ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อผมเป็นตัวละครลับ พี่ชายตัวละครร้าย (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : น้องชายของผมเป็นคนโลกสวยละครับ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.99K
      190
      30 มิ.ย. 64






         หลังจากนั้น ในวันถัดๆไปที่โรงเรียนของผม มันก็ไปเปลี่ยนราวเหวเป็นนรก ผมเริ่มโดนรุมรังแกอย่างหนักหน่วงขึ้นมากกว่าเก่า ในทุกๆวัน  ไม่ว่าจะต้องออกคำสั่ง ใช้พวกโจ๋ปลอมของเก๋ ไปซื้อน้ำ ซื้อขนม ให้ผมกิน

          ไหนจะใช้ให้พวกนั้น ทำการบ้านแทนผมในตอนที่ขี้เกียจทำ แล้วไหนจะให้มาจดข้อความบนกระดานตอนที่ผมหลับอีกละ ทำเวรแทนผม 

         หามผมที่กำลังหลับอยู่กลางสนามหญ้า เพื่อมาเข้าเรียนในคาบเช้าให้ทัน ตอนที่ผมทนไม่ไหวกับความง่วงที่เข้ามาโจมตี จนล้มฟุบลงไปกับพื้นแบบไม่ทันตั้งตัว ปลุกผมขึ้นมากินข้าวกลางวัน  ขานชื่อแทนผมตอนที่ผมหลับ พัดให้ผมตอนที่ผมร้อน จนเหงื่อไหลในขณะที่ฟุบหลับอยู่กับโต๊ะ 

         นี้ยังดีที่พวกนั้น ไม่เข้ามารังแกผม ในตอนที่ผมกำลังจะเข้าห้องน้ำด้วย  ก็รู้สึกเป็นบุญคุณมากเลยละครับ จะว่าไปในทุกๆวันของผมหลังจากนั้น ผมก็โดนเจ้าพวกนี้ตามมารังแกผมกันทั้งวันเลยละครับ ไม่เคยเลยที่จะไม่มีวันไหนที่เจ้าพวกนั้นจะไม่เข้ามารังแกผมอย่างนี้ เฮ้อ เหนื่อยจริงเลยครับ เหนื่อยมากๆเลย

         จนผมอยากจะถามออกไปว่า นี้มันอะไรกันครับ!!  ผมเพิ่งจะมีกะจิตกะใจเป็นคนดี ที่คิดจะปรับปรุงตัวเอง ให้เป็นคนดีมากยิ่งขึ้นอีก  ที่กำลังเริ่มมาเข้าเรียนได้ไม่เท่าไร  แล้วทำไมกัน ทำไมผมถึงได้ถูกรังแกหนักมากขนาดนี้กันละ ไหนเจ้าพวกนั้นจะคอยกีดกันคนอื่นออกจากผมอีกละ กะจะกันผมให้ออกมาอยู่คนเดียว อย่าโดดเดียวสินะครับ 

      จะทำให้ผม คนที่กำลังแผ่ออร่าคนดีไปถึงเพื่อนคนอื่นในห้อง เพื่อที่ได้รับรู้ถึงการจุติใหม่ของผม ในเว่อร์ชั่นจอมเทพได้ทราบถึงมัน ต่างพากันเมินหน้า หันหนีผมกันไปเป็นแถบๆเสียทุกคน ถึงปกติผมจะไม่ค่อยมีเพื่อน เออ จริงๆแล้วก็ไม่มีเลยก็ตาม จากที่ได้นึกๆดูในเกม

         แต่อย่างน้อยผมก็อยากจะปล่อยออร่าคนดีกับคนอื่นบ้างนะครับ  โดยเฉพาะกับคนน่ารักๆ ที่ไม่ใช่กับพวกจิ๊กโก๋วัยกระเตาะแบบนี้ ให้ได้รับความอารีของผมบ้าง!!  ถึงแม้บ้างครั้ง เจ้าพวกนี้มันจะน่ารักอยู่บ้างก็เถอะ ตอนที่กำลังตามผมต้อยๆ ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร หรือแม้แต่ตอนนี้ ที่ผมกำลังนอนเอาหน้าลงนอนกับโต๊ะ 

         จะว่าไป เจ้าพวกนั้นที่มีกันจริงๆเป็นแก๊ง มีกันแค่ 3 คนเท่านั้นแหละครับ ที่เป็นตัวหลักๆ ในห้องนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าสามคนนี้จะเป็นคนคุมห้องโหลสุด เลยต้องทำเป็นกร่างมากหน่อย เพื่อสำแดงอิทธิฤทธิ์ อภินิหารของตัวเอง เพื่อข่มขู่คนในห้อง 

         แล้วผมที่เพิ่งถูกย้ายเข้ามาในห้องนี้ เป็นวัน จึงเปรียบเสมือนของเล่นใหม่ จึงเป็นเป้าหมายในการกลั้นแกล้ง เพื่อข่มขู่ แต่กลายเป็นผมไปข่มขู่เขาแทนซะงั้น  ในตอนนี้เจ้าสามโจ๋น้อย ก็เลยกำลังมานั่งล้อมหน้าล้อมหลังผมอยู่ ด้วยสายตาของหมาน้อย ที่กำลังรอคำสั่งเจ้าของอยู่ใจจดใจจ่อ 

         จะว่าไปเจ้าพวกนี้มันเปลี่ยนสีผมกันแล้วละครับ กลับมาเป็นสีดำเหมือนเดิม เพราะรู้ว่าผมแสบตากับสีผมของตัวเอง แถมยังจัดการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากที่แต่งเป็นพวกจิ๊กโก๋วัยกระเตาะ ก็แต่งตัวเรียบร้อยขึ้น พูดจาก็เพราะขึ้น มีคำลงท้ายอย่างน้อบนอม 

         ก็แค่ตอนที่พูดกับผมเท่านั้นแหละครับ พอคนอื่นมาพูดด้วย ก็จะทำสีหน้าขว้างๆ กร้างเอาโล่ ใส่คนที่เข้ามาพูดกับตัวเอง หรือพยายามจะเข้ามาคุยกับผม ก็จะโดนเจ้าสามตัวนี้เหวี้ยงใส่ทันที พร้อมกับท่าทีคุกคามอีกฝ่าย จนทุกคนในห้องไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ผมอีกเลย

         เฮ้อ จริงๆแล้วมันก็แค่หัวหน้าห้องนั้นแหละ ที่ทำใจกล้า จะเอางานมาให้ผม นอกนั้นนะหรอ หึ เห็นผมเหมือนเห็นจอมมารบูล ในการ์ตูนดาร์ก้อนบอลเลยละครับ หนีผมกันกระจาย หลบสายตาของผมกันจ้าละหวั่น อะไรจะขนาดนั้น ผมคิดว่าถ้ากระโดดออกนอกหน้าต่างได้ พวกคนในห้องคงทำกันไปแล้วแน่ๆเลยละครับ

         แล้วอย่างนี้ผมจะไปสานสัมพันธ์กับคนอื่น ด้วยออร่าพระเอกยิ่งกว่าพระเอกของผมได้ยังไงกันเล่า ไอ้พวกบ้าเอ๊ย นี้ผมไปทำอะไรให้พวกนายกัน หา!! ทำไมต้องทำร้ายผมกันแบบนี้ด้วย ไอ้พวกไร้จิตสำนักความเป็นเด็กดี!! 

