ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Kuroko Yaoi) AkaKuro(●▽o)✄ เหมียวโรคจิตกับแวมไพร์จืดจาง

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : ท่ามกลางสายฝน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.08K
      67
      8 ม.ค. 57

    1
    ท่ามกลางสายฝน

     

     

     

              ซ่า ซ่า ซ่า

     

      เสียงฝนสาดดังไปทั่วบริเวณวันนี้ฝนตกหนักกว่าทุกวันเสียด้วยลึกเข้าไปในเมืองแห่งหนึ่งได้มีโรงเรียนซึ่งตอนนี้ไร้ซึ่งผู้คนเนื่องจากเหล่านักเรียนได้กลับบ้านกลับช่องกันไปหมดแล้วเหลือเพียงชมรมบาสเก็ทบอลที่ยังคงคึกครื้นกันอยู่เพราะเอสของทีมกับผู้เล่นที่ชอบก๊อปปี้ท่าคนอื่นกกำลังแข่ง1no1กันอยู่ซึ่งการเดิมพันครั้งนี้มีเด็กหนุ่มตัวเล็กในชมรมเป็นรางวัลอ่า...แน่นอนพวกเขาตกลงกันเองโดยไม่สนใจคำค้านของเจ้าของร่างบางที่ยืนดูดวนิลาเช็คดูการแข่งอยู่เลยสักนิดและตอนนี้ก็เหลือพวกเขาเพียง3คนทำไมรางวัลที่ไม่เต็มใจถึงไม่ยอมกลับไปก่อนน่ะเหรอ?

     

      ก็เพราะเขาไม่ได้พกร่มมาน่ะสิแต่ถึงกลับช้าก็ไม่มีใครว่าเขาได้หรอกก็นะเขาอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นาโรงเรียนนี้ก็ไม่ได้เหมือนโรงเรียนอื่นๆที่เขาอยู่เพราะทุกคนดูเหมือนจะเข้ากับเขาได้ไม่มองว่าเขาเป็นพวกแปลกแต่เพราะความจืดจางบวกกับตัวเล็กเลยไม่มีใครทันสังเกตว่าเขามาอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่จึงทำให้หลายคนตกใจกันอยู่เรื่อยจากนั้นเพื่อนๆก็เริ่มไม่ค่อยจะสนใจเขาบวกกับบุคคิกของเขาที่ค่อนข้างเป็นคนเงียบๆด้วยแล้วจึงยากที่จะมีคนเข้ามาคุยด้วย

     

      แต่ตั้งแต่มาอยู่ชมรมบาสเขาก็เริ่มมีเพื่อนมากขึ้นเพราะอะไรก็มิอาจรู้แต่ที่รู้ๆตอนนี้เขาสนิทกับสองคนที่แข่งกันอยู่นั่นมากกว่าใครแต่คนในทีมก็ใช่ว่าจะไม่คุยกันซะทีเดียวเด็กหนุ่มยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยรู้ตัวอีกทีการแข่ง1no1ก็จบลงแน่นอนว่าคนที่ ชนะคือคนที่ได้แต้มมากกว่าเกือบ 10 แต้มซึ่งก็คือเอสของทีม อาโอมิเนะ ไดกิ

     

      เด็กหนุ่มนามว่า ไดกิ เดินยิ้มมาหาคนตัวเล็กและหันไปเยาะเย้ยคนแพ้ด้วยใบหน้าที่แสนจะกวนบาทายิ่งว่าสิ่งอื่นใด้ คิเสะ เรียวตะ อยากจะเอาเท้าไปประทับหน้านั้นเหลือเกินติดอยู่ที่คนตัวเล็กดันอยู่ด้วยเขาจึงทำไม่ได้ ทำไมเขาถึงเกรงใจน่ะเหรอ? ก็เพราะไม่อยากให้ร่างเล็กๆนั่นลำบากใจเวลาเขาทะเราะกับอาโอมิเนะน่ะสิ

     

         “เท็ตสึกลับบ้านกันเถอะ” ร่างเล็กหันมองหนุ่มร่างสูงผู้เป็นเพื่อนสนิทสลับกับคิเสะที่เพียงยิ้มบางๆตอบกลับมาให้เขา

     

                        “อาโอมิเนะคุงมีร่มเหรอครับ?”
     

