ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Man in love ตามล่าหาหัวใจ พระเอกนิยายในฝัน

    ลำดับตอนที่ #8 : [ตอนที่ 7] เสียงหัวใจที่ชัดเจน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 186
      18
      25 ส.ค. 59

     

    By. Changfan











     

    I belong with you

    ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ

    Crazy love for you

    ฉันบ้ารักก็เพราะเธอ

    Even you went by, your charms still flow

    ถึงเธอจะจากฉันไปแล้ว แต่สำหรับฉันเธอยังน่ารักเสมอ

    Inscribe into heart that you’re my most valuable in this world

    จารึกไว้ในหัวใจว่าเธอมีค่าที่สุดในโลกนี้











     


                                                        ข้าวต้ม




    ตอนที่ 7
    เสียงหัวใจที่ชัดเจน





     

    จ้อกแจ๊ก จ้อแจ๊

     

    “เดี๋ยวนะแก ฉันทำกระเป๋าตก” ผัดหยิบกระเป๋าสตางค์สีขาวลายดอกไม้ขึ้นมาจากพื้น ระหว่างที่เหล่านักเรียนชายหญิงเดินผ่านกันไปมาที่ฟุตบาทถนนหลักทางเข้าของโรงเรียน “ไม่รู้ช่วงนี้เป็นอะไรหยิบจับอะไรก็ล้วงไปหมด อิอิ น่าโมโหจริงๆ”

     

    “โอ๊ตเย็นนี้เธอรีบกลับบ้านมั๊ย ไปดูหนังกันมั๊ย ฉันกับผัดตกลงกันแล้วนะว่าจะไป” ดวงตาสีดำเข้มและเป็นจุดเด่นที่สวยมากที่สุดบนใบหน้าของหอม มองหน้าฉันด้วยความคาดหวังที่อยากจะให้ไปด้วยกัน ฉันก็อยากไปกับเพื่อนนะ...แต่ให้ทำไงได้ เพราะฉันมีนัดสำคัญแล้วนะสิ คึๆ >.<

     

    “เอ่อ...ขอโทษนะ พอดีฉันติดธุระสำคัญน่ะ แฮะๆ T^T

     

    “อ่า แย่จัง... T^T” ผัดมองหน้าฉันด้วยดวงตาเศร้า แต่มันก็แค่แปบเดียวเท่านั้นแหละ “แล้วธุระที่ว่านี่มันอะไรเหรอ”

     

    “เอ่อ...”

     

    “อย่าบอกนะโอ๊ต ว่าเป็นผู้ชายคนนั้น อิอิ >.< ที่คุยกันเมื่อกี้ ไม่จริงใช่มั๊ย!!!” หอม

     

    “เอ่อ...” หน้าเริ่มแดง

     

    “ใช่! ใช่จริงๆด้วย ว่าแต่เป็นใครเหรอ” หอมจ้องมาที่ดวงตาของฉันที่พยายามจะหลบเต็มที่ เมื่อมองแล้วก็ใช้นิ้วชี้ชี้มาที่ดวงตาของฉัน >\\\<

     

    อ๊ายยยย อย่าถามได้มั๊ย เค้าเขินนนนน

     

    “คือว่า... >\\\<

     

    จะบอกไปดีมั๊ยน่า?....

     

    เฮ้อ บอกเถอะๆ ยังไงก็เพื่อนกัน เพื่อนต้องไม่มีความลับต่อกัน >O<

     

    “เฮ้! พี่ข้าวต้มทางนี้!! ^O^” ในระหว่างที่ฉันกำลังจะพูดยัยผัดก็ตะโกนขึ้นและยิ้มแย้มแจ่มใสโบกไม้โบกมือให้กับใครบางคนที่กำลังเดินมา...

     

    เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ!! พี่ข้าวต้มเหรอ?!!

     

    ฉันหันหน้าไปมองคนที่ยัยผัดโบกไม้โบกมือให้อย่างช้าๆ และก็แทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง ผู้ชายร่างสูงโปร่งผิวขาวใส่เสื้อสีดำคนนั้น ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะดูดีแค่ไหน แต่ฉันก็เกลียดเข้าไส้ แม้กระทั่งชื่อก็ไม่อยากได้ยิน! นี่ยังมาเห็นหน้านั่นอีก(แม้จะเป็นหน้าหล่อๆก็เถอะ -*-)

     

    เมื่อนายนั่นเดินมาหยุดที่กลุ่มเรา ฉันก็หุบปาก เบ้หน้า ยืนกอดอกหันหน้าหนีไปอีกทางทันที

     

    “สวัสดีค่ะพี่ข้าวต้ม” หอมพูดด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง ส่วนฉันก็หน้าบูดหน้าเบี้ยวแม้แต่เสียงนายนั่นก็ไม่อยากจะได้ยิน เดินหนีปลีกตัวออกไปเลยจะดีมั๊ยนะ

     

    “อ่อ หวัดดีครับ พี่มารับพวกเราไปดูหนัง...”

     

    ตึก ตึก ตึก

     

    เมื่อได้ยินเสียง และนายนั่นพูดยังไม่ทันจบคำ ฉันก็รีบเดินหนีไปที่อื่น ไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากได้ยิน เหม็นขี้หน้า!! L

     

    “โอ๊ตจะไปไหน อยู่นี่ก่อนสิ” ฉันได้ยินเสียงผัดเรียกตัวฉันเอง

     

    “ไม่ล่ะ ฉันมีธุระ อีกอย่างพื้นที่ตรงนั่นฉันได้กลิ่นเหม็นๆอะไรก็ไม่รู้ไม่อยากจะยืนอยู่นานๆ รังเกียจ!!

