก่อนทั้งง่วงนอนทั้งปวดหัว ทั้งรู้สึกปวดใจจนเค้าไม่สามารถนั่งเรียนได้รู้เรื่องอีกต่อไปแล้ว

    “ยองแจมาพอดีเลย  เอ๊ะ! สีหน้านายดูไม่โอเคเลยนะ”เป็นจินยองที่ทักทันทีที่ยองแจมาถึงด้วยความเป็นห่วง

    “คือชั้นยังปวดหัวอยู่หนะ”ยองแจนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง

    “เออ เมื่อกี้ชั้นเจอครูวิชาเกาหลีอะ ฝากเรียกยองแจไปหาที่ห้องพักครูด่วนเลย”

    “เห้ออออออ”ยองแจถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างหมดแรง เค้าว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อน  ทำไมต้องเรียกตอนนี้ด้วยเนี่ย วันนี้มันวันอะไรกันนะ มีแต่เรื่องวุ่นวายใจ

     

    100%

     

    ++++++++++++++++++++++

    สวัสดีค่ะทุกคนหลังจากไม่ได้มาอัพนานมาก เราต้องขอโทษจริงๆนะ บ่นได้แต่อย่าด่านะ เราจะเสียใจ ฮ่าๆ
    ด้วยอะไรหลายๆอย่างช่วงที่ผ่านมาเวลาว่างน้อย
    +สมองตีบตันมาก
    ปัจจุบันก็ยังรู้สึกตีบตันอยู่มาก แต่คิดว่าควรแต่งต่อสักทีเหอะ
    หวังว่ายังมีคนอ่านอยู่นะ จริงๆเราก็ออกอ่าวเสมอตอนนี้ก็เช่นกัน
    ตอนนี้ยองแจของเรารักใสใสหัวใจว้าวุ่นมาก ฮ่าๆ

    จะพยายามให้อีกสองตอนจบจะจบมั้ยไม่รู้ ละจะรีบมาต่อ ที่เหลือนะคะ

    ++++++++++++++++++++++


    มาต่ออีก50%แล้วนะคะทุกคน
    เย้ๆๆในที่สุดก็รู้ใจตัวเองกันสักที ครึ่งหลังเป็นตอนแจ็คสันหัวใจว้าวุ่นบ้าง
    พอจะรู้ใจก็รู้กันดื้อๆแบบนี้เลยเนาะ เอามันแบบนี้แหละ
    ทำไมเราทำร้ายยองแจทุกตอนเลยนะ มานั่งอ่านละแบบน้องเสียใจทุกตอนเลย
    เป็นกำลังใจให้เราจบไม่เกินอีกสองตอนด้วยนะคะ
    T^T
    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ เลิฟฟฟฟ >3<
    มีคำผิดบอกได้เน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×