ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF & OS) คลังลั่นฟิค`s ขี้ตะไคร่ | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #29 : [SF] CRAZY ONLY! , THERE ARE NOTHING | 05

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.44K
      118
      27 ธ.ค. 61



     

    CRAZY ONLY! , THERE ARE NOTHING

    05





     

          10.46 น.

     

    เลยเวลานัดมาประมาณสี่สิบกว่านาทีได้สำหรับปาร์คชานยอลที่เพิ่งเดินมาถึงหน้าโรงหนังที่มีแบคฮยอนกับน้องซูยอนยืนรออยู่ก่อนแล้ว

     

    ชานยอลตั้งใจมาสาย..และในทีแรกเขาไม่อยากมาเสียด้วยซ้ำ

     

    อยู่ๆ มันก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงว่าสองคนนั้นกำลังนั่งดูหนังกันอย่างมีความสุข ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือเพราะใครที่ทำให้ใจของเขารวนเรเช่นนี้ เอาเป็นว่าชานยอลกำลังสับสนและกำจัดความรู้สึกนี้ออกไปไม่ได้ซักทีก็เท่านั้น

     

    “ช้า เสียเวลาต้องรออีกครึ่งชั่วโมงเลยนะเว้ย” และเป็นแบคฮยอนที่โวยวายขึ้นมาทันทีเมื่อเจอหน้ากัน

     

    “โทษ กูตื่นสาย”

     

    ตอบออกไปส่งๆ ทั้งที่ความจริงก็ไม่ได้ตื่นสายอะไร แล้วหันไปยิ้มทักทายหญิงสาวหนึ่งเดียวที่วันนี้แต่งกายด้วยชุดเดรสสีหวานมันเหมาะกับเธอ เขาคิดอย่างนั้น..แล้วอะไรอีกล่ะ? ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาต้องชมเธอหรือเปล่านะ เขาต้องสนใจเธอมากกว่านี้ใช่มั้ย เขาต้องมีดอกไม้ซักช่อเอามาให้เธอด้วยซ้ำ

     

    แต่..ทำไมกันล่ะ

     

    “วันนี้พี่ชานยอลหล่อมากๆ เลยค่ะ”

     

    “ขอบคุณครับ”

     

    เขาทำเพียงแค่เอ่ยปากขอบคุณไปเท่านั้น ทั้งๆ ที่น้องซูยอนชมมาขนาดนี้เขาควรจะดีใจแต่ทำไมยังนิ่งเฉยมันไม่สมกับเป็นชานยอลเลยซักนิด หรือเพราะเขาคิดว่าวันนี้เขาแต่งตัวมาแบบธรรมดาและน้องอาจจะชมแค่ตามมารยาท

     

    ความรู้สึกเขายังคงเดิม

     

    ใช่! มันควรเป็นแบบนั้นสิ

     

    “แล้วพี่แบคคนนี้ไม่หล่อหรอครับ เส้าจัย ;-;” แบคฮยอนแสร้งบีบน้ำตาให้ตัวเองดูน่าสงสาร

     

    “พี่แบคฮยอนน่ารักต่างหากล่ะคะ”

     

    “ได้ไง พี่ออกจะหล่อเฟี้ยวฟ้าวขนาดเน้!

     

    ถ้าไม่เจอแบคฮยอนน่ะนะ

     

     

     

    หนังห่วยแตก

     

    หนังที่รวมมุกห้าบาทสิบบาทมาเล่นแบบนี้เอาจริงๆ ให้คนอย่างชานยอลไปดูละครลิงยังจะสนุกกว่านี้เลยแต่ก็ไม่เข้าใจว่าไอ้ศัตรูคู่อาฆาตแม่งขำไปได้ยังไง แล้วแม่งขำใหญ่มากอยากถามว่ามึงขำเองหรือเล่นใหญ่ให้มันดูตลก

     

    เอาเถอะมันก็คงสนุกกับหนังของมันนั่นแหละเห็นคุยกับน้องซูยอนไม่หยุดเลย โธ่ไอ้สัสโคตรเอาหน้าอะ

     