         กริ๊งงงงงง กริ๊งงงงงงง

         เสียงกริ๊งบอกเวลาเลิกเรียนที่กำลังแผดเสียงดังลั่น เพื่อให้อาจารย์ที่สอนอยู่ หยุดการสอนแล้วปล่อยให้นักเรียนกลับบ้าน ส่วนผมที่เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตอนนี้เลิกเรียนแล้ว เพราะมัวแต่มองเจ้าสามตัวที่เอาโต๊ะมานั่งล้อมผมเอาไว้ จนโต๊ะแทบติดกับโต๊ะของผม 

         ด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งไม่บ่งบอกความรู้ ความจริงผมแค่กำลังงัวเงี่ย ยังไม่สร่างเมาขี้ตาตัวเองอยู่ มองหน้าเจ้าลูกสุนัขสามตัว ที่ไม่ยอมลุกไปไหน เอาแต่นั่งจ้องผมอยู่อย่างนั้น เพื่อรอคอยคำสั่งจากผม จนตาหยดตาหยอยใส่ผมหมดแล้วตอนนี้ เจ้าพวกนี้มันจะทำหน้าตาให้แอ๊บแบ๊วไปถึงไหนกันเนี่ยครับ!!

         นี้ถ้าผมสั่งให้พวกสามสหายพวกนี้ กระโดดไปคาบกิ่งไม้ที่ผมโยนไปข้างหน้า เจ้าสามตัวนี้มันจะไปคาบมาให้ผมรึเปล่านะ ผมละสงสัยจริงๆ วันหลังผมคงต้องขอลองดูบ้างแล้วละครับ เพื่ออนาคตที่ดีของลูกสุนัขทั้งหลายของผม หึหึ พวกเจ้าจงกลายเป็นสุนัขผู้ซื่อสัตย์ของข้า ท่านจอมมารผู้นี้ซะเถอะ วะฮ่าฮ่าๆๆๆ สะใจจริงเลยครับ !!

         "พี่ครับ กลับบ้านกันเถอะครับ!!"เสียงฮิบิกิ ที่เดินเข้ามาหาผม ส่งเสียงเรียกให้ผมหันไปสนใจตัวเอง ที่กำลังเดินตุ๋งติ๋งแบบแต๋ว ตามความ..จริงก็เดินธรรมดานั้นแหละครับ แต่ผมแค่อยากมองให้มันเป็นแบบนั้นก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรหรอกครับ อย่าสนใจผมเลย ยิ่งพูดเหมือนผมยิ่งบ้าครับ ดังนั้นไม่พูดดีสุดครับ เชื่อผม  จนฮิบิกิมาหยุดอยู่ตรงหน้าของผม ในขณะที่ผมกำลังบ่นตัวเองอยู่

         นี่เจ้าน้องชายผม นายรู้ได้ยังไงกันนะ ว่าผมอยู่ห้องไหน ทั้งที่ผมยังไม่เคยบอกนายเลยสักครั้งนะ ว่าผมอยู่ที่ห้องนี้น่ะ นายมันจะเทพเกินไปแล้วนะครับ ไอ้สกิลติดตามตัวผมน่ะ ฮิบิกินายใกล้จะเป็นGPSตามติดตัวผมมากขึ้นไปทุกทีแล้วนะ เจ้าน้องชายผู้ใสซื่อของผม

         ผมที่กำลังบ่นในใจ หันไปมองทั้งสี่คนที่กำลังมองผมด้วยสายตาลูกหมาน้อย พร้อมกัน จนผมแทบจะยกมือขึ้นปิดตา เพราะพลังออร่าที่รุนแรงเกินจะบรรยาย พลังอันสุดแสนจะแอทแทคของเจ้าลูกสุนัขสี่ตัวตรงหน้านี้ มันเจิดจ้าเกินไปแล้วนะครับ ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะ โอ๊ยยยย แสบตาเหลือเกิน!! ช่วยอย่าทำให้จิตใจอันบอบบางของผมต้องไขว้เขว้ไปมากกว่าเลยครับ อ๊ากกกกก  โอ๊ยยยย จ๊ากกกก

         "เออ.."ผมตอบกลับทั้งสี่คน ด้วยจิตใจที่อาบไปด้วยความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ก่อนที่จะลุกขึ้นยื่นอย่างเท่ๆ แบบที่พระเอกเขาทำกัน พร้อมกับเจ้าเรย์ ที่กำลังขดตัวอยู่บนหัวของผมอย่างสุขใจ เดินสบายๆออกมาจากห้องทันที โดยไม่คิดจะรอใครทั้งนั้น เลยทำให้ไม่ได้ยินบางอย่างเข้า ซึ่งไม่ได้ยินคงจะดีกว่าหลายเท่านัก

         "อ่าาา ท่านริทสึพูดกับว่าพวกเราเออด้วยล่ะ"เสียงหนึ่งในนั้นบ่นขึ้นเบาๆ

         "ช่างมีความสุขเสียจริงเลยวันนี้ ท่านริทสึครับ..ท่านริทสึของผม.."

