คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 8 | หอคอยทริกซ์ทาวเวอร์
♚
Chapter 8
“ฉันขอยอมแพ้”
คำพูดสั้น ๆ ดังมาจากเด็กชายผมเงิน คิรัวร์หยิบเสื้อนอกที่ถอดวางไว้ขึ้นมาพาดไหล่ ดวงตาเรียวรีจ้องเขม็งไปที่ประธานเนเทโล่อย่างหงุดหงิด
ตาแก่นั่นท้าพวกเขาให้มาเล่นชิงบอลแก้เซ็ง โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าแตะบอลได้จะได้เป็นฮันเตอร์โดยไม่ต้องส อบ ข้อเสนอนี้เตะตาเขา กับอีกอย่าง…
อนิตา หมายเลข 111 ที่ลักลอบขึ้นเรือมาเพื่อฆ่าเขา แก้แค้นให้กับพ่อที่ถูกฆ่าจากคนบ้านโซลดิ๊กจะถูกละเว้นโทษที่ห้ามมาสอบฮันเตอร์ไปตลอดชีวิต ...ข้อเสนอนี้แน่นอนว่าต้องเข้าตากอร์น
“อ้าว ทำไมล่ะ? เมื่อกี้ก็จวนจะแตะบอลได้แล้วนี่” กอร์นที่เหงื่อโชกตัวร้องถาม ต่างจากตาแก่ที่ไม่เหนื่อยเลยสักแอะ
“เฮ้อ... นายเนี่ยไม่รู้อะไรซะเลย” เขาถอนหายใจ “ตาแก่นั่นไม่ได้ใช้มือขวากับเท้าซ้ายเลยนะ แบบนี้ไล่ตามทั้งปีก็ไม่มีทางแตะบอลได้หรอก!”
“ว๊า ความแตกซะแล้วสิ”
เนเทโล่หมุนบอลบนนิ้วชี้พลางยิ้มขบขัน นั่นทำให้คิรัวร์ชักจะอยากตั้นหน้าเหลอหลานั่นเข้าสักทีสองที ก่อนจะชะงักเมื่อกอร์นขอเล่นต่อ— เพียงเพราะอยากให้ตาแก่นั่นใช้มือขวากับเท้าซ้ายซะงั้น
“ตามใจนายละกัน”
เขาทำหน้าเซ็งก่อนจะเดินไปทางประตูทางออก ร่างของหญิงสาวมัดผมแกละที่ถูกบอดี้การ์ดคุมตัวอยู่ อนิตาจ้องมองเขาด้วยแววตาเคียดแค้น
เหอะ…
“นี่ ตาแก่” เขาร้องทักก่อนจะก้าวเท้าออกไป
“ว่างาย”
“ก่อนหน้านี้เห็นรู้จักกับคุเรฮะ ...ยัยนั่นเคยเล่นชิงบอลแบบนี้ด้วยรึเปล่า?”
“อ้อ เคยสิ” เนเทโล่มองเขาเหมือนรู้ทันความคิด เด็กชายก้มหน้าลงจนมองไม่เห็นสีหน้า มือที่จับเสื้อนอกอยู่กำแน่นขึ้นเมื่อตาแก่เอ่ยต่อ
“และแย่งบอลได้ด้วย”
คิรัวร์ยืนนิ่งอยู่ริมระเบียงทางเดินหลังจากเพิ่งซัดผู้เข้าสอบคนอื่นคลายความหงุดหงิดในใจไป ดวงตามองท้องฟ้าตอนกลางคืนผ่านกระจกใส
ถ้าเขายังเล่นชิงบอลต่อละก็… ต่อให้ต้องฆ่าคนเขาก็ต้องแย่งบอลมาให้ได้แน่ ๆ
“ว่าแล้วเชียว นายนั่นแหละที่ฆ่าพ่อฉัน คิรัวร์ โซลดิ๊ก!” อนิตาที่หลบบอดี้การ์ดมาได้ประกาศกร้าว
ตอนแรกก็ลังเลที่เห็นคิรัวร์เข้าชิงบอลที่มีเงื่อนไขช่วยเธอ แต่พอเห็นร่างของผู้เข้าสอบที่นอนแน่นิ่งมีบาดแผลอยู่ข้างเท้าทายาทมือสังหารโซลดิ๊ก เธอก็ไม่คิดจะอ่อนข้อให้อีกต่อไป!
