ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 13 | สู้ในนามตัวแทน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.11K
      875
      26 มี.ค. 63


    Chapter 13



    ‘งานที่เหมาะกับนายที่สุดก็คือมือสังหาร’

    ตัดสินสิ่งที่เรียกว่าคนโดยแค่ฆ่าได้หรือฆ่าไม่ได้เท่านั้น— ถ้านั่นเป็นสิ่งที่พี่ชายกับพ่อพยายามพร่ำสอนมามาตลอด นั่นหมายความว่าเขา... ต้องเป็นเหมือนภาพตรงหน้างั้นหรือ?

    คิรัวร์เม้มปากเป็นเส้นตรง


    เคร้ง!

    ตั้งแต่เริ่มสู้จนถึงตอนนี้ทายาทคราวน์สายหลักแทบไม่เปิดช่องโหว่ให้สวนกลับ มีดสั้นของอแมนด้าถูกปัดไปกระทบกันเกิดเป็นเสียงดัง ตามด้วยท่อนขาเตะสูงขึ้นมาอย่างรวดเร็วแต่เธอก้มหลบได้ทัน ดวงตากลมเหลือบมองปลายผมของตัวเองที่ขาดแหว่งอย่างตื่นตูม

    มีดปลายรองเท้า!

    เด็กสาวผมสีอ่อนใช้จังหวะที่ก้มตัวหลบพุ่งกระแทกศีรษะเข้ากับท้องอีกฝ่ายอย่างแรง มืดสั้นจ้วงขึ้นใส่เป็นแนวกากบาทกะเสียบทีเดียวทะลุ

    และในจังหวะเดียวกันนั้นเองขาของคุเรฮะอีกข้างก็ถีบส่งแรงให้ลูกเตะที่หวืดคราวแรกไขว้ขึ้นมาล็อกคอ!

    “อ่อก!”

    ร่างของคนตรงเล็กกว่าเหวี่ยงขึ้นมานั่ง หางม้าสีดำปลิวสะบัด สองขาบีบช่วงคออัดเข้าให้ขาดอากาศหายใจ อแมนด้ากัดฟันขณะทุ่มคนบนคอลงบนพื้นกระเบื้อง ปลายแหลมของมีดตั้งขึ้นจ่อเข้าแผ่นหลัง— เคร้ง!

    ลวดที่ดึงตึงรัดสองมือของเธอเข้าหากัน ข้อมือถูกความคมของลวดบาดจนเลือดซึม คุเรฮะกระตุกลวดกระชากมือที่ถือคมมีดถอนออกจากจุดตายบนหลังตัวเอง พร้อมกับกระโดดลังกากลับหลังขึ้นด้านบนโดยที่ลวดยาวยังรัดข้อมือคู่ต่อสู้ไว้อยู่

    แรงกระชากของลวดตัดข้อมือขาดฉับ!

    “กรี๊ดดดดด!!”


    ราวกับเครื่องจักรสังหาร


    นัยน์ตาสัตว์ร้ายนั้นไม่ปรากฏอารมณ์ใด ๆ แววตาของคุเรฮะไม่มีประกายอะไรเลย แม้จะต้องต่อสู้กับคนสายเลือดใกล้เคียงก็ไม่มีแม้แต่ความลังเล เสี้ยวเดียวก็ไม่มี

    ดูราวกับหุ่นเชิดที่ชาชินกับการเข่นฆ่า แม้จะเป็นพี่น้องกันแต่หากเป็นคำสั่งก็พร้อมลงมือทำ

    “เร็วเป็นบ้าเลย” เลโอลีโอขยี้ตามองตาม

    “นั่นคือคราวน์งั้นเหรอ...” คุราปิก้าพึมพำ พยายามเก็บภาพการต่อสู้ระหว่างสายตระกูลของคราวน์ที่เลื่องลือด้วยสองตา การต่อสู้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยมีคนสิบกว่าคนจ้องเขม็งไม่วางตา

    คิรัวร์มองเคลื่อนไหวต่อเนื่องของคุเรฮะแทบไม่กะพริบตา ในใจตั้งคำถามกับตัวเอง คำพูดพร่ำสอนของพ่อและพี่วนเวียนอยู่ในหัวสลับกับการต่อสู้ที่ไม่ต่างจากงูกำลังไล่ต้อนเหยื่อตรงหน้า


