ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC GOT7 X YOUNGJAE 2JAE : MARKJAE : JACKJAE : NIORJAE : BAMJAE : YUGJAE

    ลำดับตอนที่ #7 : [OS 2JAE] เปรี้ยวใจ (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.25K
      19
      21 ก.พ. 58

     


    เปรี้ยวใจ

    แจบอมxยองแจ

     

    วันวาเลนไทน์ วันที่คู่รักทั่วโลกเฝ้ารอ ผมก็เป็นคนนึงที่เฝ้ารอวันนี้อย่างใจจดจ่อ หวังว่าวันสำคัญมันจะพิเศษขึ้นมาบ้าง
    ก็แค่หวังนิดเดียวอะนะ นิดเดียว

    "พี่แจบอมวันนี้เราไปดูหนังกันเถอะนะ นะ นะ"

    ผมกำลังเฝ้าอ้อนวอนผู้ชายคนนึงที่กำลังใจจดจ่ออยู่กับการรดน้ำพรวนดินต้นไม้ในสวนเล็กๆบริเวณระเบียงห้องหนาวก็หนาวมาปลูกต้นไม้ไรตอนนี้ ใช่แล้วหละผู้ชายคนนั้นคืออิมแจบอมคนรักของชเวยองแจ

    "คุยกันแล้วหนิว่าวันนี้จะอยู่ด้วยกันที่ห้องก็พอแล้ว"

    ปากก็พูดไปแต่ตาพี่แจบอมก็สนใจแต่ต้นไม้ เอาเหอะทำใจมาแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ผมก็เคยชวนไปกินเค้ก ไปเที่ยวแบบที่คู่รักคู่อื่นเค้าทำกันในวันวาเลนไทน์ เคยอ้อนไปแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ก็เลยตกลงกันว่าวาเลนไทน์นี่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่ห้อง อิมแจบอมผู้ที่ไม่ชอบคนพลุพลานในเทศกาลต่างๆ ชเวยองแจเข้าใจ

    "ก็แค่ชวนดู๊ เผื่อพี่จะเปลี่ยนใจไง แต่ไม่เป็นไรหรอกแค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ดีแล้วเนาะ"

    ผมถึงกับต้องหันหน้าหนีไปเบ้ปาก ถึงจะไม่ได้พูดออกมาจากใจแต่ก็ต้องยอมรับสภาพ  ดันเผลอให้ใจผู้ชายไร้ความมุ้งมิ้งคนนี้ไปแล้วหนิ

     

    นี่ถ้าใครไม่รู้ก็คงจะคิดว่าผมไปจีบพี่แจบอมก่อนแน่ๆ เห็นผมแบบนี้แต่จริงๆแล้วขี้อายอยู่นะให้ไปจีบใครก่อนไม่กล้าหรอก เค้ามาจีบผมก่อนต่างหากหละเรื่องมันผ่านมาสองปีแล้ว ตั้งแต่สมัยมัธยม พี่เค้าเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน ผู้ที่มีฉายาว่า มนุษย์(ยุค)หินอิมแจบอม ตอนนั้นก็เคยได้ยินชื่อบ้างแต่ไม่ได้อยากทำความรู้จักเป็นพิเศษอะไร แค่ฉายาก็ไม่หน้าคบละท่าจะเป็นพวกหัวโบราณ จนเช้าวันนึงผมเปิดล็อกเกอร์เจอจดหมายฉบับนึงพร้อมกับขนมปังและนมยี่ห้อที่ผมซื้อกินทุกเช้า

     

    ถึง  ชเวยองแจ

    จากนี้ไปชั้นจะจีบนาย เพราะชั้นชอบนาย

    จาก อิมแจบอม

     

