ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 8 | หอคอยทริกซ์ทาวเวอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.69K
      922
      26 มี.ค. 63


    Chapter 8



    “ฉันขอยอมแพ้”

    คำพูดสั้น ๆ ดังมาจากเด็กชายผมเงิน คิรัวร์หยิบเสื้อนอกที่ถอดวางไว้ขึ้นมาพาดไหล่ ดวงตาเรียวรีจ้องเขม็งไปที่ประธานเนเทโล่อย่างหงุดหงิด

    ตาแก่นั่นท้าพวกเขาให้มาเล่นชิงบอลแก้เซ็ง โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าแตะบอลได้จะได้เป็นฮันเตอร์โดยไม่ต้องส อบ ข้อเสนอนี้เตะตาเขา กับอีกอย่าง…

    อนิตา หมายเลข 111 ที่ลักลอบขึ้นเรือมาเพื่อฆ่าเขา แก้แค้นให้กับพ่อที่ถูกฆ่าจากคนบ้านโซลดิ๊กจะถูกละเว้นโทษที่ห้ามมาสอบฮันเตอร์ไปตลอดชีวิต ...ข้อเสนอนี้แน่นอนว่าต้องเข้าตากอร์น

    “อ้าว ทำไมล่ะ? เมื่อกี้ก็จวนจะแตะบอลได้แล้วนี่” กอร์นที่เหงื่อโชกตัวร้องถาม ต่างจากตาแก่ที่ไม่เหนื่อยเลยสักแอะ

    “เฮ้อ... นายเนี่ยไม่รู้อะไรซะเลย” เขาถอนหายใจ “ตาแก่นั่นไม่ได้ใช้มือขวากับเท้าซ้ายเลยนะ แบบนี้ไล่ตามทั้งปีก็ไม่มีทางแตะบอลได้หรอก!”

    “ว๊า ความแตกซะแล้วสิ”

    เนเทโล่หมุนบอลบนนิ้วชี้พลางยิ้มขบขัน นั่นทำให้คิรัวร์ชักจะอยากตั้นหน้าเหลอหลานั่นเข้าสักทีสองที ก่อนจะชะงักเมื่อกอร์นขอเล่นต่อ— เพียงเพราะอยากให้ตาแก่นั่นใช้มือขวากับเท้าซ้ายซะงั้น

    “ตามใจนายละกัน”

    เขาทำหน้าเซ็งก่อนจะเดินไปทางประตูทางออก ร่างของหญิงสาวมัดผมแกละที่ถูกบอดี้การ์ดคุมตัวอยู่ อนิตาจ้องมองเขาด้วยแววตาเคียดแค้น

    เหอะ…

    “นี่ ตาแก่” เขาร้องทักก่อนจะก้าวเท้าออกไป

    “ว่างาย”

    “ก่อนหน้านี้เห็นรู้จักกับคุเรฮะ ...ยัยนั่นเคยเล่นชิงบอลแบบนี้ด้วยรึเปล่า?”

    “อ้อ เคยสิ” เนเทโล่มองเขาเหมือนรู้ทันความคิด เด็กชายก้มหน้าลงจนมองไม่เห็นสีหน้า มือที่จับเสื้อนอกอยู่กำแน่นขึ้นเมื่อตาแก่เอ่ยต่อ

    “และแย่งบอลได้ด้วย”


    คิรัวร์ยืนนิ่งอยู่ริมระเบียงทางเดินหลังจากเพิ่งซัดผู้เข้าสอบคนอื่นคลายความหงุดหงิดในใจไป ดวงตามองท้องฟ้าตอนกลางคืนผ่านกระจกใส

    ถ้าเขายังเล่นชิงบอลต่อละก็… ต่อให้ต้องฆ่าคนเขาก็ต้องแย่งบอลมาให้ได้แน่ ๆ

    “ว่าแล้วเชียว นายนั่นแหละที่ฆ่าพ่อฉัน คิรัวร์ โซลดิ๊ก!” อนิตาที่หลบบอดี้การ์ดมาได้ประกาศกร้าว

    ตอนแรกก็ลังเลที่เห็นคิรัวร์เข้าชิงบอลที่มีเงื่อนไขช่วยเธอ แต่พอเห็นร่างของผู้เข้าสอบที่นอนแน่นิ่งมีบาดแผลอยู่ข้างเท้าทายาทมือสังหารโซลดิ๊ก เธอก็ไม่คิดจะอ่อนข้อให้อีกต่อไป!