                        “เอ๊ะ?!”  คนโดนถามชะงักกึก ร่ม งั้นเรอะ! ข้างนอกฝนตกเรอะ!นี่เขาแข่งกับคิเสะเพลินจนไม่ลืมหูลืมตาดูสภาพอากาศเลยสินะเนี่ย มิน่าเจ้าของร่างเล็กถึงยังไม่กลับบ้านเสียทีที่แท้เพราะฝนตกหรอกเรอะ!!

     

                     “ของนอกฝนตกนะครับ” เจ้าของร่างเล็กเอ่ยเบาๆและดูดวนิลาเช็คต่อ

     

                    “อ่า โทษทีๆฉันไม่ได้เอาร่มมาอ่ะ อาโอมิเนะว่าพลางเกาท้ายทอยตัวเองเหมือนจะสำนึกผิด คิเสะมองทั้งคู่ก่อนจะก้าวยาวๆมาหาเจ้าของร่างเล็ก

     

                “อะ เอ่อ…คุโรโกจจิฉันมีร่มอยู่นะน่าจะพอเดินไปด้วยกัน3คนได้อยู่ อีกอย่างทางกลับของพวกเราก็ผ่านร้านสะดวกซื้อด้วยเดี๋ยว ซื้อร่มเอาที่นั่นก็ได้” ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะจบลงที่ข้อเสนอของคิเสะยังไงก็ไม่มีทางเลือกอื่นขืนกลับไปเปียกโชกมีหวังคนที่บ้านพวกเขาคงสวดยับแหงๆ เมื่อตกลงกันได้ทั้งสองคนที่แข่งกันเมื่อครู่ก็ลุดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยทิ้งคุโรโกะให้ยืนดูดวนิลาเช็คอยู่คนเดียว(แอร๊ยยย โมเอะ>///< : Me)

     


     

      และเมื่อตกลงกันได้แล้ว..ผลคือทุกคนเข้ามาอยู่ในร่มคันเดียวของคิเสะที่แสนจะเล็กโดยมีคุโรโกะอยู่ตรงกลางและหนุ่มอีกสองคนยืนขนานข้างอาโอมิเนะเป็นคนถือร่มและจะดีกว่านี้หากบรรกาศรอบๆตัวมันไม่มาคุเพราะไอ้สองตัวที่ส่งสายตาพิฆาตใส่กันจนเกิดกระแสไฟฟ้าชนกันอยู่เหนือหัวคุโรโกะที่ยังคงดูดวนิลาเช็คไม่หมด ที่สำคัญพวกเขายังไม่ออกจากบริเวณโรงเรียน

     

              “เอ่อ คือ...ผมจะไปแล้วนะครับ” ว่าและก็เริ่มออกเดินไม่สนใจสองคนที่จะกัดกันอยู่ร่อมร่อเลยแม้แต่นิด เมื่อสองหนุ่มได้ยินดังนั้นก็รีบจ้ำตามไปทันทีเพราะกลัวเพื่อนที่ตัวเล็กที่สุดในทีมจะเปียกฝนและไม่สบายเอา...

     

               “อาโอมิเนจจิถือร่มดีๆเซ่ ฉันเปียกหมดแล้วนะ!” คิเสะบ่นเพราะเนื่องจากเพื่อนหนุ่มลำเอียงถือร่มเอียงไปทางตัวเองกับคุโรโกะมากกว่าส่งผลให้เขาที่ยืนอยู่ริมสุดโดนฝนสาดใส่เสื้อผ้าเปียกไปครึ่งตัว

     

                   “หา? แกก็เข้ามาใกล้ๆเซ่ ไม่ใช่ความผิดฉันนี่” อาโอมิเนะว่าซึ่งประโยคนั้นมันแสนจะกวนพระบาทสำหรับคิเสะมาก

     

                  “งั้นก็เอามาให้ฉันถือ” ไม่ว่าเปล่ากระชากมาจากมือเลยทีเดียว คราวนี้เบ้เปลี่ยนจากอาโอมิเนะกลายเป็นคิเสะแต่คนกลางอย่างคุโรโกะก็ไม่เดือดร้อนอยู่แล้วก็เขาอยู่ตรงกลางเปียกฝนก็ให้มันรู้ไปสิ

     

      เดินไปได้สักพักความลำเอียงของอีกฝ่ายเกินออกเพราะอาโอมิเนะเองก็เริ่มเปียกไปครึ่งตัวเหมือนแสดงให้เห็นว่าอีกคนก็ไม่ได้ลำเอียงน้อยไปกว่าเขาสักนิดประหนึ่งการ์ตูนสาวน้อยที่พระเอกถือร่มเดินกลับบ้านกับแฟนสาวท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาราวกับละอองซากุระหากแต่อาโอมิเนะกลายเป็นเพียงตัวประกอบไปโดยปริยายและ ณ ตอนนี้เขาควรจะพลิกตำนาน(?)แย่งบทพระเอกกลับมาได้แล้ว!!

