คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : [SF JACKJAE] SNITCH : CHAPTER 1 (100%)
SNITCH
CHAPTER 01
JACKJEA
กริ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เสียงกริ่งหมดคาบเรียนดังขึ้นพร้อมกับเสียงจอแจที่ดังขึ้นต่อกันทันที
“$$#%^&^&*(*)(&^$%#@##$E%R^%&^^*&(*))+_))+(_)*(&&^&^$%#$%$&*(_+++_)”
“เงียบ !!!ฟังก่อน!!”
“…………………………………”ภายในห้องเรียนสงบขึ้นอีกครั้ง และทุกคนให้ความสนใจไปที่คุณครูหน้าห้องเรียน
“สัปดาห์ถึงกำหนดส่งรายงานแล้วนะ”
“&)_)*^$$@#!#$%^%(_)_Q(+_@”
“ฟัง!!!!!”
“……………..”
“ถ้าใครไม่มีส่ง ไม่มีสิทธิสอบปลายภาควิชานี้แน่ รู้ใช่มั้ยครูพูดจริงทำจริง”เมื่อครูประจำวิชาเดินพ้นประตูห้องไปเสียงจอแจดังขึ้นต่างคนต่างจับกลุ่มพูดคุยหยอกล้อเล่นกันบางกลุ่มก็ทยอยกันกลับบ้าน
“จินยองงงงงง คนดี ดีที่สุดในโลก”เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานเหมือนจะรู้ชะตากรรมตัวเองกลายๆ มาเสียงแบบนี้ไม่หน้าเป็นผลดีต่อ ปาร์คจินยองคนนี้แน่ๆ
“นายมีอะไรหรือป่าวแจบอม”จินยองไม่กล้าสบตาแจบอมตรงๆ ซึ่งตอนนี้นั่งคุกเข้าเอามือเท้าคางบนโต๊ะเรียนฝั่งตรงข้ามจินยองพร้อมส่งยิ้มตาปิดมาให้คนตรงหน้า
“เออ คือว่าสัปดาห์หน้าฉันต้องแข่งบอล ใช่มั้ยหละ แล้วคือก็ต้องซ้อมทุกวันเลย แล้วนายคิดดูดิพวกฉันจะเอาเวลาไหนมาทำรายงานวิชาภาษาเกาหลีนั่นที่ต้องส่งสัปดาห์หน้าเหมือนกัน”แจบอมพยายามใช้ลูกอ้อนออดอ้อนจินยอง มาส่งยิ้มสบตากันใกล้ๆขนาดนี้คนอย่างจินยองจะทำอะไรได้นอกจากเขินหน้าแดง เมื่อยังไม่ได้คำตอบแจบอมยิ่งรุกหนักขึ้นโดยการคว้ามือขวาของจินยองไปกุมไว้ แจบอมรู้ว่าจินยองแอบชอบเค้ามาตลอดเพียงแค่อ้อนนิดๆหน่อยๆไม่ว่าแจบอมจะเอ่ยปากให้จินยองช่วยอะไรก็มักจะได้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ จินยองเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน แต่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยกล้าแสดงออกหัวอ่อนและเป็นคนเดียวที่คอยแอบช่วยเหลืองานยองแจอยู่บ่อยๆ
“อืม”สุดท้ายจินยองก็ยอมแจบอมอย่างเช่นทุกครั้ง แจบอมรีบเดินไปหยิบเอกสารบนโต๊ะตัวเองมาให้จินยอง โดยไม่ทันได้สังเกตุว่าเพื่อนที่แสนดีคนนี้แอบถอนหายใจเฮือกใหญ่
“อะนี่ หัวข้อของชั้นแล้วก็ฝากทำของไอ้แจ็คอีกเล่มด้วยนะจินยองนะ มันก็ต้องไปแข่งบอลกับฉันเหมือนกัน”
เจ้าของชื่อที่ถูกเอ่ยขึ้นยังคงนั่งอยู่โต๊ะเรียนที่เดิมมองการกระทำของเพื่อนซี้อย่างใจจดจ่อ ทั้งสองวางแผนกันมาอย่างดีว่าจะให้จินยองช่วยเรื่องนี้ เพราะว่าการแข่งขันฟุตบอลครั้งนี้สำคัญมากและรายงานนี้ก็สำคัญมาก จินยองเริ่มมีอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สีหน้าเปลี่ยนเป็นลำบากใจแบบสุดๆ
“เออ คือว่า”
“นะ นะ ถือว่าขอร้องหละมีแค่นายนะที่ช่วยได้”สายตาพิฆาตจินยองของแจบอมทำงานอีกรอบทันที
