ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Man in love ตามล่าหาหัวใจ พระเอกนิยายในฝัน

    ลำดับตอนที่ #5 : [ตอนที่ 4] ประสบการณ์น้ำท่วม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 246
      24
      25 ส.ค. 59

     

    By. Changfan














                                                                                                   ข้าวหอม



    ตอนที่
    4

     

    ประสบการณ์น้ำท่วม

     

     

     

     “โอ๊คทางนี้ๆ” เสียงของผัดที่กำลังจะเข้าไปซื้อน้ำในร้านค้าของโรงเรียนดังขึ้นทันทีที่เห็นฉัน ฉันเดินเข้าไปหาเพื่อนอย่างช้าๆท่ามกลางสายตาของคนรอบข้างที่จ้องมองมา คงเป็นเพราะเรื่องข่าวฉาวบ้าๆนั่นน่ะแหละ เฮ้อ คิดแล้วก็กลุ้มไม่รู้ จะต้องแก้ยังไงดี

     

    “นึกยังไงวันนี้ถึงมาซะเช้าเชียว”

     

    “ก็พอดีว่ามันนอนไม่ค่อยหลับอ่ะ ข่มตายังไงก็ไม่ลงตั้งแต่ตีสี่ครึ่งนู้นแล้ว” ปกติฉันจะไม่มาโรงเรียนเช้าขนาดนี้ จะมาประมาณใกล้ๆจะเข้าแถวนู้นล่ะ ถ้าหากว่าผัดไม่เรียกเอาไว้เสียก่อน ก็กะว่าจะรีบเดินดิ่งตรงไปที่ห้องเลยเพราะไม่อยากที่จะเห็นสายตาของนักเรียนโรงเรียนนี้สักเท่าไหร่ ทั้งๆที่เป็นโรงเรียนติดท็อปอับดับต้นๆที่มีชื่อเสียง นั่นก็หมายความว่าเด็กนักเรียนที่นี้ต้องมีคุณภาพและก็เก่ง แต่ทำไมเรื่องแค่นี้(ข่าวฉาวของฉันเอง)ถึงไม่มีวิจารณญาณในการรับฟังกันบ้าง เชื่อกันไปซะสนิทใจได้ยังไงก็ไม่รู้ ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

     

    “มีเรื่องอะไรให้เครียดเหรอ หรือว่าเธอเริ่มพิจารณาพี่ชายฉันแล้ว! ใช่มั๊ย ^O^ อิอิ ใช่แน่ๆเลย ฉันดีใจนะที่เธอเปลี่ยนใจ” ผัดพูดขึ้นด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า

     

    ยัยนี่ก็อีกคน -_-

     

    “ไม่ใช่ -_- เธอจะซื้ออะไรก็รีบเข้าไปซื้อเถอะ ฉันไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้นานๆ” มองไปรอบๆ

     

    “อ้อ อืมๆ -.-“ ผัดทำปากยู๋เข้าหากันและหุบรอยยิ้มที่ปากทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านค้า ส่วนฉันก็ยืนกอดอกหันหลังรออยู่ใกล้ๆประตูทางเข้า ทันใดนั้นเองก็มีบางอย่างมากระทบตัวฉัน เล่นเอาเซถลาไปข้างหน้าเล็กน้อย

     

    “โอ๊ย”

     

    “โอ๊ย”

     

    “ปิงปองเป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงใสๆดังขึ้นที่ข้างหลัง ฉันรีบทรงตัวและหันหลังกลับไปดู เด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลอ่อน ท่าทางน่าทะนุถนอมเป็นเหมือนคุณหนูผู้ไร้เดียงสา มองมาที่ฉันอย่างกล่าวโทษ ส่วนเพื่อนของเธออีกสองคนก็พยุงเธอไว้ ราวกับการที่มาชนฉันเมื่อกี้มันเกิดการช้ำดำเขียวขึ้นในร่างกาย หรือกระดูกในตัวหักสักท่อนสองท่อน ยังไงอย่างงั้น

     

    “เจ็บแพร เจ็บมากเลย อะ โอ้ย! ช่วยพยุงพาฉันไปที่ห้องพยาบาลที ถ้าคนที่บ้านฉันรู้ว่าฉันบาดเจ็บอย่างนี้ ฉันต้องโดนดุแน่ที่ไม่ระวังตัว T_T อือๆ”

     

    นี้ยัยนี่เป็นหนักขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ทำไมฉันไม่เป็นไรเลยล่ะ หรือว่าฉันจะมีพลังวิเศษซ่อนอยู่ในตัวเลยแข็งแรงผิดปกติต่างจากคนทั่วไป โอ๊ะ! นี่ฉันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาเหรอเนี่ย >.< ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน สงสัยแมงมุมจะกัดฉัน ทำไมไม่รู้สึกตัวเลยล่ะ คิคิ