    “แล้วกูจะหงุดหงิดทำไมวะ” บ่นกับตัวเองเบาๆ แถมยังตบหัวตัวเองไปทีนึงด้วยดูท่าจะสติไม่ดีแล้วมั้ยปาร์คชานยอล จึงได้เอ่ยขอตัวไปเข้าห้องน้ำกับบุคคลด้านหน้าทั้งสองที่หัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนานก่อนที่ไอ้ศัตรูหัวใจมันจะโบกมือไล่ให้ไปเร็วๆ

     

    หมั่นไส้โว้ยยยยยยยยยยยยยย

     

    ทีนี้ก็เลยเหลือกันแค่สองคนชายหญิง แบคฮยอนรู้สึกว่าวันนี้เขามีความสุขมากถึงตัวหนังจะไม่สนุกแต่พอได้มาดูกับคนที่ชอบมันก็ดันสนุกขึ้นมาเฉย แล้วยิ่งมาคุยเกี่ยวกับหนังหลังออกจากโรงกับน้องซูยอนก็คือ..เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ

     

    ฮือออ อยากหยุดเวลาเอาวั๊ยตรงเน้ จะทำให้พี่แบคคนนี้ชอบไปถึงหนายยย หลงจนใจจะเต้นเป็นชื่อเธอแร้ววววว ; - ;

     

    “เอ่อ..พี่แบคคะ หนูมีเรื่องจะบอกค่ะ”

     

    “เรื่องอะไรหรอจ๊ะคนดี พี่ยินดีรับฟังซัมเหมอ”

     

    เงียหูพร้อมฟังเต็มที่มาแนวนี้ก็คือสารภาพรักชัวร์ๆ แหงอะบรรยากาศตอนนี้มันให้มาก มันโคตรเป็นใจ บอกเลยพี่แบคพร้อมมาตั้งกะแต่บ้านแล้วน้อง ถ้าสารภาพรักจริงๆ พี่คนนี้ก็เตรียมตัวกรี๊ดเลยนะ วันนี้ที่รอคอย

     

    “ขอบคุณพี่ที่ชอบหนูนะคะ”

     

    หูยยย นั่นไงๆ เกริ่นอย่างนี้ก็คือต้องสารภาพรักแร้วปร๊า

     

    “แต่หนูมีคนที่ชอบอยู่แล้วอะค่ะ”

     

    “อะ..อ้าว”

     

    ถึงกับเสียศูนย์ ร่างกายเซไปทางขวาเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ ราวกับกระจกบานใหญ่ในใจพี่แบคแตกดังเพล้ง ทุกถ้อยคำทุกพยางค์ที่เปล่งออกมามันกรีดร้าวลึกลงไปในใจจนเจ็บไปหมด หมายความว่ายังไงที่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว

     

    คนหล่องงไปหมด

     

    มันเป็นใคร?

     

    แล้วที่ผ่านมันคืออะไรอะน้องงงงงงงงงง

     

    “คือ..วันนี้หนูว่าจะไปสารภาพรักกับเขาด้วยอะค่ะ พี่แบคเป็นกำลังใจให้หนูหน่อยนะคะ” สาวเจ้าพูดไปพร้อมกับทำท่าเอียงอายราวกับกำลังเขินอะไรนักหนา

     

    หงุดหงิด

     

    หักอกคนอื่นแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าให้เป็นกำลังใจให้ด้วยอีกหรอ คนอย่างเธอนี่มันยังไงอะซูยอน ถ้าจะทำกับพี่แบคอย่างนี้เธอเอามีดมากรีดเอาหัวใจพังๆ ของพี่ไปเลยสิมันถูกเธอย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว

     

    “มีไรกัน” แบคฮยอนมองบุคคลมาใหม่ที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำที่กำลังทำหน้าสงสัยใส่เราทั้งสองคน

     

    “ยังไงหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ” น้องซูยอนเอ่ยลาแล้วขอตัวกลับไปก่อน ทำให้บรรยากาศตอนนี้ที่มาคุอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้มันมาคุคูณสองจนอธิบายไม่ถูก

     

