ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ FIC] !!! SLAM DUNK !!! (KIHAE)

    ลำดับตอนที่ #8 : III Slam Dunk III ...8...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.38K
      13
      7 มี.ค. 52

     

     

     

    ก็ว่าจะทำเป็นแกล้งเมินมอง ไม่เห็นแล้ว ตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามานั่งที่โต๊ะแล้วเจอสายตาล้อเลียนของไอ้หมาจ่าฝูงที่ กำลังเตรียมเห่าเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ทนคำล้อแบบฟังหูซ้ายทะลุหูชวาไม่ไหว เพราะตรงกึ่งกลางระหว่างหูทั้งสองข้างมันมีสมองซึ่งทำหน้าที่ในการแปลข้อ ความคั่นอยู่ ทงเฮถึงต้องมานั่งสะกดอารมณ์ตัวเองอย่างในตอนนี้...


    “ ว้าว!! ...วันนี้มีราชรถมาเกยซะด้วย~ ”


    “ ......... ”


    “ เท่านั้นไม่พอ....อีทงเฮยังเจ้าชายมาส่งถึงห้องอีกด้วยแน่ะ! ”


    “ ......... ”


    “ แล้วถ้าหูไม่ฝาด.... รู้สึกจะได้ยินแว่วๆว่าก่อนกลับเจ้าชายจะเสด็จมารับอีทงเฮไปชมรมด้วยกันหลังเลิกเรียน ”


    “ ......... ”





    “ โอ้~ ...แล้วในพระครรภ์มีพระโอรสหรือพระธิดาล่ะพะยะค่ะ? ”





    แทบจะยังหมัดไว้ไม่อยู่ เมื่อทำเป็นหูทวนลมก็แล้ว แต่ปากพล่อยๆของชเวซีวอนก็ยังร่ายคำล้อไม่หยุด จนทงเฮไม่คิดจะทนมันอีกต่อไป ...ด่ากลับมันไปเลยแล้วกัน ไอ้ชั่ววววววว!!!


    “ มึงอยากมีรอยตีนกูทาบบนหน้าแทนรอยตีนกาหรือไงห่ะ!! ”


    “ ไม่นิ ” คนถูกถามส่ายหน้าพั่บๆ รังสีฆ่าฟันมันออกมาแล้วคับพี่น้อง เค้ากลั๊วกลัวนะเนี่ย~~


    “ งั้นก็เลิกพูดจากวนส้น ...แล้วเอาหน้าบานๆของมึงออกไปให้พ้นๆโต๊ะกูด่วน ก่อนที่มันจะมีรอยไนกี้ของกูประดับอยู่บนหน้ามึง!!! ” พูดไม่พูดเปล่า ทงเฮยังใจดียกเท้าขึ้นมาโชว์ให้ดูอีกว่าเอาจริง


    “ คนท้องนี่อารมณ์แปรปรวนจังเนอะ ฮยอคแจ~ ”


    ก่อนจะไปตามคำขอ(!?) ยังไม่วายปากเปราะหันไปกวนร่างบางให้อารมณ์เสียหนักยิ่งกว่าเก่า จนฮยอคแจต้องช่วยเอ่ยปรามเพราะไม่อยากปวดหัวเพราะไอ้สองตัวนี่ทะเลาะกัน -*-


    “ ก็อย่าไปฟังซีวอนมันสิ ทงเฮ มึงก็รู้ว่าถ้าวันหนึ่งมันไม่ได้เห่าแล้วเห็บจะขึ้นหัวมันน่ะ ” ชี้ไปที่หัวฟูๆของเพื่อนตัวสูง อุปโลกน์ให้ทงเฮเห็นขี้รังแคหรือเห็บอะไรก็ได้บนหัวซีวอนจริงๆ


    “ พูดอย่างนี้ หาเรื่องหรือไง อีฮยอคแจ!! ” ซีวอนขึ้นเสียงใส่ในขณะที่ทงเฮยิ้มเยาะ เหอๆ ..ไอ้หมาหัวเน่า!! ฮยอคแจเข้าข้างชั้นน๊า~~ กร๊ากกกก


    “ เปล่าหนิ ” ฮยอคแจโคลงหัวไปมา ไม่รู้ไม่ชี้


    เกิดเป็นคนกลางระหว่างสองคนนี้นี่ลำบากสุดๆ ...เพราะไม่สามารถทำตัวให้เป็นกลางได้เลยสักนิด -*-