“แต่ ว่าสัปดาห์นี้ฉันต้องช่วยที่บ้านทำงานแทนพ่อ คะ คือฉันกลัวว่าจะทำไม่ทัน”เมื่อคิดถึงเรื่องสำคัญที่ตัวเองต้องรับผิดชอบจินยองก็ลำบากใจอย่างที่สุด ถ้าลำพังเล่มสองเล่มอดนอนสามสี่คืนหน้าจะเสร็จ แต่ถ้าสามเล่มเค้ากลัวว่าจะทำให้ไม่ทันจริงๆ แต่ในใจก็ไม่อยากทำให้แจบอมผิดหวัง
พรึบ!!!กระดาษที่ว่างอยู่บนโต๊ะถูกใครบางคนกระชากไปแบบไม่ทันตั้งตัว
“เห้ย!!! ยองแจ!!”ทั้งจินยองและแจบอมหันไปมองคนที่มาใหม่พร้อมกันอย่างตกใจ รวมทั้งแจ็คสันที่นั่งสังเกตการณ์อยู่ด้านหลังก็ด้วย
“มันงานของพวกนายพวกนายก็ทำเองสิ”ยองแจพยายามยัดกระดาษพวกนั้นใส่มือแจบอม ยองแจช่วยคุณครูถือของไปเก็บที่ห้องพักครูหลังหมดชั่วโมงเรียน เค้ากลับมาเก็บกระเป๋าเพื่อจะไปอ่านหนังสือต่อที่ห้องสมุดยังไม่ทันจะก้าวเข้าประตูมาก็ได้ยินที่แจบอมกับจินยองคุยกันเค้าเลยยืนฟังเงียบๆอยู่หน้าห้องจนทนเห็นสีหน้าลำบากใจของจินยองไม่ไหวเลยเข้ามาขัด
“นายเกี่ยวอะไรห๊ะ ชั้นคุยกับจินยอง”แจบอมคว้ากระดาษจากมือยองแจมาอย่างโมโห ยองแจและแจบอมจ้องตากันไม่กระพริบเหมือนกำลังต่อสู้กันด้วยสายตา
“แต่พวกนายทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ก็จินยองบอกว่าไม่ว่างทำไมต้องบังคับ”
“บังคับตรงไหน ฉันบังคับนายหรอจินยอง”แจบอมหันหน้าไปมองจินยองที่ยืนอยู่ข้างๆ
“คะ คือฉันเอ่อ”จินยองไม่กล้าปฏิเศษทั้งยองแจและแจบอม สถานการณ์ตอนนี้มันแย่ซะยิ่งกว่าให้เค้าเอารายงานสามเล่มนี้กลับไปทำเองทั้งหมดซะอีก บรรยากาศในห้องเรียนเงียบสงัดเพราะนอกจากสี่คนนี้ไม่มีใครเหลืออยู่ในนี้แล้ว
“ชเว ยอง แจ นายมันหน้ารำคาญสม่ำเสมอเลย”ไม่ใช่แจบอมที่พูด กลับกลายเป็นแจ็คสันที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ตอนนี้แจ็คสันยืนประจันหน้ากันยองแจแทนแจบอมแล้ว คนตัวเล็กกว่าแอบกลืนน้ำลายลงคออย่างประหม่า
“ก็พวกนายทำเรื่องแย่ๆไง”กับคนอื่นยองแจกล้าเถียงกล้าทะเลาะด้วยอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว แต่พอเป็นแจ็คสันกลับทำให้ยองแจหวั่นใจขึ้นมาทุกครั้ง แต่ถึงยังไงเค้าก็ยอมแพ้ไม่ได้ แจ็คสันก้าวเข้ามาใกล้คนตรงหน้าขึ้นเรื่อยๆ ยองแจเผลอก้าวถอยหนีอัตโนมัติ
“หึ”เมื่อยองแจได้ยินเสียงหัวเราะเหมือนเยาะเย้ยของอีกคน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเสียท่าจึงพลักแจ็คสันออกไปเต็มแรง คนถูกพลักเซถอยหลังไปชนแจบอมที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“เห้ย!!”แจบอมวางกระดาษในมือลงบนโต๊ะอย่างแรงเตรียมพุ่งเข้าไปหายองแจด้วยความโมโห
“พอเถอะ!!”เป็นจินยองที่เข้ามาขว้างไว้ กั้นทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
“ยองแจพอได้แล้ว ฉันเต็มใจทำทุกอย่างเอง นายไม่ต้องมายุ่งหรอกนะ ฉันขอร้อง”จินยองหยิบกระดาษหัวข้อรายงานที่ยับยู่ยี่บนโต๊ะก่อนที่จะคว้ากระเป๋านักเรียนของตัวเอง แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปทันทีโดยไม่ลาใครสักคำ
ยองแจรู้สึกหน้าชา หน้าโดนตบ
“ไงหละชัดมั้ย ฮ่าๆๆๆ”แจบอมหัวเราะด้วยความสะใจเพราะสุดท้ายแล้วจินยองก็เลือกเค้า แจบอมเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองที่โต๊ะอย่างใจเย็นละเดินผิวปากอารมณ์ดีออกจากห้องไป
“นายจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องครูก็ได้นะ ตามสบาย”แจ็คสันพูดเสียงเยาะ คำพูดของเค้าที่ทิ้งไว้ก่อนเดินออกไปมันทำให้ยองแจรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ตอนนั้นที่เค้าถูกเพื่อนๆทั้งโรงเรียนเข้าใจผิดเรื่องยูคยอม ยองแจยังหวังว่าจะมีคนนึงที่รู้จักตัวตนของเค้าดีที่สุด นั้นคือหวังแจ็คสันเพราะเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแถมบ้านยังอยู่ข้างกันอีก นิสัยใจคอแจ็คสันเป็นยังไงยองแจรู้ดี แต่ก็ต้องผิดหวังที่แจ็คสันไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของยองแจอย่างที่เจ้าตัวคิด
++++SNITCH++++
18 : 00
ถึงเวลาที่ห้องสมุดโรงเรียนปิดพอดี ยองแจกล่าวลาอาจารย์ประจำห้องสมุดและเดินออกมา ช่วงไหนที่มีรายงานต้องทำยองแจก็มักจะมาคลุกหาข้อมูลในห้องสมุดจนมืดค่ำแบบนี้เสมอ และวันนี้ก็อีกเช่นกัน รายงานวิชาภาษาเกาหลีที่ครูสั่งเมื่อสามสัปดาห์ที่แล้ว ถ้าเป็นปกติยองแจคงทำเสร็จไปนานแล้ว แต่ช่วงนี้ทั้งงานห้องที่ต้องรับผิดชอบในหัวหน้าห้องและงานโรงเรียนที่คุณครูของร้องให้ช่วยทำให้เค้าไม่มีเวลาว่าง
เค้าตั้งใจจะต้องรีบจัดการมันให้เสร็จก่อนกำหนดส่ง ยองแจเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างเดินทางกลับบ้าน แล้วจินยองจะเป็นไงบ้างนะ ยองแจคิดอย่างหนักว่าเค้าควรเอาเรื่องนี้ไปบอกครูตามที่แจ็คสันท้าทายดีมั้ยทุกอย่างจะได้จบ แต่จินยองคือเพื่อนคนเดียวที่ยอมพูดกับเค้าดีๆและคอยแอบช่วยเหลือเค้าตลอดยองแจไม่อยากทำให้จินยองต้องลำบากใจ ยองแจก็รู้ดีว่าจินยองหนะแอบชอบแจบอม แต่ต้องทำทั้งสามเล่มคนเดียวลำพังของจินยองเองหน้าจะใกล้เสร็จแล้ว
“เฮ้ออออออออออออออ”ยองแจถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างอึดอัดใจเค้าเหมือนมีนางมารกับนางฟ้าทะเลาะกันอยู่ข้างๆหู
‘บอกครูเลยยองแจ พวกนั้นทำไม่ถูกนะ จินยองหน้าสงสาร T^T ความถูกต้องต้องมาก่อนสิ’
‘นายบอกครูไม่ได้นะยองแจ จินยองต้องไม่พอใจแน่ๆ แล้วนายจะไม่เหลือใครอีกนะยองแจ นายก็จะถูกจินยองเกลียดเพราะเป็นคนขี้ฟ้องอีกคน’
ยองแจสะบัดหัวเพื่อพยายามสลัดความคิดที่แสน ฟุ้งซ่านออกไปจากหัวให้หมด สองท้าวก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ วันนี้เค้าเลือกมาเดินทางนี้ทางที่เดินใกล้กว่าแต่มันค่อนข้างมืดเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร จริงๆปกติถ้าวันไหนที่เค้ากลับบ้านดึกเค้าจะเดินไปอีกทางที่ติดถนนใหญ่ซึ่งปลอดภัยกว่าแต่มันไกล
ระหว่างที่ยองแจกำลังเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เค้ารู้สึกได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนไล่หลังมา ยังไม่ทันจะได้หันหลังไปมองก็ถูกวิ่งผ่านไปอย่างเร็ว ยองแจไม่ทันได้ก้าวหลบจึงเสียหลังหงายล้มลง
“ โอ๊ยยย!!”เมื่อได้ยินเสียงร้องของคนล้ม คนที่วิ่งผ่านไปจึงหยุดวิ่งละหันกับมาดูทันทีด้วยสีหน้าตกใจ
“ยองแจ!!”
