คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ILOVEYOURSMILE 7
"ถามจริง มาทุกวันไม่เบื่อเหรอ?" ชายหนุ่มร่างเล็กเอ่ยถามคนร่างสูงข้างๆที่ช่วยถือของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้คอนโด
"ไม่เบื่อหรอกมากับพี่จินฮวาน ^^"
"ขอโทษนะที่ใช้นายถือของตลอดเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ"
"มากับพี่ทุกวันถ้าเผื่อพี่ไม่ชอบนายทำไง"
"เทคแคร์ขนาดนี้ไม่ชอบก็ใจดำไปแล้วครับ"
"นายว่าพี่เหรอ?"
"ป่าวนะครับๆ " ร่างสูงรีบปฏิเสธ
"เชอะ" ร่างเล็กว่าพลางเดินนำหน้าไปโดยไม่สนใจคนข้างหลังเลยจนกระทั่งมาถึงหน้าห้อง
"ฮยองงอนผมจริงเหรอ0.0"
"อือ เอาของมาฉันจะเข้าห้องละ"
"ผมขอโทษ" ร่างสูงยื่นถุงในมือให้พลางพูดขอโทษคนตรงหน้า
"พี่ล้อเล่น ทำไมต้องทำหน้าสลดแบบนั้นด้วยเนี่ย"
"โถ่วว พี่จินฮวาน ผมตกใจหมดเลยนะรู้ป่าว"
"ฮ่าๆๆๆ ไม่เป็นไรนะครับพี่ไม่ได้งอนนายจริงๆสักหน่อย"
"ถ้าฮยองไม่ได้งอนผมก็ค่อยโล่งใจหน่อย"
"พี่เป็นคนขี้งอนนะ นายจะรับได้ปะ?"
"ผมรับได้หมดแหละ"
"-////- ง..งั้นพี่เข้าห้องก่อนนะ"
วันเสาร์ , 10 AM
เผลอแปปเดียวก็ถึงวันจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างคณะแล้วครับ ผมกับไอ้ยุนเดินไปลงทะเบียนพร้อมกันก่อนจะเห็นชานอูยืนรออยู่ ผมจึงแนะนำยุนฮยองกับชานอูให้รู้จักกันก่อนจะเดินเข้าไปหาที่นั่งกัน ตอนนี้เด็กๆปีหนึ่งเริ่มทยอยนั่งกันเต็มลานกว้างที่อยู่ระหว่างคณะนิเทศฯกับคณะวิศวะ พอมองไปรอบๆก็เห็นพี่จินยืนคุมน้องๆอยู่ พี่แกหันมาโบกมือให้ผมก่อนจะหันไปจัดการคุมเด็กวิศวะที่มัวแต่นั่งคุยกันต่อ
"และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอยแล้วนะครับ.." สิ้นเสียงของรุ่นพี่ผมแสกกลางหน้าตาดีคนนึงบนเวทีพูดขึ้น ก็ได้รับเสียงตอบรับมากมายจากรุ่นพี่ที่ยืนอยู่รอบๆ
....กรี๊ดดด......วี้ดวิ้ววว.........ฮิ้ววววว
"ขอต้อนรับรุ่นน้องทุกคนเข้าสู่กิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างคณะนิเทศศาสตร์และคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีที่ 20 นะครับ"
กรี๊ดด........... พวกผู้หญิงกลุ่มข้างๆจะกรี๊ดอะไรนักหนาครับ แสบแก้วหูชะมัด
