ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เส้นทางแห่งแสง [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #48 : บทที่ 21 ตายอย่างน่าสมเพช ภาค ราชันย์ผยองเดช

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.83K
      181
      17 ธ.ค. 59

    ณ จวนตระกูลเจี่ย

    "ระ..รายงานท่านผู้นำตระกูล...นะ..นายน้อยและผู้อาวุโสเจียวกับองครักษ์...ถะ....ถูกเล่นงานขอรับ !!"

    ชายรูปร่างหน้าตาสง่างามและน่าเกรงขามที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ประดับประดาด้วยอัญมณีสีน่าของมันเริ่มเกิดรอยย่นขึ้นเมื่อได้ยินคำรายงาน

    เขาคือ เจี่ยหยวน ผู้นำตระกูลเจี่ย

    "มันเป็นใครกัน !! ใครมันกล้าดีกับตระกูลเจี่ยของข้า !! มันผู้นั้นต้องตาย !!"
    เพล้ง !!

    เจี่ยหยวนขว้างแก้วที่อยู่ในมือลงพื้นด้วยความโกรธเกรี้ยวและชี้หน้าสั่งองครักษ์เงาที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าทันที

    "ไปตามหาคนที่มันฆ่าบุตรของข้า !! ข้าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆเลยคอยดู !!!"

    ทันใดนั้นได้มีองครักษ์เงาอีกคนนึงที่ความจริงได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ห่างๆแท้จริงแล้วหลินเฟยและอีกสามสาวต่างรู้ถึงตัวตนของมันผู้นี้ตั้งแต่แรกแล้วแต่หลินเฟยต้องการที่จะประกาศสงครามกับตระกูลเจี่ยและสามสาวก็ท่าทางจะรู้ใจของนายท่านเป็นอย่างดีจึงปล่อยให้มันนำเรื่องมารายงานกับหัวหน้าของพวกมัน

    "รายงานท่านผู้นำตระกูล...ข้าเห็นเด็กชายและหญิงสาวที่งดงามปานนางฟ้าอีกสามคนรวมเป็นสี่และอีกคนนึงที่ท่านน่าจะรู้จักดี...นางคือชิงหลินบุตรีของท่านแม่ทัพชิงขอรับ...!"

    กล่าวจบเจี่ยหยวนก็แสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายก่อนจะสั่งกับองครักษ์เงาทั้งสอง

    "จงพาคนของข้าไปจับตัวนางมาให้ข้า !! ข้าจะเค้นถามจากนางเองว่าไอ่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั้นมันเป็นใครถึงได้กล้าเป็นศัตรูกับตระกูลเจี่ย !!"

    ""ขอรับ !!""

    องครักษ์เงาทั้งสองกล่าวออกมาพร้อมกันก่อนที่จะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

    .........

    หลินเฟยที่เดินทางไปส่งชิงหชิงถึงจวนและนั่งพูดคุยกันเรื่องต่างๆนาๆจนพลบค่ำ

    "ข้าคงต้องไปแล้วหล่ะชิงหลิง...หวังว่าคงจะได้พบเจ้าอีกน้ะ"หลินเฟยกล่าวพร้อมลูบหัวของชิงหลิงอย่างเอ็นดู

    หลินเฟยได้ให้สามสาวของตนไปสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับจตุรเทพคนอื่นๆอีกสองคนและอีกไม่นานก็จวนจะถึงเวลาที่นัดกันไว้แล้ว

    "ข้าจะได้พบเจ้าอีกจริงๆใช่มั้ย.."สายตาของชิงหลินแสดงออกถึงความกังวลออกมาเล็กน้อย

    "ใช่....เจ้าจะได้พบกันช้าอีกแน่นอน....ข้าจะต้องไปจัดการกับธุระของข้าก่อนข้าไปนะ"

    ชิงหลงยิ้มอ่อนๆก่อนร่างของหลินเฟยจะกลายเป็นเส้นแสงและหายไปในพริบตา

    .........

