ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เส้นทางแห่งแสง [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #60 : บทที่ 31 สำนักประกายฟ้า ภาค ราชันย์ผยองเดช

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.71K
      153
      26 ธ.ค. 59

    ท่ามกลางสายตาก็เหล่าแม่ค้าพ่อค้าและชาวเมืองซุนเฉินที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของชายชุดน้ำเงินและมองมาด้วยสายตาที่แดงก่ำราวกับเทพแห่งความตาย

    "เจ้า !! เจ้ากล้าทำร้ายศิษย์แห่งสำนักนภาทมิฬงั้นรึ !! ท่านเจ้าสำนักจะไม่ปล่อยเจ้าไว้เป็นแน่ !!"

    คนที่มาด้วยกันกับชายชุดน้ำเงินกล่าวขู่ด้วยความโกรธเกรี้ยวนั้นคงเฉพาะคนที้เห็นภายนอกเท่านั่นใช่ดูยังไงท่าทางของมันก็โกรธเกรี้ยวแต่ไม่เลยจิตใจของมันตอนนี้ที่แค่ยืนก็ยังแย่แล้วเมื่อถูกจิตสังหารของซุนเฉิน

    ตู้ม !!

    ร่างของชายชุดน้ำเงินแตกสลายไปทันที

    "หึ !"ซุนเฉินพ่นลมหายใจออกทางจมูกก่อนจะเดินตรงไปยังกลุ่มของตนและเดินจากไปทิ้งไว้เพียงความหวาดกลัวของคนที่พบเห็นเหตุการณ์

    "รับคำสั่ง ! "หลินเฟยที่เดินมายังที่ลับตาคนพลันเรียกองครักษ์ทันที

    """""""เจ้าค่ะ !!! / ขอรับ !!!"""'""'

    ทั้งหมดยกเว้นอวิ้นหลันคุกเข่าและกล่าวอย่างพร้อมเพรียง

    "พวกเจ้าจงตามหาที่อยู่ของของหุบเขาหมื่นปีมาให้ได้พวกเจ้าคงไม่กังวลเรื่องเงินทองที่ใช่ซื้อข่าวกันหรอกนะ"

    """""""เจ้าค่ะ !!/ขอรับ !!"""""""

    ฟี้ววว ~ !

    ร่างของเหล่าองครักษ์หญิงชายหายไปทันทีทุกคนเคลื่อนไหวได้ราวภูติผีที่ไม่ได้ยินเสียงเท้าเลยแม้แต่น้อย

    "เอาหล่ะข้าหิวแล้วไปหาร้านอาหารกินกันเถอะ"เสียงหวานพูดขึ้นและบิดขี้เกียจที่ทำให้ดูน่ารักยิ่งขึ้น

    อวิ้นหลันยืนนิ่งไปสักพักก่อนจะเห็นร่างขอหลินเฟยค่อยๆเดินออกไปเขาสบัดหัวไล่ความคิดที่ก้าวเข้าสู่ความตายออกและรีบเดินตามไปทันที

    "ท่านอาจารย์รอข้าด้วยสิขอร้าบ ~"

    .........

    ณ สำนักประกายฟ้าที่เป็นคู่อริของสำนักนภาทมิฬ

    เจ้าสำนักที่ได้ยินเรื่องของเด็กสาวที่มีองครักษ์ผู้แข็งแกร่งและลักษณะเสื้อผ้าและลวดลายสายตาของเขาเบิกกว้างและกล่าว

    "จักรพรรดิจรัสแสง !!! นางต้องเป็นจักรพรรดิจรัสแสงแน่ๆ!!!"เจ้าสำนักที่นั่งอยู่กลางห้องกล่าวอย่างตกตะลึง

    "แต่ข้าได้ยินมาว่าเขาคือบุรุษไฉนกลับกลายเป็นอิสตรีไปได้เล่า"ผู้อาวุโสท่านนึงกล่าว

    "โฮะๆๆ นางคือเด็กที่ถูกเรียกขานว่า ' จักรพรรดิจรัสแสง ' สินะโฮะๆๆ ถ้าพวกเราได้นางเข้ามาอยู่ในสำนักถึงจะต้องยกตำแหน่งรองเจ้าสำนักให้ก็ไม่เสียหาย โฮะๆๆ"

    บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆจนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่คนผู้นั้นที่พวกเขาอยากจะให้เข้าร่วมสำนักตามหาอยู่นั้นอยู่ในเขตสำนักของตนนั้นเอง

    .........