    ชานยอลที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ทำหน้างงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้าตอนออกมาจากโรงยังเห็นคุยหัวเราะสนุกสนานกันอยู่สองคนอยู่เลย แต่ตอนนี้หน้าไอ้เตี้ยมันดูเศร้าๆ จนใจกังวลแปลกๆ ว่ามันเป็นอะไร

     

    “ตกลงว่ามีอะไรกัน”

     

    “พี่บอกไว้ตรงนี้เลยว่า ที่ทำเหมือนไม่แคร์ที่แท้นั้นน้ำตาไหล เจ็บไปทั้งใจและหาคนเข้าใจไม่ได้เลย~”

     

    “มึงเป็นบ้าอะไร” อยู่ๆ แม่งก็ร้องเพลงขึ้นมาดื้อๆ

     

    ไอ้เตี้ย สติ!

     

    “น้องซูยอนกำลังจะไปบอกรักคนอื่น ฮืออออ”

     

    “งั้นหรอ” พอไอ้เตี้ยพูดจบหัวใจที่เคยหนักอึ้งอยู่ๆ มันก็รู้สึกโล่งแปลกๆ เดี๋ยวนะน้องซูยอนที่ตัวเองชอบกำลังจะไปบอกรักคนอื่นเลยนะเว้ยทำไมเขาไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไรมากมายแต่มันแค่รู้สึกเฟลๆ ก็เท่านั้น

     

    ไม่เข้าใจ..ไม่เข้าใจหัวใจตัวเองเลย

     

    “เราสู้กันมาอย่างสมศักดิ์ศรีมาก” แบคฮยอนพูดด้วยสีหน้าจริงจังกับน้ำตาที่ไหลลงมาเรื่อยๆ “แต่จรัมวั๊ย! ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา ช้านม่ายด้ายร้องห้ายยย~”

     

    แล้วหันหลังเดินจากไปทั้งน้ำตา ปล่อยให้คนที่อยู่เบื้องหลังงงต่อไปว่ามันเป็นบ้าอะไรกันแน่

     

    โอ้โหววว โคตรพระเอกฟิค พระเอกเอ็มวีถ้ามีใครเปิดเพลง loser ของ bigbang ตอนนี้ก็คือเข้าบรรยากาศมากๆ แบบโคตรเท่

     

     

     

    -love only-

     


     

     

    ทั้งจงอินและจงแดต่างนั่งมองบุคคลที่สามที่นั่งเมานมกล้วยด้วยความรู้สึกเอือมระอาและเวทนาปนรำคาญ หลังจากที่ไปดูหนังกับน้องซูยอนก็ผ่านมาสามวันแล้วไอ้แบคคนหลงตัวเองประจำกลุ่มก็มาฟูมฟายฟ้องพวกเขาเสียยกใหญ่ โทษนู่นนี่ว่าเป็นความผิดของไอ้ยักษ์ชานยอลบ้างล่ะ สายตาน้องซูยอนผิดปกติบ้างล่ะ โทษไอ้คนที่ทำให้ใจน้องไขว้เขว โทษพระเจ้าที่ไม่ทำให้น้องซูยอนกับมันได้คู่กัน

     

    โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง

     

    “พี่มันไม่ดีตรงไหนอะน้อง อึก พี่ไม่ดีตรงหนายยยยย!

     

    “เลิกคร่ำครวญได้แล้วหน่า เขาไม่เอาก็ช่างเขาเถอะ” จงแดพูดปลอบพร้อมกับตบหัวเพื่อนเตือนสติเบาๆ ดีนะที่วันนี้คาบบ่ายว่างแล้วพรุ่งนี้ก็ว่างอีกเพราะอาจารย์ยกคลาสก็เลยไม่ค่อยได้บ่นไอ้แบคมากเท่าไหร่

     

    “ช่างอ่อ ชั่งเท่าไหร่อะถึงจะเอาความเสียใจในอกของพี่ออกไปให้หมด แงงงง”

     

    จงแดคิดว่าเขาคงตบหัวมันมากไปแหงถึงได้พูดอะไรเพ้อเจ้อแบบนี้

     

    "จะเสียใจอะไรนักหนาวะ มึงก็ไม่ได้รักน้องเขามากขนาดนั้นซักหน่อย" จงอินพูดขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน เขาว่าเขาต้องพูดอะไรบ้างแหละเพราะไอ้แบคก็ดูจะเชื่อฟังเขามากที่สุด..ล่ะมั้งนะ?

