ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #44 : Chapter 33 | คนใช้โซ่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.91K
      400
      15 เม.ย. 63


    Chapter 33



    ดวงจันทร์กลมลอยตระหง่านสะท้อนเข้าลูกแก้วสีแดงเสี้ยวทั้งสองข้าง ฝ่ามือที่สวมถุงมือหนังแนบไปกับกระจกบานยาวตรงหน้า เด็กน้อยจ้องมองท้องฟ้ายามกลางคืนบนที่สูง

    ภาพของผู้ใหญ่ขี้แกล้งฉายชัดขึ้นมา อีกฝ่ายจับมือไว้มั่นพลางยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ มุมปากยกยิ้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

    “ไม่แฟร์เลย ฉันเองก็หวงของเหมือนกันนะ”

    แล้วก็ -- ป๊อง!

    เผลอเทเลพอร์ตกลับมาหาคุโรโร่เข้าซะงั้น...


    “ผู้ใช้โซ่”


    คำพูดสั้น ๆ ของผู้เป็นดั่งหัวแมงมุมดังมาจากเบื้องล่าง สมาชิกเกือบทุกคนมารวมตัวกันด้วยใบหน้าจริงจัง คุเรฮะก้มลงไปมองตามเสียงก่อนจะชะงักเล็กน้อยยามสบตากับคนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกล

    ฮิโซกะโบกมือให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มุมปากมีรอยช้ำบางเบา -- รอยช้ำที่มาจากการคาดคั้นของพวกมาจิว่าพากันไปทำอะไรคุเรฮะถึงหน้าตาตื่นกลับมา ปาคูโนด้ายังไม่ทันได้แตะตัวอ่านความทรงจำด้วยซ้ำไป

    “ก็แค่หอมแก้มสลีปปี้เอง!” พูดออกมาหน้าตาเฉย

    “...”

    เธอทำเมินไปจ้องคุโรโร่อีกฝั่งแทน

    “มันคงเป็นสายควบคุมไม่ก็สายแปรสภาพ” คุโรโร่เอ่ย แสงไฟจากเทียนที่ถูกจุดรอบรังสั่นไหว “อุโบกินเป็นนักสู้ตัวฉกาจ แต่พอสู้ตัวต่อตัวเขากลับแพ้ทางสองสายนี้ ความสามารถบางอย่างของสายแปรสภาพที่เสริมพลังลงไปอาจทำให้อุโบต้องยอมจำนน และสายควบคุมก็อาจบงการอุโบได้ด้วย”

    ชาร์แน็คกำหมัดแน่น “บ้าจริง ฉันน่าจะไปด้วย!”


    อุโบกินไม่ได้กลับมา


    หลังจากหลายคนไปช่วยสมาชิกสายเสริมพลังของกลุ่มแล้ว อุโบกินที่ยังแค้นเคืองคนใช้โซ่ที่ลักพาตัวเขาไปในตอนแรกก็บอกจะตามล่ามัน หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย

    ดวงตาสีดำสนิทของคุโรโร่สะท้อนแสงเปลวไฟ

    “ถ้ารุ่งเช้าเขายังไม่กลับมา...เราคงต้องเปลี่ยนแผนแล้ว”

    ดวงตาคมกริบเหลือบมองผ่านร่องรอยกระจกที่แตกเป็นช่องโหว่ เสียงลมที่ผ่านไปมาถูกแทรกด้วยเสียงบางอย่างที่อยู่ด้านนอกโดยที่ไม่มีสมาชิกแมงมุมคนไหนรู้ตัว

    เหยี่ยวขนาดใหญ่สยายปีกบินห่างออกไป มันวนรอบตึกสูงแค่สามรอบ ขาเล็กถูกติดเครื่องบันทึกเสียงที่ถูกควบคุมให้เปิดเสียงที่อัดไว้ออกมา

    เบาแต่ชัดเจนสำหรับคนที่หูผีอย่างคุเรฮะ

    “...”


    เด็กสาวกะพริบตา พวกกอร์นยังอยู่แถวตลาดค้าของเก่า คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนัก…

    —รึเปล่า?


    จากตอนแรกจะนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่รังแมงมุมฆ่าเวลา พอหันไปเห็นโจ๊กเกอร์หนุ่มที่ส่งยิ้มแป้นแล้นมาให้บ่อย ๆ เท่านั้นแหละ เธอกลับเปลี่ยนใจกลางคัน ...ไม่คิดปฏิเสธสักนิดตอนคุโรโร่ชวนไปทำธุระข้างนอกด้วยกัน

    เด็กสาวผมสีดำสั้นล้วงมือลงกระเป๋าเสื้อโค้ท มองมันสมองของกองโจรอย่างชาร์แน็คขยับมือรัวเร็วบนคีย์บอร์ด ส่วนคุโรโร่เปิดตู้เสื้อผ้าดูแก้เบื่อ ขณะที่เจ้าของห้องนอนจมกองเลือดอยู่ที่เท้าอย่างน่าอนาถ

    คุเรฮะมองซ้ายมองขวา สำรวจห้องพักธรรมดา ๆ ที่คนตัวสูงพาเข้ามาบุกยึดแค่ครู่เดียวก็เลิกสนใจ เธอนั่งลงบนเตียงริมห้อง ทิ้งตัวลงนอนด้วยท่าทางของเจ้างูจอมเกียจคร้าน

    ชาร์แน็คยื่นรูปที่ถ่ายใบนึงให้ผู้เป็นหัวหน้า

    “คนนี้เหรอ?” เขาเอ่ย

    เจ้าของรอยสักกางเขนกลับหัวหลุบตามองภาพในมือ ในนั้นเป็นเด็กสาวสดใสสมวัย ผมสีฟ้าครึ่งหลังถูกรวบเก็บในผ้าโพกหัวผูกเป็นโบว์น่ารัก ด้านข้างถ่ายติดบอดี้การ์ดอีกสองคนแค่แวบ ๆ

    ชายหนุ่มผมสีอ่อนพยักหน้า “ใช่ ลูกสาวของมาเฟียนอสทราด ชื่อของเธอคือเนออน”

    เนออน นอสทราด

    เด็กสาวนักพยากรณ์ของสิบผู้เฒ่าผู้มีอิทธิพล

    คุเรฮะพลิกตัวนอนตะแคงข้าง หัวหน้าเข้าผนัง กลับกันดวงตาสีแดงเสี้ยวกำลังหรี่ลงอย่างครุ่มคิด ...หากคุโรโร่รู้ความสามารถเน็นของเนออนแล้วสนใจเข้า —จอมขโมยเน็นอย่างเขามีหรือจะพลาด

    “ตามข้อมูลที่มีในเว็บไซต์ฮันเตอร์ เจ้าคนใช้โซ่คือหนึ่งในบอดี้การ์ดของเธอ ส่วนบอดี้กอร์ดคนอื่น ๆ ที่เรามีทั้งรูปถ่ายและรายชื่อคือห้าคนนี้” แน่นอนว่าไม่มีรูปหรือชื่อของ คุราปิก้า ที่เป็นผู้ใช้โซ่ตัวจริงอยู่ในนั้น นับว่ารอบคอบที่หลบสายตาพวกฮันเตอร์ที่ชอบเก็บข้อมูลมาลงเว็บไปได้

    “เด็กคนนี้คือคนที่ทำให้นอสทราดประสบความสำเร็จงั้นเหรอ”

    “น่าจะใช่—”


    “ฉันถามเธอ คุเรฮะ”


    น้ำเสียงเรียบนิ่งไม่สื่ออารมณ์ใดถูกส่งตรงมา คุโรโร่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตามองรูปภาพในมือแต่เล็งคำถามมาที่เธอบนเตียงอย่างจงใจ

    ใช่ว่าจะไม่รู้ความนัย ถึงอย่างนั้นเจ้าเด็กน้อยที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงก็ทำแค่โบกมือให้อย่างไม่ใส่ใจเท่านั้น ไม่ได้มีความยี่หระต่อสิ่งรอบตัวเลยแม้แต่น้อย

    “เน็นสายพิเศษมัน ‘พิเศษ’ ยังไง นายก็รู้ดีอยู่แล้วนี่”

