ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Man in love ตามล่าหาหัวใจ พระเอกนิยายในฝัน

    ลำดับตอนที่ #11 : [ตอนที่ 10] เปิดตัวกับแม่เหรอจ๊ะหนุ่มๆ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 121
      3
      27 ส.ค. 59


    By.Changfan




    So beautiful my girl is you

    ผู้หญิงที่งดงามของฉันคือเธอ

    Even if time goes by compared to anyone else…

    ถึงเวลาจะผ่านไปแล้วไม่มีใครเทียบเธอได้เลย

    I will cherish you my girl, I will give you my everything

    ฉันจะหวงแหนเธอ ฉันจะให้เธอทุกอย่าง

    I can’t run to anywhere you are

    ฉันสามารถวิ่งไปได้ทุกที่ที่มีเธออยู่






                                                     ข้าวผัด


     

     

    10

    เปิดตัวกับแม่เหรอจ๊ะหนุ่มๆ



     

    ตึก ตึก

     

    O_O”

     

    แต่เหมือนนายนั่น จะไม่ได้ยินที่ฉันพูด เขายังมีหน้าเขยิบเท้าเดินเข้ามาใกล้ๆ ทำท่าทางเหมือนจะอุ้มฉันอีก แล้วนั่นนั่นแขนนั่น...ยื่นออกมาใกล้ๆฉันทำไมง่ะ  แถมยังก้มตัวลงทำท่าทางเหมือนจะอุ้มฉันขึ้นจากเตียงอีก!

     

    ไม่นะ!!!

     

    บอกว่าไม่ไงไม่ได้ยินหรือไง!!

     

    ทำไมยังจะเข้ามาอุ้มอยู่อีกกกกก

     

    T[]T” จะวิ่งหนีก็ไม่ได้ ขายังเจ็บอยู่ โฮฮฮฮฮ กรีดร้องในใจอย่างแค้นเคือง

     

    ฉึบ!!

     

    อ๊ะ! O_O!! นายบ้า!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!

     

    ฉะ... ฉันตกไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว T^T

     

    เอาเลยๆพี่ พาไปขึ้นรถเลย ^^” นั่นคือเสียงของผัด -_-

     

    เลิกดื้อได้แล้วตัวเองเดินไม่ได้ยังจะมาเล่นตัวอีกนายนั่นกระซิบหน้านิ่ง

     

    ฉันไม่ได้เล่นตัวนะ และฉันไม่เคยคิดอยากจะมาอยู่ในอ้อมแขนของนายอย่างนี้เลย!! น่ารังเกียจสิ้นดี!!

     

    น่ารังเกียจงั้นเหรอ?...”

     

    วูบบบบ

     

    O_O|||

     

    กรี้ดดดดฉันเล็ดฉันกรี้ดออกมาจากปากเบาๆ

     

    เหมือนนายไส้เดือนจงใจจะปล่อยมือที่จับฉันไว้ให้มันหลวมๆ เพื่อที่จะให้ฉันหล่นลงไป

     

    ฉันน่ารังเกียจจริงๆใช่มั๊ย?...” น้ำเสียงโรคจิตเหมือนฆาตกร

     

    วูบบบบ

     

    O_O||||

     

    กรี้ดดดดเขาจงใจปล่อยมือให้หลวมๆอีกแล้ว ฉันกำลังจะหล่นลงไป

     

    ไม่นะ!! TOT

     

    ฉันถามว่าฉันน่ารังเกียจจริงๆใช่มั๊ย?!!

     

    ควับ!!

     

    ไม่แล้ว!! ไม่แล้วจ้า >.<” ทันทีที่ได้ยินประโยคสุดท้ายของเขา แขนของฉันก็รีบเอือมขึ้นไปกอดคอเขาโดยอัตโนมัติทันที จากนั่นก็ทำหน้าเบ้ปากร้องไห้ไปมองทางยัยผัด เพื่อที่จะบอกว่าพี่ชายสุดที่รักของเธอนั่นสุดแสนจะนิสัยเสีย แต่ยัยผัดกลับ...

     

    แปะๆ J

     

    ...ปรบมือ -_-^

     

    แปะๆ (ตกมือ) เป็นฉากที่ดีมาก ^___^

     

    ชิ ยัยเพื่อนใจร้าย!!! T^T

     

    แถวนี้นักเรียนก็เริ่มน้อยลงแล้ว จะมีเพียงก็แค่สองสามคนที่มองมายังพวกเรา นายไส้เดือนอุ้มร่างฉันเดินหลิ่วๆออกมาที่รถ ราวกับตัวของฉันเป็นแพรผ้าไหมที่ไม่ได้หนักอะไรมากมาย ทำไมพวกผู้ชายที่อุ้มฉันถึงชอบทำเหมือนฉันตัวไม่หนักอยู่เรื่อยเลยนะ นายอาเทอร์เองก็อีกคน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาแข็งแรงมาก เอ๊ะหรือว่าฉันตัวเบาอย่างนั้นจริงๆนะ ...อืม สงสัยคงจะใช่ ฉันต้องน้ำหนักลดลงไปเยอะแน่ๆเลย ช่วงหลังๆนี้ไม่ได้ชั่งซะด้วยสิ

     

    อิ อิ บางทีฉันน่าจะสร้างสถานการณ์สำออย เอ๊ยเจ็บป่วย ให้พี่ลูเชลล์อุ้มซะแล้วสิ แผนการร้ายกาจ คึๆ >.<

     

     

     

    คิดถึงตายิ้มที่แสนอบอุ่นนั้นจังเลย...