    มาสั้นๆง่ายๆแต่ได้ใจความตอนแรกผมก็นึกว่าโดนเพื่อนแกล้ง แต่วันต่อไปก็มีขนมกับนมวางอยู่ในล็อกเกอร์อีก ที่ทำให้แน่ใจว่าไม่ได้โดนแกล้งคือเย็นวันนั้นระหว่างทางกลับบ้านผมรู้สึกได้เหมือนมีคนตามตลอดทาง ด้วยความกลัวเลยไม่กล้าหันกลับไปดู ทำได้เพียงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นพอถึงบ้านแล้วผมก็รีบวิ่งเข้าบ้านปิดประตูวิ่งขึ้นชั้นสองเข้าห้องตัวเองไปแอบเปิดม่านดูว่าใครหรือโรคจิตที่ไหนตามมา สิ่งที่เห็นคือผู้ชายชื่ออิมแจบอมยืนอยู่หน้าบ้านผม ตามผมมาทำไมกันวะนี่ชอบจริงอะ หรือเป็นโรคจิตวะ และจากนั้นทุกเช้าการเอาขนมพร้อมโน้ตข้อความมาใส่ล็อกเกอร์และตอนเย็นเดินตามไปส่งผมที่บ้านก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของพี่แจบอม  ไม่ค่อยกล้าคุยกล้าทักเดินตามเงียบๆ ตอนแรกๆผมก็คิดว่าผู้ชายคนนี้วิธีจีบเชยมากนี่มันสมัยไหนละ นี่เกิดยุคหินอย่างที่เค้าว่าจริงป่าววะ แต่สุดท้ายแล้วชเวยองแจก็แพ้พ่ายให้กับมนุษย์หินอิมแจบอมอย่างหมดใจ ผมตกหลุมรักในความสม่ำเสมอจากวันแรกตั้งแต่วันที่ผมยังไม่เปิดใจจนวันที่เราคบกันผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลยรวมทั้งการแสดงออกว่ารักแบบทื่อก็ไม่เปลี่ยนยังคงอยู่ยุคหินเช่นเดิม แต่นี่แหละเสน่ห์ของเค้าที่ไม่เหมือนใคร ><

     

    "นี่จะปลูกต้นไม้อีกนานมั้ยหิวแล้ว" ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องสักนิด มาถึงก็เห็นแต่เจ้าของห้องงมอยู่กับต้นไม้

    "ของกินอยู่ในครัวแค่เข้าไมโครเวฟอุ่นก็กินได้แล้ว" เป็นไปอย่างที่คิดพี่แจบอมทำกับข้าวไว้รอผมตามเคย วันไหนที่บอกว่าจะมาหาก็จะเตรียมไว้แบบนี้เสมอ

    "พี่แจบอมกินด้วยกันนะ" พี่แจบอมแค่หันมายักคิ้วแทนคำตอบผมยิ้มหน้าบานรีบปรี่เข้าไปในครัว

    แล้วสิ่งที่เจอในครัวมันทำให้ผมน้ำตาแทบไหลเมนูที่พี่แจบอมเตรียมไว้มีแต่ของโปรดของผมทั้งนั้นเลย รักอิมแจบอมที่สุดผมจัดการเอาอาหารเข้าไมโครเวฟที่ละอย่างๆนี่คงตื่นมาทำแต่เช้าสินะ แค่ได้กลิ่นก็น้ำลายไหล  เมื่อเปิดตู้เย็นไปน้ำตาผมจะไหลรอบที่สอง นี่มันเค้กร้านที่ผมบ่นว่าอยากกิน กับไอศกรีมรสที่ผมชอบหนิ เตรียมไว้เพื่อวันนี้เลยสินะ แหมๆแล้วทำเป็นไม่สนใจเรา ฟอร์มเยอะจริงๆ ผมรู้สึกเหมือนกำลังเห็นดอกทานตะวันกำลังบานเบ่งเต็มทุ่งไกลสุดลูกหัวลูกตามีความสุขจัง

