ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 11 | ล่าป้าย ล่าชีวิต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.07K
      784
      26 มี.ค. 63


    Chapter 11



    เกาะที่เคยตั้งอยู่จมหายไปกับน้ำ

    ดูเหมือนที่จะเป็นการสอบรอบโบนัส —ทั้งทิ้งผู้สมัครสอบเป็นสิบ ๆ คนไว้กลางเกาะร้าง ทั้งให้หาทางเอาตัวรอดจากพายุหมุนโดยมีแค่บันทึกเล่มนึงคอยชี้แนะ จะว่าเป็นการสอบที่พวกกรรมการแถมให้โดยไม่บอกล่วงหน้าก็ว่าได้

    ตอนนี้ทุกคนกำลังยืนรอฟังคำชี้แจงบนเรือลำใหญ่ พอเห็นตัวการเดินลงมาเจอเรือเหาะหน้าตาชื่นมืนก็พากันมองตาขุ่นใส่ปิ๊ด ๆ

    “เอาล่ะ” ริปโป้กระแอม รอยยิ้มสนุกปรากฏบนใบหน้า “ต่อไปก็เหลือแค่การสอบรอบสี่กับรอบสุดท้าย การสอบรอบที่สี่จะเริ่มขึ้นที่เกาะเซบิลซึ่งทางเราจะพาไปเอง แต่ว่าก่อนอื่น...จะขอจับฉลากกันก่อน”

    มือดีดนิ้วดังเป๊าะ ผู้ช่วยด้านหลังเข็นกล่องบางอย่างออกมา

    “เราจะตัดสินด้วยการจับสลาก”


    “เลือกผู้ล่ากับผู้ถูกล่า”


    ในกล่องมีสลากหมายเลขเท่ากับจำนวนคน เป็นหมายเลขของผู้เข้าสอบทุกคนที่เหลืออยู่

    ฮิโซกะถูกนับเป็นคนแรกที่ลงมาถึงชั้นล่างจึงได้สิทธิ์จับก่อน ตามด้วยคุเรฮะและคนต่อไปตามลำดับ เด็กสาวสวมชุดประจำตัวเรียบร้อย ตาปรือมองป้ายสี่เหลี่ยมที่ปรากฏหมายเลขสามหลักในมือ

    ริปโป้ยกมือค้ำกล่องข้าง ๆ ใบหน้าฉายแววเจ้าเล่ห์ขณะอธิบายให้ฟัง

    “ตอนนี้หมายเลขที่พวกคุณจับได้ถูกบันทึกไว้ในเครื่องเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นจะกำจัดสลากนั่นทิ้งก็ตามสบาย และผู้เข้าสอบเจ้าของหมายเลขที่จับได้ ก็คือผู้ถูกล่า”


    โดยป้ายของผู้ล่าและผู้ถูกล่ามีค่า 3 คะแนน

    ป้ายของคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมีค่า 1 คะแนน


    “ให้เวลาหนึ่งอาทิตย์ สนามสอบคือทุกพื้นที่บนเกาะ จะใช้วิธีการไหนก็ได้รวบรวมป้ายหมายเลขให้ได้ครบ 6 คะแนนจนกระทั่งเรือกลับมารับแค่นั้นก็สอบผ่านแล้ว”

    นี่มันไม่ต่างอะไรจากการเปิดกรงให้สัตว์ร้ายออกล่า ไร้กฎเกฑณ์ในการเอาตัวรอดและแย่งชิง

    คุเรฮะเลียริมฝีปาก เก็บป้ายเป้าหมายเข้ากระเป๋า

    แบบนี้สิ ค่อยน่าสนใจหน่อย


    การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว


    ผู้เข้าสอบหลายคนเก็บป้ายของตนเองใส่กระเป๋า หลบหน้าไม่พูดคุยกันแม้ก่อนหน้านี้จะเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย เป็นการสอบที่เล่นแง่กับความไว้วางใจซึ่งกันและกันอย่างโจ่งแจ้ง เพราะบางทีเป้าหมายของเพื่อนสนิทอาจจะเป็นตัวเองก็ได้ใครจะไปรู้