     

     

     

    เชิญเลยคร่า... ^^

     

    !!

     

    สติกลับมาอยู่ ณ จุดเดิม -_-^

     

    เป็นเสียงยัยผัดที่ช่วยนายไส้เดือนเปิดประตูรถออก เพื่อเอาฉันเข้าไปนั่งข้างใน ในระหว่างที่เขาก้มตัวลงนำตัวฉันเข้าไปในเบาะหลังรถ ...แก้มเนียนๆของนายไส้เดือนก็สัมผัสกับปลายจมูกของฉันโดยที่เขาไม่รู้ตัว จะมีก็เพียงแต่ฉันที่นั่งนิ่งเป็นเป่าสาก ซึ่งมันเหมือนกับว่าเป็นการหอมแก้มกลายๆด้วย!! >O<

     

    O_O\\\

     

    ตึกตักตึกตัก!

     

    แม้ว่าเขาจะพาตัวเองพ้นจากรัศมีของรถไปแล้ว แต่กลิ่นแก้มหอมๆของเขายังติดอยู่ที่ปลายจมูกฉันไม่ได้จางหายไปไหน...

     

    นี่...ฉันเผลอไปใจเต้นกับเรื่องแค่นี้ และกับผู้ชายคนนี้ได้ไงเนี่ย!!

     

    นายไส้เดือนเนี่ยนะ!!

     

    ไม่ๆ ไม่มีทาง

     

    ปึงปึง!

     

    เสียงปิดประตูรถของหอมและผัดดังขึ้น ผัดนั่งข้างหน้าคู่กับพี่ชายของเธอ ส่วนหอมนั่งอยู่ข้างหลังกับฉัน คนขับก็คือนายไส้เดือน โอ๊ยเอาอีกแล้วไง!! ฉันเผลอไปมองต้นคอขาวของนายนั่นทำไมเนี่ยยยย ไม่เอาๆ >O<

     

    ฉันสะบัดหัวไปมา ไล่ความคิดอัปมงคลนั่นออกไป

     

    เธอจะไปป้ายรถเมล์เลยมั๊ยหอม เดี๋ยวจะให้พี่ชายฉันขับรถไปส่งก่อน

     

    ไม่ๆ ฉันอยากไปเล่นบ้านโอ๊ต เลยไปที่บ้านโอ๊ตเลย เดี๋ยวค่อยส่งฉันตอนกลับก็ได้

     

    เอาจริงนะ เธอจะไปบ้านโอ๊ตจริงๆอ่ะ! ^^

     

    อือ ทำไมล่ะ

     

    เปล่าๆ ไม่มีไร ฉันก็แค่ดีใจน่ะ ที่เธอก็จะไปด้วย อิ อิ >.<”

    แหม... เห็นวันนี้ฉันเป็นอย่างนี้ ฉันก็อยากจะไปบ้านเพื่อนที่อยู่แก๊งเดียวกันเหมือนกันนะ ถ้ามีโอกาส ^^” ฉันมองไปที่หอมและสังเกตอย่างเธอเงียบๆ... ดูเหมือนว่าหอมจะดีขึ้นจากตอนเมื่อกลางวันนั่นสักหน่อยแล้ว แม้ว่าอาจจะเหลือเค้าโครงความเศร้าอยู่บ้าง แต่ก็ยังถือว่าดีอยู่

     

    แล้วขาเธอเป็นไงบ้างเจ็บมากมั๊ยเสียงทุ้มของคนที่ฉันพยายามต่อสู้กับความคิดของตัวเองดังขึ้น

     

    “...”

     

    ทำไมไม่ตอบล่ะ หลับแล้วเหรอนายไส้เดือนมองผ่านกระจกหลังมาที่ฉัน ซึ่งฉันก็เหลือบสายตาขึ้นไปปะทะกับดวงตาสีน้ำอ่อนของเขาพอดี

     

    กะ ก็...เจ็บนิดหน่อย มาโดนเองมั๊ยล่ะพูดเสร็จฉันก็ก้มหน้าลงไปโฟกัสที่เข่าตัวเอง

     

    ปากดีอย่างนี้แสดงว่าไม่เป็นไรมากนั่นคือคำสุดท้ายที่นายไส้เดือนพูดกับฉันบนรถ และนับจากนั่นเขาก็ไม่คุยกับฉันอีกเลยจนกระทั่งถึงหน้าบ้าน...

     

     

     

     

    นายจะอุ้มฉันอีกแล้วเหรอ!! O_O\\\” ฉันพูดขณะที่นายไส้เดือนเปิดประตูรถฝั่งของฉันออก และยืนทำหน้านิ่งรออุ้มฉัน

     

    “...”