    ณ ภัตตาคารใหญ่โตแห่งหนึ่งหลินเฟยกับอวิ้นหลันที่แยกโต๊ะกันทานอาหารเพราะหากทานด้วยกันคงจะทานไม่อิ่มเป็นแน่

    "อ้า ~ ท่านอาจารย์ข้าอิ่มแล้วหล่ะ"อวิ้นหลันเอนตัวลงพิงเก้าอี้และตบท้องอย่างอิ่มหนำสำราญ

    "งั้นคงได้เวลาทำภารกิจของพวกเราแล้วหล่ะ"หลินเฟยเดินออกไปจากร้านและอวิ้นหลันก็เดินตามมาติดๆ

    หลินเฟยเดินมาเรื่อยๆจนถึงสถานที่ที่นัดไว้

    "ว่าอย่างไรบ้าง"เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนหยางจะเป็นตัวแทนรายงานข้อมูล

    "รายงานนายท่าน !! หุบเขาหมื่นปีนั้นอยู่ในอีกมิตินึ่งที่ท่านพี่สร้างขึ้นมีแต่สมบัติของสำนักประกายฟ้าเท่านั้นที่จะเปิดประตูของมิตินั้นออกได้เจ้าค่ะ !! มันคือกุญแจแยกมิติที่ใช้เปิดประตูไปยังหุบเขาหมื่นปีเจ้าค่ะ !!"

    จู่ๆสายตาของหลินเฟยและทุกคนเปลี่ยนเป็นคมกริบทันทีและมองมายังต้นไม้ต้นนึงที่อยู่ไม่ไกลมากนักก่อนหลินเฟยจะตะโกนดังลั่น

    "ออกมา !!"

    หลังจากสิ้นเสียงอันหวานปานน้ำผึ้งนั้นก็มีร่างขอชายชราโผล่ออกมาและคุกเข่าประสานมือคาระวะ

    "ข้าหนานเจียงหยวน ! ยินดีที่ได้พบจักรพรรดิจรัสแสงผู้ยิ่งใหญ่ ! ต้องขออภัยด้วยที่ตาแก่อย่างข้าทำลับๆล่อๆ"เขากล่าวออกมาอย่างสุภาพโดยไม่มีท่าทีเสแสร้งเลยแม้แต่น้อยนั้นก็แปลว่าคนผู้นี้ชื่นชมหลินเฟยอย่างแท้จริง!

    เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นของเจียงหยวนหลินเฟยรีบประสานมือคารวะตอบทันที

    "ข้าหลินเฟยหาใช่จักรพรรดิจรัสแสงไม่ผู้อาวุโสโปรดอย่าสุภาพเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ"เสียงหวานบาดหูดังขึ้นร่างของชายชราก็รีบลุกขึ้นทันที

    "โปรดอย่าถ่อมตนเลยถึงท่านจะไม่รู้เรื่องแต่ที่นี้ท่านคือจักรพรรดิจรัสแสง"

    "ใยท่านผู้อาวุโสถึงได้เรียกข้าเช่นนั้นกัน ?"

    "โฮ๊ะ ๆๆ เพราะเมื่อการแข่งระหว่างสำนักครานั้นมีผู้คนที่เมืองฮวาหยินไปดูชมกันมิใช่น้อยแต่ตัวข้าและเหล่าสหายกลับยุ่งอยู่กับงานที่สำนักจึงมิอาจไปเชยชมการแข่งขันได้และจากนั้นคนในเมืองและเหล่าศิษย์ต่างๆก็มาเล่าให้ข้าฟังถึงเรื่องราวของเด็กคนนึงที่สามารถเอาชนะศิษย์ของทุกสำนักได้ด้วยตัวคนเดียวและธาตุของเค้าผู้นั้นคือธาตุแสงเหล่าศิษย์พวกนั้นจึงได้เรียกท่านว่าจักรพรรดิจรัสแสงและเรียกกันมาจนถึงทุกวันนี้นี่แหละ โฮ๊ะๆๆๆ"เจียงหยวนหัวเราะออกมาอย่างรื่นเริงก่อนจะหยุดและหันมาพูดกับหลินเฟยอีกครั้ง"งั้นข้าจะพาพวกท่านไปเยี่ยมที่สำนักดีรึไม่ ?"

