ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เส้นทางแห่งแสง [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 10 ลาฝึก 6 ปี ภาค การจุติแห่งแสง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.92K
      329
      21 ธ.ค. 59

    หลังจากการสอบ ผ่านไป 1 วันผู้เข้าสอบทั้งหมดที่ได้เข้าสำนักมีอยู่ ราวๆ 120 คน แต่ล้ะคนมีปารณขั้นต่ำอยู่ที่ขั้นจอมยุทธ์ขั้นที่ 5 !
    หลังจากที่หลินเฟยได้เข้าร่วมกับศิษภายนอกแล้วหลินเฟยจึงรีบเดินไปหาท่านเจ้าสำนักที่อยู่ในห้องทำงานทันที แต่ก็ต้องเจออุปสรรคจากศิษย์หญิงนับมิถ้วนอีกเช่นเคย

    ณ ห้องทำงานของเจ้าสำนัก

    ชายที่ดูเหมือนหนุ่มๆแต่อายุปาไป 100 กว่าปี ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน สีผมสีเทากับหน้าตาที่ดูน่าเกรงขามขนาดถึงจะคนที่มีฝีมือพอตัว แค่จ้องตาคนคนนี้ก็แทบทรุดลงไปกับพื้นเลยก็ว่าได้ ชายคนนั้นเป็นใครไปมิได้นอกจาก เจ้าสำนักมังกรหยก

    แอ๋ดดดด. . . 

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นเมื่อเจ้าสำนักเห็นหลินเฟยแล้วจึงเอ่ยถาม

    "เจ้ามาที่นี้มีธุระอันใดกับข้ารึเจ้าหนู. . . ?"

    เสียงที่ดูแหบๆ แต่แฝงไปด้วยอำนาจกล่าวถามหลินเฟย
    รอบๆห้องมีศิษย์ชายสองคนที่ดูน่าจะเป็นศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รองของสำนักอยู่ข้างๆกายเป็นชายหนุ่มรูปงาม (แต่น้อยกว่าหลินเฟย อิอิ) อีกข้างหนึ่งก็เป็นชายที่หล่อเหลาไม่แพ้กันถ้าปกติหญิงสาวธรรมดามาเห็นเข้าคงต้องหลงสเน่ห์ตั้งแต่แรกพบเป็ยแน่

    "ผู้เยาว์เรียกว่า หลินเฟยมาขอลาเพื่อไปฝึกวิชาขอรับท่านเจ้าสำนัก.. "

    หลินเฟยกุมมือคารวะเจ้าสำนักก่อนกล่าวขออนุญาติ

    "เจ้าต้องการลาไปนานเท่าไหร่รึเจ้าหนู..."

    หลังจากที่ได้ยินเจ้าสำนักถามหลินเฟยก็ตอบไปว่า

    "ผู้เยาว์ขอลาหยุดเพียง 6 ปี ขอรับท่านเจ้าสำนัก..."

    หลังจากที่ได้ยินหลินเฟยกล่าวจบศิศย์พี่ทั้งสองก็ดูเหมือนว่าจะมิพอใจทันที แท้จริงแล้วหลินเฟยมิได้อยากเข้าสำนักเลยแม้แต่น้อย แต่หลินเฟยอยากตอกหน้าคนในตระกูลหลินเลยอยากจะแสดงพลังให้ตกใจกันเล็กน้อย (เล็กน้อยหร๊าาาาาาาาาาาาาาาา)

    "ไรสาระ !! เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ขอลา ตั้ง 6 ปีกันเจ้าไรมารยาทเกินไปแล้ว !!!"

    ศิษพี่ที่น่าจะเป็นศิษย์พี่รองชี้หน้าด่าว่าหลินเฟย

    "เอาล่ะ.. ๆ ถ้าเจ้าอยากจะลาเพื่อไปฝึกวิชาก็สุดแล้วแต่เจ้าข้าห้ามเจ้ามิได้หลอก. . ."

    "แต่ว่า. . . ท่านอาจารย์มิเคยมีศิษย์ใหม่ภายนอกคนไหนเคยลาตั้ง 6 ปีเลยสักคนนะขอรับท่าน. . . !!"

    "เอาน่า. . . ๆ เจ้าอย่าได้อารมเสียไปเลย ข้าแค่ให้เวลาเจ้าหนูนี้ไปเพื่อฝึกฝนเพื่อให้สำนักเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพียงแค่นั้นเอง. . . หรือว่าเจ้ามิอยากให้จำนักเรามีกำลังเพิ่มมากขึ้นงั้นรึ ?"