     

    ไม่ไม่เอา!! T^T

     

    O_O

     

    นั่นไง อีกแล้ว!

     

    เป็นเหมือนอย่างตอนแรกอีกแล้ว ที่เขาก้มตัวลงมาอุ้มฉันโดยที่ไม่พูดอะไร ฉันตัวลอยไปอยู่ในอ้อมแขนเขาภายในเวลาอันรวดเร็ว ทำไมการที่ใครจะซ้อนฉันขึ้นไปอุ้มเนี่ยมันทำง่ายจังเลยนะ >.<\\\

     

    โอ๊ะนายไส้เดือนมีซิกแพคกับเขาด้วยเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย... แล้วหน้าอกเนี่ยนะ แข็งโป๊ะเลย ไม่ได้ตั้งใจนะ แต่มือมันไปโดนนมเขาเอง อุ๊ยนี่ฉันพูดอะไรออกมาเนี่ยยยย >.<\\\

     

    กริ้งงงง กริ้งงงง

     

    ผัดเป็นคนกดกริ้งหน้าบ้าน ไม่นานแม่ฉันก็เดินออกมาเปิดประตู เมื่อแม่เห็นหน้าฉันและโดนนายไส้เดือนอุ้มอยู่ก็ตกใจจนตาโต แม่เอามือกุมหน้าอกตัวเองและรีบมาเปิดประประตูให้ทันที จากนั่นก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแตกตื่น

     

    ข้าวต้ม น้องเป็นอะไรลูก

     

    อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะแม่ ไม่เป็นไรมากหรอกฉันตอบขึ้น

     

    ไม่เป็นไรมาก แต่ถึงกับให้พี่เขาอุ้มมากส่งเนี่ยนะ!!” แม่มองตัวฉันที่อยู่ในอ้อมแขนของนายไส้เดือน

     

    “...”

     

    เงียบ... มันหาคำเถียงไม่ออกจริงๆ

     

    สวัสดีค่ะ พวกเราเป็นเพื่อนสนิทของข้าวโอ๊ตผัดกับหอมรีบยกมือสวัสดีแม่ฉัน

     

    อ้อ เป็นพวกหนูเองเหรอจ๊ะ ^_^” แม่ยิ้มให้พวกเธออย่างเป็นมิตร ยินดีต้อนรับหนูข้าวทั้งสองคนนะจ๊ะ มาๆเข้าในบ้านกันก่อนเถอะ

     

     

     

     

    แม่ยกถาดแก้วน้ำเปล่าสามแก้วมาตั้งไว้ที่โต๊ะ และเอาให้แขกทั้งสามคน จากนั่นกิจกรรมซักไซ้ฉันก็เริ่มขึ้น

     

    เรื่องมันเป็นมายังไง เล่าให้แม่ฟังเดี๋ยวนี้เลยนะข้าวทุกคนเงียบตั้งตารอฟังเรื่องที่ฉันจะเล่า รวมถึงนายข้าวต้มด้วย แม้เขาจะมีสีหน้าที่นิ่งๆแต่ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนว่าข้างในนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนทั้งสองคู่นั่น...กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องที่ฉันจะเล่ามาก

     

    คือ...ข้าวไปส่งงาน แล้วทีนี้กระจกบานใหญ่ที่ใครก็ไม่รู้เอามาตั้งไว้ผิงกับขอบหน้าต่างมันตกลงมา แล้วเศษของมันเลยกระเด็นขึ้นมาปักขาของข้าว...

     

    ว้าวตายจริงปักเลยเหรอข้าว!!” แม่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ และมองไปที่ขาของฉันที่ถูกผ้าพันแผลสีขาวพันไว้

     

    ค่ะ

     

    แล้วใครพาลูกลงมาห้องพยาบาล พวกอาจารย์เหรอข้าว...น้ำเสียงของแม่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่มือทั้งสองข้างของแม่กุมฝ่ามือฉันไว้แน่น ...สัมผัสอุ่นๆจากแม่อย่างนี้ ฉันไม่ได้รับมันมานานแค่ไหนแล้วนะ ...มันนานมาก จนบางครั้งฉันถึงกับน้อยใจ จนคิดว่าแม่รักฉันน้อยลงไม่เหมือนตอนที่ฉันเป็นเด็ก เพราะเมื่อฉันโตขึ้นแม่เอาแต่ดุฉันและเผด็จการกับฉันซะส่วนใหญ่

     

    ...แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมันก็ดีเหมือนกัน เพราะมันก็ทำให้ฉันได้รับสัมผัสและแววตาอย่างนี้จากแม่อีกครั้ง มันทำให้ฉันไม่เข้าใจผิด... มันทำให้ฉันรู้ว่า... แม่...ยังไงก็คงรักฉันอยู่เสมอ

     

    แถวนั้นไม่มีอาจารย์เลยค่ะ โชคดีที่มีเพื่อนคนหนึ่งมาเห็น แล้วเขาก็ช่วยอุ้มข้าวลงมาฉันนึกถึงอาเทอร์ที่มองฉันด้วยความเป็นห่วงในตอนนั้น

     

    หนู... โชคดีมากเลยนะลูก โชคดีจริงๆที่ได้เพื่อนคนนั่นมาช่วยแม่บีบมือฉันแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม

     

    “...”