    ทุกครั้งที่เกิดความเห็นไม่ลงรอยหรือเวลาที่ซีวอนและทงเฮทะเลาะกัน ฮยอคแจต้องเลือกด่าใครไปสักคนเพื่อให้หยุดการโต้เถียงนั้นก่อนที่หูของเค้า จะหนวก ซึ่งคราวนี้ฮยอคแจเลือกซีวอน เนื่องจากเล็งเห็นว่าถ้าไปเข้าพวกกับซีวอน แล้วช่วยกันล้อทงเฮอีก มีหวังเจ้าตัวเล็กคงโวยวาย อารมณ์เสีย จนในที่สุดก็ล้มเลิกการปฏิวัติตัวเองให้เป็นอุเคะ เพราะอับอายอย่างหนักแน่ๆ




    ....และที่สำคัญ ฮยอคแจยังอยากดูวิวัฒนาการของ ‘อะมีบ้าอุเคะ’ ในตัวของทงเฮอยู่น่ะซี้~ คึคึ > <




    “ เออ...เห็นไอ้หมวยมันดีกว่าชั้นใช่มั้ย? ...ก็ดี ”


    ซีวอนใช้สายตาตัดพ้อร่างผอมบางชั่วเสี้ยววินาที ก่อนที่คนตัวใหญ่ขึ้ใจน้อยจะเดินปึงปังออกไปนอกห้องโดยมีเสียงใสๆของทงเฮตาม สรรเสริญส่งท้าย


    “ เฮ้ย!! เรียกใคร หมวย วะ!!! ไอ้ซีว๊อนนนนนน~~ กลับมาเคลียร์กับกูให้รู้เรื่องนะ!!!! ” ตั้งท่าจะลุกตามไปหาเรื่องต่อ จนฮยอคแจต้องจับไหล่เล็กเอาไว้แล้วกดให้นั่งลงที่เดิม


    “ พอได้แล้วน่า ทงเฮ ”


    “ อะไรกัน ” ทำท่าฟึดฟัดก่อนกระแทกตัวพิงพนักเก้าอี้ตามแรงกดของมือฮยอคแจ


    “ เอาน่าๆ ” ลูบหลังเพื่อให้อารมณ์ของเพื่อนรักเย็นลงแม้เซลเซียสหนึ่งก็ยังดี


    “ เออ...ว่าแต่เรื่องเมื่อเช้า มันเป็นไปได้ยังไงน่ะ ทงเฮ~? ”


    ถ้าเปรียบเทียบระหว่างซีวอนกับฮยอคแจแล้ว วิธีในการจับสังเกตทงเฮนั้น....แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว


    ในขณะที่ซีวอนมีวิธีจับพิรุธทงเฮ ได้จากน้ำเสียง ท่าทาง และสีหน้า
    ฮยอคแจก็จะสามารถคอยตะล่อมให้ทงเฮเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นได้ด้วยการ พยายามป้อนคำถามที่ไม่ทำให้คนตอบลำบากใจ และเป็นประเด็นที่อีฮยอคแจอยากรู้ด้วยเช่นกัน


    เรื่องใช้ไม้อ่อนน่ะ ขอให้เบอกเถอะ ฮยอคแจถนัดนัก!


    “ มึงอย่าเข้าใจผิดนะ กูรับรองว่า อีทงเฮคนนี้ยังแมนเต็มขั้นนะเฟ้ย ” ตบอกแห้งๆของตัวเองเพิ่มดีกรีความเชื่อมั่นในสายตาของเพื่อนรัก



    โอ๊ย~ เชื่อตายหอง..เลยล่ะ ไอ้ปลาบู่ = =



    “ รู้แล้วๆ แต่ว่าตกลงแผนมึงสำเร็จใช่มั้ย ...ไอ้แผนยั่วสะท้านปฐพีอะไรนั่น ” ทงเฮขมวดคิ้วแล้วค้านเสียงแข็งกับชื่อแผนที่ฮยอคแจพูดผิด


    “ อือๆ เหมือนกันนั่นแหละ ” ฮยอคแจรีบเออออพยักหน้าไปตามเรื่อง กูล่ะปวดกบาล...