    ดวงตาสีดำกลมของคนตัวสูงเลื่อนมองแผ่นหลังเล็ก

    ถ้าไม่ถามก็ไม่ตอบ


    นิสัยแบบนี้แก้ยังไงก็คงไม่หายสินะ


    พรึ่บ—

    นัยน์ตาคมเบิกกว้างเล็กน้อย เสื้อคลุมหนังสีดำสนิทเหมือนเจ้าของถูกโยนมาคลุมหัว กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ติดมาด้วยแตะเข้าที่ปลายจมูก เป็นกลิ่นที่แฝงความลึกลับมากับรัตติกาลยามราตรี


    แต่ไม่ได้เย็นชา


    คุเรฮะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มองหัวหน้ากองโจรที่ถอนหายใจพลางเสยผมหน้าม้าให้ลงมาปรกหน้าผาก มือหนาหยิบชุดสูทในตู้เสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้านหลัง

    “ฮะฮะฮะ—” เป็นชาร์แน็คที่หลุดหัวเราะ เขายิ้มสดใสให้เด็กน้อยใกล้ตัวที่ทำสีหน้างงงวยเล็กน้อย “มีไม่กี่คนหรอกนะ ที่ปิดบังข้อมูลบางอย่างกับหัวหน้าแล้วเขาไม่โกรธน่ะ”

    จริง ๆ มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ...เรื่องเน็นของลูกสาวแก๊งนอสทราด ต่อให้เธอไม่บอกผลลัพธ์มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ แค่อาจมีค่าเสียเวลาน้อยลงเท่านั้นเอง

    เว้นเสียแต่มีคนคาดหวังว่าเธอจะร่วมมือด้วย

    ดวงตาสีผสมน่าดึงดูดมองเสื้อหนังในมือ -- แถมเจ้าของเสื้อเองก็ไม่ได้ดูติดใจอะไรกับการตีเนียนของเธอด้วยนี่

    “นี่ คุเรฮะ”

    “ว่า?”


    “เธอคิดว่าการ ‘ลืม’ ใครสักคนไปโดยไม่รู้ตัวมันเป็นยังไง?”


    เด็กน้อยชะงักกึก

    —อีกแล้ว

    ความเกี่ยวโยงระหว่างแก๊งแมงมุมกับความทรงจำที่ผู้เป็นแม่กดทับเอาไว้ มันคืออะไรบางอย่างที่เธอไม่เคยเข้าใจมัน บางคนอยากให้เธอนึกให้ออก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้เธอจำได้ ย้อนแย้งกันโดยสิ้นเชิง

    นัยน์ตาสีแดงเสี้ยวช้อนมองเจ้าของคำถาม แววในตานิ่งงัน

    “ไม่รู้สิ”

    ชาร์แน็คยิ้มขำราวกับรู้คำตอบอยู่แล้ว ท่าทีระรื่นราวกับกำลังคุยเรื่องลมฟ้าอากาศ แต่คำพูดที่ตามมาอีกระลอกกลับตรงกันข้าม “ว๊า อยากให้จำได้เร็ว ๆ จังน้า แค่นี้หัวหน้าก็เสียใจจะแย่อยู่แล้วเชียว”

    เสียใจ?

    เสียงเสียดสีของเนื้อผ้านำมาก่อนตัว ชายหนุ่มผมสีดำสนิทที่หน้าผากพันด้วยผ้าพันแผลปิดรอยสักเดินออกมา เสื้อสูทตัวนอกพับอยู่กับแขนข้างนึง อีกข้างถือเนคไทไว้

    คุโรโร่สบตากับคนบนเตียง “ผูกเนคไทให้หน่อยสิ”

    เด็กสาวเอียงคอนิด ๆ มุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างฉงน เรื่องง่าย ๆ แค่นั้นใคร ๆ ก็ทำได้นี่?

    เขาเอ่ยอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ

    “ผูกให้หน่อย”

    แม้จะไม่ค่อยกระจ่างเท่าไหร่ แต่คุเรฮะก็ยอมขยับตัวขึ้นมาทำตามคำขอแต่โดยดี มือคว้าสายเนคไทสีทึบคล้องคอคนตัวสูงกว่า ผูกปมตรงกลางอย่างชำนาญและชาชิน

    คุโรโร่สะบัดเสื้อสูทขึ้นมาสวม สองแขนสอดเข้าแขนเสื้ออย่างทะมัดทะแมง พอเห็นมือเล็กกว่ายื่นมาช่วยจัดปกเสื้อให้อีกทีก็ยอมยืนนิ่งให้ทำ