    นกนางนวลบินว่อนรอบเรือที่กำลังแล่นไปยังเกาะเซบิล คุเรฮะนอนซุกอยู่ใต้เงาของขอบเรือสูง ป้าย 45 ของตัวเองแปะอยู่บนอกเสื้อเด่นหรา กอร์นนั่งอยู่บนขอบเรือใกล้กัน ตากลมสีเปลือกไม้มองท้องฟ้ากว้างราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

    “เฮ้”

    คิรัวร์เดินเข้ามาหา นั่งยองๆ ลงตรงหน้าคนนอนกลางวัน มือบีบจมูกแกล้งอย่างอดไม่ไหว

    ดวงตาสีผสมปรือขึ้นมองคนก่อกวน

    (ไอ้หมอนี่มันเหงาอีกแล้วใช่ไหม…)

    “ได้เลขอะไรกัน?” เขาปล่อยมือออก ถามทั้งคนนอนและคนนั่ง

    กอร์นทำหน้าอิดออดเล็กน้อยแต่ก็พากันเล่นหนึ่งสองซ่ำเปิดป้ายพร้อมกัน ซึ่งคุเรฮะหลับตาควักป้ายเป้าหมายตัวเองมาโยนให้ตั้งแต่เลขหนึ่ง มันเกือบปลิวตกเรือถ้าคิรัวร์รับไว้ไม่ทัน

    ดูแล้วของเขากับคุเรฮะยังไม่เท่าไหร่ แต่กอร์นนี่สิ…

    “นายนี่ดวงจับสลากห่วยชะมัด” เขาบ่น

    เด็กชายผมตั้งหัวเราะ มือเก็บป้าย 44 ป้ายหมายเลขของตัวตลกฮิโซกะเข้ากระเป๋าตัวเอง “ฉันก็ว่างั้น” แล้วย้ายตูดมานั่งพิงขอบเรือข้างคนหลับอุตุ คิรัวร์นั่งข้างกันแล้วพูดจ้อไปเรื่อย

    “หลังจากเขาอธิบายกติกาก็ลอง ๆ หาเป้าหมายของฉันดู แต่ไม่เจอเลย จำไม่ได้ด้วยว่าใครหมายเลขอะไร พวกนั้นเล่นเอาป้ายยัดใส่กระเป๋ากันหมดเลย—”

    ปากหุบลงฉับเมื่อเห็นกอร์นไม่ได้ฟังเลยสักนิด

    เด็กชายตัวสั่นระริกแต่แววตากลับหมายมั่นอย่างไม่ยอมลงให้ใคร

    คุเรฮะลืมตาขึ้นมามองข้างนึง มองเจ้าของเบ็ดตกปลาที่กลัวการเผชิญหน้ากับตัวอันตรายนั่น— แต่ก็อยากลองลงมือทำไม่น้อยไปกว่ากัน เด็กชายที่มีอุดมการณ์ในการตามหาพ่อ ตัวหมากคิงที่ถูกเลือกในหน้ากระดานเกมเดิมพันของเธอกับคนในโทรศัพท์ที่เงียบหายไป

    ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กคนนี้น่าสนใจกว่าที่คิด


    เมื่อเรือใหญ่มาถึงเกาะเซบิลซึ่งเป็นสนามสอบ

    พิธีกรสาวก็เริ่มขานชื่อให้เดินเข้าเกาะไปทีละคน


    “ให้คนก่อนหน้าขึ้นไปก่อนสองนาที แล้วคนถัดไปค่อยขึ้นตามไปนะคะ ให้เวลาทั้งหมดหนึ่งสัปดาห์ ระหว่างนั้นรวบรวมป้ายมาให้ได้ 6 คะแนนแล้วกลับมาที่นี่นะคะ!”

    “คนที่ 1 เริ่มได้ค่ะ!”