“แจ็คสัน!!”คนที่ล้มอยู่เมื่อเห็นว่าอีกคนคือใครก็ตกใจไม่แพ้กัน แจ็คสันรีบวิ่งกลับมาหายองแจอย่างรีบร้อน
“รีบลุกขึ้นเร็วถ้าไม่อยากเจ็บตัวมากกว่านี้”ถึงยองแจจะสงสัยในท่าทางของแจ็คสันดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ แต่ก็รีบลุกขึ้นตามคำสั่ง
“อะไรของนาย”ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้คำตอบก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่ดังมาจากทางด้านหลังสิ่งที่เห็นคือกลุ่มวัยรุ่นสี่ห้าคนในมือถือไม้พร้อมกำลังวิ่งมาทางเค้า
“ยองแจวิ่ง!!!”แจ็คสันคว้ามือยองแจให้วิ่งตามทันที
“นี่มันอะไรกันทำไมต้องหนี”ยองแจวิ่งหนี้สุดชีวิตตามที่อีกคนบอก
“อย่าเพิ่มถามมาก”ทั้งคู่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต แจ็คสันพายองแจวิ่งลัดเลาะเข้าไปไหนซอยเล็กๆ เพื่อให้พวกที่ตามมาสับสน
“โอ๊ย !!จะ แจ็คสันชั้นวิ่งไม่ ไหว ละ แล้ว”อยู่ๆยองแจก็วิ่งหกล้มลงเข่ากระแทกพื้น นั่งหอบหอบตัวโยนเค้าไม่ใช่นักกีฬาแบบแจ็คสันให้มาวิ่งแบบนี้เค้าไม่ไหวหรอก
“เห้ย!!นายนี่มัน”แจ็คสันมองอย่างหัวเสีย พลางมองซ้ายขวา เค้าต้องหาที่หลบแล้วในเมื่ออีกคนวิ่งต่อไม่ไหว
“มานี่”แจ็คสันลากแขนยองแจเดินตามเข้าไปไหนซอกเล็กๆ ซึ่งมีตระกร้าและถังขยะตั้งวางอยู่หลายถัง
“นายจะทำอะไรอะ นี่มันขยะ สกปรกนะ”ยองแจแค่ได้กลิ่นก็ถึงกับชะงักขืนตัวไม่ยอมเดิมเข้าไปตามคำสั่ง
“อยากโดนรุมกระทืบไงเหล่า สกปรกแค่นี้ไม่ตายหรอก”ยองแจทั้งเหนื่อยทั้งกลัวยอมให้แจ็คสันพลักเข้าไปด้านในสุดจนชิดกำแพงและก็พยายามมุดตัวตามเข้าไปเค้าดึงถังขยะรอบๆมาบังตัวไว้จนมิดถ้าไม่มองจากด้านบนจะไม่มีคนเห็นแน่ๆว่ามีคนอยู่ตรงนี้แจ็คสันพยายามดึงถังขยะมาให้ใกล้กันมากที่สุดเพื่อจะได้ไม่มีช่องว่างให้หน้าสงสัย คนตัวเล็กนั่งกอดเข่าหันหลังชนกำแพงตัวสั่น เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆยองแจเอามือยกขึ้นปิดหูตัวเองไว้พร้อมหลับตาลง แจ็คสันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนข้างๆ หน้าขาวใสและปากสีแดงสดของยองแจมันเปลี่ยนเป็นสีซีด เค้าสังเกตเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ในความมืดก็ตาม คนตัวใหญ่กว่าค่อยๆเอื้อมแขนโอบคนข้างเข้ามาใกล้ๆ ยองแจลืมตาเงยหน้าขึ้นมองแจ็คสันก่อนที่มือใหญ่จะกดหัวกลมๆให้ซุกลงมาตรงไหล่กว้างของเค้า
“ไม่ต้องกลัว”แจ็คสันกระซิบบอกเพียงเบาๆข้างหู หัวกลมที่ซุกไหล่กว้างก็พยักตอบรับเบาๆ มือที่ปิดหูอยู่เปลี่ยนมากำเสื้อคนข้างหน้าไว้แน่น
“พวกแม่งหายไปไหนโคตรเร็วเลย ไอ้แจ็คสันมันคิดว่าจะมากวนตีนกูแล้วมึงจะหนีไปได้ง่ายๆแบบนี้หรอ ไอ้เลวเอ๊ย!!”พวกกลุ่มวัยรุ่นที่ตามมาหยุดอยู่ไม่ไกลจากกองขยะที่พวกเค้าหลบนัก
“เห้ย !!พวกมึงแยกกันไปตามหามัน มึงไปทางโน้น ส่วนพวกมึงไปทางโน้น กูจะไปทางนี้”
เสียงฝีเท้าค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ แต่ทั้งแจ็คสันและยองแจยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ขยับไปไหน วันนี้มันวันซวยของหวังแจ็คสันจริงๆเลย หลังจากที่ซ้อมบอลเสร็จและแยกย้ายกันกลับบ้านแจ็คสันดันมาเจอพวกคู่อริต่างโรงเรียนที่พวกเค้ามีปัญหากับพวกมันตั้งแต่แข่งฟุตบอลกันแล้วทีมโรงเรียนนั้นแพ้เมื่อเดือนที่แล้ว เหมือนพวกขี้แพ้ชวนตีแพ้ไม่ยอมรับว่าแพ้เลยมีเรื่องกันตั้งแต่วันนั้น เจอกันเป็นไม่ได้ต้องมีการทะเลาะวิวาท