    “เตรียมตัวตายซะเถอะ!!”


    ในขณะเดียวกัน

    ร่างสมส่วนในชุดสูทขาสั้นก็กำลังเคลื่อนตัวมาตามทางเดิน

    เธอใช้เวลาถามไถ่เรื่องงานกับพ่อนานพอสมควร ก็เล่นมัดมือชกให้มาสอบกะทันหัน งานที่ควรจะเป็นของเธอเลยถูกปัดไปให้คนอื่นรับผิดชอบแทนซะนี่

    ถ้าไม่ได้มาสอบคงถูกใจอยู่ คิดว่าจะได้มีเวลานอนเยอะขึ้นอะไรแบบนี้

    ก็ยังไม่พ้นเรื่องนอนอยู่ดี

    “หืม?”

    หูสองข้างกระดิกฟัง

    เสียงที่อยู่ได้ยินห่างออกไปไม่กี่เมตรคือเสียงของลมและเสื้อผ้าที่เสียดสี หนึ่งในนั้นกำลังหอบหายใจแรงราวกับกำลังฟาดฟันอะไรสักอย่าง ส่วนอีกคน …เดาได้ไม่ยากเลยว่าต้องเป็นคิรัวร์

    ฝีเท้าเบา แถมยังหลบหลีกไวสมกับเป็นคนจากตระกูลนักฆ่า คนที่โดดเด่นเรื่องนี้ในหมู่ผู้เข้าสอบนอกจากเธอแล้วก็มีคิรัวร์นี่แหละ

    “เมื่อกี้ก็มีโอกาสแล้ว ทำไมนายถึงไม่ฆ่าฉันล่ะ!?” เสียงของหญิงสาวตะโกนกร้าว คุเรฮะเดินเข้าไปใกล้โดยอาศัยมุมอับของความมืดในยามราตรี

    นัยน์ตาสีผสมหรี่ลงมองภาพตรงหน้า

    คิรัวร์เมินคำพูดด่าทอ มองผ่านกระจกวิวไปยังดาดฟ้ากว้างของเรือเหาะ ตรงนั้นมีประธานเนเทโร่กับกอร์นที่กำลังชิงบอลกันอยู่ โดยเด็กชายผมดำตั้งเริ่มหยิบเบ็ดตกปลาเข้ามาช่วย

    คนในมุมมืดที่ผ่านการแข่งนั้นมาแล้วร้องอ้อในใจ หัวเริ่มประติดประติดเรื่องราวที่เธอไม่ได้อยู่ดูเข้าด้วยกัน

    เด็กชายผมเงินละสายตาจากการแข่งตรงหน้า มองที่หญิงสาวผู้เคียดแค้นถึงขั้นยอมสู้แบบตัวตาย แต่ฝีมือและประสบการณ์ยังไม่ถึงขั้น

    “ดูซะสิ” เขาชี้กอร์นที่อยู่ด้านนอก “หมอนั่นกำลังสู้เพื่อช่วยเธออยู่นะ!”

    แล้วจะให้เขาฆ่าคนที่กอร์นกำลังช่วยอยู่น่ะเหรอ? หมอนั่นต้องโกรธเขาแน่

    “ฉันก็ไม่ได้ขอให้ช่วยนี่! มาสู้กันเดี๋ยวนี้นะไอ้คนสารเล—”


    ปึก!

    สันมือแข็ง ๆ ซัดท้ายทอยเข้าให้


    “คุเรฮะ!”

    คิรัวร์ตาโต มองร่างของอนิตาที่ร่วงผล็อยไปนอนนิ่งกับพื้นโดยไม่ทันกะพริบตา ส่วนคนที่เข้ามาแทรกกลางคันก็ปัดฝุ่นออกจากมือด้วยสีหน้าเฉยเมย

    “เห็นแล้วรำคาญแทนน่ะ”

    ขาก้าวข้ามร่างที่สลบมายืนข้างกัน

    คิรัวร์มองร่างที่นอนคว่ำหน้าสลบไหลกลางทางเดิน แล้วค่อย ๆ เลื่อนมามองคุเรฮะ เจ้าตัวยกมือขึ้นกอดอก ดวงตาจับจ้องไปที่กอร์นและตาแก่ที่กำลังแข่งกันอย่างไม่มีใครยอมใคร


    “นี่”

    นัยน์ตาคมเหลือบมองด้านข้าง บอกเป็นนัยว่าฟังอยู่

    “เธอเคยหนีออกจากบ้านไหมคุเรฮะ?”

