คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 17
อเล็กเข้ามาถึงที่บริษัทวรโชติธนันก็เข้าไปทำงานทันที ก่อนจะสั่งให้กรนกเอาเอกสารที่ต้องการเข้ามาให้อีกมากมาย เขาพยายามทำงานที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดเพื่อตัวเขาเองเพื่อบริษัทและเพื่อเมียรักของเขา แต่แล้วความวุ่นวายในใจก็ไม่สามารถทำให้เขานั้นมีสมาธิทำงานได้อีกต่อไป เขากังวลว่าแก้วมณีจะมองเขาเปลี่ยนไปกลัวว่าเธอจะเกลียดเขากลัวว่าเธอจะทิ้งเขาไป หากเป็นแบบนั้นเขาคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น แค่คิดเขาก็ยิ่งโกรธลดาวรรณมากขึ้น เรื่องระหว่างเขากับเมียรักกำลังไปได้ด้วยดีแต่เธอดันโผล่มาสร้างความวุ่นวายและร้าวฉานในครอบครัวของเขา แถมยังแต่งเรื่องลอกลวงได้อย่างร้ายกาจว่าเด็กในท้องของเธอเป็นลูกของเขา ถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ว่าเด็กที่อยู่ในท้องของลดาวรรณนั้นจะเป็นลูกของเขาจริงรึเปล่า แต่เขาก็คิดว่าเขานั้นไม่หน้าพลาดถึงขนาดไม่ป้องกันกับผู้หญิงที่เขาไม่คิดจะจริงจังด้วยอย่างลดาวรรณจนเกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะแก้วมณีขอเอาไว้เขาคงจะลากตัวเธอไปตรวจให้รู้แล้วรู้รอดว่าเรื่องที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องจริงรึเปล่าแล้ว วันนี้เขานั้นไม่อยากกลับบ้านเลยด้วยซ้ำเพราะไม่อยากกับไปอยู่ร่วมชายคากับผู้หญิงร้ายกาจอย่างลดาวรรณ เขาอยากจะพาเมียรักออกไปอยู่คอนโดของเขาข้าวนอกซะให้รู้แล้วรู้รอดไปแต่แก้วมณีก็คงจะไม่ยอม เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องให้ลดาวรรณอยู่ในบ้านเดียวกับเขา เขาไม่รู้ว่าต่อจากนี้ผู้หญิงอย่างลดาวรรณนั้นจะก่อเรื่องอะไรให้เขานั้นผิดใจกับแก้วมณีอีกบ้าง แต่ไม่ว่าเธอจะคิดหรือทำอะไรก็ตามที่มาบั่นถอนความรักของเขากับเมียเขาจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่ และเมื่อถึงตอนนั้นเธอจะมาหาว่าเขานั้นใจร้ายไม่ได้
เมื่อไม่มีสมาธิทำงานอีกต่อไปและเห็นว่าถึงเวลาพักเที่ยงแล้วเขาจึงรีบลงมาที่รถหวังว่าจะไปรับภรรยาออกมาทานข้าวเที่ยงด้วยกันให้ได้พอมีกำลังใจในการทำงานตอนช่วงบ่ายอีกครั้ง เมื่อถึงหน้าบริษัทของเมียรักร่างสูงในชุดสูทราคาแพงก็ก้าวลงจากรถและขึ้นไปบนห้องทำงานของเมียรักทันที
“คุณอเล็กมาหาท่านประธานหรือคะ”
“ครับผมจะมารับเธอไปทานข้าวด้วยกัน”
อเล็กตอบด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มอย่างอารมณ์ดีแต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเลขาสาวของเมียรักรายงาน
“ท่านประธานออกไปทานข้าวกับคุณทรงเกียรติคะ พึ่งออกไปเมื่อสักครู่นี่เอง.... เอ่อไม่ทราบคุณอเล็กได้นัดท่านประธานเอาไว้ก่อนรึเปล่าคะ”
“ทำไมผมต้องนัดด้วยนั้นภรรยาของผมนะ....”