     

    “เฮ้อ อากาศตรงนี้ก็ดีขึ้นเยอะเลยเนอะข้าวหอม พอใครบางคนไม่อยู่กลิ่นเหม็นอบอวลที่เคยมีอยู่ก็หายไปทันที ดีจังเลยเนอะ” ขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปเสียงนายไส้เดือนก็ดังขึ้นมาสะกิดหัวใจอันแสนบริสุทธ์และอ่อนต่อโลกของฉัน เพียงแค่ประโยคไม่กี่ประโยคทำให้ฉันฉุนขึ้นทันที หากออกมาจากปากเหม็นๆของนายนั่นและมากระทบที่ฉัน!! >O<|||

     

    “นายว่าใคร!!” ฉันเดินทัพกลับมาเผชิญหน้ากับไอ้ผู้ชายโรคจิต

     

    “ก็ว่าสัมภเวสีแถวๆนี้แหละ ทำไมเธอต้องเป็นเดือนเป็นร้อนด้วย เป็นพวกเดียวกันเหรอ เธอชื่อว่าอะไรนะ อ้อ ยัยตาเท่าโบกปูนใช่มั๊ย อืมๆ ฉันจำได้แล้วแหละ ชื่อนี้ดูเหมาะสมกับเธอดีนะ -_-^” นายไส้เดือนพูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่นิ่งเฉย แต่นั่นมันกลับทำให้ฉันปรี้ดถึงขีดสูงสุดดดด

     

    มันด่าเก่งกว่าฉันอีกอ่ะ!!! ฉันยังไม่ทันได้ตอกคำพูดโจมตีอะไรสักครั้งเลยนะ คิดเอา T^T

     

    “กรี้ดดดด ไอ้ไส้เดือนหน้าตาย ไม่ทราบว่าฉันไปตบหัวนายตอนไหน หรือฉันละเมอไปขี้รดหัวนายหรือยังไง นายถึงได้มาจ้องจองล้างจองผลาญฉันอย่างนี้ มีอะไรพูดให้มันเคลียร์ๆมาดีกว่ามา หลังโรงเรียนตอนนี้เลยมั๊ย!! หา!!!” ฉันมองหน้านายนั่นอย่างไม่เกร็งกลัวและพับแขนเสื้อนักเรียนทั้งสองข้างขึ้นเตรียมพร้อม นักเรียนที่อยู่แถวๆนี้ ตอนนี้พวกเขาก็พุ่งความสนใจมาที่กลุ่มเราอย่างออกนอกหน้าจากนั่นก็ซุบซิบนินทา  บางกลุ่มก็หยุดเดินและก็ยืนดูเลย -_-

     

    “โอ๊ตนั่นพี่ฉันนะ ทำไมไปพูดอย่างนั้น เธอต้องให้เกียรติเขาบางสิ” ยัยผัดพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ยับยู่ยี่

     

    แต่ฉันสนใจคำพูดของหล่อนซะเมื่อไหร่กันล่ะ ดูพี่ชายของเธอสิ เล่นกวนบาทาฉันซะขนาดนี้ ครั้งก่อนก็เหมือนกันมีอะไรให้เคารพไม่ทราบ แล้วที่ว่าผู้หญิงแบบฉันนั่นเป็นสเป็กของนายนั่น เหอะๆ ถ้าเชื่อก็โง่บรรลัยแล้ว

     

    ฉึบ

     

    “อะ ไอ้บ้า!! นายจะทำอะไรน่ะ” อยู่ๆนายไส้เดือนก็เดินมาข้างๆจากนั่นก็จับแขนฉันอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเขาก็ ลากย้ำ! ว่า ลากกกเลยนะคะ ลากฉันไปไหนก็ไม่รู้

     

    “ปล่อยนะไอ้ทุเรศ นายจะพาฉันไปไหน ปล่อย!!

     

    “ก็ไปเคลียร์กันหลังโรงเรียนอย่างที่เธอบอกไว้ไงล่ะ ตอนนี้คงไม่ค่อยมีคนแล้วใช่มั๊ย งั้นก็ดีเลยกับเราสองคน -*-“ ไอ้ไส้เดือนพูดด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยและเย็นชา เขายังรักษาระดับน้ำเสียงนิ่งๆของเขาไว้เช่นเดิม

     

    “ดีบ้าดีบออะไรล่ะ!! กรี้ดดดด ปล่อยนะ”

     

    “หุบปาก!! ไม่งั้นฉันจะเอาขี้หมาที่กองอยู่ข้างหน้ายักเข้าปากเธอ อย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ! -__-“ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาปนชาดิส

     

    ฮือๆ อะไรจะน่ากลัวและโหดเหี้ยมโสมมขนาดนั่น เขาเหมือนจะเป็นฆาตกรได้เลย ฮือๆ ฉันกลัวแล้วนะ TOT

     

    “ฮึก T^T” ฉันหุบปากที่อ้าค้างไว้หลังจากที่กำลังจะฉอดๆไปโดยปริยาย

     

    “พี่ข้าวต้มจะพาโอ๊ตไปไหนน่ะ!!” เสียงของยัยหอมและยัยผัดแว่วๆดังมาจากข้างหลัง

     

    ฮือๆ หอม ผัด ช่วยฉันด้วย TOT ฉันได้แต่เรียกในใจอย่างแผ่วเบาเพราะไม่กล้าตะโกนออกมา... L

     

    ไอ้บ้า!! ไอ้โรคจิต!! ฉันอยากจะด่าเขาอย่างนี้จัง แต่ปากมันขยับไม่ได้ แง้งงงง >O<

     

     

     

     

    ...

