ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF & OS) คลังลั่นฟิค`s ขี้ตะไคร่ | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #12 : [SF] LADY BOY | END

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.52K
      232
      20 เม.ย. 61






     

    LADY BOY

     

     

     

    “ฮ๊ายยยย กระเทยยยยยยย”

     

    “มาทำไมห๊ะ อิดอกกก”

     

    ชานยอลแทบอยากจะปิดประตูไล่แขกที่มาในวันนี้ แล้วดูพวกมันแต่งองค์ทรงเครื่อง..ตำรวจไม่ลากเข้าซังเตได้ยังไงวะ หรือไม่โรงพยาบาลศรีธัญญาก็น่าจะรับพวกมันไปเป็นสมาชิกได้แล้ว

     

    “กล้าไล่พวกกูเหรอห๊ะ!! มึงควรจะขอบคุณพวกกูซะด้วยซ้ำนะที่ไม่ให้เจ้ใหญ่เขี่ยมึงออกจากผับ” คนที่สะพายกระเป๋าคิตตี้พูดขึ้น เขาเท้าสะเอวเตรียมพร้อมจะหาเรื่องเพราะอุตส่าห์มาเยี่ยมถึงที่แต่มาโดนเจ้าของห้องไล่เนี่ยนะ ชอลลี่รับมิดั๊ยย!!!

     

    “แล้วเป็นห่าอะไรไม่ไปทำงานคะอิดอก เป็นริดซี่เหรอไงยะ” คนผิวสีแทนที่รอบลำคอนั้นถูกพันด้วยขนเฟอร์นุ่มนิ่มสีชมพูเข้มพูดขึ้นมาบ้าง

     

    “หรือมึงหมกตัวอยู่กับผัวฝรั่งจนลืมวันลืมคืน?” คราวนี้คนที่มีผิวสีขาวกว่าใครเพื่อนพร้อมกับอุ้มน้องแมวพันธ์เปอร์เซียสีเดียวกับเจ้าตัวถามขึ้น

     

    ชานยอลถึงกับเอามือตบหน้าผากตัวเองใครแม่งเชิญให้พวกมันมาวะ คือเขาแค่ไม่ไปทำงานสองวันมาตามถึงที่ ถ้าไม่ไปเป็นเดือนมันไม่ตามจนสุดขอบโลกเลยเหรอวะ แล้วดูแต่ละคำถามที่พวกมันแต่ละคนถาม ชานยอลรับมิดั๊ยยย!!!

     

    “ใครมาเหรอครับ?” แบคฮยอนเดินออกมาตามเมื่อไม่เห็นว่าแฟนของตนเองจะเข้ามาในห้องซักทีหลังจากทีได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง

     

    “ว๊ายยยยยยย”

     

    “นั่นใครยะ”

     

    “อิดอกกกก!!! เล่าค่ะ”

     

    และความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในทันทีเมื่อเหล่าแก๊งค์กระเทยของชานยอลได้เข้ามาอยู่ในห้อง แต่คนที่ดูจะวุ่นวายที่สุดก็คงจะเป็นแฟนตัวเล็กของเขานั่นแหละที่โดนซักถามไม่หยุดหย่อนชานยอลอยากจะเข้าไปช่วยใจแทบขาดแต่ก็ไม่มีจังหวะเข้าไปขัดเลย

     

    “นี่หนูเป็นใครอ่ะ เด็กเลี้ยงยัยชานเหรอ?” ชานยอลแทบจะเข้าไปกินหัวเจ้าของกระเป๋าคิตตี้ที่มันบังอาจมาว่าแฟนเขาเป็นเด็กเลี้ยง

     

    “เอ่อ..เปล่าครับ ผมไม่ใช่”

     

    “แล้วหนูมาทำอะไรที่ห้องยัยชาน โดนจ้างมาเท่าไหร่อ่ะ?” ดูไอ้ขนเฟอร์สีชมพูมันถามแฟนเขา กูไม่ได้จ้างมานั่นแฟนกูโว๊ยยยยยยยย

     

    “ปะ..เปล่าครับ ไม่ได้โดนจ้าง”

     

    “แล้วตกลงเป็นอะไรกันห๊ะ!?” อิขาวจั๊วะมึงอย่ามาตะคอกใส่แฟนกู

     

    ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยย

     

    “อิเชี้ยยยย!!! นั่นแฟนกู!!!!!!