                “...”

     

    “...ข้าวรักแม่นะคะฉันไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ แต่อยู่ๆฉันก็พูดคำนี้ออกไประหว่างที่ฉันกับแม่มองตากันด้วยความลึกซึ้ง ฉันโผเข้ากอดแม่ที่นั่งอยู่ติดๆกัน แม่เองก็กอดฉันเช่นกัน น้ำตาของฉันเล็ดออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว ฉันรีบยกฝ่ามือหลังขึ้นมาปามันออก อายจังที่ต้องมาทำอย่างนี้ต่อหน้าเพื่อนๆ ลืมไปเลยว่ามีคนอื่นๆนั่งอยู่ด้วย...

     

    “...หนูขอโทษนะคะแม่ ความจริงมันเป็นความผิดของหนูเองแหละคะ ถ้าหนูไปส่งงานตอนนั้นพร้อมกันกับโอ๊ต บางทีมันอาจจะไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ได้ผัด

     

    มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกผัด จะขอโทษทำไม ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น บางทีถ้าเธอไปกับฉัน เราทั้งสองคนก็อาจโดนเหมือนกันทั้งสองคนก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นอาเทอร์คงแยกร่างพามาห้องพยาบาลพร้อมกันทั้งสองคนในเวลาเดียวกันไม่ได้แน่ๆฉันพูดขึ้นและเล่นมุกเพื่อให้ผัดสบายใจ

     

    หนูคือข้าวผัดเหรอจ๊ะ ...ส่วนนี่ก็หนูข้าวหอมใช่มั๊ย?”

     

    ค่ะ หนูคือข้าวผัด ส่วนนี่คือข้าวหอมผัดพูดขึ้น

     

    ข้าวพูดถึงพวกหนูทั้งสองคนบ่อยๆตอนพวกเราทานข้าวกัน ขอบคุณพวกหนูที่มานะ และขอบคุณที่เป็นเพื่อนกับข้าวลูกแม่ อ้อ แล้วนี่ข้าวต้มเป็นพี่ชายของข้าวผัดใช่มั๊ย ตอนที่เราบอกแม่ครั้งนั้นแม่หันไปถามนายไส้เดือน

     

    ครับ

     

    พี่ข้าวต้มนี่พี่เคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้แล้วเหรอเนี่ย...หืม ร้ายนะเนี่ย o-O!” ผัดพูดขึ้นเสียงดัง พร้อมกับทำหน้าท่าทางจิกกัดนายไส้เดือน จากนั่นก็ยิ้มให้กับนายนั่นอย่างมีเหล่นัย ต่างจากนายไส้เดือนที่รีบหลบตาน้องสาวแล้วก็นั่งทำหน้านิ่งเหมือนเดิม

     

    ดีใจจังเลยเนอะที่วันนี้พวกลูกๆมากัน แล้วก็มีแต่คนชื่อว่าข้าวกันหมดเลย เหมือนแม่มีลูกตั้งสี่คนแน่ะ ฮ่าๆ

     

    ฮ่าๆพวกเราต่างหัวเราะ

     

    อยู่กินข้าวเย็นกันที่นี่กับเราก่อนนะลูกอย่าเพิ่งกลับ เดี๋ยววันนี้แม่จะทำอาหารให้สุดฝีมือเลย ไม่ได้ทำอย่างนี้มานานแล้ว ^^ แล้วเดี๋ยวพ่อของข้าวก็จะกลับมาแล้ว พ่อจะได้เจอพวกเราทั้งหมดด้วย

     

    “...จะดีเหรอคะหอม

     

    ดีสิ!

     

    งั้นก็ได้ค่ะ ตกลง เราอยู่นี่กันก่อนนะพี่ข้าวต้มผัดพูดขึ้นและไปสะกิดแขนนายไส้เดือนที่มัวแต่ตีหน้านิ่งอยู่นั่นแหละ คนขี้เก๊กยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาแป๊บหนึ่งก็พูดขึ้น

     

    อืมๆ กลับช้าสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก

     

     

     

    กริ้งงงง กริ้งงงง

     

     

     

    ขณะที่พวกเรากำลังคุยกันเสียงกริ้งที่หน้าบ้านก็ดังขึ้น

     

    เดี๋ยวแม่ออกไปดูเอง สงสัยจะมีของมาส่ง แม่สั่งไว้เมื่อตอนเช้าน่ะ ทำไมมาเร็วจังนะแล้วแม่ก็เดินออกไป ไม่นานแม่ก็เดินเข้ามาใหม่

     

    ข้าว ดูซิว่าใครมาหาทันทีที่เสียงของแม่เอ่ยจบ ผู้ชายร่างสูงสุขภาพดี รูปหน้าเรียวยาวงดงามเข้าทรงผมสีน้ำตาลเข้มสับๆหน้าม้าเฉียงๆปรกหน้าผากนิดหน่อยไม่ยาวมาก ก็เดินเข้ามา

     

    ไฮ!! หวัดดี ^_^

     

    อาเทอร์!!

