ตอนจบโดเรมอน

เป็นหุ่นยนต์แห่งโลกอนาคต ที่นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลามาปฏิบัติภารกิจอยู่ในโลกยุคเราได้นาน 35 ปีแล้ว

เก๊าะเจ้าแมวเหมียวไม่มีหู ที่กลัวหนูเป็นที่ซู้ด โดราเอมอน...ขวัญใจเด็กตลอดกาลนั่นไง!

หลายประเทศจึงจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองกัน รวมทั้วประเทศไทยด้วย โดยบริษัทแอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย)จำกัด ร่วมกับโมเดิร์นไนน์ทีวี เมืองไทยประกันชีวิต และศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จัดงาน "Doraemon 35 th Anniversary" ขึ้น ระหว่างวันที่ 21-25 เม.ย. นี้ ณ ลานกิจกรรมศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ และของสะสมให้เลือกซื้อมากมาย

โดราเอมอนเกิดวันที่ 3 กันยายน ค.ศ.2112 ที่โรงงานหุ่นยนต์มาซูชิบ้า สูง 129.3 ซ.ม. น้ำหนัก 129.3 ก.ก. กระโดดได้สูง 129.3 ซ.ม. วิ่งได้เร็วสุด 129.3 ก.ม./ช.ม. เดิมตัวสีเหลือง แต่วันหนึ่งถูกหนูกัดเลยนั่งร้องไห้เสียใจจนสีที่พ่นหลุดออก จนเหลือแต่สีรองพื้นซึ่งเป็นสีฟ้าอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน โดราเอมอนจึงกลัวหนูตั้งแต่นั้นมา สำหรับผู้ที่ให้กำเนิดโดราเอมอนคือ ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ

ชื่อโดราเอมอน มาจากคำว่า โดเรเนโกะ แปลว่า แมวหลงทาง เอมอน เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายสมัยก่อน โดราเอมอนยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ดังคอง สำหรับของวิเศษในกระเป๋า 4 มิติของโดราเอมอนนั้นจริงๆ แล้วเป็นของเล่นเด็กๆ ในอนาคตเท่านั้นเอง

เพื่อนๆ ของโดราเอมอนทั้งโนบิตะ ชิซูกะ ซูเนโอะ ไจแอนต์ มีนิสัยแตกต่างกันไป การผจญภัยในตอนต่างๆ คงไม่ต้องเล่ากันมากล่ะนะ เพราะน้องๆ แต่ละคนรู้กันอยู่แล้วนี่

มาว่ากันตอนจบ ซึ่งยังไม่ใครรู้เลยดีกว่า!!

มีการถกเถียงกันมากว่าฉากจบของโดราเอมอนจะเป็นอย่างไร ถึงตอนนี้มีให้เลือกอยู่ 2 แบบ

ฉบับดั้งเดิมของฟูจิโกะ เขียนป็นสตอรี่บอร์ดไว้ก่อนจากไปเป็นดังนี้

"วันหนึ่ง โนบิตะตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล เจอกับพ่อแม่และเพื่อนๆ ครบทุกคนยืนอยู่รอบเตียงแล้วโนบิตะถามถึงโดราเอมอน ทุกคนกลับปฏิเสธว่าไม่รู้จักและบอกว่าโนบิตะหลับมานานเป็นปีแล้วเนื่องจากไม่สบาย โนบิตะก็นึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโดราเอมอน ทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้น โนบิตะเป็นเด็กที่ไม่แข็งแรง และไม่มีเพื่อนรักที่จะอยู่ด้วย เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลา และเขาก็หลับไป

ฉากต่อมาเริ่มที่พ่อ แม่ และเพื่อนๆ ของโนบิตะร้องไห้กันอยู่ในงานศพของโนบิตะ ซึ่งจากไปก่อนวัยอันควร และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลง ที่โนบิตะฝันถึงโดราเอมอนและอนาคตนั้นเป็นเพราะเขารู้ดีว่าเขาจะต้องตายในอีกไม่นาน เขาจึงอยากมีอนาคตกับเพื่อนรัก มีการผจญภัยสนุกสนาน แต่ฝันของเขาก็ไม่มีวันเป็นจริงตลอดไป"