“เตรียมตัวตายซะเถอะ!!”
ในขณะเดียวกัน
ร่างสมส่วนในชุดสูทขาสั้นก็กำลังเคลื่อนตัวมาตามทางเดิน
เธอใช้เวลาถามไถ่เรื่องงานกับพ่อนานพอสมควร ก็เล่นมัดมือชกให้มาสอบกะทันหัน งานที่ควรจะเป็นของเธอเลยถูกปัดไปให้คนอื่นรับผิดชอบแทนซะนี่
ถ้าไม่ได้มาสอบคงถูกใจอยู่ คิดว่าจะได้มีเวลานอนเยอะขึ้นอะไรแบบนี้
ก็ยังไม่พ้นเรื่องนอนอยู่ดี
“หืม?”
หูสองข้างกระดิกฟัง
เสียงที่อยู่ได้ยินห่างออกไปไม่กี่เมตรคือเสียงของลมและเสื้อผ้าที่เสียดสี หนึ่งในนั้นกำลังหอบหายใจแรงราวกับกำลังฟาดฟันอะไรสักอย่าง ส่วนอีกคน …เดาได้ไม่ยากเลยว่าต้องเป็นคิรัวร์
ฝีเท้าเบา แถมยังหลบหลีกไวสมกับเป็นคนจากตระกูลนักฆ่า คนที่โดดเด่นเรื่องนี้ในหมู่ผู้เข้าสอบนอกจากเธอแล้วก็มีคิรัวร์นี่แหละ
“เมื่อกี้ก็มีโอกาสแล้ว ทำไมนายถึงไม่ฆ่าฉันล่ะ!?” เสียงของหญิงสาวตะโกนกร้าว คุเรฮะเดินเข้าไปใกล้โดยอาศัยมุมอับของความมืดในยามราตรี
นัยน์ตาสีผสมหรี่ลงมองภาพตรงหน้า
คิรัวร์เมินคำพูดด่าทอ มองผ่านกระจกวิวไปยังดาดฟ้ากว้างของเรือเหาะ ตรงนั้นมีประธานเนเทโร่กับกอร์นที่กำลังชิงบอลกันอยู่ โดยเด็กชายผมดำตั้งเริ่มหยิบเบ็ดตกปลาเข้ามาช่วย
คนในมุมมืดที่ผ่านการแข่งนั้นมาแล้วร้องอ้อในใจ หัวเริ่มประติดประติดเรื่องราวที่เธอไม่ได้อยู่ดูเข้าด้วยกัน
เด็กชายผมเงินละสายตาจากการแข่งตรงหน้า มองที่หญิงสาวผู้เคียดแค้นถึงขั้นยอมสู้แบบตัวตาย แต่ฝีมือและประสบการณ์ยังไม่ถึงขั้น
“ดูซะสิ” เขาชี้กอร์นที่อยู่ด้านนอก “หมอนั่นกำลังสู้เพื่อช่วยเธออยู่นะ!”
แล้วจะให้เขาฆ่าคนที่กอร์นกำลังช่วยอยู่น่ะเหรอ? หมอนั่นต้องโกรธเขาแน่
“ฉันก็ไม่ได้ขอให้ช่วยนี่! มาสู้กันเดี๋ยวนี้นะไอ้คนสารเล—”
ปึก!
สันมือแข็ง ๆ ซัดท้ายทอยเข้าให้
“คุเรฮะ!”
คิรัวร์ตาโต มองร่างของอนิตาที่ร่วงผล็อยไปนอนนิ่งกับพื้นโดยไม่ทันกะพริบตา ส่วนคนที่เข้ามาแทรกกลางคันก็ปัดฝุ่นออกจากมือด้วยสีหน้าเฉยเมย
“เห็นแล้วรำคาญแทนน่ะ”
ขาก้าวข้ามร่างที่สลบมายืนข้างกัน
คิรัวร์มองร่างที่นอนคว่ำหน้าสลบไหลกลางทางเดิน แล้วค่อย ๆ เลื่อนมามองคุเรฮะ เจ้าตัวยกมือขึ้นกอดอก ดวงตาจับจ้องไปที่กอร์นและตาแก่ที่กำลังแข่งกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“นี่”
นัยน์ตาคมเหลือบมองด้านข้าง บอกเป็นนัยว่าฟังอยู่
“เธอเคยหนีออกจากบ้านไหมคุเรฮะ?”