    แผ่นหลังของนักมายากรเดินไกลห่างออกไป

    คุเรฮะขยี้ตาอย่างง่วงงุนต่างจากหลายคนด้านหลังที่คิ้วแทบผูกเป็นปม ไร้ท่าทีเคร่งเครียดอะไรกับการสอบรอบนี้เหมือนคนอื่น ๆ

    เครียดสุดคือนอนไม่พอนี่แหละ

    “คนที่ได้ไปก่อนยิ่งได้เปรียบสินะ” คุราปิก้าเอ่ยเบา ๆ ตามด้วยเลโอลีโอ

    “ใช่ จะได้ซ่อนตัวไว้ก่อน แล้วก็ค่อยติดตามการเคลื่อนไหวของเป้าหมายได้”

    ผีเสื้อสีแดงบินมาเกาะที่หัวไหล่ เป็นสายพันธุ์ที่วนเวียนอยู่กับกลิ่นเลือดสด ๆ เพื่อนำเลือดไปเลี้ยงตัวอ่อน เด็กสาวเหลือบมองสัตว์ตัวเล็กที่มีวงจรชีวิตแสนสั้นด้วยความแปลกใจ มันเกาะอยู่สักพักก่อนจะบินตามฮิโซกะเข้าไปในป่า

    คงตามกลิ่นเลือดที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าหมอนั่นมา

    แต่เธอไม่ได้เปื้อนเลือด


    ...แล้วมันมาเกาะเพราะอะไร?


    “คนที่ 2 เริ่มได้ค่ะ!”

    คุเรฮะสะบัดหัวเบา ๆ ไล่ความคิดเรื่อยเปื่อย ก่อนจะก้าวเท้าลงจากกระดานไม้ เดินเข้าสู่การสอบรอบที่สี่ตามหลังตัวอันตรายเข้าไปในป่าด้านหน้า

    อันดับแรกไม่ได้จะล่าหรือซุ่มดูใครทั้งนั้น


    หาที่นอน



    เคร้ง!

    มีดสั้นเล่มนึงถูกปาออกไป

    —เบี่ยงทิศทางของอาวุธที่พุ่งเข้ามากระเด็นไปปักต้นไม้ด้านข้าง เปลือกตาเปิดขึ้น บรรยากาศที่เห็นคือท้องฟ้ากำลังเป็นสีน้ำเงิน ยามเย็นกำลังคืบคลานเข้ามา

    ร่างปราดเปรียวผิดกับท่าทีเอื่อยเฉื่อยที่ผ่านมาม้วนตัวลงมาจากต้นไม้สูง ผมหางม้าสีดำสนิทสะบัดตามแรงลม คุเรฮะหรี่ตามองเงาดำที่เคลื่อนไหวผ่านพุ่มไม้หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

    “...”

    นัยน์ตาคมตวัดมองไปยังอาวุธที่ยังปักคาต้นไม้ เธอเดินเข้าไปดึงมันออกมาถือไว้ ไม่แม้แต่จะชายตามอง ในขณะที่สองเท้าก้าวออกไป...นิ้วเรียวก็ลูบไล้ไปตามลวดลายบนด้ามมีดอย่างแผ่วเบา

    คราวน์สายตระกูลสาขาสองคน

    คุเรฮะเก็บมีดที่ปามาอย่างท้าทายลงกระเป๋ามีดสั้น

    ท่ามกลางความเงียบงัน...ประกายบางอย่างพาดผ่านในแววตา เด็กสาวกระดิกหูฟังการเคลื่อนไหวรอบตัวแล้วเดินไปตามเส้นทางที่ไร้คนซุ่มโจมตีอย่างชำนาญ

    แท้จริงแล้วเธอตามไปดักหน้าสองคนนั้นได้ทันได้สบาย แต่เธอไม่ทำ


    มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย

    ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก


    กลางคืนแม้จะมืดจนแทบมองอะไรไม่เห็น แต่ก็ยังดีที่มีแสงจันทร์ส่องให้เห็นทาง ต่างจากคบเพลิงที่แค่จุดไฟก็เรียกผู้ล่าให้มาชิงป้ายได้เป็นโขยง