อ๊ะ..อ๊ะ น้องๆ อย่าเพิ่งเศร้า ยังมีฉากจบอีกฉบับที่ทีมงานของฟูจิโกะแต่งไว้ให้เลือก นั่นคือ

"บ่ายวันหนึ่ง โนบิตะกลับมาจากโรงเรียนและวิ่งขึ้นไปที่ห้องของเขา โดราเอมอนกำลังนอนอยู่ในห้องเหมือนปกติทุกๆ วัน แต่เมื่อโนบิตะตะโกนเรียกแล้วโดราเอมอนก็ยังไม่ตื่น 2-3 ชั่วโมงต่อมา โนบิตะพบว่าโดราเอมอนยังนอนนิ่งและไม่ตอบสนอง จึงเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไป เริ่มรู้สึกกลัวและพยายามทำทุกอย่างเพื่อปลุกโดราเอมอนแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงกระโดดลงไปในลิ้นชักเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากโดเรมีในโลกอนาคตด้วยไทม์แมชชีน

เมื่อโดเรมีมาพบโดราเอมอนก็พบว่าแบตเตอรี่โดราเอมอนที่อยู่ใกล้กระเป๋าหน้า และไฟหมดแล้ว ส่วนแบตเตอรี่สำรองอยู่ที่หู ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าหูโดราเอมอนถูกหนูกัด โนบิตะจึงบอกให้โดเรมีช่วยเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้หน่อย แต่โดเรมีบอกว่าหากเปลี่ยนแบตเตอรี่ความทรงจำทุกอย่างของโดราเอมอนจะหายไปจากหน่วยความจำ โนบิตะจึงบอกให้โดเรมีกลับโลกอนาคตและโนบิตะจะดูแลโดราเอมอนเอง

วันเวลาผ่านไป ปี2010 โนบิตะโตขึ้น และเปลี่ยนไปโดยการทุ่มเทเพื่อเรียนอย่างหนัก ไม่ร้องไห้อีกต่อไป และมีชีวิตอยู่โดยไม่มีโดราเอมอน เขาบอกกับทุกคนว่าโดราเอมอนกลับไปยังโลกอนาคตและไม่สามารถพบกับโดราเอมอนได้อีกต่อไป ชิซูกะประทับใจในท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อของโนบิตะจึงตกหลุมรักและแต่งงานกันในที่สุด

โนบิตะเติบโตขึ้นมาเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาสร้างห้องทดลอง ทุ่มเทศึกษาอย่างหนักในงานของเขา และบอกกับชิซูกะไม่ให้เข้ามาในห้องทดลอง เพราะเต็มไปด้วยอันตราย แต่แล้ววันหนึ่งโนบิตะได้เรียกชิซูกะเข้ามาในห้องทดลอง เมื่อชิซูกะเข้าไปเธอถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก เพราะสิ่งที่เธอเห็นคือ โดราเอมอนที่ไม่ได้เคลื่อนไหวและดูเหมือนกับว่าเขากำลังหลับ จากนั้นโนบิตะเปิดสวิตช์หลักของโดราเอมอน ขณะที่โดราเอมอนลืมตามองไปรอบๆ และในที่สุดก็พูดขึ้นเสียงดังว่า...

"โนบิตะ นายทำการบ้านเสร็จรึยัง"

ตราบใดที่ยังไม่ถึงตอนอวสาน ฉากจบของ "โดราเอมอน" ที่ทีมงานยังไม่สรุปก็ยังเปลี่ยนแปลงไปได้อีกเรื่อยๆ

ว่าแต่น้องๆ เรามาลองแต่งตอนจบกันด้วยดีมั้ย!!