     

               “เฮ้ย! ถือร่มดีๆดิ๊ฉันเปียกหมดแล้ว”
     

            “หา? อาโอมิเนจจิก็ขยับเข้ามาใกล้ๆสิ ฉันไม่ผิดนะ” เมื่อหาเรื่องพระเอกจำเป็น(?)ตัวร้ายที่คิดจะแย่งบทพระเอกก็ถูกตอกกลับมาทันทีด้วยคำพูดเดิมของเขาที่เคยโพล่งใส่อีกฝ่าย คุโรโกะเพียงเหล่มองทั้งคู่พลางดูดวนิลาเช็คและคิดไปว่าเมื่อไหร่ทั้งคู่จะเลิกทะเราะกันข้ามหัวเขาสักทีเห็นเขาเป็นหัวหลักหัวตอรึไง!

     

                      “แกว่าไงนะ คำพูดนั้นมันของฉัน!”

     

                      “ก็แล้วไงฉันพูดมันก็คำพูดฉันเซ่!”

     

                      “แกว่าไงนะ!”

     

           “ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละฮะ!” คิเสะเถียงจากนั้นทั้งคู่ก็ทะเราะกันไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อในที่สุดคุโรโกะอาศัยจังหวะที่ทั้งคู่ทะเราะกันและความไร้ตัวตนของตัวเองปรีกตัวออกมาอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อก่อนจะเปร่งเสียงเรียกทั้งคู่ที่ทะเราะกันไม่หยุด

     

                “คิเสะคุง อาโอมิเนะคุง”

     

                “…!!!??”

     

                “คุโรโกจจิไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ!!” เจ้าของร่างสูงผมทอมเผลอหลุดอุทานด้วยความตกใจเขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำเพราะมัวแต่ทะเราะกับอาโอมิเนะสินะ ให้ตายสิเสียเวลาชะมัด

     

               “เท็ตสึวาบได้?!” ส่วนพ่อหนุ่มอีกคนก็ทำหนเตกใจราวกับโลกใบนี้กำลังจะแตกในไม่ช้าในขณะที่คุโรโกะก็เพียงมองทั้งคู่ที่ตกใจกับการวาบ(?)ของเขาด้วยใบหน้าเรียนนิ่งราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาเสียเหลือเกิน

     

           “เราคงต้องแยกกันตรงนี้ผมจะซื้อร่มก่อนค่อยกลับบ้านอาโอมิเนะคุงกับคิเสะคุงกลับกันก่อนก็ได้นะครับ ยังไงก็…กลับทางเดียวกันอยู่แล้วนี่นา” คุโรโกะบอกและเตรียมตัวไปซื้อร่มแต่เสียงหนึ่งก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

     

                  “ไม่ล่ะฉันเองก็จะซื้อร่มเหมือนกันไม่อยากเดินร่วมร่มกับเจ้าบ้าคิเสะหรอก”

     

            “ว่าไงน้า!!เมื่อกี๊นายว่าอะไรนะไอ้บ้าอาโอมิเนจจิ!!” เป็นไปได้คิเสะก็อยากจะเข้าไปต่อยสวนเจ้าของร่างสูงผิวแทนนั่นเหลือเกนติดอยู่ที่คุโรโกะยังยืนอยู่ตรงนั้น เขาไม่อยากทำให้เจ้าของเล็กทุกข์ใจ(ทะเราะกันเมื่อกี๊ไม่นับ)

     

                     “หนวกหูเว้ยยยยยย!! เท็ตสึเราไปซื้อร่มกันเหอะ”

     

                     “เดี๋ยววววว ฉันไปด้วย”

     

                     “นายจะมาทำไมมิทราบ!” อาโอมิเนะดักทาง

     

                    “ก็ฉันหิวจะเข้าไปซื้อะไรกิน ผิดรึไงห๊ะ! ไอ้บ้าอาโฮ่นี่!” คิเสะมุ่ยหน้ามองเจ้าของร่างสูงส่วนคุโรโกะเดินไปเลือกร่มก่อนแล้วเพราะขี้เกียจยืนฟังเจ้าของคนนั้นเถียงกันอีกรอบ