    “ ก็สำเร็จอ่ะนะ ” พูดเสียงอ่อยๆ ดูเหมือนไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่ที่แผนสำเร็จอย่างปากว่า จนฮยอคแจนึกสงสัย


    “ แล้วทำไม............. ” ไม่ต้องรอให้ถามจนจบประโยค ทงเฮก็รู้ได้ว่าสิ่งที่ฮยอคแจอยากรู้คืออะไรเพราะเดาได้จากสีหน้าที่เต็ม เปี่ยมไปด้วยความเจือกที่มีอยู่เต็มพิกัดในตัวฮยอคแจ ดังนั้นทงเฮจึงยอมเล่าเหตุการณ์หลังจากที่แยกกันกับพวกซีวอนและฮยอคแจเมื่อ เย็นวานให้ฟังโดยไม่ลืมที่จะพูดถึงแผนการอันใหม่ของยุนโฮอีกด้วย


    “ อ๋อ~ ”
    ฮยอคแจลากเสียงอ๋อยาวๆ ทำปากเป็นรูปตัวโอหลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดจนครบถ้วนกระบวนความ


    “ อย่างนี้นี่เอง ” พยักหน้ากับตัวเองพลางประมวลความคิดให้เข้าที่เข้าทางและเริ่มใช้ลางสังหรณ์ในการเดาเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไป


    “ อะไร? ” ทงเฮหันมาถามคนที่ทำหน้าเหมือนผู้บรรลุธรรม


    “ กูว่ามึงน่าจะทำให้คิบอมหลงรักได้จริงๆนะ ” ทงเฮทำตาโต ครางแบบไม่ค่อยเชื่อที่ฮยอคแจพูด


    “ ก็ดูสิ....ขนาดมึงขาเจ็บ เค้ายังมารับมึงถึงบ้านโดยที่พี่คังอินไม่ได้เอ่ยปากขอร้องเลยไม่ใช่หรือไง ...อย่างนี้มันมีลุ้นสุดๆเลยนะเว้ย! ”


    ฮยอคแจฉีกยิ้มจนเห็นเหงือกแดงแจ๋ เอาล่ะ....เรื่องเริ่มจะสนุกแล้วสิ!!


    “ มึงคิดงั้นเหรอ ” กำลังใจเริ่มมาเมื่อเพื่อนการันตีว่าคิบอมอาจจะมีใจให้ ..ไม่อยากจะเชื่อว่าแกล้งแอ๊บแค่วันเดียว คิบอมจะคิดสปาร์คอะไรกับเค้าเร็วขนาดนั้น



    ถ้าทงเฮเป็นปลากัดคงได้ท้องกับคิบอมจริงๆอย่างที่ซีวอนมันว่านั่นแหละ -*-



    “ ก็เออน่ะสิ ” เอ่ยสำทับ ยิ่งเห็นทงเฮมีความเชื่อค่อนมาทางเค้าแล้ว ยิ่งเป็นการง่ายเข้าไปใหญ่ที่ฮยอคแจจะเป่าหูเจ้าปลาน้อยให้คล้อยตามได้ง่ายๆ


    “ นั่นสินะ ” รอยยิ้มน่ารักปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานของทงเฮ ...ก็เราอุตส่าห์เล่นละครซะแนบเนียนขนาดนั้นนี่นะ คงเป็นธรรมดาแหละที่คิบอมจะหลงกล


    ...เรานี่มันอัจฉริยะจริงๆเลยน๊า~~ คึคึ


    “ นี่...” ระหว่างที่กำลังนึกชื่นชมตัวเองอยู่ในใจ เสียงเรียกโดยไม่ระบุชื่อผู้สื่อสารก็ดังขึ้น เป็นผลให้ฮยอคแจและทงเฮต้องหันไปมองทางต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง


    คนที่ปรากฏในจอเรตินาคือหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งทงเฮเคยไปขอความช่วยเหลือ ในเรื่องข้อมูลของคิมคิบอมเอาไว้ และตอนนี้หล่อนก็ยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้าเค้า




    ...ชิมแชอึน...




    “ มีอะไรหรือ แชอึน? ” เอียงคอน้อยๆพลางเอ่ยปากถามถึงจุดประสงค์ที่หล่อนมายืนจังก้า ส่งสายตาสื่อความหมายแปลกๆให้แก่ทงเฮและฮยอคแจในขณะนี้


    “ ตามชั้นมาหน่อยสิ อีทงเฮ ”


    “ ชะ...ชั้นเหรอ? ” ชี้หน้าตัวเองให้แน่ใจว่าแชอึนไม่ได้ตามตัวผิดคน
    ถ้าเรียกชื่อทงเฮ แต่หมายถึงคนหน้าไก่ผสมลิงอย่างอีฮยอคแจก็แย่น่ะสิ -*- เราออกจะหล่อกว่าแท้ๆ..