อเล็กตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เขาอารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้ว่าเมียของเขานั้นออกไปกับใคร ถึงเธอจะเคยบอกว่านายทรงเกียรติอะไรนั้นเป็นเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่สมัยเป็นเด็กก็ตาม แต่เขานั้นก็ไม่ชอบอยู่ดี เพราะเธอไม่เคยคิดที่จะแนะนำหรือให้เขานั้นได้พบกับเพื่อนของเธอคนนี้เลยด้วยซ้ำ เขาแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อนของเธอคนนี้เลย และการที่เมียของเขานั้นยอมออกไปทานข้าวข้างนอกกับผู้ชายคนนี้อย่างง่ายดายทั้งๆที่เวลาเขานั้นชวนเธอออกไปเที่ยวหรือไปทานอะไรนอกบ้านกันแต่ละครั้งแสนยากเย็นเพราะเธอเอาแต่ค่อยปฏิเสธอยู่เรื่อย เขายอมรับว่าความรู้สึกที่เขามีอยู่ตอนนี้คือความหึงหวง ซึ่งเขานั้นไม่เคยมีให้กับผู้หญิงหน้าไหนมาก่อนเลยในชีวิต และการที่เขานั้นกำลังมีปัญหาขนาดยักษ์ใหญ่รออยู่ที่บ้านก็ทำให้เขานั้นยิ่งกลัว กลัวว่าถ้าหากเธอทิ้งเขาไปหาคนอื่นจะเป็นอย่างไร
“ขอโทษคะ เอ่อดิฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“แล้วนี่ปกติไอ... เอ่อ...คุณทรงเกียรติอะไรเนี่ยมาหาภรรยาฉันบ่อยไหม”
“ก็เกือบทุกวันนะคะ ถ้าไม่พาท่านประธานออกไปทานข้าวข้างนอกก็จะเอาอาหารจัดใส่ปิ่นโตมาทานด้วยกันในห้องทำงาน เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ดิฉันมาทำงานที่นี้แหละคะ”
“เกือบทุกวัน..... บ้าเอ่ย!!!”
“,,,,,”
เลขาของแก้วมณีแทบจะทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นท่าที่ฉุนเฉียวของอเล็กที่ดูจะมากขึ้น
“ฉันจะเข้าไปรอภรรยาฉันในห้อง ถ้าภรรยาฉันมาเธอไม่ต้องบอกนะว่าฉันรอเขาอยู่ข้างใน”
“คะ”
อเล็กเข้าไปในห้องทำงานของแก้วมณีก่อนที่จะปิดประตูตามหลังอย่างแรง
“แกเป็นใครกันกล้าดียังไงมาพาเมียฉันออกไปนู้นไปนี่ ฉันจะต้องรู้จักแกให้ได้วันนี้ อยากรู้นักว่าหน้าตาแกจะเป็นยังไง”
.............................................................................................................................
หลังจากที่ทรงเกียรติและแก้วมณีทานอาหารกันเสร็จแล้วทรงเกียรติก็ขับรถมาส่งเธอที่บริษัท และเป็นเพราะยังไม่มีใครรู้ว่าเธอนั้นสามารถเดินได้แล้วจึงทำให้ทรงเกียรติต้องอุ้มเธอลงจากรถของเขา ก่อนจะอุ้มพาขึ้นไปบนห้องทำงานเหมือนทุกครั้งที่เขาพาเธอออกไปข้างนอก ทุกครั้งที่เขาและเธอออกไปทานอาหารข้าวนอกในที่สาธารณะทรงเกียรติก็มักจะดูแลแก้วมณีเหมือนกับว่าเธอนั้นเดนไม่ได้ เพราะความจริงที่เธอนั้นเดินได้มาตั้งนานแล้วมีเพียงแค่ทรงเกียรติเท่านั้นที่รู้เรื่องความลับนี้
“นี่ตัวเบาขึ้นรึเปล่าเจ้าหญิง อย่างเครียดมากนักนะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
ทรงเกียรติพูดพลางเดินเข้าลิฟเพื่อพาแก้วมณีกลับไปที่ห้องทำงาน
“ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้แก้แค้นพวกมันให้สมใจ ฉันก็ยังไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจเรื่องอะไรหรอก”
“ฉันอยากเห็นเธอคนเดินอีกครั้งนะเจ้าหญิง ฉันคิดถึงเพื่อนของฉันที่เขามักจะยิ้มและหัวเราะบ้างเวลาไปไหน รู้ไหมเดี๋ยวนี้เธอแทบจะไม่ยิ้มหรือหัวเราะเลย”
“ขอบใจนะทรงที่นายค่อยอยู่เคียงข้างฉันตลอดเวลา นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน ขอบใจนะ....”