    หลินเฟยทำหน้างงๆก่อนจะกล่าว

    "ท่านสามารถพาข้าเยี่ยมชมสำนักได้งั้นรึ ?"หากคนที่พาคนนอกเข้าออกสำนักได้ตามใจแบบนี้คงต้องมีฐานะสูงในสำนักเป็นแน่!

    "ฮ่าๆๆท่านอย่าห่วงเลยเจ้าสำนักอย่างข้าใยจะพาพวกท่านเข้าไปมิได้ ฮ่าๆๆ"
    หลินเฟยแสยะยิ้มและกล่าวตอบ

    "ย่อมได้เจ้าค่ะ"เสียงหวานกล่าวขึ้นก่อนเจียงหยวนจำเดินนำทั้งเก้าคนไปยังสำนักประกายฟ้าทันที

    .........

    ณ ทางเข้าสำนักประกายฟ้าที่อีกไม่นานจะมีการแข่งจัดอันดับภายในสำนักทุกคนมีท่าทีตื่นเต้นก่อนประตูทางเข้าจะค่อยๆแง้มออกจนกว้างและพวกเขาก็ได้เห็นท่านเจ้าสำนักเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มคนอีกเก้าคนที่เดินตามมาทางด้านหลัง

    ทุกคนตาลุกวาวทันทีเหล่าศิษย์ที่เป็นบุรุษต่างจ้องมองหลินเฟยและกลุ่มองครักษ์สาวงามทั้งหกอย่างหลงใหลเหล่าศิษย์หญิงทั้งหลายก็ต่างกรี๊ดกร๊าดให้อวิ้นหลันและซุนเฉินสายตาทุกสายตาสะดุดกับชุดที่พวกหลินเฟยสวมใส่ราวกับต้องมนต์สะกดชุดขาวที่แสนจะสะอาดสะอ้านหรูหราช่างเข้ากันกับลวดลายสีทองส่องสว่างที่สวยงามยิ่งนัก

    "ท่านเจ้าสำนักขอรับคนพวกนี้คือ...?"ศิษ์คนนึงกล่าวถามอย่างสงสัยก่อนที่ทุกคนจะเงียบกริบและตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ

    เจียงหยวนที่เห็นแบบนั้นก็อดยิ้มไม่ได้และกล่าวออกมา

    "ฮ่าๆๆๆ ท่านผู้นี้คือ ' จักรพรรดิจรัสแสง ' ยังไงหล่ะ ฮ่าๆๆๆ สำนักเราได้เป็นเกียรติที่ท่านผู้นี้มาเยี่ยมชม ดี...ดี...ฮ่าๆๆๆ"ผู้อาวุโสกล่าวโดยไม่นึกถึงสีหน้าขอทุกคนตอนนี้แววตาเป็นประกายวิบวับและกรูกันลงมาล้อมรอบพวกของหลินเฟยไว้

    "นั้นคือ ' จักรพรรดิจรัสแสง ' โอ้ !! งามล้ำ !! งามเลิศ !! กินอะไรนางถึงได้งามขนาดนี้ !!"

    "องครักษ์ของนางก็ช่างงดงามอย่างไร้ที่ติโดยแท้ !! พวกนางเป็นนางฟ้ากันรึยังไง !!"

    "แต่ครานั้นข้าได้ยินว่าเป็นบุรุษใช่มั้ย !! แต่นี้มันสตรี !! แถมงดงามล่มทวีปอีก !!"