         "ท่านริทสึช่างตอบได้สง่างามสุดๆไปเลยละครับ ทำเอาผมแทบจะอัดเสียงของท่านมาฟังเป็นบดสวดมนต์ตอนก่อนนอนเลยละครับ "

         "พี่ครับ พี่ริทสึ ในที่สุดก็สนใจผมแล้วสิน่ะครับ...น้องชายคนนี้ช่างมีความสุขเสียจริงๆเลยครับ พี่ริทสึ"

         ก่อนที่ทั้งสี่คนจะละเมอเพ้อพบ อยู่ในห้วงแห่งฝันหวานของตัวเองกันต่อไป 

         ตึก ตึก

         ผมที่เดินออกมาตามทางเดินไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าประตูโรงเรียน พลันสายตาเหลือบไปเห็นเข้ากับใครคนหนึ่ง ที่ผมลืมไปแล้ว ว่าเรียนที่เดียวกับผม แถมยังระดับชั้นเดียวกันอีก  แค่อีกฝ่ายอยู่คนละห้องผมกับก็เท่านั้น 

         เซตโตะมะ เรียวจิ หนึ่งในพระเอกของเรื่อง ที่จุนนายเอกของเกมสามารถจีบได้ เมื่อได้ย้ายเข้ามาตอนมัธยมปลายปีที่ 1 ในอนาคตอีกยาวไกลที่ใกล้จะถึง เอ๊ะยังไงครับเนี่ย ผมชักจะงงตัวเองแล้วนะครับ

         เรียวจิในวัยเด็กที่สุดแสนจะเอ๊าะๆนั้น  กำลังนั่งบิวอารมณ์พระเอก ที่คิดว่าตัวเองหล่อกว่าผม ดูเป็นพระเอกมากกว่าผม กำลังให้อาหารแมวนับสิบตัว โดยตัวของเรียวจิ นั่งอยู่ในวงล้อมของกองทัพแมวที่สุดแสนจะน่ารำคาญสำหรับผม 

         กลางสวนย่อม ใกล้กับทางเดินออกของรั้วโรงเรียน ส่วนผมที่กำลังเดินผ่านไป มองเรียวจิ หนุ่มแว่นหน้านิ่งที่จริงแล้วเหมือนรูปปั้นเดินได้ ช่างไร้ความรู้สึกเสียเหลือเกินครับ และเป็นที่แน่นอนว่าหล่อน้อยกว่าผมมาก!! ที่กำลังนั่งอยู่กลางวงล้อมของแมวนับสิบตัว ที่กำลังรรุมกินอาหารเม็ดที่เรียวจิซื้อมาให้อย่างเอร็ดอร่อย

         จะว่าไป เรียวจิเป็นพวกรักสัตว์ทุกชนิดนี้น่าครับ แต่ที่ชอบมากที่สุดก็คงเป็นแมว ตามเนื้อเรื่องเกม ที่บ้านของเรียวจิจะมีแต่แมวอยู่เต็มบ้านไปหมดทุกซอกทุกมุม จนผมคิดว่า ถ้าเป็นผมคงจะจำชื่อแมวไม่ได้สักตัวแน่ๆ

          ก็นะ เล่นเลี้ยวซะคฤหาสน์ที่ใหญ่โต สามารถเต็มไปด้วยน้องเหมียวสุดน่ารักได้ ผมละไม่อยากจะนึกตอนที่ไปซื้ออาหารมาให้แมวพวกนั้นจริงๆ มันหมดเงินไปกับค่าอาหารแมวเดือนละเท่าไรกันเนี่ย ป่านนี่บริษัทอาหารแมวคงจะรวยน่าดูเลยละ ผมว่านะ เอ๋ หรือว่าผมจะเปลี่ยนอาชีพจากแมงดา ไปเปิดบริษัททำอาหารแมวขายให้กับเรียวจิดีนะ ท่าจะรุ่งแหะ 

         แต่นั้นมันก็ในอนาคตอีกตั้งหลายปี กว่าที่เรียวจิจะเลี้ยงแมวไว้ที่บ้าน เพราะได้รับเป็นแมวมาของขวัญในวันเกิดของตัวเองจากท่านแม่

         ผมที่หยุดยืนดูอยู่สักพักหนึ่ง เพราะกำลังนึกหมั่นไส้อีกฝ่าย ที่กำลังทำตัวเด่นกว่าผม โดยการโปรยอาหารให้แมวจรอย่างมีความสุข 

    "เจ้าแว่น.. " ผมจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา เหมือนกับว่าได้เจอเข้ากับศัตรูคู่แค้น หึ.. เจ้าแว่นอวสานโลกสวยนี้ มันเป็นใครบังอาจมาฉายรังสีพ่อพระมากกว่าผมก็เท่านั้น แล้วนั้นแทบจะทำให้ผมปรี๊ดแตกที่มีคนมาทำความดีต่อหน้าผมแบบนี้ 

         แต่เพียงไม่นานผมก็ต้องรู้สึกแปลกใจ เมื่อเรียวจิ ผู้ไม่เคยสนใจใคร มองใครก็เหมือนมองไฮดรา พลามีเซียม และไม่มีใครทำให้เรียวจิสนใจได้ นอกจากพวกนายจะเกิดเป็นสัตว์เท่านั้น เรียวจิจึงจะหันไปมอง

         ซึ่งตอนนี้เขากำลังเงยหน้าขึ้นมาสบประสานสายตาปิ๊ง ๆ เปล่งออร่ากับผมอยู่ จนผมรูสึกเหมือนมีทุ่งดอกทานตะวันขึ้นเป็นฉากประกอบฉากรอบ ๆ ตัวของผมกับเรียวจิ  โดยมีพระอาทิตย์ดวงน้อย กำลังโบกมือให้อย่างสดใส บนใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม 

         ผมที่เห็นภาพหลอนเหล่านั้นรีบกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อสลัดภาพพวกนั้นออกไป พลังของนายช่างเร่าร้อนเหลือเกินเรียวจิ ทั้งที่นายเป็นรูปปั้นเดินได้แท้ๆ แล้วทำไมถึงได้มีแต่อะไรที่เป็นของที่มีแต่สีส้มร้อนแรงอย่างนี้กันได้เล่า โอ้ ไม่นะ นี้ถ้าผมเป็นสาวน้อยวัยใส รูปร่างเอ๊าะๆ เหมือนคุณยายข้างบ้านละก็นะ มีเรื่องต้องให้ลากนายเข้าป่าแน่ๆเลยละครับ 

          แต่บังเอิญที่ไม่ใช่ ผมที่ยังเป็นตัวผู้อยู่ ที่จิตใจยังอยากจะลากสตรีที่ไม่มีลูกน้อยกลอยใจเข้าห้อง เลยไม่มีผลกระทบจากการใช้สกิลของเรียวจิเลยสักนิด นอกจากมีอาการระคายเคืองดวงตาเท่ ๆ ของผม จนแทบอยากจะหาแว่นกันแดดมาใส่เอาเสียมากๆเลยตอนนี้ละครับ

         ก็เจ้าตัวเล่นส่งสายตา ประมาณว่าเจอแล้วออกมาให้ผม ด้วยดวงตาสีดำสนิทที่เบิกโตขึ้นมา 1 มิลิเมตรจากการสังเกตของผม ที่พยายามอย่างมากที่จะจ้อง มองผ่านทะลุเลนส์แว่นของเรียวจิที่กำลังมองมาทางผม แล้วหยุดนิ่งไป ราวกับว่าโลกนี้เวลาหยุดชะงักไปแล้ว จะโอเว่อร์ไปไหนเนี่ยพ่อคุณ แต่ทางที่ดี หยุดใช่สกิลนี้ที่เถอะ ผมจะตายแล้ว เพราะความร้อนแรงของนายเนี่ย!!!