    ‘เป็นหุ่นที่ไร้ชีวิตจิตใจ ไม่ต้องการอะไร ไม่มุ่งหวังอะไร ความยินดีอย่างเดียวของคนที่อาศัยความมืดเป็นอาหารอย่างนาย ก็คือยามที่ได้สัมผัสความตายของคน’

    ‘อย่างนายน่ะเป็นเพื่อนกับใครไม่ได้หรอก’


    มือเกร็งเล็บแหลมคมออกมา ดวงตาเรียวรีดิ่งลึกจมอยู่กับคำสอนที่ถูกปลูกฝังมาทั้งชีวิต


    ‘อย่าต่อสู้กับศัตรูที่ไม่มีทางเอาชนะได้’

    ‘นายน่ะไม่เหมาะจะเป็นฮันเตอร์หรอกคิล’



    ‘จำได้ไหม ...เราไม่เหมือนกัน’



    เชสเตอร์ชำเลืองมองด้วยแววตาอ่านยาก ร่างของทายาทตระกูลพันธมิตรเกร็งขึ้นก่อนจะพุ่งตัวออกไป ตรงไปที่การต่อสู้ระหว่างคราวน์ทั้งสองสายราวกับถูกจิตใจใต้สำนึกควบคุม!

    “คิรัวร์!!”

    พวกคุราปิก้าเรียกด้วยความตื่นตะลึง อิรุมิมองเหมือนรู้อยู่แล้วว่าน้องชายต้องทำแบบนี้ —ก็เขาเป็นคนบีบบังคับให้ทำทางอ้อมเองนี่นา

    ชั่วขณะนั้นนัยน์ตาสีผสมตวัดมองขวับไร้ซึ่งความตกใจ

    ตัวหมากตัวสุดท้ายเดินหน้ามาแล้ว

    ฟึ่บ!

    ปลายรองเท้าเคาะกับพื้นเก็บมีดอาบยาพิษ พร้อม ๆ กับมือไขว้ลวดพันเข้ากับคอคู่ต่อสู้

    —ใช้แผ่นหลังของตัวเองก้มต่ำขนานพื้นเป็นรอกดึงลวด สองมือกระชากร่างของอแมนด้าด้วยลวดที่ลากผ่านแผ่นหลังจนตัวลอยหวืดขึ้น หลบกรงเล็บมรณะของคิรัวร์ที่พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังได้หวุดหวิด


    คราวน์สายตระกูลสาขาหวีดร้อง

    “ฉันยอม—”


    มือกระตุกเส้นลวดรัดคอขาดฉับกลางอากาศ


    คุเรฮะมองร่างไร้ลมหายใจของคนตระกูลเดียวกันร่วงลงพื้นด้วยแววตาว่างเปล่า หัวที่ยังมีใบหน้ากรีดร้องหวาดกลัวร่วงลงใกล้ฝ่าเท้า เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นมาเปื้อนแก้ม

    ริมฝีปากปากขยับไร้เสียง

    -รุกฆาต-




    กอร์นสลบไปวันนึงเต็ม ๆ

    พอฟื้นขึ้นมาก็รีบรุดหน้าไปยังห้องที่ทุกคนรวมตัวกัน คิ้วขมวดเป็นปมกับสิ่งที่ได้ฟังจากคุณซาธ็อท แม้จะเคืองกับพี่ชายของคิรัวร์ที่ทำให้เพื่อนเขาสติหลุดพุ่งไปกลางการต่อสู้ แต่ที่กังวลที่สุดในตอนนี้คือเรื่องของคุเรฮะที่สอบตกไป

    ประตูห้องอบรมฮันเตอร์หน้าใหม่เปิดออกอย่างแรงจนเกิดเสียงดังปึง!