“ไม่เคย”
“ไม่ต้องเดาก็รู้ นอนทั้งวันใช่ไหมถ้าไม่มีงาน”
“พูดอีกก็ถูกอีก”
คิรัวร์อยากจะลูบหน้าอย่างหมดคำพูด ไม่ปฏิเสธสักคำเลยแม่คู๊ณ…
จริง ๆ แล้วเขาตอนเด็กเคยมองคราวน์เป็นไอดอลด้วยซ้ำ พูดให้ถูกคือตระกูลมือสังหารแทบทั้งหมดอยากจะก้าวไปให้ถึงจุดเดียวกันกับตระกูลนี้บ้าง แต่ก็แทบไม่มีใครทำได้
ส่วนนึงที่เขาชอบดึงให้คุเรฮะตามมาด้วยกัน… ยอมรับตรง ๆ ว่าเขาแอบตื่นเต้นในใจที่ได้เจอกับคราวน์ ถึงเขาจะไม่อยากเป็นนักฆ่าของบ้าน แต่ก็ใช่จะไม่มีต้นแบบนักฆ่าในดวงใจซะหน่อย
แต่พออยู่ด้วยกันไปสักพัก กลับรู้สึกว่าภาพฝันที่วาดไว้นั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีน
ไม่เข้าใจเลยครับ ทำไมคราวน์ที่เขาเจอต้องอินดี้ชนิดที่หลับได้ทุกสถานการณ์ (โดยเฉพาะตอนเช้า) แบบนี้วะเนี่ย…!
“เธอนี่นะ…” เขาลากเสียงยาว นึกสงสัยอีกอย่าง “ทำไมคนที่อยู่ในตระกูลที่ฆ่าพวกเดียวกันเองได้อย่างเธอ— ถึงยังเฉยเมยเหมือนไม่สนอะไรอยู่ได้กัน?”
เป็นถึงว่าที่ผู้สืบทอดเหมือนกันแท้ ๆ
แต่ในขณะที่เขาหาทางหนีออกจากกรงของครอบครัว คุเรฮะกลับเต็มใจที่จะอยู่กรอบไร้อิสระนั่น ไม่สนใจอะไรเลยเพียงเพราะอยากจะนอน
เขาเอ่ยเสียงแผ่วโดยไม่รู้ตัว “ทำไมพวกเราถึงแตกต่างกันขนาดนี้นะ…”
“คำตอบมันก็อยู่ในคำถามอยู่แล้วนี่”
กึก
คำพูดสั้น ๆ ทำให้รูม่านตาของคิรัวร์ขยายขึ้น ยิ่งคนข้างกายหันหน้ามาสบตา ยิ่งทำให้ลมหายใจสะดุด เขายกนิ้วขึ้นมาถูจมูกอย่างทำตัวไม่ถูก
นั่นสินะ
ก็พวกเราไม่เหมือนกันนี่นา
ภาพของกอร์นที่วิ่งไล่ต้อนชายแก่ยังคงอยู่ในกรอบสายตา สุดท้ายความดื้อรั้นที่มุ่งมั่นของเด็กชายก็ประสบผลสำเร็จ กอร์นทำให้ประธานเนเทโล่ยอมใช้มือขวากับเท้าซ้ายในช่วงสุดท้ายของการไล่จับบอลเข้าจนได้
คุราปิก้ากับเลโอลีโอที่ดูการแข่งอยู่คนละฝั่งมุ่งเข้าไปถามไถ่อาการเหนื่อย มือสังหารต่างตระกูลสองคนมองภาพตรงหน้าจากในตัวเรือเหาะ
“คำถามสุดท้าย เธอเคยทำอะไรตามใจตัวเองบ้างมะ?” ถึงจะเป็นนักฆ่าเหมือนกัน แต่เขาก็อยากรู้อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ จากทางฝั่งคลาวน์บ้างอยู่ดี ยิ่งทางนั้นเป็นผู้สืบทอดยิ่งแล้วใหญ่
“ เคยสิ”
คุเรฮะตอบหน้าตาย
“เคยเผาบ็อกเซอร์พ่อเพราะพ่อให้ทำงานตอนกลางวัน”
“เอ๊า มีพาดพิง” คนถูกกล่าวถึงบ่นอุบอิบ
♚
“ที่นี่คือหอคอยทริกซ์ทาวเวอร์ เป็นสนามสอบรอบที่สาม” คนชี้แจงยังคงเป็นบีนส์ เจ้าตัวยืนประกาศออกไมค์อยู่บนเรือเหาะ
ผู้เข้าสอบทุกคนถูกนำมาปล่อยลงบนหอคอยสูง นอกจากพื้นเรียบกึ่งขรุขระเป็นช่องให้เหยียบแล้ว ก็ไม่มีทางลงหรือทางขึ้นให้แต่อย่างใด
“ภายใน 72 ชั่วโมง ขอให้ทุกคนพยายามรอดชีวิตและหาทางลงไปข้างล่างให้ได้นะครับ!”