    “ไม่เคย”

    “ไม่ต้องเดาก็รู้ นอนทั้งวันใช่ไหมถ้าไม่มีงาน”

    “พูดอีกก็ถูกอีก”


    คิรัวร์อยากจะลูบหน้าอย่างหมดคำพูด ไม่ปฏิเสธสักคำเลยแม่คู๊ณ…

    จริง ๆ แล้วเขาตอนเด็กเคยมองคราวน์เป็นไอดอลด้วยซ้ำ พูดให้ถูกคือตระกูลมือสังหารแทบทั้งหมดอยากจะก้าวไปให้ถึงจุดเดียวกันกับตระกูลนี้บ้าง แต่ก็แทบไม่มีใครทำได้

    ส่วนนึงที่เขาชอบดึงให้คุเรฮะตามมาด้วยกัน… ยอมรับตรง ๆ ว่าเขาแอบตื่นเต้นในใจที่ได้เจอกับคราวน์ ถึงเขาจะไม่อยากเป็นนักฆ่าของบ้าน แต่ก็ใช่จะไม่มีต้นแบบนักฆ่าในดวงใจซะหน่อย

    แต่พออยู่ด้วยกันไปสักพัก กลับรู้สึกว่าภาพฝันที่วาดไว้นั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีน

    ไม่เข้าใจเลยครับ ทำไมคราวน์ที่เขาเจอต้องอินดี้ชนิดที่หลับได้ทุกสถานการณ์ (โดยเฉพาะตอนเช้า) แบบนี้วะเนี่ย…!

    “เธอนี่นะ…” เขาลากเสียงยาว นึกสงสัยอีกอย่าง “ทำไมคนที่อยู่ในตระกูลที่ฆ่าพวกเดียวกันเองได้อย่างเธอ— ถึงยังเฉยเมยเหมือนไม่สนอะไรอยู่ได้กัน?”

    เป็นถึงว่าที่ผู้สืบทอดเหมือนกันแท้ ๆ

    แต่ในขณะที่เขาหาทางหนีออกจากกรงของครอบครัว คุเรฮะกลับเต็มใจที่จะอยู่กรอบไร้อิสระนั่น ไม่สนใจอะไรเลยเพียงเพราะอยากจะนอน

    เขาเอ่ยเสียงแผ่วโดยไม่รู้ตัว “ทำไมพวกเราถึงแตกต่างกันขนาดนี้นะ…”

    “คำตอบมันก็อยู่ในคำถามอยู่แล้วนี่”

    กึก

    คำพูดสั้น ๆ ทำให้รูม่านตาของคิรัวร์ขยายขึ้น ยิ่งคนข้างกายหันหน้ามาสบตา ยิ่งทำให้ลมหายใจสะดุด เขายกนิ้วขึ้นมาถูจมูกอย่างทำตัวไม่ถูก



    นั่นสินะ

    ก็พวกเราไม่เหมือนกันนี่นา



    ภาพของกอร์นที่วิ่งไล่ต้อนชายแก่ยังคงอยู่ในกรอบสายตา สุดท้ายความดื้อรั้นที่มุ่งมั่นของเด็กชายก็ประสบผลสำเร็จ กอร์นทำให้ประธานเนเทโล่ยอมใช้มือขวากับเท้าซ้ายในช่วงสุดท้ายของการไล่จับบอลเข้าจนได้

    คุราปิก้ากับเลโอลีโอที่ดูการแข่งอยู่คนละฝั่งมุ่งเข้าไปถามไถ่อาการเหนื่อย มือสังหารต่างตระกูลสองคนมองภาพตรงหน้าจากในตัวเรือเหาะ

    “คำถามสุดท้าย เธอเคยทำอะไรตามใจตัวเองบ้างมะ?” ถึงจะเป็นนักฆ่าเหมือนกัน แต่เขาก็อยากรู้อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ จากทางฝั่งคลาวน์บ้างอยู่ดี ยิ่งทางนั้นเป็นผู้สืบทอดยิ่งแล้วใหญ่

    เคยสิ”

    คุเรฮะตอบหน้าตาย

    “เคยเผาบ็อกเซอร์พ่อเพราะพ่อให้ทำงานตอนกลางวัน”


    “เอ๊า มีพาดพิง” คนถูกกล่าวถึงบ่นอุบอิบ



    “ที่นี่คือหอคอยทริกซ์ทาวเวอร์ เป็นสนามสอบรอบที่สาม” คนชี้แจงยังคงเป็นบีนส์ เจ้าตัวยืนประกาศออกไมค์อยู่บนเรือเหาะ

    ผู้เข้าสอบทุกคนถูกนำมาปล่อยลงบนหอคอยสูง นอกจากพื้นเรียบกึ่งขรุขระเป็นช่องให้เหยียบแล้ว ก็ไม่มีทางลงหรือทางขึ้นให้แต่อย่างใด

    “ภายใน 72 ชั่วโมง ขอให้ทุกคนพยายามรอดชีวิตและหาทางลงไปข้างล่างให้ได้นะครับ!”