    "เจ้าได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง"

    ทั้งสามสาวนั่งคุกเข่าให้กล่าวรายงาน

    "ข้าได้สืบมาแต่ทุกคนกลับบอกว่ามันเป็นเพียงข่าวลือเจ้าค่ะ"

    ลี่เอ๋อกล่าวรายงานก่อนหลินเฟยจะเลิกคิ้วและกล่าว

    "ไหนเจ้าลองเล่าข่าวลือที่ว่ามาสิ"

    "เจ้าค่ะ ! จากที่ฟังมาทั้งชาวบ้านหรือพวกตระกูลใหญ่ต่างบอกว่าเคยมีเซียนคนนึงที่พบเห็นหงส์แดงที่อยู่บนยอดเขาพันลี้เจ้าค่ะ"

    "เขาพันลี้ ?"

    ชิงเอ๋อเห็นนายท่านมีท่าทางสงสัยจึงกล่าวต่อ

    "แล้วมีคนบอกมาอีกว่าบนเขานั้นมีสัตว์อสูรระดับเทพเซียนที่คอยปกป้องการจำศีลของพี่ใหญ่หงส์แดงอยู่เจ้าค่ะ"

    "สัตว์อสูรตัวนั้นมีชื่อเรียกรึไม่ ?"

    หลินเฟยถามอย่างสงสัยก่อนอี้เอ๋อจะพูดขึ้นมา

    "มันมีชื่อว่า วานรเพลิงนพเก้า เจ้าค่ะ"

    หลินเฟยขมวดคิ้วทันทีหลังจากที่ได้ยินชื่อเพราะวานรนพเก้านั้นเป็นสัตว์อมตะเหมือนนกฟีนิกซ์หากมันตายตัวของมันก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านและเกิดใหม่ด้วยร่างกายที่มีพลังมหาศาลกว่าเดิมหลายเท่ามันเป็นสัตว์อสูรที่สื่อสัตย์มากหากใครช่วยมันหรือมีบุญคุณกับมันมันจะตอบแทนมากกว่าที่ได้รับเป็นสิบเท่า

    "งานนี้คงหนักหนาน่าดูข้าคงต้องลงมือเองเสียแล้ว"

    หลินเฟยยิ้มเจ้าเล่ห์

    "เอาล่ะ... พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อม !! พวกเราไปหาที่พักคืนนี้เสียก่อนพรุ่งนี้เราจะไปลาชิงหลิงกันและมุ่งหน้าไปเขาพันลี้ทันที!!"

    """เจ้าค่ะ!!!"""

    .........

    เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งสี่คนรีบเตรียมตัวก่อนจะไปนั้นหลินเฟยได้แวะที่ภัตตาคารหงส์ฟ้าเพื่อทานข้าวเช้าและรีบมุ่งหน้าไปยังจวนแม่ทัพชิงทันที
    แต่หลินเฟยก็ต้องแปลกใจกับภาพตรงหน้าทางเข้าจวนถูกพังยับเยินจรไม่เหลือเค้าเดิมภายในจวนเหมือนถูกพายุลูกใหญ่พัดเข้าใส่อย่างรุนแรงสภาพของจวนแม่ทัพตอนนี้เหมือนกับเพิ่งผ่านพายุลูกใหญ่มาหมาดๆหลินเฟยคิ้วกระตุกทันทีก่อนจะพุ่งตัวไปยังจวนตระกูลเจี่ย

    ณ ลานกว้างของตระกูลเจี่ย

    "ฮึ !! นังแพศยา !! บอกมาซ้ะว่าไอ่เด็กนั่นมันเป็นใคร !!"

    ชิงเอ๋อที่โดนจับมัดอยู่และมีรอยพกช้ำหลายแห่งบนใบหน้ามีเลือดใหลออกมาจากหัวและปากหลังของนางมีรอยแส้นับไม่ถ้วน

    "ข้าไม่บอก !!"

    เฟี๊ยะ !!