    แต่ตอนนี้ต่อให้ไม่จุดไฟก็ซวยได้อยู่ดี

    พวกเขายืนนิ่งเหมือนรูปปั้น ตรงหน้าคือหนึ่งในผู้ล่าที่โผล่มาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแต่วางใจไม่ได้

    “ฮิโซกะ...” คุราปิก้าขมวดคิ้ว

    “...ช่างบังเอิญจริงนะ” เลโอลีโอแค่นหัวเราะอย่างตึงเครียด

    ห่างไปไม่ไกล มีร่างของเด็กสาวผมหางม้ายืนมองอยู่ห่าง ๆ ด้วย ‘เซ็ทสึ’ ในมือโยนแผ่นป้ายของเหยื่อที่ไปล่ามาได้ขึ้นลง เธอเอนตัวพิงยอดต้นไม้สูง บริเวณนี้เป็นจุดอับสายตาที่เธอใช้ส่องคนเบื้องล่างได้อย่างไร้คนก่อกวน

    คุเรฮะโยนป้ายขึ้นแล้วตวัดมือรับครั้งสุดท้าย ตากะพริบมองการเจรจาเอาตัวรอดของคุราปิก้าจากตรงนี้ แม้จะเบาแต่หูของเธอก็ยังพอฟังรู้เรื่อง แต่ถามว่าสนใจมากไหม ตอบเลยว่าไม่

    เธอสนใจกอร์นที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้อีกด้านนึงมากกว่า

    ดูเหมือนคุราปิก้าจะเสนอป้ายที่มีเพียงคะแนนเดียวที่เขาแย่งมาได้ให้ฮิโซกะไป เจ้าตัวตกลงง่ายจนน่าแปลกใจ แต่พอทั้งสองคนขยับตัวถอยหลังหายเข้าไปกับความมืดในแนวป่าเท่านั้นแหละ

    จิตสังหารของฮิโซกะก็กระจายไปทั่วทันที!


    “...”

    คืออยากสู้อันนี้เข้าใจ แต่ไม่เข้าใจว่ามันจะร้องเงี้ยวง้าวตอนอดกลั้นตัวเองทำไม

    ฟังตรงนี้เหมือนเสียงหมาหอน


    เด็กสาวทำหน้าปลาตาย มองตัวอันตายที่เริ่มเคลื่อนไหวไปอีกทางโดยมีกอร์นแอบตามไปติด ๆ คนตัวสูงคงไปหาเหยื่อฆ่าระบายอารมณ์ ส่วนกอร์น... ถ้าเดาจากความคิดเด็ก ๆ ก็คงคิดจะชิงป้ายตอนฮิโซกะมีช่องโหว่ยามลงมือฆ่า

    ส่วนเธอ อืม... จะไปช่วยสร้างช่องโหว่ที่ว่านั่นให้ก็แล้วกัน

    (ยังไงก็ต้องช่วยไม่ให้ตายนี่นะ)

    ฟุ่บ!

    ร่างของทายาทคราวน์หายตัวไปโผล่บนยอดไม้ใกล้กัน เธอเทเลพอร์ตตัวเองซ้ำ ๆ ไล่ตามหลังตัวตลกที่กำลังอยากฆ่าคนกับเด็กชายที่แอบตามไปติด ๆ จนกระทั่งกอร์นเริ่มหาลู่ทางอ้อมไปดักรอตรงที่ฮิโซกะจะฆ่าเหยื่อ เธอก็หลุดหัวเราะในลำคอกับความซื่อตรงที่เดาทางง่ายนั่น

    โชคช่วยที่มีเหยื่อรายนึงผ่านทางมา ในตอนนั้นเองที่กอร์นเริ่มออกแรงเหวี่ยงเบ็ด ฮิโซกะง้างไพ่ในมือ เหยื่อชักดาบเตรียมสู้ และเธอกะจะเทเลพอร์ตไปปามีดใส่ดึงความสนใจ

    เท้าเหยียบกิ่งบนยอดสูงใช้เป็นฐานโดด แต่—


    เป๊าะ!