"อย่างที่รู้ๆกันว่าทางมหาวิทยาลัยเราได้ดำเนินกิจกรรมสัมพันธ์ระหว่างคณะขึ้นมาทุกปี โดยที่ทั้งสองคณะจะต้องใช้ชีวิตและทำกิจกรรมร่วมกันตลอด 2 วัน 1 คืน นั่นจะทำให้นักศึกษารักกันมากขึ้นครับ เป็นกิจกรรมที่ดีจริงๆนะ ว่ามั้ยครับ? ต่อไปผมจะให้มิโนจากคณะวิศวฯมาบอกรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมแรกของวันนี้นะครับ" สิ้นเสียงประกาศพี่ที่ไว้ผมแสกกลางก็ส่งไมค์ต่อให้พี่มิโนเพื่อนพี่จิน
กรี๊ดดด....... ฮิ้วววว.... เต็มไปด้วยเสียงกรี๊ดและเสียงตบมือเช่นเดิมครับ นี่ผมมากิจกรรมคณะหรือมาดูดาราเนี่ย
"สำหรับกิจกรรมแรกให้จับกลุ่มกันกลุ่มละ 8 คน แต่ต้องคละคณะกันด้วย ใครได้กลุ่มแล้วก็เอาของไปเก็บที่พัก แล้วสิบโมงเจอกันที่สนามหญ้าฝั่งโน้นได้เลยครับ" จบเสียงประกาศ ผู้คนก็เริ่มเดินตามหากลุ่ม
"ตกลงต้องคละคณะจริงเหรอ คณะนั้นมีแต่คนน่ากลัวอ่ะ" ชานอูว่าพลางมองผู้คนรอบๆ
"อย่างน้อยก็มีคนหล่อๆอย่างฉันคนนึงแหละน่า" ยุนฮยองว่าพลางตบไหล่ชานอูเบาๆ
"ไม่เป็นไรหรอก" ผมว่าพลางจูงแขนชานอูเดินไปหาพี่จินฮวานโดยมียุนฮยองเดินตามหลังมา นั่นไง พี่จินยืนอยู่นั่นไง อยู่กับพี่ฮันบินด้วย
"พี่จินนนน~" ผมเดินเข้าไปหาพี่ชายสุดเลิฟก่อนจะแนะนำชานอู "ชานอู นี่พี่จินฮวานพี่ชายฉันเอง พี่จินนี่ชานอูเพื่อนใหม่ดงครับ"
"สวัสดี/สวัสดีครับ"
"ดงขออยู่กลุ่มพี่จินด้วยคนสิครับ"
"เอาดิ พี่กำลังรอเราเลยเนี่ย"
"กลุ่มพี่จินมีใครบ้างอ่ะ?"
"ก็พวกบ็อบบี้ จุนฮเวอ่ะ นั่นไงมาโน่นละ" พี่จินพูดก่อนจะชี้มือไปยังพี่บ็อบบี้ที่กำลังเดินเข้ามา
"ดงฮยอก อันยอง^^" พี่บ็อบบี้กล่าวทักทายพร้อมยกมือมาไฮไฟว์
"หวัดดีครับพี่ ^^"
"นึกว่ากลุ่มพวกเราจะไม่มีเด็กนิเทศน่าตาน่ารักมาอยู่ด้วยซะแล้ว คริคริ"พี่บ็อบว่าพลางเอาแขนมาพาดไหล่ผม
"เออพี่บ็อบ นี่ชานอูเพื่อนผมนะครับ" ผมหันไปแนะนำชานอูให้พี่บ็อบรู้จัก
"สวัสดีครับน้องชานอู ^^ เออว่าแต่ไอ้เด็กสองคนนั้นหายหัวไปไหนวะ" พี่บ็อบบี้กล่าวทักทายชานอูก่อนจะหันไปถามพี่ฮันบินที่กำลังเตรียมสะพายเป้ไปเก็บ
"ไปเข้าห้องน้ำมั้ง เดี๋ยวคงมา" พอพี่ฮันบินพูดจบก็เดินแบกกระเป๋าออกไปเลย ทำไมผมรู้สึกว่ากระเป๋าอีกใบบนไหล่พี่ฮันบินน่ะมันคุ้นๆเหมือนกระเป๋าพี่จินยังไงยังงั้นแหละ
ไม่นานนักไอ้คนตัวโตกับเพื่อนอีกคนก็เดินมาพร้อมกระเป๋าเป้บนไหล่ หมอนั่นเดินมาถึงก็มองผมกับพี่บ็อบบี้สลับกัน ทำไมเหรอ แค่พี่บ็อบบี้ยืนกอดคอผมอยู่มันเป็นอะไรเหรอ หรือหมอนี่จะหึงพี่บ็อบอีกคน พอละไม่คิดสิดงฮยอก
"มองไร?"