    นายไส้เดือนลากฉันมาข้างหลังสุดของโรงเรียนเหมือนอย่างที่เขาพูดไว้จริงๆ สายลมพัดมาอ่อนๆแต่มันช่างหนาวเหน็บและเย็นเยือกแบบหลอนๆเหมือนใบหน้าของนายนี่ บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความเงียบสงบ จะมีเพียงก็แต่เสียง กา! กา!! กา!!!’ ของอีกาสามสี่ตัวที่บินผ่านฟากฟ้าไป -*-

     

    ฮือๆ ไม่ว่าฉันจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นผู้คนเลย ทำไมพวกมันรีบกลับบ้านกันเร็วอย่างนี้นะ แล้วนี่ยัยผัดกับหอมก็ไม่คิดจะตามมาเลยใช่มั๊ยเนี่ย แง้งงงง >O< ถ้าฉันโดนฆ่าตายอยู่ที่นี่จะมีใครรับรู้มั๊ย แล้วพ่อกับแม่ฉันล่ะ ใครจะดูแล ถ้าไม่มีลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้ที่เปรียบเสมือนเป็นฮีโร่ประจำบ้านและวงค์ตระกูล พ่อกับแม่ฉันคงกินน้ำสำลักคอตายตามฉันไปแน่ๆ ไม่น่า!!! ฉันไม่อยากฆ่าพ่อแม่แท้ๆ แล้วฉันก็ยังไม่อยากตาย!!! TOT ช่วยข้าวด้วยพี่ลูเชลล์...

     

    “ไม่ต้องมาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั่นเลย เธออยากเคลียร์ไม่ใช่เหรอ ฉันก็พามาแล้วนี่ไง เคลียร์มาสิ -_-” น้ำเสียงโหดๆดังขึ้น วินาทีนี้ฉันคิดถึงพี่ลูเชลล์จัง มาช่วยฉันด้วย!! ฮือๆๆ

     

    “...”

     

    เงียบ

     

    คำตอบของฉันที่ให้ไปคือการก้มหน้าและความว่างเปล่า

     

    “อย่าบอกนะ...ว่าตอนนี้เธอกำลังกลัวฉันแบบขี้หดตดหาย... “ นายไส้เดือนขยับเท้าและใบหน้าใสๆเข้ามาใกล้ๆ

     

    “...”

     

    “เธอกำลังกลัว...ฉันใช่มั๊ยล่ะ....” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองที่ดวงตาของฉันแบบไม่ลดสายตา ฮือๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันกำลังกลัวจนตัวสั่นและหัวใจเต้นแรงความดันเลือดสูดฉีดเพราะตาตี่ๆนั่น

     

    “นะ นายจะทำอะ... อะไรอ่ะ”

     

    “คราวนี้พูดเสียงอ่อนเลยนะ ทีเมื่อกี้ยังเถียงฉอดๆอยู่เลย” ใบหน้าใสๆและดวงตาสีน้ำตาลลดระดับต่ำลงมาใกล้หน้าของฉันมากขึ้น และนั่นมันยิ่งทำให้ฉันสั่นและร้อนรุ่มมากกว่าเดิม ฉันรีบหลบสายตาของเขาและจ้องลงมองที่พื้นทันที แต่ใบหน้าของฉันมันกลับร้อนผ่าวเพียงแค่รู้ว่าตอนนี้นัยน์ตาสีน้ำตาลทั้งสองคู่ของคนตรงหน้ากำลังมองฉันอยู่

     

    ให้ตายเถอะ!! ฉันกำลังจะเป็นบ้าเพราะนายไส้เดือนจริงๆใช่มั๊ย!! TOT

     

    “อย่าหลบ! สบตาฉัน” เขาสั่งเสียงเย็น ในเมื่อไม่มีทางเลือกฉันเลยต้องค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตาของเขาอย่างช้าๆ...

     

    “...”

     

    เพิ่งรู้ว่าใบหน้าของเราสองคนใกล้กันมากถึงเพียงนี้... ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองมาที่ดวงตาของฉันอย่างไม่วางตา... สายตานั่นของเขาทำเอาฉันหยุด! หยุดทุกสิ่ง หยุดทุกอย่าง หยุดแม้กระทั่งหายใจ... เหมือนเวลาทั้งโลกได้หยุดลง...

     

    แต่เพียงเวลาไม่นานฉันก็ได้สติ นี่ฉันกับกำลังเป็นอะไร กับนายไส้เดือนนี่นะ!! เหอะ! ไม่มีทาง!!! ถึงแม้อาการเมื่อกี้มันจะเหมือนฉากในนิยายตอนที่นางเอกหวั่นไหวเพราะอยู่ใกล้พระเอกมากจนเกินไปก็เถอะ แต่ฉันต้องไม่มีทางหวั่นไหวกับนายไส้เดือนนี่เด็ดขาด

     

    “ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะเป็นฝ่ายเคลียร์เองก็ได้”

     

    “...”

     

    “เธออยากรู้ใช่มั๊ยว่าทำไมฉันถึงทำอย่างนั่นกับเธอ... ทำไมฉันถึงปฏิบัติกับเธอไม่ดีเหมือนกับคนอื่นๆ”

     

    “...”

     

    ใช่ ฉันอยากรู้

     

    “...นั่นมันเป็นเพราะว่าฉันอยากเรียกร้องความสนใจจากเธอ!

     

    หือ!!

     

    O_O !!

