ลำดับตอนที่ #60
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #60 : บทที่ 31 สำนักประกายฟ้า ภาค ราชันย์ผยองเดช
ท่ามกลางสายตาก็เหล่าแม่ค้าพ่อค้าและชาวเมืองซุนเฉินที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของชายชุดน้ำเงินและมองมาด้วยสายตาที่แดงก่ำราวกับเทพแห่งความตาย
"เจ้า !! เจ้ากล้าทำร้ายศิษย์แห่งสำนักนภาทมิฬงั้นรึ !! ท่านเจ้าสำนักจะไม่ปล่อยเจ้าไว้เป็นแน่ !!"
คนที่มาด้วยกันกับชายชุดน้ำเงินกล่าวขู่ด้วยความโกรธเกรี้ยวนั้นคงเฉพาะคนที้เห็นภายนอกเท่านั่นใช่ดูยังไงท่าทางของมันก็โกรธเกรี้ยวแต่ไม่เลยจิตใจของมันตอนนี้ที่แค่ยืนก็ยังแย่แล้วเมื่อถูกจิตสังหารของซุนเฉิน
ตู้ม !!
ร่างของชายชุดน้ำเงินแตกสลายไปทันที
"หึ !"ซุนเฉินพ่นลมหายใจออกทางจมูกก่อนจะเดินตรงไปยังกลุ่มของตนและเดินจากไปทิ้งไว้เพียงความหวาดกลัวของคนที่พบเห็นเหตุการณ์
"รับคำสั่ง ! "หลินเฟยที่เดินมายังที่ลับตาคนพลันเรียกองครักษ์ทันที
"""""""เจ้าค่ะ !!! / ขอรับ !!!"""'""'
ทั้งหมดยกเว้นอวิ้นหลันคุกเข่าและกล่าวอย่างพร้อมเพรียง
"พวกเจ้าจงตามหาที่อยู่ของของหุบเขาหมื่นปีมาให้ได้พวกเจ้าคงไม่กังวลเรื่องเงินทองที่ใช่ซื้อข่าวกันหรอกนะ"
"""""""เจ้าค่ะ !!/ขอรับ !!"""""""
ฟี้ววว ~ !
ร่างของเหล่าองครักษ์หญิงชายหายไปทันทีทุกคนเคลื่อนไหวได้ราวภูติผีที่ไม่ได้ยินเสียงเท้าเลยแม้แต่น้อย
"เอาหล่ะข้าหิวแล้วไปหาร้านอาหารกินกันเถอะ"เสียงหวานพูดขึ้นและบิดขี้เกียจที่ทำให้ดูน่ารักยิ่งขึ้น
อวิ้นหลันยืนนิ่งไปสักพักก่อนจะเห็นร่างขอหลินเฟยค่อยๆเดินออกไปเขาสบัดหัวไล่ความคิดที่ก้าวเข้าสู่ความตายออกและรีบเดินตามไปทันที
"ท่านอาจารย์รอข้าด้วยสิขอร้าบ ~"
.........
ณ สำนักประกายฟ้าที่เป็นคู่อริของสำนักนภาทมิฬ
เจ้าสำนักที่ได้ยินเรื่องของเด็กสาวที่มีองครักษ์ผู้แข็งแกร่งและลักษณะเสื้อผ้าและลวดลายสายตาของเขาเบิกกว้างและกล่าว
"จักรพรรดิจรัสแสง !!! นางต้องเป็นจักรพรรดิจรัสแสงแน่ๆ!!!"เจ้าสำนักที่นั่งอยู่กลางห้องกล่าวอย่างตกตะลึง
"แต่ข้าได้ยินมาว่าเขาคือบุรุษไฉนกลับกลายเป็นอิสตรีไปได้เล่า"ผู้อาวุโสท่านนึงกล่าว
"โฮะๆๆ นางคือเด็กที่ถูกเรียกขานว่า ' จักรพรรดิจรัสแสง ' สินะโฮะๆๆ ถ้าพวกเราได้นางเข้ามาอยู่ในสำนักถึงจะต้องยกตำแหน่งรองเจ้าสำนักให้ก็ไม่เสียหาย โฮะๆๆ"
บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆจนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่คนผู้นั้นที่พวกเขาอยากจะให้เข้าร่วมสำนักตามหาอยู่นั้นอยู่ในเขตสำนักของตนนั้นเอง
.........