    มีเวลาทั้งหมด 3 วัน

    ร่างของเด็กสาวโงนเงนไปมา อาการง่วงเข้าแทรกทันทีที่แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเข้าตา คิรัวร์กับกอร์นยืนหนีบไว้คนละข้างเผื่อมีคนวูบแล้วหน้าหงายอีกรอบ

    คุราปิก้ามองลงไปด้านล่าง หอคอยแห่งนี้เป็นเหมือนอาคารปิดทึบที่ไม่มีทางออก …แล้วจะลงไปได้ยังไงกัน?

    “ด้านข้างมีแต่กำแพง ไม่มีหน้าต่างสักบาน ปีนลงไปจากนี่ก็เท่ากับฆ่าตัวตายชัด ๆ” เลโอลีโอออกความเห็น

    แน่นอนว่ามีคนที่คิดปีนลงไปเดี่ยว ๆ เนื่องจากมั่นใจในฝีมือการปีนเขาของตัวเอง สุดท้ายก็โดนนกยักษ์หน้าคนบินมาฉีกทึ้งร่างกินกลางอากาศ

    คุเรฮะปรือตาขึ้นเล็กน้อย

    เธอน่ะโดดลงไปถึงข้างล่างในเวลาแป๊บเดียวได้สบายมาก แต่ดูจากตัวอย่างที่เพิ่งเกิด แสดงว่าพวกกรรมการกำลังบังคับให้ทุกคนต้องลงไปข้างล่างผ่านหอคอยแห่งนี้ได้แค่ทางเดียวเท่านั้น

    เท้าก้าวออกไปด้านหน้าให้พวกเด็กชายมองตาม เดินวนอยู่สองสามรอบไม่ไกลแล้วหยุดนิ่ง มือยกขึ้นเท้าเอวแล้วมองตรงไปยังคนสี่คน

    “เจอแล้ว”

    "?" ทุกคนทำหน้างงแล้วมองหน้ากัน

    เท้าข้างนึงเหยียบประตูกล เอาแรงกดเล็กน้อยให้รู้ว่านี่คือทางเข้าหอคอย พวกกอร์นทำตาโตด้วยความคาดไม่ถึงและตื่นตาตื่นใจ

    “เป็นทางลง …ที่ลงได้แค่ครั้งเดียวสินะ” แถมลงได้แค่คนเดียวด้วย

    คุเรฮะพยักหน้าให้คนชนเผ่าคูลท์ที่วิเคราะห์ได้รวดเร็ว “นอกจากตรงนี้ยังมีประตูกลอีกห้าบานใกล้ ๆ …เลือกเองละกันว่าใครจะไปบานไหน”

    กอร์นยิ้มร่าแล้วพากันเป่ายิ้งฉุบเลือกบานประตูกัน ยกเว้นคุเรฮะที่กระดิกเท้ายิก ๆ บ่งบอกว่าเธอจะลงตรงนี้ก่อนใคร

    “ดูเหมือนว่าเราจะต้องลากันตรงนี้แล้วนะ” คุราปิก้าเอ่ยพลางยิ้มบาง พวกกอร์นก็ล่ำลากันพอเป็นพิธี ที่แน่ ๆ หวังให้รอดไปจนถึงข้างล่างได้หมดทุกคน

    “เอาล่ะนะ” กอร์นสูดอากาศเข้าปอด นับถอยหลัง “หนึ่ง!”

    “สอง!”

    คุเรฮะยกมือขึ้นปิดปากหาว— “สาม!”

    ตึง!!