     

    “เธอยืนยังไงเนี่ย ทางมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมมายืนขวางประตูที่คนเขาจะเดินออกกันล่ะ เห็นมั๊ยเพื่อนฉันเลยเจ็บตัวเลย เพราะเธอคนเดียวเลยแท้ๆ ฉอดๆ >0<

     

    แต่ฉันไม่ได้ยืนขวางประตูนะ ฉันแอบอยู่ข้างๆต่างหาก ไม่ได้ยืนขวางประตูสักหน่อย ว่าแต่ยัยนี่เป็นลูกแม่ค้าปากตลาดใช่มั๊ยเนี่ย รู้เลย

     

    “พอเถอะแพร อย่าไปว่าพี่เขาเลย เขาไม่ได้ผิดหรอก ฉันผิดเองที่ซุ่มซ่าม แฮะๆ ขอโทษด้วยนะคะ” เด็กผู้หญิงท่าทางน่าทะนุถนอมคนนั้น ยิ้มเจื่อนๆเพื่อขอโทษแทนเพื่อน ยังไงกันนะยัยนี่เมื่อกี้ยังเหมือนโกรธฉันอยู่เลย แต่ทำไมมาตอนนี้เหมือนไม่คิดจะกล่าวโทษอะไรฉันเลยล่ะ

     

    ด้วยคำที่ยัยคนนี้เรียกฉันว่าพี่ทำให้ฉันมองไปดูสัญลักษณ์นักเรียนที่เสื้อของเธอ ก็ทำให้รู้ว่าเธออยู่ ม.5 เป็นรุ่นน้องของฉันนี่เอง ถึงว่า ทำไมฉันดูหน้าเด็กจัง

     

    “แต่พวกเราสองคนก็เห็นนะว่ายัยนี่ยืนขวางประตูชัดๆ” ยัยเพื่อนอีกคนของน้องคนนี้เริ่มพูดขึ้น บรรยากาศโดยรอบเริ่มมาคุขึ้นมา เหล่านักเรียนตาดำตาแดงเริ่มที่จะทยอยมายืนมุ่งดูพวกเราคุยกัน อ๊ากกกก ไม่อยากเป็นจุดสนใจเลยนะ

     

    ช่วงนี้มันช่วงวัยอะไรของฉันเนี่ย >O<

     

    ทั้งเจอผีของป้า!!

     

    อยู่ห้องเรียนที่น่ากลัวที่สุด!!

     

    มีข่าวฉาวที่ไม่รู้ต้นตอเกิดขึ้นในโรงเรียน!!

     

    ต้องไปเป็นอาสาสมัครน้ำท่วมในวันหยุดนี่อีก ทั้งๆที่ฉันเกลียดแดดที่สุด!!

     

    แล้วนี่ยังมามีเรื่องกับยัยพวกนี้อีก อย่างนี้ฉันก็ยิ่งฉาวไปกว่าเดิมน่ะสิ แง๊ๆๆ!!

     

    เจ้าชายในฝันของฉันนายอยู่ไหน ออกมาช่วยฉันจากสถานการณ์นี้ที… Please ได้โปรด ช่วยออกมาเถ้อ

     

    “มีเรื่องอะไรกันน่ะ!

     

    ^_^

     

    มาแล้วววว ใครนะ?

     

    ขวับ

     

    หน้าหัน

     

    เอ่อ

     

    “ฉันไม่อยู่แค่แปบเดียว พวกเธอก็คิดจะหาเรื่องเพื่อนฉันแล้วเหรอ”

     

    มันเป็นเสียงของยัยผัดที่ซื้อของเสร็จแล้วนี่เอง

     

    คะ คะ เคร้ง!

     

    ผิดหวังในใจใหญ่หลวง Oh mom T0T

     

    “ไม่มีหรอก คือพอดีว่าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ ^_^

     

    “อุบัติเหตุนิดหน่อยอะไรกัน เธอบาดเจ็บมากเลยนะปิงปอง อ้อ” ยัยเพื่อนลูกแม่ค้าปากตลาดพูดตวาดตาขวางขึ้น จากนั้นก็มองสำรวจข้าวผัดอย่างเหยียดๆ “นี่รุ่นพี่คงเป็นพี่ข้าวผัด ฉายา “เจ้าแม่มาเฟีย” ของโรงเรียนสินะคะ โฮะๆ” ยัยนั้นใช้มือปิดปากหัวเราะอย่างดัดจริต

     

