คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4 | ม่านหมอกในป่านูเมเล่
♚
Chapter 4
จนกระทั่งทุกคนวิ่งโผล่พ้นออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน
คุเรฮะก็ยังไม่ตื่น
“ป่าดงดิบนูเมเล่ ฉายารังนักต้มหมู เราต้องผ่านที่นี่เพื่อจะไปสนามสอบรอบที่สอง” ซาธ็อทอธิบายเมื่อประตูอุโมงค์เลื่อนปิด เป็นสัญญาณว่าไม่สามารถหันหลังกลับได้อีก
เขาเลื่อนสายตามองไปยังกลุ่มที่วิ่งออกมาข้างหน้าก่อนใคร หนึ่งในนั้นมีเด็กสาวตระกูลคราวน์ เจ้าตัววิ่งหลับมาตลอดทางโดยมีเด็กชายหมายเลข 405 จูงมือไม่ยอมปล่อย
และตอนนี้กำลังเอนหัวพิงกับไหล่คนจูงมือทันทีที่ถูกกระตุกมือให้หยุดวิ่ง ยืนเอียงแบบไม่สนใจใครไปอีก
เขากระแอมนิด ๆ อธิบายต่อ “สัตว์ป่าหายากหลายชนิดมีอยู่เฉพาะในป่านี้เท่านั้น และมีหลายชนิดที่เจ้าเล่ห์ หิวกระหาย คอยหลอกล่อมนุษย์ไปเป็นอาหาร”
“กรุณาตามผมมาและระวังตัวให้ดี ถ้าหลงกลละก็ถึงตายเชียวนะ”
“โกหก หมอนั่นมันโกหก!!”
เสียงแหกปากที่ดังขึ้นทำเอาคนหูดีเกินไปลืมตาตื่น
ใบหน้าง่วงงุนเงยหน้าขึ้นจากไหล่กอร์น ขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะเหลือบมองไปทางเสียงโวยวายนั่น
“อ๊ะ คุเรฮะตื่นแล้วล่ะ” กอร์นยิ้มให้ ไม่บ่นสักคำเรื่องถูกใช้ไหล่แทนหมอน เด็กสาวลอบแปลกใจเล็ก ๆ กับความสดใสนั่น แต่ก็พยักหน้ารับ
“เจ้านั่นเป็นตัวปลอม มันไม่ใช่กรรมการคุมสอบ ฉันต่างหากคือกรรมการตัวจริง!!”
คนตะโกนอยู่ในสภาพที่เละเทะเหมือนโดนอะไรฟัดมา บริเวณศีรษะและท้องโชกเลือด มือลากถุงใบใหญ่มาด้วย
เลโอลีโอถลาออกไป ยืนจังก้าระหว่างซาธ็อทกับคนที่อ้างตัวว่าเป็นกรรมการตัวจริง
“แล้วไหนล่ะ หลักฐานที่บอกว่าหมอนี่เป็นตัวปลอมน่ะ!?” นิ้วโป้งชี้ไปทางซาธ็อทด้านหลัง
“งั้นลองดูนี่สิ!”
คนอ้างโยนถุงนั่นมาข้างหน้า สิ่งที่อยู่ข้างในกระเด็นออกมา มันคือมนุษย์วานรที่หน้าตาคล้ายไปทางซาธ็อท
คุเรฮะมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของกรรมการที่หน้าตาเหมือนกับลิงในป่านูเมเล่ขนาดนี้
“มนุษย์วานรชอบกินเนื้อมนุษย์สด ๆ แต่ตัวเองอ่อนแอปวกเปียก ก็เลยใช้วิธีปลอมตัวเป็นมนุษย์ แต่งเรื่องโกหกหลอกคนเข้าไปในป่า แล้วรวมหัวกับสัตว์อื่น ๆ ช่วยกันจับไว้ทั้งเป็นแล้วเอาไปกินเป็นอาหารไง ไอ้หมอนี่แหละ!!” คนเจ็บสะบักสะบอมชี้นิ้วใส่หน้ากรรมการซาธ็อท
“แต่จะว่าไปแล้วฉันเองก็สังหรณ์ใจอยู่เหมือนกัน” ฮันโซ นินจาหมายเลข 294 พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง โดยมีลูกคอรับเป็นเลโอลีโอ
“นั่นน่ะสิ ตั้งแต่อยู่ในอุโมงค์นั่นแล้ว สงสัยอยู่แล้วเชียวว่าทำไมถึงวิ่งเร็วเกินกว่ามนุษย์”
(เปล่า นั่นพวกเอ็งกากไงเลยช้า)
หมู่คนเริ่มเคลื่อนไปทางกรรมการที่พาวิ่งมาตั้งแต่เริ่มการสอบ ซึ่งเจ้าตัวก็เอาแต่ยืนนิ่งไม่ทุกข์ร้อนอะไร
“นี่มันเป็นการทดสอบฮันเตอร์จริง ๆ น่ะเหรอฮะ?”
