[นิยายแปล] ฮูหยินหม้าย 弃夫 (BL, Yaoi)
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ นิยายวาย Tags : นิยายแปล, นิยายวาย, ย้อนอดีต, ฮูหยิน, นิยายจีน, นิยายแปลจีน, นิยายจีนโบราณ
ผู้แต่ง : Jpolly Wu
My.iD :
https://my.dek-d.com/ployyoon/writer/
ตอนที่ 50 : "ดวงใจร้าวราน" อีกแล้ว?
ตอนที่ 50 "ดวงใจร้าวราน" อีกแล้ว?
กลับมาที่ภัตตาคารเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน
“จิ้งหยาง ที่เจ้ามาในครั้งนี้ มีเรื่องอันใดหรือ?” เหยียนห้าวเอ่ยถามศิษย์น้องอันเป็นที่รักของตัวเอง
“พี่ใหญ่ ข้ามาเยี่ยมท่านกับเว่ยหนิง” สีหน้าของจิ้งหยางมีแววเครียดขึงเล็กน้อย “ข้ารู้นานแล้วว่าความสัมพันธ์ของท่านกับเว่ยหนิงมิสู้ดีนัก แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นถึงขั้นนี้ พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านโศกเศร้าเพียงไร แต่เว่ยหนิงเองก็ทุกข์ระทมมิแพ้กัน เว่ยหนิงเป็นขนิษฐาของข้า ข้าจึงหวังว่าพี่ใหญ่จะเห็นแก่หน้าข้าเมตตาแก่เว่ยหนิงบ้าง”
ห้าวเหยียนขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยถาม “เว่ยหนิงให้เจ้ามาพูดหรือ?”
“เปล่าหรอก เว่ยหนิงไม่ได้พูดอะไรกับข้า แต่ข้าดูออก” จิ้งหยางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยต่อ “วันนี้ที่ข้ามา แล้วพี่ใหญ่พาข้ามาทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้ แต่กลับไม่รับรองข้าที่ป้อมวิเวก เป็นเพราะพี่ใหญ่ไม่ต้องการร่วมโต๊ะเดียวกับเว่ยหนิงใช่หรือไม่?”
“จิ้งหยาง เจ้าตำหนิข้าหรือ?” ห้าวเหยียนเอ่ยปากถาม
“เปล่า พี่ใหญ่ ข้าไม่ได้ตำหนิท่าน หากเปลี่ยนเป็นข้า ข้าเองก็คงทำเช่นนี้เหมือนกัน” จิ้งหยางมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะพูดต่อ “พี่ใหญ่ ข้าไม่ตำหนิท่านหรอก ข้าตำหนิตัวเองมากกว่าที่ไม่อาจช่วยท่านได้ หากตอนนั้นข้าออกหน้าเอง ผลสุดท้ายก็คงจะไม่เป็นเช่นนี้! เพราะแบบนี้ สามปีที่ผ่านมาข้าจึงไม่มีหน้ามาพบท่านอีก”
“จิ้งหยาง อย่าเสียใจไปเลย ข้าไม่ได้ตำหนิเจ้าหรอก รีบกินเถอะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน”
“ประมุข ท่านอ๋อง คุณชายน้อยที่นั่งอยู่ห้องติดกับท่านเมื่อครู่นี้ขอเลี้ยงน้ำแกงชามนี้พวกท่าน” เสี่ยวเอ้อร์เอ่ยขัด ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นน้ำเปล่า แล้วทำไมต้องให้ประมุขกับท่านอ๋องจิ้งดื่มด้วย
“โอะ? มีเรื่องแบบนี้ด้วย? นี่เป็นครั้งแรกนะที่มีคนเลี้ยงน้ำแกงข้า ยกเข้ามาเลย ให้ข้าดูหน่อยสิว่าเป็นน้ำแกงอะไร”
เสี่ยวเอ้อร์รอจนได้รับอนุญาตจากท่านอ๋อง พอวางชามน้ำแกงแล้วก็อธิบายต่อ “คุณชายน้อยให้นำน้ำแกงที่ชื่อว่า ดวงใจร้าวราน มาให้พวกท่านขอรับ” พูดจบ น้ำแกงชามนั้นก็ถูกวางขึ้นโต๊ะทันที
ห้าวเหยียนมอง ‘น้ำแกง’ ที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะหุนหันลุกขึ้นยืนทันทีแล้วเอ่ยถามเสี่ยวเอ้อร์ต่อ “บอกมา เขาอยู่ที่ใด?”