ณ ภัตตาคารใหญ่โตแห่งหนึ่งหลินเฟยกับอวิ้นหลันที่แยกโต๊ะกันทานอาหารเพราะหากทานด้วยกันคงจะทานไม่อิ่มเป็นแน่
"อ้า ~ ท่านอาจารย์ข้าอิ่มแล้วหล่ะ"อวิ้นหลันเอนตัวลงพิงเก้าอี้และตบท้องอย่างอิ่มหนำสำราญ
"งั้นคงได้เวลาทำภารกิจของพวกเราแล้วหล่ะ"หลินเฟยเดินออกไปจากร้านและอวิ้นหลันก็เดินตามมาติดๆ
หลินเฟยเดินมาเรื่อยๆจนถึงสถานที่ที่นัดไว้
"ว่าอย่างไรบ้าง"เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนหยางจะเป็นตัวแทนรายงานข้อมูล
"รายงานนายท่าน !! หุบเขาหมื่นปีนั้นอยู่ในอีกมิตินึ่งที่ท่านพี่สร้างขึ้นมีแต่สมบัติของสำนักประกายฟ้าเท่านั้นที่จะเปิดประตูของมิตินั้นออกได้เจ้าค่ะ !! มันคือกุญแจแยกมิติที่ใช้เปิดประตูไปยังหุบเขาหมื่นปีเจ้าค่ะ !!"
จู่ๆสายตาของหลินเฟยและทุกคนเปลี่ยนเป็นคมกริบทันทีและมองมายังต้นไม้ต้นนึงที่อยู่ไม่ไกลมากนักก่อนหลินเฟยจะตะโกนดังลั่น
"ออกมา !!"
หลังจากสิ้นเสียงอันหวานปานน้ำผึ้งนั้นก็มีร่างขอชายชราโผล่ออกมาและคุกเข่าประสานมือคาระวะ
"ข้าหนานเจียงหยวน ! ยินดีที่ได้พบจักรพรรดิจรัสแสงผู้ยิ่งใหญ่ ! ต้องขออภัยด้วยที่ตาแก่อย่างข้าทำลับๆล่อๆ"เขากล่าวออกมาอย่างสุภาพโดยไม่มีท่าทีเสแสร้งเลยแม้แต่น้อยนั้นก็แปลว่าคนผู้นี้ชื่นชมหลินเฟยอย่างแท้จริง!
เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นของเจียงหยวนหลินเฟยรีบประสานมือคารวะตอบทันที
"ข้าหลินเฟยหาใช่จักรพรรดิจรัสแสงไม่ผู้อาวุโสโปรดอย่าสุภาพเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ"เสียงหวานบาดหูดังขึ้นร่างของชายชราก็รีบลุกขึ้นทันที
"โปรดอย่าถ่อมตนเลยถึงท่านจะไม่รู้เรื่องแต่ที่นี้ท่านคือจักรพรรดิจรัสแสง"
"ใยท่านผู้อาวุโสถึงได้เรียกข้าเช่นนั้นกัน ?"
"โฮ๊ะ ๆๆ เพราะเมื่อการแข่งระหว่างสำนักครานั้นมีผู้คนที่เมืองฮวาหยินไปดูชมกันมิใช่น้อยแต่ตัวข้าและเหล่าสหายกลับยุ่งอยู่กับงานที่สำนักจึงมิอาจไปเชยชมการแข่งขันได้และจากนั้นคนในเมืองและเหล่าศิษย์ต่างๆก็มาเล่าให้ข้าฟังถึงเรื่องราวของเด็กคนนึงที่สามารถเอาชนะศิษย์ของทุกสำนักได้ด้วยตัวคนเดียวและธาตุของเค้าผู้นั้นคือธาตุแสงเหล่าศิษย์พวกนั้นจึงได้เรียกท่านว่าจักรพรรดิจรัสแสงและเรียกกันมาจนถึงทุกวันนี้นี่แหละ โฮ๊ะๆๆๆ"เจียงหยวนหัวเราะออกมาอย่างรื่นเริงก่อนจะหยุดและหันมาพูดกับหลินเฟยอีกครั้ง"งั้นข้าจะพาพวกท่านไปเยี่ยมที่สำนักดีรึไม่ ?"