    ประตูกลปิดสนิทส่งผลให้รอบด้านเต็มไปด้วยความมืด แต่ไม่นานนักก็มีแสงสว่างส่องออกมาจากหลอดไฟด้านบน รอบด้านเป็นผนังสี่ด้าน ห้องปิดทึบที่ไร้ทางออกหากไม่ทำตามเงื่อนไขให้ผ่าน

    ด้านหน้ามีส่วนนึงของผนังยื่นออกมา นาฬิกาสีเงินถูกวางไว้ตรงนั้นเรือนนึง เธอเดินไปหยิบขึ้นมาสวม มันคือนาฬิกานับเวลาถอยหลัง

    เหลือเวลาอีก 71 ชั่วโมง 25 นาที

    “ไม่ได้มีคราวน์สายหลักมาสอบฮันเตอร์นานแล้วนะเนี่ย” เสียงของกรรมการคนใหม่ดังออกมาจากลำโพงข้างผนัง “พยายามเข้าล่ะหนูน้อย หลายเส้นทางของเธอมีเซอร์ไพรส์สนุก ๆ รออยู่”

    นัยน์ตาคมชำเลืองมองกล้องวงจรปิดด้านบน จิตสังหารแผ่ออกจนคนที่มองอยู่ห่าง ๆ ยังเผลอเสียวสันหลัง

    “แยกกันแบบนี้คงช่วยอะไรไม่ได้”

    น้ำเสียงเรียบเฉยเปรยถึงกอร์น เกมคุ้มครองคนบนหน้ากระดาน การที่คิงกับม้าอยู่ห่างกันก็ไม่ต่างจากการเปิดช่องให้ศัตรูไล่เก็บ

    3 ใน 4 ส่วน --- เธอมั่นใจว่าในการสอบนี้มีคราวน์คนอื่นปะปนอยู่ด้วย แต่ไม่ใช่สายตระกูลหลักกับสายตระกูลรองแน่นอน

    เสียงของผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ “แต่ถึงอย่างนั้นเกมนี้ก็ยังดำเนินต่อไปอยู่ดี”

    ประตูเหล็กด้านข้างเลื่อนออก คุเรฮะจัดนาฬิกาให้เข้าที่พลางเริ่มก้าวเท้าออกไป


    ริปโป้ กรรมการคุมสอบรอบสามหยิบคุกกี้ในจานเข้าปาก เบื้องหน้าคือจอมอนิเตอร์หลายร้อยเครื่อง แสดงภาพของผู้เข้าสอบในด่านต่าง ๆ ของหอคอยหลายร้อยกลไกแห่งนี้หลังจากผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงกว่า

    ปีนี้มีผู้เข้าสอบน่าสนใจเยอะไม่เบา ดีจริง ๆ ที่อาสามาคุมสอบปีนี้ ทั้งเจ้ากลุ่มที่ต้องสามัคคีกัน 5 คน ทั้งเจ้านักมายากร ทั้งเจ้ามนุษย์เข็ม และ—

    “!!”

    เสียงบางอย่างที่ดังแทรกเข้ามาในกล้องถี่รัวเรียกความสนใจ เจ้าของผมทรงพั้งค์หงอนไก่หยุดปากที่กำลังกินขนมขบเคี้ยวลง “ยัยเด็กคราวน์นั่น—”

    กร๊อบ

    เสียงดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ฟังดูหนักแน่นกว่า และยาวนานกว่า ชายหนุ่มรีบกดปุ่มบางอย่างบนแผงควบคุม ภาพของเด็กสาวตาสีผสมถูกเลื่อนขึ้นจอใหญ่ และนั่นทำให้บรรดานักโทษที่ดูภาพอยู่ด้านหลังเขาพากันเบือนหน้าหนี

    เจ้าของหอคอยทริกซ์ทาวเวอร์หลุดหน้าซีดออกมาแวบนึง แต่ก็กลับมาเป็นปกติได้สมกับเป็นฮันเตอร์มืออาชีพ

    “คราวน์นี่มันคราวน์จริง ๆ” เขาบ่นอย่างอดไม่ได้ “ท่านประธานนึกยังไงถึงยื่นคำร้องให้คนตระกูลนี้หนุนหลังให้กับสมาคมกัน….”


    กร๊อบ

    ซากศพของนักโทษคดีอุกฉกรรจ์เกือบร้อยคนทับถมกันเป็นกองสูง— ไม่สิ พูดให้ถูกคือถูกอัดเข้าด้วยกันจนร่างกายแหลกเละ เด็กสาวผู้เดินเข้ามาในด่านนี้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด ปลายรองเท้าหนังสะบัดคราบเลือดออกอย่างไม่ไยดี

    …เป็นภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดที่ถูกสร้างสรรค์จากจิตรกร แต่ในขณะเดียวกันก็ชวนให้ผวาและหวาดกลัวต่อความโหดร้ายนั่น…


    เป็นความสามารถเน็นงั้นสิ

    “เดี๋ยวก่อนนะ”

    ริปโป้ขมวดคิ้ว “ยัยเด็กนั่นหายไปไหนแล้ว?”

