ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ FIC] !!! SLAM DUNK !!! (KIHAE)

    ลำดับตอนที่ #4 : III Slam Dunk III ...4...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.24K
      18
      18 ม.ค. 52




    Slam Dunk ...4...





    “ เอาจริงดิ!!! ” เสียงถามสูงปรี๊ดไม่ใช่ของใครอื่นไกล


    ทงเฮเบิกตากว้าง หลังจากที่ฟังแผนการพิลึกพิลั่นของพี่ชายจนจบโดยมียุนโฮยิ้มรับอย่างมาดมั่น ^^


    “ จริง! ” เสริมความมั่นใจให้น้องชายด้วยการพยักหน้าแรงๆอีกสองสามที


    “ ชั้นว่าไม่เวิร์คหรอก เฮียคิดแผนใหม่เหอะ ”


    “ แผนนี้แหละ เวิร์คสุดๆแล้ว เชื่อเฮียสิ ” ตบอกผ่างๆให้รู้และมั่นใจได้ว่าแผนของพี่ชายคนนี้ไม่มีผิดพลาดหรอกไอ้น้อง เพราะเฮียแกขอการันตีด้วยตำแหน่งสามีคิมแจจุงเลยเอ้า!



    ...ถ้าไม่สำเร็จจะไม่ขอเป็นสามีคิมแจจุงอีกต่อไป!!! (แต่จะผันตัวไปเป็นภรรยาแทน -*-)



    “ เฮียคิดว่าชั้นเหมือนพวกผู้หญิงหรือไง ถึงคิดว่าชั้นจะอ่อยหมอนั่นขึ้นน่ะ ” ทงเฮถามเคืองๆ ตามด้วยกริยาเบ้ปากประจำตัวแบบที่คนฟังอยากจะพยักหน้ารับเหลือเกินว่าทงเฮ น่ะไม่ใช่เหมือนธรรมดา.....



    ...แต่โคตรเหมือนเลยต่างหากล่ะ ไอ้น้องเอ้ยยย!



    “ คืองี้นะ... ” ยุนโฮตั้งท่าพูดอย่างจริงจัง “ เหมือนไม่เหมือนมันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก ”


    “ ........ ”


    “ มันขึ้นอยู่กับลีลามากกว่า~ ”ทงเฮย่นคิ้ว ชักจะตงิดๆกับคำพูดคำจาของพี่ชาย



    นี่เค้าไม่ได้กำลังจะไปชวนคิมคิบอมขึ้นเตียงนะ ไอ้พี่บ้า!! ... ลีลงลาอะไรกันเล่า!!!!! =[]=



    “ ชั้นไม่เอาด้วยหรอกวิธีนี้ ” คนตัวเล็กดึงดันไม่ยอมท่าเดียว


    “ อะไรกัน ...อีทงเฮที่เฮียรู้จัก ไม่มีวันยอมแพ้ง่ายแบบนี้นี่นา~ ” ยุนโฮแสร้งปรามาส เพราะรู้นิสัยน้องตัวเองดีว่าเกลียดการดูถูกขนาดไหน


    “ อะไรกัน.......ชั้นไม่ได้.... ” ริมฝีปากอิ่มแดงถูกขบเม้มแล้วคลายออก


    “ เฮียไม่เข้าใจหรอกว่าแผนนี้มันไม่มีทางใช้กับหมอนั่นได้หรอก! ” ทงเฮเฉไฉโดยการโทษคิบอมว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนตัวเล็กไม่กล้า…


    “ ไม่ลองไม่รู้นี่เนอะ ” ยุนโฮยักไหล่ แต่นัยสำคัญของประโยคที่พูดก็ยังคงพยายามหว่านล้อมให้ทงเฮเห็นดีเห็นงามไปกับแผนของตนอยู่ดี


    เพราะนอกจากที่จะช่วยให้ทงเฮบรรลุความตั้งใจที่จะเอาคิบอมเข้าชมรมแล้ว บางทีแผนของยุนโฮอาจทำให้คนตัวเล็กรู้สึกตัวขึ้นมาเสียทีว่า



    ...........ตัวเองน่ะแมนไม่ขึ้น!!!!!!



    “ แต่ถ้าทงเฮทำไม่ได้ เฮียก็ไม่บังคับทงเฮหรอกนะ ” มือใหญ่เอื้อมมาลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลนิ่มอย่างรักใคร่ มองดูเสี้ยวหน้าที่คล้ายคลึงตัวเองแต่เฉียดไปทางสวยน่ารักมากกว่าหล่อเข้ม แบบตน แล้วลอบอมยิ้มอย่างหฤหรรษ์


    “ ชั้น... ” ทงเฮทำหน้ายุ่ง ความคิดสองฝ่ายต่อต้านกันเองในใจ พัวพันยุ่งเหยิงจนไม่รู้ว่าจะเชื่อฝ่ายไหนดี


    “ เฮียว่ามันจะดีจริงๆเหรอ? ” ถามย้ำเพื่อความชัวร์อีกครั้ง และได้รับคำตอบเป็นอาการผงกหัวขึ้นลงของผู้เป็นพี่ พร้อมกับคำพูดยืนยันหนักแน่นที่ว่า....




    “ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่า แผนการของชองยุนโฮอีกแล้วล่ะ ...อีทงเฮ~ ”




    *+*+*+*+*+*+*+*+*




    “ วีดวิ้ววววว~ ”

    “ คนสวยไปไหนคร้าบบบบ อยากได้คนเดินไปเป็นเพื่อนมั้ยเอ่ย???? ”

    “ หรือถ้าไม่ต้องการเพื่อน ...เราก็พร้อมจะเป็น ‘สามี’ คุณนะคร้าบบบบ ฮิ้ว~~ ”




    =_____=’’



    คนสวยที่โดนแทะโลมมาตั้งแต่หน้าปากซอยบ้านยันหน้าโรงเรียน พยายามทำหูทวนลมไม่สนใจเสียงเห่าหอนของไอ้พวกปากสุนัข ช่วงขาที่ถูกตราหน้าว่าสั้น!! รีบก้าวให้เร็วและยาวขึ้น เพื่อให้ทงเฮผ่านพ้นสถานการณ์ที่ทำให้กำปั้นและฝ่าเท้าของเค้าเกิดอยากทำงาน ขึ้นมากะทันหัน แต่ดูท่าคงไม่ได้ผลเท่าไหร่



    “ กินยาผิดมารึเปล่าเอ่ย? ทำไมวันนี้ อีทงเฮถึงได้ส๊าว สาว ”

    “ เลิกแอ๊บแมน เพราะวันนี้วันพระหรือเปล่าคร้าบบบบบ~ ”




    .......ถ้าวันนี้วันพระ กุก็อยากจะฆ่าคนล่ะวะ!!!!!!