     

    ฉันตกใจจนลืมหายใจไปชั่วขณะกับถ้อยคำที่ได้ยิน ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่อยู่ห่างกันไม่กี่เซนให้ลึกลงไปมากกว่าเดิมเพื่อหาความจริงจากคำพูดในดวงตาของเขา และดวงตาของเขาบอกสิ่งที่ฉันสงสัยให้กระจ่างมากกว่าคำพูดเมื่อกี้ซะอีก...

     

    “ฉัน...ชอบเธอ”

     

    “...”

     

    นาย...นายไส้เดือนพูดบ้าอะไรน่ะ

     

    “ฉันขอโทษที่ทำกับเธออย่างนั่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน แต่... แต่... แต่มันเป็นเพราะฉันแสดงออกไม่เป็นจริงๆ...”

     

    “....”

     

    “...ฉันไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ใช่เท่าเธอมาก่อน นั่นมันเลยยิ่งทำให้ฉันเกร็งและเป็นกังวลมาก และด้วยความกังวลนั่นจึงทำให้ฉันโง่ ที่แสดงออกไปเหมือนฉันรังเกียจหรือไม่ชอบเธอ ที่จริงแล้วฉันอยากเรียกร้องความสนใจจากเธอต่างหาก... ขอโทษนะที่ฉันทำตัวหยาบคายอย่างนั่น >\\\<” นายไส้เดือนยกมือขึ้นมาเกาหัวแกรกๆ ใบขาวใสเกิดเป็นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด มันบ่งบอกว่าคนอย่างเขากำลังเขิน...

     

    O[]O!!!

     

    ช็อกกกก

     

    ฉันได้แต่ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อกี้ มะ มันเป็นความจริงใช่มั๊ย!! >O<

     

    มะ เมื่อกี้เขายังซาดิสท์อยู่เลยนะ ทำไมอยู่มาเปลี่ยนเป็นสารภาพรักสุดโรแมนติกได้ล่ะ!!

     

    “ที่จริงแล้วยัยข้าวผัดบอกให้ฉันมาสารภาพความรู้สึกกับเธอตรงๆ เพราะถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้เธอคงจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วฉันคิดกับเธอยังไง ถ้าฉันไม่พูด...เธอจะ...ไม่รู้จริงๆเหรอว่าฉันคิดกับเธอยังไง... -\\\-“ นายไส้เดือนเกาหัวแกรกๆไปมาอีกครั้ง และใบหน้าขาวใสก็แดงขึ้นกว่าเดิม

     

    เหอะๆ ฉันหูฟาดใช่มั๊ยเนี่ย -|||-

     

    ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน กับคนเมื่อกี้ มันใช่คนเดียวกันมั๊ยยยย?!!!

     

    ทำไมปฏิกิริยาก่อนหน้าและลับหลังมันถึงได้ต่างกันถึงเพียงนี้!!! >O<

     

    นายไส้เดือนคนเดิม หายไปไหนแล้ว หรือว่านายนี่จะบ้าเป็นคนสองบุคลิกในร่างเดียวกัน!!! >O<

     

    เดี๋ยวนะๆ ฉันขอเวลาสับสนแปบหนึ่ง!!!

     

    ไม่อยู่แล้วว้อยยยย!!!

     

    “ฉะ ฉันไปก่อนนะ บายยยย” ฉันรีบบอกลานายนั่นและวิ่งหนีทักๆออกจากอาณาเขตบริเวณนั่นอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้นายนั่นยืนมองแผ่นหลังฉันด้วยใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขินผสมกับใบหน้าชาๆที่เหมือนโดนตบ!

     

    ฉันเหมือนคนขี้ขลาดใช่มั๊ย ที่วิ่งหนีหมาเผ่นออกมาอย่างนี้!! แต่ฉันทำใจให้เชื่อยังไม่ได้จริงๆ มันน่ากลัวเกินไป โฮฮฮฮ TOT

     

     

     

     

    หนุ่มผมสีดำเข้ม รูปร่างสูงโปร่ง ดวงตาที่เป็นสีดำอมน้ำตาลนั่นเป็นจุดดึงดูดสายตาของผู้คนที่เดินไปเดินมาได้เป็นอย่างดี ร่างสูงกอดอกยืนพิงรถสีเงินยี่ห้อ BMW series 3 320d GT sport อย่างใจเย็น ชายหนุ่มยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นจุดสนใจมากแค่ไหนกับผู้คนที่เดินผ่านไปมา มีเด็กสาวหลายกลุ่มที่หยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปของเขา

     

    ในที่สุดหญิงสาวที่เขารอคอยก็เดินทางมาถึงสักที สาวสวยผิวขาวตาโต ผมสีดำยาวสลวยวิ่งมาหาเขาด้วยสีหน้าท่าทางที่ตื่นตกใจคล้ายๆกับว่าวิ่งหนีผีมา แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าใสๆของชายหนุ่มที่มีรอยยิ้มอบอุ่นของเทวดารอต้อนรับเธออยู่ เธอก็เปลี่ยนสีหน้าอารมณ์มาเป็นเขินและตื่นเต้นดีใจแทน

     

    ตึก ตึก ตึก

     

    กึก!

     

    ^_^

     

    เธอยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มและเงยหน้าขึ้นไปมองคนร่างสูงที่จ้องตาเธออย่างมีความหมาย เธอได้กลิ่นหอมอ่อนๆของช็อคโกแลตที่ออกมาจากกายของชายหนุ่ม พลางทำให้นึกถึงวันนั้นอีกครั้ง... วันที่พบกันครั้งแรก... และได้จับมืออันนุ่มๆของเขา...