     

    ชานยอลเดิมแหวกเข้าไปกลางวงล้อมแล้วคว้าแฟนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ในอ้อมอกอย่างหวงแหน เขาจะต้องปกป้องแบคฮยอนจากสิ่งชั่วร้ายด้วยความรักและความยุติธรรม ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ผู้นี้แหละจะลงทัณฑ์พวกแกเอง

     

    “ว๊ายยยยยยยย!!!!!!” ทั้งสามเทยหวีดว๊ายประสานเสียงออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ ไม่อยากจะเชื่อว่ายัยชานที่เลือกแต่คนล่ำๆ หุ่นแซ่บๆ ไอ้จ้อนใหญ่ๆ แบบอเมริกันแสตนดาร์ทจะมาคบกับยัยหนูหน้าหมาแบ๊วผู้นี้

     

    “ละแล้วเควิลผัวฝรั่งมึงล่ะ?”

     

    “เลิกกันนานละ!” ชานยอลขมวดคิ้วไม่ชอบใจกับคำถาม ใครสั่งใครสอนให้ถามถึงผัวเก่าต่อหน้าแฟนใหม่แบบนี้

     

    “เอ้า แล้วไม่เล่าให้พวกกูฟัง” คนผิวสีแทนยกขนเฟอร์สีชมพูของตัวเองฟาดหน้าชานยอลไปหนึ่งทีเป็นบทลงโทษ

     

    “แล้วไม่คิดจะแนะนำให้แฟนเด็กมึงรู้จักพวกกูเลยเหรอคะ?”

     

    “คนอย่างพวกมึงมันไม่น่าให้รู้จักเลยซักนิด”

     

    “อ๊ายยยยยยยย!!!!” และเสียงหวีดว๊ายก็ประสานพร้อมกันอีกครั้ง จนชานยอลนึกรำคาญเดินลากแบคฮยอนที่ยังอยู่ในอ้อมกอดไปเข้าห้องนอน

     

    “เดี๋ยวซี่พี่สาว มันเสียมารยาทนะ” แบคฮยอนยื้อตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของชานยอลแล้วเดินไปแนะนำตัวเองต่อหน้าคนที่มาใหม่ทั้งสามคน “สวัสดีครับ ผมบยอน แบคฮยอนครับ”

     

    “ว๊ายยยน่าเอ็นดู ฉันชอลลี่นะจ๊ะ” คนที่สะพายกระเป๋าคิตตี้เดินเข้ามาบีบแก้มของแบคฮยอนจนพอใจแล้วบอกชื่อเจ้าตัวให้รู้จัก

     

    “ส่วนฉันอินนี่อิสยัวร์เอเรียย๊ะ” คนผิวสีแทนแนะนำตัวพร้อมกับโพสต์ท่าเซ็กซี่ที่มั่นใจที่สุด

     

    “มยอนงี่และลิลลี่จ้ะ” คนตัวขาวแนะนำตัวเองพร้อมกับบอกชื่อเจ้าแมวเปอร์เซียตัวน้อยที่อุ้มอยู่ที่อกด้วย

     

    “ว้าวว! น่ารักมากๆ ขะ..ขออุ้มได้ไหมครับ?” แบคฮยอนดูจะสนใจเจ้าแมวสีขาวตัวน้อยที่ชื่อลิลลี่เป็นพิเศษ เมื่อเห็นเจ้าของพยักหน้าอนุญาตก็จัดการอุ้มมันอย่างทะนุถนอมในอ้อมแขมของตัวเอง

     

    ชานยอลที่ยืนเป็นธาตุอากาศก็คิ้วกระตุกอยู่ยิกๆ พวกมันไม่ควรมาเลย ไม่ควรมาเลยจริงๆ *กำมือแน่นแผ่รังสีความไม่พอใจ* ทำไมจะต้องไปห้อมล้อมแฟนเขาขนาดนั้น มึงหยุดบีบแก้มแฟนกูเลยนะอิชอลลี่ อิอินนี่ก็ไม่ต้องเอามือสกปรกๆ ของมึงมาลูบหัวแฟนกู เอาแมวของมึงไปโยนทิ้งไกลๆ ด้วยอิมยอนงี่กูรังเกียจ

     

    ชานยอลจะไม่ทน!!!!

