ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เส้นทางแห่งแสง [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #45 : บทที่ 18 ชิงหลิง ภาค ราชันย์ผยองเดช

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.18K
      169
      14 ธ.ค. 59

    ดวงตาของพวกนางพลันเบิกกว้างและทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังกลุ่มคนทั้งสามคนที่กำลังย่างเท้าเข้ามาอย่างสง่างามหลินเฟยเด็กชายที่ถือพัดสีดำขลับลวดลายของปักษาที่สวยงามและอาภรณ์สีขาวประดับทองยิ่งทำให้สะดุดตาเส้นผมสีดำแซมทองดวงตาสีดำน่าหลงใหลและหน้าตาอันน่ารักน่ากอดซึ่งเมื่อเขาโตไปจะต้องกลายเป็นบุรุษรูปงามเหนือเทพก็เป็นได้

    ลี่เอ๋อหรือหลินหงส์ลี่หญิงสาวที่ดูภายนอกมีอายุราวๆยี่สิบปีเดินมาด้วยท่าทางที่อ่อนช้อยกี่เพ้าสีทองและลวดลายที่สวดงามดวงตาสีฟ้าสวยราวอัญมณีและผมสั้นสีทองที่น่าแปลกตา

    ชิงเอ๋อหรือหลินชิงเอ๋อที่สวมกี่เพ้าสีดำลวดลายสีทองสวยดวงตาสีแดงทับทิมและผมสีดำยาวสลวยดวงตาของชายหนุ่มทั้งฝูงมองมายังร่างของหญิงสาวงามสองคนที่มาทีหลังบางคนอ้าปากค้างแต่บางคนก็ถึงกับสลบเหมือดทันที
    หญิงสาวสามคนที่ตอนนี้มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังและรอคำตอบขิงหญิงสาวผมสีครามข้างหน้า

    "ข้าชื่อ หลินอี้เจ้าค่ะ^^"

    สายตาของทั้งสามนางเป็นประกายก่อนจะโถมเข้าประกบร่างของอี้เอ๋อทันที

    "ท่านสวยมากเลย !! มาเป็นพี่สาวของข้าอีกคนเถอะ !!"น้องคนเล็กจับมืออี้เอ๋อและกระโดดไปมาอย่างร่าเริง

    "หากท่านมีอะไรให้พวกข้าช่วยข้ายินดีเสมอที่จะช่วยท่านอย่างสุดความสามารถ"พี่ใหญ่ยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวออกมาอย่างสุภาพ

    "แล้วทั้งสามท่านนี้คือใครกันหรอ ? หรือว่าจะเป็นสหายท่านกัน ?"น้องรองกล่าวถามอย่างสงสัยพร้อมกับมองภาพของคนที่อยู่ด้านหลัง

    อี้เอ๋อเดินไปรวมกลุ่มก่อนจะหันกลับมาเดะกล่าวอย่างภูมิใจ
    เริ่มจากชิงเอ๋อ

    "ท่านนี้คือพี่รองของข้าชื่อว่า หลินชิงเอ๋อ"
    ต่อมาก็คือลี่เอ๋อ

    "ส่วนท่านนี้คือพี่หญิงของข้าถึงแม้จะไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆแต่ข้าเรียกตามที่พี่รองเรียกท่านเพื่อความเคารพท่านชื่อว่าหลินหงส์ลี่"
    ส่วนคนสุดท้ายที่ทั้งสามสาวต่างให้ความสนอกสนใจเป็นที่สุด

    "ส่วนท่านผู้นี้คือผู้เป็นนายของข้ามีชื่อว่าหลินเฟยท่านเปรียบเสมือนพระเจ้าสำหรับข้าหากใครมาทำให้ท่านผู้นี้มิพอใจข้าจะตัดหัวมันผู้นั้นโดยไม่ลังเล...^^"

    ใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสราวกับเทพธิดาผิดกับคำพูดที่น่าหวาดกลัวได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของอี้เอ๋อไปเสียแล้ว

    ทั้งสามคนต่างพากันสับสนถึงทั้งสามคนจะคิดว่านายน้อยที่ชื่อหลินเฟยคนนี้จะมาจากตระกูลใหญ่ก็ไม่แปลกแต่พวกนางไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนที่สำคัญถึงขนาดนี้และทันใดนั้นข่าวคราวและชื่อเสียงของหลินเฟยก็เริ่มปรากฏออกมาทีล่ะนิด

    "นั้นคือท่านหลินเฟยที่สามารถคว้าชัยให้ตระกูลหวังงั้นรึ ? ! มิอยากเชื่อเลยเค้าดูอายุเพียงแค่สิบสองสิบสามเท่านั้น !!"