     

     

    ...ไปกันกับพี่นะข้าว J

     

     

    ประโยคนี้ เธอยังคงจำมันได้ขึ้นใจมาจนถึงทุกวันนี้ และก็คงไม่มีวันลืม...ถ้อยคำที่คล้ายเหมือนกับจะขอให้เธอเดินร่วมทางไปกับเขาทั้งชีวิตนั่น >\\\<

     

     

    “ใครน่ะๆ ยัยน่ะเป็นใคร!!

     

    “นั่นมันยัยคนที่ว่าแรดๆนิ!!

     

    “ที่ว่าย้ายโรงเรียนเพราะท้องไปคลอดลูกหรือไปทำแท้งอะไรนั่นน่ะเหรอ”

     

    “ใช่แล้วล่ะๆ”

     

    “ฉันว่าไม่น่าจะใช่นะ ยัยนั่นคงไม่มีปัญหาหาแฟนหล่อๆรวยๆเหมือนพี่คนนี้ได้หรอก ถ้าประวัติเสียซะขนาดนั่นน่ะ ผู้ชายดีๆอย่างนี้คงไม่เอามาทำพันธุ์หรอกเธอ!!

     

    “คนนี้แหละแกๆ ฉันจำได้”

     

    “อ๊ายยย เป็นไปไม่ได้อ่ะ ไม่เห็นจะสมกันเลย”

     

    “โคตรอิจฉาอ่ะ!!! ที่มีแฟนสุดแสนจะเพอร์เฟ็กอย่างนี้ ฉันว่านะ ไม่ใช่แฟนยัยนี้หรอก ผู้ชายคนนี้ดีเกินไป”

     

    “ฉันก็คิดเหมือนแกนะ ไม่ใช่หรอก”

     

    “ใช่ๆฉันก็ว่างั้น”

     

    เสียงคำพูดเซ็งแซ่ของเหล่านักเรียนหญิงที่ยืนอยู่บริเวณใกล้เคียงดังขึ้น นั่นมันยิ่งทำให้ข้าวโอ้ตภูมิใจมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

     

    “พี่ลูเชลล์มารอนานมั๊ยคะ ^_^” เสียงหวานถามขึ้น

     

    “ไม่นานหรอกครับ ป่ะ ไปกันได้ยัง” ลูเชลล์เปิดประตูรถค้างไว้รอข้าวโอ๊ตขึ้นไป

     

    “ค่ะ ^\\\^” ข้าวโอ๊ตเดินขึ้นรถอย่างภาคภูมิใจ และไม่ลืมที่จะหันหน้ากลับไปยักคิ้วใส่กลุ่มนักเรียนหญิงที่นินทาเธอและจ้องมองเธอด้วยความอิจฉาอย่างภาคภูมิใจ

     

     

     

     

    “ใช่ร้านนี้แน่เหรอคะ” ฉันมองซ้ายมองขวาดูป้ายหน้าร้านและทางเข้า ...คือมันดูดีเกินไปอ่ะ ฉันรู้สึกเกร็งๆยังไงไม่ถูก แล้วดูพนักงานชายหญิงที่ใส่ชุดสีม่วงนั่นสิ คือมันจะหรูไปมั๊ย ปกติฉันเข้าแต่ร้านอาหารธรรมดาและอาหารข้างทางตลอดๆ ที่นี่ดูเหมือนมันจะแพงมากเลย มีแต่พวกที่แต่งตัวดีๆใช้สินค้าแบนเนมราคาแพงทั้งนั่นที่เดินเข้าไป

     

    “ร้านนี้แหละ พี่จองไว้แล้ว เข้าไปกันเถอะ ^^” พี่ลูเชลล์ที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างๆฉันตั้งแต่เมื่อไหร่พูดขึ้นที่ข้างหูของฉัน

     

    “...” ฉันกัดริมฝีปากของตัวเองเมื่อได้จ้องมองดวงตาสีดำเข้มอมน้ำตาลของพี่ลูเชลล์ด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

     

    >\\\<

     

    ควับบบบ

     

    มือหนาเรียวยาวที่น่าหลงใหลนั่นคว้าฝ่ามือของฉันเข้าไปจับเต็มกำและเดินเข้าไปในร้าน เมื่ออยู่ใกล้ๆพี่เข้าอย่างนี้แล้ว ฉันก็ได้กลิ่นหอมของช็อกโกแลตที่อยู่ในตัวพี่เขาอย่างชัดเจน อ่า มือเขานุ่มจัง...

     

    กุมมือฉันอย่างนี้ไปตลอดชีวิตเลยได้มั๊ยคะ... พี่ลูเชลล์... >\\\<

     

    “ขอบคุณค่ะ” พี่ลูเชลล์เลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่งจากนั่งจากนั่นก็ยิ้มให้ฉันอย่างสุภาพและนั่งลงตรงข้างหน้าฉัน แต่เมื่อนั่งลงแล้วพี่เขากลับทำให้ฉันตัวไม่ถูกด้วยการจ้องหน้าฉันไม่วางตา ฉันพยามยามหลบตาไม่มองพี่เขาอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ว่าครั้งไหนก็ตามที่ฉันมองพี่เขาฉันก็มักจะเห็นว่าดวงตาคู่นั่นของพี่เขาจ้องหน้าฉันอยู่ก่อนเสมอ

     

    “อย่ามองข้าวโอ๊ตอย่างนั้นสิคะพี่ลูเชลล์ พี่เล่นมองกันอย่างนี้เค้าก็ทำตัวไม่ถูกนะ >.<

     

    “ทำไมล่ะครับ... ^^” พี่ลูเชลล์เอามือขึ้นเท้าคาง ขยับหน้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิมและเขายังคงจ้องมองฉันเหมือนเดิมและมันมากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ >\\\<

     

    อ่า!! สายตาสีดำอมน้ำตาลที่มีเสน่ห์ของพี่ทำเอาฉันหวั่นไหวนะคะ

     

    “นี่พี่ไม่รู้จริงๆหรือว่าพี่แกล้งโง่กันแน่คะ >///<

     

    เลิกจ้องได้แล้ว เค้าเขินนะ!!