    “ไปอยู่ข้างหลังฉันโอ๊ต” ผัดกระซิบขึ้นมาเบาๆ ฉันก็ทำตามคำสั่งของเพื่อน กลิ่นของความโชคร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นลอยมาที่จมูกฉันตงิดๆ เด็กนักเรียนก็เริ่มมายืนมุงกันเยอะขึ้นไปอีก

     

    “นี่เพื่อนของพี่เหรอคะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อน”

     

    “ใช่ แล้วเธอจะทำไม”

     

    “ก็ไม่ทำไมหรอกค่ะ ใครจะกล้าแหยมกับเพื่อนของเจ้าแม่มาเฟียล่ะคะ พักนี้มีเรื่องของเพื่อนรุ่นพี่แว่วๆเข้าหูฉันมาบ้าง ว่าแต่สมกันดีจังเลยนะคะ ฮิ ฮิ” ปิดปากหัวเราะ

     

    เฮ้อ สาบานได้ว่าในชีวิตฉันจะไม่ทำท่าทางอย่างนี้เด็ดขาดน่าเกลียดจริงๆ

     

    “เธอหมายความว่าไง!” ฉันรู้สึกได้ถึงขีดความร้อนของผัดเริ่มที่จะเดือดปุดๆขึ้นมาแล้ว

     

    “ก็ไม่ว่าไงหรอกคะ” ยัยนั้นกวาดสายตามองไปรอบๆและพูดขึ้นเบาๆ “รุ่นพี่คะ ถ้าจะลงมือกับฉันตรงนี้ เกรงว่าจะไม่เหมาะนะคะ เพราะคนที่จะลำบากทีหลังนั่นคงจะเป็นรุ่นพี่มากกว่า J

     

    ปุดๆ

     

    เดือด! เดือด!

     

    ไม่ใช่เสียงเดือดของผัดหรอกนะ แต่มันเป็นฉันต่างหากที่เดือด! >0<|||

     

    ฉึบ

     

    “ต่อไปนี้ระวังตัวไว้ดีๆหน่อยนะ เพราะเธอได้เข้ามาอยู่ในรายชื่อคนที่ฉันเล็งไว้เรียบร้อยแล้ว” ผัดจับที่ข้อมือฉันและเดินผ่านยัยนั่นออกมา ระหว่างที่จะเดินผ่านเธอก็พูดกระซิบที่ข้างหูของยัยนั่นเบาๆ เล่นเอายัยนั่นหน้าชาไปเลย

     

     

     

     

    12.33 AM.

     

    “ผัดเธอมีฉายาอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ระหว่างที่พวกเราสามคนทานข้าวกันมาได้สักพักแล้วฉันก็ถามขึ้น เพราะเมื่อตอนเช้าไม่ว่าฉันจะถามยังไงเธอไม่ยอมตอบ ภาพที่ฉันเห็นเมื่อตอนเช้ากับภาพเธอที่ฉันรู้จักมันต่างกันลิบลับ บอกตรงๆว่าเมื่อตอนเช้าฉันกลัวเธอมาเลย ราวกับว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันไม่ใช่ผัด!

     

    “ฉายาที่ว่าเจ้าแม่มาเฟียน่ะเหรอ” หอมเอ่ยขึ้นหน้าตาเฉย ราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา

     

    “อือ นั่นแหละ”

     

    “ก็ตั้งแต่ที่ฉันย้ายเข้ามาเรียนใหม่ๆ นู้นแหละโอ๊ต อิอิ ฟังดูน่าเกรงขามดีนะ อ้อ แล้วก็ไม่ใช่แค่ฉันนะที่มี หอมมันก็มีเหมือนกัน”

     

    “จริงเหรอหอม!

     

    หะ หอมเนี่ยนะ ดูเธอเหมือนนางฟ้าจะตายไป

     

    “เธอลืมไปแล้วเหรอว่าพวกเราอยู่ห้องไหน และถ้ามีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นอีก พวกเราสองคนต้องออกจากโรงเรียนโดยไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้น” หอม

     

    “มันฟังดูเหมือนว่าพวกเธอน่ากลัวมากเลยนะ” ฉันชักหนาวๆแล้วสิ ที่มาเป็นเพื่อนกับสองคนนี้ นี่ตกลงฉันเลือกคบเพื่อนถูกกลุ่มมั๊ยเนี่ยยย แต่ก็นะ ในห้อง กลุ่มนี้ก็ดูน่าเป็นมิตรที่สุดแล้ว

     

    “ก็ใช่น่ะสิ เธอเพิ่งรู้เหรอไง เพราะฉะนั้นจงยอมคบกับพี่ชายฉันซะ” ผัดเริ่มปล่อยรังสีอำมหิตออกมาทางสายตา ฮือๆ ฉันเริ่มกลัวเธอจริงๆแล้วนะ