หลินเฟยทำหน้างงๆก่อนจะกล่าว
"ท่านสามารถพาข้าเยี่ยมชมสำนักได้งั้นรึ ?"หากคนที่พาคนนอกเข้าออกสำนักได้ตามใจแบบนี้คงต้องมีฐานะสูงในสำนักเป็นแน่!
"ฮ่าๆๆท่านอย่าห่วงเลยเจ้าสำนักอย่างข้าใยจะพาพวกท่านเข้าไปมิได้ ฮ่าๆๆ"
หลินเฟยแสยะยิ้มและกล่าวตอบ
"ย่อมได้เจ้าค่ะ"เสียงหวานกล่าวขึ้นก่อนเจียงหยวนจำเดินนำทั้งเก้าคนไปยังสำนักประกายฟ้าทันที
.........
ณ ทางเข้าสำนักประกายฟ้าที่อีกไม่นานจะมีการแข่งจัดอันดับภายในสำนักทุกคนมีท่าทีตื่นเต้นก่อนประตูทางเข้าจะค่อยๆแง้มออกจนกว้างและพวกเขาก็ได้เห็นท่านเจ้าสำนักเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มคนอีกเก้าคนที่เดินตามมาทางด้านหลัง
ทุกคนตาลุกวาวทันทีเหล่าศิษย์ที่เป็นบุรุษต่างจ้องมองหลินเฟยและกลุ่มองครักษ์สาวงามทั้งหกอย่างหลงใหลเหล่าศิษย์หญิงทั้งหลายก็ต่างกรี๊ดกร๊าดให้อวิ้นหลันและซุนเฉินสายตาทุกสายตาสะดุดกับชุดที่พวกหลินเฟยสวมใส่ราวกับต้องมนต์สะกดชุดขาวที่แสนจะสะอาดสะอ้านหรูหราช่างเข้ากันกับลวดลายสีทองส่องสว่างที่สวยงามยิ่งนัก
"ท่านเจ้าสำนักขอรับคนพวกนี้คือ...?"ศิษ์คนนึงกล่าวถามอย่างสงสัยก่อนที่ทุกคนจะเงียบกริบและตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ
เจียงหยวนที่เห็นแบบนั้นก็อดยิ้มไม่ได้และกล่าวออกมา
"ฮ่าๆๆๆ ท่านผู้นี้คือ ' จักรพรรดิจรัสแสง ' ยังไงหล่ะ ฮ่าๆๆๆ สำนักเราได้เป็นเกียรติที่ท่านผู้นี้มาเยี่ยมชม ดี...ดี...ฮ่าๆๆๆ"ผู้อาวุโสกล่าวโดยไม่นึกถึงสีหน้าขอทุกคนตอนนี้แววตาเป็นประกายวิบวับและกรูกันลงมาล้อมรอบพวกของหลินเฟยไว้
"นั้นคือ ' จักรพรรดิจรัสแสง ' โอ้ !! งามล้ำ !! งามเลิศ !! กินอะไรนางถึงได้งามขนาดนี้ !!"
"องครักษ์ของนางก็ช่างงดงามอย่างไร้ที่ติโดยแท้ !! พวกนางเป็นนางฟ้ากันรึยังไง !!"
"แต่ครานั้นข้าได้ยินว่าเป็นบุรุษใช่มั้ย !! แต่นี้มันสตรี !! แถมงดงามล่มทวีปอีก !!"