มีเวลาทั้งหมด 3 วัน
ร่างของเด็กสาวโงนเงนไปมา อาการง่วงเข้าแทรกทันทีที่แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเข้าตา คิรัวร์กับกอร์นยืนหนีบไว้คนละข้างเผื่อมีคนวูบแล้วหน้าหงายอีกรอบ
คุราปิก้ามองลงไปด้านล่าง หอคอยแห่งนี้เป็นเหมือนอาคารปิดทึบที่ไม่มีทางออก …แล้วจะลงไปได้ยังไงกัน?
“ด้านข้างมีแต่กำแพง ไม่มีหน้าต่างสักบาน ปีนลงไปจากนี่ก็เท่ากับฆ่าตัวตายชัด ๆ” เลโอลีโอออกความเห็น
แน่นอนว่ามีคนที่คิดปีนลงไปเดี่ยว ๆ เนื่องจากมั่นใจในฝีมือการปีนเขาของตัวเอง สุดท้ายก็โดนนกยักษ์หน้าคนบินมาฉีกทึ้งร่างกินกลางอากาศ
คุเรฮะปรือตาขึ้นเล็กน้อย
เธอน่ะโดดลงไปถึงข้างล่างในเวลาแป๊บเดียวได้สบายมาก แต่ดูจากตัวอย่างที่เพิ่งเกิด แสดงว่าพวกกรรมการกำลังบังคับให้ทุกคนต้องลงไปข้างล่างผ่านหอคอยแห่งนี้ได้แค่ทางเดียวเท่านั้น
เท้าก้าวออกไปด้านหน้าให้พวกเด็กชายมองตาม เดินวนอยู่สองสามรอบไม่ไกลแล้วหยุดนิ่ง มือยกขึ้นเท้าเอวแล้วมองตรงไปยังคนสี่คน
“เจอแล้ว”
"?" ทุกคนทำหน้างงแล้วมองหน้ากัน
เท้าข้างนึงเหยียบประตูกล เอาแรงกดเล็กน้อยให้รู้ว่านี่คือทางเข้าหอคอย พวกกอร์นทำตาโตด้วยความคาดไม่ถึงและตื่นตาตื่นใจ
“เป็นทางลง …ที่ลงได้แค่ครั้งเดียวสินะ” แถมลงได้แค่คนเดียวด้วย
คุเรฮะพยักหน้าให้คนชนเผ่าคูลท์ที่วิเคราะห์ได้รวดเร็ว “นอกจากตรงนี้ยังมีประตูกลอีกห้าบานใกล้ ๆ …เลือกเองละกันว่าใครจะไปบานไหน”
กอร์นยิ้มร่าแล้วพากันเป่ายิ้งฉุบเลือกบานประตูกัน ยกเว้นคุเรฮะที่กระดิกเท้ายิก ๆ บ่งบอกว่าเธอจะลงตรงนี้ก่อนใคร
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องลากันตรงนี้แล้วนะ” คุราปิก้าเอ่ยพลางยิ้มบาง พวกกอร์นก็ล่ำลากันพอเป็นพิธี ที่แน่ ๆ หวังให้รอดไปจนถึงข้างล่างได้หมดทุกคน
“เอาล่ะนะ” กอร์นสูดอากาศเข้าปอด นับถอยหลัง “หนึ่ง!”
“สอง!”
คุเรฮะยกมือขึ้นปิดปากหาว— “สาม!”
ตึง!!