    ทงเฮหันกลับไปจิกตามองพวกปากไม่สร้างสรรค์ด้วยสายตาอาฆาตแค้น แต่นางฟ้าน้อยในใจกลับกระซิบเตือนให้ทงเฮปล่อยวาง เพราะไม่งั้นไอ้สิ่งที่เค้าพยายามทำมาทั้งหมดเพื่อวันนี้ อาจพังทลายได้ในพริบตา


    “ เออ....จะยกให้สักครั้งเพราะเป็นวันปล่อยผีหรอกน่า~ ” คิดปลอบใจตัวเอง ก่อนจะรีบก้าวยาวๆต่อไป เพื่อให้เข้าตึกเรียนได้เร็วขึ้น



    ...แล้วทำไมสนามโรงเรียนมันถึงกว้างจังวะเนี่ย!!!!



    “ อู้ย~ มีตวัดตามองค้อน จริตจก้านมารยา น่ารักชิบ!! ”


    หนอยแน่ะ!! มันยังมีหน้ามีตีความหมายสายตาของทงเฮว่า ....มองค้อน!!!!
    ร่างบางเริ่มหลับตานับหนึ่งถึงร้อยในใจ ไม่อยากจะด่าให้เสียปากแต่มันก็เริ่มอดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ





    ทำไมล่ะ...?


    วันนี้ทงเฮก็แค่ถูกเฮียจับหวีผมเซ็ตทรงให้หล่อน้อยกว่าเดิมนิดหน่อย เพราะทุกทีทงเฮตื่นมาทรงไหนก็จะออกไปเรียนทรงนั้น แถมด้วยแก้มใสที่ธรรมดาก็ไม่เคยทำอะไรกับมันหรอก แต่เช้านี้เฮียยุนเค้าจัดการประแป้งเด็กกลิ่นหอมฉุยลงบนแก้มขาวๆของทงเฮให้ ดูนวลเนียนกว่าทุกวันนิดนึง



    แค่นั้นเอง........!!!!!



    แล้วไอ้พวกนั้นมันจะแซวหาสวรรค์วิมานอะไร!??
    มันก็แค่อีทงเฮไม่ ‘หล่อ’ เหมือนทุกวันเท่านั้นนี่นา~!!

    " อยากได้มาเป็นแม่เว้ย ”

    “ แม่อะไร? ...มารดามึงเรอะ!? ”

    “ สัด! สวยๆอย่างนี้ต้องแม่ทูนหัวต่างหาก กิ๊บกริ้วววว~~ ”


    รับส่งมุกจีบหนุ่มหน้าหวานกันอย่างลื่นไหล บวกกับเสียงที่เพิ่มเดซิเบลความดังขึ้นเรื่อยๆ มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่คนตัวเล็กจะไม่ได้ยินมัน


    แก้มนวลขึ้นสีจัดเพราะทั้งโกรธทั้งอาย ยิ่งเหลือบมองนักเรียนคนอื่นๆที่มองมาทางตัวเองแล้วอมยิ้มขำขัน แก้มของทงเฮก็ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่!


    “ ฮึ่ย~ ไอ้พวกบ้า!!! ”


    ปากจิ้มลิ้มขมุบขมิบด่าในขณะที่ก้มหน้าเดินงุดๆ


    ใช่ว่าอีทงเฮจะไม่เคยโดนแซวแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่โดน ทงเฮก็จะหันไปวิ่งไล่เตะพวกปากสุนัขให้ได้แผลกันคนละแผลสองแผล พอหายโมโหก็ค่อยเดินกร่างๆเข้าตึกไปอย่างนักเลงหัวไม้


    แต่นี่คงเพราะเห็นทงเฮไม่เอาเรื่องสินะ ถึงได้กล้าพูดหมาๆได้ยืดยาวขนาดนี้
    ถึงเฮียจะบอกว่าให้ทงเฮทำตัวน่ารักเรียบร้อยก็เถอะ



    ...แต่ปากอย่างนั้น เดี๋ยวจะได้รู้ฤทธิ์ของอีทงเฮมั่งล่ะ!!!!!



    “ ไอ้ชาติหมา! ไม่เห่าสักวัน มันจะลงแดงตายหรือไงวะ!!! ” คนตัวเล็กหันไปตะโกนด่า คิดว่าจะทำให้กลุ่มอนุรักษ์สุนัข(ไว้ในปาก)กลัวจนหัวหด



    แต่.............



    “ !!!!!!!!!! ”



    ริมฝีปากสีสดที่ตั้งใจจะด่าจนกว่าอีกฝ่ายจะหูหนวกไปข้างอ้าค้าง นัยน์ตาเรียวรีเบิกกว้าง ทันทีที่หันหลังกลับไปเห็นหน้าของคนที่เดินตามมาข้างหลังในระยะประชิด และจมูกรั้นๆของทงเฮก็ห่างจากปากแดงๆของคนตัวสูงกว่าไม่ถึงคืบ!




    ตายห่า!!!!!!!
    คิมคิบอม!!!!!!!!!!!!





    “ อ่า... ” ก็รู้ตัวอยู่หรอกนะ ว่าส่งเสียงแปลกออกไปในอีกคนได้ขำเล่น แต่ดูเหมือนว่าคิบอมคงจะเป็นพวกตายด้านในเรื่องอารมณ์ต่างๆ เพราะใบหน้าที่ทงเฮเห็นมันไม่ได้แปรเปลี่ยนจากคำว่าเสถียรแต่อย่างใด


    “ หลบ.. ” สั้นๆง่ายๆได้ใจความสุดๆ คิบอมพูดมาคำเดียวก็สื่อความหมายโดยรวมได้แล้วว่า...ทงเฮเกะกะ!