    "ม..มิได้ขอรับท่านเจ้าสำนัก ข้าเพียงแต่ . . ."

    "เอาล่ะเจ้าไม่ต้องพูดะไรแล้ว.. เจ้าหนูข้าอนุญาติให้เจ้าลาฝึกฝนวิชาแต่เจ้าอย่าลืมนำว่าเจ้ายังเป็นศิษย์สำนักเราอยู่ถ้าเจ้าออกไปทำเรื่องที่เสื่อมเสียต่อสำนักละก็ ข้าจะลงโทษเจ้าสถานหนัก เข้าใจมั้ยเจ้าหนู"

    "ผู้เยาว์ทราบแล้วขอรับ.. !"

    ณ ป่าด้านหลังสำนักมังกรหยก

    หลังจากที่ขอลาเพื่อออกไปฝีกฝนวิชาหลินเฟยได้ออกมาจากสำนักมาในป่าที่อยู่ด้านหลังสำนักห่างกันราว 4 ลี้ หลินเฟยเดินไปในป่าเรื่อยๆเพื่อหาที่ทำสมาธิจนมาเจอกับถ่ำที่มีสีมรกตสวยงามสีของมันสดมากสีเขียวของมรกตที่กลายเป็นอุโมงถ่ำยาไปราวกับมิมีที่สิ้นสุด หลินเฟยด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงเดินเข้าไปในถ่ำนั้น จนในที่สุดก็มาถึงที่ ที่สวยงามราวกับอยู่บนสวรรค์ มีที่ที่เหมือนกันเกาะเล็กๆ รอบข้างมีน้ำสีทองอร่ามเกาะตรงกลางมีพื้อหญ้าสีมรกตสวยงามตรงกลางเกาะมีต้นไม้ที่มีใบราวกับเพรช ใยไม้โปร่งแสงมีเขียวดั่งอัญมณี

    'ข้าเจอสถานทำสามาธิแล้ว !!!'

    เนื่องจากรอบๆถ่ำนี้มีสัตว์อสูรระดับราชันย์อยู่หลายร้อยตัวจึงมิมีผู้ใดกล้าย่างกายเข้ามาเลยแม้แต่ผู้เดียวจึงเหมาะมากที่จะนำมาเป็นจุดทำสมธิ หลินเฟยคิดไว้ว่าตนจะทำสมาธิเข้าไปในห้วงอนันตากาลเป็นเวลา 6 ปีซึ่งมินานเท่าไหร่นักสำหรับหลินเฟยในร่างราชันย์มังกรแห่งแสงที่หลับใหลมาเป็นเวลาหลายล้านๆปี

    หลินเฟยมิรอช้ารีบใช้ทักษะเท้าวายุเหยียบนภาไปตรงใต้ต้นไม้มรกคนั้นทันที


    เครดิตภาพ : Douluo Dalu III

    พอหาที่ที่มั่นใจว่านั่งสบายหลินเฟยจึงรีบทำสมาธิเพื่อเข้าสู่ห้วงอนันตกาลทันที
    หลังจากที่ทำสมาธิหลินเฟยรีบลบจิตเพื่อนเข้าสู่ห้วงอนนันตกาลทันทีและอยู่ในการจำศีลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การทำแบบนี้เพื่อปรับพลังของร่างกายของหลินเฟยเองเพราะร่างกายของหลินเฟยตอนนี้รับพลังปราณขั้นเซียนไม่ไหว ถึงแม้หลินเฟยจะดูทำตัวสบายๆแต่ร่างกายนั้นแทบแตกสลายแล้ว ถ้ามิเข้าสู่ห้วงอนันตกาลเพื่อจำศีลแล้ว ร่างกายของหลินเฟยได้แตกสลายหายไปชั่วนิจนิรันดร์เป็นแน่

    ณ จวนตระกูลหลิน

    ทุกคนในตระกูลหลินตอนนี้ต่างพากันงงงวยกับเรื่องที่เกิดขึ้นและยังตกตะลึงมิหายจากที่ได้เห็นสวะในตระกูลตนผ่านการทดสอบเข้าสำนักมังกรฟ้าได้อย่างง่ายดาย

    "ท...ท่านพ่อท่านเห็นเจ้าสวะหลินเฟยแล้วใช่มั้ย..."

    หลินหยวนที่กำลังเหงื่อตกอยู่เต็มใบหน้า ผิวซีดเผือดราวกับคนตายพลันได้สติเมื่อได้ยินหลินฟางถาม หลินหยวนจึงตอบกลับไปว่า

    "ป...เป็นไปมิได้.. จ...เจ้านั้น...ม..ม...มัน."