เพราะกอร์นเอ่ยในสิ่งที่คิดออกมาผู้เข้าสอบจึงพากันหยุดชะงัก เลโอลีโอทวนคำพูดนั่น “การทดสอบเรอะ!?” แล้วกระดึ๊บมาป้องปากถามคนข้างกอร์นเนียน ๆ
“คุเรฮะ เธอรู้ใช่ไหม เหมือนตอนที่เธอใช้เซนส์ในมิติลวงตานั่นน่ะ”
ไอ้รู้น่ะใช่ แต่— “นั่นไม่ใช่เซนส์” เด็กสาวตอบหน้าตาย
“และถ้าหากว่าเป็นกรรมการตัวจริง ก็ต้องมีใบอนุญาตเป็นฮันเตอร์สิ” คุราปิก้าเอ่ย ความคิดนี้มีคนให้ความสนใจไม่น้อย
“จะไปมีได้ยังไงเล่า! ก็ไอ้หมอนั่นมันตีฉันจนสลบแล้วแย่งใบอนุญาต—”
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
อาวุธสังหารรูปแบบไพ่พุ่งเข้าใส่ทั้งผู้แอบอ้างและกรรมการตัวสูง แน่นอนว่าซาธ็อทผู้เป็นตัวจริงรับไพ่ที่ปามาได้ ส่วนอีกคนนึงกลายเป็นศพต่อหน้าผู้คนนับร้อ
ไพ่ปักหน้าตายในทีเดียว
“อ้อ งี้นี่เอง ๆ~” มือกรีดไพ่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ด้านนั้นคงเป็นตัวจริงงั้นสินะ ♣”
ซาธ็อทปล่อยไพ่ที่จับไว้ได้ทันลงพื้น ใบหน้าที่อ่านอารมณ์ไม่ออกมองตรงไปที่ฮิโซกะ นักมายากรผู้ลงมือปิดฉากในครั้งนี้พูดจ้อไปเรื่อย
“กรรมการคุมสอบฮันเตอร์คือฮันเตอร์ที่อาสามาช่วยโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน พวกฮันเตอร์ที่พวกเรากระสันจะเป็นน่ะ ต่อให้เป็นชั้นปลายแถวก็คงไม่ห่วยถึงขนาดป้องกันการจู่โจมแค่นั้นไม่ได้หรอก จริงไหม?”
ดวงตาเรียวหยีขึ้นขณะเลื่อนมองไปที่กลุ่มของกอร์น คุเรฮะที่ถูกลอบโจมตีด้วยไพ่ใบเดียวหรี่ตาจ้องตอบ
เคลือบไพ่ด้วย ‘อิน’ แล้วปามาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น นี่ถ้าเธอไม่ได้กาง ‘เอ็น’ รอบตัวตลอดเวลาคงโดนไพ่นั่นปักแขนเข้าให้
เกลียดความหยอกเล่นทีเผลอนี่จริง ๆ …
“คำชมเมื่อสักครู่ขอรับเอาไว้ แต่ว่า” ผู้เป็นกรรมการคุมสอบเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าคิดเล่นงานผมอีกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะถือเป็นการแสดงความกระด้างกระเดื่องต่อกรรมการและจะถูกปรับตกโดยทันที เข้าใจนะครับ”
“คร้าบ คร้าบ ♥”
บรรยากาศเริ่มกลับมาสงบ พวกฮันโซที่ทึกทักอย่างมั่นใจว่าซาธ็อทเป็นตัวปลอมพากันหัวเราะกลบเกลื่อนเศษหน้าที่แตกยับ ส่วนระหว่างนั้นดวงตาสีน้ำตาลแซมอำพันใสแจ๋วก็หันมาสบตากับเธอ
“คุเรฮะเองก็คิดจะทำแบบเดียวกับฮิโซกะเหรอ?” กอร์นเผลอเห็นเข้าพอดี ตอนที่คนข้างกายหยิบมีดสั้นออกมาจากเสื้อโค้ท แต่สุดท้ายก็เก็บไปเมื่อนักมายากรชิงลงมือก่อน
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่” คุเรฮะเอียงคอ
ฉึก!