    “ ก็เดินไปตรงอื่นซะเซ่~ สนามออกจะกว้าง ไม่เห็นหรือไง?? ”


    ปากมันพาให้พูดไปแบบนั้น ทั้งที่หากทำตามแผนของผู้เป็นพี่แล้ว ทงเฮจะต้องทำตัวอ่อนหวานและออดอ้อนกับคิมคิบอมให้ได้มากที่สุด เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ตามแผนที่วางไว้





    “ ต้องพูดดีๆ ทำเสียงหวานๆ เหลือบตามองแบบอ้อนๆ นี่ถ้าทงเฮเข้าไปเกาะแขนเค้าแล้วซบได้ยิ่งดี ทำตัวฉอเลาะเข้าไว้....ถ้าทงเฮทำได้อย่างที่เฮียบอกแล้วล่ะก็...เชื่อสิ ร้อยทั้งร้อยเป็นต้อง หลง!!!!!! ”

    “ แต่ถ้าทำอย่างนั้นแล้ว หมอนั่นยังไม่ใจอ่อนกับชั้นอีกล่ะ? ”

    “ งั้น...... ”

    “ ....... ”




    “ เฮียขอฟันธงว่ามัน ตายด้าน!!!! ”







    คำพูดของยุนโฮลอยเข้ามาในหู เสมือนสิ่งย้ำเตือนเรื่องแผนการที่มีทีท่าว่าจะล่มตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม
    หนุ่มหน้าหวานเม้มปาก ดวงตากลมเหลือบมองปฏิกิริยาโต้ตอบของคิบอมอย่างลุ้นๆ



    ....มันจะตายด้านอย่างที่เฮียบอกมั้ยนะ!!???



    “ อืม... ” คิบอมไม่คิดต่อล้อต่อเถียงให้มากความ เค้ารับคำแล้วเบี่ยงตัวเดินไปอีกทางตามที่ทงเฮว่าอย่างง่ายดาย


    ง่ายจนทงเฮคิดสรุปในใจว่า ....คิมคิบอมตายด้านแน่นอน!!


    “ นี่นายน่ะ ” ตะโกนเรียกคนที่เดินนำหน้าตัวเองไปไม่ไกล แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยังกะหันมาตามเสียงเรียกของทงเฮ


    “ นี่...คิมคิบอม! ”


    ร่างบางเริ่มวิ่งเหยาะๆเพื่อให้ทันจังหวะก้าวเดินของคนที่มีช่วงขายาวกว่า


    เสียงผิวปากล้อเลียนยังคงดังต่อเนื่องไม่ขาด แต่ทงเฮเลิกสนใจมันไปโดยสิ้นเชิง เพราะร่างบางมีเป้าหมายที่จะต้องจัดการก่อนที่จะกลับไปหักคอพวกนั้นทิ้งถัง ขยะข้างโรงเรียนน่ะสิ!!


    “ หืม...? ” หนุ่มหล่อประจำโรงเรียนฮึมฮัมในลำคอ


    ทำอย่างกับว่าน้ำลายของเค้ามีราคาแพงกว่าทองคำอย่างนั้นแหละ -*-


    “ อะ..เอ่อ ”


    ร่างบางตะกุกตะกัก ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี....พอเห็นใบหน้าเรียบสนิทที่เมื่อวาน ไล่ให้เค้ากลับบ้านไปดื่นนมแล้ว...ความหงุดหงิดก็พาลทำให้ทงเฮเกิดไม่อยาก สนทนากับคนตรงหน้าขึ้นมาซะเฉยๆ


    “ มีอะไรอีกล่ะ? ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามแบบไม่ได้ตำหนิ แต่ก็ไม่เป็นมิตรเท่าใดนัก


    ทงเฮปัดทิฐิส่วนตัวออกแล้วใช้เท้าเหยียบมันไว้กับพื้น ไม่ให้ดื้นหลุดมาก่อกวนเค้าได้อีก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นในองศาที่ถูกเสี้ยมสอนมาอย่างดี แล้วพูดเสียงอ่อยๆ โดยไม่ลืมยิ้มหวานให้คิบอมอย่างฉอเลาะ


    “ คืออย่างนี้นะ....ชั้น ”


    “ ทงเฮ!!!! ”


    ใครบางคนวิ่งเข้ามาโถมใส่ตัวทงเฮแบบไม่ยั้ง พร้อมเรียกชื่อของคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงตื่นๆ พอทงเฮหันไปมองคนที่เข้ามาทักแบบไม่ถูกกาลเทศะเต็มตา ก็พบกับหน้าบานๆของชเวซีวอนที่ลอยตุ๊บป่องอยู่พอดี


    “ เชี่ย! ก่อนจะวิ่งเข้าชาร์จใคร ช่วยกรุณาดูขนาดตัวก่อนด้วยนะครับ ไอ้คุณซีวอน ” ทงเฮเอ็ดเสียงเบา


    ก็เค้ายังไม่อยากเสียภาพพจน์ต่อหน้าคิบอมไปมากกว่านี้นี่นา


    “ เออๆ ว่าแต่ไหนดูดิ๊ ” คนตัวโตเออออส่งๆ ก่อนจับใบหน้าเพื่อนรักพลิกซ้ายขวาหน้าหลัง ตรวจดูให้ถี่ถ้วนว่าตนเองได้ยินข่าวลือมาไม่ผิด



    .....ข่าวลือที่ว่า อีทงเฮ สาวแตก!!!!!