“อืม.... ก็เรามีกันแค่นี้หนิถ้าไม่ให้ฉันอยู่ข้างเธอแล้วจะให้ฉันไปอยู่ข้างใครล่ะจริงไหม”
“เพราะนายเป็นคนดีฉันถึงอย่างให้มีคนดีๆมาดูแลนาย นายไม่ควรจะปิดโอกาสตัวเองแบบนี้นะทรง”
“อย่าเป็นห่วงฉันเลยมันไม่ใช่เวลาที่เธอจะมากังวลเรื่องฉัน เพราะตอนนี้เรามีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นที่ต้องทำ ยิ่งยัยนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านหลังเดียวกับเธอฉันก็ยิ่งเป็นห่วง เพราะเธอคนนี้ร้ายใช่ย่อยซะที่ไหน”
“แล้วนายคิดว่าฉันไม่ร้ายหรอ”
“หึหึ... เจ้าหญิงของฉัน ฉันรู้จักความร้ายกาจของเธอดีแต่คนที่มันไม่ได้ร้ายเพียงอย่างเดียวแต่เลวด้วยหน่ะสิที่น่ากลัว ระวังตัวเองดีๆความจริงเธอควรจะมีบอดี้การ์ดสักคนค่อยอยู่แลเธอด้วยที่บ้านนะ นี่มีแค่ลุงสนคนเดียวที่ตามเธอไปอยู่ที่นั้นมีอะไรลุงสนคนเดียวคงช่วยอะไรไม่ได้ทัน”
“ไม่มีวันที่ยัยนั้นหรือใครจะทำอะไรฉันได้หรอก เพราะฉันจะไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกพวกมันกระทำเหมือนพี่กรแน่ๆนายวางใจได้”
เมื่อประตูลิฟเปิดออกทรงเกียรติก็มุ่งตรงไปที่ห้องทำงานของเธอ เลขาของหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนกับมาก็มีท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะถูกสามีของเธอกำชับเอาไว้ว่าไม่ให้รายงานว่าเขานั้นมานั่งรออยู่ในห้องของเธอ จึงไม่รู้ว่าจะทำทีท่าอย่างไรดีในตอนนี้เมื่อเจ้านายของเธอเข้ามาใกล้เรื่อย ภาพที่ทรงเกียรติมักจะอุ้มแก้วมณีไปทานอาหารกลางวันด้วยกันและพามาส่งหรือภาพที่เขามักจะนำอาหารใส่กล่องมาทานกับเธอนั้น เป็นภาพที่เห็นจนชินตาสำหรับหลายๆคนในบริษัทนี้ แต่มันต้องไม่ชินตาสำหรับคนบ้างคนที่เฝ้ารออยู่นานแล้วในห้องของเจ้านายเธอแน่ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาเห็นภาพนี้
“นี่จันฉันชื้อขนมมาฝากเธอด้วยนะ ร้านที่เธอบอกว่าน้องแม็กลูกชายเธอว่าอร่อยไงคราวที่แล้ว”
แก้วมณียื่นถุงขนมที่เธอซื้อมาฝากเลขาส่วนตัวให้กับเลขาของเธอ ก่อนจะสังเกตเห็นว่าวันนี้เลขาของเธอนั้นมีท่าทางแปลกๆ
“มีอะไรรึเปล่าจัน ทำไมทำหน้าตาแบบนั้น”
“ปะ...เปล่าคะท่านประธาน ขอบพระคุณมากเลยนะคะสำหรับขนมท่านประธานไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาฝากจันกับลูกเลยคะ จันเกรงใจท่านจังเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง วันหลังก็พาน้องแม็กมาเล่นที่นี่อีกสิฉันคิดถึง”