         ทำเอาผมไม่เข้าใจ ทำไมเวลาใครเห็นผมจะต้องหยุดชะงักตลอดเลยละครับ สายตาของผมมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยรึไงกัน หรือเพราะยิ่งโตหน้าของผมในก็เหมือนผู้ก่อการร้าย หรือโจรใต้มากขึ้นไปทุกทีนะแล้วทำไมเวลาผมส่องดูตัวเอง ผมกลับคิดว่ายิ่งผมโต ออร่าพระเอกก็ยิ่งมาเปล่งประกายออกมากันละ ผมไม่เข้าใจจริงๆ  

         เรียวจิที่เหมือนจะรู้สึกตัวว่าหยุดนิ่งนานเกินไปแล้ว ทำท่าจะเดินเข้ามาหาผม อย่างสโลเหมือนในละครหรือการ์ตูน ที่เวลาเจอเข้ากับคนรักหรือเหตุการณ์ที่ลุ้นระทึก จะใช่การสโลวที่เหมือนหอยทากเข้ามาหาผม

           ทำเอาผมอดคิดไม่ได้ว่า มันบ้ารึเปล่าออกมา ผมว่าพระเอกเกมบอยเลิฟเรื่องมันบ้าไปแล้วแน่ๆ ไม่งั้นก็คงเรียนหนักจนสมองพิการไปครึ่งซีก เลยขยับตัวได้ช้าเหมือนสลอตอย่างนี้ มันบ้าไปแล้ว เฮ้อ!!

           ส่วนผมที่กำลังยืนกอดอกมองอีกฝ่ายอยู่ กับเจ้าเรย์ที่กำลังนอนบนหัวผม ชูคอมองเรียวจิ ที่เดินมาอย่างสโลๆ จะเดินช้าไปไหนครับเนี่ย  ส่งสายตามองมาทางผม ด้วยแววตาที่เปล่งประกายออร่าพระเอ๊กพระเอก ทำเอาผมแอบเบ้ปากแรงๆในใจ จนปากแทบจะยานลงไปกองกับพื้น ไปให้อีกฝ่ายทันที มั่นไปไหนครับ ผมที่พระเอกกว่ายังไม่มั่นเท่าเลย แค่ตัวเองได้เป็นพระเอกของเรื่องได้มีบทมากกว่าผม อย่างทำเป็นมั่นไปให้มากนักเลยครับ ชิ

         ทำเอาผมคิดว่าเจ้าหมอนี้ มันจะต้องคิด ที่จะมาเทียบรัศมีความหล่อกับผมแน่ๆ แต่ต้องขอบอกเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยนะครับ ถึงแม้ว่านายจะเป็นพระเอกของเรื่องแล้วไง ผมเป็นตัวลับสุดลับโคตรจะลับ มหาประลัยลับเลยนะขอบอก ผมนั้นนะขอย้ำอีกที ว่าผมเป็นถึงตัวละครลับ ที่ลับมากแค่ไหน เพราะความจริงแล้ว ผมแค่ไม่อยากทำตัวเด่น จนเป็นที่จับตามองก็เท่านั้นเอง อย่างเหลิงได้ใจกันไปละ ไอ้พระเอกเบอร์ 2 ของเก๋ทั้งหลาย

         ผมที่กำลังประชันสายตากับเรียวจิที่เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ใกล้จะถึงผมแล้ว กลับถูกมือใครบางคน กระชากแขนอย่างแรง ให้เดินไปขึ้นรถที่จอดรอรับอยู่นานแล้วทันที

         "พี่เจ็บนะฮิบิกิ นายเป็นอะไรเนี่ย.." ผมเอ่ยถามกับฮิบิกิ เมื่อรู้ว่าเป็นใครที่กระชากแขนผมออกมาในเวลานี่ นี้ถ้าไม่ใช่ฮิบิกิ น้องชายที่ท่านแม่ฝากฝังเอาไว้ละก็ นายเจอได้ดีแน่ ไอ้น้องทรยศ ไม่ยอมให้พี่ได้รู้ผลแพ้ชนะระหว่างเรียวจิกับพี่ ที่กำลังแข่งขันกันทางสายตากับพระเอกอยู่เมื่อกี้นี้ 

         "พี่ครับ วันนี้ผมขอไปนอนกลับพี่ได้ไหมครับ" ฮิบิกิเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนผมด้วยสายตาที่เว้าวอน เมื่อลากผมเข้าไปในรถได้สำเร็จ 

         ก่อนที่ฮิบิกิจะสั่งคนขับรถให้ออกรถเร็วๆ แล้วหันมาอ้อนผมต่อ จะว่าไป มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่บอกคือ หลังจากที่ผมไปโรงเรียนวันแรกกลับมา ผมได้บอกกับท่านแม่ไปว่าผมอยากมีห้องส่วนตัว ที่ไม่มีฮิบิกิ และไม่มีฮิบิกิ หรือไม่มีเจ้าฮิบิกิ ตกลงคือไม่มีฮิบิกินั้นแหละครับ

         ในตอนแรกท่านแม่ออกตัวออกเลยครับ คัดค้านอย่างแข็งขัน เพราะฮิบิกิที่มาได้ยินเรื่องนี้เข้าพอดี สูดลมหายใจเอาปอดไปหนึ่งที กลั้นลมหายใจเอาไว้สักพัก ก่อนที่จะเปล่งเสียงร้องไห้ออกมาเป็นลำน้ำแม่ปิง วัง ยม น่านเลยละครับ

         แต่ผมที่ไม่สนใจ เพราะไม่เห็นความสำคัญของฮิบิกิ เท่าความเป็นส่วนตัวของผมเอง บอกย้ำความต้องการของตัวเองอีกครั้งอย่างช้าๆ ไม่มีท่าทีใจอ่อน เผยออกมาให้ได้เห็น ก็ผมรำคาญนี้น่า ตอนที่เจ้าน้องชายของผม ที่ชอบมานอนกอดผมเอาไว้ทั้งคืน

          แถมยังเอาตัวมาพันกับผมเอาไว้ จนขยับดิ้นไปไหนไม่ได้ ถึงผมจะรู้ว่าน้องชายของผมนั้น แค่ต้องการคนมาสนใจ แต่ผมมันเป็นขี้รำคาญนะครับ จะให้มาเอาใจใครมากๆเข้า ย่อมเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่ผมจะหงุดหงิดและเบื่อไปโดยปริยาย