"รู้จักกันแล้วสินะดงดงกับจุนฮเวน่ะ"พี่บ็อบบี้พูด"แล้วไอ้ที่ยืนอยู่ข้างๆกันน่ะชื่อจินฮยองเพื่อนจุนฮเวมัน แล้วก็เพื่อนของเพื่อนนายด้วย"
"กูนึกว่าพวกมึงจะไม่มาซะอีก"ยุนฮยองทักทายเพื่อน
"ไม่มาได้ไงล่ะ เนอะจุนฮเว ว่าแต่นั่นเพื่อนมึงเหรอเหรอ"จินฮยองว่าก่อนจะหันไปหาดงฮยอกกับชานอูที่ยืนอยู่ข้างๆยุนฮยอง
"นี่ดงฮยอกเพื่อนสนิทกู และชานอูเพื่อนไอ้ดง"
"สวัสดีนะ เพื่อนมึงสองคนนี้น่ารักว่ะ 55555"จินฮยองว่าพลางยิ้มหวานให้คนตรงหน้า
"น่ารักตรงไหนวะ"จุนฮเวว่า แต่พอจินฮยองยิ้มให้ผม หมอนั่นกลับส่งสายตาดุๆมาให้ อะไรของมันครับ
"ไปกันเถอะ ไอ้ฮันบินกับพี่จินไปโน่นแล้ว"พี่บ็อบพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปยกกระเป๋าตัวเองขึ้นสะพายแล้วเดินนำหน้าไป
พลั่กก!!
"เดินประสาอะไรห้ะ?" ผมหันไปดุไอ้คนตัวโตที่ดูยังไงก็รู้ว่ามันแกล้งเดินชนผม และด้วยกระเป๋าที่หนักทำให้ผมเสียหลักไปชนกับชานอูที่ยืนอยู่ข้างๆ
"ก็นายขวางทาง" เจ้าตัวตอบหน้านิ่งๆก่อนจะเดินผ่านผมไปโดยไม่มีแม้คำขอโทษ ฮึ่มมม ไอ้ยักษ์เอ้ยย อย่าให้ฉันเอาคืนนะ
"ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วยนะ ไอ้จุนฮเวมันก็กวนตีนแบบนี้หละ"เพื่อนไอ้ตัวโตที่ชื่อจินฮยองบอก
"เปลี่ยนกลุ่มตอนนี้ทันมั้ย" ผมถอนหายใจยาวๆ
"เห็นว่าจะไม่ทันแล้วมั้ง คนอื่นทยอยไปที่พักหมดแล้ว" ชานอูว่าพลางจูงแขนผมให้รีบเดินเนื่องจากตอนนี้บ็อบบี้ฮยองยืนโบกมือรออยู่หน้าทางเข้าแล้ว
ตอนนี้เราอยู่ที่โถงใหญ่ของหอประชุมที่ตอนนี้กลายเป็นที่พักให้เราชั่วคราวเรียบร้อยแล้วครับ โดยที่พวกผู้หญิงจะพักอยู่โซนปีกซ้ายและผู้ชายจะอยู่ปลีกขวา ผมกับคนในกลุ่มเดินเข้ามาในห้องก็พบว่าที่นอนถูกจับจองกันเกือบหมดแล้ว เหลือก็แต่ที่ว่างมุมห้องที่ยังไม่มีคนจับจองซึ่งมีที่ให้สำหรับพวกเราทั้งแปดคนพอดี ผมไม่รอช้ารีบเดินตามพี่บ็อบบี้ไปก่อนจะเอาฟูกที่ทางคณะเตรียมไว้มาปู
"ผมนอนตรงนี้นะครับ"ผมเลือกที่จะนอนตรงขอบเพื่อจะได้ไม่รบกวนคนอื่นเวลานอนดิ้น ใครๆก็บอกว่าผมนอนดิ้นแต่ผมก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่หรอก
แต่เดี๋ยวดิ ทำไมไอ้กูจุนฮเวตัวโตนั่นถึงมานั่งลงข้างๆผมล่ะ?