    มื้ออาหารที่แสนเรียบง่ายของเราสองคนก็ผ่านไปด้วยดี นั่งกินข้าวด้วยกันไปคุยกันไปแบบนี้มันก็ดีนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นผมที่คุยเยอะอยู่ฝ่ายเดียวก็เถอะ ส่วนอีกคนแค่นั่งพยักหน้าละก็ยิ้มตาม ทั้งๆที่บอกให้ผมลดน้ำหนักแต่กลับทำแต่ของที่ชอบแบบนี้ใครจะลดได้หละ นี่ก็กินซะเกลี้ยงเลยก็กลัวแฟนเสียใจนี่

    เมื่อกินเสร็จแล้วก็ช่วยกันเก็บโต๊ะอาหารพี่แจบอมมีหน้าที่ล้างจานอีกเช่นเคยผมเคยจะช่วยล้างนะแต่เค้าบอกกลัวจานแตกเสียดายระหว่างรอคนล้างจานผมก็เดินเจื้อยแจ้วไปมาในครัวแล้วก็เปิดตู้นั้นทีนี่ทีและก็ไปเปิดตู้เย็น

    "โอ๊ะ!! พี่แจบอมเค้กในตู้เย็นของใครอ๋อ? หน้ากินจัง" ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้วก็ยังอยากถาม อิอิ

    "ก็อยากกินไม่ใช่หรอซื้อมาไว้ให้กินไง" หันมาตอบตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยทั้งๆที่ตั้งใจเตรียมไว้ให้ขนาดนี้ เชอะ!!

    "แล้วไอศกรีมนี่ซื้อมาให้ด้วยหรือป่าว" ผมถือถ้วยไอศกรีมไปยืนพิงข้างๆที่เค้ายืนล้างจานอยู่

    "อืม ใช่"

    "งั้นกินด้วยกันนะ"

    ผมรีบเปิดฝาถ้วยไอศกรีม ใช้ช้อนตักเข้าปากตัวเองหนึ่งคำแล้วก็ตักอีกหนึ่งคำยื่นไปป้อนคนที่ล้างจานอยู่
    อ๊ากกกกนี่เขินนะเนี่ย

    แต่ฝันก็สลายอีกรอบภาพเราสองคนป้อนไอศครีมกันไปมาหนุงหนิงมันก็พังทลายลงในพริบตา

    "กินเหอะ พี่ไม่อยากอ้วน" นอกจากจะไม่ร่วมมือในการสร้างความโรแมนติคแล้วยังเหมือนหลอกด่ากันยังไงไม่รู้

    "เอออ้วนคนเดียวก็ได้ ไปนอนดูหนังดีกว่า" ผมเดินกระทืบท้าวออกจากห้องครัวไปอย่างขัดใจ ก็ไม่ได้โมโหอะไรจริงจังหรอกแค่ทำๆไปงั้นแหละ หมั่นไส้คำเดียวจริงๆ มนุษย์หินเอ๊ย

    มีอะไรดู บ้างเนี่ย เรื่องนี้ดูแล้ว ดูแล้ว อันนี้หนังผีไม่ดู มีแต่หนังฆาตกรโรคจิตมีแฟนแบบนี้ จะโดนฆ่าหันศพมั้ยวะเรา
    ผมรื้อแล้วก็รื้อๆอีกในชั้นเก็บแผ่นดีวีดีของพี่แจบอม มันมีแต่หนังที่ดูแล้วทั้งนั้นเลย

    พี่แจบอม!!! ไม่เห็นมีหนังใหม่ๆดูเลยอะ ผมตะโกนเสียงดังเพื่อให้คนในครัวได้ยิน แต่ระหว่างนั้นพี่แจบอมเดินออกมาจากห้องครัวพอดีผมลุกกลับมานอนแผ่ที่โซฟาอย่างเบื่อเซ็ง

    ไม่มีอะไรให้ทำเลย รายการทีวีก็ไม่มีอะไรหน้าดูมีแต่ข่าวเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ไม่ก็คู่รักแต่งงานกัน  หน้าเบื่อๆ
    แล้ววันนี้จะทำอะไรอะ นอนแผ่แบบนี้ทั้งวันก็เบื่อแย่