“ขอบคุณท่านประธานจริงๆคะที่เมตตาจันกับลูก”
“ไม่เป็นไรหรอกจันเธอเรื่องแค่นี้เอง”
พอพูดจบแก้วมณีกับทรงเกียรติก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง แต่ทั้งสองก็พบว่าภายในห้องนั้นมีใครบ้างคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วมองทั้งสองคนกลับมาด้วยแววตาที่เกรียวกราด แต่สายตานั้นก็ไม่ได้ทำให้แก้วมณีเกรงกลัวแต่อย่างใด ทรงเกียรติเองก็เช่นกันเขาอุ้มพาเธอไปนั่งบนรถเข็น
“ฉันคงต้องกลับก่อนนะเจ้าหญิง เอาไว้เดี๋ยวฉันโทรมาหานะ”
ทรงเกียรติตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไปแต่ก็ต้องหยุดฝีเท้าเอาไว้เมื่ออเล็กที่นั่งเงียบกำมือแน่นอยู่นานเอ่ยขึ้น
“แก้วไม่คิดจะแนะนำเพื่อน....สนิท ของแก้วให้พี่รู้จักหน่อยหรอครับ”
ทรงเกียรติหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับอเล็กก่อนที่จะเดินเข้ามาหาเขาและยื่นมือออกไปข้างหน้าก่อนจะเอ่ยทักทายสามีของเพื่อนสนิท
“สวัสดีครับผมทรงเกียรติ เป็นเพื่อนของแก้ว ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ขอโทษที่ผมไม่ได้แนะนำตัวเองตั้งแต่ตอนแรก เพราะคิดว่ามันคงไม่สำคัญเท่าไร...”
ทรงเกียรติพูดด้วยรอยยิ้มหยั่น เขาพูดอย่างที่ใจของเขาคิด เขาไม่อยากจะรู้จักผู้ชายคนนี้ผู้ชายที่ทำให้ดวงใจของเขาต้องเจ็บปวดและทรมาน
อเล็กได้ยินแบบนั้นก็ขบกรามแน่นจะเป็นสันนูนขึ้นมา ในใจก็พลางคิดไปว่า ไอหมอนี้มันกล้ามากที่พูดกับเขาแบบนี้ทั้งๆที่มันเข้ามายุ่มย่ามกับเมียของเขาอย่างไม่เกรงใจสามีอย่างเขาที่นั่งอยู่หัวโด่แบบนี้ เขาไม่สนว่าไอหมอนี่จะมีฐานะเป็นเพื่อนสนิทของเมียเขาหรืออะไรก็ชั่ง แต่ตอนนี้แก้วมณีเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว (และขี้ห่วงมากซะด้วย) ทรงเกียรติจึงไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาทำอะไรกับเมียเขาแบบนี้เขาไม่เข้าไปชกหน้าหล่อให้หงายตั้งแต่เห็นว่าเดินอุ้มเมียเขาเข้ามาในห้องก็ดีเท่าไรแล้ว แถมยังมาแสดงออกถึงความสนิทสนมกับเมียของเขาอย่างออกนอกหน้าด้วยการเรียกด้วยชื่อเรียกแปลกๆกับยังบอกอีกว่าจะโทรหา คิดไปแล้วเขาก็แทบจะลุกเป็นไฟกับความไม่เกรงใจของคนที่เขาคิดว่าไม่หน้าไว้วางใจมากที่สุดในตอนนี้