    มุมปากของคนเข้าใจยากหยักขึ้น ดวงตาสีดำทะมึนอ่อนลงยามมองเด็กน้อยตรงหน้า เลื่อนเก็บรายละเอียดของคนตัวเล็กกว่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    เมื่อก่อนตัวนิดเดียวเอง หัวเล็ก ๆ นั่นซุกอยู่ที่สะโพกเขาได้พอดิบพอดี ตอนนี้เธอแค่เขย่งเท้าแล้วเขาค้อมตัวลงไปอีกนิดจมูกคงแตะหน้าผากมนได้สบาย

    เลื่อนลงไปอีกนิด ดวงตาสีแดงเสี้ยวแซมทองสว่างนั่นก็เหมือนกัน มันเคยกลมกว่านี้ ไร้เดียงสามากกว่านี้

    ไร้รอยแผลเป็นฝังลึกมากกว่านี้


    แต่เขาก็ยังชอบมันไม่เปลี่ยนอยู่ดี


    ใบหน้าคมคายหันไปทางสมาชิกแมงมุมอีกฝั่ง ชาร์แน็คนั่งค้นข้อมูลเพิ่มเติม ทำเป็นไม่สนใจเขากับคุเรฮะเต็มที่

    “ฝากจัดการเรื่องคนใช้โซ่ด้วยก็แล้วกัน”

    ชาร์แน็คพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”

    ขายาวก้าวออกไปเมื่อรู้ว่ายังไงเด็กน้อยผมดำสั้นคงไม่ตามติดมาด้วย พักหลังคุเรฮะเหมือนมีเรื่องให้คิดจนไม่ได้หลบไปงีบที่มุมประจำอย่างทุกที ระหว่างที่เขาพาออกห่างจากฮิโซกะมาไว้กับชาร์แน็ค แม้จะไม่นานแต่ที่นี่ก็มีเตียงให้พร้อม

    หางตาเห็นร่างเล็กไถลหัวลงไปกับเตียงนอน ข้างกันมีเสื้อคลุมหนังของเขาวางฝากไว้


    เขาปิดประตูลง.



    ตอนแรกได้ยินว่ากอร์นและคิรัวร์จะเอาของไปประมูลในตลาดค้าของเก่าก็อุตส่าห์วางใจไปเปราะนึง พอเงาเริ่มมาแจ้งว่าเลโอลีโอแนะนำวิธีหาเงินโดยการลงไปสนามประลองใต้ดิน...ที่น่าจะมีเอี่ยวกับกองโจรเงามายา อันนี้เริ่มกุมขมับ

    คิดว่าคงไม่มีทางเอาตัวเองมาอยู่ในดงแมงมุมหรอกมั้ง


    “ขอต้อนรับสู่รังของเรา”


    ซะ-เมื่อ-ไหร่!


    คุเรฮะกำด้ามมีดสั้นในมือหักดังเปรี๊ยะ

    เบื้องหน้าคือเจ้าหมาแมวตัวยุ่งที่ถูกพวกปาคูโนด้าคุมตัวเข้ามาในรังแมงมุม เห็นว่าสะกดรอยตามมาเลยจับตัวไว้เผื่อเกี่ยวข้องกับคนใช้โซ่ ใบหน้าเหลอหลาสลับเครียดนั่นมันอะไรกัน!

    “อ๊ะ!”

    กอร์นร้องเสียงหลงยามสบตาเข้ากับคนข้างบน คิรัวร์เองก็เช่นกัน เจอฮิโซกะยังไม่ตกใจเท่าเจอยัยงูขี้เซาที่นี่ ยัยบ้านั่น—!

    ต่างคนต่างสบถในใจยามพบหน้า พวกแมงมุมสังเกตเห็นความผิดปกติของกอร์นกันหมด โนบุนากะเลิกคิ้ว

    “ทำไม? นายรู้จักใครในนี้เรอะ?”

    “อ่า...” คิรัวร์ลากเสียงยาว สอดส่ายสายตาหาข้ออ้างไปสะดุดที่หญิงสาวคนนึงในกลุ่ม เป็นชิซึคุที่นั่งอ่านหนังสือไม่สนใจใคร “อ๊ะ ผู้หญิงคนนั้นนี่นา!”