    ดันพลาดไปเหยียบกิ่งไม้เปราะซะนี่...



    เขาทำได้

    เขาชิงป้ายฮิโซกะมาได้

    และเขาก็พลาดเป็นฝ่ายถูกล่าป้ายด้วยเช่นกัน


    “อ่อก!”

    ร่างของเด็กชายที่ถูกลูกดอกทำให้เป็นอัมพาตหลายชั่วโมงของพรานป่าเกรเตอร์— กินเปลือกไม้ให้อาเจียนเอาพิษออกมา ความเจ็บปวดที่ถูกต่อยแก้มจนกระเด็นรวดร้าวไปทั้งซีกหน้า

    เขาพยายามคลานพาร่างที่ไร้ทางสู้เมื่อเจอกับนักล่าคนอื่น ๆ มาหลบในโพรงไม้ใหญ่ หลบสัตว์ป่า หลบสายตาคนอื่น…

    หลบความอ่อนแอของตัวเอง

    สติค่อย ๆ พร่าเลือน กอร์นนอนคว่ำอย่างหมดสภาพ ในชั่วขณะที่หมดสติเขาเห็นภาพในวัยเด็กของตัวเองกับผู้เป็นน้าที่คอยเลี้ยงดู เขาในตอนนั้นกอดกับคุณน้าหลับอย่างอบอุ่น แต่ตอนนี้แม้แต่จะขยับตัวมาทำแผลยังเป็นไปไม่ได้เลย

    เขาหลุดเพ้อออกมา ความฝันที่เขาเห็นทำให้ขอบตาร้อนผ่าวจนมีหยดน้ำไหลผ่านแก้ม

    “คุณ.. มิโตะ ... ฮะ”

    พรึ่บ

    เสื้อโค้ทตัวยาวถูกคลุมให้ ข้าวของต่าง ๆ ที่ทิ้งไว้ตรงที่สู้กันก็ถูกเก็บมาวางไว้ใกล้กัน คุเรฮะก้มมองเด็กชายที่ดูยังไงก็ลุกไม่ไหวตาปริบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเอานิ้วปาดน้ำตาออกให้อย่างแผ่วเบา

    แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ท่ามกลางความเงียบในค่ำคืนนี้

    ยามเช้ามาถึงอย่างรวดเร็ว

    “อ๊ะ!”

    คุเรฮะขยี้ตาเชื่องช้ามองคนที่เก็บอะไร ๆ ไปฝันร้ายจนตื่น เด็กชายหอบหายใจก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อหันมาเห็นร่างข้างกัน สมองประมวลผลไม่ทันว่านี่เป็นมิตรหรือศัตรู แต่พอเห็นว่าเป็นคนรู้จักก็เบาใจลง

    เขาครางเสียงแผ่ว “คุเรฮะ...”

    “อือ” เธอขานรับ ยังนอนตะแคงข้างมอง

    คนผมตั้งอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่นาน ก่อนจะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ทำไมถึงมาอยู่ในนี้ได้ล่ะ”

    “ฉันเห็นข้าวของของนายกับเห็นรอยคลานผ่านพงหญ้า ...เลยตามมาเจอ”

    แล้วก็มานอนด้วย เย็นดี

    กอร์นมองไปยังกระเป๋าและคันเบ็ดที่เธอเก็บมาให้ ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นป้ายหมายเลขสองอันวางอยู่ไม่ไกล


    ป้าย 44 กับป้าย 405

    ได้มาเพราะ... ฮิโซกะ


    “เลิกคิดไร้สาระแล้วไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว แถวนี้มีลำธารอยู่นี่” เสียงยานคางของคนง่วงนอนเรียกสติให้กลับมา