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ผมอเล็กเป็นสามีของน้องแก้ว แต่เรื่องนั้นคุณคงจะรู้อยู่แล้ว แก้วเคยเล่าเรื่องคุณให้ผมฟังมาบ้างแล้วได้เจอตัวจริงสักทีนะครับ”
“หรอครับแก้วเล่าเรื่องของผมให้คุณฟังด้วยหรือครับ.... หึหึ ผมหน่ะรู้จักกับแก้วมาตั้งแต่สมัยเราเรียนอนุบาลและเราก็เติบโตและเรียนมาด้วยกันตลอด จนกระทั้งเธอต้องมาเจอเรื่องร้ายจนเดินไม่ได้ตอนนั้นแก้วถึงได้แยกตัวกลับไปเรียนที่บ้านแทนส่วนผมก็ไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่เราก็ไม่เคยขาดการติดต่อกันเลย แก้วเป็นคนที่มีความสำคัญกับผมมากและเราก็สนิทกันมาก ผมคิดว่าคุณคงจะเข้าใจและไม่ถือสาที่ผมอุ้มแก้วเข้ามาเมื่อกี้ เพราะปกติผมก็ดูแลเธอแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว”
“คุณนี่เป็นคนพูดตรงเหมือนนะครับ แต่คุณไม่คิดบ้างหรือครับว่าการที่คุณอุ้มพาภรรยาของคนอื่นไปนู้นมานี่เนี่ยมันจะหน้าเกลียด เพราะคนอื่นทุกคนคงจะไม่โลกสวยคิดอะไรในแง่ดีกันไปซะหมดหรอกนะครับ”
“ใช่ครับผมเป็นคนพูดตรง คิดอะไรก็พูดออกมาแบบนั้นและเมื่อผมรู้สึกอะไรกับใครผมก็จะแสดงมันออกมาเช่นกัน และเรื่องมองโลกสวยอะไรเนี่ยบังเอิญผมก็ไม่แคร์ซะด้วยเพราะผมอยู่ของผมมาแบบนี้จนชินแล้ว เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเรื่องที่ผมพาแก้วออกไปทานข้าวหรือไปข้างนอกผมเองก็ทำเป็นประจำ ผมไม่แคร์ถ้าหากใครจะคิดอะไร เพราะ.....บางทีเขาอาจจะคิดถูกก็ได้...ว่าไหมครับ”
อเล็กได้ยินแบบนั้นก็เหลืออดปล่อยหมัดหนักๆใส่ทรงเกียรติทันทีทำเอาทรงเกียรติถึงกับเซล้มลงไปที่ที่พื้นเพราะไม่ทันจะได้ตั้งตัว มาเฟียหนุ่มเช็ดเลือดที่ไหลออกมามุมปากก่อนจะยิ้มเหมือนคนที่ไม่รู้สึกเจ็บอะไร
“นี่พี่อเล็กทำอะไรคะ ชกทรงทำไม นายเป็นอะไรมากรึเปล่าทรงลุกได้ไหม”
แก้วมณีเคลื่อนรถเข้ามาทรงเกียรติด้วยความเป็นห่วง ท่าของเมียรักที่แสดงความเป็นห่วงคนที่เธอเรียกว่าเพื่อนสนิททำให้เขายิ่งคลั่ง ทั้งๆที่เรื่องนี้เขานั้นไม่ผิดเลยด้วยซ้ำ
“แก้วก็ดูที่เพื่อนแก้วมันพูดสิครับ มันพูดเหมือนกับว่ามันจะมาแย้งแก้วไปจากพี่อย่างนั้นแหละแล้วจะให้พี่ทนได้อย่างไรกันครับ”
“พี่อเล็กคิดมากเกินไปรึเปล่าคะ ทรงเขาก็แค่พูดไปอย่างนั้น เราสองคนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆและการที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนอื่นเห็นจนเคยชิน และร้านที่เราไปทานข้าวหรือห้างที่เราไปเดินก็เป็นที่ประจำที่คนแถวนั้นรู้จักเราดี รวมถึงที่บริษัทนี่ด้วย พวกเขาไม่คิดอกุศลแบบพี่หรอกคะ”