    “เธอรู้จักพวกเขาเหรอชิซึคุ?” ชายซามูไรร้องถาม

    เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาจากตัวอักษร “เปล่านี่ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

    เฟย์ตันที่นั่งข้าง ๆ กันร้องอ๋อ บอกว่าจำกอร์นได้ เจ้าเด็กที่แข่งงัดข้อชนะตอนพวกเขาเตรียมบุกปล้นงานประมูลแรกนั่นเอง

    คุเรฮะกระชับมือในกระเป๋าเสื้อโค้ทระหว่างที่พวกแมงมุมกำลังคุยกัน ตราประทับงูสีดำของเธอไม่ได้อยู่ที่ข้อมือของสองคนนั้นอีกแล้ว พวกมันเลื้อยไปซ่อนตามจุดอับสายตาที่ยากจะมองเห็นตามคำสั่งของเธอ

    ตราประทับเป็นสื่อกลางที่ทำให้เธอเทเลพอร์ตไปหาได้ แต่การจะเทเลพอร์ตคนหรือสิ่งของไปที่อื่น เธอจำเป็นต้องสัมผัสโดยตรงเท่านั้น ริมฝีปากขบเข้าหากันอย่างใช้ความคิด

    ดวงตาคมกริบเลื่อนลงต่ำ สบตากับนักมายากรที่นั่งอยู่ข้างล่างไม่ไกล ฮิโซกะเองก็กำลังเนียนไปกับแมงมุมคนอื่นอยู่ เกิดผลีผลามช่วยคนทั้งคู่แล้วโป๊ะแตกขึ้นมาจะซวยเอา

    พวกเงาเองเธอก็แค่สั่งให้จับตามองแล้วมารายงานความเคลื่อนไหว ไม่ได้สั่งให้กักกันเจ้าพวกนี้ไว้ในเขตปลอดภัยด้วย -- แต่เอาตามจริงคุเรฮะก็ไม่ได้คิดจะประคบประหงมกอร์นกับคิรัวร์ขนาดนั้น

    แค่รู้สึกเกิดคาดที่พากันหาเรื่องเสี่ยงตายเร็วทันใจขนาดนี้

    คุเรฮะอยากเอาหัวโขกเสาเหลือเกิน


    ตึง!!


    นั่นไม่ใช่เสียงหัวเธอโขกเสา แต่เป็นโนบุนากะที่แข่งงัดข้อกับกอร์นบนโต๊ะคอนกรีตเพราะเห็นชนะงัดข้อชิซึคุมา หลังมือสีแทนของกอร์นบวมช้ำจากแรงกระแทก คิรัวร์ลอบสบตากับเธอ นาทีนี้ได้แต่มองตากันแล้วสื่อสารกันผ่านทางนี้เท่านั้น


    เด็กชายตากระตุกยิก ๆ จ้องเขม็งเป็นคำถาม ‘ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่!’

    คุเรฮะเองก็อยากจะชักหัวคิ้วใส่เหมือนกัน ‘นายนั่นแหละทำไมถึงถูกจับมาที่นี่!’

    เสียงหัวเราะคิกคักของฮิโซกะที่มองอยู่อีกด้านเล็ดลอดเข้าหู เด็กสองคนหันไปถลึงตาใส่พร้อมกันพร้อมเพรียง

    ‘เงียบไปเลย!’


    ตึง!!


    สถานการ์ณเริ่มเคร่งเครียด มือของกอร์นกระแทกพื้นคอนกรีตซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเลือดไหลเป็นรอยปื้น โนบุนากะน้ำตาไหลยามเอ่ยถึงอุโบกินให้เด็กชายฟังว่าพวกเขาสนิทกันแค่ไหน และบอกว่าจะลากคอคนใช้โซ่มาชดใช้ให้ได้ ในตอนนั้นเองที่เด็กชายผมตั้งก็หลุดฟิวส์ขาด

    “ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น และต่อให้รู้ก็ไม่บอกพวกแกหรอก”

    เสียงของกอร์นเข้มขึ้น ทุกสายตารวมไปที่เด็กชายเป็นจุดเดียว “ฉันนึกว่าพวกนายจะเป็นปีศาจไร้หัวใจ แต่พอพวกพ้องตายก็อาลัยอาวรณ์เป็นสินะ...”