ประตูกลปิดสนิทส่งผลให้รอบด้านเต็มไปด้วยความมืด แต่ไม่นานนักก็มีแสงสว่างส่องออกมาจากหลอดไฟด้านบน รอบด้านเป็นผนังสี่ด้าน ห้องปิดทึบที่ไร้ทางออกหากไม่ทำตามเงื่อนไขให้ผ่าน
ด้านหน้ามีส่วนนึงของผนังยื่นออกมา นาฬิกาสีเงินถูกวางไว้ตรงนั้นเรือนนึง เธอเดินไปหยิบขึ้นมาสวม มันคือนาฬิกานับเวลาถอยหลัง
เหลือเวลาอีก 71 ชั่วโมง 25 นาที
“ไม่ได้มีคราวน์สายหลักมาสอบฮันเตอร์นานแล้วนะเนี่ย” เสียงของกรรมการคนใหม่ดังออกมาจากลำโพงข้างผนัง “พยายามเข้าล่ะหนูน้อย หลายเส้นทางของเธอมีเซอร์ไพรส์สนุก ๆ รออยู่”
นัยน์ตาคมชำเลืองมองกล้องวงจรปิดด้านบน จิตสังหารแผ่ออกจนคนที่มองอยู่ห่าง ๆ ยังเผลอเสียวสันหลัง
“แยกกันแบบนี้คงช่วยอะไรไม่ได้”
น้ำเสียงเรียบเฉยเปรยถึงกอร์น เกมคุ้มครองคนบนหน้ากระดาน การที่คิงกับม้าอยู่ห่างกันก็ไม่ต่างจากการเปิดช่องให้ศัตรูไล่เก็บ
3 ใน 4 ส่วน --- เธอมั่นใจว่าในการสอบนี้มีคราวน์คนอื่นปะปนอยู่ด้วย แต่ไม่ใช่สายตระกูลหลักกับสายตระกูลรองแน่นอน
เสียงของผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ “แต่ถึงอย่างนั้นเกมนี้ก็ยังดำเนินต่อไปอยู่ดี”
ประตูเหล็กด้านข้างเลื่อนออก คุเรฮะจัดนาฬิกาให้เข้าที่พลางเริ่มก้าวเท้าออกไป
ริปโป้ กรรมการคุมสอบรอบสามหยิบคุกกี้ในจานเข้าปาก เบื้องหน้าคือจอมอนิเตอร์หลายร้อยเครื่อง แสดงภาพของผู้เข้าสอบในด่านต่าง ๆ ของหอคอยหลายร้อยกลไกแห่งนี้หลังจากผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงกว่า
ปีนี้มีผู้เข้าสอบน่าสนใจเยอะไม่เบา ดีจริง ๆ ที่อาสามาคุมสอบปีนี้ ทั้งเจ้ากลุ่มที่ต้องสามัคคีกัน 5 คน ทั้งเจ้านักมายากร ทั้งเจ้ามนุษย์เข็ม และ—
“!!”
เสียงบางอย่างที่ดังแทรกเข้ามาในกล้องถี่รัวเรียกความสนใจ เจ้าของผมทรงพั้งค์หงอนไก่หยุดปากที่กำลังกินขนมขบเคี้ยวลง “ยัยเด็กคราวน์นั่น—”
กร๊อบ
เสียงดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ฟังดูหนักแน่นกว่า และยาวนานกว่า ชายหนุ่มรีบกดปุ่มบางอย่างบนแผงควบคุม ภาพของเด็กสาวตาสีผสมถูกเลื่อนขึ้นจอใหญ่ และนั่นทำให้บรรดานักโทษที่ดูภาพอยู่ด้านหลังเขาพากันเบือนหน้าหนี
เจ้าของหอคอยทริกซ์ทาวเวอร์หลุดหน้าซีดออกมาแวบนึง แต่ก็กลับมาเป็นปกติได้สมกับเป็นฮันเตอร์มืออาชีพ
“คราวน์นี่มันคราวน์จริง ๆ” เขาบ่นอย่างอดไม่ได้ “ท่านประธานนึกยังไงถึงยื่นคำร้องให้คนตระกูลนี้หนุนหลังให้กับสมาคมกัน….”
กร๊อบ
ซากศพของนักโทษคดีอุกฉกรรจ์เกือบร้อยคนทับถมกันเป็นกองสูง— ไม่สิ พูดให้ถูกคือถูกอัดเข้าด้วยกันจนร่างกายแหลกเละ เด็กสาวผู้เดินเข้ามาในด่านนี้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด ปลายรองเท้าหนังสะบัดคราบเลือดออกอย่างไม่ไยดี
…เป็นภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดที่ถูกสร้างสรรค์จากจิตรกร แต่ในขณะเดียวกันก็ชวนให้ผวาและหวาดกลัวต่อความโหดร้ายนั่น…
เป็นความสามารถเน็นงั้นสิ
“เดี๋ยวก่อนนะ”
ริปโป้ขมวดคิ้ว “ยัยเด็กนั่นหายไปไหนแล้ว?”