     

    “ฮ่าๆ พี่ไม่รู้จริงๆ เราบอกพี่หน่อยสิ”

     

    L///” ฉันแกล้งทำเป็นงอนหน้าบึ้งปากจู๋

     

    “โอ่ๆ พี่ไม่แกล้งเราแล้วก็ได้ ^-^” พี่ลูเชลล์เอือมฝ่ามือหนามาลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน

     

    อ่า... ฉันชอบดวงตาเวลาที่มองฉันอย่างอ่อนโยนอย่างนี้จัง J

     

    “อ่ะ พี่ให้ J” อยู่ๆพี่ลูเชลล์ก็ยื่นกล่องเล็กๆสีชมพูด่างขาวมาให้ฉัน ฉันมองหน้าพี่เขาอย่างงงๆ

     

    “ยื่นมือมาสิ พี่ให้ J” เขาพูดย้ำอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม ถึงจะยังงงๆแต่ฉันก็ยื่นมือออกไปรับของอย่างช้าๆ

     

    “มีอะไรเหรอคะ”

     

    “ของขวัญของข้าวโอ๊ตน่ะ พอดีตอนนั่นพี่คิดถึงเราก็เลยได้ไอ้นี่มา เปิดดูสิครับ J

     

    หา!

     

    ขะ ของขวัญของฉันเหรอ!?

     

    >\\\<

     

    พี่ลูเชลล์ซื้อของขวัญให้ฉันด้วยล่ะ!! กรี้ดดดด

     

    เขาต้องชอบฉันมากแน่ๆ!!! >O<

     

                  

    ของขวัญของข้าวโอ๊ตน่ะ พอดีตอนนั่นพี่คิดถึงเราก็เลยได้ไอ้นี่มา เปิดดูสิครับ J

     

     

    ฉันมองหน้าพี่ลูเชลล์ที่จ้องตาฉันอย่างคาดหวังด้วยรอยยิ้มหวาน และวางกล่องลงบนพื้นโต๊ะ จากนั่นก็เปิดฝาครอบสีสดใสออก เผยให้เห็นสร้อยเพชรเส้นเล็กสีขาวเป็นประกายที่มีจี้เป็นรูปเหมือนวงรีเล็กๆแหลมๆอยู่ตรงกลาง ว้าว! ฉันชอบมันจัง ชอบมากๆ ^0^

     

    “ข้าวโอ๊ตลองทายซิครับ ว่าจี้ของสร้อยมันคือรูปอะไร ^^” เสียงทุ้มนุ่มนวลพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มระหว่างมองดูสร้อยเพชรที่อยู่ในกล่องกับมองตาฉันสลับกันไปมา >\\\<

     

    “เอ่อ... รูปวงรีหรือเปล่าคะ >.<

     

    “หึๆ ไม่ใช่ครับ ลองทายใหม่ซิครับ J

     

    “เอ่อ...”

     

    J

     

    “เอ่อ... ฮ่าๆ ไม่รู้ค่ะ มันคืออะไรเหรอคะ”

     

    J” ยิ้ม... “มันคือรูปเมล็ดข้าว พี่ซื้อมาเพราะนึกถึงเรา  ข้าวโอ๊ตชอบมันมั๊ยครับ ^_^

     

    “เอ่อ... >.<\\\ ชอบค่ะ! ชอบมากๆเลย ขอบคุณนะคะ...” ประโยคสุดท้ายฉันจงใจพูดเสียงอ่อนหวาน

     

    “ใส่ตอนนี้เลยมั๊ย พี่อยากเห็น J

     

    “หา อ่อ! คะ ค่ะ! ใส่...ตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ ฮี่ๆ >\\\<

     

    “มาครับ เดี๋ยวพี่ใส่ให้” ฉันกัดริมฝีปากล่างของตัวเองด้วยความเขินอายและยื่นกล่องไปให้พี่ลูเชลล์ที่นั่งมองฉันอยู่ด้วยรอยยิ้มหวานแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น เขากำลังจะใส่สร้อยให้ฉันใช่มั๊ย!! เหมือนอย่างที่ฉันฝันไว้ในจินตนาการตอนเป็นเด็กเลย

     

    ตื้ดดดด ตื้ดดดด ตื้ดดดด

     

    ระหว่างที่พี่ลูเชลล์กำลังจะรับกล่อง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น พี่เขายิ้มให้ฉันแวบหนึ่งและก้มลงไปดูชื่อ

     

    “ข้าวเดี๋ยวพี่ไปคุยธุระแปบหนึ่งนะครับ เดี๋ยวมา ข้าวนั่งกินอาหารรอพี่ไปก่อนนะครับ J

     

    “อ้อ ค่ะ! ไม่เป็นไร ไปคุยเถอะค่ะ ^^

     

    J” พี่ลูเชลล์ลุกขึ้นและลูบหัวฉันเบาๆก่อนจะเดินจากไป อ่า...สัมผัสนั่นอบอุ่นจัง ^-^

     

    ฉันมองแผ่นหลังของคนตัวสูงที่เดินไปจนลับตา จากนั่นก็อมยิ้มอยู่คนเดียว ฉันเอือมมือขึ้นมาจับที่อกข้างซ้ายบริเวณหัวใจของตัวเอง มันเต้นตึกตักๆไม่เป็นจังหวะ อ่า...มีความสุขจัง นี่สินะพี่เขาเรียกกันว่าคนกำลังมีความรัก อืม... มันเป็นความรู้สึกแบบนี้เองสินะ

     

    ...เป็นแบบนี้นี่เองตอนที่ฉันพบผู้ชายในฝัน

     

    ...เป็นแบบนี้นี่เองตอนที่ฉันพบคนที่ใช่สำหรับฉัน!