         จนท่านแม่ต้องตัดใจ ให้ฮิบิกิกลับมาอยู่ที่ห้องเดิม เพราะถ้าท่านยังปฎิเสษผมต่อ ผมก็จะหนีออกจากบ้านไปมีเรื่องชกต่อย ออกไปรังแกอันธพาล ให้เจ้าพวกนั้นน้ำตาไหลไปสายธาร มาทำให้ท่านแม่ได้เดือดร้อนแทนเสียเลย เพื่อเป็นการประชดท่านแม่ที่ไม่ทำตามที่ผมได้บอกไป ทำเอาท่านแม่ที่กลัวลูกชายจะมีนิสัยเป็นเด็กใจแตก (?) หนีออกจากบ้าน ไปรังแกคนอื่นอีก เหมือนเมื่อก่อนก็รีบตอบตกลงทันที

         หึหึ ที่นี้ก็เข้าทางผมยังไงละครับ ได้กลับมาอยู่ห้องคนเดียวสักที จากที่ต้องทนอึดอัดกับการที่ได้อยู่ร่วมกับคนอื่นมาตั้งนาน อิสระภาพของผม กำลังเรียกร้องหาผมแล้วในตอนนี้ ในที่สุดผมก็จะไม่มีใครมาแย่งที่นอนของใช้ต่างๆในห้องของผมอีก ช่างเป็นอะไรที่มีความสุขเสียจริง ดังนั้น ไม่มีทางที่ผมจะเอานรกกับมาสุมอกของตัวเองอีกเด็ดขาด!! 

         "ไม่!! " ตอบกลับไปแบบไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ แต่สีหน้าของคนที่ได้รับคำตอบ ต่างจากคนที่ตอบกันราวฟ้ากับสวรรค์

         "ฮึก..ทำไมครับละครับ" เริ่มแล้วครับ พลังออร่าน้ำตาใสปิ๊งของน้องชายผม ผู้คิดค้นสกิลขั้นเทพนี้ขึ้นมา เพื่อต่อกรกับผมและทุกคนที่ทำให้ฮิบิกิไม่พอใจ

         "ไม่มีเหตุผล..หึ.."ผมไม่บอก แถมยังยิ้มเย้ยไปให้ฮิบิกิแทน เป็นไงละ คำตอบของผม พระเอกพอไหมครับ แถมไปดวยยิ้มอ่อนๆ ที่อ่อนโย๊น อ่อนโยน

         "...ชิ" ฮิบิกิ ไม่ถามอะไรมาอีก นอกจาก ชิ คำเดียว

         เห้ยนั้นไง มันออกลายแล้วครับพี่น้อง เจ้าหมอนี้มัน ชิ ใส่ผม นี้มันกล้าชิใส่ผมด้วยละครับ ผมเป็นพี่นะครับ ไม่ใช่ท่านพ่อ ที่นายจะมา ชิ ใส่ได้นะ เจ้าฮิบิกิ 

         พร้อมกับสะบัดหน้าหนีผมไปอย่างน่ารักๆ จนแอบน่ากระถืบซ้ำให้จมฟูก อย่างที่พวกเคะชอบทำ เวลางอนเมะของตัวเอง หึ คงหวังจะให้ผมง้อละสิ เหอะ หวังสูงเหมือนหอไอเฟลเลยนะเจ้าฮิบิกิ ไอ้น้องชายทรยศ ที่คิดจะชิงเอกราชของพี่ชายที่ใสซื่อบริสุทธิ์ผุดผงาดคนนี้!! ในอนาคต!!

         ในเมื่อฮิบิกิงอนผมได้ ผมเองก็งอนได้เหมือนกันนะ แล้วขอบอกเลยละว่าผมน่ะ งอนแล้วง้อยากมากขอเอาบอกไว้ก่อนเลยนะครับ !! เจ้าน้องไม่รักดี ฮึ


    ....................................................................................................................................................................





         "พี่ครับ ผมเอานมช็อกโกมาให้ครับ"

         "เข้ามาในห้องพี่ได้เลย ฮิบิกิ!!" ผมบอกแล้วไงว่าผมน่ะ!! ง้อง่ายยยยยย มากเลยละครับ 

         อย่างแรกคือ ต้องขอประทานอภัยอย่างยิ่งครับ ที่ผมเป็นพวกเห็นแก่กิน และเห็นแก่นอน จึงไม่อาจขัดศรัทธาของพระเจ้าได้หรอกครับ ที่อยากประทานให้ฮิบิกิ เอานมช็อกโกแลตอุ่นๆมาเสริมให้ผม ในตอนดึกๆแบบนี้ อ่า พระเจ้าช่างใจร้ายกับผมเสียจริง ริทสึละอยากจะร้องไห้เหลือเกินครับ ท่านพระเจ้า!!

         "พี่ครับ..คือ"ฮิบิกิที่เอานมอุ่นๆมาให้ผมในห้อง ที่ข้าวของส่วนใหญ่โทนสีน้ำตาลเข้มไปเกือบทั้งห้องตามรสนิยมของผู้อาศัยสุดหล่ออย่างผม

         ทำท่ายึกยัก อึกอักไม่ยอมพูดเสียที หลังจากที่ผมได้รับแก้วนมอุ่น ในขณะที่กำลังนอนทำสมาธิอยู่บนเตียง เพื่อฝึกตบะให้กล้าแข็งขึ้นมาต่อกรกับพวกที่จะมารังแกผมในวันรุ่งขึ้นได้บ้าง ไม่ให้โดนรังแกอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ โดยมีเรย์นอนอยู่ใกล้ๆบนที่นอน

         ผมมองฮิบิกิ ที่กำลังก้มหน้าชิดอก กำมือเล็กๆของตัวเอง กับกางเกงสีน้ำเงิน (อีกละ) ที่เจ้าตัวใส่ เหมือนกำลังอัดอั้นอะไรบางอย่างอยู่ อดทนเหลือหลายมากมายคณานัก

         อย่าบอกนะว่า นายปวดอึใช่ไหมฮิบิกิ!!!  แต่ไม่กล้าไป เพราะผมยังไม่ส่งแก้วคืนให้นายไปล้าง นายเลยต้องกลั้นใจอดกลั้นเอาไว้สิน่ะ 

         โถ๋ๆๆ ฮิบิกิน้อยที่น่าสงสารของท่านแม่ แต่ไม่ใช่ท่านพี่ นี้นายช่างเป็นน้องผู้เสียสละเพื่อพี่ชายอย่างผมเสียเหลือเกิน ยอมอึราด เพื่อรอแก้วที่ผมกำลังละเมียดละไมชิมอยู่ในขณะนี้อย่างใจเย็น ของอร่อยก็ต้องกินอย่างใจเย็น เพื่อที่เราจะได้ชิมรสชาติของมันให้ตรึงตราใจยังไงละครับ หึหึ