หมายเลข 45 หายไปจากหน้าจอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ชัด แม้จะควบคุมให้กล้องหลายตัวส่ายหาไปมาก็ยังหาไม่เจอ แต่สักพักเขาก็เลิกให้ความสนใจ
“เฮอะ คงพลาดตกลงไปในกับดักสักที่มั้ง เดี๋ยวก็โผล่มาให้เห็นเองแหละ” ก็หอคอยนี้มีกับดักซ่อนอยู่เยอะจะตายไป
ดวงตากลมเล็กหันไปมองเจ้ากลุ่มที่ต้องสามัคคีกันต่อ มือกดให้ขึ้นจอใหญ่ ดูเหมือนตอนนี้กำลังเป็นการต่อสู้ระหว่างหมายเลข 404 กับนักโทษคดีต้มตุ๋นมาจิทานิพอดี
มือหยิบโดนัทช็อกโกแลตขึ้นมากัดคำนึง การต่อสู้ของเด็กหนุ่มผมทองจบลงด้วยการซัดนักโทษลงไปนอนแบ็บ แล้วตัวเองกลับเข้าที่โดยที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะที่แน่ชัด
เสียงของหมายเลข 403 เลโอลีโอดังขึ้นมา
“เฮ้ คุราปิก้า ช่วยส่งไอ้เดนตายนั่นให้พ้น ๆ ซะทีสิ!”
“ขอปฏิเสธ”
การดูคนแตกคอกันเป็นเรื่องน่าขบขันอย่างที่สุด ยิ่งเป็นทีมที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อฝ่าด่านต่าง ๆ ยิ่งแล้วใหญ่ ตอนนี้กลายเป็นว่าคนผมทองสั้นที่ไม่ยอมฆ่านักโทษไปให้จบ ๆ จะกลายเป็นประเด็นแตกคอหลายเสียงซะแล้ว
“ถ้านายไม่ฆ่าเอง ฉันฆ่าให้เอามะ?” คราวนี้เสียงของเจ้าเด็กผมขาวเป็นคนพูด ในจอฉายภาพเด็กนั่นกำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงถามคนที่นั่งกอดเข่า “ไม่เคยฆ่าคนมาก่อนใช่ไหมล่ะ กลัวรึไง?”
“ฉันไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้น แล้วนี่ก็เป็นการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง ไม่ต้องการให้ใครยื่นมือมาเกี่ยว”
เสียงเรียบนิ่งแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“ตัวถ่วงจริง ๆ”
“นี่เธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง!?”
กรรมการหันมาร้องตกใจด้วยใบหน้าคาดไม่ถึง
เด็กสาวผมหางม้ายืนอยู่ด้านหลังห่างออกไปไม่กี่เมตร ที่เขาจับสัมผัสไม่ได้ก็เพราะเด็กนั่นใช้เซ็ทสึเข้ามาตั้งแต่แรก— นักโทษที่คุมประตูอยู่ด้านหลังยืนปากสั่นตัวสั่นกันใหญ่
ริปโป้ชักจะมั่นใจแล้วสิว่าคราวน์คนนี้ควรจับตาดูอย่างที่หลายคนเตือนเอาไว้ เผลอแป๊บเดียวลอบเข้ามาในห้องควบคุมของหอคอยได้ แถมยังข่มขู่ทางสายตาจนนักโทษของเขาหัวหดกันอีก!