    “ ใช่ ” แชอึนพยักหน้า หล่อนสยายผมที่ดัดเป็นลอนไปข้างหลังแล้วเอ่ยต่อ


    “ ที่สวนหลังโรงเรียนนะ ...แล้วชั้นจะรอ ” ริมฝีปากเคลือบลิปสีมันวาวเอ่ยชวนจนทงเฮทำหน้าเหรอ เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกจู่โจมโดยหญิงสาวผู้เป็นเพื่อนร่วมห้องที่เห็น หน้าค่าตากันมานาน...


    “ อะ...อือ ” พอได้คำตอบที่พอใจ หล่อนก็สะบัดหน้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยทิ้ให้คนที่ถูกตามตัวยังงงไม่หายว่าถูกเรียกไปพบที่หลังสวนของโรงเรียน เพื่ออะไรกันแน่



    ..หรือหล่อนคิดจะมาสารภาพรัก!!???



    ทงเฮเบิกตาโตเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

    ใช่สิ!
    เรียกไปพบ...
    สวนหลังโรงเรียน...
    จดหมาย...

    สารภาพรัก...!!
    โป๊ะเชะเลยนี่นา!!!


    เฮ้อ~...เกิดเป็นคนหล่อนี่มันลำบากจริงๆเลยนะเนี่ย (เหรอ?)


    “ เฮ้ย มึงยิ้มไร ” ฮยอคแจแทบจะใช้ส้นพระบาทาสะกิดเพื่อน เมื่อเห็นว่าอีทงเฮกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว


    “ ก็คนมันเสน่ห์แรงอ่ะ ยิ้มไม่ได้หรือไง ”


    “ ถุย!! ” ทงเฮเบี่ยงตัวหลบ คิดว่าอาจไม่ปลอดภัยแม้ฮยอคแจจะตั้งใจให้เป็นแค่เสียงสบถ แต่มันก็อาจมันสิ่งแปลกปลอมเล็ดรอดออกมาจากปากของอีฮยอคแจก็ได้นี่นะ


    “ อย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้สึกตัว! ”


    “ รู้สึกสิ ” พยักหน้าด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมจนแทบล้น


    “ มึงรู้สึกอะไร? ” ฮยอคแจถามกลับเพราะคาดว่าทงเฮกำลังพูดและคิดไปกันคนละเรื่อง


    “ ก็แชอึนมาตามกูไปสารภาพรักไง ” ยักคิ้วให้เพื่อนที่ได้แต่อ้าปากค้าง




    มึงใช้สมองส่วนไหนคิดครับเนี่ย!!??? ไก่เครียดดดดด




    “ แต่กูคงตอบปฏิเสธไปอ่ะนะ เพราะคิดกับเธอแค่เพื่อนเอง ” แสร้งทำคอตก แต่ในใจนังหมวยมันกำลังลิงโลด กู่ร้อง บอกว่า ....กูป๊อบไงครับ เพื่อน วะฮะฮ่า


    “ เอิ่ม... ” ไม่พูดจะเริ่มพูดยังไงดีให้ปลาบู่น้อยมันเข้าใจสถานะของตัวเองในขณะนี้


    “ มึงไม่เห็นสายตาที่แชอึนมองมึงเมื่อกี้เหรอ ”


    “ เห็นสิ ” ทงเฮพยักหน้าแล้วฉีกยิ้มกว้าง


    “ เค้ามองกูด้วย....ความรัก~ ”



    =______________=
    โอ....ฮยอคแจอยากจะเป็นลม...
    นี่มึงแปลสัญญาณไฟแค้น ไฟริษยาในตาผู้หญิง เป็นไฟรัก ไฟพิศวาสในตัวมึงได้ยังไงกันห่ะ ไอ่หมวย!!!



    “ ทำไมมึงต้องทำหน้าเหมือนกูพูดผิดด้วยล่ะ ”


    “ ก็เพราะมึงพูดผิดน่ะสิ! ” พอฟังเพื่อนมีความคิดตรงกันข้าม ทงเฮก็ทำปากจู๋...ส่งเสียงจุ๊ๆ เหมือนกับว่า ฮยอคแจไม่ได้เข้าใจคนที่กำลังมีความรักซะบ้างเลย


    “ คนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์คนมาสารภาพรักอย่างมึง ก็คงต้องอิจฉากูเป็นธรรมดา ”


    สาบานได้เลยว่า ถ้าไม่ติดเรื่องที่ฮยอคแจยังเป็นห่วงสวัสดิภาพของยัยหมวยคนนี้อยู่ล่ะก็.... เค้าคงไม่ลังเลที่จะปล่อยให้อีทงเฮหลงงมงายอยู่กับโลกแห่งความฝันที่เจ้าตัว สร้างขึ้นเองต่อไปอย่างแน่นอน!