"ใครบอกให้นายมานอนตรงนี้?"
"ก็อยากนอน มีไรมะ"อีกคนตอบก่อนจะหันมาทำหน้ากวนตีน
"งั้นฉันจะเปลี่ยนที่"ผมกำลังจะลุกเปลี่ยนที่นอนแต่ก็มีเสียงของอีกคนแทรกขึ้นมาก่อน
"ทำไม กลัวฉันรึไง"
"ทำไมฉันต้องกลัวนาย"
"หรือว่ากลัวนอนไม่หลับเพราะเขินฉันเหรอ"
"ไม่ได้กลัว"
"นอนตรงนี้มันไม่ดีตรงไหนห้ะ" ไอ้คนตัวโตพูดพลางกดไหล่ผมให้นั่งลง อะไรของหมอนี่วะ
"ไม่ชอบ มีไรมะ"
"หึ"
"ฮึ่ยย"
"สองคนนั้นเลิกทะเลาะกันสักที ออกไปรอทำกิจกรรมต่อไปกันเถอะ ได้เวลาแล้ว" พี่บ็อบเรียกคนในกลุ่มให้ลุกขึ้นแล้วเดินเอาแขนมาพาดไหล่ผม คือบางทีมือพี่แกก็หนักนะครับ แต่จะให้ผมด่าไปก็คงไม่ใช่เขาเป็นรุ่นพี่นิ
"แล้วพี่จินไปไหนครับ"ผมหันไปถามเมื่อมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นพี่จินเลย ดูเหมือนว่าพี่ฮันบินก็หายไปด้วย
"คงออกไปรอข้างนอกกับไอ้ฮันบินแล้วมั้ง สองคนนี้ดูสวีทๆนะ ฮ่าๆๆ"
"พี่เขาคบกันแล้วเหรอครับ ผมไม่เห็นรู้เลย (' ' )"
"ล้อเล่นน่า เออว่าแต่ทำไมเราต้องไปทะเลาะกับจุนฮเวทุกทีเลย"พี่บ็อบหันมาถาม
"ก็มันกวนตีนอ่ะ"
"ฮ่าๆๆ มันก็เป็นงี้แหละ"
"เอาหละครับ ถึงเวลาเริ่มกิจกรรมแรกแล้ว กิจกรรมแรกของวันนี้คืออะไรครับมิโน" พี่แสกกลางนามว่าแทฮยอน(พี่บ็อบบี้บอกมา) รุ่นพี่คณะผมกำลังยืนประกาศใส่ไมค์ที่ด้านหน้าแถวพร้อมกับพี่มินโฮ
"กิจกรรมแรกของวันนี้เป็นการสร้างความสามัคคีได้ดีทีเดียวเลยหละครับ เคยได้ยินเกมเดิน3ขา มั้ยครับ นั่นแหละครับแต่คราวนี้ไม่ใช่เดินสามขานะครับ จะให้ทุกคนในกลุ่มผูกขาติดกันครับ เราจะแข่งครั้งละ 5ทีมนะครับ ใครถึงเส้นชัยก่อนเป็นฝ่ายชนะและได้คะแนนสะสมอีก 1 คะแนน จนถึงกิจกรรมสุดท้ายทีมไหนได้คะแนนสะสมเยอะสุดก็รับรางวัลพิเศษจากทางคณะไปเลย"
กรี๊ดดด...... หลังพูดจบก็ได้รับเสียงตอบรับมากมาย
(จุนฮเว)
ตอนนี้กำลังเริ่มกิจกรรมแรกครับ ทีมแรกกำลังแข่งกันอยู่ ระหว่างนั้นทีมพวกผมก็มาเตรียมตัวกันบ้าง ผมก็ไม่พลาดที่จะเดินไปยืนข้างดงฮยอก แม้ว่าตอนแรกเจ้าตัวอยากจะไปยืนข้างพี่จินฮวานก็เถอะ พอผมบอกพี่ฮันบินปุ้บพี่แกก็พาพี่ตัวเล็กไปยืนอีกฝั่งแทน ช่วยน้องได้ดีจริงๆ