    "หลินเฟยที่เคยเป็นอันดับหนึ่งในสำนักมังกรหยกที่กำลังโด่งดังนั่นน่ะรึด้วยวัยเพียงเท่านี้เนั้ยนะ ?"

    "ห้ะ !! สำนักอันดับหนึ่งของอาณาจักรแห่งแสงนะรึ ? เหตุใดท่านผู้นั้นถึงได้มายังอาณาจักรมัวกรฟ้ากันหล่ะ"

    "โถ่ ! หากข้ามีลูกสาวล่ะก็ !"

    เสียงซุบซิบของแต่ล่ะคนดังขึ้นหลินเฟยหาได้สนใจไม่กลับคิดว่าดีแล้วเสียด้วยซ้ำที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูลหลิน

    "อี้เอ๋อเราจะมามัวอยู่ที่นี้ต่อไปไม่ได้แล้วเราต้องไปที่เมืองหลวงเพื่อจะต้องหาข้อมูลต่อไป"

    หลินเฟยพูดอ้อมๆเนื่องจากมีผู้คนมากมายล้อมลอบไว้และเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าหลินเฟยกำลังรวบรวมสี่จตุรเทพและมังกรบรรพกาล

    "เจ้าค่ะ!"

    อี้เอ๋อตอบอย่างสุภาพและเพียงพริบตาเดียวกลุ่มของหลินเฟยก็หายไปทันทีโดยทิ้งความสับสนไว้ให้ฝูงชนที่กำลังมองหาอย่างสงสัย

    .........

    ณ สถานที่แห่งหนึ่งในเมืองหลวง

    หญิงสาวอายุราวๆสิบสองปีที่งดงามไม่แพ้เสี่ยวหลิงเยว่ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มดั่งนางฟ้าอาภรณ์สีแดงส้มที่เข้ากับสีผิวสีชมพูอ่อนผมยาวสีดำสลวยดวงตาที่แสดงถึงความสับสนของนางทำให้ผู้ที่พบเห็นต่างลำบากใจแทนนางเสียอีก

    "หลินเฟย...ที่ข้าทำแบบนั้นมันถูกแล้วใช่มั้ยข้าสมควรที่จะถูกเจ้าเกลียดสินะ ไม่สิเจ้าอาจจะลืมแม้กระทั่งชื่อหรือใบหน้าของข้าไปแล้วก็ได้..."

    ใบหน้าและดวงตาที่แสดงถึงความโศกเศร้าเสียใจและความรู้สึกผิดอันหนักอึ้งของนางช่างน่าสงสารยิ่งนัก

    ย้อนไปเมื่อวันเกิดอายุครบ 5 ขวบของหลินเฟยซึ่งตอนนั้นมีเพียงหลินโม่กับสาวน้อยนางนึงเท่านั้นที่อยู่ร่วมจัดงานวันเกิด
    นางเป็นสตรีที่มีใบหน้าน่ารักที่นั่งอยู่ข้างๆหลินเฟย
    นางคือชิงหลิงเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพชิงที่ประจำอยู่ที่เมืองหลวงของอาณาจักรมังกรฟ้าและด้วยสงครามที่กำลังปะทุขึ้นทำให้ชิงหลิงต้องย้ายมาอยู่กับญาติที่บ้านนอกที่ตั้งอยู่ใกล้ๆจวนของหลินเฟย
    วันนึงหลินเฟยเกิดหลงรักชิงหลิงขึ้นมาจริงๆและชิงหลิงก็เริ่มมีใจให้หลินเฟยเช่นกันแต่นั้นมันก็แค่ความคิดของเด็กอายุ 5 ขวบทั้งสองจึงไม่ได้คิดอะไรต่อกันนักเพราะชิงหลิงกับหลินโม่เป็นคนที่คอยดูแลและเป็นเพื่อนเล่นสำหรับหลินเฟยแต่แล้ววันนึง
    ได้มีคนจากสำนักแก่นแท้สวรรค์มาเพื่อจะเฟ้าหาเด็กที่มีพรสวรรค์ทั้งที่อายุยังน้อยเพื่อฝึกฝนตั้งแต่เด็กๆและด้วยพรสวรรค์ของชิงหลิงที่มีมาตั้งแต่เกิดได้รับความสนใจของสำนักแก่นแท้สวรรค์เป็นอย่างมากจึงทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกันหลินเฟยพยายามขอร้องให้ชิงหลิงอยู่กับเค้าแต่กลับไม่เป็นผลเพื่อนคนสำคัญของหลินเฟยที่มีเพียงคนเดียวกล่าวคำพูดก่อนจะจากกันว่า

    "ปล่อยข้านะ !! เจ้าเป็นเพียงคนไร้พลังจะมาเข้าใจข้าได้อย่างไร ! ไปให้พ้นซ้ะ !!"