    “ กูไม่ได้อิจฉา ”


    “ แต่แอบเคืองนิดๆชิมิล่า~ ” ดูดู๊ดู ..ดูมันทำ -*- น่าเตะให้ความกะล่อนหลุดออกจากร่างเตี้ยๆของมันม้ากมาก


    “ กูไม่ได้อิจฉาหรือเคืองมึงทั้งนั้นแหละ ” ฮยอคแจพูดเสียงเข้มขึ้น “ ที่กูบอกมึงก็เพราะกูหวังดีหรอกนะ ”


    “ บอกอะไร? ”


    “ ก็แชอึนน่ะ เค้าไม่ได้อยากเรียกมึงไปสารภาพรักหรอก ”


    “ ซี้ซั้วต่า ” ทงเฮล้งเล้ง เริ่มใช้ภาษาบรรพบุรุษมาพูดกับฮยอคแจ “ มึงมั่วล่ะ ไอ้ไก่ ”


    “ กูไม่ได้มั่ว กูพูดจริง ” ทำหน้าเครียดๆ จะได้ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น


    “ มึงก็รู้ว่ายัยนั่นเป็นสาวก คิมคิบอม ” ชื่อนี้ทำให้คนเคยกร่าง หน้าตึงขึ้นมาทันที


    “ แล้วถ้าเป็นมึง หากคนที่มึงชอบดันมีไอ้ฟายตัวไหนก็ไม่รู้ เดินมาโรงเรียนด้วยกัน แถมยังมาส่งกันถึงห้อง แบบมึงกับคิบอมอีก เป็นมึง....มึงจะแค้นไอ้ฟายตัวนั้นมั้ย??? ”



    เปรียบเทียบซะทงเฮเกือบมีเขางอกขึ้นมาบนหัว...
    ร่างบางทำเสียงฮึดฮัด ในขณะที่คิดตามที่ฮยอคแจพูด และสุดท้ายทงเฮก็สามารถตระหนักได้ถึงความหมายที่ฮยอคแจต้องการจะสื่อกับเค้า



    “ มึงหมายความว่า.... ” กลืนน้ำลายหนึ่งเอื๊อก ก่อนเอ่ยเรื่องสยองขวัญ


    “ แชอึนจะเรียกกูไปตบเหรอ? ”


    แค่เห็นฮยอคแจพยักหน้าช้าๆ ความผยองว่าตัวเองหล่อเร้าใจก็ลดลงฮวบฮาบ อยู่ในจุดที่ติดลบ


    ...ไม่สารภาพรักไม่พอ ยังเรียกกูไปตบอีกรึนี่ -*-


    “ ทำไงดีวะ ไอ้ไก่ กูไม่ไปดีมะ ” เขย่าแขนเพื่อนรัก จอมวางแผนไม่แพ้เฮียยุน ให้ช่วยคิดช่วยจัดการ


    “ มึงไม่ไปก็ได้ ”


    “ จริงดิ? ”


    “ แต่เตรียมตัวโดนขโมยมือถือ หนังสือเป็นรู ตะปูในซองจดหมาย กระถางต้นไม้หล่นใส่กบาล สมุดการบ้านหาย ม้วยมลายตายศพไม่สวยล่ะ! ”



    =______________=
    โอเค.....ร่ายมาเป็นกลอนอย่างนี้ ตกลงคือต้องไปใช่มะ?



    “ มึง....แล้วกูจะทำยังไงดีวะ จิกหัวตบคืน กูก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษน่ะสิ ” ฮยอคแจเหล่มองคนที่กำลังนั่งถูมือไปมา ประมาณว่าเตรียมพร้อม วอร์มอัพเดอะแฮนด์ ...แล้วนี่หรือคือสุภาพบุรุษที่มันว่า.....?