     

                    T_T

     

    “ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นน่าโอ๊ต เธออย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นสิ”

     

    “เธอเองก็แหย่เล่นไม่เข้าท่านะผัด” หอมตำหนิ

     

    “อิอิ โทษทีๆ”

     

    “เธอไม่ต้องกลัวพวกเราหรอก ถึงในสายตาคนรอบข้างพวกเราจะดูน่ากลัว แต่พวกเราจะดีกับเธอนะ เพราะตอนนี้เธอเป็นเพื่อนในกลุ่มของพวกเราแล้ว พวกเราจะไม่ทำร้ายเธอเด็ดขาด ถ้ามีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอ พวกเราก็จะปกป้องเธอเอง สำหรับพวกเราแล้วเธอก็คือ เพื่อนคนหนึ่ง” หอม

     

    “ใช่ เพื่อนคนหนึ่งไม่ใช่คนอื่น” ผัด

     

     

     

    ขอบคุณนะ”

     

    “ฮ่าๆ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ มันเหมือนว่าพวกฉันทำเธอร้องไห้เลย”

     

    “อิอิ ก็ฉันซึ้งนิ T^T” ฉันเอานิ้วขึ้นมาซับน้ำตาที่คลอๆอยู่เล็กน้อย

     

    “ฮ่าๆ เธอเป็นคนขี้แยสินะ ^_^

     

    “ฉันเปล่านะ >.<

     

    “ไม่จริงหรอก ฮ่าๆ ^_^

     

    “จริงๆ >,<

     

    “ไม่เชื่อ ^_^

     

     

     

     

     “เตรียมของส่วนตัวที่จะเอาไปครบหรือยัง” แม่ที่นั่งอยู่โซฟากับพ่อถามฉันที่เพิ่งเดินลงบันไดมา

     

    “ค่ะ หมดแล้ว L

     

    “ดูสิ ทำหน้าเข้า”

     

    ก็คนมันไม่อยากไปนี่นา

     

    วันนี้เป็นวันที่พวกเราจะเดินทางกัน โดยจะไปรถของบริษัทที่พ่อทำงานอยู่ ออกเดินทางตอนค่ำและก็ไปถึงจังหวัดนครสวรรค์ตอนเช้าเลย อาศัยการนอนไปในรถระหว่างนั่ง

     

    ตอนนี้พวกเราถึงหน้าบริษัทของพ่อแล้ว โดยพ่อจอดรถไว้ที่ลานจอดรถในตึก มีรถอยู่สิบกว่าคันที่จอดร่วมอยู่ด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นรถของคนที่จะไปเป็นตัวแทนจิตอาสาน้ำท่วม ฉันช่วยทุกคนขนของบริจาคขึ้นรถไม่นานก็หมด จากนั่นพวกเราก็เริ่มออกเดินทาง เมื่อขึ้นรถมาได้ไม่นานฉันก็งีบหลับไปเลย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรไม่รู้มาสะกิดไหล่ฉันเบาๆ

     

    ฉันค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างงัวเงีย แสงแดดสีทองกระทบเข้าที่กระจกตาฉัน เล่นเอาพร่ามัวมองอะไรไม่ชัดไปหมด แต่ไม่นานฉันก็เห็นทุกอย่างชัดเจน

     

    รถคันที่พวกเรานั่งมาหยุดนิ่งอยู่ตรงลานอะไรซักอย่าง มองออกไปข้างนอกใกล้ๆกับที่จอดรถ เป็นอาคารขนาดใหญ่ ผู้คนอยู่กันเต็มไปหมด ส่วนข้างหน้าอาคารก็มีรถคันเล็กๆหลายคันจอดเรียงรายกันอยู่ท่ามกลางแสงแดดตอนเช้าที่ร้อนจัด ผู้คนมากมายเดินออกมาจากอาคารขนสัมภาระกันไปมา บางกลุ่มก็ขึ้นรถไม่นานรถคันนั้นก็ขับออกไป ฉันเริ่มได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากข้างล่างดังขึ้นมา

     

    ถึงแล้วสินะ

     

    “ข้าวโอ๊ตตื่นได้แล้วลูก ลงไปขนของบริจาคลงรถช่วยกันลูก” ฉันหันหน้าไปมองผู้หญิงที่มัดผมสีดำเนียบ ดวงตาสวยเป็นประกายของความมั่นใจ ใบหน้าเนียน ทั้งๆที่ไม่ได้มีเครื่องสำอางติดอยู่บนหน้า

     

    “จ๊ะแม่ หนูหลับไปนานมั๊ยคะ”

     