     

    “แล้วพวกมึงมานี่มีธุระอะไรยะ?” เท้าสะเอวแสดงความไม่พอใจขั้นสุด ถ้าพวกมึงไม่มีธุระสำคัญกูก็พร้อมจะให้พวกมึงเก็ทเอ้าท์ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่กูจะกริ้ว

     

    “ก็อย่างที่บอกว่ามึงไม่ไปทำงานสองวันแล้ว มึงก็รู้ว่ามีลูกค้าประจำมาติดมึงหลายคน นี่เจ้ใหญ่ก็กริ้วจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วเนี่ย” ชอลลี่เป็นคนอธิบายให้เจ้าของห้องฟัง ที่มาหาก็เพราะเหตุผลนี้แหละแต่เล่นกับเจ้าเด็กหน้าแบ๊วจนลืมบอกไปเลย

     

    “งั้นกูลาออก” ชานยอลบอกเสียงเรียบ

     

    “ว้อทเดอะ…!?” อินนี่ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองอย่างตกใจ

     

    “แล้วมึงจะเอาไรแดก?” มยอนงี่ก็ถามเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง ถ้ามันไม่ทำงานแล้วจะเอาอะไรเลี้ยงแฟนเด็กมันล่ะวะ ตัวก็ยิ่งผอมๆ นี่กินหรือดมข้าวอยากถามมาก

     

    “กูลาออกจากงานแต่ไม่ได้ลาออกจากหุ้นส่วนนะจ๊ะ กูถือหุ้นใหญ่สุดพวกมึงอย่าลืม”

     

    ยิ้มเยาะอย่างสะใจแล้วจัดการจับแมวตัวน้อยในอ้อมแขนแบคฮยอนส่งให้เจ้าของอย่างนึกรังเกียจ จากนั้นก็ดันหลังพวกมันทั้งสามคนให้ออกจากห้อง ปากก็เอ่ยไล่แบบไม่ใยดีแล้วจัดการปิดประตูใส่หน้าไม่ทันให้พวกแก๊งค์กระเทยทั้งสามได้โวยวายอะไร

     

    “อีกซักพักเราออกไปเที่ยวข้างนอกกันนะ”

     

    “แหะ คะ..ครับ” แบคฮยอนก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ยืนมึนงงอยู่กลางห้องแต่ก็ตอบตกลงกลับไป

     

     

    LADY BOY

     

     

    เมื่อหลายวันก่อนแบคฮยอนบ่นว่าอยากมาดูหนังในโรงภาพยนตร์มากๆ และก็มีหนังที่เจ้าตัวอยากดูพอดีกำลังจะมาเข้าฉายในโรง วันนี้ชานยอลก็เลยถือโอกาสพามาซะเลยจะได้เปลี่ยนบรรยากาศจากหน้าจอทีวีเล็กๆ มาเป็นจอฉายภาพยนตร์ใหญ่ๆ แทน แถมยังซื้อตั๋วแบบสามมิติอีกด้วยนะ

     

    เพื่อความสุขของแบคฮยอนน่ะ มากกว่านี้ชานยอลก็ทำให้ได้

     

    “ผู้ชายตัวเล็กคนนั้นน่ารักจังเลย”

     

    “ใช่ๆ มาดูหนังคนเดียวเหรอน่ะ ฮืออ น่ารักจริงๆ”

     

    มีเสียงพูดคุยจากผู้หญิงสองคนที่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากชานยอลมากนักพอให้ชานยอลได้ยินถ้าตั้งใจฟัง ดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังเอ่ยชมผู้ชายคนนึงที่กำลังซื้อป๊อปคอร์นอยู่ ซึ่งนั่นก็คือแบคฮยอนแฟนของเขานั่นเอง ชานยอลแอบอมยิ้มที่ว่าใครๆ ก็ชมแฟนของเขาว่าน่ารักทั้งนั้น

     

    “พี่สาวผมฝากก่อนนะ จะไปเข้าห้องน้ำอ่ะ” เจ้าตัวเล็กวางป๊อปคอร์นถังใหญ่และน้ำไซส์บิ๊กลงข้างแฟนคนสวยของเขา แล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำให้ทันก่อนที่จะถึงเวลาฉายหนัง

     

    “อะไรน่ะ มีแฟนแล้วเหรอเนี่ย” หนึ่งในนั้นพูดออกมาด้วยความเสียดาย เธอมองตามร่างเล็กที่วิ่งไปเข้าห้องน้ำตาละห้อย

     

    “เดี๋ยวก่อนสิเธอ แฟนของผู้ชายคนนั้นเป็นกระเทย”

     

    “ห๊ะ! จริงเหรอเนี่ย!!!