“เดินเข้ามาค่ะ และคุณไม่ได้สั่งห้ามไว้ว่าถ้าเข้ามาถึงที่นี่จะต้องถูกปรับตกด้วย”
เธอพูดดักทาง เอียงคอเล็กน้อย จับจ้องไปที่ภาพบนจอใหญ่ด้วยสายตาว่างเปล่า
เพราะอยากจะมั่นใจว่ากอร์นจะรอดไปถึงด้านล่าง เธอเลยหาทางเข้ามาในห้องควบคุมผ่านทางสายไฟกล้องวงจรปิด ใช้หูลอบฟังเสียงการเคลื่อนตัวของประตูกลในกำแพงไปเรื่อย ๆ จนเข้ามาถึงที่นี่ได้ในเวลาไม่นาน
พอเห็นกอร์นอยู่กับกลุ่มเดิมก็พอวางใจ ยังไงซะ คิรัวร์ก็คงไม่อยากให้เด็กผมตั้งนั่นตายก่อนใครแน่ ๆ
อีกอย่าง… ตอนแรกที่เห็นนึกว่าทอมป้าจะทำให้ทั้งทีมสอบตก แต่พอดูไปดูมาน่าจะเป็นคนชนเผ่าคูลท์แทนซะงั้น เรื่องส่วนรวมที่มีผลต่อคนทั้งทีม เจ้าตัวกลับอ้างความตั้งใจส่วนตนขึ้นมา
ไร้สาระ …คนแบบนี้น่ะหรือจะล้างแค้นให้เผ่าตัวเอง
ริปโป้กระแอมให้หันไปมอง
“ถึงจะไม่ได้ห้ามไว้ แต่ที่นี่ก็เป็นพื้นที่ของกรรมการที่ต้องเฝ้าดูผู้เข้าสอบ ออกไปซะจะดีกว่— โอ๊ะ ไม่สิ เดี๋ยวฉันส่งเธอไปเอง”
เขาเหลือบมองมุมหน้าจอนึงที่ขึ้นภาพบางอย่าง ตัวอันตรายไปอยู่กับตัวอันตรายบางทีก็เหมาะสมกันดี
มือกดปุ่มใกล้ตัวปี๊บ
♚
ร่างสูงใหญ่กำลังก้าวเท้าลงจากบันไดโดยไร้เพื่อนร่วมทาง แสงไฟส่องทางริบหรี่จนทำให้บรรยากาศมืดสลัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด
บันไดขั้นสุดท้ายกำลังใกล้เข้ามา
และในตอนนั้นเอง—
บางอย่างก็หล่นลงมากระแทกหัวเขาดังผั้วะ!
“!?”
จากที่กำลังเดินอย่างสง่าผ่าเผย กลายเป็นหน้าคว่ำตกบันไดโป๊ก ๆ ไม่ต่างจากนายแบบตกเวที สิ่งที่หล่นลงมาเองก็ม้วนกลิ้งไม่ต่างกัน และเพราะบันไดมันแคบ เลยพากันกลิ้งตกลงมาอย่างอิรุงตุงนัง
จนกระทั่งถึงบันไดล่างสุด เขาลืมตาโพล่งขณะคีบไพ่ใบนึงออกมาเตรียมไว้ บางทีนี่คงเป็นกับดั…
“…”
ตาสีแดงเลือดแซมเสี้ยวอำพันสว่างวาบในระยะประชิด กะพริบปริบราวกับกำลังประเมินว่าไอ้นิ่ม ๆ ที่เธอกำลังนอนคว่ำเอาตัวพาดอยู่นี่มันคืออะไร
ลมหายใจของบางอย่างที่น่าจะเป็นคนกระแทกเข้าหน้า มือที่สวมถุงมือหนังครึ่งมือเลยจับ ๆ แปะ ๆ ตรวจสอบดู
“ขึ้นมาอีกนิดนิ้วเธอจะแยงเข้าจมูกฉันละนะ♥️”
“อ้อ…”
รู้เลยว่าใคร
จากที่นอนทับกันเป็นตัวกากบาทก็พากันลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล คุเรฮะเช็ดฝุ่นที่เปื้อนแก้ม ไม่นึกว่าปุ่มที่กรรมการกดจะเป็นประตูลัดร่วงมาทับโจ๊กเกอร์คนนี้ได้
ใครว่าชายหญิงหล่นทับกันจะปากจุ๊บปากดูโรแมนติก นี่หล่นมาทีลิ้นปี่อัดเข้ากลางกระหม่อมคนตัวสูงเต็ม ๆ แถมยังหน้าคว่ำจะกระแทกเข้าขั้นบันไดเป็นคนแรกอีกต่างหาก ดีซี่โครงไม่ร้าว
จุกไม่ใช่น้อย
“แหม ไม่นึกเลยนะว่าจะมาเจอกันที่นี่~♦️” ฮิโซกะปัดฝุ่นที่ตัว เข้าใจว่าทางที่หล่นมาเป็นทางลัดอีกกลไกของหอคอย เธอยังไม่ทันได้อ้าปากเอ่ยอะไร ด้านหน้าทางเดินก็มีคนโผล่ออกมา
“ฉันรอแกอยู่นานแล้ว ฮิโซกะ”
เจ้าของชื่อเอียงคอเหมือนงงงัน ส่วนเด็กสาวข้างกายก็ปัดฝุ่นไม่สนใจ มีเหลือบมองบ้างแต่ก็แค่แป๊บเดียว
บุคคลผู้มีรอยแผลเก่าของการถูกฟันบนใบหน้ายิ้มเหี้ยม มือหยิบดาบยาวงอโง้งมาโชว์สองเล่ม
“ปีนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะสอบผ่านหรอก ตั้งแต่ปีที่แล้วฉันก็คิดหาทางฆ่าแกมาตลอด ความแค้นของแผลนี้… วันนี้แหละ ฉันจะล้างมันซะ!!”