"ทำไมฉันต้องมายืนข้างนายด้วยเนี่ย" คนตัวเล็กบ่นอุบอิบแต่ผมก็ทำเป็นไม่ได้ยินก้มลงช่วยอีกคนผูกผ้าที่ขาแทน
"ซ้อมกันก่อนมั้ยครับ"ชานอูกล่าวขึ้นหลังทุกคนผูกผ้าเสร็จเรียบร้อย แต่ผมว่ามันไม่จำเป็นต้องซ้อมหรอกนะของแบบนี้ ระยะทางก็ไม่ได้ไกลอะไรมากมาย
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็แข่งแล้ว" จินฮยองหันไปตอบ
"งั้นเราไปรอที่จุดสตาร์ทกันเถอะ"
ตุ้บ ~ โครมมมมม~
"เจ็บเหี้ย" ไม่ทันเริ่มก็พังไม่เป็นท่าเลยครับ ก้าวไปได้แค่ก้าวเดียวก็ล้มหน้าทิ่มกันหมดละ
"ถุย ดินเข้าปากเลย"คนข้างๆพูดพร้อมปัดดินออกจากหน้า
"โอ้ยยย อะไรของพวกมึงวะเนี่ย" พี่ฮันบินโวยวายก่อนจะหันไปพยุงคนตัวเล็กข้างๆลุกขึ้นยืน
"กูว่าเราควรซ้อมว่ะ"พี่บ็อบบี้ว่า
ซ้อมรอบที่ 1
ตุ้บบ~
"เฮ้ยย ไอ้จุนมึงเดินดีๆสิวะ บอกให้ก้าวซ้ายก่อนไง"
"ซ้ายผมกับขวาพี่มันติดกันปะวะ"
"เออๆ งั้นเอาใหม่"
ซ้อมรอบที่ 2
ตุ้บบ~
"ไอ้เน่ กูบอกให้ก้าวขวาไง"
"กูก็ก้าวขวาแล้วไง แล้วมึงจะก้าวขาข้างที่ติดกับขาซ้ายกูทำไมวะไอ้จินฮยอง"
ซ้อมรอบที่ 3
ตุ้บบบบ~
"ชานอู บอกแล้วไงว่าขาขวาก่อน"
"ขอโทษครับ"
ซ้อมรอบที่ 4
ตุ้บบบ~
"ฮันบิน มึงฟังที่กูพูดมั้ย บอกว่าก้าวขวาๆ"
"มึงนี่ด่ากูจัง"
หลังจากซ้อมมาหลายรอบก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเล้ยยย ล้มกันไม่เป็นท่าจนหน้าแทบจะจุ่มหญ้าอยู่แล้ว - -
หลังจากซ้อมจนหน้าทิ่มพื้นไปหลายรอบก็ถึงเวลาแข่งจริง ไม่ต้องถามว่าเราได้ที่เท่าไหร่ ที่โหล่ไง - - และกลุ่มที่ได้ที่หนึ่งก็เป็นกลุ่มของรุ่นพี่หน้าอาแปะคนนึงในคณะนิเทศ แต่ก็ถือว่าคุ้มนะครับผมได้เกาะเอวดงฮยอกด้วยหละถึงแม้หมอนั่นจะดูไม่พอใจก็เถอะแต่เพื่อความสามัคคีไงครับผมก็ต้องทำ(เหรอออ) กลิ่นหอมๆของเจ้าตัวยังติดจมูกผมอยู่เลย
หลังจากเสร็จกิจกรรมก็ได้เวลาพักกลางวันพวกเรา
"ดงดง เอาปลาหมึกมั้ยเดี๋ยวพี่คีบให้" ผมเริ่มเกลียดขี้หน้าพี่บ็อบก็วันนี้แหละครับ อะไรๆก็ดงดง หึ จะจีบดงฮยอกเหรอ ไม่มีทางซะหรอก
"ผมก็อยากกิน คีบให้ผมบ้างดิ"ผมใช้ตะเกียบคีบปลาหมึกจากตะเกียบพี่บ็อบบี้เข้าปากทันที
"อ้าวไอ้นี่..."