    “ ดูเอี้ยอะไร!? ”
    ทงเฮปัดมือซีวอนให้วุ่น พยายามเบี่ยงหลบไม่ให้แก้มนิ่มๆถูกบีบจนช้ำด้วยฝีมือเพื่อนตัวโต


    “ เค้าว่ากันว่าวันนี้มึงค้นพบสัจธรรม ”


    “ สัจธรรมอะไรวะ! ”


    “ สัจธรรมที่ว่า......มึงแมนไม่ขึ้น!!! ”
    ซีวอนตอบ พลางกดยิ้มจนเกิดรอยบุ๋มที่แก้มอย่างเห็นได้ชัด



    คนอย่างอีทงเฮน่ะเหรอจะฟันสาวๆเป็นว่าเล่น อย่างที่เคยฟังเจ้าตัวเล็กอวดอ้าง?
    จริงอยู่ว่าเรื่องที่ทงเฮเอามาเล่าให้ฟังจะสมจริงไม่น้อย
    แต่ถ้าเปลี่ยนจากฟันสาว ไปถูกหนุ่มๆฟัน(?) ซีวอนยังจะเชื่อถือลมปากของทงเฮมากกว่านี้ซะอีก!



    “ สาดดด ใครพูดวะเดี๋ยวกูจะไปเอาเลือดหัวมันออกเดี๋ยวนี้แหละ ” ร่างบางฮึดฮัด คำหยาบคายที่พูดออกมาช่างลดทอนความน่ารักของอีทงเฮลงไปได้กว่าครึ่ง


    “ เค้าลือกันให้แซ่ดตั้งแต่กูเหยียบเข้าประตูโรงเรียนแล้ว ”


    “ อย่าให้รู้ว่าใครเริ่มนะมึง!! ” ทงเฮกล่าวคาดโทษ โดยที่ไม่อาจจับมือใครดมได้


    “ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ว่าแต่วันนี้กินอะไรผิดสำแดงมาล่ะ ทำไมถึง.....เอ่อ ดูดีแบบนี้~? ”


    ซีวอนงับคำว่า ‘น่ารัก’ ได้ทันควัน ก่อนที่ปากจะเผลอพูดคำนั้นออกมา
    ก็ถ้าทงเฮได้ยินคำนี้เมื่อไหร่ แม่คุณก็จะได้วีนแตก เม้งไม่เลือกหน้าน่ะสิ -*-


    “ ดูดี? ”


    “ อือ ...ก็ธรรมดาหัวมึงไม่เป็นแบบนี้นิ แล้วหน้าตาก็ไม่ดูมีน้ำมีนวลเท่านี้ด้วย ”


    “ อ๋อ~ เรื่องนั้น.... ” ทงเฮลูบกลุ่มผมที่ท้ายทอยเขินๆ กำลังจะอ้าปากตอบเหตุผลที่ตัวเองดูดีกว่าทุกวันว่าเป็นเพราะ.....



    ตายห่า!!!!!!!
    คิมคิบอม!!!!!!!!!!!!




    ร่างบางเลิกลั่กมองหาคนที่ควรจะเดินอยู่ข้างๆตัวยกใหญ่ อยากจะตบกบาลตัวเองซะเหลือเกินที่ปล่อยโอกาสดีๆให้หลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย เพราะ....



    คิมคิบอมหายไปแล้ว!!!!



    “ หายหัวไปไหนวะ! ” รำพึงรำพัน เพราะชะเง้อคอมองไปรอบๆก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเป้าหมาย สงสัยว่าจะใช้วิธีดำดินหนีทงเฮไปแล้วซะล่ะมั้ง!?


    “ ใครหาย? ”


    “ เมื่อกี้ไง มึงรู้จักมะ คิมคิบอมที่เดินข้างๆกูเมื่อกี้น่ะ ”


    “ รู้จัก ”


    “ แล้วเห็นมั้ยว่าหมอนั่นเดินไปไหนแล้ว ”


    “ ตอนที่กูเข้ามาทักมึง ก็เห็นว่าเดินเร็วๆเข้าตึกไปแล้วอ่ะ ”


    “ จะรีบเดินไปไหนวะ!! ” ทงเฮสบถพึมพำ


    “ มึงมีอะไรกับเค้าหรือไง? ”


    “ ก็มีธุระจะคุยด้วย ”


    “ เรื่อง? ” ซีวอนตะล่อมถาม ถึงแม้ว่าในใจจะสงสัยจนเต็มแก่ว่า... เพื่อนตัวเล็กของเค้าต้องการจะคุยธุระอะไรกับโกดมีนัม ...คิมคิบอม


    “ ถ้าไม่รู้สักเรื่อง คงไม่ทำให้ระดับน้ำในหูของมึง ไม่เท่ากันหรอกนะจริงมั้ย?? ” นอกจากไม่ยอมถูกหลอกถามแล้ว หนุ่มหน้าหวานยังเลือกที่จะเลี่ยงหนีคำถามของซีวอนด้วยการเดินกระแทกส้นปึง ปังเดินขึ้นตึกเรียนไปแบบไม่คิดจะหยุดรอเพื่อนอีกด้วย


    “ มั้ง!? ” ซีวอนตอบยียวน แล้วกลั้นยิ้ม ก่อนจะรีบสาวเท้าตามเพื่อนเจ้าอารมณ์ไปติดๆ พลางคิดสงสัยอยู่ในใจว่า



    การที่ทงเฮถามถึงคิบอม....
    มีธุระจะคุยกับคิบอม....

    มันมีอะไรเกี่ยวกับที่วันนี้อีทงเฮน่ารักเป็นพิเศษรึเปล่าน้า~ ...หึๆ




    *+*+*+*+*+*+*+*+*




    “ เฮ้ย!!! ”


    ขยี้ตาก็แล้ว
    หยิกแก้มก็แล้ว
    ภาพตรงหน้ามันก็ยังเหมือนเดิม....


    ฮยอคแจร้องเสียงหลงเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วเจอกับอีทงเฮที่วันนี้น่ารักขึ้นกว่าเดิมยี่สิบเท่า!!