    อะนี่ อยู่ๆพี่แจบอมก็เดินเอาถุงกระดาษในนึงมาวางไว้บนโต๊ะข้างโซฟาที่ผมนอนแผ่อยู่

    ไรอะ ของขวัญวาเลนไทน์หรอผมยังคงนอนอยู่แบบเดิมและเหล่มองมันด้วยหางตา เพราะไม่คิดว่าจะเป็นของขวัญจริงๆอย่างที่พูดไปเลยไม่มีความตื่นเต้น

    กินแล้วก็นอนแบบนี้มันจะไม่อ้วนได้ไง พี่แจบอมนั่งลงโซฟาตัวเดียวกับที่ผมนอนอยู่

    แบร่ :P”ผมลุกขึ้นมาแลบลิ้นใส่คนข้างหน้าอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะคว้าถุงกระดาษมาเปิดดู

    “..........”

    โอ๊ะ!!!นี่มันหนัง ที่ผมอยากดูทั้งนั้นเลยหนิ เอ้ย อันนี้ก็อยากดู

    ก็เปิดดูดิ

    เดี๋ยวนะๆ หนังพวกนี้มันไม่ใช่สไตล์ที่พี่ดูหนิ นี่ซื้อมาให้เค้าอ๋อผมขยับเข้าไปนั่งติดกับอีกคนบนโซฟา

    ก็เห็นบนว่าอยากดูไง

    เตรียมไว้เพื่อวันนี้เลยสิท่า น่ารักเหมือนกันนะเราอะ”ผมเอาไหล่กระแทกคนข้างๆเบาๆก็จะลุกไปเปิดหนังดูละรีบวิ่งกลับมานอนหนุนตักผู้ชายของผม

    “เห็นนะว่าแอบยิ้มอะ ชอบอะดิแบบนี้”

    “ดูหนังไปเลย อย่าพูดมาก” ถึงจะพูดจามะนาวไม่มีน้ำแบบนี้ก็เหอะ แต่หน้านี่แอบยิ้มอยู่ชัดๆเลย

    “อยากยิ้มก็ยิ้มเหอะน่า”ผมยืนมือขึ้นไปดึงแก้มเจ้าของตักที่ผมหนุนอยู่อย่างหมั่นเขี้ยว

    “ปล่อยยยยยย”แต่ก็โดนมือใหญ่ยืนมาดึงที่แก้มผมคืนเหมือนกัน

    “อาาาาาเจ็บบบนา จาดูหนางงง”

    ผมยอมปล่อยมือก่อนพี่แจบอมเลยยอมปล่อย สงคราวเล็กๆของเราก็จบลง
    “ดูหนังแล้วพี่ห้ามแกล้งด้วย”

     

     

    “ฮ้าวววว วว วววววว พี่แจจจจจบอมมมมอยู่หนายยยยย”ผมลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจมองซ้ายขวาทีหาเจ้าของห้อง จำได้ว่านอนดูหนังอยู่ ละเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หมอนของผมก็หายไปด้วย ผมเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ฝาผนัง
    นี่มันจะหกโมงเย็นแล้วนี่นาวันนี้เรากินข้าวด้วยกันตอนสายดูหนังจบไปหนึ่งเรื่องละพี่แจบอมก็ต้มรามยอนกินกันตอนบ่ายละก็ดูหนังด้วยกันต่อจนผมเผลอหลับไป เป็นวันที่เรียบง่ายแต่มีความสุขเหมือนทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันไม่ใช่แค่วาเลนไทน์ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันผมมีความสุขเสมอ ใกล้ได้เวลากลับบ้านแล้ว ผมเดินวนไปมาหาเจ้าของห้อง

    “อ้าว! หนาวก็หนาวออกไประเบียงอีกละอะไรกับต้นไม้นัก”บ่นยังไม่ทันจบ คนถูกบ่นลับหลังเหมือนจะรู้ว่าโดนบ่นเปิดประตูกระจกเข้าห้องมาพอดี