"ดงดงกินเยอะๆนะ จะได้โตไวๆ"ยัง ยังไม่หยุด
"เตี้ยๆแบบนี้กินไปก็คงออกด้านข้างหมดอ่ะ" ผมพูดพลางตักนู่นตักนี่เข้าปาก
"นายว่าไงนะ"คนตัวเล็กหันมามองค้อน
"เฮ้ยๆ มึงพูดอะไรมันกระทบหลายคนนะเว้ย"พี่ฮันบินพูดขึ้น เออลืมไปเลยครับว่าพี่จินฮวานก็อยู่ด้วย
"ผมไม่ได้จะว่าพี่จินฮวานนะครับ"
"อิ่มแล้ว ผมไปเดินเล่นรอนะครับ"ดงฮยอกว่าแล้วก็ลุกออกไปเลย ทำไมผมต้องไปว่าเขาน่ะเหรอ มันลืมตัวอ่ะ นิสัยนี้มันแก้ไม่หาย แค่อยากคุยด้วยแต่ปากมันไม่ดีทำไงได้
(ดงฮยอก)
"เตี้ย จะไปไหนอ่ะ" ระหว่างที่ผมกำลังเดินเล่นรอพวกพี่ๆกินข้าวกันก็มีเสียงทุ้มๆดังมาจากข้างหลัง แต่คำที่หมอนั่นเรียกมันน่าโมโหชะมัด
"ว่าใครเตี้ย"
"ใครล่ะ ทั้งเตี้ยทั้งอ้วน"
"เออ เตี้ยแล้วหนักหัวนายไง๊?" อะไรวะครับ ถึงผมจะสูงแค่ติ่งหูหมอนั่น แต่ผมไม่ได้เตี้ยสักหน่อย
"ยอมรับด้วย"
"เลิกเดินตามสักทีได้ปะ จะไปทางไหนก็ไปดิ"
"ไปด้วยดิ เบื่ออ่ะ" ดูสิครับ มันเบื่อแล้วจะตามผมมาทำไม คิดว่าผมจะพาไปสนามเด็กเล่นรึไง
เมี๊ยวว~ เฮ้ยแมวที่ไหนมาอยู่ตรงนี้เนี่ยดูท่าทางดูดีมีราศี(?)ซะด้วย
ผมรีบเดินไปหาเจ้าแมวขนปุยสีขาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าทันที
"ทำไมนายมานอนตรงนี้ล่ะ" ผมนั่งลงลูบหัวเจ้าแมวเบาๆ ขนนุ่มนิ่มชะมัด ><
"เตี้ยชอบแมวเหรอ?"
"อือ "
"เอากลับไปเลี้ยงดิ"
"ไม่เห็นปอกคอรึไง แสดงว่ามันต้องเป็นแมวมีเจ้าของอ่ะดิ"
"ใครเอาแมวมาไว้ตรงนี้วะ"
"จะไปรู้เหรอ"
"ซารัง~" เสียงปริศนาดังขึ้นใกล้ๆพร้อมการปรากฏตัวของชายร่างสูงเจ้าของตำแหน่งเดือนคณะนิเทศฯ
เมี้ยววว~ ทันทีที่เจ้าของเรียกชื่อแมวขนปุยสีขาวตรงหน้าก็รีบวิ่งไปหาเจ้าของมันทันที
"อยู่นี่นี่เอง ถ้าแกหายไปไอ้หมูดำต้องโกรธฉันแน่เลย"ร่างสูงอุ้มแมวขึ้นมาไว้ในอ้อมอกก่อนจะหันมาหารุ่นน้องที่ยืนอยู่ข้างหน้า "พวกนายเด็กปีหนึ่งนี่ ทำไมยังไม่ไปเข้ากิจกรรมอีก"
"กำลังจะไปครับ"ร่างเล็กตอบ
"งั้นก็รีบไปนะ พี่ไปละ" ร่างสูงว่าแล้วก็เดินอุ้มแมวออกไป
หลังจากทำกิจกรรมตอนบ่ายเสร็จพวกเราก็มาพักผ่อนกันตามอัธยาศัย พอหัวค่ำเราก็ต้องออกมารวมตัวกันที่หน้าตึกตึกหนึ่งของคณะวิศวะ ถือว่าเป็นตึกเก่าแก่เลยทีเดียว บรรยากาศดูน่ากลัวยังไงชอบกลแฮะ
"กิจกรรมต่อไปคือ'บ้านผีสิง'นะครับ"
โห่ววววววว......