    “ หวัดดี ” ทงเฮโบกมือทักทาย เริ่มจะชินชาขึ้นมานิดหน่อยกับปฏิกิริยาของเพื่อนๆร่วมชั้น


    ไม่ร้องเฮ้ย ก็ร้องอ๊าก...
    จะตกใจอะไรกันนักกันหนาฟระ!!!! กูเคือง.... - -*


    “ บอกมาซะดีๆ....เมื่อวานมีใครเอายาคุมให้มึงกินแล้วบอกว่าเป็นยาแก้ปวดหัว หรือเปล่า? ” ฮยอคแจทิ้งกระเป๋าไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะรีบปรี่มาจับไหล่ทงเฮถามด้วยความเป็นห่วง


    “ เปล่า ” ทงเฮขมวดคิ้ว ... นี่มันถามเหมือนหลอกด่าเลยนะ


    “ แล้วไหงเป็นงี้ล่ะ ” ฮยอคแจหมายถึงออร่าอุเคะที่แผ่รัศมีอยู่รอบๆตัวทงเฮในขณะนี้


    “ ก็กูเปลี่ยนลุคไม่ดีเหรอไง? ”


    “ ใครว่า.... ” ฮยอคแจปาดน้ำตาแห่งความปิติทิ้ง แล้วเอ่ยต่อ


    “ เจอทางสว่างซะทีนะ ”


    “ ขอแค่อย่าหลงผิดอีกแล้วกัน ” ซีวอนที่นั่งอยู่ข้างหลังช่วยเสริมให้ โดยทำเป็นไม่ใส่ใจต่อสายตากินเลือดกินเนื้อของทงเฮ


    “ เออ!! ” กระแทกเสียงใส่ดุดัน


    ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมละทิ้งสันดานเดิมเลยจริงๆ


    “ แล้วอะไรดลใจให้เปลี่ยนล่ะ ” ฮยอคแจที่เริ่มปรับตาให้ชินกับลุคใหม่ของทงเฮถามขึ้นด้วยความอยากรู้ พลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ


    “ เพราะมีแฟนเป็นโกดมีนัมของโรงเรียนล่ะม้างงงงงง~ ” ซีวอนอดไม่ได้ที่จะล้อเลียนในเรื่องที่เพิ่งได้ยินจากปากของทงเฮเมื่อครู่


    “ หา!!!!! ” ฮยอคแจอุทานยาว ไม่อยากจะเชื่อ...


    “ อยากตายก่อนมีเมียเหรอไงวะ ไอ้วอน!!! ปากอย่างนั้น ทำไมไม่ไปรวมตัวกับไอ้กลุ่มปากสุนัขหน้าโรงเรียนซะเลยล่ะ!! ” ทงเฮสวนขึ้นมาทันควัน


    “ อู้ย~ ด่าแรง ” ซีวอนบ่นอุบ


    เค้าใช้เวลากว่ายี่สิบนาทีเพื่อเค้นคำตอบจากร่างบาง แต่ให้ตายเถอะ!! อีทงเฮปากแข็งอย่างกับอะไรดี.... กว่าจะรู้เหตุผลที่มาที่ไปของนิวทงเฮ ซีวอนก็โดนด่าซะพรุนไปทั่วทั้งร่างแล้ว


    “ เข้าใจก็ดี ” ร่างบางยักไหล่


    “ แต่กูไม่เข้าใจ ” ฮยอคแจท้วงออกมา เพราะดูเหมือนเค้าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยอยู่คนเดียว


    “ ไม่ต้องเข้าใจหรอก ...ขี้เกียจเล่า ” ทงเฮโบกมือไล่เพราะขี้เกียจพูดซ้ำสอง แต่ฮยอคแจเขย่าแขนเค้าไม่หยุด รบเร้าให้ทงเฮเล่าจนหมดเปลือกจนได้ ……




    *
    .





    “ อ๋อ~ ตกลงคือ จะใช้มารยาล่อลวงเค้า ว่างั้น? ” ฮยอคแจสรุปความได้ขัดหูสิ้นดี!


    “ เค้าเรียกว่าแผนการหลอกล่อเหยื่อต่างหากล่ะ ” ทงเฮรีบโต้คำครหา


    “ จะเรียกยังไงก็เหมือนกันล่ะว้า~~ ”


    “ หุบปากแล้วนั่งเงียบๆไปเหอะ มึงอ่ะ!! ” ทงเฮหันไปตวาดซีวอนอีกครั้งจนร่างสูงหน้าตูม บอกบุญไม่รับ แล้วจึงหันมากลับมาอธิบายให้ฮยอคแจเข้าใจอีกรอบ


    “ สรุปแล้วมึงอย่าเข้าใจผิดว่ากูเปลี่ยนรสนิยมล่ะกัน ” ฮยอคแจพยักหน้าเชื่องๆ แต่ก็ไม่คิดจะเชื่อที่ทงเฮพูดนักหรอก


    “ แล้วใครคิดแผนประหลาดๆอย่างนี้ให้มึงวะ ”


    “ เฮียกูเอง ”


    “ อ้อ~ ” ฮยอคแจลากเสียงยาว เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วล่ะ ว่าอีทงเฮได้แผนพิลึกพิลั่นนี้มาได้ยังไง -*-


    “ แล้วมันจะได้ผลเร้อ~ ”


    “ ได้สิ ฝีมือชั้นนี้แล้ว คิบอมไม่รอดมือกูร้อกก... ” คนตัวเล็กพูดด้วยท่วงท่ามาดมั่นซะเหลือเกิน

    ฮยอคแจก็ไม่ได้อยากจะดูถูกแผนของยุนโฮหรือความสามารถของทงเฮหรอกนะ แต่เท่าๆฟังที่ทงเฮพูดดูแล้ว มันก็ชวนให้นึกสงสัยอยู่ว่า....




    จะเป็นอีทงเฮหรือเปล่านะ?….ที่จะไม่รอดจากการถูกเฉดหัวออกจากชมรมเพราะเอาตัวคิมคิบอมมาไม่ได้

    หรือไม่ก็ไม่รอดจากเงื้อมือคิมคิบอมนี่แหละ!!!!!




    *+*+*+*+*+*+*+*+*




    ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงทางด้านทิศตะวันตก ท้องฟ้าฉาบทาด้วยสีส้มเรืองรอง


    มันคือช่วงเวลาที่ออดเลิกเรียนดังขึ้น...