    “คุเรฮะ!” คนแรกที่เขาเรียกหา แต่มองลงไปนอกจากคนที่สอบผ่านรอบสุดท้ายแล้วก็หาคุเรฮะไม่เจอ ไม่มีแม้แต่เงาให้เห็น ทุกคนในห้องหันมามองที่กอร์นเป็นตาเดียว

    “เอาล่ะ ไหน ๆ คนก็มากันครบแล้ว จะอธิบายให้ฟังตั้งแต่ต้นเลยก็แล้วกัน” เนเทโล่ลูบเคราอยู่หน้าห้อง บีนส์เองก็ยืนอยู่ข้าง ๆ รับหน้าที่อธิบายให้ฟัง

    พวกคิรัวร์นั่งรวมกันอยู่ตรงมุมนึง คุราปิก้ากวักมือให้กอร์นมานั่งข้าง ๆ “เรื่องคุเรฮะพวกเราก็คิดอยู่ แต่ไว้คุยกันทีหลัง” แล้วชี้ให้เด็กชายผมตั้งหันไปสนใจคำอธิบายหน้าห้องที่พวกเขาฟังกันจบแล้วรอบนึง

    กอร์นที่แขนข้างนึงใส่เฝือกหันไปมองคิรัวร์ด้วยความเป็นห่วง คนถูกมองยักไหล่ให้เบา ๆ ทำมือให้เจ้าตัวสนใจคนหน้าห้องซะ ก่อนจะหันกลับมาเหม่อลอยคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้



    “เบอร์ 45 หมดสิทธิ์สอบ ผู้เข้าสอบทั้งหมด 9 คนสอบผ่านการสอบฮันเตอร์แล้วครับ!!”

    “เธอทำบ้าอะไรลงไป!”

    คุเรฮะไม่ตอบ และเอาแต่ยืนนิ่งยอมให้เขาตะคอกใส่เหมือนหุ่นยนต์ถ่านหมด วงหน้าและดวงตาข้างในซับซ้อนเกินกว่าคิรัวร์จะตีความได้ “ทำไมกัน คุเรฮะ ทำไม!?”

    ไม่มีแม้แต่ปฏิกิริยาตอบสนอง คิรัวร์กัดปาก ปรี่เข้าไปจะเขย่าตัวแรง ๆ —แต่ร่างของผู้นำตระกูลคราวน์กลับโผล่มาคว้าตัวลูกสาวไปอย่างรวดเร็ว มือหนาดันหัวให้คุเรฮะหันมาซุกหน้าบนเสื้อสูทตัวเอง ไม่ให้ดวงตาไร้แววนั้นสะท้อนอะไรบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจอีก

    เผยให้เห็นแผ่นหลังที่ถูกลวดบาดเป็นรอยยาว ชุดสูทเสื้อกั๊กขาดวิ่นมีเลือดซึมออกมา

    คิรัวร์นิ่งไป

    “การสอบฮันเตอร์ครั้งนี้จบลงแล้ว ยินดีด้วยที่สอบผ่าน” เชสเตอร์ชมเด็กชายตรงหน้า ก่อนจะเหลือบมองไปทางอิรุมิที่ทำท่าจะเดินเข้ามาจนอีกฝ่ายหยุดชะงัก “อยากมาเยี่ยมคุเรฮะก็มาได้ แต่ตอนนี้คงต้องขอตัวก่อน”

    ผู้ใหญ่เอ่ยด้วยรอยยิ้มลึกลับ ก่อนจะอุ้มร่างเล็กขึ้นด้วยมือเดียวแล้วเดินออกไปท่ามกลางสายตาสิบกว่าคู่

    กระทั่งบานประตูเปิดออก


    ...คุเรฮะก็ไม่หันมามองคนด้านหลังเลยสักนิดเดียว


    คิรัวร์กำมือแน่นเมื่อหวนคิดไปถึงตอนนั้น พอคิรัวร์เดินออกไปอิรุมิก็ไม่พูดอะไรกับเขาอีก ไม่ได้เข้ามาบอกให้กลับบ้านไปรับโทษอย่างที่คาดไว้ แค่เดินผ่านไปเฉย ๆ บอกดีใจด้วยที่สอบผ่าน ทำราวกับคำขู่ก่อนหน้านี้เป็นแค่ภาพลวงตา