    "อ๊าห์ ~ บุรุษผมแดงท่านนั้นหล่อเลิศเจ้าค่า ~"

    "แต่ข้าว่าผมดำก็น่ารักดีน๊า ~"

    "ไม่รู้แหละ !! ยังไงทั้งสองคนต้องเป็นของข้า !!"

    "เอ๋ ! เจ้าจะโลภเกินไปแล้วสหายข้า !"

    เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังสนั่นหวั่นไหวราวกับเสียงแตรเปิดสงครามและทันใดนั้น

    "พวกเจ้าทั้งหมด !! เงียบเดี๋ยวนี้ !!"

    เสียงของชายคนนึงดังขึ้นมาจากด้านหลังเขาแผ่จิตสังหารออกมาทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆถอยห่างกันโดยขัดขืนไม่ได้

    ชายคนนึงเดินแหวกทางมาเขาสวมชุดสีฟ้าของสำนักประดับด้วยลวดลายสีน้ำเงินอันงดงามและมีตัวอักษรที่เขียนว่า ' ฟ้า ' ประดับอยู่ที่ไหล่ด้านซ้าย
    ใบหน้าของชายผู้นั้นหล่อเหลาเอาการชนิดที่ว่าล่มหมู่บ้านได้เลยทีเดียวแต่ก็ยังห่างชั้นกับหลินเฟยในร่างบุรุษมากนัก

    มันเดินเข้ามาอย่างช้าๆและด้านหลังของมันก็มีคนเดินตามมาอีกนับสิบคนก่อนมันจะหยุดอยู่จุดที่ห่างจากหลินเฟยประมานสิบก้าวพลันกล่าว

    "หึ !! ' จักรพรรดิจรัสแสง ' ไร้สาระสิ้นดี !! ข้าไม่เห็นว่าจะเก่งกาจตรงไหนเลยแม้แต่น้อย !! ท่านเจ้าสำนักคงโดนนังสิบแปดมงกุฎนี้หลอกลวงเป็นแน่ !!"

    สายตาอันคมกริบของทั้งคู่สบกันครั้งแล้วครั้งเล่าจนก่อเกิดประกายไฟขึ้น

    "ฮิๆ ! งั้นเจ้ามาประลองกับข้าหน่อยเป็นไงเล่า ? ข้าจะใช้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้นหากเจ้าชนะข้าได้เจ้าก็รับชื่อ ' จักรพรรดิจรัสแสง ' ไปได้เลยเจ้าคงจะตกลงซินะ ?"หลินเฟยแผ่พลังที่ลดเหลือเพียงระดับจอมพลใส่ที่ตัวของชายตรงหน้าแต่คนอื่นจะไม่สามารถสำผัสได้และเมื่อมันรู้ว่าหลินเฟยมีระดับต่ำกว่ามันมากนักทำให้มันเริ่มได้ใจและหัวเราะ

    "ฮ่าๆๆๆ ย่อมได้ !! ข้าตกลง !! แล้วถ้าหากข้าแพ้หล่ะ ? แต่นั้นคงไม่มีวันหรอก ฮ่าๆๆๆ"มันกล่าวออกมาอย่างมั่นใจโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามันนั้นแหละที่จะต้องเสียใจภายหลัง
    หลินเฟยแสยะยิ้มก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเหยีบราวกับน้ำแข็งพันปี

    "หากข้าชนะ ! ตระกูลของเจ้าจะล่มสลาย !"

    ...ติดตามตอนต่อไป

    ------------------------------------------------------------------------------------------------

    # : Happy New Year : # <3 เห็นเค้าบอกกันแล้วผมเลยเอามั่ง <3

    ก็...ผมขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงกันตลอดทั้งปีนะครับอย่าให้เจ็บไข้ได้ป่วย
    ขอให้ท่านได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ ในปีนี้นะครับขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จทั้งด้านการเงินและความรักด้วยนะครับ...ขออะไรขอให้ได้อย่างที่ขอนะครับผม

    #ภ้าชอบก็อย่าลืมคอมเม้นและกดติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ตัวน้อยๆคนนี้ด้วยนะคร้าบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×