    "อ๊าาาา !!"

    เจี่ยหยวนฟาดแส้ของมันลงบนหลังที่เต็มไปด้วยรอยเลือดที่หลั่งใหลเป็นทางยาวของชิงหลิง

    "หึ !! จะตายอยู่แล้วยังจะปากแข่งอีก !!"

    ตู้มมมมมม !!!

    ทันใดนั้นทั้งจวนของตระกูลเจี่ยก็เหมือนโดนอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นบี้แบนทั้งจวนยกเว้นลานกว้ามันเป็นการทำลายที่รวดเร็วและทรงพลังจวนของตระกูลเจี่ยที่ใหญ่เทียบเท่ากับพระราชวังโดนถล่มภายในพริบตาด้วยทักษะ

    'อำนาจแรงกดดัน'

    เจี่ยหยวนตกตะลึงจนอ้าปากค้าเพราะในจวนนั้นมีครอบครัวของมันอยู่ครบทุกคนไม่เว้นแต่เหล่าข้ารับใช้จนบัดนี้ทั้งตระกูลเจี่ยเหลือเพียงแค่สององครักษ์เงาและเจี่ยหยวนทั้งสององครักษ์ต่างพากับอ้าปากค้างไม่ต่างจากเจี่ยหยวนทันใดนั้นมีเสียงที่ดังราวกับฟ้าผ่าลงมายังพื้นโลก

    "ตระกูลสุนัขเจี่ย !!! วันนี้ !!! เป็นวันสุดท้ายที่พวกแกจะใช้ชีวิตที่แสนโสโครกของพวกแก !!!"

    เจี่ยหยวนมองตามหาต้นเสียงจนไปพบหลินเฟยและสามสาวที่ลอยตัวอยู่บนท้องฟ้า

    "พะ...พวกเจ้าเป็นใครกัน !!!"

    หลินเฟยเรียกแส้ออกมาจากมิติมันคือแส้ลงทัณฑ์ที่ทำจากหนวดของมังกรอเวจีหากมันฟาดโดนใครหล่ะก็มันผู้นั้นจะโดนเผาวิญญาณอย่างช้าๆและเจ็บปวดทรมานสุดพรรณนาจนดิ้นทุรนทุรายไปจนตายมันจึงสมกันชื่อที่เรียกกันว่าแส้ลงทัณฑ์
    หลินเฟยพุ่งมายังตรงหน้าของเจี่ยหยวนสายตาของหลินเฟยปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างไม่มีกั๊กทำให้เจี่ยหยวนคุกเข่าลงก่อนจะแน่นิ่งอย่างกันคนเสียสติ
    หลินเฟยกระซิบข้างหูๆเบาๆ

    "ข้าจะให้แกเลือก !! ว่าจะตายเพราะโดยแส้นี้ !! หรือจะตาย !! เพราะโดนดันแขนตัดขาและทรมานจนขาดใจ !! เอ้าเลือกสิ ท่านผู้นำตระกูลผู้ยิ่งใหญ่..."

    ราวกับเสียงขอยมบาลที่มารับตัวของมันมันพูดไม่ออกก่อนจะได้สติและก้มกราบทันที

    "ผะ...ผู้น้อยขออภัยท่านเซียน !! ขะ...ข้าจะทำตามที่ท่านบอกทุกอย่าง !! ดะ...ได้โปรดไว้ชีวิตข้า !!! ไว้ชีวิตข้าด้วย !!!"

    องครักษ์ทั้งสองต่างก็มาก้มกราบขอร้องอีกแรง

    "ขะ...ข้าขอร้องท่านไว้ชีวิตข้า ละ...แล้วข้า จะ...จะทำงานให้ท่านทุกอย่าง !!"

    "ได้โปรดท่านเซียน !! ข้าขอร้องท่าน !!"

    โผล๊ะ !!