    จู่ ๆ ออร่ารอบตัวของเด็กชายก็แผ่ออกมา เรี่ยวแรงกลับมามากขึ้นจนงัดข้อโนบุนากะกลับ พลิกเป็นฝ่ายเหนือกว่าด้วยสีหน้าจริงจัง

    “ทำไมพวกนาย.. ถึงไม่แบ่ง... ความรู้สึกเสียใจนั่นให้กับคนที่พวกนายฆ่าไปบ้างเล่า!!!”

    กอร์นงัดข้อชนะ เสียงดังสนั่น

    ทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก ฮิโซกะทำทีพุ่งไปขู่คิรัวร์ที่ทำท่าจะขยับด้วยการเอาไพ่จ่อคอ เฟย์ตันกระโจนเข้าไปล็อกแขนกอร์นข้างนึงไว้ข้างหลัง กดหัวของเจ้าเด็กแข็งข้อลงบนคอนกรีตหยาบ

    “ตอบคำถามมา รู้จักกับเจ้าคนใช้โซ่รึเปล่า?” เฟย์ตันถามเสียงเย็น

    “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรจะบอกพวกนาย!”

    เท้าข้างนึงของคุเรฮะขยับ เตรียมพุ่งเข้าไปช่วยหากมันจวนตัวจริง ๆ -- เฟย์ตันเป็นคนที่ทรมาณคนเอาความลับได้เก่งแค่ไหนถึงจะอยู่ด้วยกันไม่นานแต่ก็รู้ดี ในตอนนั้นเองที่โนบุนากะเป็นคนหยุดทุกอย่างเอาไว้ ตามมาด้วยการถกเถียงกันที่ต้องตัดสินด้วยเหรียญสองด้านที่เป็นตราแมงมุม

    จิตสังหารพุ่งไปที่ใครบางคนอย่างเจาะจง ฮิโซกะหัวเราะในลำคอก่อนจะยอมปล่อยคมไพ่ออกจากลำคอขาว คิรัวร์สูดหายใจเข้าอย่างโล่งอก มองตัวอันตรายที่คาดเดาใจไม่ได้ที่เดินกลับไปหาเด็กสาวที่เขารู้จักดี

    คนตัวสูงยิ้มกรุ้มกริ่ม ในขณะที่ทุกคนหันไปสนใจปาคูโนด้าที่บอกว่าตรวจความทรงจำเด็กสองคนแล้วไม่เจออะไร มือหนาฉวยโอกาสปัดปอยผมด้านข้างไปทัดหูให้เด็กสาวหลุดสะดุ้งใส่

    “จ้องฉันขนาดนี้เดี๋ยวก็หอมแก้มอีกครั้งซะหรอก ♠”

    คิรัวร์ที่มองตามมาตั้งแต่แรกตาโตเป็นไข่ห่าน อ้าปากพะงาบ ๆ กับภาพที่เห็น ส่วนคุเรฮะหลุดตัวแข็งไปไม่เท่าไหร่ก็หันกลับมา คำรามเสียงต่ำในลำคอ เน้นทีละพยางค์ “ฮิ โซ กะ”

    “มือก็ได้ หอมเหมือนกัน ♥”

    มือหนาเคลื่อนต่ำทำท่าจะคว้าตามที่พูด เป็นจังหวะเดียวกับที่โนบุนากะโพล่งขึ้นมาเสียงดัง—


    “ไอ้หนู มาเข้ากลุ่มแมงมุมกับฉันเถอะ!”


    คุเรฮะตกใจเตะเข้าหน้าแข้งตัวตลกเต็มแรงด้วย ‘โค’

    ตัวตลกกระเด็นไปนู่น


    __________C H E C K M A T E__________


    กลับมาแล้วค่ะ! หลังจากสอบไฟนอลเสร็จหมีง่วงก็ไปทำค่ายของชมรมต่อยาว ๆ กลับมาบ้านก็นอนตายผสมติดเกมไปอีก อันนี้ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ แต่ก็กลับมาแร้วนะ!

    ตอนนี้นอกจากจะมีเรือนักมายากรแล้ว เรือโจรก็แง๊นตามมาติด ๆ

    ไปเชียร์กันเองนะ แฮร่

     


     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×