     

    “เบาๆ สิ ก็ไม่เห็นเหรอแต่งเป็นผู้หญิงแต่ลูกกระเดือกชัดเจนขนาดนั้น กระเทยชัวร์”

     

    “อึ๋ย ทำไมถึงได้มีแฟนเป็นกระเทยนะ เสียดายชะมัด!

     

    “อีกคนก็น่ารักแท้ๆ น่าจะได้แฟนที่ดูแลปกป้องได้มากกว่านี้นะ”

     

    “เอ่อ..เธอๆ เราไปกันเถอะ”

     

    ชานยอลที่ฟังผู้หญิงทั้งสองคนนั้นพูดคุยกันตั้งแต่แรกก็รู้สึกทนไม่ไหวหันไปมองหน้าพวกหล่อนโต้งๆ จนหนึ่งในนั้นสะกิดให้เพื่อนอีกคนเดินหนีไปที่อื่น

     

    ตั้งแต่บอกว่าเขาเป็นกระเทยแล้ว ทำไมล่ะ? เป็นกระเทยแล้วมันรักใครไม่ได้เหรอ เป็นกระเทยแล้วจะดูแลปกป้องใครไม่ได้เหรอ ทำไมคนอื่นจะต้องมาตัดสินเขาที่ภายนอก ตัดสินที่รสนิยมการแต่งตัวของเขา ตัดสินเพศสภาพที่เขาเลือก

     

    ทำไมถึงได้มองข้ามความรักที่เขามีให้กับแบคฮยอน

     

    “พี่สาว อ่า..เป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมทำหน้าเครียดๆ” แบคฮยอนที่กลับมาจากเข้าห้องน้ำเอ่ยถามคนรักด้วยความเป็นห่วง เพราะชานยอลดูเครียดๆ เหมือนคนกำลังวิตกกังวลกับอะไรบางอย่าง

     

    “อ่อ..อืม..เปล่าๆ ได้เวลาแล้วรีบเข้าไปกันเถอะ” ชานยอลสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไป เขาหันมาส่งยิ้มให้แฟนตัวเล็กแล้วช่วยถือน้ำแก้วใหญ่เข้าไปในโรงด้วยกัน แบคฮยอนจึงถือถังป็อปคอร์นเดินตามไปแม้จะอดสงสัยไม่ได้ก็ตาม

     

     

     

     

    ตั้งแต่กลับมาจากดูหนังคราวนั้นชานยอลก็ทำตัวแปลกๆ ไป ไม่ใช่ว่าแปลกจนเปลี่ยนไป แต่มันแปลกๆ แบบว่าแบคฮยอนรู้สึกได้เองว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่คนสวยของเขาตอนที่เขาไม่อยู่หรือไม่รู้

     

    อย่างเช่น แบคฮยอนมักจะเอ่ยชมชานยอลทุกครั้งเวลาเจ้าตัวแต่งตัวสวยๆ แต่หลายวันมานี้ชานยอลไม่ค่อยได้หยิบจับเสื้อผ้าสวยๆ มาใส่เลย นานๆ ทีได้ออกไปข้างนอกก็จะใส่ซักครั้ง เขาก็เอ่ยชมตามปกติเพราะเวลาชานยอลแต่งตัวสวยๆ นั้นสวยจริงๆ ในสายตาของเขาเสมอ

     

    แต่ดูเหมือนว่าคนสวยของแบคฮยอนดูไม่ดีใจเลย มียิ้มให้ทุกครั้งแต่ก็เป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ

     

    แล้วยิ่งใกล้ครบรอบ 100 วันที่เราคบกันแล้ว แบคฮยอนยิ่งไม่สบายใจถ้าระหว่างเรายังเป็นแบบนี้

     