     

     

    05.52 PM.

     

    “วันนี้เป็นอะไรลูกสาวแม่ ทำไมถึงดูมีความสุขขนาดนั้น ลัลลามาเลยนะ ^^” แม่ที่ทำอาหารอยู่ในครัวพูดขึ้นตอนที่ฉันเดินเข้าห้องครัวไปเปิดน้ำในตู้เย็นกิน

     

    แหม ก็จะไม่ให้มีความสุขได้ยังไงล่ะคะ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้ลูกสาวแม่ไปเจออะไรมา อิอิ >O< ถ้ารู้แล้วแม่ต้องช็อกแน่ๆ คึๆ >.<

     

    “ใช่เจ้าของรถที่มาส่งเราที่หน้าบ้านมั๊ยน่า ^-^

     

    “แม่รู้ได้ไงอ่ะ!!” ฉันถามขึ้นด้วยความตกใจ แม่เคยเห็นพี่ลูเชลล์แล้วเหรอ ไม่นะ ฉันเพิ่งให้พี่เขามาส่งที่บ้านเป็นครั้งแรกเอง เป็นไปไม่ได้อ่ะ หรือแม่รู้เรื่องในวันที่ไปช่วยเป็นจิตอาสาน้ำท่วม... บ้าน่า...

     

    “อิอิ ใช่จริงๆเหรอ เดี๋ยวนี้ลูกสาวแม่คบหนุ่มกับใครเขาแล้วเหรอลูก >.< แม่จะมีความสุขหรือแม่จะโกรธดีน่า”

     

    “...” ฉันเงียบ ไม่พูด เพราะยังไม่เข้าใจในอารมณ์ของแม่ว่าจะอยู่ในฟีลลิ่งไหนกันแน่

     

    “เขาหล่อมั๊ยลูก!” ถามอย่างนี้งั้นแสดงว่ายังไม่เคยเห็นพี่ลูเชลล์สินะ เฮ้อ! โล่งไปที นึกว่ารู้ตอนน้ำท่วม ไม่งั้นฉันงานเข้าแน่ เพราะเล่นละครไว้เยอะ -|||-

     

                    “หล่อค่ะแม่ ^^” ตอนนี้ฉันตอบได้อย่างร่าเริงแล้ว >O<

     

                    “รู้จักกันได้ไง คบกันนานหรือยัง ^^” แม่หันหลังมาคุยกับฉันขนาดที่มืออีกข้างหนึ่งจับทัพพีอยู่ แม่ดูสนอกสนใจในเรื่องนี้มากเลย

     

     “มันเป็น...พรหมลิขิตของฟ้าน่ะค่ะ ที่ทำให้หนูได้เจอคนที่ใช่สักทีหลังจากที่รอมานาน อิอิ >.<” ฉันพูดและหัวหมุนเขินไปเองโดยธรรมชาติ >\\\<

     

    “ว้าว ดูเหมือนลูกจะชอบเขามากเลยนะนั่นน่ะ >.<

     

    >*<\\\” ฉันไม่ตอบแต่ยิ้มกัดฟันอย่างเขินๆแทน

     

    “แม่ชักอยากจะเห็นเขาคนนั่นของลูกแล้วสิ >\\\<” แม่เองก็พลอยเขินไปกับฉันด้วย “ว่าแต่เป็นแฟนกันยัง เขามาจีบลูกก่อนใช่มั๊ย”

     

    “แหม... แม่ก็ ถามอะไรอย่างนั้นคะ >\\\<” ฉันชูมือและกำกำปั้นตีอากาศแก้เขิน “เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”

     

    “จริงอ่ะ แต่อาการข้าวมันบอกนะว่า เราเป็นแฟนกันแล้วอะไรประมาณนี้”

     

    “อิอิ งั้นเหรอค่ะ” ฉันเกาหัวตัวเองแกรกๆและกำกำปั้นตีอากาศไปมาอีกครั้ง ถ้าได้เป็นก็ดีสิคะ คึๆ >\\\<

     

    พี่ลูเชลล์คือแฟนของฉัน!!!’

     

    ประโยคนี้อยากพูดจนอกจะแตกอยู่แล้ว

     

     

      อยู่กับเธอก็ in love มันจะ in love ตั้งแต่เธอเข้ามา มาสบตาทำให้ฉันได้รู้ไว้ว่า...

     

     

    ฉันอัมเพลงรักในใจอย่างมีความสุข อยากจะบอกคนทั้งโลกให้รู้ว่าตั้งแต่วันที่พี่ลูเชลล์เข้ามา โลกทั้งใบของฉันก็เปลี่ยนไป คึ คึ >o,< นี่ฉันคลั่งเขาขนาดนั่นเลยใช่มั๊ยเนี่ย!!!

     

     

    คลุกคลัก คลุกคลัก!

     

    เอ๊ะ!?