    “ กูมีวิธีที่ดีกว่านั้นเหอะ ” จู่ๆก็เหมือนมีความฉลาดแล่นเข้ามาในหัวของฮยอคแจอย่างรวดเร็ว


    มีอยู่สินะ....วิธีที่เค้าเรียกว่า ‘ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว’ น่ะ


    “ อะไรๆ ”


    “ มึงก็ไปตามที่แชอึนนัดนั่นแหละ ” ทงเฮร้องอืมในลำคอเสียงหงอยๆ


    “ แล้วถ้าเกิดโดนตบขึ้นมาจริงๆ มึงก็อย่าไปตอบโต้ล่ะ ทำตัวน่าสงสารให้เหมือนดาวพระศุกร์เข้าไว้ ร้องห้ามได้แต่อย่าปัดป้องล่ะมึง ”


    “ อ้าว...งี้กูก็เจ็บอ่ะดิ ” ทงเฮขมวดคิ้วร้องค้าน ...เรื่องอะไรจะยอมเจ็บตัวฟรีๆล่ะ


    “ เจ็บแป๊บเดียว...แต่เดี๋ยวก็มีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยมึงเองแหละ ”


    “ ใคร ”


    “ ก็คิมคิบอม เป้าหมายมึงไงล่ะ ”


    “ หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ”


    ทงเฮร้องเสียงดังจนฮยอคแจต้องคว้าคอมันมา เอากำปั้นอุดปากมันไว้ จะได้ไม่เป็นที่รำคาญของเพื่อนร่วมห้อง


    “ มึงร้องหาเตี่ยมึงเรอะ ”


    “ ก็มึงเรียกหมอนั่นมาทำไมเล่า ” งัดมือของฮยอคแจที่พยายามจะปิดปากของตัวเองออก พลางถามด้วยความไม่เข้าใจในแผนของเพื่อนตัวบาง


    “ มึงเคยอ่านการ์ตูนเปล่าล่ะ ” ทงเฮสั่นหัวพั่บๆ อย่างน้อยเค้าก็ไม่เคยอ่านพวกการ์ตูนตาหวานของเด็กผู้หญิงหรอกน่า


    “ ฉากยังงี้ ...นางเอกมันต้องโดนรังแกก่อนสักสิบนาที จนพระเอกเข้ามาช่วยนี่แหละ มันถึงจะเกิดเป็นความรัก~ ”


    “ ก่อนจะเกิดเป็นความรัก กูคงปากแตก กบาลแยกเป็นสองซีกแล้วล่ะ ”


    “ ชิส์ ” ฮยอคแจจิ๊ปาก เพราะถูกคนตัวเล็กร้องขัด “ เออ ถ้างั้นมึงก็ไปให้พวกผู้หญิงรุม โดยไม่ต้องมีใครมาช่วยแล้วกัน ”


    ปล่อยตัวเพื่อน แล้วหันหน้าออกทางหน้าต่าง กอดอกแบบกูงอนมึง ทราบแล้วเปลี่ยน...ให้ทงเฮหน้าเสีย เพราะอับจนหนทาง และในที่สุดก็ต้องง้อฮยอคแจ เนื่องจากไม่มีแผนที่ดีกว่านี้แล้วอยู่ดี


    “ อ่า~ ไอ้ไก่ ...หัวก็ไม่ได้ล้าน ไม่ได้เถิกเหมือนชเวซีวอน ทำไมมึงขี้ใจน้อยยังงี้ว้า~ ” เข้าไปเกาะออเซาะเพื่อนด้วยท่วงท่าที่ใส่จริตมารยาอย่างที่ยุนโฮเคยสอนเข้า ไป แล้วมีหรือฮยอคแจจะไม่ใจอ่อน กับไอ้หน้าง้ำๆ ปากงอนๆ ตาปริบๆ และน้ำเสียงหวานๆนี่


    “ กูเปล่า ” เล่นตัวพอเป็นพิธี “ แต่มึงเถียงแผนกูอ่ะ ”


    “ ไม่เถียงแล้วก็ได้ ...อย่างอนดิ ”


    “ ตกลงคือมึงจะทำใช่มั้ย? ”


    คำถามที่ทำให้ทงเฮต้องคิดหนัก แต่พอเหลือบไปมองหน้าขาวๆของฮยอคแจ ไอ้คำว่า ‘ไม่อยากทำ’ ...ทงเฮก็ต้องเหยียบมันให้จมดิน เพราะคิดๆดูแล้ว นี่ก็คงเป็นหนทางที่ดีที่สุดอย่างที่ฮยอคแจว่าไว้จริงๆ



    “ เออ ”



    หนทางการเล่นบาสของอีทงเฮ ทำไมมันโรยด้วยตะปูและใบมีดอย่างนี้ฟร้า~~~~ 






    TBC.

     

     

     

    คอมเม้นท์สั้นๆ แต่เป็นกำลังใจใหญ่หลวงให้สำหรับคนแต่งนะค่ะ ^^

    แล้วเจอกันพาร์ทหน้าคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×