    นักเรียนทั้งชายและหญิงต่างพากันเก็บข้าวของสัมภาระต่างๆเข้ากระเป๋าเพื่อ ที่จะตรงดิ่งกลับบ้านของตน ยกเว้นก็แต่ร่างเล็กที่นั่งพับอยู่ตรงบันไดนี่ล่ะ ที่ไม่ได้รีบเก็บกระเป๋ากลับบ้านอย่างคนอื่นเค้า



    แต่อีทงเฮกำลังมานั่งอ่อยเหยื่อทำตัวเป็นปลานีโม่ย่างสด ให้แมวอย่างคิมคิบอมตะครุบกินเอาน่ะสิ!!!!




    “ ช้าจัง~ หรือหมอนั่นจะกลับไปแล้วนะ? ” บ่นกระปอดกระแปด พลางชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟ มองหาร่างสูงที่ทงเฮกะไว้ว่าจะต้องลงจากตึกมาทางบันไดนี้เท่านั้น


    “ ไม่สิ... พอออดดังเราก็วิ่งมาที่นี้เลยนี่นา จะกลับบ้านไปก่อนได้ไงกัน ” แพรผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกหวีมาอย่างดีตั้งแต่เช้าสะบัดฟุ้ง เมื่อเจ้าตัวเล่นสั่นหัวแรงๆเพื่อลบสมมติฐานที่ไม่น่าเป็นไปได้ออกไปจากสมอง


    นักเรียนสาวที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นหัวเราะคิกคักเพราะท่าทางตลกๆของ ทงเฮ ผิดกับพวกนักเรียนชายที่ถ้าไม่เหลียวมองหนุ่มหน้าหวานที่นั่งหง่าวอยู่ตรง เชิงบันไดจนคอแทบเคล็ด ก็จะเป็นพวกปากไม่อยู่สุข ที่คอยหาเรื่องแซวให้ทงเฮต้องยกนิ้วกลางให้เป็นของแถมทุกครั้ง


    “ อ๊ะ!! ” ทงเฮร้องเบาๆ เมื่อเล็งเห็นสัญญาณการมาถึงของคิบอม


    พวกนักเรียนหญิงคือสัญญาณเหล่านั้น เนื่องจากพวกหล่อนมักจะมารวมตัวกันใกล้ๆกับทางที่หนุ่มป๊อบของโรงเรียนใช้ เดินผ่าน พลางส่งเสียงกรีดร้องราวไฮยีน่าบ้าคลั่งไปตลอดทาง


    มันเป็นสัญญาณที่ดีเยี่ยมเชียวล่ะ!!!


    “ คิบอม คิบอมอา~ ”

    “ คยูฮยอน ...โจคยูฮยอน ”


    ชื่อของโกมีนัมสองคนถูกเรียกขาน ทงเฮคุ้นหูชื่อสองคนนี้อย่างกับอะไรดีเพราะได้ยินมันเกือบทุกวัน เพียงแต่คนตัวเล็กไม่เคยคิดสนใจจะจดจำใบหน้าหล่อๆของพวกนั้นเท่าไหร่ เพราะมันไม่จำเป็น


    ร่างบางย้ายตัวเองมาหลบอยู่ข้างใต้บันไดพลางมองลอดขึ้นไปด้านบน นัยน์ตาเรียวรีจับจ้องไปที่ใบหน้าแหลมๆของคนที่อยู่ข้างๆคิมคิบอม ทงเฮจำได้ทันทีว่าคือคนเดียวกันกับที่เค้าตวาดด่าไปเมื่อวาน


    สงสัยไอ้หมอนี่คงจะชื่อโจคยูฮยอนสินะ....


    “ คิบอม...ช่วยรับนี่ด้วยนะคะ ”


    หญิงสาวคนหนึ่งยื่นกล่องของขวัญที่ห่ออย่างสวยงามไปให้คนหน้าตาย คิบอมเพียงปรายตามองอย่างเฉยชา ก่อนจะก้าวให้เร็วขึ้น ไม่ได้สนใจว่าตัวเองกำลังทิ้งให้เด็กผู้หญิงยืนน้ำตาท่วมอยู่เบื้องหลัง


    “ คนใจดำ! ” ทงเฮพูดเสียงรอดไรฟัน ...เห็นผู้หญิงคนนั้นกอดกับเพื่อนร้องไห้แล้วก็รู้สึกโกรธแทนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้


    “ รับไว้ก็ไม่ตายหรอกน่า~ เฮอะ!! ” ก่นด่าแล้วพ่นลมหายใจขัดเคืองออกจากรูจมูกเล็ก เพราะทงเฮเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นเอามากๆ เค้าจึงไม่ชอบวิธีการเย็นชาของคิบอมเอาซะเลย


    คนตัวเล็กเบ้หน้าในระหว่างที่คิดได้ว่า คนๆนี้น่ะเหรอ? ที่จะมาเป็นเพื่อนร่วมชมรมกับเค้าในอนาคต??


    แค่คิดทงเฮก็พาลอยากจะยกเลิกสัญญาบ้าบอที่เค้าทำไว้กับรุ่นพี่ซะจริงๆ!!


    “ ไม่ได้หรอก ถ้านายทำอย่างนั้น ก็ถือว่านายแพ้น่ะสิ อีทงเฮ ” แต่ความคิดด้านตรงกันข้ามก็ช่วยย้ำเตือนให้ทงเฮฮึดสู้ในที่สุด


    เค้าจะต้องเอาชนะปราการน้ำแข็งของหมอนั่นให้ได้สิ!!!!


    คนน่ารักพยักหน้าเรียกกำลังใจก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนตั้งท่าเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่าเป้าหมายกำลังใกล้เข้ามา


    “ เอาล่ะ... ” ทงเฮเริ่มนับเลขในใจ


    “ 1 ”


    “ 2 ”


    “ !! ”


    ร่างบางพุ่งตัวออกจากมุมใต้บันไดทันทีที่คยูฮยอนและคิบอมเดินเลี้ยวลงมาจาก บันไดขั้นสุดท้าย การกะระยะของทงเฮอยู่ในขั้นดีเยี่ยม!! เพราะเค้าไม่ได้คิดจะชนให้ใครล้ม นอกจากตัวเองที่ต้องล้มไปกับคิบอมเท่านั้น!!!!


