พลังแห่งเดดไลน์

สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย ผมจะมีเพื่อนคนหนึ่งที่ทำตัวราวกับไม่มีงานอะไรให้ทำ ใช้ชีวิตช้าๆ สโลว์ไลฟ์ (ถึงแม้งานจะเยอะก็ตาม) แต่เมื่อไหร่ “เดดไลน์” ใกล้เข้ามา เต่าจะสถาปณาตัวเองเป็นแบร์รี อัลเลนในหนัง “เดอะแฟลช วีรบุรุษเหนือแสง” เขาจะทำงานเสร็จรวดเร็ว จนเพื่อนๆ ต้องอึ้ง

.

            ถ้าเปรียบเทียบกับหนังแล้ว คล้ายๆ พระเอกที่โดนทำร้ายในช่วงแรกๆ พอใกล้ๆ จะจบหนังแล้วพระเอกจะขจัดทุกปัญหาที่เข้ามาในชีวิตจนมลายสิ้น

.

“เดดไลน์ไม่มา ปัญญาไม่เกิด” คำเหล่านี้เรามักจะได้ยินบ่อยๆ สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย ผมว่าหลายๆ คนก็มักจะเป็นกัน ต่อให้อาจารย์สั่งงานมาเป็นเดือนๆ ถ้ายังไม่ถึงเวลาส่งหรือเดดไลน์ ก็ยังไม่ทำ แม้นจะเป็นงานใหญ่ก็ตาม

.

            เมื่อเข้าสู่ช่วงการสอบ หลายๆ คนก็มักจะอ่านหนังสือก่อนวันสอบ 1 วัน ทั้งๆ ที่มีเวลาทบทวนบทเรียนทั้งเดือน แต่ก็พึ่งจะมาขยันเอาวันสุดท้าย

.

            จนเกิดคำพูดติดปากของนักศึกษาว่า “One Night Miracle” อ่านหนังสือจนโต้รุ้ง บางคนก็อ่านทัน บางคนก็ไม่ทัน และพูดกับตัวเองว่า “รอบหน้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” พอถึงเวลาจริงก็วนกลับไปทำเหมือนเดิม

.

            จะเห็นได้ว่าเดดไลน์มีประโยชน์ในการทำงานของเราให้เสร็จลุล่วงในเวลาที่กำหนดก็จริง แต่ในเวลาเดียวกัน งานของเราอาจจะไม่มีประสิทธิภาพ หลายคนอาจจะอ่านหนังสือก่อนสอบ 1 วันทัน แต่พอเข้าห้องสอบกลับจำไม่ได้ ลืม เพราะเราหักโหม อดหลับอดนอนมาทั้งคืน สมองเลยเลอะเลือน  

.

            เดดไลน์มีไว้เป็นเครื่องผลักดันในการทำงาน  มิใช่ผัดวันประกันพรุ่ง