     

                   “เมื่อกี๊แกเรียกฉันว่าไรนะ!” อาโฮ่ เอ๊ย! อาโอมิเนะเริ่มรู้สึกอยากอัดหน้าคนตรงหน้านี่มากกว่าเดิมไม่รู้ทำไม

     

                    “เรื่องไรจะพูดฟระ

     

                  “หา?! อาโอมิเนะมองหน้าคิเสะที่ตอนนี้ก็จ้องเขากลับเช่นกันตั้งแต่เข้าชมรมมาแล้วรู้สึกไม่ชอบหน้าหมอนี่สักนิดบางทีน่าจะคุยกันให้รู้เรื่องเขาทะเราะกับคิเสะมาก็หลายครั้งแต่บางทีก็เข้ากันได้อย่างน่าประหลาดบางทีก็ใจเต้นแปลกๆ ก็คิดไว้แล้วว่าสงสัยอยากจะอัดหน้าหมอนี่แหงๆแล้วบางเวลาก็หน้าแดงด้วยเรื่องนั้นก็คงเพราะเขาโกรธหมอนี่ตั้งแต่ชาติที่แล้วสินะ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ...อาโอมิเนะคิดเสร็จก็ตัดสินใจ... เท็ตสึ นายกลับคนเดียวนะฉันกับคิเสะจะกลับก่อน

     

                    “หา?ฉันบอกตอนไหนว่าจะกลับพร้อมอาโอมิอื้ออออ!!อื้ออื้อ”ก่อนจะได้เรียบเรียงคำพูดออกมาครบประโยคก็ถูกมือใหญ่ของ อีกฝ่ายอุดปากแน่นจนเสียงเล็ดลอดออกมาไม่ได้

     

                 “ครับ” คุโรโกะรับคำก่อนร่างของคิเสะจะถูกลากออกจากร้านโดยอาโอมิเนะ คุโรโกะมองภาพนั้นงงๆก่อนเดินไปจ่ายเงินและออกมานอกร้านในเวลาไล่เรี่ยกันเขามองฝนที่ตกเอาๆไม่หยุดเมื่อเช้าก็ยังอากาศดีอยู่แท้ๆ คุโรโกะถอนหายใจก่อนกางร่มและเดินมุ่งหน้ากลับบ้านระหว่างทางที่มืดเปรี่ยวในเวลาเกือบหนึ่งทุ่มบวกกับเมฆครึ้มและสายฝนที่สาดซัดประกอบกับสายผ่าที่แล่บร้องเป็นระยะๆมันช่างดูน่ากลัวและน่าวังเวงเหลือเกินแต่มันชินสำหรับเขาแล้วล่ะ...

     

                 “…!!??” ยังเดินได้ไม่ถึงไหนเขาก็ต้องหยุดชะงักและมองสิ่งตรงหน้าอึ่งๆ เด็กผู้ชายนั่งตากฝนอยู่ข้างๆเสาไฟฟ้าตามเนื้อตัวมีเลือดไหลออกมาและจางลงบ้างเมื่อถูกฝนชำระล้างออกไป ใบหน้าขาวซีดเรือนผมสีแดงสดที่ลู่ลงกับใบหน้าเปลือกตาปิดสนิทๆหากแต่จู่ๆก็เบิกลืมโพล่งขึ้นมาและจ้องมองมายังร่างเล็กของเด็กหนุ่มที่ชะงักตกใจเมื่อครู่

     

    เจ้าของใบหน้าซีดเซียวเหม่อมองคุโรโกะและค่อยๆขยับกายหากแต่มันทำอะไรไม่ได้มากนอกจากนั่งอยู่เฉยๆ คุโรโกะยังคงใบหน้าเรียบนิ่งของตัวเองเอาไว้เขาตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้เจ้าของร่างสูงใบหน้าซีดเซียวนั่น...
     

    .........................................................................................................................
    จบ555 การทำให้คนอ่านอารมณืค้างคืองานของเรา // โดนเตะ555
    ขอบคุณที่คอมเม้นจ้าจะพยายามแต่งให้มันต่อไปเรื่อยๆเนอะ= =
    มาสั้นๆอีกละ555 เอาน่าเดี๋ยวหน้ามันก็เพิ่มขึ้นเองเรื่อยๆนั่นแหละ
    ลากันด้วยรูปนี้ละกันนะคะ ซียู♥

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×