    เขาพยายามขยับตัวดุ๊กดิ๊ก ตอบอ้อมแอ้ม “ไว้ไปพรุ่งนี้ก็ได้”

    คุเรฮะปรือตาเลิกคิ้ว ก่อนจะร้องอ้อ…

    “งั้นเดี๋ยวฉันช่วย”


    ช่วยที่ว่าคืออุ้มเขามาลำธารด้วยสองแขน

    …ด้วยท่าอุ้มเจ้าสาว


    กอร์นอยากจะร้องไห้ เสียดายแขนชาอยู่เลยยกมือขึ้นมาปิดหน้าไม่ได้

    คุเรฮะนี่นอกจากไว้ผมยาวกับใส่กางเกงขาสั้นแล้ว— มีอะไรบ่งบอกความเป็นผู้หญิงได้อีกบ้างครับ

    ฮือ...


    จ๋อม

    ร่างปวกเปียกทิ้งตัวลงธารน้ำตรงหน้า คว่ำหน้าให้ดำลงไป ดื่มกินน้ำและพยายามล้างตัวอย่างทุลักทุเลโดยมีคุเรฮะนั่งลงบนส้นรองเท้าอยู่บนหินริมธาร มือเท้าคางลงบนขามองเขาตาปรือเหมือนจะช่วยเฝ้า

    ดูยังไงก็หลับในชัด ๆ

    “จมน้ำคราวนี้ฉันไม่ช่วยเป่าปากแล้วนะ น้ำตื้นแค่เข่าเอง”

    คนที่คิดว่าหลับเอ่ยขึ้นมาทำเอาเขาแทบสำลักน้ำ ภาพตอนการสอบรอบโบนัสแวบเข้ามาในหัว กอร์นที่คว่ำตัวลงบนน้ำอยู่ผุดขึ้นมานั่งอย่างลืมอาการชา ริ้วสีแดงพาดบนแก้มสองข้าง

    “อ..อันนั้น— มัน...!”

    คุเรฮะหัวเราะหึ ก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยไม่รอให้คนถูกหยอกตั้งตัวได้ทัน มือจับเสื้อโค้ทตัวยาวพาดไหล่อย่างมีมาด

    “ไว้เจอกันในการสอบรอบสุดท้าย”

    เขาพยักหน้า “อ... อื้อ! ขอบคุณที่ช่วยนะ!”

    ถึงจะโดนพิษจากลูกดอกไป แต่เด็กอย่างกอร์นเรื่องแค่นี้คงขวนขวายเอาตัวรอดเองได้ไม่ยาก เวลาล่าป้ายยังมีมีเหลือเฟือให้ฟื้นฟูร่างกาย เธอแค่ช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ให้ป้ายที่วางทิ้งไว้ถูกคนอื่นฉกไป แล้วตัวหมากคิงของเธอต้องตกกระดานก็เท่านั้น

    ดวงตากลมมองแผ่นหลังของคุเรฮะที่เคลื่อนห่างออกไป

    เอ่ยเสียงแผ่วเมื่อนึกถึงสัมผัสจากปลายนิ้วที่ช่วยปาดน้ำตาออกให้เมื่อคืน



    “...ขอบคุณนะ คุเรฮะ”



    __________C H E C K M A T E__________


    ฮิโซกะ : ฉันว่าฉันเห็นเด็กบางคนกลิ้งตกต้นไม้นะ ♥️

    คุเรฮะ : หุบปาก


    ตอนนี้แต่งโคตรมาราธอน เนื่องจากมีคนใจร้ายมาเร่งให้เสร็จวันนี้ค่ะ แง...

    ปล. ใครเห็นว่าเนื้อหาเปลี่ยนไปนิดหน่อยไม่ต้องแปลกใจค่ะ ตอนแต่งแล้วอัพง่วงมากจนพลาดไปหลายคำ เลยต้องมาแก้ทีหลัง (っಠ‿ಠ)っ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×