     

    เสียงอะไรน่ะ!!?

     

    อยู่ๆก็มีเสียงอะไรไม่รู้ดังขึ้นจากฝั่งด้านขวาตรงหลังบ้าน ฉันกับแม่มองหน้ากันอย่างสงสัย...  เพราะวันดีคืนดีก็ไม่เคยได้ยินเสียงอย่างนี้เลย

     

    คลุกคลัก คลุกคลัก!!

     

    น่ะ ดังขึ้นอีกแล้ว เสียงอะไรกันนะ? พ่อก็ยังไม่กลับบ้านซะด้วยสิ บ้านหลังนี้เองในตอนนี้ก็มีแค่ผู้หญิงอยู่คนแค่สองคน จะเป็นโจรหรือเปล่านะ...

     

    “...” ฉันมองไปที่แม่อีกครั้ง สีหน้าของแม่เริ่มฉายความกังวลและหวาดกลัว สงสัยแม่ก็คงจะคิดเหมือนอย่างกับที่ฉันคิด

     

    “แม่...กำลังคิดเหมือนข้าวอยู่ใช่มั๊ย” ฉันถามขึ้นเบาๆ แม่ไม่ตอบแต่จ้องตาฉันและพยักหัวช้าๆ จากนั่นแม่ก็ควักมือเรียกให้เขาไปหา เมื่อฉันเดินเข้าไปแม่ก็ยัดมีดที่วางอยู่ใส่ในมือฉัน

     

    “...”

     

    พวกเราสองแม่ลูกไม่ได้พูดจาอะไรกันมากนักเพราะแค่มองตาก็เข้าใจ ฉันกับแม่ต่างคนต่างถืออาวุธอยู่ในมือ และย่องเดินไปหลังบ้านฝั่งทางขวาช้าๆ

     

    คลุกคลัก คลุกคลัก! คลุกคลัก!!

     

    เมื่อเดินเข้าไปใกล้ถึงตำแหน่งนั้น เสียงมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของฉันเต้นตึกตักๆด้วยความกลัว ในขณะที่มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความสั่นเทาแต่ก็กำมีดให้แน่นสุดแรง ภาวนาในใจลึกๆขอให้ไม่ใช่โจร เพราะไม่เช่นนั้นแล้วฉันกับแม่อาจโดนทำร้ายก็ได้ ถ้าเอาเข้าจริงแล้วพวกฉันก็คงสู้พวกโจรไม่ได้หรอก...

     

    และในวินาทีที่ฉันหวาดกลัวเช่นนี้อยู่ๆใบหน้าของพี่ลูเชลล์ก็โผล่ขึ้นมาในหัว ฉันอยากให้เขาอยู่ด้วยจัง ถ้ามีเขาอยู่ด้วยฉันคงจะรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยมากกว่านี้แน่ๆ

     

    คลุกคลัก คลุกคลัก! คลุกคลัก!!

     

    เสียงนั่นยังดังอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับว่ามีคนค้นของอยู่ด้านนอก...

     

     
     

     







    โปรดติดตามตอนต่อไป






     

    “...นั่นมันเป็นเพราะว่าฉันอยากเรียกร้องความสนใจจากเธอ!” : ข้าวต้ม



     

     








    Add fan จิ้มๆ







     

    สวัสดีค่ะรีดเตอร์ทุกคน หลังจากที่ฤดูฝนหายหน้าหายตาไปนาน รีดเตอร์บางคนอาจจะลืมเนื้อเรื่องไปแล้ว แฮะๆ ...เค้าขอโทษน้านนน

    บทนี้ข้าวต้มจะค่อนข้างมาแปลกนะคะ แบบมันเป็นคน 2 บุคลิกหรือเปล่าหว่าาาา ฮ่าๆ แต่สุดท้ายก็สารภาพรักข้าวโอ๊ตไปแล้ว แม้จะเป็นการสารภาพรักที่ดูงงๆก็เถอะ อิอิ อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ ว่าจะเป็นโจรจริงๆหรือเป็นอาเทอร์ที่พูดไว้จากตอนที่แล้วกันแน่! อิอิ >\\\<

    ต้องขอโทษรีดเตอร์ทุกคนจริงๆนะคะที่อัพช้า ช่วงเวลาที่ผ่านมานั่นมีเรียนและมีงานเยอะไปหน่อย เลยทำให้ดูยุ่งๆ อิอิ แต่ตอนนี้เค้าเคลียร์เสร็จหมดเรียบร้อยน่า และตั้งแต่นี้ไปก็คงจะอัพบ่อยๆเหมือนเดิม ^^ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ที่เป็นเหมือนกำลังใจให้กันตลอดมา และขอบคุณที่ยังคอยติดตามและไม่ถอนแฟนทิ้งด้วยนะคะ อิอิ

    ฤดูฝนรักรีดเตอร์ทุกคนนะคะ!! ^O^

     

     

    ปล. ถึง nuna ไรเตอร์ขอโทษนะคะที่ให้รอนานไปหน่อย ขอโทษจริงๆค่ะ(อย่าโกรธกันน่า) ขอบคุณคอมเม้นท์ในทุกๆตอนนะคะดีใจมากเลย ^^ หวังว่าจะเห็นข้อความนี่นะ หวังว่ายังจะไม่ถอนแฟนทิ้งเพราะงอนจริงๆนะคะ.... ไรเตอร์ขอโทษน่า T_T

    ปล.ถึง kkik.nam อัพแล้วนะคะ ^^

     

      
     

    ขอบคุณภาพพื้นหลังสวยๆจาก B ♔ W
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×