    “นานมาก และก็หลับลึกจนมาถึงที่นี่เลย ทีแม่นอนยังไงก็นอนไปหลับ มันตะกุตะกักยังไงไม่รู้ แม่ไม่ชิน” แม่พูดพลางจับปากหาวนอนหวอดๆ

     

    “แล้วพ่อล่ะคะ” ฉันเอนตัวไปมองยังที่นั่งอีกฝั่ง ที่พ่อนั่งอยู่กับคุณลุงคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนกัน แต่ก็ไม่เห็นทั้งคู่

     

    “ลงไปได้ซักพักแล้วล่ะ”

     

    “เหรอคะ งั้นเราลงไปช่วยทุกคนกันเถอะค่ะ”

     

     

     

     

    07.34 AM.

     

    เมื่อพวกเราทุกคนทานข้าวเสร็จ ฉันก็นั่งรถที่ใช้สำหรับลุยน้ำที่จอดอยู่หน้าอาคารของสนามกีฬาหัวหมากไปยังพื้นที่ ที่ประสบภัย ตอนที่ฉันกินข้าวอยู่มีผู้คนจำนวนมากที่เป็นผู้อพยพอาศัยกันอยู่ในอาคาร กินและนอนที่นี่ มีหลายคนที่นั่งเชื่องซึมไม่พูดไม่จาแถมดวงตาทั้งสองข้างยังปูดบวมคงเพราะผ่านการร้องได้มาอย่างหนัก เมื่อฉันเห็นอย่างนี้แล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้ พวกเขาคงจะต้องสูญเสียอะไรไปมาก มีอาสาสมัครหลายคนที่เข้าไปคุยเป็นเพื่อนปลอบใจผู้อพยพ บางทีหลังจากน้ำลดแล้ว หลายคนคงจะได้เพื่อนแท้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งหรือคนสองคนก็เป็นได้ เพราะในยามลำบากคนที่อยู่กับเราเวลาเรามีปัญหานั่นแหละจะดูเป็นมิตรที่ดีที่สุด

     

    แต่ก็มีผู้อพยพหลายคนนะที่มีรอยยิ้ม พวกเขาพูดคุยหัวเราะกันไปราวกับว่าตอนนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวลมาก พวกเด็กๆที่ยังไม่โตมากก็วิ่งเล่นหัวเราะกันเป็นกลุ่มใหญ่อย่างสนุกสนาน ดีจังนะที่ที่นี่ไม่มีแต่น้ำตา ยังมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอยู่บ้าง ไม่งั้นบรรยากาศคงเศร้าน่าดู

     

    ระหว่างตลอดทางการเดินทางไปหมู่บ้านลำนาม ฉันก็ชะโงกหน้ามองวิวข้างทางอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะดูว่าสภาพโดยรอบเสียหายไปอย่างไรบ้าง ฉันเห็นร่องรอยของน้ำที่เคยท่วมสูงมาก่อนตามต้นไม้ กำแพงและเสาไฟฟ้าซึ่งสูงมากกว่าหนึ่งเมตร มีเสาไฟฟ้าและต้นไม้หลายต้นที่หักลงมาตามข้างทาง รถคันที่ฉันนั่งมาจอดบริเวณที่น้ำท่วมสูงไม่มาก

     

    “รถจอดทำไมล่ะแม่”

     

    “พวกเราจะแบ่งของและก็จำนวนคนลงไปในเรือที่จอดอยู่ตรงนี้น่ะ เพราะว่าบางพื้นที่รถก็เข้าไปไม่ได้จึงต้องใช้เรือ”

     

    ฉันมองออกไปข้างนอกเพื่อจะมองดูเรือ มันก็เป็นลำที่ใหญ่มากเลยอ่ะนะ “มันมีแค่ลำเดียวเองเหรอคะแม่”

     

    “ไม่หรอกจ๊ะ แต่ตอนนี้มันมีลำเดียว ข้าวอยากไปนั่งเรือมั๊ยล่ะ” พ่อที่นั่งข้างๆตอบแทนแม่

     

    “ไม่ล่ะค่ะ ข้าวกลัวตกเรือ ฮิ ฮิ”

     

    “ฮ่าๆ พ่อก็ว่างั้นแหละ” พ่อหัวเราะไปพลางลูบหัวฉัน

     

    “งั้นเดี๋ยวหนูไปแพ็คของลงเรือ ช่วยพวกเขาก่อนนะคะ แม่เป็นอะไรคะ สีหน้าแม่ไม่ค่อยดีเลย”

     

    “ข้าวไปช่วยพวกเขาก่อนเถอะ แม่เหมือนว่าจะปวดๆหัวนิดหน่อย คงเพราะนอนไม่พอน่ะ”