คราวนี้มีเพียงแจ็คสันคนเดียวกับพวกมันอีกสี่ห้าคน หลังจากลับฝีปากกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งแจ็คสันก็ใส่พวกมันเงิบไปหลายดอกเช่นกัน แจ็คสันรู้ว่ายังไงก็สู้มันไม่ได้แน่ๆ จึงตัดสินใจวิ่งหนีมา ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอยองแจระหว่างทางถึงจะไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันมากเท่าไหร่ แต่ถ้าปล่อยไว้ยองแจอาจจะต้องรับเคราะห์แทนเค้าก็เป็นได้เพราะเครื่องแบบที่ใส่อยู่เป็นโรงเรียนเดียวกับเค้า นอกจากแจ็คสันจะซวยแล้วคนที่ซวยกว่าคือยองแจนี่แหละ
ร่างเล็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวถูกลากให้วิ่งตามพอเห็นวัยรุ่นกลุ่มที่วิ่งตามยองแจก็ฉลาดพอที่จะเดาได้ว่าทำไมต้องวิ่งตั้งแต่เกิดมาตั้งแต่เกิดมาเค้าไม่เคยที่คิดจะไปมีเรื่องกับใครให้ต้องมาวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้ วันๆก็อยู่แต่กับหนังสือและเปียโน
ทั้งเหนื่อยทั้งกลัวความคิดพุดขึ้นมาในหัวมากมาย ถ้าหนีไม่ทันเค้าจะโดนพวกมันตีมั้ย ถ้าโดนตีจะตายมั้ย จะได้กลับไปหาพ่อกับแม่มั้ย สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวกลัวว่าคนที่ลากเค้ามาจะปล่อยมือเค้าทิ้งไว้คนเดียว ถึงตอนที่บอกว่าไม่ไหวแล้วแจ็คสันหัวเสียใส่ยองแจยิ่งรู้สึกกลัว แต่สุดท้ายแล้วเค้าก็ไม่ถูกทิ้งให้เผชิญสถานการณ์นี้คนเดียว
“ทนอีกแปบนะ ให้แน่ใจว่าพวกมันไปแล้วก่อนค่อยออกไป”เสียงหาบกระซิบข้างหูคนในอ้อมกอด เสียงฝีพวกมันยังคงวิ่งผ่านไปผ่านมาอย่างตอนเนื่อง
ชั่วโมงกว่าๆผ่านไป
“ออกไปกันเถอะมันหน้าจะไปหมดแล้ว เฮ้อออ”
“………….”ยองแจค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผู้ชายที่กอดตัวเองอยู่
“กลับบ้านกันเถอะเหม็นจะตายอยู่แล้ว”แจ็คสันยิ้มให้คนตรงหน้าเหมือนกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผิดกลับอีกขึ้นที่ขอบตาและจมูกเริ่มแดง น้ำใสๆค่อยๆไหลออกจากหางตาสวยทั้งสองข้าง
“เห้ย!!ร้องทำไมมันไปแล้ว”
“………..”คนตัวเล็กได้แต่เอามือเช็ดน้ำมูกน้ำตาลวกๆ ความรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ยองแจคิดว่าเค้าจะโดนตีตายซะแล้ว แจ็คสันปล่อยคนในอ้อมแขนให้เป็นอิสระก่อนจะเอามือปัดเศษขยะที่ติดอยุ่บนผมคนตัวเล็ก ยิ่งทำให้ยองแจร้องไห้หนักมากขึ้น
“ฮึก ฮือออ”ทั้งที่เจ้าตัวพยายามกลั้นน้ำตาอะไว้สุดพลัง หมดแล้วเค้าเข้มแข็งต่อไปไม่ไหวแล้ว มันโล่งจริงๆที่รอดไปได้
“อยากร้องไห้ตรงนี้ก็เชิญนะ ชั้นจะกลับแล้ว”แจ็คสันลุกขึ้นยืนปัดเศษขยะออกจากตัวเค้าเองบ้างยองแจยังคงนั่งอยู่ท่าเดิม
“เอาลุกดิ”
“ฮึก ขาชั้นเป็นตะคริวอะลุกไม่ขึ้นT^T”
“เฮ้ออออ นายนี่มัน”ถึงแจ็คสันจะทำหน้าเบื่อหน่ายคนตัวเล็กเต็มทน แต่เค้าก็คือต้นเหตุที่ทำให้ยองแจต้องมาเจอเรื่องนี้ด้วยเค้าก็ต้องรับผิดชอบแจ็คสันขยับถังขยะออกให้พ้นทางเดิน ก่อนที่จะไปนั่งยองยองหน้ายองแจ
“ขึ้นมา”
“อะไร?”ยองแจมองการกระทำของแจ็คสันอย่างไม่เข้าใจ
“เดินไม่ไหวก็ขี้หลังนี่ เร็วๆ เหม็นจะตายละ”
“ไม่เอาอะ”
“เร็ว!!”เสียงแข็งเหมือนเป็นคำสั่ง ยองแจพยายามขยับตัวด้วยขาเพียงขาเดียวไปขี้หลังแจ็คสันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แจ็คสันแบกยองแจเดินลัดเราะตามซอยไปเรื่อยๆเพราะยังไม่กล้าเดินออกถนนหลักกลัวว่าจะมีพวกมันดักรออยู่
“หนักชิบหาย”
“งั้นก็ปล่อยดิจะลง”
“เดินเองได้ละไง?”