    แต่... ทำไมคุเรฮะถึงไม่ยอมให้คนสอบตกเป็นเขา ยัยบ้านั่นคิดอะไรอยู่กันแน่

    เสียงของบีนส์ดึงสติกลับมา

    “ขอประกาศรับรองว่าทั้ง 9 ท่านในที่นี้เป็นฮันเตอร์โดยสมบูรณ์!!” ตามมาด้วยประธานเนเทโล่ที่อวยพรให้ก่อนทุกคนจะก้าวผ่านประตู

    “เอาล่ะ จากนี้ไปเมื่อก้าวพ้นออกไปจากอาคารนี้พวกเธอจะเป็นเหมือนพวกฉัน เป็นทั้งเพื่อนร่วมอาชีพในฐานะฮันเตอร์และเป็นทั้งคู่แข่งในเวลาเดียวกัน —อย่างไรก็ตามขออวยพรให้ทุกคนสุขภาพดีจนกว่าจะพบกันใหม่”

    “แยกย้ายได้!”



    “เดี๋ยวก่อน!”

    คราวน์ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวหันมามอง เด็กชายที่สอบผ่านเป็นคนแรกเป็นคนเรียกเขาเอาไว้ กอร์นวิ่งหน้าตั้งเข้ามา “เอ่อ... คุณ...?”

    “เอมอน”

    เขาตอบห้วนสั้น แต่ไม่ได้ไม่พอใจอะไร คิรัวร์ที่เดินตามมาสังเกตว่าคน ๆ นี้เป็นพี่ชายของคนที่ตายไปด้วยฝีมือของคุเรฮะ แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ได้มีทีท่าโกรธแค้นหรือเสียใจที่น้องสาวตายเลยสักนิดเดียว

    เหมือนคอยเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ซะมากกว่า

    “คุณเอมอน” กอร์นยิ้มซื่อร้องถาม “ได้ยินว่าคุณเป็นคราวน์ คุณเอมอนพอจะบอกผมหน่อยได้ไหมว่าคุเรฮะไปไหน”

    ดวงตาสีอำพันเหลือบมองคนผมทองสั้นและคนตัวสูงใส่แว่นเดินตามมา หลุบตามองพื้นเล็กน้อยคิดอะไรบางอย่างก่อนจะเงยหน้าขึ้น “รู้ไปแล้วจะทำไม?”

    “จะไปหาไง! ผมยังมีเรื่องที่อยากจะคุยกับคุเรฮะอีกเยอะแยะเลย”

    “แล้วจะไปในฐานะอะไร?”

    “แน่นอนว่าไปในฐานะเพื่อนน่ะสิ!” เด็กชายยิ้มร่า ต่างจากสามคนด้านหลังที่ได้ยินเต็มสองหูว่าเจ้าตัวไม่นับพวกเขาเป็นเพื่อน แต่ไม่เอ่ยอะไรขัดคอนอกจากเสมองไปคนละทางพร้อมกัน

    “เพื่อน? อุ๊บ...!” คนผมสีอ่อนปิดปากขำพรืด “อย่างพวกนายน่ะเหรอยัยเด็กนั่นจะนับเป็นเพื่อน นอกจากตัวเองกับตำแหน่งแล้วยัยเด็กนั่นไม่สนอะไรไร้สาระแบบนี้หรอก!”

    กอร์นเริ่มมุ่นคิ้ว “ทำไมล่ะ?”

    พวกคิรัวร์เหล่มอง ไอ้หมอนี่มันจะรู้ไหม ว่านั่นไม่ต่างจากการล้วงถามเรื่องทางในหน้าซื่อตาใสเลยนะ!

    เอมอนยักไหล่ “หึ คนทั้งตระกูลก็รู้ ๆ กันอยู่ ยัยเด็กนั่นแค่ได้ดีเพราะเป็นลูกของเมียคนโปรดผู้นำตระกูล วัน ๆ ถ้าไม่ทำงานก็เอาแต่นอน แทบไม่มีใครอยากจะผูกสัมพันธ์ด้วยซ้ำไป เชิดหน้าชูคอได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะตำแหน่งผู้สืบทอดนั่นแหละ”

    คิรัวร์เลิกคิ้ว ถามต่อเนียน ๆ “ได้ยินว่าต้องเป็นสายตระกูลหลักถึงจะท้าชิงตำแหน่งได้ แต่พวกนายเป็นสายตระกูลสาขาทำไมถึง...”