    “พี่สาวอยากไปฉลองครบรอบหนึ่งร้อยวันที่เราคบกันที่ไหนดี” แบคฮยอนล้มตัวลงนอนทับท้องชานยอลแนวขว้าง พยายามก่อกวนอีกฝ่ายที่กำลังดูทีวีอยู่ให้สนใจกัน

     

    และเพราะว่าเราทั้งคู่ก็ยังหาซื้อโซฟาที่ถูกใจชานยอลไม่ได้ พี่คนสวยจึงซื้อฟูกมาปูให้นอนเล่นหน้าทีวี เพราะบางวันแบคฮยอนที่นั่งดูทีวีอยู่เฉยๆ ก็เผลอหลับไปบ้าง เขาจึงขนหมอนขนผ้าห่มมาไว้มันกลางห้อง บางคืนก็ชวนกันนอนที่ตรงนี้แหละเพราะเจ้าตัวเล็กบอกว่าสบายดีมีทีวีให้ดูก่อนนอน

     

    “แล้วแต่เราเลย” ชานยอลยังคงจดจ้องไปที่หน้าจอทีวี ไม่ได้สนใจเจ้าตัวเล็กที่นอนคว่ำทับท้องเลย

     

    “ไม่ได้ซี่ ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนอ่ะ” แบคฮยอนไม่ยอมแพ้ดิ้นเร้าๆ อยู่บนท้องของอีกฝ่าย

     

    “งั้นก็ไปผับที่พี่เคยทำงาน”

     

    “เอางั้นก็ได้”

     

    แบคฮยอนลุกขึ้นมานั่งทับขาตัวเองมองหน้าอีกฝ่ายที่ก็ยังจดจ้องทีวีที่มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดนั้น พี่คนสวยของเขาเหมือนไม่ได้แปลกแต่ก็ดูแปลกๆ ในความรู้สึกของแบคอยอน

     

    ไอ้ความคาใจที่มันอยากถามออกไปโต้งๆ นี่เขาควรจะทำยังไงดี

     

     

    LADY BOY

     

     

    เมื่อมาถึงวันครบรอบ 100 วันที่เราคบกันแล้วแบคฮยอนก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เขาจัดการเลือกชุดที่คิดว่าเท่ที่สุดเท่าที่มีในตู้เสื้อผ้าออกมาใส่ เพราะการไปผับที่เป็นสถานที่ที่คนอยู่เยอะมากๆ เขาจึงต้องดูดีเพื่อไม่ทำให้พี่คนสวยขายหน้า

     

    “โหววว วันนี้พี่สาวสวยเป็นพิเศษเลย”

     

    แบคฮยอนยอมรับว่าเขาตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้เห็นแฟนของตัวเองใส่ชุดสวยๆ แล้ววันนี้พี่คนสวยก็ทำเอาเขาตกตะลึงตาค้างเพราะมันเป็นวันพิเศษของเราทั้งคู่มันจึงทำให้วันนี้พี่คนสวยของแบคฮยอนสวยเป็นพิเศษกว่าวันไหนๆ เลยจริงๆ

     

    “วันนี้แบคฮยอนก็น่ารักมากๆ”

     

    “อ่า…” แบคฮยอนน่ะไม่เคยได้รับคำชมว่าเท่ ว่าหล่อ จากปากแฟนตัวเองเลยซักครั้งมีแต่คำชมว่าน่ารักๆ ทั้งนั้นเลยแต่ก็ช่างมันเถอะเขาไม่ได้หวังคำชมอยู่แล้ว แต่เขาหวังแค่ว่าพี่คนสวยของเขาจะยิ้มได้เพราะเขาหรือเปล่าเท่านั้นเอง

     

    ในที่สุดเราทั้งสองคนก็มาถึงผับที่ชานยอลเคยมาทำงานหรือเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ในที่นี้ แบคฮยอนรู้สึกประหม่าเพราะไม่เคยเข้ามาในที่ๆ คนเยอะ เสียงดนตรีก็ดังกระหึ่มเหมือนมีลำโพงอยู่ข้างหูทำให้เจ้าตัวเล็กไม่ชินเอาเสียเลย เขาเกาะแขนอีกคนเอาไว้เดินไม่ห่างกายเพราะเขามีสิทธิ์หายเข้าไปท่ามกลางผู้คนที่กำลังเต้นอยู่ได้ทุกเมื่อ

     

    “โอเคนะ”

     

    “สุดๆ” ทำมือโอเคเพื่อให้อีกคนไม่ต้องห่วง

     

    “เดี๋ยวพี่ไปหาพวกชอลลี่ก่อนนะ อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม?”