“ปีที่แล้วนายสร้างคู่แค้นไว้กี่คนเนี่ย” คุเรฮะเอ่ยอย่างไม่จริงจัง ส่วนคนถูกกล่าวหาก็ไหวไหล่ยิ้มแย้ม มือเอื้อมมาตบ ๆ ฝุ่นออกจากหัวให้จนหน้าสั่นเหมือนจงใจแกล้ง
แล้วก็หันไปทำหน้าตาเหลอหลาใส่คู่ต่างข้าม “เฮอะ ท่าทางไม่ได้ก้าวหน้าขึ้นเลยนี่หว่า♣️”
“หึหึ ของจริงมันต่อจากนี้ต่างหากล่ะ!”
ว่าแล้วก็โยนดาบโง้งอีกสองเล่มขึ้น จากนั้นก็หมุนดาบสั่งทำพิเศษจนเหมือนบูมเมอแรงคมกริบปาเข้าใส่ทันที!
ในขณะเดียวกัน คนถูกตบหัวแกล้งจนหน้าสั่นมุ่นคิ้วไม่ชอบใจ มือเล็กแปะเข้ากลางแผ่นหลังกว้าง ไม่แรงแต่ก็ไม่เบา ฮิโซกะชะงักเมื่อสัมผัสได้ว่าเดจาวูกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง—
ฉั้วะ!
จู่ ๆ ก็หายตัวมาโผล่กลางดงมีดบิน กลายเป็นพลาดท่าโดนเฉือนเนื้อที่ไหล่กับสีข้าง ตัวตลกหนุ่มตั้งสติได้หลังจากหลบมีดคู่ที่พุ่งเข้าใส่จากด้านหลัง
มือชี้หน้าตัวต้นเหตุ เด็กน้อยกอดอกมองเฉยเมย
“เดี๋ยวเถอะ♠️” เขาคาดโทษ
และหลังจากจัดการคู่แค้นได้ง่ายดายเหมือนปอกกล้วย
หอคอยทริกซ์ทางเวอร์ก็มีเสียงดังตึงตังมาเป็นระยะ เสียงเหมือนคนกำลังวิ่งไล่จับ เสียงเหมือนคมมีดกระทบกัน และอีกหลายอย่างที่เหมือนจะรุนแรงจนผนังบางแห่งร้าวเป็นทางยาว
จนกระทั่งประตูชั้นล่างสุดของหอคอยเปิดออก
“หมายเลข 44 ฮิโซกะ และหมายเลข 45 คุเรฮะ สอบผ่านการสอบรอบสามเป็นสองคนแรกด้วย เวลา 6 ชั่วโมง 17 นาที !”
สภาพเหมือนไปคลุกฝุ่นกันมาอีกรอบ คุเรฮะเช็ดเลือดกำเดาหน้าตาย ส่วนฮิโซกะปาดรอยเลือดตรงมุมปากยิ้ม ๆ ก่อนจะแยกกันไปนั่งที่ใครที่มัน
เหมือนคู่ชกมวยพักยกขอเวลานอกอย่างไรอย่างนั้น
__________C H E C K M A T E__________
ช่วงนี้หายยาวเพราะเอาเวลาไปพับเหรียญโปรยทานให้งานบวชญาติที่กำลังใกล้เข้ามาค่ะ ล่าสุดทำเสร็จหมดแล้ว กำลังจะชูแขนร้องเย้
…แม่เอาชุดใหม่มาวางแหมะบนโต๊ะพร้อมรอยยิ้ม
แม่คะ ლ(ಥヮಥლ)
ความคิดเห็น