    หลินหยวนพูดอย่างตะกุกตะกักมันยังมิลืมสิ่งที่เห็นในลานประลอง หลินเฟยที่แค่ดีดหน้าผากเบาๆ แต่กลับมีพลังทำลายหมาศาล เพียงนั้นจนทำให้อีกฝ่ายกระเด็นไปและพ่ายแพ้ภายในเสี้ยววินาที

    "ท..ท่านพ่อเจ้าค่ะเราควรเรียกหลิยเฟยกลับตระกูลดีหรือไม่เจ้าค่ะ.."

    หลินจื่อหนิงที่กำลังคิดเรื่องของหลินเฟยอยู่นั้นกล่าวต่อไปอีกว่า

    "ถ้าน้องเล็กเฟยกลับมายังตระกูลของเรา ตระกูลเราอาจจะมีชื่อเสียงโด่งดังในภายภาคหน้าก็ได้นะเจ้าค่ะท่านพ่อ"

    "ข้า... ข้ามิน่าไล่เจ้าออกจากตระกูลเลยลูกเฟย ข้าเสียใจจริง..ๆ ก็ได้ข้าจำทำทุกวิถีทางที่จะนำหลินเฟยกลับเข้าตระกูลแม้ว่าข้าต้องกราบเท้าบุตรของตัวเองก็ยอมเพราะสิ่งที่ข้าทำให้หลินเฟยนั้นมิเคยมีครั้งไหนที่ข้าปฏิบัติต่อเค้าเหมือนลูกเลยสักครั้ง.. "

    "ข้าก็เช่นกันท่านพ่อ. . . ถึงเป็นถึงพี่ใหญ่แต่ข้ากลับมองข้ามน้องเล็กของตนเอง ข้าสมควรจะต้องชดใช้ให้แกหลินเฟย"

    "ข้า... ข...ข้าเคยทำร้ายน้องเล็กตั้งหลายครา แต่ตอนนั้นน้องเล็กกลับมิมีความโกรธต่อข้าเลยแม้แต่น้อย.. ข้านี้มันสารเลวจิงๆเลย !! ไอ้บัดซบหลินฟาง!!"

    "เราต้องไถ่โทษในสิ่งที่พวกเราทำไว้ทั้งหมดตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มปฏิบัติต่อหลินเฟยราวกับขยะ.."

    "ดีงั้นพวกเจ้าทั้งหมด จงไปขอขมาต่อหลินเฟยซ้ะ แล้วจงปฏิบัติต่อเค้าราวกับคนสำคัญมิให้ผู้ใดทำร้ายจิตใจเค้าได้อีก พวกเจ้าทั้งหมดจงให้ความสำคัญหลินเฟยชดเชยให้ตั้งแต่ที่หลินเฟยถูกพวกเจ้าเหยียดหยามให้หมดสิ้น ถึงข้ารู้ว่าพวกเจ้าชดใช้อย่างไรกรรมที่ทำกับหลินเฟยก็มิหายไป แต่จนกว่าหลินเฟยจะได้รับความรักจากพวกเจ้าและข้าจงอย่ามองเค้าเป็นขยะอีก !!!"

    หลินโม่ กล่าววาจาทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงต่างพากันสำนึกผิดกับสิ่งที่ตนทำไว้ นับร้อยนับพันประการที่ทำกับหลินเฟย

    """ขอรับ/เจ้าค่ะ"""

    ทุกคนในตระกูลต่างพากันตบปากรับคำที่หลินโม่กล่าวทันที

    ................................

    ณ ต้นมรกตที่หลินเฟยกำจังเข้าสู่การจำศีลอยู่

    ได้เกิดสิ่งประหลาดขึ้นเมื่อจู่ๆร่างของหลินเฟยกลายเป็นสีทองทั้งตัว
    พลันให้เห็นเส้นเลือดและชีพจรต่างๆภายในร่างกายแสงสีทองอร่ามงดงามถ้ามีผู้ใดได้เห็นคงคิดว่าเป็นเทพบนสวรรค์กำลังจุติลงมาเป็นแน่กายสีทองอันงดงามคลายกับเทพบุรษลอยขึ้นและมีตราสีทองที่มีลวดลายซับซ้อนอยู่ตรงกลางหน้าผากของหลินเฟย 
    (ถ้านึกไม่ออกให้ดูรูปตอนแรกๆนะครับ)

    ...ติดตามตอนต่อไป

    ...................................................................................................................



      


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×