    หมายเลข 45 หายไปจากหน้าจอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ชัด แม้จะควบคุมให้กล้องหลายตัวส่ายหาไปมาก็ยังหาไม่เจอ แต่สักพักเขาก็เลิกให้ความสนใจ

    “เฮอะ คงพลาดตกลงไปในกับดักสักที่มั้ง เดี๋ยวก็โผล่มาให้เห็นเองแหละ” ก็หอคอยนี้มีกับดักซ่อนอยู่เยอะจะตายไป

    ดวงตากลมเล็กหันไปมองเจ้ากลุ่มที่ต้องสามัคคีกันต่อ มือกดให้ขึ้นจอใหญ่ ดูเหมือนตอนนี้กำลังเป็นการต่อสู้ระหว่างหมายเลข 404 กับนักโทษคดีต้มตุ๋นมาจิทานิพอดี

    มือหยิบโดนัทช็อกโกแลตขึ้นมากัดคำนึง การต่อสู้ของเด็กหนุ่มผมทองจบลงด้วยการซัดนักโทษลงไปนอนแบ็บ แล้วตัวเองกลับเข้าที่โดยที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะที่แน่ชัด

    เสียงของหมายเลข 403 เลโอลีโอดังขึ้นมา


    “เฮ้ คุราปิก้า ช่วยส่งไอ้เดนตายนั่นให้พ้น ๆ ซะทีสิ!”

    “ขอปฏิเสธ”


    การดูคนแตกคอกันเป็นเรื่องน่าขบขันอย่างที่สุด ยิ่งเป็นทีมที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อฝ่าด่านต่าง ๆ ยิ่งแล้วใหญ่ ตอนนี้กลายเป็นว่าคนผมทองสั้นที่ไม่ยอมฆ่านักโทษไปให้จบ ๆ จะกลายเป็นประเด็นแตกคอหลายเสียงซะแล้ว

    “ถ้านายไม่ฆ่าเอง ฉันฆ่าให้เอามะ?” คราวนี้เสียงของเจ้าเด็กผมขาวเป็นคนพูด ในจอฉายภาพเด็กนั่นกำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงถามคนที่นั่งกอดเข่า “ไม่เคยฆ่าคนมาก่อนใช่ไหมล่ะ กลัวรึไง?”

    “ฉันไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้น แล้วนี่ก็เป็นการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง ไม่ต้องการให้ใครยื่นมือมาเกี่ยว”

    เสียงเรียบนิ่งแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลัง


    “ตัวถ่วงจริง ๆ”


    “นี่เธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง!?”

    กรรมการหันมาร้องตกใจด้วยใบหน้าคาดไม่ถึง

    เด็กสาวผมหางม้ายืนอยู่ด้านหลังห่างออกไปไม่กี่เมตร ที่เขาจับสัมผัสไม่ได้ก็เพราะเด็กนั่นใช้เซ็ทสึเข้ามาตั้งแต่แรก— นักโทษที่คุมประตูอยู่ด้านหลังยืนปากสั่นตัวสั่นกันใหญ่

    ริปโป้ชักจะมั่นใจแล้วสิว่าคราวน์คนนี้ควรจับตาดูอย่างที่หลายคนเตือนเอาไว้ เผลอแป๊บเดียวลอบเข้ามาในห้องควบคุมของหอคอยได้ แถมยังข่มขู่ทางสายตาจนนักโทษของเขาหัวหดกันอีก!