     

    “จริงเหรอแม่! แม่เป็นอะไรมากมั๊ย O_O” พ่อที่ดูเป็นห่วงแม่จนเกินหน้าเกินตาจับตรงนั้นลูบตรงนี้เพื่อที่จะเช็คดูอาการแม่ “ข้าวไปก่อนนะ พ่อต้องดูแลแม่ก่อน โธ่แม่ น่าสงสารจริงๆ เพราะพ่อคนเดียวแท้ๆ แม่ไม่เป็นไรนะ แม่อย่าจากพ่อไปนะถ้าไม่มีแม่พ่อต้องดีใจ เอ้ย! คิดถึงแม่มากแน่ๆ พ่อคงจะกลั้นใจตายตามแม่ไป บลาๆ”

     

    “แม่แค่ปวดหัวเองนะ”

     

    “นั่นแหละ!! เรื่องใหญ่เลย ถ้าเกิดว่ามีโรคแทรกซ้อนมาด้วยล่ะ ภัยอันตรายเลยนะแม่”

     

    พ่อห่วงแม่ขนาดนั้นเชียว @_@ (กระริกๆ แววตาซาบซึ้ง)”

     

    “พ่อห่วงแม่เท่าฟ้าเลยล่ะ T_T

     

    “พ่อ… @_@ (กระริกๆ)”

     

    มองตากันหวานซึ้ง

     

    ฉันอยากจะบอกแม่กับพ่อซะเหลือเกินว่า

     

    เฮ้ย พ่อ แม่ นี่เรามาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมกันนะ!!’

     

    ฉันส่ายหัวเบาๆและเดินออกมา พ่อของฉันมักจะโอเวอร์อย่างนี้เสมอๆแหละ ถ้าเป็นเรื่องของแม่ และดูเหมือนว่าแม่จะชอบให้พ่อเป็นอย่างนี้นะ ถึงแม้แม่จะชอบด่าว่าพ่อพูดเกินไปก็เถอะ

     

    “ลุงคะ มาค่ะ เดี๋ยวหนูช่วยแพ็ตของลงเรือ”

     

    “อ้าว อิหนู จะมาช่วยเหรอ แล้วพ่อกับแม่ล่ะ” คุณลุงที่กำลังนั่งแพ็ตของส่งต่อกันกับอีกลุงคนหนึ่ง

     

    “แม่ปวดหัวนิดๆน่ะค่ะ พ่อเลยอยู่ดูแล”

     

    =_= >>>>>>>

     

    =_= >>>>>>>

     

    ฉันกับคุณลุงมองไปที่พ่อกับแม่ที่ดูเหมือนกำลังจู้จี้กันมากกว่า อ๊ายยย อายจัง

     

    “อ้อ งั้นเหรอ แต่ว่าทางนี้มันเต็มแล้ว งั้นหนูขึ้นไปบนเรือมั๊ยล่ะ ดูท่าทางจะยังต้องการคนช่วยอยู่”

     

    “งั้น งั้นเหรอคะ ก็ได้ค่ะ”

     

    ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่อยากที่จะขึ้นไปบนเรือ แต่ถ้าจะปฏิเสธไปมันก็กระไรอยู่ ฉันเป็นฝ่ายมาขอที่จะช่วยแท้ๆ

     

    “งั้นก็ขึ้นไปเลยอิหนู”

     

    ฉันเดินไปที่เรือและขึ้นไปนั่ง

     

    “อ้าวหนูจะมาช่วยเหรอ อ้าว มาๆ คนเยอะๆจะได้เสร็จกันเร็วๆ” ป้าผู้หญิงที่ใส่หมวกและใช้ผ้าห่อที่หน้าอย่างมิดชิด จนมองแทบจะไม่เห็นหน้าพูดขึ้นแต่ไม่ได้หันมามองฉัน

     

    ว่าแต่ ฉันน่าจะห่ออย่างนี้บ้างนะ

     

    “ค่ะ”

     

    เมื่อมองป้าแกจากด้านข้างแล้ว ฉันว่าหน้าคุ้นๆนะ ดวงตากับจมูกอย่างนี้ เหมือนกับ

     

    อาจารย์สุวิตา!!