พี่มิโนยังคงประกาศต่อไปและยังได้รับเสียงโห่จากคนอื่นๆ
"หลายๆคนก็รู้ประวัติของอาคารแห่งนี้ดีนะครับ ว่ามีอะไร ชั้นหนึ่งและชั้นสองของอาคารจะถุกสร้างบรรยากาศให้เหมือนบ้านผีสิง แต่ ภารกิจที่พวกคุณต้องทำคือ หาเหรียญทองทั้งหมด 10 เหรียญที่เราซ่อนไว้ โดยจะให้เข้าไปหาครั้งละ 2 กลุ่ม ภายในเวลา 30 นาที กลุ่มไหนที่หาได้มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะนะครับ ส่วนกลุ่มไหนที่ออกมาโดยไม่มีเหรียญจะถูกส่งกลับเข้าไปใหม่นะครับ และมีข่าวลือมาว่ามีบางคนเปลี่ยนกลุ่มเอง ถ้าผมจับได้ว่าคนไหนเปลี่ยนกลุ่มหรือกลุ่มไหนมีสมาชิกอยู่คณะเดียวกันทั้งหมดจะโดนลงโทษนะครับ"
"เอาหละครับ กลุ่มแรกเข้าไปได้"
ทันทีที่พี่มิโนประกาศเริ่มเกม ไฟในชั้นล่างของอาคารก็ดับลงทั้งหมดเหลือเพียงไปสีแดงสลัวๆ เห็นแล้วนึกถึงหนังสยองขวัญในทีวีเลยหละครับ
"พี่จินอยู่ปีสาม งั้นก็ต้องรู้ดิว่าเขาซ่อนเหรียญไว้ที่ไหนบ้าง"ผมกระซิบถาม
"มีเฉพาะสตาฟเท่านั้นแหละที่รู้ แต่ปีนี้พี่ไม่ได้เป็นสตาฟไง"
"ดงไม่อยากเข้าไปในนั้นเลย -3- "
"ดงฮยอกไม่ต้องกลัวนะ อยู่ใกล้ๆพี่ไว้ ^^" พี่บ็อบบี้ที่โผล่มาตอนไหนไม่รู้พูดขึ้น
และแล้วช่วงเวลาที่ไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงแล้วครับ ถึงตาของทีมผมตัองลงสนาม(?)แล้ว
"ดูหน้ามึงดิ ซีดเป็นไก่ต้มเลย"ไอ้ยุนฮยองว่า
"มึงไม่ต้องมาล้อกูเลย"
"ในนั้นมีแต่คนทั้งนั้น มึงไม่ต้องกลัวหรอกน่า"
"มึงอยู่ใกล้ๆกูเลย"ผมว่าพลางดึงชายเสื้อเพื่อนไว้
พรึ่บบ
"อ๊ากกกกกกก!!!"
ระหว่างที่ชายทั้งแปดคนเดินเข้ามาด้านในของตัวอาคารก็มีผู้หญิงผมยาวสวมชุดสีขาวโผล่ออกมาด้วยเลือดเต็มหน้า ทุกคนตกใจสุดขีดจนไม่ทันสังเกตุว่าเพื่อนในกลุ่มของพวกเขาได้หายไปสองคน
"ฮันบินเห็นดงฮยอกมั้ย"
"ไม่อ่ะครับ"
"อ้าวตะกี้มันยังเกาะเสื้อผมอยู่เลยนะ"
"เออ ไอ้เน่ก็หายไปว่ะ"
เป็นยังไงบ้างคะ ฟินไม่ฟินก็คอมเม้นให้ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น