    “เดินเข้ามาค่ะ และคุณไม่ได้สั่งห้ามไว้ว่าถ้าเข้ามาถึงที่นี่จะต้องถูกปรับตกด้วย”

    เธอพูดดักทาง เอียงคอเล็กน้อย จับจ้องไปที่ภาพบนจอใหญ่ด้วยสายตาว่างเปล่า

    เพราะอยากจะมั่นใจว่ากอร์นจะรอดไปถึงด้านล่าง เธอเลยหาทางเข้ามาในห้องควบคุมผ่านทางสายไฟกล้องวงจรปิด ใช้หูลอบฟังเสียงการเคลื่อนตัวของประตูกลในกำแพงไปเรื่อย ๆ จนเข้ามาถึงที่นี่ได้ในเวลาไม่นาน

    พอเห็นกอร์นอยู่กับกลุ่มเดิมก็พอวางใจ ยังไงซะ คิรัวร์ก็คงไม่อยากให้เด็กผมตั้งนั่นตายก่อนใครแน่ ๆ

    อีกอย่าง… ตอนแรกที่เห็นนึกว่าทอมป้าจะทำให้ทั้งทีมสอบตก แต่พอดูไปดูมาน่าจะเป็นคนชนเผ่าคูลท์แทนซะงั้น เรื่องส่วนรวมที่มีผลต่อคนทั้งทีม เจ้าตัวกลับอ้างความตั้งใจส่วนตนขึ้นมา

    ไร้สาระ …คนแบบนี้น่ะหรือจะล้างแค้นให้เผ่าตัวเอง

    ริปโป้กระแอมให้หันไปมอง

    “ถึงจะไม่ได้ห้ามไว้ แต่ที่นี่ก็เป็นพื้นที่ของกรรมการที่ต้องเฝ้าดูผู้เข้าสอบ ออกไปซะจะดีกว่— โอ๊ะ ไม่สิ เดี๋ยวฉันส่งเธอไปเอง”

    เขาเหลือบมองมุมหน้าจอนึงที่ขึ้นภาพบางอย่าง ตัวอันตรายไปอยู่กับตัวอันตรายบางทีก็เหมาะสมกันดี

    มือกดปุ่มใกล้ตัวปี๊บ



    ร่างสูงใหญ่กำลังก้าวเท้าลงจากบันไดโดยไร้เพื่อนร่วมทาง แสงไฟส่องทางริบหรี่จนทำให้บรรยากาศมืดสลัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด

    บันไดขั้นสุดท้ายกำลังใกล้เข้ามา

    และในตอนนั้นเอง—

    บางอย่างก็หล่นลงมากระแทกหัวเขาดังผั้วะ!

    “!?”

    จากที่กำลังเดินอย่างสง่าผ่าเผย กลายเป็นหน้าคว่ำตกบันไดโป๊ก ๆ ไม่ต่างจากนายแบบตกเวที สิ่งที่หล่นลงมาเองก็ม้วนกลิ้งไม่ต่างกัน และเพราะบันไดมันแคบ เลยพากันกลิ้งตกลงมาอย่างอิรุงตุงนัง

    จนกระทั่งถึงบันไดล่างสุด เขาลืมตาโพล่งขณะคีบไพ่ใบนึงออกมาเตรียมไว้ บางทีนี่คงเป็นกับดั…

    “…”

    ตาสีแดงเลือดแซมเสี้ยวอำพันสว่างวาบในระยะประชิด กะพริบปริบราวกับกำลังประเมินว่าไอ้นิ่ม ๆ ที่เธอกำลังนอนคว่ำเอาตัวพาดอยู่นี่มันคืออะไร

    ลมหายใจของบางอย่างที่น่าจะเป็นคนกระแทกเข้าหน้า มือที่สวมถุงมือหนังครึ่งมือเลยจับ ๆ แปะ ๆ ตรวจสอบดู


    “ขึ้นมาอีกนิดนิ้วเธอจะแยงเข้าจมูกฉันละนะ♥️”

    “อ้อ…”


    รู้เลยว่าใคร

    จากที่นอนทับกันเป็นตัวกากบาทก็พากันลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล คุเรฮะเช็ดฝุ่นที่เปื้อนแก้ม ไม่นึกว่าปุ่มที่กรรมการกดจะเป็นประตูลัดร่วงมาทับโจ๊กเกอร์คนนี้ได้

    ใครว่าชายหญิงหล่นทับกันจะปากจุ๊บปากดูโรแมนติก นี่หล่นมาทีลิ้นปี่อัดเข้ากลางกระหม่อมคนตัวสูงเต็ม ๆ แถมยังหน้าคว่ำจะกระแทกเข้าขั้นบันไดเป็นคนแรกอีกต่างหาก ดีซี่โครงไม่ร้าว

    จุกไม่ใช่น้อย

    “แหม ไม่นึกเลยนะว่าจะมาเจอกันที่นี่~♦️” ฮิโซกะปัดฝุ่นที่ตัว เข้าใจว่าทางที่หล่นมาเป็นทางลัดอีกกลไกของหอคอย เธอยังไม่ทันได้อ้าปากเอ่ยอะไร ด้านหน้าทางเดินก็มีคนโผล่ออกมา