อเล็กอึ่งไปเพราะเขาไม่เคยถูกเมียของเขาที่ทั้งอ่อนหวานและหน้ารักใจเย็นดุด่ามาก่อน ถึงเขาจะเคยขึ้นเสียงกับเธอเธอก็ไม่เคยต่อว่าอะไรเขากลับใจเย็นและพูดกับเขาดีๆเสมอ แต่มาวันนี้เธอกับต่อว่าเขาต่อหน้าผู้ชายที่เธอเรียกว่าเพื่อสนิท
“แก้วว่าพี่.... แก้วเข้าข้างมัน พี่เป็นผัวแก้วนะครับทำไมแก้วไม่เข้าพี่แต่ไปเข้าข้างมันแบบนี้ สิ่งที่มันพูดมาเมื่อกี้ใครฟังก็รู้ว่ามันต้องการอะไร”
“พี่หยาบคายมากเลยนะคะ แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าทรงเขาต้องการอะไรไม่ต้องการอะไร พี่อย่าเอาประสบการณ์เรื่องผู้หญิงของพี่มาตัดสินเพื่อนของแก้ว เพราะทรงเขาไม่เหมือนพี่ และแก้วกับเขาก็เป็นเพื่อนสนิทกันเราบริสุทธิ์ใจต่อกันหากใครหน้าไหนจะคิดอกุศลหรือมองเราในแง่ร้ายก็เชิญเถอเคะ เพราะแก้วคงไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงความคิดของใครได้ และถ้าพี่จะมาที่นี่แล้วมาทำแบบนี้แก้วเชิญพี่กลับไปดีกว่าคะ เพราะการที่พี่ทำแบบนี้เท่ากับไม่ให้เกียรติแก้วเลย”
“แก้ว...... พี่ขอโทษนะครับพี่ไม่ได้ตั้งใจพี่ก็แค่ห่วงแก้วมากเท่านั้น พี่รักแก้วมากนะครับ พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว แก้วอย่าโกรธพี่นะครับพี่ขอโทษ จะให้พี่ขอโทษเพื่อนแก้วด้วยก็ได้”
“พี่อเล็กกลับไปก่อนเถอะคะ.... แล้วเย็นนี้ไม่ต้องมารับแก้วเดี๋ยวแก้วจะให้ลุงสนมารับแก้วเอง”
อเล็กพูดไม่ออกเขารู้สึกถึงความเย็นชาที่เธอส่งมาให้เขา แต่ก็ไม่กล้าที่จะดึงดันฝืนอยู่ต่อเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอนั้นยิ่งโกรธเขาไปมากกว่านี้ เขาจึงยอมที่จะกลับไปก่อน แต่เขายังไม่วายส่งสายตาอาฆาตร้ายมายังทรงเกียรติที่ยิ้มเยาะเขาอย่างออกนอกหน้า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาทำให้เขานั้นรู้ดีว่าทรงเกียรติได้ประกาศตัวเป็นศัตรูหัวใจของเขาเขาแน่แล้ว และเมื่อเห็นว่าเมียรักนั้นเข้าข้างเพื่อนสนิทอย่างออกนอกหน้ารวมทั้งคดีเก่าของเขาที่ยังคงรออยู่ที่บ้านมันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียเปรียบทรงเกียรติมากเหลือเกิน เพราะถ้าหากตอนนี้ผู้ชายคนนี้คิดจะแย้งเมียเขาไปก็คงไม่ใช่เรื่องยากเลย อเล็กจึงจำต้องถอยออกมาก่อนเพื่อตั้งหลักกับเรื่องนี้
ความคิดเห็น