     

    “สบายมาก”

     

    “รอแป๊บนึงนะ” ชานยอลไม่อยากปล่อยให้แฟนตัวเล็กอยู่คนเดียวเลย แต่เขาจำเป็นที่จะต้องไปหาเพื่อนแก๊งค์กระเทยก็เลยต้องทิ้งให้แบคฮยอนอยู่ตรงบาร์ไปก่อน

     

    แบคฮยอนสั่งแค่น้ำอัดลมเพราะเขาไม่รู้เรื่องแอลกอฮอล์มากนัก สั่งก็ไม่เป็นก็เลยเลือกแค่น้ำอัดลมหนึ่งแก้วเพื่อรอพี่คนสวยที่ก็ยังคงไม่กลับมาซักที

     

    “ฮัลโหล ยูโลนลี่?” อยู่ๆ ก็มีชาวต่างชาติเข้ามานั่งข้างแบคฮยอนทักทายเขาด้วยภาษาอังกฤษ

     

    “เอ่อ..” ไม่ใช่ว่าตอบไม่ได้ แต่เขาไม่อยากจะคุยด้วยมากกว่าเขาไม่อยากจะพูดคุยกับใครเลยจะกว่าแฟนของเขาจะมา

     

    “เฮ้ ไอทอล์กวิทยูนะ อันเซอร์มี!!!” นายต่างชาติถือวิสาสะจับข้อมือของแบคฮยอน นั่นทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งพยายามกระชากมือกับแต่ก็ไม่เป็นผล

     

    ” เขาจะไม่มีทางตอบโต้อะไรทั้งนั้น แต่ก็พยายามแกะมือใหญ่ๆ ของนายต่างชาติออก

     

    “เฮ้! เรลีสยัวร์แฮนด์ฟอร์มมายบอยเฟรนด์” ชานยอลบีบมือเข้าไปที่บ่าของอีกฝ่าย บังคับให้ปล่อยมือออกจากแฟนของเขา

     

    “ฮูอาร์ยู? วะ..ว้อทดาร์ลิ้ง!?” นายต่างชาติสะบัดแขนข้างที่ชานยอลบีบเอาไว้ ลุกขึ้นมาหาเรื่องแต่ปรากฏว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคืออดีตคนรักที่เคยคบกันมาสองปี

     

    “คะ..เควิล!!??” ชานยอลก็ตกใจไม่แพ้กันที่มาเจออดีตผัวฝรั่ง

     

    “จีซัสไคร้! ทำไมยูถึงมาอยู่ที่นี่ เราเลิกกันไปแล้ว”

     

    “เฮอะ นี่มันที่ทำงานกูค่า มึงนั่นแหละมายุ่งอะไรกับแฟนกู”

     

    “ว้อท!? ฮีอิสยัวร์บอยเฟรนด์???” เควิลมองหน้าแบคฮยอนสลับกับชานยอลอย่างไม่เชื่อว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นแฟนกัน “โนวเวย์ อิมพอสซิเบิล”

     

    “โอ้วซอรี่ อิทส์พอสซิเบิล” ชานยอลป้องปากอย่างสะใจ ไงล่ะ! กูเลิกกับมึงกูก็มีใหม่เลย ไม่เห็นจะเสียใจที่ไม่มีมึงเลยซักนิ๊ดดดดด

     

    “ฟัค!!!” ด้วยความโมโหจึงสาดเหล้าที่อยู่ในมือใส่อดีตคนรักอย่างเครียดแค้น แล้วเดินหนีออกไปในทันที

     

    “เฮ้ยพี่สาวเป็นอะไรไหม?” แบคฮยอนแทบจะร้องไห้เมื่อเห็นสภาพคนรักของตัวเองเปียกปอนไปด้วยเหล้าและมีกลิ่นแอลกอฮอล์เต็มตัว

     

    “ให้ตายเถอะ อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลยชาตินี้” ชานยอลก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วถอนหายใจอย่างปลงจิต ขอให้นี่มันเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจออดีตผัวเฮงซวยด้วยเถอะ

     