         ผมไม่ได้มีเจตนาจะกลั้นแกล้งใดๆทั้งสิ้น แต่มันเป็นเรื่องปกติ ที่พี่จะพึ่งกระทำกับน้องชายนี้น่า มันก็เหมือนการกระชับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของท่านแม่นั้นแหละครับ เพียงแค่ของผมมันไม่ตาย มีแต่ทำให้อับอายล้วนๆ 

         "มีอะไรหรือเปล่า ฮิบิกิ.."ผมที่ทนไม่ไหวเพราะสงสาร แต่ก็ยังคงละเมียดละไมดื่มเหมือนเอ่ยถาม

         "พี่ริทสึ..ผม"

         "หือ..ว่าไง"

         "ผม..ผม แงงงงงง.."อ้าวเห้ย ผมทำอะไรผิดอีกละที่นี้ อย่าบอกนะว่านายอึราดเพราะพี่จริงน่ะ 

         พี่ขอโทษ!!ฮิบิกิพี่ผิดไปแล้ว!! ความผิดครั้งนี้ พี่จะให้เรย์เป็นของปลอบขวัญตอบแทนแล้วกันนะ ดังนั้น!! นายอย่ามาอึราดในห้องนอนของพี่ได้ไหมฮิบิกิน้องร้ากกกกก น้องที่แสนดีของพี่!! พี่ยังไม่อยากให้ห้องนอนของพี่ในตอนนี้มีกลิ่นอโรม่าเข้ามาแทรกในขณะที่นมช็อกโกแลตของผมยังกินไปไม่ถึงครึ่งแก้วหรอกนะครับ!!

         "ฮิบิกิ นายเป็นไร อย่าบอกนะว..ว่า นาย.."ผมที่ยังพูดไม่จบดี ถูกฮิบิกิกระโดดเข้ามากอดอย่างแน่นเสียก่อน พร้อมกับหัวทุยๆที่อยู่ระดับอกของผม ถูไถไซ้ไปมา จนผมคิดว่าทั้งน้ำมูกน้ำตาของฮิบิกิจะต้องเปื้อนชุดนอนสีน้ำตาลของไปหมดแล้วแน่ๆ  

         รึว่าเจ้าหมอนี้ต้องการจะแก้แค้นผมกัน ที่ผมแกล้งจนฮิบิกิอึราดแบบนี้ เลยเอาคืนโดยการเอาน้ำมูกกับน้ำตามาเช็ดเสื้อของผม จนเสื้อของผมอาจจะใช้การไม่ได้อีก เพราะน้ำมูกที่ยืดย้อยของฮิบิกิ 

         ช่างเป็นน้องชายที่คิดแผนการได้แยบยลเสียจริง ผมคงจะประมาทกับหน้าตาแบ๊วๆ ที่โตขึ้นมาแล้วหล่อโฮก น่าลากเข้าห้องตัวเอง จนลืมไปว่า เจ้านี้มันริทสึนัมเบอร์ทูของผมในอนาคตนั้นเอง

         ให้ตายสิ ประมาทไปแล้ว เจ้านี้มันตัวก๊อปปี๊เราเลยนะครับเนี่ย ถึงแม้จะไม่ค่อยเหมือน ก็ตรงชอบเรียกร้องความสนใจก็เถอะ ชิ จะเลียนแบบก็น่าจะทำให้ดีๆหน่อยก็ไม่ได้ เสียของหมด คนต้นแบบอุตสาหล่อขนาดนี้เลยนะ

         "ปล่อยพี่ฮิบิกิ น้ำตานายเปื้อนเสื้อพี่หมดแล้ว"เสียงเข้มๆของผมเอ่ยขึ้น เมื่อฮิบิกิไม่ยอมขยับตัวอีกตั้งแต่ที่แอบเช็ดหน้าของตัวเองกับเสื้อนอนของผมจนเสื้อของผมตอนนี้เริ่มที่จะเปียกชุ่มไปหมดแล้ว

          เลวร้ายสุดๆเลย แล้วงี้ผมก็ต้องไปอาบน้ำใหม่อีกรอบใช่ไหมครับเนี่ย!! มีใครรู้รึเปล่า ว่าผมเป็นพวกไม่ชอบอาบน้ำหลายรอบให้เปลื้องน้ำหรอกนะครับ!! ผมเสียดายน้ำ เพราะผมเป็นคนดีที่ไม่ใช้อะไรให้สิ้นเปลื้องโดยไม่ใช่เหตุ ง่ายๆคือขี้เกียจแหละครับ

         "พี่..ฮือ..ไม่..อึก..สนงือ..ใจ..หะ.อึก..ผม..เลย..แงงงงง"ฮิบิกิที่สะอื้นไห้อยู่ พยายามส่งเสียงพูดกับผม

         เออ ฮิบิกิ ถ้านายจะลำบากขนาดนั้น ไม่ต้องพูดก็ได้นะ พี่อึดอัดแทนเสียเหลือเกิน ผมที่กำลังก้มมองหน้าของฮิบิกิ ที่กำลังซุกหน้าหนีสายตาของผมที่กำลังจ้องมองอยู่กับอกเสื้อของผม พร้อมกับมือน้อยๆที่กำลังเสื้อของผมเอาไว้หลวมๆ

         "สนใจ..ให้สนใจอะไรละ หืออ.."ผมถามฮิบิกิอย่างไม่เข้าใจ 

         "ก็พี่เอาแต่สนใจเจ้าแว่นรูปปั้นนั้น เห็นพี่เอาแต่ยืนมองหมอนั้น ทั้งๆที่ไม่เห็นพี่จะเคยมองใครเกินนาทีด้วยซ้ำไป ถ้าพี่ไม่สนใจ ฮือออออออ "ฮิบิกิที่พูดอยู่นานโดยไม่มีอาการสะอึก ปล่อยโฮออกมาในตอนท้าย เล่นเอาผมคิดตามที่อีกฝ่ายพูด

          เจ้าแว่นงั้นเหรอ ใครกันละที่ผมไปยืนมองด้วยสายตาพิศวาส จนฮิบิกิผู้ชอบเรียกร้องความสนใจ ต้องมาออกอาการเจ้าแง่แม่งอนใส่ผมแบบนี้ ฮิบิกิ พี่คิดว่านายยังเปลี่ยนใจทันนะตอนนี้ กลับตัวกลับใจเป็นเคะเถอะ!! พี่ขอร้อง!!  พี่เสียดาย!! นายน่ารักเกินไปแล้ว!!! พี่ขอตายอย่างสงบ!!