     

    ขณะที่ฉันกำลังเพ่งเล็งป้าแกอยู่ แกก็หันหน้ามาเต็มๆ

     

    “ยัยพัชรินทร์”

     

    “อะ อาจารย์

     

    “นี่เธอมาช่วยเป็นจิตอาสาน้ำท่วมเหรอ”

     

    “ค่ะ”

     

    “ดีจริงๆ งั้นมาช่วยกันเถอะ”

     

     

     

     

    หลายนาทีผ่านไป

     

    “อ้าว พัชรินทร์ เธอจะลุกไปไหนล่ะนั่น”

     

    “เอ่อขึ้นรถค่ะ” เมื่อแพ็ตของลงเรือหมดแล้ว ฉันก็เตรียมที่จะลงเรือ แต่อาจารย์วิชุตารั้งไว้ก่อน

     

    “ไม่ต้องขึ้นหรอก ไปกับครูนี่แหละ ไปด้วยกันนะ”

     

    “เอ่อแต่ว่า

     

    “เธอไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า ว่าจะกลับไม่ได้ ฉันเองก็มาจากสนามกีฬาหัวหมากเหมือนกัน แล้วค่อยกลับกับฉันก็ได้”

     

    “เอ่อแต่ว่าหนูยังไม่ต้องบอกพ่อกับแม่เลยนะคะ” ฉันรีบเอาพ่อกับแม่มาอ้างทันที

     

    “ไม่เป็นไร!! พ่อกับแม่อนุญาต!! ลูกไปเถอะ!! q^0^p (โบกมือบ๊าย บาย)”

     

    O[]O”

     

    ขณะที่ฉันกำลังหาทางพูดเพื่อให้ตัวเองหลุดรอดจากการไปนั่งเรือ ก็มีเสียง เสียงหนึ่งตะโกนและโบกมือไวๆมาจากรถ เสียงที่ฉันคิดว่าต้องเป็นเสียงสวรรค์ แต่กลับกัน! มันไม่ใช่เลย!! มันเป็นเสียงจากนรก!! โฮฮฮฮ T0T

     

    พ่อกับแม่ได้ยินที่ฉันคุยกับอาจารย์วิชุตาได้ไง โฮฮฮฮ บาปกรรม

     

    “นั่นพ่อกับแม่เธอเหรอ” อาจารย์สุวิตามองไปที่รถ เห็นพ่อกับแม่โบกมือหย็อกๆให้ฉันอยู่

     

    แล้วนั่นแม่หายป่วยแล้วเหรอ ถึงได้กระดี๊กระด๋าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำอย่างนั้น

     

    ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากลงเรือ! ทำไมยังพูดแบบนั้นอยู่อีก! >.< คอยดูนะกลับไปฉันจะโกรธใส่เต็มชุดเลย คอยดู๊ คอยดู!! >O<

     

    “หนิง พี่ขอตัวไปขึ้นรถนะ พี่คงนั่งเรือไปไหวหรอก” ลุงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในเรือพูดขึ้น ดูท่าทางและสีหน้าของแกไม่ค่อยดีเลย

     

    “อ้าวทำไมล่ะพี่ต้อง”

     

    “อยู่ๆพี่ก็ปวดท้องกะทันหัน คงนั่งเรือไปด้วยไม่ได้หรอก” ลุงคนนั้นเอามือกุมท้อง เพื่อยืนยันความเจ็บปวด

     

    “แล้วทำไมเพิ่งมาบอก ไปๆ รีบไปขึ้นรถ”

     

    “เดี๋ยวพี่เรียกหลานมาช่วยทางนี้แทนแล้วกันนะ” จากนั่นแกก็เดินจากไป

     

    “นั่นพี่ชายฉัน ที่เป็นญาติกันเองแหละ พวกเรานัดกันและก็มาด้วยกันน่ะ” เมื่อลุงคนนั้นเดินไปขึ้นรถที่เบาะข้างหน้า อาจารย์สุวิตาก็พูดขึ้น

     

    ฉันเคลื่อนย้ายตัวไปนั่งที่ข้างหน้าของเรือและทำใจยอมรับว่าฉันต้องนั่งเรือไปจริงๆ ที่สำคัญกับอาจารย์ประจำชั้นสุดโหด สักครู่เรือก็เริ่มเคลื่อนลำออกห่างจากจุดๆเดิมไปเรื่อยๆ เข้าสู่บริเวณที่มีน้ำท่วมสูง ฉันเห็นสภาพบ้านโดนน้ำท่วมจนเกือบจะถึงชั้นที่สองของบ้าน แต่ก็มีหลายหลังที่สูงจนถึงชั้นสองเลย คงเป็นเพราะบ้านมันต่ำ บ้านชั้นล่างของเกือบทุกหลังคาเรือนต้องเอาประตูและข้าวของออกเพื่อเป็นทางให้น้ำไหลผ่าน ข้าวของถูกยกไว้บนชั้นบนของบ้าน ตามคาน ตามหลังคา  จากที่เห็นแค่ไกลๆ ก็เริ่มเข้าใกล้เข้าเรื่อยๆ

     

    คงต้องนั่งอยู่ในเรือทั้งวัน ทำใจทำใจ... ฉันบอกตัวเอง

     

    ปึก!