    “ถามอะไรโง่ ๆ พวกเราก็ต้องสู้ในนามตัวแทนของคราวน์สายหลักอยู่แล้วสิ”


    “ตัวแทน—?”

    “คราวน์สายหลัก—?”

    คุราปิก้ากับเลโอลีโอเอ่ยทวนต่อกัน คนตระกูลคราวน์มองเหยียดหน่อย ๆ ก็พวกนี้เป็นแค่คนนอกนี่นะ

    “โดว์กัลฝั่งฉันสนับสนุนให้คราวน์สายหลักคนอื่น— ขึ้นเป็นผู้สืบทอดแทนยัยเด็กหน้าตายนั่น ถ้าพวกฉันฟลุ๊กชนะมันในการท้าชิง คราวน์สายหลักที่ว่าก็จะขึ้นเป็นผู้สืบทอดแทน” แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “แต่ก็ดูถูกฝีมือยัยเด็กนั่นไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ...”

    “...” พวกกอร์นหันมามองหน้ากัน

    “แต่เรื่องพวกนี้พวกนายรู้ไปก็เท่านั้น” คนพูดแบมือออกไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินออกไป เขาต้องกลับไปรายงานทุกอย่างให้ท่านผู้นั้นฟัง

    “แล้วคุเรฮะไปที่ไหน—”

    เอมอนตอบโดยไม่หันกลับมามอง โบกมือปัดรำคาญ “ทะเลสาบดัฟฟ์ไง ไปท่องหากันเองสิ”

    ฮิโซกะกับอิรุมิยืนมองภาพการถามไถ่อยู่หลังเสาไม่ไกล เจ้าของผมสีฮอตพิ้งค์หัวเราะในลำคอ มองความกระตือรือร้นในการไปหาคนสอบตกอย่างรื่นเริง เหมือนมองเจ้าลูกหมาลูกแมววิ่งดุ๊กดิ๊กไปหาเจ้างูน้อยที่พ่อมาคาบกลับบ้าน

    “ไม่ไปตามน้องชายกลับบ้านแล้วเหรอ?” เขาหันไปถามอย่างหยอกล้อ คนถูกถามปรายตามองเล็กน้อยแล้วหันไปมองตามเด็กชายผมขาวที่ห่างไกลออกไป

    “ลุงเชสเตอร์ดักไว้ขนาดนั้นคงไปขู่ให้กลับบ้านไม่ได้อีก” ตากลมสีดำมองนิ่ง “แต่ถ้าเจ้าตัวกลับมาเองก็ต้องรับโทษไปตามปกติล่ะนะ แล้วฮิโซกะล่ะ? ไม่ตามยัยเด็กคราวน์นั่นไปรึไง”

    “แหงอยู่แล้ว แค่ยังไม่ใช่ตอนนี้”

    ลิ้นไล้เลียริมฝีปากที่แห้งผาก “ขืนปล่อยให้ของเล่นหายากหายไปง่าย ๆ ก็หมดสนุกน่ะซี~ ♥️”



    [ทะเลสาบดัฟฟ์ :

    เขตมาเจน่า สาธารณรัฐเฟียโดชาร์]

    เพจสมองกลดิจิตัล ที่พวกคุราปิก้าเอาฮันเตอร์การ์ดมาท่องหาข้อมูล— ในโรงแรมที่สมาคมฮันเตอร์บริหารงานอยู่แสดงที่อยู่ของทะลสาบบนหน้าจอคอม หัวทุย ๆ ของสี่หน่อพากันมุงภาพแผนที่โลกที่คุราปิก้าคลิกเมาส์ให้ดู รายละเอียดปลีกย่อยแสดงขึ้นเป็นกรอบสี่เหลี่ยม

    คิรัวร์อ้าปากเหวอ “ที่อยู่ของคราวน์... บ้านยัยนั่นอยู่ฝั่งตะวันออกตรงข้ามบ้านฉันเลยนี่หว่า!”