“อืม”แจ็คสันหยุดเดินและปล่อยมือให้ยองแจลงจากหลังของตัวเอง
“ทำไมเพิ่งคิดได้ว่าต้องเดินเองวะจะถึงอยู่แล้ว หึ”คนถูกแขวะมองค้อนคนที่กำลังบิดขี้เกียจทันที
“ใครขอร้องให้แบกมาวะ”แจ็คสันเดินผิวปากนำหน้าไป ยองแจได้แต่เดินตามเงียบๆข้างหลัง
“แล้วจะเข้าบ้านสภาพนี้หรอ”
“ก็ใครหละ ทำให้เป็นแบบนี้”
“แวะไปอาบน้ำบ้านชั้นก่อนก็ได้นะ ชั้นกลัวว่าพ่อกับแม่นายจะตกใจสภาพลูกชายคนเก่ง หึ”ไม่ใช่ว่ายองแจไม่คิดเรื่องนี้ว่าพ่อแม่เห็นสภาพแล้วจะตกใจมากแค่ไหน กางเกงขาดเข่าถลอก หัวฟู ตัวเหม็นเน่าขยะขนาดนี้
“ว่าไง พ่อกับแม่ชั้นไม่อยู่หรอกเย็นนี้”แจ็คสันหยุดเดิน หมดเวลาคิดของยองแจแล้วเพราะตอนนี้เค้าเดินมาถึงหน้าบ้านแจ็คสันถัดไปก็บ้านยองแจแล้ว
“อืม”ยองแจยอมเดินตามแจ็คสันเข้าบ้านไปอย่างว่าง่าย นานมากแค่ไหนแล้วที่ยองแจไม่ได้เข้ามาบ้านหลังนี้ ตั้งแต่เค้ามีปัญหากับเพื่อนๆตอนนั้น ทำให้เค้าและแจ็คสันไม่ได้คุยกันเลย ถึงคุยก็คุยไม่ดี แจ็คสันที่เลือกเชื่อคิมยูคยอม เลือกจะเชื่อข่าวลือของคนในโรงเรียน
“ยืนเอ๋อไร ตามมาดิจำทางไปห้องชั้นไม่ได้ไง”แจ็คสันพูดก่อนเดินขึ้นบันไดไป จะจำไม่ได้ได้ยังไง ตำแหน่งห้องของเค้าที่บ้านก็ตำแหน่งเดียวกับห้องของแจ็คสันที่บ้านหลังนี้นี่แหละ
“อาบก่อนเลยไป เหม็น”พอเข้ามาถึงในห้องแจ็คสันก็โยนผ้าเช็ดตัวให้ยองแจ
“นายก็เหม็นเหมือนกันแหละ จะพูดมากทำไม”คนตัวเล็กเบ้ปากใส่เจ้าของห้องอย่างหมั่นไส้
“รึจะอาบพร้อมกันเลยมั้ย”
“บ้าดิ!!”ประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากแจ็คสันทำให้ยองแจทำหน้าไม่ถูกเลยที่เดียว
“ทำไม ตอนเด็กๆก็อาบด้วยกันออกจะบ่อย โตมาทำเป็นอาย ฮ่าๆๆ”ยองแจหน้าขึ้นสีขึ้นมาทันที ยอมรับในใจเลยว่าอายจริงๆ ทำไมไอ้บ้านี่ต้องเอาเรื่องตอนเด็กมาพูดด้วยนะ
“ตอนนั้นกับตอนนี้เหมือนกันที่ไหนเล่า”ยองแจบ่นอุบอิบได้ยินเพียงคนเดียว
“อะไรนะ โอเคหรอป่ะ”อยู่ๆแจ็คสันก็คว้าเข้าไปที่แขนคนตรงหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว
“เห้ย!!ไม่เอา ชั้นไปอาบก่อนแล้ว”ยองแจสะบัดมือแจ็คสันออกก่อนรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที แจ็คสันได้แต่อมยิ้มตามได้แกล้งยองแจแบบนี้ก็ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เดินกลับบ้านด้วยกันแบบนี้ไม่ได้คุยกันแบบนี้ ยองแจตอนนี้ที่ไม่ขี้ฟ้องไม่เชิดหน้าหยิ่งยโสใส่ชาวบ้านเหมือนตอนอยู่ที่โรงเรียนก็น่ารักหน้าเอ็นดูอยู่ไม่น้อย แต่ก็คงดีกันได้แค่วันนี้แหละเห็นว่าเค้าทำให้ยองแจเดือนร้อนเลยต้องยอม พอเจอกันที่โรงเรียนยองแจก็ทำตัวเจ๋อให้เค้าหมั้นไส้และรำคานเหมือนเดิม