    สุดท้ายแบคฮยอนก็ขอให้พวกเรากลับห้องเพราะชานยอลตัวเปียกแบบนี้อาจจะทำให้อีกฝ่ายเป็นหวัดได้ เขาก็ไม่นึกขัดแต่ก็แอบเสียดายเล็กๆ ว่าเรายังไม่ได้ฉลองครบรอบ 100 วันที่เราคบกันเลย มันควรจะเป็นวันที่พิเศษสำหรับเราสองคนแต่ก็ดันมาเจอไอ้ผัวเฮงซวยเควิลซะได้

     

    “พี่สาวไปอาบน้ำเลยนะ เดี๋ยวไม่สบาย”

     

    “โอเค” ชานยอลรับคำอย่างว่าง่าย เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับถุงบางอย่างในมือที่แบคฮยอนไม่ได้เอ๊ะใจเลยซักนิด

     

    เจ้าตัวเล็กก็ยังคงมานั่งบนฟูกดูทีวีรอเจ้าของห้องอาบน้ำ ความรู้สึกเหมือนมันเดจาวูเลยแหะ แต่เขาก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไปเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำและเสียงปิดสวิตช์ไฟ

     

    “แบคฮยอน”

     

    เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกแต่ก็ต้องตกตะลึงค้างกับการแต่งกายมาดใหม่ของเจ้าของห้อง ที่ไม่ได้ใส่ชุดสวยๆ เหมือนหลายวันที่ผ่านมาแต่เป็นการใส่ชุดสูทสีดำที่ไม่เป็นทางการ พร้อมกับผมที่เซทเปิดหน้าผากมาอย่างดี

     

    นะ..นี่ใช่พี่คนสวยแฟนของเขาหรือเปล่า?

     

    “คะคุณเป็นใครครับ?” เอ่ยถามออกไปโง่ๆ แต่ก็เพื่อความมั่นใจของตัวเองล่ะนะ

     

    “แฟนของนายไง” ชัดเจนแต่ทำไมต้องส่งยิ้มหล่อมาให้ด้วยกันเล่า

     

    “ทำไมแต่งตัวแบบนี้อ่ะ” ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่คือแปลกใจมากๆ ถึงมากที่สุด

     

    “เอ่อ..คือว่า..พี่น่ะ..” ประหม่าอีกแล้วชานยอลแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เตรียมคำพูดหรือซ้อมอะไรเลยนะ นี่จะมาด้นสดให้แฟนซึ้งล้วนๆ

     

     

    “รู้อะไรไหม? พี่น่ะชอบการแต่งตัวสวยๆ มาก ถึงแม้ว่ามันจะไม่เข้ากับพี่เลยก็ตาม และใครหลายคนก็มองมาด้วยสายตาแปลกๆ”

     

    “ไม่เลยนะ พี่สวยจะตาย” แบคฮยอนยืนขึ้นค้านพี่คนสวยของเขา

     

    “ใช่ แบคฮยอนชมพี่ตลอดเลยทั้งๆ ที่พี่ก็เป็นแบบนี้แต่แบคฮยอนก็ยังรักพี่”

     

     

    “แต่การที่พี่เป็นแบบนี้มันทำให้แบคฮยอนต้องทนทุกสายตาของคนอื่นที่มองมา”

     

    เพราะมันไม่ใช่แค่ผู้หญิงสองคนนั้นที่พูดนินทาเขา แต่ยังมีใครอีกมากมายที่มองมาที่เราสองคนด้วยสายตาแปลกๆ ถึงแม้แบคฮยอนจะทำตัวเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่เขาที่แคร์ความรู้สึกของเจ้าตัวเล็กก็ไม่อยากให้อีกคนต้องโดนมองแบบนี้ไปตลอด

     

    “เขาจะมองก็เรื่องของเขาไปเลย ฮึก ก็ผมรักพี่ทำไมผมจะต้องแคร์สายตาคนอื่น ผมรักพี่ที่เป็นแบบนี้ ฮึก พี่อย่ามาพูดว่าเหมือนจะเลิกกับผม!!!” แบคฮยอนทนกลั้นน้ำตาไม่ได้ เขาปล่อยมันออกมาอย่างสุดจะฝืน ที่พี่คนสวยของเขาแปลกๆ ไปก็เพราะแบบนี้สินะ

     