     

    แฮะๆ เผอิญว่าฉันเป็นห่วงเธอนิดหน่อยน่ะ มาดูอาการถึงที่บ้านอย่างนี้... คงไม่เสียหายอะไรมากใช่มั๊ย ^_^” ดวงตาสีดำหรี่ยิ้มลงไปพร้อมกับริมฝีปากรูปกระจับ

     

    เขาบอกว่าเขาเป็นเพื่อนของลูก แม่เลยให้เข้ามา

     

    อ่อ ค่ะ เขาเป็นเพื่อนข้าวเอง และเป็นคนที่ช่วยข้าวไว้ด้วย

     

    จริงเหรอลูกแม่หันหน้าไปหาอาเทอร์

     

    มาๆ มานั่งกินน้ำกินท่ากันก่อน ขอบคุณมากนะลูกที่ช่วยข้าวไว้แม่จูงมืออาเทอร์ไปนั่งใกล้ๆกันกับนายไส้เดือน อาเทอร์มองดูคนในบ้านฉันแป๊บหนึ่งแล้วก็ทำท่าแปลกใจเล็กน้อย จากนั่นก็เป็นปกติ

     

    นายมาที่นี่ได้ไง รู้บ้านของโอ๊ตด้วยเหรอผัดถามอาเทอร์อย่างอยากรู้ในระหว่างที่แม่เดินเข้าไปเอาน้ำในครัว

     

    บ้านฉันก็อยู่แถวนี้น่ะ

     

    แถวนี้?...”

     

    ฉันไม่กล้าที่จะพูดต่อ บอกทุกคนไปว่าแถวนี้ที่เขาว่าคือบ้านหลังที่อยู่ข้างๆกัน

     

    อ่อ อาเทอร์นี่ข้าวผัดแล้วก็ข้าวหอม ส่วนนี่...ฉันผายมือไปทางนายไส้เดือนแล้วก็หยุดชะงักไป “...พี่ชายของข้าวผัด

     

    พวกเธอ นี่อาเทอร์นะฉันแนะนำตัวอาเทอร์กลับบ้าง

     

    ยินดีที่ได้รู้จักนายนะ เห็นหน้านาย ได้ยินชื่ออยู่โรงเรียนบ่อยๆแต่ไม่เคยรู้จักหรือเคยคุยด้วยสักทีผัด

     

    อืม ฉันก็เคยเห็นหน้า รู้จักชื่อพวกเธอเหมือนกันแต่ไม่เคยคุยด้วย ^^

     

    ก็แน่ล่ะชื่อเสียงของเพื่อนฉันทั้งสองคนนั้นน่าเกรงกลัวมากในโรงเรียน แต่ไปทางชื่อเสียมากกว่าอ่ะนะ

     

    น้ำเย็นๆมาแล้วจ้าแม่ของฉันยกน้ำเปล่ามาอีกแก้ว พร้อมกับขนมหวานถาดหนึ่ง

     

    ขอบคุณครับ คุณแม่ ^^” แม้จะเป็นครั้งแรกที่เจอกัน แต่อาเทอร์ก็กล้าเรียกชื่อแม่ฉันเต็มปากว่าเป็นคุณแม่ได้อย่างสนิทใจ

     

    เราเนี่ย... เวลายิ้มแล้วดูหล่อจังเลยนะ ดูสิผิวก็เข้ม กล้ามแขนก็แน่น หุ่นก็ดียังกับนักกีฬามืออาชีพ คิ้วก็หนา ตาก็คม เพอร์เฟ็กมากเลยลูก ^_^” แม่เอื้อมมือไปหยิกแขนข้างขวาของอาเทอร์เบาๆ อาเทอร์ก็ยิ้มรับอย่างเขินๆ ฉันได้แต่แปลกใจที่แม่กล้าพูดอย่างนี้กับเขาออกมาตรงๆ แม่ไม่ยักรู้ว่าข้าวโอ๊ตมีเพื่อนหล่อๆอย่างนี้ด้วย นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนนะ ผู้ชายอย่างเราเนี่ยแหละเป็นสเป๊กแม่เลย...

     

    แม่...ฉันเอื้อมมือไปสะกดแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆกัน แรกๆก็ดีอยู่หรอก แต่หลังๆนี่เหมือนแม่จะพูดเกินไปแล้ว

     

    อ่อ ส่วนพี่ชายของข้าวผัด ข้าวต้มเอง...ก็ดูดีใช่ย่อยเลยนะ ตัวสูง ผิวที่ขาวราวกับหิมะ ใบหน้าก็ใส๊ใส มีดวงตาเป็นสีน้ำตาลอ่อน ปากเป็นสีชมพูระเรื่อ... อ่า...ข้าวผัดพี่ชายของเธอดูดีมากเลยแหละนายไส้เดือนยิ้มที่มุมปากให้แม่ฉันเล็กน้อยแล้วก็กลับไปเก๊กหน้านิ่งๆเหมือนเดิม

     

    !!

     

    แม่ฉันเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ปกติแล้วแม่ฉันไม่ได้เป็นคนอย่างนี้นะ!!