“คุเรฮะ!” เป็นคุราปิก้าที่อุทานตกใจ
ไพ่ที่ตัวตลกให้มาถูกปาปักหัวลิงหน้าคนที่กำลังกระโดดหนีตายคาที่ ไม่แม้แต่จะหันไปเล็งเป้า สายตาของเด็กสาวยังคงจ้องตากลม ๆ ด้านหน้าไม่ห่างไปไหน
แค่ลองทดสอบดูเท่านั้น
ตอนแรกเธอคิดว่าเด็กที่ดูใสซื่อแบบกอร์นน่าจะรับไม่ได้กับการฆ่าคน อาจจะถามเพราะกลัว ระแวง ไม่ไว้ใจ และตีตัวออกห่างจากเธอเพราะรังเกียจหรือหวาดกลัว
แต่—
“เค้าวิ่งไปกันแล้ว เราเองก็ไปกันเถอะคุเรฮะ!”
ผิดคาดที่เด็กชายเพียงแค่มองตาปริบ ๆ ราวกับถามไม่จริงจังพร้อมยื่นมือมาให้เธอ คุเรฮะเลิกคิ้ว ก่อนจะเป็นฝ่ายถูกจับมือแล้วพาออกวิ่งอีกครั้งนึง
ใบหน้าเรียบนิ่งก้มลงมองมือที่ถูกกุมไว้
ดวงตากลมนั่นไม่มีอะไรแอบแฝง น้ำเสียงที่ได้ยินก็ไม่ได้โกหก เสียงหัวใจที่ได้สัมผัสได้จากมือเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ อีกทั้งฝ่ามือที่จับไม่ปล่อยยัง---
…อุ่น
เสียงหัวเราะคิกคักในลำคอเรียกให้เงยหน้าจากมือขึ้นไปมอง กอร์นมองท่าทีของเธอแล้วยิ้มกว้างให้
“ที่ถามไปน่ะ บางทีก็รู้สึกเหมือนฉันเข้าใกล้คุเรฮะได้อีกนิดนึงเลยเนอะ”
“…”
โทรศัพท์ไร้สายมีคลื่นให้ได้ยิน คนปลายสายกำลังฟังแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงเล็ก ๆ ที่เจ้าของเสียงไม่มีทางได้ยินมัน
เสียง… ของตัวหมากรุกที่เริ่มขยับ
♚
หลังจากพากันวิ่งเข้ามาในเขตป่าจอมต้มหมู กอร์นก็มองไปรอบๆ โดยมีคิรัวร์และคุเรฮะวิ่งอยู่ข้าง ๆ ส่วนพวกคุราปิก้าวิ่งห่างไปอยู่ท้ายแถวได้ยังไงก็ไม่รู้
“เอ๊ะ หมอกนี่นา?”
“กอร์น ไปข้างหน้าอีกหน่อยกันเถอะ” คิรัวร์เริ่มขมวดคิ้ว
“อื้อ ถ้าเกิดคลาดกับกรรมการพวกเราต้องแย่แน่เลย”
“และที่สำคัญนะ อยู่ห่าง ๆ ฮิโซกะไว้ก็ดี” ดวงตาสีฟ้าครามเหล่มองเด็กสาวที่ปิดปากหาวอยู่ใกล้กัน เหลือเชื่อเลย เข้ามาในป่าอันตรายแบบนี้ยังจะง่วงอยู่ได้
เขาเอ่ยต่อ “หมอนั่นน่ะมันกำลังกระหายอยากจะฆ่าคน— เฮ้ ฟังอยู่รึเปล่ายัยขี้เซา!”