    “ตื่นแล้วหรอ”
    “เห็นว่านอนอยู่ป่ะหละ”พี่แจบอมไม่ต่อปากต่อคำกลับมา ได้แต่ยืนจ้องมาที่ผมแล้วอมยิ้ม ยิ้มไรอะ ผมนอนน้ำลายไหลหรือป่าวอะ รีบเอามือขึ้นมาเช็ดรอบๆปาก หน้าอายชะมัด

    “อะ ของขวัญวาเลนไทน์”ผมมองสิ่งของที่พี่แจบอมบอกว่าเป็นของขวัญวาเลนไทน์อย่างงงๆ มันคือกระถางต้นไม่สีเหลืองอ่อนในกระถางมีดินชุ่มใส่อยู่เต็มกระถาง

    “ห๊ะ!!อะไรอะ”ผมรับมันมาอย่างมึนๆแต่ก็ยิ้มดีใจตาปิด แต่การได้ของขวัญวาเลนไทน์จากอิมแจแบมนี่เหนือคาดมากต่อให้ของขวัญนี่จะเป็นดินเป็นหญ้าผมก็ดีใจละ คนบ้าไม่ชอบอินกับเทศกาลอยากให้อะไรตอนไหนก็ให้ถ้าไม่อยากให้ก็อย่าหวังว่าจะได้

    “มันคือต้นทานตะวัน พี่เพาะเมล็ดมันไว้ในกระถางนี่ไง ให้ยองแจเอาไปเลี้ยงให้โต”

    “ห๊ะ!!เกิดมาไม่เคยปลูกต้นไม้เลยนะ มันจะรอดหรอแล้วมาปลูกหน้าหนาวแบบนี้อีก”

    “ไม่ได้ให้ปลูก ปลูกให้แล้วแค่ทำให้มันโตขึ้นเอง ทำให้แล้วเลี้ยงต่อให้หน่อยไม่ได้หรอ”

    “งั้นจะตั้งใจดูแลให้เต็มที่เลย พอมันออกดอกจะรีบถ่ายรูปมาอวดเลยนะโอเคมั้ย”

    “ถ้าทำให้มันออกดอกได้ อยากได้อะไรพี่ยอมทุกอย่างเลย เป็นรางวัล”

    “จริงนะ!! ถ้าบอกว่าอยากไปดูหนังกินข้าวไปสวนสนุกด้วยกันก็จะพาไปใช่มั้ย”พี่แจบอมแค่ยักคิ้วแทนคำตอบแบบที่เค้าชอบทำ

    “แล้วถ้ามันตายหละ”ผมก้มลงมองดินในกระถาง นี่มันเริ่มมากจากเมล็ด ถ้าเมล็ดที่พี่แจบอมเอามาปลูกมันเน่าไปแล้วตั้งแต่ก่อนปลูกหละอย่างงี้ยองแจจะทำยังไง

    “ก็จะโดนทำโทษไง”พี่แจบอมยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าผมมาก จนผมรู้สึกเขิน หน้านี่ร้อนผ่าวไปหมด แถมยังเอามือทั้งสองข้างมากุมมือผมที่ถือกระถางต้นไม้อยู่

    “ทำโทษอะไรอะ”ผมได้แค่พูดเสียงงึมงำในคอ แต่มั่นใจว่าอีกคนได้ยินชัวร์ ก็หน้าอยู่ใกล้แค่นี้

    “ถูกจูบสักสิบทีดีมั้ย”ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยินถ่อยคำแบบนี้ออกจากปากอิมแจบอมนี้ ใครสอนให้พูดแบบนี้
    แต่ใครจะสอนไม่รู้หละ แต่ทำให้ใจผมเต้นแรงได้ขนาดนี้ถือว่าผ่าน ตั้งแต่คบกันมายังไม่เคยจูบกันเลยสักครั้งทั้งทีมันควรจะทำกันสักครั้งตั้งนานละ