     

    แล้วถ้าเป็นตอนที่แม่ยังสาว ถ้าเห็นผู้ชายสองคนนี้ในเวลาเดียวกัน แม่จะชอบใครก่อนเป็นคนแรกคะอยู่ๆเพื่อนของฉันก็ถามคำถามที่ทำให้ฉันสะดุ้งในใจและขนลุกชันไปทั่วทั้งร่าง ยัยผัดถามอะไรแปลกๆอีกแล้ว

     

    อืม... ก็คงจะเป็น...

     

    ตื้ดดดด ตื้ดดดด

     

    เสียงโทรศัพท์ที่ว่างอยู่ๆข้างตัวฉันสั่นและดังขึ้นในระหว่างที่แม่กำลังคุย ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูชื่อคนโทร

     

     

    พี่ลูเชลล์

     

     

    หา!! O).(O

     

    เป็นสายของพี่ลูเชลล์ที่โทรมา ทำไมโทรมาได้ถูกเวลาอย่างนี้นะ หัวใจฉันเต้นตึกๆแรงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ภาพของเจ้าของดวงตาสีดำอมน้ำตาลปรากฏขึ้นในความคิดของฉัน

     

    แม่คะ ขอตัวเดี๋ยวนะคะฉันขัดจังหวะของแม่ที่กำลังจะพูดให้จบประโยค และลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไปที่ห้องครัว แต่...

     

    เอ๊ะฉันเดินไม่ได้นี่นา T^T

     

    โฮฮฮฮ

     

    ให้ตายเถอะ!!

     

    ฉันมองไปที่หน้าทุกคนอย่างช้าๆ พลางส่งเสียงร้องไห้ในใจ อือๆ

     

    ใครโทรมาน่ะแม่

     

    เอ่อ... เพื่อนที่โรงเรียนเก่าน่ะคะ นานๆทีเขาจะโทรมาครั้ง ไม่เป็นไรหรอกคะ เดี๋ยวค่อยรับก็ได้ อิ อิ T^T

     

    ใช่แล้วฉันโกหก

     

    รับไปเลยสิ นานๆเขาจะโทรมานะแม่

     

    เอ่อ...

     

    คุยไปเถอะน่า เผื่อเขามีเรื่องสำคัญอะไร

     

    TOT

     

    งะ... งั้น...เดี๋ยวข้าวขอคุยกับเขาแป๊บหนึ่งนะคะ

     

    ติ้ด!

     

    ฮัลโหล... T^T” ฉันกดรับสายและนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมา พยายามที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับคุยกับเพื่อนให้มากที่สุด แม้ข้างในใจจะอยากพูดหวานจนกระอักตายก็เถอะ

     

    หวัดดีครับข้าวโอ๊ต พี่โทรมากวนเราหรือเปล่า น้ำเสียงทุ้มๆน่าหลงใหลที่ฉันหลงรักดังออกมาจากโทรศัพท์

     

    ไม่รบกวนคะ แต่โคตรโทรมาผิดเวลาเลย T^T

     

    ไม่คะ... มะ ไม่หรอกวะ ว่าแต่มีอะไรเหรอฉันเกือบจะหลุดคำว่า ‘ค่ะ’ ออกไปแล้ว แต่นึกขึ้นได้ว่าทุกคนมองฉันอยู่ ทำให้ฉันรีบเปลี่ยนคำลงท้ายที่กำลังจะพูดเป็นพัลวัน

     

    คิดถึงน่ะ อยากเห็นหน้า ว่าจะชวนออกไปกินข้าวด้วยกันสักหน่อย ว่างมั๊ยครับ

     

    เป็นประโยคไม่กี่ประโยชน์ แต่เล่นเอาฉันไปไม่ถูกทางเลยทีเดียว >.<\\\

     

    พี่ลูเชลล์เขาบอกว่าคิดถึง!! อยากเห็นหน้าฉัน!!!

     

    กรี้ดดดด อยากจะกรี้ดให้บ้านแตกแล้วลุกขึ้นกระโดดลัลลาเต็มที่ ติดแต่ตรงที่ว่าเมื่อมองไปข้างๆ...

     

    “[-_-]” หอม

     

    “[-_-]” ผัด

     

    “[-_-]” แม่

     

    “[-_-]” อาเทอร์

     

    “[-_-]” นายไส้เดือน

     

    ขอโทษด้วยนะ พอดีว่าวันนี้ไม่ค่อยสบายน่ะ

     

    กรี้ดดดด ฉันพูดไม่เพราะกับพี่ลูเชลล์อีกแล้ว ปกติฉันจะต้องมีคะ มีขานะ >O<

     

    ข้าวโอ๊ตเป็นอะไรหรือเปล่าน้ำเสียงเราดูแปลกๆไปนะ” พี่ลูเชลล์สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ

     

    ไม่ค่อยสบายน่ะ แค่นี้ก่อนนะ

     

    ติ้ด!!

     

    กรี้ดดดด เพราะสายตาที่เอาแต่จ้องมองฉันของทุกคน ทำให้ฉันต้องเป็นนางมารร้ายรีบตัดสายพี่ลูเชลล์ ทิ้งอย่างไม่สนใจใยดี ตอนนี้พี่ลูเชลล์จะคิดยังไงกับสิ่งที่ฉันทำนะ เขาคงไม่เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของฉันผิดไปหรอก ใช่มั๊ย...