“อา…”
ดวงตาสีผสมปรือมองง่วงๆ ดูเหมือนเธอจะตกอยู่ในวงล้อมจิตสังหารซะแล้วสิ แค่งีบหลับไปแปปเดียว เจ้าพวกน่ารำคาญนี่ก็อาศัยช่องโหว่วางแผนล่าคราวน์กันแล้วเรอะ
ยั้วเยี้ยจริง คนจะหลับจะนอน
“ถ้าหมอกหนาเมื่อไหร่ เจ้าฮิโซกะลงมือแน่นอน” คิรัวร์หัวเราะขำเมื่อเห็นแววตาลูกหมาสงสัยของคนข้าง ๆ “ทำหน้าสงสัยว่าฉันรู้ได้ยังไงใช่มะ? หึ ดมดูก็รู้”
“ดมดูเหรอ?” กอร์นทำจมูกฟุดฟิด
“ใช่ เพราะฉันกับหมอนั่นเป็นคนประเภทเดียวกันยังไงละ แต่ฉันน่ะตีหน้าซื่อ แกล้งทำเป็นไร้เดียงสา คุเรฮะเองถึงจะทำหน้าตายไม่รับรู้อะไรแต่ก็พอ ๆ กันนั่นแหละ ฉันพูดถูกไหมล่— เฮ้ย กอร์น”
เด็กชายผมเงินสะกิดกอร์นยิก ๆ เมื่อหันมาหาแนวร่วมแล้วดันเจอแต่หมอกสีขาวมัว พอกอร์นมองตามสายตาก็หลุดตาโต มือที่จำได้ว่าจับเด็กสาวไว้ไม่ปล่อยตอนนี้ว่างเปล่า
แย่แล้ว! คุเรฮะหาย!!
“คุเรฮ้า—!!”
“หืม…”
คนถูกเรียกหาหันขวับไปมองตามเสียง ดูเหมือนเจ้าพวกนั้นจะรู้แล้วสิว่าเธอหายไป คงต้องเร่งมือก่อนที่หมอกจะบางลงกว่านี้
มือบิดคอคนข้างใต้ร่างหักดังกร๊อบ ก่อนจะกระโดดออกจากบ่าคนตายขึ้นไปด้านบน
แล้วหายวับไป— อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงรัวกระสุนดังลั่นป่า ปะปนไปกับเสียงกรีดร้องและเสียงต่อสู้ของผู้เข้าสอบที่ถูกสัตว์ร้ายเล่นงานกันไปเป็นแถบ คนที่ลั่นไกยิงอยู่ในสภาพเสียขวัญ ดวงตาถลนกระสับกระส่ายมองไปรอบตัวอย่างระแวง
ปัง!