    “หรือจะแกล้งไม่รดน้ำดี”ผมยิ้มกลับไปอย่างท้าทาย

    “ไม่กลัวหรอ งั้นหรืออาจจะมากกว่าจูบดี” เสียงต่ำพูดเบาๆใกล้ๆหูแบบนี้มันทำให้ผมนี่ขนลุกซู่อะไรคือมากกว่าจูบ มากกว่าจูบคืออะไร หรือจะแกล้งทำให้ต้นไม้นี่ตายดีนะ คิคิ

    “โอ๊ย!!!”เหมือนถูกดับฝันเมื่อถูกดีดที่หน้าผาก

    “คิดอะไรอยู่ชเวยองแจ ดูแลมันให้ดีเลยนะ ห้ามคิดว่าจะทำให้มันตาย”เหมือนจะรู้ทันความคิดผมตลอด

    “บ้าดิ ของขวัญวาเลนไทน์ชิ้นแรกจากแฟนก็ต้องดูแลดีๆอยู่แล้ว”

    “อืม ดีมาก ไปล้างมือก่อนนะ”พี่แจบอมกำลังจะหมุนตัวเดินไปยังห้องครัว

    “พี่แจบอมเดี๋ยวก่อน”คนถูกเรียกชะงักลงทันที

    “หืมม”สองมือของผมยังถือของขวัญชิ้นสำคัญอยู่ สองเท้าเขย่งเพื่อหอมแก้มมนุษย์หินตรงหน้าแบบที่เค้าไม่ทันตั้งตัว

    “ขอบคุณนะ สำหรับทุกอย่างรักพี่ที่สุดเลย”กระซิบข้างหูเบาๆ

    “อืม” ถึงจะตอบออกมาแค่นั้นแต่ก็แอบอมยิ้มหน้าแดง อิมแจบอมนะอิมแจบอม

    “จะไปล้างมือไม่ใช่หรอ ไปสิ”ไม่คิดว่าจะได้คำหวานกลับอยู่แล้ว
    “อืม”ว่าแล้วอิมแจบอมก็หมุนตัวเดินเข้าไปในห้องครัว โดยมีชเวยองแจเดินตามมาติดๆ

    “นี่ต้องหากล่องใส่ให้ด้วยนะเนี่ย ถ้าเดินกลับบ้านแล้วหิมะตกใส่แล้วมันตายขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ได้งอกเลย ผมก็แย่ดิกลัวโดนจูบจะแย่ คริคริ แล้วเดินไปส่งที่บ้านด้วยนะอิมแจบอม เข้าใจมั้ย”

     

    ถึงจะเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่พร่ำบอกว่ารักเค้า แต่ผมก็ไม่เคยเสียใจหรือน้อยใจเลยที่แทบจะไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากพี่แจบอม ทุกการกระทำของเค้ามันชัดเจนมากกว่าคำว่ารักที่พูดออกจากปากซะอีก การกระทำที่ว่าอาจจะไม่ได้ดูหวานหรือหวือหวามากมายอะไรออกจะธรรมดาซะด้วยซ้ำ แต่ก็ทำให้ชเวยองแจรักอิมแจบอมมาได้จนทุกวันนี้

     

    สุดที่รักของชั้นน่ารักที่สุดเป็นมนุษย์ที่หน้าเอ็นดู

    อาจไม่หวานไม่ซึ้งตัวชั้นไม่รู้แต่ถ้ามีเธออยู่มันเปรี้ยวใจ


    ++++++++++++++++++++++++++

    ขอบคุณนะคะสำหรับคนที่เข้ามาอ่านฟิคบ้านๆของเรา
    เป็นฟิคที่เรียบร้อยมากไม่มีอะไรตื่นเต้น
    เรื่องนี้มันมาจากวิทยุเปิดเพลงเปรี้ยวใจของนิโคล(เพลงบอกอายุเลย)
    เลยอยากแต่งฟิคขึ้นมา กะว่าจะลงวาเลนไทน์ สรุปแต่งไม่เสร็จ
    กว่าจะได้ลง ชวนจินตนาการว่าวันนี้คือวาเลนไทน์หน่อยนะคะ ฮ่าๆ
    19/02/2015

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×