     

    เมื่อกดวางสายแล้วฉันก็รีบกดปิดเครื่องเผื่อพี่ลูเชลล์โทรมาอีก ฉันยังไม่พร้อมที่จะบอกให้ใครรู้ จนกว่าฉันจะแน่ใจในเรื่องนี้ซะก่อนว่าพี่ลูเชลล์จะเป็นพระเอกในนิยายที่ฉันตามหาจริงๆ แม้ว่าข้างในหัวใจของฉันมันจะเชื่ออย่างนั้นไปแล้วแปดสิบห้าเปอร์เซ็นก็ตาม ที่เหลืออีกแค่สิบห้าเปอร์เซ็นคือเวลาในการพิสูจน์

     

     

     

     

    06.33 PM.

     

    เพราะแม่บอกว่าจะทำอาหารให้ทุกคนทานรวมถึงอาเทอร์ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ด้วย แม่บอกให้เขาอยู่ร่วมทานข้าวกับพวกเราก่อน และดูเหมือนเขาก็ไม่ขัดข้องอะไรออกจะดีใจด้วยซ้ำ แต่ติดที่ว่าอาหารในครัวนั่นเหลือน้อยมากคงไม่พอต่อจำนวนคนที่มากกว่าปกติของทุกวันแน่ๆ แม่เลยออกไปซื้อของพร้อมกับชวนพวกนั้นไปด้วยกัน และตอนนี้เลยมีแค่ฉันที่นั่งอยู่โซฟาสีขาวบริสุทธิ์กลางห้องคนเดียว

     

    ฉันมองซ้ายมองขวาเพื่อเช็คดูความปลอดภัย เห็นเพียงเจ้าเสือดาวที่เดินนำร่างเล็กๆและขนนุ่มๆปุ่ยๆออกมาจากช่องว่างของประตูห้องครัว ปลอดภัยแล้วสินะ

     

    ตื้ออออ

     

    ฉันกดเปิดโทรศัพท์ที่ปิดเอาไว้เพราะกลัวว่าพี่ลูเชลล์จะเข้าใจผิดคิดว่าฉันเปลี่ยนไป ไม่น่ารักเหมือนเดิม!! เมื่อเครื่องเปิดอย่างเต็มที่แล้วก็รู้ว่าพี่เขาโทรมาหาฉันอีกสองสายในระหว่างที่ฉันปิดเครื่อง โอ๊ะมีข้อความของพี่ลูเชลล์ส่งมาด้วย

     

     

    ข้าวโอ๊ตเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ว่าเราดูแปลกๆไปนะ เป็นห่วงนะครับ

     

     

    >\\\<

     

    ตึกตักตักตัก!

     

    เมื่ออ่านข้อความจบฉันก็เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์และมองไปยังเพดานห้อง พยายามควบคุมอัตราการเต้นหัวใจให้เป็นปกติ ข้อความสั้นๆของพี่ลูเชลล์ทำฉันใจสั่นมากทีเดียว รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวและเลือดสูบฉีดไปมาทั่วทั้งร่าง ราวกับมีเจ้าของดวงตาสีดำอมน้ำตาลที่มีเสน่ห์คนนั้นมานั่งอยู่ตรงหน้า

     

    ตู๊ดดดด ตู๊ดดดด” ฉันตัดสินใจกดโทรออกไปหาพี่เขา

     

    ข้าวโอ๊ต...” รอเพียงไม่นาน ไม่ถึงห้าวินาทีซะด้วยซ้ำ พี่ลูเชลล์ก็กดรับสายฉัน

     

    พี่ลูเชลล์... ข้าว... อยากจะโทรมาขอโทษพี่ที่ก่อนหน้านี้... ข้าวพูดจาไม่ค่อยสุภาพกับพี่เท่าไหร่ ...ขอโทษนะคะ

     

    “...” เสียงปลายสายเงียบไป หวังว่าเขาจะไม่เข้าใจฉันผิดจริงๆ...

     

    โถ่...เด็กดี จะขอโทษทำไม... หายดีแล้วเหรอ เราบอกกับพี่ว่าป่วยนิ เป็นหนักมากเลยเหรอครับ พี่เป็นห่วงเรานะ ฉันเผลอยิ้มออกมาเบาๆกับถ้อยคำของพี่ลูเชลล์ที่ออกมาจากปากของเขา ไม่ใช่แค่เพียงตัวอักษรในโทรศัพท์เหมือนเมื่อกี้

     

    ก็ข้าวรู้สึกไม่ดีที่พูดกับพี่ห้วนๆอย่างนั้น... ข้าวกลัวว่าพี่จะมองข้าวว่าเป็นเด็กนิสัยเสีย...ฉันพูดอู้อี้เสียงในลำคอเหมือนเด็กๆ

     

    ไม่หรอก สำหรับพี่แล้วข้าวไม่ใช่เด็กที่นิสัยเสีย แต่ก็ไม่ใช่เด็กที่นิสัยดีเช่นกัน...