“ออกมาสิวะ! ไอ้พวกนักฆ่าขี้ขลาด!” เขาตะโกนจนลูกคอจะแตก เหงื่อไหลท่วมจนเนื้อตัวเปียกแฉะ “หึ ไม่แน่จริงนี่หว่า ก็อย่างว่าละนะ โดนล่าเพราะมีค่าหัวแถมยังมีดวงตาสีผสมที่หายากอีก จะกลัวจนหัวหดก็ไม่แปลก”
คนพูดเองก็ขาสั่นระริก กระบอกปืนล่าสัตว์ส่ายเล็งไปมา หมอกที่หนาทำให้เห็นเงาคนและต้นไม้สลับกันไปมาจนตาลาย
ตั้งแต่เห็นคราวน์โผล่มาตอนอุโมงค์ระเบิด คนที่ตั้งเป้าจะเป็นฮันเตอร์นักล่าฆ่าหัวก็เล็งเป้าล่ากันเรียบร้อยแล้ว บางพวกก็ร่วมมือกันหารส่วนแบ่งก็มี
ช่วยไม่ได้ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ---
“หนวกหู”
เสียงดังเยื้องมาจากข้างบน ยังไม่ทันได้ยกปืนขึ้นยิงหน้าก็หงายโครม ฝ่าเท้าเล็ก ๆ แต่แรงมหาศาลกระแทกเข้าที่กลางหน้าอย่างจงใจจนสันดั้งแตก ลามไปถึงกรามบนที่แหลกยับ
ผู้ถูกล่าที่กลายเป็นผู้ล่าซะเอง โถมแรงเข้าใส่ศัตรูที่ชีวิตถึงฆาตเฉียบพลัน ร่างชายตัวใหญ่ล้มตึงลงไป คุเรฮะที่ใช้เท้ากดหัวและลำตัวเหยื่อให้กลายเป็นกระดานจำเป็นลื่นไถลไปกับโคลน หลบสิ่งกีดขวางไปมา ตรงไปตามทิศของเสียงที่เรียกหาเธออยู่แว่ว ๆ
“โอ๊ะ แบบนี้ก็ไม่เลวนี่”
“อะไรไม่เลว นี่ลูกเล่นอะไรอยู่” เสียงพ่อแทรกมา คุเรฮะตอบเสียงเรียบ
“เล่นสเก็ตบอร์ด”
ก่อนจะกระโดดขึ้นไปข้างบน และ— หายไป ทิ้งให้ร่างไร้วิญญาณไถลไปกระแทกหินก้อนใหญ่ตรงหน้า กลายเป็นซากให้สัตว์น้อยใหญ่มารุมกินไปโดยปริยาย
“กอร์นล่ะ?”
“เฮ้ย! ตกใจหมดเลยยัยบ้า!”
คิรัวร์แวดใส่ ตกใจที่คนหายโผล่มาวิ่งใกล้ ๆ ไม่พอ ยังตกใจที่ตัวเองจับสัมผัสของคุเรฮะไม่ได้อีกต่างหาก คราวน์นี่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ แบบนี้กันทุกคนรึเปล่าเนี่ย!
คุเรฮะทำหน้าตายใส่คำด่ามุ้งมิ้งนั่น เธอถามอีกครั้งเมื่อกวาดสายตาแล้วไม่เจอเด็กชายดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้ “หลงกับกอร์นเหรอ?”
เด็กชายสบถอย่างไม่สบอารมณ์นัก ขณะเปลี่ยนจากวิ่งสองเท้ามาเป็นขี่สเก็ตบอร์ดแทน “ชิ เจ้าบ้านั่นย้อนกลับไปตามเสียงร้องของเลโอลีโอกับคุราปิก้า พวกนั้นน่าจะโดนเจ้าฮิโซกะเล่นงานเพราะเห็นอยู่ใกล้ ๆ กัน บ้าบอ!”
เจ้าของดวงตาคมมองใบหน้าเซ็ง ๆ ของคิรัวร์ ก่อนจะเลื่อนลงมองฝ่ามือขาวที่ยื่นมาให้
“จะจับไหมล่ะ? เผื่อเธอวิ่งหลับอีกไง”
“…” เธอกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับโดยไม่เอ่ยอะไร ฝ่ามือของคิรัวร์แม้จะไม่เท่ากอร์น แต่ก็อุ่นกว่าตัวเธอหลายเท่านัก
“ตัวเย็นชะมัด เหมือนงูเลย” คนเริ่มจับมือวิจารณ์ว่างั้น
“จะปล่อยเด็กนั่นไปอย่างนี้งั้นหรือ” เสียงคนปลายสายแทรกขึ้นมา คุเรฮะมองตรงไปข้างหน้าราวกับไม่ได้ยินคำถามนั้น
กอร์นจะตามมาได้หรือไม่ได้มันไม่ใช่เรื่องของเธอนี่ นี่คือการสอบ ใครพลาดขึ้นมาก็ตกเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องของเธอที่ต้องไปใส่ใจอะไรเลย
‘บางทีก็รู้สึกเหมือนฉันเข้าใกล้คุเรฮะได้อีกนิดนึงเลยเนอะ’
ไม่เห็นจะต้อง…
“ตามกอร์นไป เชื่อพ่อสิ”
คุเรฮะกระตุกมือ เด็กชายที่กำลังขี่สเก็ตบอร์ดไล่เลี่ยกันหันหน้ามาทำหน้าสงสัย ก่อนจะตาโตเมื่อเธอเอ่ยสั้น ๆ ปล่อยมือออก แล้วถอยหลังวิ่งหายไปกับหมอกหนา
“แล้วเจอกัน”
“เดี๋ยวสิ เธอเองก็เป็นไปกับหมอนั่นด้วยเรอะ!!”