    “ เฮ้ย!!!! ” คยูฮยอนร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเพื่อนรักของเค้ากำลังลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับคนที่เค้าจำได้ไม่มีวันลืม


    “ นายคนเมื่อวานนี่นา~ ” เค้าคราง ก่อนจะช่วยพยุงร่างเล็กๆของทงเฮให้ลุกขึ้นจากการโถมทับคิบอม


    “ โอ๊ย เจ็บๆๆๆๆๆ ” ทงเฮนิ่วหน้า พลางกอบกุมข้อเท้าข้างขวาราวกับกระดูกหักก็ไม่ปาน ในขณะที่คิบอมก็เจ็บมิใช่น้อยแต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไร นอกจากสายตาคมกริบที่จ้องมองอย่างดุๆมาทางร่างบาง


    “ นายวิ่งมาชนเพื่อนชั้นเองนะ ” คยูฮยอนแก้ต่างให้คิบอม โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องพูดอะไรเลย


    “ ฮือออ ก็ชั้นเจ็บนี่นา T^T ” ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติ ทงเฮคงเถียงคอเป็นเอ็นว่าฝ่ายที่ผิดน่ะ ไม่ใช่ตัวเค้าอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้สถานการณ์มันผิดกัน เพราะนอกจากทงเฮจะจงใจวิ่งชนให้คิบอมล้มแล้ว ร่างบางยังต้องงัดกลยุทธ์ที่ได้มาพร้อมกับการเปลี่ยนลุคส์ใหม่นี้ออกมาใช้ อีกด้วย!



    ....อ้อนเท่านั้นที่ครองโลก!!!!



    “ เอ่อ... ” คยูฮยอนเกาหัวแกรกๆ เค้าเป็นพวกแพ้คนน่ารักบีบน้ำตาอย่างหมดทางสู้ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายงอแง คยูฮยอนก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกเข้าไปใหญ่


    “ แต่เพื่อนชั้นถูกนายวิ่งชนแล้วก็ล้มทับนะ …ใช่มั้ย?? คิบอม.. ” หันไปขอคำยืนยันจากคนปากหนัก


    คิบอมพยักหน้า แต่กลับจ้องมองเสี้ยวหน้าหวานที่เบะปากร้องไห้ไม่วางตา


    .....จะมาไม้ไหนกัน?


    “ แต่ชั้นเจ็บกว่านิ ดูสิข้อเท้าแพลงแน่ๆเลย ” ทงเฮช้อนสายตาปริ่มน้ำมองโกดมีนัมทั้งสองแบบเว้าวอน ให้มันรู้ไปสิ ว่าจะทนได้สักกี่น้ำ....!!


    “ ไหนดูซิ ” คยูฮยอนก้มลงไปนั่งยองๆเพื่อจะดูแผลที่ข้อเท้าเล็กว่าปูดบวมหรือช้ำตรงไหน แต่ทงเฮกลับชักเท้าหนีแล้วชี้ไปที่คิบอมอย่างเอาเรื่อง


    “ เพื่อนนายทำ ต้องให้เพื่อนนายดูชั้นสิ ”


    “ ........ ” คยูฮยอนหันไปมองคิบอมว่าจะทำยังไงดี?


    “ เจ็บตรงไหน? ” ทงเฮแอบกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ เมื่อคนตัวสูงทรุดตัวลงนั่งยองๆตามเพื่อน แล้วจับข้อเท้าเค้าหมุนวนไปมา



    ....แผนเฮียนี่ได้ผลเกินคาด!!!



    “ ไม่เจ็บแล้วเหรอ? ” คยูฮยอนถาม เพราะไม่เห็นทงเฮบ่นเจ็บสักแอะเวลาที่คิบอมจับตรวจให้


    “ อะ...เจ็บสิ เจ็บๆๆๆ โอ๊ยๆ เท้าชั้นหักแน่ๆเลย ” ยังคงสติลเล่นละครต่อไป ถึงแม้จะไม่ค่อยเนียนก็ตาม


    “ ลุกไหวมั้ย? ” ทงเฮเลิกคิ้ว มองหน้าชายหนุ่มที่ยืดตัวยืนขึ้นพลางเอ่ยถามเสียงนุ่ม


    “ มะ.. ไม่ไหวหรอก ”


    “ แล้วจะทำไงล่ะ ” คยูฮยอนลุกขึ้นยืนตามคิบอม อดสงสัยไม่ได้ถึงเจตนาบางอย่างของร่างเล็ก



    เมื่อวานจู่ๆก็มาที่ห้อง บ่นโน่นว่านี่ แล้วก็วีนแตกกับคิบอม แถมด่าเค้าว่าเป็นไอ้หน้าแหลม -*-
    จู่ๆวันนี้ก็วิ่งมาชนเพื่อนเค้า ร้องว่าคิบอมเป็นคนผิดทั้งที่เป็นคนวิ่งมาชนแบบโจ่งแจ้งแท้ๆ

    คนๆนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่นะ???



    “ วันนี้ชั้นต้องไปชมรม ”


    “ แล้ว? ”


    “ ชมรมบาสน่ะ ”


    “ แล้ว? ” คิบอมถามย้ำคำเดิม จนทงเฮชักจะคันปากยิบๆ อยากจะด่าคำว่าไอ้บื้อออกไปซะเหลือเกิน


    “ ชั้นขาเจ็บ เพราะงั้นชั้นก็จะเล่นบาสไม่ได้ ”


    “ แล้ว? ”



    =_________=;




    “ เดินไปชมรมก็ไม่ได้ด้วย ถ้าไม่มีคนพยุงไป ” ตอนนี้คยูฮยอนเริ่มเข้าใจแล้วว่าทงเฮต้องการสื่ออะไร และเค้าก็มั่นใจด้วยว่าคิบอมเองก็รู้เหมือนอย่างที่เค้ารู้


    “ แล้ว? ”


    แต่คิบอมก็ยังเป็นคิบอมอยู่วันยังค่ำ ไม่พูดคำเดิมซ้ำๆมันจะตายหรือไงห๊า!!!!????