     

    “...”

     

    เพราะสำหรับพี่แล้ว พี่ไม่เคยมองว่าข้าวเป็นเด็กเลย... ในสายตาของพี่ข้าวคือผู้หญิงคนหนึ่ง...

     

    O_O

     

    เมื่อได้ฟังประโยคเมื่อกี้จากในโทรศัพท์มันก็ทำเอาฉันลืมหายใจไปชั่วขณะ ...นี่พี่ลูเชลล์กำลังสารภาพรักกับฉันกลายๆอยู่ใช่มั๊ย...

     

    ...มะ เหมือนกับฉากในนิยายที่แสนโรแมนติกในตอนที่พระเอกที่แสนดีสารภาพรักกับนางเอกเลย...

     

    ตะ ตอนนี้พี่ลูเชลล์กำลังทำให้ข้าวไขว่เขวนะคะ

     

    “...งั้นพี่จะปล่อยให้ข้าวไขว่เขวอย่างนี้ต่อไปแล้วกันจนกว่าเราจะได้เจอกัน แล้วพี่จะทำให้มันกระจ่างขึ้นกว่านี้เอง ตกลงนะครับ...

     

    “...”

     

    ข้าว ยังฟังพี่อยู่มั๊ย?” น้ำเสียงอบอุ่นมีเสน่ห์ที่ใครก็ไม่สามารถเหมือนถามขึ้น

     

    อ้อ ค่ะๆ

     

    งั้นนอนพักผ่อนเยอะๆนะครับ พี่เป็นห่วงเราจัง อยากจะไปนั่งป้อนยาอยู่ใกล้ๆ หายเร็วๆนะครับ...

     

    >.<\\\

     

    ทะ ทำไมวันนี้พี่ลูเชลล์หยอดคำหวานกับฉันเยอะจัง

     

    ค่ะแล้วเจอกันนะคะ >\\\<

     

    ติ้ด!

     

    เฮ้อ... มีความสุขจัง ฉันรู้สึกว่าในท้องของฉันมีผีเสื้อนับพันๆตัวบินอยู่ข้างใน ...มันเป็นความรู้สึกที่ดีอะไรอย่างนี้ J

     

    ยิ้มหน้าบานเชียวนะอยู่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลัง ฉันรีบหันหลังไปมองอย่างตกใจ

     

    นาย...มาตั้งแต่เมื่อไหร่!!” เป็นนายไส้เดือนที่ทักฉัน เขายืนกอดอกและริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเหยียดยิ้มให้ฉัน

     

    เข้ามาตั้งแต่ทีแรกนายไส้เดือนตอบหน้าตาเฉย และเดินมายืนอยู่ข้างหน้าฉันในระยะใกล้ๆ จนฉันถึงแหงนหน้าขึ้นไปคุยกับเขา

     

    เสียมารยาท!!” ฉันพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียและก็ตวัดสายตามองเขาด้วยความเกลียดชัง

     

    ไม่ยักรู้ว่าฉันเองก็มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ...และดูเหมือนว่าคู่แข่งคนนี้จะมาแรง จนน่ากลัวซะด้วย...

     

    นาย...พูดถึงเรื่องอะไรน่ะ

     

    “...” นายไส้เดือนก้มตัวลงมาหาฉันและใช้แขนทั้งสองข้างของเขาจับโซฟาทั้งสองข้างตัวลำตัวของฉันเพื่อไม่ให้ฉันขยับไปไหนนอกจากนั่งอยู่ตรงกลางที่เดิม

     

    “...” ฉันมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนด้วยความตกใจ และเอนตัวไปที่ข้างหลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้... แต่ใบหน้าของนายไส้เดือนเองก็เขยิบตามมาด้วยเช่นกัน สิ่งที่อยู่ข้างในอกฉันก็กำลังลุกขึ้นเต้นดุจดั่งกลองนับสิบๆใบมารวมกัน

     

    ฉันช้าไม่ได้แล้ว...เขาตอบ

     

    “.....”

     

    “....ต่อจากนี้ไปฉันจะเดินหน้ารุกเธอเต็มที่










    โปรดติดตามตอนต่อไป




     

    "นี่พี่ลูเชลล์กำลังสารภาพรักกับฉันกลายๆอยู่ใช่มั๊ย..." : ข้าวโอ๊ต

     





     




    Add fan จิ้มๆ









    บทที่ 10 คลอดแล้วววว!! เย้!!

    ข้าวต้มประกาศตัวว่าจะรุกอย่างเต็มที่แล้ว ผู้ชายหน้านิ่งๆแต่มีนิสัยขี้อายยิ่งกว่าใครๆทั้งหมดจะทำได้ถึงขั้นไหนกันเชียวน่าาาา ต้องติดตามๆ

    แล้วลูเชลล์เองในตอนต่อไปที่เจอกันก็เหมือนจะทำให้ชัดเจนขึ้น แต่จะเป็นชัดเจนเรื่องอะไรน่าาาา จะเป็นเรื่องที่ไรท์เตอร์เดากันไว้หรือเปล่า ต้องลุ้นๆค่ะ อิ อิ ^_^




     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×