-----
ภาพที่เห็นทันทีที่ตามมาเจอคือเลโอลีโอโดนต่อยซะปลิว ควงสว่านสองรอบแล้วนอนหงายเก๋งไม่เป็นท่า ส่วนกอร์นร้องตกใจแล้วพุ่งเข้าไปฟาดคันเบ็ดใส่ฮิโซกะไม่เว้นจังหวะ
แต่แค่เบ็ดคันเดียวจะไปทำอะไรนักมายากรได้
หมับ!
“คิดจะมาช่วยเพื่อนงั้นเรอะ? เป็นเด็กดีนี่นา ♣️”
ร่างสูงบีบคอเด็กชายยกขึ้นไม่ต่างจากเลโอลีโอในตอนแรก กอร์นดิ้นสุดแรง ขาพยายามเตะผู้ล่าตรงหน้าให้ปล่อย เขาร้องอึกอักในลำคอหวังตะกายหาอากาศหายใจ
“อึก!”
“หึ ๆ สีหน้าแบบนี้ฉันละชอบจริง ๆ ❤”
บุรุษตัวตลกยิ้มแสยะ ดวงตาเรียวหยีขึ้นเป็นโค้งพระจันทร์เสี้ยว ปลื้มปริ่มกับการดิ้นรนหาทางรอดให้ชีวิต
พอเด็กชายเริ่มจะหมดลมหายใจเขาก็ค่อย ๆ ผ่อนแรงลง และในจังหวะที่ปล่อยให้กอร์นร่วงลงจากมือ รูม่านตาเขาก็ขยายขึ้นเมื่อรับรู้ได้ว่ามีอะไรกำลังเข้ามาประชิดตัวในระยะที่---
ปัง!!
ลูกกระสุนเงินบี้แบนตกลงบนพื้นหญ้า คุเรฮะที่จู่ ๆ โผล่มาใช้ขาเกี่ยวกระหวัดคอตัวตลกจ่อปืนข้างขมับ ควันจาง ๆ ที่ออกมาจากกระบอกปืนบ่งบอกว่าเธอลั่นไกใส่ตัวอันตรายนี่ไปแล้วจริง ๆ
“เห... ดีเลย์ไปหน่อยนะ คุ เร ฮะ ♥️”
“อ้าว…เหรอ”
คุราปิก้าที่ย้อนกลับมาจากการหนีไปคนละทางตะโกนลั่น “คะ— คุเรฮะ มันอันตรายนะ ลงมาจากคอหมอนั่นเร็ว!!”