"อ๊าห์ ~ บุรุษผมแดงท่านนั้นหล่อเลิศเจ้าค่า ~"
"แต่ข้าว่าผมดำก็น่ารักดีน๊า ~"
"ไม่รู้แหละ !! ยังไงทั้งสองคนต้องเป็นของข้า !!"
"เอ๋ ! เจ้าจะโลภเกินไปแล้วสหายข้า !"
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังสนั่นหวั่นไหวราวกับเสียงแตรเปิดสงครามและทันใดนั้น
"พวกเจ้าทั้งหมด !! เงียบเดี๋ยวนี้ !!"
เสียงของชายคนนึงดังขึ้นมาจากด้านหลังเขาแผ่จิตสังหารออกมาทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆถอยห่างกันโดยขัดขืนไม่ได้
ชายคนนึงเดินแหวกทางมาเขาสวมชุดสีฟ้าของสำนักประดับด้วยลวดลายสีน้ำเงินอันงดงามและมีตัวอักษรที่เขียนว่า ' ฟ้า ' ประดับอยู่ที่ไหล่ด้านซ้าย
ใบหน้าของชายผู้นั้นหล่อเหลาเอาการชนิดที่ว่าล่มหมู่บ้านได้เลยทีเดียวแต่ก็ยังห่างชั้นกับหลินเฟยในร่างบุรุษมากนัก
มันเดินเข้ามาอย่างช้าๆและด้านหลังของมันก็มีคนเดินตามมาอีกนับสิบคนก่อนมันจะหยุดอยู่จุดที่ห่างจากหลินเฟยประมานสิบก้าวพลันกล่าว
"หึ !! ' จักรพรรดิจรัสแสง ' ไร้สาระสิ้นดี !! ข้าไม่เห็นว่าจะเก่งกาจตรงไหนเลยแม้แต่น้อย !! ท่านเจ้าสำนักคงโดนนังสิบแปดมงกุฎนี้หลอกลวงเป็นแน่ !!"
สายตาอันคมกริบของทั้งคู่สบกันครั้งแล้วครั้งเล่าจนก่อเกิดประกายไฟขึ้น
"ฮิๆ ! งั้นเจ้ามาประลองกับข้าหน่อยเป็นไงเล่า ? ข้าจะใช้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้นหากเจ้าชนะข้าได้เจ้าก็รับชื่อ ' จักรพรรดิจรัสแสง ' ไปได้เลยเจ้าคงจะตกลงซินะ ?"หลินเฟยแผ่พลังที่ลดเหลือเพียงระดับจอมพลใส่ที่ตัวของชายตรงหน้าแต่คนอื่นจะไม่สามารถสำผัสได้และเมื่อมันรู้ว่าหลินเฟยมีระดับต่ำกว่ามันมากนักทำให้มันเริ่มได้ใจและหัวเราะ
"ฮ่าๆๆๆ ย่อมได้ !! ข้าตกลง !! แล้วถ้าหากข้าแพ้หล่ะ ? แต่นั้นคงไม่มีวันหรอก ฮ่าๆๆๆ"มันกล่าวออกมาอย่างมั่นใจโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามันนั้นแหละที่จะต้องเสียใจภายหลัง
หลินเฟยแสยะยิ้มก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเหยีบราวกับน้ำแข็งพันปี
"หากข้าชนะ ! ตระกูลของเจ้าจะล่มสลาย !"
...ติดตามตอนต่อไป
------------------------------------------------------------------------------------------------
# : Happy New Year : # <3 เห็นเค้าบอกกันแล้วผมเลยเอามั่ง <3
ก็...ผมขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงกันตลอดทั้งปีนะครับอย่าให้เจ็บไข้ได้ป่วย
ขอให้ท่านได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ ในปีนี้นะครับขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จทั้งด้านการเงินและความรักด้วยนะครับ...ขออะไรขอให้ได้อย่างที่ขอนะครับผม
#ภ้าชอบก็อย่าลืมคอมเม้นและกดติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ตัวน้อยๆคนนี้ด้วยนะคร้าบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น