    “ นายก็ต้องรับผิดชอบไง!! ” ทงเฮพยายามยกมุมปากยิ้มให้หวานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าในใจอยากจะฆ่ามนุษย์ที่ชื่อ คิมคิบอม มากมาย


    “ ยังไง? ” อีกฝ่ายแสร้งกอดอก เอียงคอป้อนคำถามที่แม้แต่เด็กอนุบาลยังรู้คำตอบของมัน



    คยูฮยอนเริ่มเหงื่อตก....
    ถึงจะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดี ว่าคิยอมเย็นชาและขวางโลกแค่ไหน แต่ร่างสูงมักไม่ค่อยใส่ใจที่จะพูดหรือถามอะไรเกินกว่าห้าคำหรอก แถมคิบอมก็ไม่ใช่คนที่จะชอบกวนโอ๊ยใครนานๆด้วย! เพราะตัวเองไม่ชอบที่จะสนทนาอะไรนักหนาเหมือนกัน


    พูดง่ายๆคือ ...การที่คยูฮยอนเห็นคิบอมแกล้งกวนใส่คนตัวเล็ก มันแสดงให้เห็นว่า




    คิบอมกำลัง ‘สนใจ’ ทงเฮเป็นพิเศษน่ะสิ!!!!!!!!!




    “ ก็พาชั้นไปชมรมไงเล่า!!!! ”
    ทงเฮเริ่มเดือด ไม่คิดไม่ฝันว่าแผนการอ่อย แล้วจัดการพาตัวคิบอมไปที่โรงยิมเพื่อให้พี่คังอินมัดมือชกเอาเข้าชมรมให้ ได้มันจะยากเย็นถึงเพียงนี้


    “ งั้น......... ” คิบอมทำท่านึก แต่ไม่นานก็เผยรอยยิ้มร้ายกาจที่มีให้เห็นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่ทงเฮจะไม่มีทางได้เห็นมันอีกเพราะ.........


    “ จะรับผิดชอบไปส่งให้ถึงที่เลยแล้วกัน!! ”


    ร่างสูงโยนกระเป๋านักเรียนให้เพื่อน แล้วจับยกร่างที่เบาเหมือนปุยนุ่นขึ้นพาดบ่ากว้าง พร้อมกับพยักเพยิดบอกกับคยูฮยอนว่า ...วันนี้เค้าจะกลับเอง เอากระเป๋าไปให้คนรถของเค้า แล้วบอกว่าไม่ต้องรอ!!


    “ อะ...อืม ” คยูฮยอนพยักหน้ารับ ระหว่างที่กำลังแสดงสีหน้าตื่นตะลึง เพราะไม่เคยเห็นคิมคิบอมที่เป็นแบบนี้มาก่อน


    “ เอ่อ...งั้นกูไปก่อนนะ ” เห็นคิบอมส่งซิกให้หลบฉากไป เพื่อนที่ดีอย่างคยูฮยอนก็น้อมรับคำบัญชาอย่างไม่มีบิดพลิ้ว


    “ นี่....ปล่อยชั้นน้า~!!! ” ทงเฮร้องโวยวาย หลังจากเรียกสติให้กลับมาจากอาการตกใจได้แล้ว


    “ ก็จะให้ไปส่งไม่ใช่เหรอ? ”


    “ ใช่!! แต่ไม่เอาท่านี้ ”


    “ ตามใจ ” คิบอมว่าง่ายๆ พลางเอาร่างบางลง


    “ อ่ะ! ” เท้ายังไม่ทันแตะพื้นดี คิบอมก็จัดการรวบตัวทงเฮขึ้นอุ้มอีกครั้ง



    ...แต่คราวนี้เป็นท่าเจ้าหญิง...
    =__________________=



    “ ท่านี้ก็ไม่เอา! ” ลืมไปสนิทใจว่าต้องทำตัวอ่อนหวาน ทงเฮทุบหลังคนตัวโตดังปั่ก! แล้วพยายามดิ้น จะลงจากอ้อมกอดอุ่นๆของโกดมีนัมหน้าหล่อให้ได้


    “ แล้วเอาท่าไหนล่ะ? ”


    “ แค่พยุงก็พอ เข้าใจป่ะ!!??? ” พอเห็นอีกฝ่ายยอมลงให้ อีทงเฮภาคเอาแต่ใจก็เข้ามาสิงทันที


    “ อืม... ” คิบอมรับคำแล้วปล่อยร่างบางลง


    ไม่ช้าแขนเล็กๆของทงเฮก็พาดอยู่บนไหล่ของคิบอม ในขณะที่เอวบางก็ถูกรวบเข้ามาชิดกับลำตัวแกร่งเนื่องจากข้ออ้างของคิบอมที่ ว่า....กลัวจะพยุงไม่ถนัด!


    “ ถึงบอกให้ไปดื่มนมไง ” ประโยคเบาๆดังออกมาจากริมฝีปากได้รูปสวย หลังจากได้สัมผัสเอวบาง ที่ดูภายนอกแล้วยังนึกไม่ถึงว่าพอได้จับแล้วจะบางถึงเพียงนี้....


    “ ........ ” ทงเฮย่นหน้าผากเพราะได้ยินไม่ถนัด แต่ไอ้ครั้นจะไปถามเอาความกับร่างสูง หัวใจมันก็เกิดทำงานผิดปกติขึ้นมาซะงั้น....






    ไม่รู้เพราะมือใหญ่ที่กำลังโอบเอวเค้าอยู่
    เพราะลมหายใจที่ใกล้กันจนเกินไป
    หรือเพราะความอ่อนโยนที่ทงเฮไม่คาดว่าจะได้รับจากคนข้างๆ


    อะไรกันที่ทำให้อีทงเฮต้องใจเต้นกับเพศเดียวกันอย่างนี้!!????

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×