คนโดนขี่คอฉับพลันหัวเราะในลำคอกับคนผมทองสั้น เขากล่าวอย่างไม่แยแสอะไรนัก “นายเองก็ย้อนกลับมาเหรอเนี่ย ไม่เลว ๆ ~ สรุปว่าสิ่งที่สำคัญกับพวกนายก็คือมิตรภาพสินะ ♠️”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดสถานการณ์กระอักกระอ่วน ฮิโซกะล้วงออกมาคุยสองสามคำแล้ววางสายไป เขาตบหน้าขาเด็กที่ขี่คอแปะ ๆ เป็นสัญญาณว่ายอมลามือแล้ว คลายแรงรัดคอออกซะที
“แปลกใจนะเนี่ยที่เห็นเธอตามมาด้วย ♦️”
คุเรฮะปิดปากหาวจนน้ำตาเล็ด ไม่กลัวและไม่สนใจประโยคที่พูดด้วยสักเท่าไหร่ ในเมื่อหมอนี่ไม่คิดทำอะไรแผลง ๆ เธอก็ไม่จำเป็นต้องลงมืออะไรอีก
ฮิโซกะเดินไปโน้มตัวยกเลโอลีโอที่นอนสลบชักแหง่ก ๆ ขึ้นมาพาดบ่า “เดี๋ยวฉันพาเด็กขี้เซาคนนี้ไปส่งสนามสอบพร้อมกับเพื่อนเธอเอง ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้ฆ่าเขาหรอก ก็สอบผ่านกันแล้วนี่นา~”
บุคคลผู้ตั้งตัวเป็นผู้คุมสอบเสียเองในทีแรกยิ้มให้กอร์น
“เธอเองก็สอบผ่าน เป็นฮันเตอร์ที่ดีให้ได้นะ ♣️”
กอร์นหอบหายใจ มองตามเด็กสาวผู้ขี่คอตัวอันตรายไปจนลับสายตา สำหรับเขา ไม่ว่าจะเป็นฮิโซกะหรือคุเรฮะ ทั้งคู่ต่างเป็นคนแปลกประหลาดที่เขาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลย
♚
“ไม่นึกว่านายจะเสียทีให้เด็กด้วย”
เด็กสาวเอียงตัว มองรอยช้ำถลอกบนขมับของนักมายากร เห็นว่าได้มาจากคันเบ็ดของกอร์นที่ฟาดมาทีเผลอนี่แหละ
ตอนแรกเธอกะจะมาตามดูกอร์นเฉย ๆ แม้จะมือลั่นแทรกเข้าไปตอนเด็กนั่นทำท่าจะเป็นจะตายนิดหน่อย แต่ในเมื่อตอนนี้เห็นว่าเจ้าตัวน่าจะหาทางกลับมายังสนามสอบเองได้ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจให้ตามอีกแล้ว
เกาะหมอนี่ไปรอดูที่สนามสอบเลยดีกว่าว่ากอร์นจะมาถึงสนามสอบรอบ 2 ได้ทันเวลาไหม
“เธอเองก็ใช่ย่อย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่า วูบ อีกแล้วน่ะ ♦️”
(ทำไมต้องเน้นคำว่าวูบ…)
คนถูกจับได้ทำเมินคำพูดนั้นไปเรื่องอื่น “นี่เดานะ… นายสายเปลี่ยนแปลง?” เอ่ยพลางเหยียดแขนเหยียดขาเล็กน้อย ก่อนจะซุกหน้าลงบนก้อนผมสีฮอตพิ้งค์ เตรียมนอนงีบระหว่างเกาะคอคนตัวสูงไปตลอดทาง
เธอเดาเอาจากนิสัยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเหมือนคนบ้าของหมอนี่ แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงเป็นเมนส์แบบนี้ น่าจะสายเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ
“ปิ๊งป่อง ถูกต้องจ้า ❤” เจ้าตัวดีดนิ้วดังเป๊าะ “งั้นฉันเดาบ้าง เธอสายแผ่พุ่งสินะ~”
เขาจำได้แม่น จู่ ๆ เด็กนี่ก็โผล่ขึ้นมาจากด้านบนอย่างรวดเร็วแล้วกระโดดเกาะคอเขา กะเอาจากสายตาแล้วน่าจะเป็นสายเน็นที่เน้นความเร็วในการเคลื่อนที่
ก่อนจะกะพริบตาเมื่อได้สัมผัสได้ถึงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอจากเด็กด้านบน มาเร็วไปเร็วเหมือนเคย ทำเมินคำถามเขาไปอีก มันน่า---
เขาดีดไพ่ใส่คนหลับ พริบตานั้นมีดสั้นปักเข้าไพ่ดังฉึก!
ฮิโซกะหัวเราะ —มันน่าแหย่จริง ๆ ให้ตายสิ!
__________C H E C K M A T E__________
เห็นคนคอมเม้นว่าพ่อไม่มีงานทำเหรอมานั่งคุยกับลูกแล้วขำพรืด--- แถมกว่าบทอธิบายเรื่องนี้จะโผล่ก็อีกหลายตอน นั่งขำคอมเม้นวนไปค่ะ 55555
ความคิดเห็น