    “ฉันรอแกอยู่นานแล้ว ฮิโซกะ”

    เจ้าของชื่อเอียงคอเหมือนงงงัน ส่วนเด็กสาวข้างกายก็ปัดฝุ่นไม่สนใจ มีเหลือบมองบ้างแต่ก็แค่แป๊บเดียว

    บุคคลผู้มีรอยแผลเก่าของการถูกฟันบนใบหน้ายิ้มเหี้ยม มือหยิบดาบยาวงอโง้งมาโชว์สองเล่ม

    “ปีนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะสอบผ่านหรอก ตั้งแต่ปีที่แล้วฉันก็คิดหาทางฆ่าแกมาตลอด ความแค้นของแผลนี้… วันนี้แหละ ฉันจะล้างมันซะ!!”

    “ปีที่แล้วนายสร้างคู่แค้นไว้กี่คนเนี่ย” คุเรฮะเอ่ยอย่างไม่จริงจัง ส่วนคนถูกกล่าวหาก็ไหวไหล่ยิ้มแย้ม มือเอื้อมมาตบ ๆ ฝุ่นออกจากหัวให้จนหน้าสั่นเหมือนจงใจแกล้ง

    แล้วก็หันไปทำหน้าตาเหลอหลาใส่คู่ต่างข้าม “เฮอะ ท่าทางไม่ได้ก้าวหน้าขึ้นเลยนี่หว่า♣️”

    “หึหึ ของจริงมันต่อจากนี้ต่างหากล่ะ!”

    ว่าแล้วก็โยนดาบโง้งอีกสองเล่มขึ้น จากนั้นก็หมุนดาบสั่งทำพิเศษจนเหมือนบูมเมอแรงคมกริบปาเข้าใส่ทันที!

    ในขณะเดียวกัน คนถูกตบหัวแกล้งจนหน้าสั่นมุ่นคิ้วไม่ชอบใจ มือเล็กแปะเข้ากลางแผ่นหลังกว้าง ไม่แรงแต่ก็ไม่เบา ฮิโซกะชะงักเมื่อสัมผัสได้ว่าเดจาวูกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง—

    ฉั้วะ!


    จู่ ๆ ก็หายตัวมาโผล่กลางดงมีดบิน กลายเป็นพลาดท่าโดนเฉือนเนื้อที่ไหล่กับสีข้าง ตัวตลกหนุ่มตั้งสติได้หลังจากหลบมีดคู่ที่พุ่งเข้าใส่จากด้านหลัง

    มือชี้หน้าตัวต้นเหตุ เด็กน้อยกอดอกมองเฉยเมย

    “เดี๋ยวเถอะ♠️” เขาคาดโทษ


    และหลังจากจัดการคู่แค้นได้ง่ายดายเหมือนปอกกล้วย

    หอคอยทริกซ์ทางเวอร์ก็มีเสียงดังตึงตังมาเป็นระยะ เสียงเหมือนคนกำลังวิ่งไล่จับ เสียงเหมือนคมมีดกระทบกัน และอีกหลายอย่างที่เหมือนจะรุนแรงจนผนังบางแห่งร้าวเป็นทางยาว

    จนกระทั่งประตูชั้นล่างสุดของหอคอยเปิดออก

    “หมายเลข 44 ฮิโซกะ และหมายเลข 45 คุเรฮะ สอบผ่านการสอบรอบสามเป็นสองคนแรกด้วย เวลา 6 ชั่วโมง 17 นาที !”

    สภาพเหมือนไปคลุกฝุ่นกันมาอีกรอบ คุเรฮะเช็ดเลือดกำเดาหน้าตาย ส่วนฮิโซกะปาดรอยเลือดตรงมุมปากยิ้ม ๆ ก่อนจะแยกกันไปนั่งที่ใครที่มัน


    เหมือนคู่ชกมวยพักยกขอเวลานอกอย่างไรอย่างนั้น


    __________C H E C K M A T E__________


    ช่วงนี้หายยาวเพราะเอาเวลาไปพับเหรียญโปรยทานให้งานบวชญาติที่กำลังใกล้เข้ามาค่ะ ล่าสุดทำเสร็จหมดแล้ว กำลังจะชูแขนร้องเย้

    แม่เอาชุดใหม่มาวางแหมะบนโต๊ะพร้อมรอยยิ้ม

     

    แม่คะ ()

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×