“ใครขอรับ?” เสี่ยวเอ้อร์ไม่เข้าใจที่ห้าวเหยียนเอ่ยถาม
“คนที่ใช้ให้เจ้าเอาน้ำแกงมาไง เขาอยู่ไหนแล้ว?” ห้าวเหยียนคำรามขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“ไป...ไปแล้วขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์ที่ถูกห้าวเหยียนตะคอกใส่ก็ตกใจกลัวเสียยกใหญ่
“เขาไปไหนแล้ว? รีบบอกมา!” ทางจิ้งหยางเองก็ร้อนใจไม่แพ้กัน
“ข้า...ข้าน้อยมิทราบ ข้าน้อยเพียงได้ยินว่าพวกเขาจะไปซื้อของกัน”
“แล้วพวกเขาไปทางไหน?” ห้าวเหยียนถามต่อ
“ทางตะวันตกขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์ตอบ
พอเสี่ยวเอ้อร์พูดจบก็รู้สึกคล้ายมีพายุลูกใหญ่พัดผ่านหน้าไป พอหันกลับมา เงาร่างของประมุขกับท่านอ๋องจิ้งก็หายไปเสียแล้ว
ห้าวเหยียนรีบสาวเท้าออกจากภัตตาคารหรูทันที เขาวิ่งไปทางทิศตะวันตก ด้านหลังยังมีอ๋องจิ้งวิ่งตามมาติดๆ เขาเข้าออกแทบจะทุกร้านที่อยู่บนถนน รวมถึงร้านที่อยู่ในความดูแลของป้อมวิเวก พอเห็นประมุขใหญ่ของป้อมเข้ามาก็เร่งฝีเท้าพากันออกไปต้อนรับทันที พอเข้ามาในร้านห้าวเหยียนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
“พี่ใหญ่ ท่านหาแบบนี้คงไม่ไหวนะ เมืองหลวงมีถนนตั้งกี่สาย ซ้ำอี้เอ๋อร์ก็ไปตั้งนานแล้ว บางทีอาจจะเดินไปถนนเส้นอื่นแล้วก็เป็นได้ มิสู้เราส่งคนออกตามหาถนนทุกเส้นทุกซอย ทุกคนแยกย้ายกันออกหา จะต้องหาพบอย่างแน่นอน อีกอย่างท่านไม่ควรจะตื่นตระหนกเช่นนี้” จิ้งหยางบอกห้าวเหยียนว่าอย่าตื่นตระหนก แต่กลับเป็นตัวเขาเองที่รู้สึกกังวลใจยิ่งกว่า
หลังจากนั้นเกือบหนึ่งชั่วโมง ร้านค้าทุกร้านที่อยู่ในความดูแลของป้อมวิเวกก็ถูกปิดทั้งหมด ทุกคนในร้านต่างพากันร่วมแรงร่วมใจช่วยกันตามหาฮูหยินคนก่อนของป้อมที่หายตัวไป
แต่การค้นหาก็ไร้ผล ความรู้สึกผิดในก้นบึ้งหัวใจของห้าวเหยียนกำลังทะลักออกมา!
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ ขอตัวไปจับโปเกม่อนก่อน
*ตรวจคำผิดแล้วค่ะ
พึ่งได้มาเม้นอ่านรัวๆตั้งแต่ตอนแรกยันตอนนี้ สมน้ำหน้าเหยียนมาก
เอ้ะ!ว่าแต่เหยียนนี่ใครอ่ะ คุ้นๆ.เบะปากมองบน
ป.ล. นึกย้อนไปตอนนั้นแล้วขึ้นทุกทีประกอบกับตอนนี้ที่ห้าวเหยียนรู้สึกผิดแต่เมื่อเอาไปหักล้างกับสิ่งที่มันทำกับอิ้งอี้แล้ว ยังนับว่ายังอยู่ดีมีสุขเกินไป ไม่สงสารสักนิด เกลียดมันๆๆๆ
เฮ้อ ถ้าเหยียนปฏิเสธการแต่งงานเสียทีแรกก็ไม่ต้องมีคนเจ็บปวดใจหลายคนเพียงนี้
ตอนแรกอี้เอ๋อร์เจ็บ ตามมาด้วยเหยียน ต่อมาองค์หญิง แล้วตอนนี้ท่านอ๋องก็เจ็บเพราะสงสารน้องสาวอีก