    ชิงเอ๋อและอี้เอ๋อกระทืบหัวองครักษ์ทั้งสองจนหัวของมันแตกกระจายออกจากกันเลือดสาดนองไปเต็มพื้นทำให้ใบหน้าของเจี่ยหยวนบิวเบี้ยวจนอัปลักษณ์

    "ผะ...ผู้น้อยยอมท่านทุกอย่างแล้ว !! ผู้น้อยขอความเมตตาจากท่านเซียน ได้โปรดไว้ชีวิตข้า !! แล้วชีวิตนี้ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านอย่างแน่นอน !! ได้โปรดเถิดท่านเซียน..."

    มันร้องไห้ร้องขอชีวิตอย่างน่าสมเพชหลินเฟยให้ลี่เอ๋อรักษาชิงหลิงก่อนจะพาไปที่ปลอดภัยชิงหลิงที่สลบไปเพราะความเจ็บปวดจึงไม่รู้เรื่องเลยว่าหลินเฟยทำอะไรลงไป
    หลินเฟยสร้างอาณาเขตแห่งพระเจ้าขึ้นมาและทำให้ร่างของเจี่ยหยวนเป็นอมตะ

    "มนุษย์นั้น...ใฝ่หาความเป็นอมตะ..."หลินเฟยเดินไปรอบๆอย่างสุขุม

    เฟี๊ยะ !! 

    หลินเฟยฟาดแส้ใส่แขนของเขี่ยหยวน

    "อ๊ากกกกก !!!!"แขนของมันถูกฟาดด้วยแรงเต็มสิบส่วนของหลินเฟยทำให้มันฉีกออกจากกันอย่าง่ายๆ

    "เพราะอยากมีชีวิตที่ยืนยาวจึงฝึกฝนเพื่อเป็นเซียน..."


    เฟี๊ยะ !!

    "อ๊ากกกกกกกก !!!"แขนอีกข้ามันถูกตัดอย่างไร้ความปราณี

    "และเพื่อไต่ขึ้นไปในระดับที่สูงกว่าจึงต้องใฝ่หาประโยชน์เพื่อนำมาใช้ในการฝึก..."

    เฟี๊ยะ !!

    "อ๊าาาาาาาา !!! ฆ่าข้าซ้ะ !!! ฆ่าข้า !!!"ขาทั้งสองของมันถูกตัดอย่างง่ายดายและก็เริ่มฟื้นฟูเพราะตอนนี้มันเป็นอมตะ

    "และเพื่อผลประโยชน์...มนุษย์จะทำได้ทุกอย่าง...แม้กระทั่งสังหารผู้ให้กำเนิดตน..."

    เฟี๊ยะ !!

    "อ๊ากกกกก !!! ข้าอยากตาย !!! ฆ่าข้าซ้ะ !! รีบฆ่าข้าทีเถอะได้โปรด !!!"มันถูกฤทธิ์เดชของแส้ลงทัณฑ์ทำให้มันทรมานจนอยากตาย

    "เหตุใดพอเจ้าได้ความเป็นอมตะมา...แล้วถึงอยากจะตายกัน..."สายตาเย็นชาของหลินเฟยมองมายังร่างที่สุดแสนจะน่าสมเพชของเจี่ยหยวน

    หลินเฟยแบมือขึ้นและปรากฏเงาลางๆเหมือนกับหัวใจของคนขึ้นมาซึ่งมันคือหัวใจของเจี่ยหยวนหลินเฟยปลดอำนาจของอาณาเขตออกและบีบหัวใจอย่างแรงจนมัน...

    โผล๊ะ !!

    แตกออกทำให้เจี่ยหยวนก็ตายในที่สุด...

    ...ติดตามตอนต่อไป

    ------------------------------------------------------------------------------------------------

    บทจะโหดก็โหดซ้ะ 

    ... ฮ่าๆๆๆ หลินเฟยเจ้าช่างทำให้ข้าและรีดทั้งหลายสะใจจริมๆ

    ตอนนี้ยาวๆคงจะไม่ค้างกันเนาะ อิอิ ..
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×