    หลินเฟยถึงกับอ้าปากค้างและเจ็บปวดร้าวอย่างมากหลังจากที่ชิงหลิงจากไปหลินเฟยก็อดข้าวอดน้ำขังตัวอยู่ในห้องสามวันสามคืนกว่าจะทำใจยอมรับได้
    สุดท้ายกรรมก็ตามสนองชิงหลิงไม่อาจผ่านการฝึกฝนร่างกายของสำนักแก่นแท้สวรรค์ได้เพราะร่างกายของนางอ่อนแอยิ่งนักทางสำนักจึงให้ศิษย์ในสำนักส่งนางกลับไปยังจวนแม่ทัพชิงทันทีหลังจากนั้นก็ผ่านมา 6 ปี ที่ชิงเอ๋อต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดของนางและร่ำไห้ต่อความโง่เขล่าของนางชิงหลิงปิดใจของนางมาหลายปีและไม่มีชายคนไหนเปิดใจของนางออกมาได้ตั้งแต่นั้นชิงหลิงนางก็รู้แล้วว่านางนั้นมีใจให้หลินเฟยถึงตอนนี้นางจะยังนึกว่าหลินเฟยยังมีเส้นชีพจรพิกลพิการอยู่ก็ตามแต่กลับไม่ทำให้นางหมดใจจากหลินเฟยเลยแม้แต่น้อยเหตุผลที่นางไม่ทราบข่าวเรื่องวีรกรรมของหลินเฟยนั้นเพราะเมืองหลวงของอาณาจักรมังกรฟ้าห่างไกลจากแหล่งข่าสมากนักข่าวจึงมาไม่ถึงเมืองหลวงแห่งนี้นางได้แต่ถอนหายใจเมื่อนึกถึงหน้าของหลินเฟยที่ยิ้มแย้มแทบจะตลอดเวลาอย่างไรก็ตามถึงเวลาจะผ่านพ้นไปแต่เหตุผลที่ว่านางมีใจให้หลินเฟยนั่นไม่เคยเปลี่ยน

    .........

    หลินเฟยที่ใช้ร่างอวตารที่กำลังค่อยๆลอยลงมายังหน้าผาแห่งหนึ่งที่สูงเสียดฟ้าเหนือเมฆ

    "เอ่าหล่ะ พวกเจ้ารวมถึงข้าด้วยจะบ่มเพาะพลังอยู่ที่นี้ 3 ปี แล้วพวกเราจะมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงกันข้าอยากจะให้พวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้นและปกป้องนิกายของเราในอนาคตหากข้ารวบรวมพี่น้องของพวกเจ้าและมังกรบรรพกาลได้ครบข้าจะก่อตั้งนิกายที่เป็นของข้าเองและจะนำชื่อเสียงมากมายให้มาสู่ตระกูลหลิน"

    """เจ้าค่ะ !!!"""

    ระดับปราณของแต่ล่ะคนในตอนนี้

    หลินเฟย ระดับเซียนขั้นที่ 5

    ลี่เอ๋อ ระดับพระเจ้าขั้นที่ 5

    ชิงเอ๋อ ระดับพระเจ้าขั้นที่ 3

    และอี้เอ๋อ ระดับพระเจ้าขั้นที่ 1

    "อีกสามปีพวกเราจะต้องเก่งขึ้นให้ได้ !"

    ... ติดตามตอนต่อไป

    ------------------------------------------------------------------------------------------------

    ขออภัยช่วงนี้ผมลงช้านะครับหรือว่าไม่ลงเลยนะครับต้องขอโทษจริงๆทุกท่านอาจยังไม่รู้แต่ผมยังเรียนอยู่นะครับเพราะช่วงนี้เรียนบ้างทำงานบ้างก็เลยไม่ค่อยจะมีเวลาว่างสักเท่าไหร่ แต่ผมจะพยายามลงให้จบนะครับ ส่วนคอมเม้นนี้ไม่ต้องห่วงนะครับผมอ่านทุกเม้น ถึงบางเม้นจะด่า บางเม้นจะพูดตัดกำลังใจ แต่ผมคิดว่าทุกคอมเม้นที่เม้นมาเนี้ยก็เพราะหวังดีแล้วก็เพื่ออยากให้ผมพัฒนาขึ้นไปอีก ต้องขอบคุณคอมเม้นที่ช่วยแนะนำต่างๆด้วยนะครับและขอบคุณสำหรับคนที่ยังติดตามไรต์ฝึกหัดอย่างผมขอบคุณมากจริงๆครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×