    “พี่ไม่ได้จะเลิก แต่พี่แค่จะเปลี่ยน

     

    “พี่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรทั้งนั้นแหละ!!!” เจ้าตัวเล็กพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบประโยค “ผมรักพี่ที่เป็นพี่ ฮึก ที่เป็นพี่สาวแต่งตัวสวยๆ ยิ้มทุกครั้งที่ผมชม ฮะ..ฮึก หัวเราะให้กับเรื่องตลกฝืดๆ ของผม แล้วทำไมพี่จะต้องเปลี่ยน..ผมไม่แคร์เลยว่าใครจะมองเรายังไง ฮือออ”

     

    “แบคฮยอน” ชานยอลเดินเข้าไปกอดเจ้าตัวเล็กที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร

     

    “พะ..พี่อย่าเปลี่ยนไป ฮึก เลยนะ อย่าเลิกกับผม ฮืออออ” ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดๆ แต่ชานยอลก็จะรอให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ก่อนแล้วค่อยๆ อธิบายให้เจ้าตัวเล็กเข้าใจอีกที

     

    ชานยอลทั้งกอด ทั้งลูบหลังปลอบ ทั้งโยกตัวไปมาให้คนในอ้อมกอดหยุดร้องไห้ ซักพักใหญ่ๆ เลยล่ะที่เจ้าตัวเล็กหยุดเสียงร้องแต่ก็มีหลุดสะอื้นมาบ้าง

     

    “แบคฮยอน..พี่ไม่ได้จะเปลี่ยนไปไหน แล้วไม่ได้จะเลิกกับเราด้วย”

     

    “ฮึก แต่พี่

     

    “ชู่ววๆ ฟังอธิบายก่อนนะ” ได้ยินอย่างนั้นแบคฮยอนจึงยอมเงียบปากแล้วให้ชานยอลอธิบายต่อ “พี่ไม่ได้จะเปลี่ยนไปไหนเลย พี่ยังเป็นคนที่รักแบคฮยอนอยู่เหมือนเดิม..แต่พี่แค่อยากเปลี่ยนตัวเองให้สามารถปกป้องดูแลแบคฮยอนได้”

     

     

    “พี่อยากเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่แบคฮยอนสามารถพึ่งพาได้ ไม่ใช่แค่ให้แบคฮยอนคอยดูแลพี่อย่างเดียว”

     

     

    “แต่พี่ก็จะดูแลแบคฮยอน ทำให้แบคฮยอนยิ้ม ทำให้แบคฮยอนหัวเราะ และมีความสุขเหมือนกันกับที่พี่ได้รับจากเราไง”

     

    “ฮึก”

     

    “พี่รักแบคฮยอนนะครับ”

     

    “ฮือออออ” แบคฮยอนร้องไห้อีกครั้งแต่คราวนี้ก็เพราะซึ้งประโยคของพี่คนสวยเลยแหละ ทำไมไม่รีบอธิบายให้เร็วกว่านี้ต้องร้องไห้หลายรอบเลย

     

    “แล้วก็เลิกเรียกว่าพี่สาวได้แล้วนะ” สำหรับชานยอลไม่ว่าแบคอยอนจะเรียกว่าอะไรเขาก็ยอมให้ได้หมด แต่เพราะคราวนี้เขาจะเปลี่ยนตัวเองใหม่มันคงจะดีถ้าแบคฮยอนจะเรียกเขาด้วยชื่อน่ะนะ

     

    “ผะ..ผมก็ ฮึก รักพะ..พี่ชานยอล ฮึก นะ”

     

    ชานยอลเชยคางเจ้าแบคฮยอนขึ้นมารับจูบอันแสนหวานจากเขา นี่เป็นจูบระหว่างเราครั้งแรกเพื่อฉลองให้กับวันครบรอบ 100 วันที่เราได้คบกัน แม้วันนี้จะมีคนเสียน้ำตาแต่ก็เป็นน้ำตาแห่งความสุข และชานยอลมั่นใจว่าหลังจากวันนี้ไปอีกพันวันหรือเป็นหมื่นๆ วัน ชานยอลก็จะรักและทำให้แบคฮยอนมีความสุขไปตลอดตราบเท่าที่เรายังอยู่ด้วยกัน

     

     

    END

     

     

     







    ใจพี่ชานโคตรแมนอ่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×