     

    เรือไปชนเข้ากับท่อนไม้ ท่อนใหญ่ที่ลอยมาตามน้ำ ทำให้มันโคลงเคลง ร่างกายของฉันกระตุกอย่างแรงเพราะอยู่ข้างหน้าสุด ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และกำลังจะตกลงไปในน้ำ!! O_O|||

     

    ไม่นะ

     

    ไม่!

     

    ฉันว่ายน้ำไม่เป็น แวบหนึ่งที่ฉันมองเห็นเสื้อชูชีพที่วางอยู่บนตัก ให้ตายเถอะ ฉันน่าจะใส่มันก่อนหน้านี้ ไม่น่าชะล่าใจเลย

     

    ตัวของฉันเอียงไปข้างขวาอย่างรวดเร็ว ฉันใช้สองแขนที่มีอยู่ทั้งมือข้างขวาและซ้ายจับขอบเรือไว้ แต่ก็ไม่สามารถต่อสู้แรงต้านทานของโลกตามทฤษฏีของนิวตันได้เลย -_-^

     

    ...ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเหตุการณ์วิกฤต!!

     

    ...ถึงใครจะหาว่าฉันบ้า เพ้อเจ้อก็เถอะ!!

     

    แต่ฉันก็ยังคงไม่ลืมที่จะเรียกหาในใจว่า

     

    พระเอกในฝันของฉัน ช่วยฉันด้วย!!! >O<’

     

    ทันใดนั้นเอง

     

    ฉึบ!

     

    ร่างบางแสนสวยของฉันที่กำลังจะร่วงหล่นตุบลงน้ำก็ต้องหยุดชะงัก ...ฉันพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงของใครบางคน ไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อที่แขน แต่แผ่นหลังของฉันสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อที่อกและหน้าท้องด้วย ไม่ว่าจะส่วนไหนมันก็แน่นไปหมด คนที่ช่วยเขาคงเป็นคนที่แข็งแรงมากแน่ๆ กลิ่นหอมๆของช็อกโกแลตลอยอ่อนๆมาติดอยู่ที่ปลายจมูก ฉันรีบหันหน้าไปมองด้านหลังของตัวเองอยากรู้เต็มทนว่าเป็นใคร หวังว่าคงไม่ใช่ผู้หญิงที่เล่นกล้ามจนแข็งแรง หรือลุงแก่ๆที่มีลูกมีเมียแล้วหรอกนะ

     

    ขวับ

     

    ฉึก!

     

    [-\\\\\-]

     

    ตึกตัก ตึกตัก

     

    สะ สายตาฉัน

     

    ไม่ ไม่สามารถละไปได้เลย

     

    ดวงตาคมสีดำอมน้ำตาลมีเสน่ห์ราวกับเหยี่ยวคู่นั้นมองมาที่ฉันอย่างอ่อนโยน ไม่นะ >O< มันทำฉันอ่อนระทวยไปหมด >\\\< จมูกที่โด่งรันเป็นสัน ริมฝีปากที่เชิดเข้ารูปอย่างน่าหลงใหล ผมสีดำที่ยาวลงมาปรกตาเล็กน้อยขับให้ใบหน้าของเขาที่ขาว ใส และเนียนอยู่แล้วเด่นยิ่งขึ้น ใบหน้าของเขานั่นคือสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาใช่มั๊ย

     

    [=\\\\\\=]

     

    ตึกตัก ตึกตัก

     

    ฉะ ฉันเจอแล้วผู้ชายในฝันของฉัน!!



     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป










     Add fan จิ้มๆ

     


     

     




     

    บไปแล้วอีกตอนหนึ่ง ตบมือดังๆให้รีดเดอร์ทุกคนที่อ่านกันมาจนถึงหน้านี้ ขอบคุณค่ะ ^^’

    ใครนะที่เป็นผู้ชายคนนั่น!! ผู้ชายสุดหล่อที่โผล่มาตอนสุดท้ายเป็นใครนะ!! ถ้าอยากรู้ต้องติดตามค่ะ ฮ่าๆ รับรองตอนต่อไปได้ฟินกันแน่ๆ คึคึ >O<

    ปล.เหตุการณ์ตอนน้ำท่วมนี้ฤดูฝนหาข้อมูลในการเขียนพอสมควรค่ะ แต่หากผิดพลาดเรื่องความไม่สมจริงประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ อิอิ

    (หวังว่าเค้าจะบรรยายบรรยากาศสิ่งรอบข้างได้ดีนะ >.<)

     

     
     




    ขอบคุณภาพพื้นหลังสวยๆจาก B ♔ W

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×