ยองแจเป็นเพื่อนคนแรกของแจ็คสันตั้งแต่ย้ายมาจากฮ่องกง ยองแจเป็นคนเข้ามาทักทายเค้าก่อน ตอนอยู่ฮ่องกงแจ็คสันได้เรียนภาษาเกาหลีมาบ้างแล้วประมาณนึง จากนั้นเค้าทั้งสองก็เป็นเพื่อนกันเข้าโรงเรียนเดียวกันเรียนห้องเดียวกัน แต่พอเข้าโรงเรียนไปแล้วต่างคนต่างเจอเพื่อนใหม่ แจ็คสันชอบเล่นกีฬาทุกอย่างชอบหลีสาว แต่ยองแจชอบเล่นดนตรีชอบอ่านหนังสือ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันจึงทำให้ห่างๆกันไปแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ จนเกิดเรื่องยูคยอมขึ้นตอนแรกที่ฟังแจ็คสันก็ไม่อยากจะเชื่อว่ายองแจจะเป็นคนแบบนั้นจริงๆ แต่ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆอย่างที่เค้าเฝ้ามองดูยองแจ มันเหมือนกับว่ายองแจไม่ใช่ยองแจคนเดิมแล้วจริงๆหรือว่าเราจะห่างกันเกินไปจนไม่รู้นิสัยของกันและกันแล้ว ยองแจที่มีครูเยอึนให้ท้ายอยู่ตลอดยองแจที่ขี้ฟ้องยองแจที่หยิ่งยโสกับเพื่อนๆทุกคน มันทำให้เค้ากลายเป็นหนึ่งในทั้งหมดที่เชื่อยูคยอมและตั้งท่ารังแกล้งยองแจ แต่ในทางกลับกันแจ็คสันก็ไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งที่ยองแจเป็นนั้นคือโล่เล็กๆที่ยองแจแค่สร้างขึ้นมาคุ้มกันตัวเองจากความเจ็บปวด
แกร๊ก!เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นพร้อมกับหัวอีกคนที่ชะโงกออกมา
“แจ็คสัน ชั้นไม่มีเสื้อผ้าใส่”แจ็คสันที่ตอนนี้แก้ผ้าเหลือแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันท่อนล่างนั่งรออาบน้ำอยู่บนที่นอน
“อยู่นี่ออกมาหยิบเอง”แจ็คสันนั่งกอดอก ใช้สายตามองไปที่ชุดที่เค้าเตรียมไว้ให้ยองแจซึ่งว่างอยู่ข้างๆตัวเค้า
“ชิ!ก็อยู่ข้างๆนายอะหยิบให้หน่อยไม่ได้หรือไงเล่า”คนในห้องน้ำจิปากอย่างอารมณ์เสีย มันจะกวนอะไรกันนักวะ
“ไม่ ไม่ใช่คนรับใช้บ้านนายนะ”นอกจากจะไม่ให้ความร่วมมือยังทำหน้าตายียวนอีกต่างหาก
“ตะ แต่ชั้น”ยองแจทำสีหน้าลำบากใจ
“เป็นผู้หญิงหรอ ถึงต้องอายออกมาเอาเอง”
ปัง!! สิ้นคำพูดยองแจก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยความโมโหซึ่งร่างกายอยู่ในสภาพเดียวกับแจ็คสันตอนนี้คือนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว โชว์แผ่นออกขาวเนียน ร่างกายคนที่ไม่ได้เล่นกีฬาอย่างยองแจไม่มีกล้ามเนื้อเลยสักนิดมีแต่เนื้อที่เหลวไปทั้งตัวตัวเล็กแขนขาขาวเรียว ทำให้อีกคนที่ยืนกรานว่าให้ยองแจออกมาเอาชุดเองนั้นได้แต่นั่งเงียบมองตามตาไม่กระพริบ
หวังแจ็คสัน นายคิดผิดแล้วที่ให้ยองแจออกมาสภาพนี้ตอนแรกเค้าแค่อยากแกล้งให้อีกคนโมโหก็เท่านั้น ไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกหน้าร้อนวูบได้ขนาดนั้น ยองแจผิวขาวสวยมาก มากกว่าสาวๆบางคนที่เค้าเคยควงซะอีก ยองแจคว้าเสื้อผ้าที่วางอยู่ข้างๆแจ็คสันก่อนจะรีบหันกลับเข้าห้องน้ำไป แต่ถูกมือใหญ่คว้าต้นแขนไว้ซะก่อน
