คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : บทที่5-4
สิ่งแรกที่อาชวินทำหลังจากรู้สึกตัวคือการวาดวงแขนไปยังข้างๆ แต่ทว่ามันกลับว่างเปล่า ชายหนุ่มลืมตาแถมคิ้วยังขมวดเช้าขนาดนี้จะรีบตื่นหาพระแสงอะไร เพิ่งจะตีห้าครึ่งท้องฟ้ายังไม่ค่อยสว่างด้วยซ้ำ ชายหนุ่มบิดตัวเกียจคร้านและเลือกหลับต่อมากกว่าการลงไปหาผู้หญิงที่ทำให้เขาสุขสมไปทั้งคืน
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเสียงฝีเท้าย่ำกับบันไดดังขึ้น ปวริศาไม่กล้าหันไปมองรู้ดีว่าใครที่ลงมา เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนยังเด่นชัดเสียงกรีดร้องถ้อยคำอ้อนวอนของเธอช่างน่าอายเหลือเกิน
“มีไรกิน หิว” อาชวินไม่ได้ประชิดตัวอย่างที่เธอแอบคิดไว้ เมื่อหันไปมองเห็นชายหนุ่มยืนพิงผนังมือขยี้ผมที่เพิ่งสระหน้าตาเพิ่งตื่น
ทำเหมือนเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ...
“มีข้าวผัดหมูค่ะ พี่อาชจะกินเลยไหมคะเดี๋ยวปอตักให้”
“ทอดไข่เจียวเพิ่มให้ใบหนึ่ง จะไปรอที่โต๊ะ” เขาบอกด้วยเสียงเนือยๆ แล้วจากไป ไม่มีคำทักทายหรือคำหวานหู ไม่เหมือนเมื่อกี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ปวริศาเจ็บแปลบๆ ในอกข่มใจทำหน้าที่ตัวเอง
ไข่เจียวฟูๆ โปะลงบนข้าวผัดที่จัดการผัดใหม่ให้เพราะอยากให้ร้อนจะได้กินอร่อยๆ แม้ยังน้อยใจกับท่าทีของอาชวินแต่สุดท้ายก็ยังหาเรื่องเอาใจเขาอยู่ดี
“ตอนกลางวันพี่อาชอยากกินอะไรคะ”
“เดี๋ยวไปกินที่โรงครัวเอา ไม่ต้องหอบมาให้” เขาตอบทั้งที่ตักข้าวเข้าปาก ตาไล่อ่านหนังสือพิมพ์ที่จับกางไว้ หาได้สนใจคนตั้งคำถาม และเป็นแบบนั้นอยู่สักห้านาทีได้ข้าวก็หมดจาน ชายหนุ่มลุกขึ้นคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกไป
ปวริศายืนมองตามนิ่งงันเหมือนอากาศยังไงชอบกล เมื่อคืนยังพูดไพเราะเสนาะหูอยู่เลย พระอาทิตย์ขึ้นทำไมกลับกลายเป็นคนเดิมอีกแล้ว
ช่วงเที่ยงจ้อยมารับพาออกไปตลาดเพราะข้าวของในบ้านหมดแล้ว ช่วงนี้ซื้อของบ่อยเหมือนกันบ้างก็อาทิตย์ละครั้งบ้างก็อาทิตย์ละสองครั้ง อยู่ว่างๆ ก็ไม่มีอะไรทำ เข้าออฟฟิศทีไรทุกคนก็แทบไม่ให้เธอช่วยอะไร ครั้นจะออกไปช่วยอาชวินเกรงว่าจะโดนเอ็ดเสียเปล่าๆ
“คุณปอนั่งรอร้านกาแฟแถวนี้ก่อนได้ไหมครับ ผมลืมว่าต้องเอาของไปส่งสักประมาณเกือบๆ ชั่วโมง” เห็นสีหน้าจ้อยแล้วจะปฏิเสธก็สงสาร นี่คงลืมจริงๆ หน้าถึงได้ซีดเผือด
“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวถ้าซื้อของเสร็จปอก็คงเดินเล่น ไม่ก็นั่งรอร้านไหนสักร้านนี่แหละ”
เธอยังเดินดูร้านค้าแถวตลาดไม่ทั่วด้วยซ้ำ ปกติหากอาชวินว่างก็จะมากับเขา แต่รีบซื้อรีบกลับเพราะขานั้นดูจะไม่ชอบเดินเท่าไหร่ นึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่เธอมาซื้อของใช้ส่วนตัวแล้วกลับมาเจอเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เมื่อก่อนคงเจ้าชู้ควงสาวมากหน้าหลายตาน่าดู
จะว่าโชคดีหรือเปล่านะ ที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนมาระรานเธอสักคน ยกเว้นตอนที่ผู้ชายใจร้ายพาเข้าบ้าน จนเธอต้องกลั้นใจยืนดูจนเขายอมล่าถอยไปเอง
เดินมาเรื่อยๆ จนเจอกับร้านเสื้อผ้าหนึ่ง ซึ่งเธอจำได้เป็นแบรนด์เดียวกับที่เคยตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ไม่คิดว่าที่นี่ก็มีสาขาด้วย
ไม่ได้อยากซื้อให้ตัวเองหรอก อยากซื้อให้คนปากเสียมากกว่า อาชวินไม่ค่อยสนใจการแต่งตัวเท่าไหร่นัก เสื้อผ้ามีไม่กี่แบบส่วนมากก็วนเวียนใส่ซ้ำๆ แต่ทุกครั้งก็เห็นเขาดูดีตลอด ไม่มีวันไหนที่จะดูแย่ในสายตาของเธอ ความรักมันทำให้คนตาบอดใช่ไหมนะ
“ตัวนี้สวย” เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีกรม เป็นลายตารางสีขาว เธอว่ามันเหมาะกับอาชวินไม่น้อย
ปวริศาแจ้งพนักงานแต่กลับต้องผิดหวัง เพราะมันเหลือตัวสุดท้ายและมีคนชิงตัดหน้าเธอไปก่อนแล้ว พนักงานขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะลืมแยกไว้ ได้แต่มองตาปรอยเพราะเธอชอบลายและสีนั้นจริงๆ ตัวอื่นไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่นัก
“คิดเงินเลย” เสียงเข้มๆ ของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงใหญ่ หญิงสาวเอี้ยวตัวมองเสื้อที่เล็งไว้ถูกพับใส่ถุงอย่างดี ผู้ชายคนนั้นคงเป็นคนซื้อไป
ก็คงต้องมองหาตัวอื่น แต่เท่าที่ดูแล้วไม่มี...นี่ถ้าอาชวินรู้เข้ามีหวังเธอโดนว่าชุดใหญ่ เพราะเขาไม่ได้ขอร้องให้ซื้อให้ด้วยซ้ำ
“ผมได้ข่าวว่าคุณอาชมีเมียแล้ว” ปวริศาถึงกับหูผึ่ง อาชวินที่ว่านั่นใช่คนเดียวกับที่เธอคิดหรือเปล่านะ
“จริงเหรอวะ ทำไมกูไม่ได้ข่าว”
“เหมือนจะยังไม่ได้จัดงานแต่งงาน”
“หึ ! สงสัยมันพลาดไปทำลูกสาวใครท้องเข้า”
ความคิดเห็น