    กอร์นหันขวับมาถามอย่างสนใจ “แล้วบ้านคิรัวร์อยู่ไหนอะ”

    “อยู่ที่ภูเขาคูคูลู ตรงนี้ไง” มือขาวซีดชี้ไปทางจุดนึงบนแผนที่โลก สุดขอบทวีปพอ ๆ กับที่อยู่ของคุเรฮะเลยด้วยซ้ำ

    “ประเด็นคือ... เขตของรัฐทั้งหมดเป็นของคราวน์หมดเลยเรอะ!” เลโอลีโอแทบกุมหน้าหวีดร้องเมื่ออ่านในกรอบสี่เหลี่ยม แค่ค่าหัวของคราวน์สายตระกูลหลักที่ได้ยินมาก็เข้าหลักพันล้านแล้ว นี่ยังจะมีรัฐเป็นของตัวเองอีก รวยชิบเป๋ง!

    คุราปิก้ายิ้มแห้งกับท่าทางเว่อร์วังของเพื่อนตัวสูง แล้วกดหาช่องทางการเดินทาง “ประเทศนี้นักท่องเที่ยวทั่วไปก็ไปได้ ขึ้นเรือเหาะไปก็ใช้เวลาสามวันพอ ๆ กับไปฝั่งบ้านคิรัวร์ จะออกเดินทางเมื่อไหร่ล่ะ?”

    ทุกคนตอบพร้อมกัน “ภายในวันนี้เลย!!”



    ตัดภาพมาที่คนสอบตก

    นายเหนือหัวของคราวน์วางไม้เท้าลง เรือเหาะลำนี้กำลังบินไปทางสาธารณรัฐเฟียโดชาร์ ดวงตาคมกริบมองลูกสาวที่นอนคว่ำบนโซฟาทรงกลมกลางห้องเรือเหาะ เสื้อนอกถูกถอดออกไปเหลือแค่เสื้อคอเต่าแขนกุดด้านในที่ถูกเลิกเสื้อขึ้น

    พ่อบ้านประจำตัวที่ติดตามมาด้วยมัดปมผ้าพันแผลบนแผ่นหลังให้เสร็จก็ปิดเสื้อลง ห่มผ้าคลุมร่างให้กับนายน้อยของตัวเอง ไม่แปลกใจกับท่าทางไหลตายที่หัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับปั๊บ

    บนยานพาหนะที่ทั้งลำมีคนอยู่แค่ไม่กี่คน เดเรคเหลือบมองนายใหญ่ที่ขยับตัวยุกยิกอยู่ไม่สุขมาสักพักแล้ว

    “ถ้าห่วงขนาดนั้น ลองมานั่งข้างนายน้อยไหมล่ะครับ”

    “เคยทำ” ใบหน้าคมดุดันเอ่ยเสียงเรียบ “แต่โดนเท้ากระตุกใส่”

    ไปนั่งฝั่งเท้า เท้าก็ลั่น ไปนั่งฝั่งมือ มือก็ลั่น —และกำลังคิดอยู่ว่าถ้าไปนั่งฝั่งหัว ลูกจะตีลังกามาม้วนตัวถีบใส่อีกไหม

    ไม่รู้ว่าแค่ละเมอไม่ชินกับคนที่มาอยู่ใกล้ๆ หรือตั้งใจทำ แต่แรงที่ลั่นมาก็ไม่ใช่น้อย ๆ

    “ผมนวดเท้าให้นายน้อยตอนหลับก็บ่อย แต่ไม่เคยโดนอะไรกระตุกใส่นะครับ”



    โอเค

    ตั้งใจนั่นแหละ



    __________C H E C K M A T E__________


    สเกลเรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่ เพราะงั้นฝั่งคราวน์จะถือว่ามีตัวละครเยอะมาก แต่ถามว่าสำคัญเท่าตัวเอกอย่างคุเรฮะไหม บอกเลยว่าสำคัญแค่ไม่กี่คน ในตอนนี้เอมอนกับอแมนด้าไม่ต้องจำค่ะ เป็นตัวละครใช้แล้วทิ้ง 555555


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×