“เดี๋ยว!”แจ็คสันกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่
“ปล่อย!! มีอะไรอีกหละ”ยองแจรู้สึกรำคาญจริงจัง มันจะแกล้งอะไรเค้านักหนารู้งี้ไม่หน้ามาเลยแอบเข้าบ้านไปเงียบๆหน้าจะดีกว่า แจ็คสันยังคงจ้องยองแจไม่ว่างสายตา
“….”คนถูกมองเหมือนจะรู้ตัว หน้าขึ้นสีขึ้นมาทันที ยองแจสะบัดมือแจ็คสันออกหลบสายตาอย่างเขินอาย
“นายมองอะไร”แจ็คสันหลุดออกจากผวังความคิดของตัวเองที่คิดไปไกล
“นะ นายแต่งตัวข้างนอกนี่แหละชั้นจะไปอาบน้ำ”ว่าแล้วก็พลักยองแจออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำเป็นประตู
“ไอ้แจ็คสันบ้า มองอะไรวะ”ยองแจรีบจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย นึกถึงสายตาที่แจ็คสันมองตนขึ้นมาก็หน้าแดงขึ้นมาอีกระรอก
ระหว่างนั้นเค้าก็คิดคำแก้ตัวกับแม่ไว้ก่อนว่าทำไมกลับมาชุดนี้ บอกแม่ว่าเลอะสีที่โรงเรียนเลยยืมชุดแจ็คสันใส่กลับมาก่อนเพราะแจ็คสันเป็นนักกีฬามีชุดสำรองอยู่แล้ว แผลที่เข่าเค้าใส่กางเกงขายาวอยู่แล้วแม่ไม่เห็นหรอก เอาตามนี้ละกัน
มองดูนาฬิกาแล้วคิดว่าเค้าควรจะกลับบ้านได้แล้วแต่แจ็คสันยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย อาบนานมากเสียงน้ำในห้องน้ำยังคงไหลไม่หยุด
“เขียนโน้ตไว้แล้วกัน อาบนานเกิน”
เมื่อแจ็คสันอาบน้ำเสร็จออกมาก็พบแต่ห้องว่างเปล่าพร้อมกระดาษโน้ตที่นอน
ขอบใจมาก ที่ให้ชั้นมายืมใช้ห้องอาบน้ำ
เสื้อผ้าจะซักแล้วเอามาคืนให้นะ
เรื่องวันนี้ไม่ต้องกลัวว่าชั้นจะบอกครู ชั้นบอกแน่!!
“หึ ชเวยองแจขี้ฟ้องยังไงก็ขี้ฟ้องอย่างนั้นสินะ”
100%
+++++++++++++++++++++++
สวัสดีรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนนะคะ
วันนี้มาลงให้หนึ่งตอนหลังจากหายไปนานมาก
ช่วงที่ผ่านมามัวแต่ฟินเพ้อเจอคิดถึงเด็กๆอยู่เลยนึกอะไรไม่ค่อยออกเลย
ที่แฟนปาร์ตี้วันที่สองมีโมเม้นแจ็คแจด้วย น่ารักมากเลยพี่น้องคู่นี้
ชอบเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันชอบเห้นแจ้คแกล้งน้อง ฮ่าๆ
เอาจริงๆเรื่องนี้เรายังไม่เห็นรูปร่างมัน100%เลย
คิดแล้วแก้เปลี่ยนไปเรื่อยเปื่อย จริงๆชอบอ่านฟิคที่ดูอิงความจริง
แต่พอมาแต่งเองละยากชะมัดทำไม่ได้เลย บางอย่างอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลก็มองข้ามๆมันไปนะคะ
จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วกันเนาะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นด้วยนะคะ มีคำผิดตรงไหนบอกได้นะคะ
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
ความคิดเห็น