         "อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก นายนะคิดมากไปแล้วนะฮิบิกิ"ผมที่นึกออกแล้วว่าคนที่ฮิบิกิกำลังพูดถึงอยู่เป็นใคร ก็เอ่ยบอกอีกฝ่ายไป แต่ถ้าถามว่าผมสนใจไหม ก็ต้องสนใจอยู่แล้วนี้

         ในเมื่อคนที่ฮิบิกิกำลังพูดถึงอยู่นี้คือ เรียวจิ หนึ่งในศัตรูหัวใจที่ฮิบิกิต้องไปมีเรื่องในอนาคต เพื่อแย่งชิงตัวของจุนมาเป็นแฟนหนุ่มสุดเคะ  ในอนาคต แล้วอาจจะมีหลุดมาเจอกับผมก็ได้ ถ้าจุนสามารถพิชิตใจของพวกพระเอกและตัวร้ายของเรื่องได้ทุกคน

         "ไม่จริง ผมไม่เชื่อพี่หรอก..ฮือๆๆ พี่ชอบโกหกผม!! "อ้าว ไอ้น้องชั่วนี้ คนอย่างเป็นพี่ คนที่ทั้งจริงใจ และจริงจังผู้นี้ ไม่เคยโกหกใครนะครับ!! แค่ไม่ผมเคยพูดความจริงก็เท่านั้นเอง แถมบางครั้งก็เติมไข่ให้จนล้นถ้วยก็เท่านั้น ดังนั้น อย่ามามั่วนะครับ คนอุตสาพูดดีด้วยเข้าหน่อย ทำเป็นได้ใจ 

         "งั้นพี่จะไม่โกหกนายอีกดีไหม..หือ.."ผมที่พยายามทำตัวเป็นคนดีอยู่ เอ่ยขึ้นอย่างฝืนใจตัวเองสุดๆ 

         ไม่ได้นะริทสึ นายจะต้องฝึกตนให้แข็งแกร่งขึ้น ถ้านายไม่ทำตัวเป็นเด็กเกเร ฮิบิกิก็จะไม่เกเรตามนาย นายควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของฮิบิกิน่ะ เข้าใจไหม !!

           แต่ทำไมตอนผมพูด มันถึงกระด้างปากตัวเองอย่างนี้ครับเนี่ย อยากกัดลิ้นตัวเองตายชะมัด เอาให้น้ำลายฟูมปาก ที่ต้องมาพูดอะไรที่ดูเป็นคนดี๊คนดีแบบนี้ กับไอ้คนที่ในอนาคตอาจจะข่มขืนผมเนี่ย!! 

         "จ..จริงนะครับ"ฮิบิกิที่ได้ยินผมเอ่ยปากง้อเป็นครั้งแรก เงยหน้าแดงๆของตัวเอง ขึ้นมาสบตากับผม ดวงตาที่ปริ่มน้ำตาใสคลออยู่ บวกกับคิ้วน้อยๆ ที่ขมวดเข้าหากัน ปากเม้มไว้แน่นหน่อยๆ ดูกำลังสั่นๆ ด้วยเหตุผลอะไรที่ผมไม่ทราบ

         "..จริงสิครับเด็กดี" ผมที่ในตอนแรกเจอสกิลที่ดูเหมือนจะอัพเวลแล้วของฮิบิกิ ในท่าฮิบิกิแอคแทก ดับเบิ้ล ทำเอาผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปได้สักพักใหญ่เลยละครับ ช่างเป็นท่าที่ร้ายกาจสมคำล่ำรือจริง ฮิบิกิเรนเจอร์ แต่ว่าข้ายังไม่ยอมแพ้เจ้าหรอก สักวันข้าจะกลับมาเอาคืนเจ้าให้จงได้!!!

         "งั้นวันนี้ผมนอนกับพี่นะครับ"ฮิบิกิพูด พร้อมกับเอาตัวมาแนบกับตัวของผมมากขึ้น นี้ถ้าผมไม่แข็งแรงนะ ได้ล้มหัวฟาดพื้นเตียงนอนที่มีฟูกรองรับเอาไว้ ดับอนาถเพราะขาดสติไปชั่ววูบแน่ๆครับ

         "ไม่!!" เสียงดังฟังชัดไหมครับ ฮิบิกิ คำว่าได้ของผมที่บอกนายไป นายได้ยินชัดหรือยัง

         "พี่บ้าที่สุดเลย!! ผมงอนพี่แล้ว..แงงงง" จากนั้นฮิบิกิ ก็สะบัดบ๊อบใส่ผม จนคอแทบหัก พร้อมกับมือที่คว้าเอาแก้วนมอุ่นในมือของผม วิ่งร้องไห้ออกไปทั้งอย่างนั้น 

         "ฮิบิกิ พี่ยังดื่มไม่หมดเลยนะ ฮิบิกิ๊!!"ผมที่ยังคงงงๆกับตัวเองว่าผมทำอะไรผิด ในเมื่อผมก็ว่าผมเป็นคนดีที่พูดจาตรงไปตรงมามานานแล้วนะครับ แล้วผมผิดอะไร เฮ้อ มนุษย์น้องเนี่ย เข้าใจยากจริงๆเลยนะครับเนี่ย ยิ่งกว่ามนุษย์แม่และมนุษย์พ่อเสียอีก

         เรย์เงยหน้าขึ้นมามองผมเล็กน้อย ก่อนที่จะนอนไปเหมือนเดิมอย่างหมดสภาพความเป็นงู ที่กำลังนอนเหยียดตัวตามยาวกับที่นอนสีน้ำตาลของผม ดวงตาสีดำเข้มที่ตาชี้ขึ้นน้อยๆ จนเหมือนตัวร้ายของผมกระตุกยิบๆขึ้นมาทันที อย่างหใั่นไส้เต็มทน

          นี้มันอะไรเนี่ย ผมละงงๆจริง ขนาดเจ้าเรย์ยังเอานิสัยขี้เซาของผมไปใช้เลยตอนนี้ แล้วน้องชายของผม คงไม่ได้เอานิสัยโลกสวยของท่านแม่มาใช้หรอกนะ เห็นเจ้านั้นชอบอยู่กับท่านแม่บ่อยๆ แถมยังชอบหัวคิกๆคักๆกันอยู่สองคนอีกด้วย 

         เอาแล้วสิ ถ้าเจ้านั้นไม่ติดนิสัย ความเป็นคนดีมีออร่าพระเอกของผมเข้า แต่ไปติดนิสัยโลกสวยงามของท่านแม่ฮานะมาแทน ผมคิดว่ามันคงจะต้องปวดหัวน้อยๆของผมมากกว่าเก่าแน่ๆ  

         ไม่นะ ฮิบิกิ นายจะเปลี่ยนจากนักเลงวัยเก๋า ไปเป็นเกย์โลกสวย ชอบแต่งหญิงแทนแล้วสินะ นั้นแหละที่พี่คนนี้คาดหวังจากนาย ฮิบิกิ ถึงแม้ว่านายจะเป็นเกย์ชอบแต่งหญิง แต่พี่ก็จะยังยืนห่างๆ อย่างห่วงๆ อยู่ข้างหลังนายตลอดไปแน่นอน แม้ระยะห่างของเราจะห่างกันเป็นประเทศเลยก็ตามเถอะ

         ดีแล้วละ ที่นายรู้ตัวได้ทันก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ไม่สิ ถ้าเป็นแบบนี้ แทนที่ฮิกิบิจะได้เป็นตัวร้าย ไม่แน่ฮิบิกิอาจจะพลิกบท กลับขึ้นมาแทนตำแหน่งตัวเอกของเรื่องก็เป็นได้ อย่างนี้แล้ว ผมก็จะรอดพ้นจากเงื่อมมือของฮิบิกิ ที่ต้องถูกมอมแล้วลากไปกระทำชำเราแล้วสิน่ะ ฮว้ากกกกก นี้มันโชคหลายชั้นของผมเลยนี้น่า 

         ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก ผมแค่คอยผลักดันน้องชายผู้น่ารักของตัวเอง ให้กลายเป็นเคะ ด้วยหน้าตาหวานๆปานสาวน้อยบริสุทธิ์ เพื่อปั่วหัวให้เจ้าเมะทั้งหลาย ที่หื่นกระหายภายในโรงเรียน

           ให้มาหลงชอบน้องชายของผม ที่เหมือนกับลูกแกะน้อยไร้พิษสง ไร้ซึ่งพละกำลังจะขัดขื่น จากนั้นเจ้าพวกเมะนั้น ก็มุ่งหน้าไปหาฮิบิกิน้อยที่แสนอ่อนแอ และขัดขื่นพวกเมะที่มีแรงมากกว่าไม่ได้ 

         ฮิบิกิน้อยก็จะถูกเจ้าพวกนั้น ตู๊ดๆๆ แล้วกลายเป็นแฟนกัน จนครองคู่ไม้ประดู่งัดไม่ออก ผมก็จะเป็นอิสระ ไม่ต้องมาคอยระแหวงก้น(?)ของตัวเองอยู่อย่างนี้เวลาที่เจ้าฮิบิกิเข้ามาใกล้

         อาาา พี่หาทางออกให้แก่นายได้แล้วฮิบิกิ จงเป็นเคะ แทนเมะซะเถอะ เพื่ออนาคตที่ดีของพี่และนาย วะฮ่าฮ่าๆๆ

         แต่ก่อนอื่นเลย ผมเพิ่งจะนึกอะไรออก หลังจากที่ผมได้เจอกับเรียวจิ จะว่าไป ผมเองก็อยู่ชั้นเดียวกับเจ้าพวกพระเอกของเรื่องนี้เหมือนกัน เพียงแค่อยู่กันคนห้อง และอีกอย่างคือผมเองก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากสะด้วย ว่าตอนเด็กๆเจ้าพวกนั้นอยู่ห้องไหน ใครเป็นยังไงกันบ้าง ไม่แน่บางคนอาจจเป็นซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมนก็ ไม่ได้การละ ผมคิดว่า ผมควรจะศึกษาและสังเกตุศัตรูบางสะแล้วซิ 

         แต่ก่อนอื่นเลย ตอนนี้ผมกำลังลังเลอยู่ว่า ผมควรไปอาบน้ำใหม่ดีรึเปล่า กับสภาพเสื้อของตัวเองที่ยังมีรอยน้ำตา ของสาวน้อยบริสุทธิ์ ที่มีนามว่าฮิบิกิจงเคะ ที่เจ้าตัววิ่งหนีผมไปพร้อมน้ำตา และความเจ็บปวด (?)อย่างสาวน้อยเสียซิง ให้กับชายหนุ่มผู้หล่อเหลากระชากไตออกมาขาย

         หลงเหลือเอาไว้แค่ความโสคกบนเสื้อของผม เพื่อยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เป็นความจริงไม่ใช่ความฝันแต่อย่างใด  แต่กำลังพยายามกลั้นใจตัวเอง ล้มตัวลงนอนตามเดิม แบบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่า เสื้อตัวเองสกปรกแค่ไหน

         อะไร อย่ามามองผมด้วยสายตาที่ดูแคลนผมน่ะ ผมแค่ประหยัดน้ำช่วยชาติอยู่ตั้งหาก พวกคุณยังไม่สำนึกน้ำใจอันดีงามของผมอีกหรอ!! ผมไม่ได้มีความขี้เกียจเลยสักนิดนะครับ เชื่อผมได้ครับ

          เพราะผมไม่เคยโกหก แค่ไม่เคยบอกว่าจริงที่ตรงกับคำถามก็เท่านั้น ฉบับพระเอกปากแข็ง ที่ต้องเอาเสียมมางัดปาก ผมก็ไม่ยอมพูด แต่ถ้าเปลี่ยนจากเสียมมาเป็นสาวสวย ไม่ถึงวิ ผมจะรีบสไลด์ตัวเข้าไปบอกความจริงทุกอย่างเองละครับ 

         ถึงอย่านั้นก็เถอะตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วละครับ ขอหลับก่อนดีกว่า เพื่อประหยัดพลังงานของตัวเอง ที่ต้องฝื่นตื่นมาบ่นอยู่อย่างนี้ คร่อกกกก

         เรื่องราวของเช้าวันนี้ก็เหมือนทุกทีละครับ พอฮิบิกิลงจากรถได้ ก็จะมีสาวน้อยใหญ่มารุมเหมือนเดิม ส่วนผมก็ว๊ากใส่เหมือนด้วยเสียงหล่อ เหมือนปกติ ดูน่าจะไม่มีอะไรที่ผิดปกติ แต่มันมีครับ

         เพราะในวันนี้ ผมได้เจอเข้ากับตัวละครอีกตัวหนึ่ง ที่ผมกำลังจะไปศึกษาหาจุดอ่อนเข้าอยู่พอดี ในกองทันแมวที่กำลังมารุมล้อมรอบกายของตัวละครนั้น หึหึ ไม่ต้องไปหา ก็มาเองให้เจอเลยรึไงกัน 

         แต่ว่าทำไมหลังๆ เหตุการณ์มันถึงได้ตลับปัตรแบบนี้ ใครก็ได้ช่วยบอกผมที!! ผมควรจะทำยังไงกับเจ้านี้ดีละครับเนี่ย!!! ไม่น่ามาเจอมันเลยครับ ผมผิดไปแล้ว!! ปล่อยไปทีผมเถอะนะครับ!!
























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×