     

    "ไม่ได้รักมากขนาดนั้นหรอ แล้วขนาดไหนมันถึงจะเรียกว่าความรักหรอ ต้องใหญ่เท่าจักรวาล หรือต้องเป็นขนาดที่มึงพอใจมึงถึงจะตัดสินว่ามันเป็นความรักหรอจงอิน"

     

    "เฮ้ยๆ ไม่ใช่อย่างนั้น"

     

    "มึงกำลังดูถูกความรักของพี่อยู่นะเว้ย จริงอยู่ที่ตอนเริ่มต้นมันมาจากความสนุกแต่แล้วยังไงอะจงอิน เวลาเปลี่ยนใจคนก็ต้องเปลี่ยน"

     

    "..."

     

    "ถ้ามึงมีคนที่ชอบอะ แค่ความรู้สึกเล็กๆ มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรักแล้วอะ ไม่ว่ามันจะขนาดไหน"

     

    "..."

     

    "แค่ได้เจอหน้าทุกวัน ได้คุยกัน ได้ทำอะไรร่วมกัน ได้มองหน้า ได้ทะเลาะ ได้กอด ได้กัด ได้ต่อย และที่สำคัญคือได้รับคำขอโทษมันก็เป็นความรักทั้งนั้น"

     

    จงอินกับจงแดเกือบจะคล้อยตามจากคำพูดของแบคฮยอนเพื่อนรักที่พูดอะไรก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เกือบจะหยิบทิชชู่ขึ้นมาซับน้ำตา 

     

    แต่เดี๋ยวก่อนนะ

     

    "เดี๋ยวนะ! ได้กัด?"

     

    "ได้ต่อย?"

     

    "!?" แบคฮยอนที่เพิ่งตั้งสติได้รีบย้อนกลับไปทบทวนคำพูดของตัวเองทันทีหลังถูกสหายทั้งสองแย้งขึ้นมา

     

    เดี๋ยวนะ! มันเกี่ยวอะไรกับได้กัดได้ต่อยวะเนี่ย ตอนพูดดันเผลอไปนึกถึงความหลังแล้วหน้าของไอ้ยักษ์ชานยอลก็โผล่มาพร้อมวีรกรรมที่มันทำไว้กับเขาก็เลยเผลอพูดออกไปโดยไม่ทันยั้งคิด

     

    "นี่อย่าบอกนะว่า..." จงแดหยุดพูดด้วยความลุ้นพร้อมกับชี้มาทางเขาอย่างตกตะลึง "มึงไปกัดปาร์คชานยอลอีกแล้วอะ"

     

    ...

     

    หลังจากจบประโยคของจงแดก็เกิดการเดธแอร์ขึ้นมาประมาณห้าวิพร้อมกับฝ่ามืออรหันต์ประทับลงไปเต็มๆ กลางหัวคนที่เล่นอะไรไม่ดูบรรยากาศ

     

    "โอ๊ย เจ็บๆๆ"

     

    "กูไม่อ้อมค้อมนะ ดูเหมือนมึงจะไม่ได้รักน้องซูยอนแต่มึงชอบปาร์คชานยอลมากกว่าว่ะ" จงอินพูดออกมาด้วยอารมณ์ซีเรียสสุดชีวิต

     

    "..."

     

    "..."

     

    "..."

     

    "ชอบชานยอลสินะ" จงแดถามย้ำ

     

    "..."

     

    "..."

     

    "ฮ่าๆๆๆๆๆ" แบคฮยอนระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่งถึงกับเอามือกุมท้องเพราะหัวเราะใหญ่ไปจนหายใจตามไม่ทัน "โอ๊ยตลก ฮ่าๆๆ"

     

    "ขำให้ตายไปเถอะมึง ดูก็รู้ว่ามึงมีใจให้ชานยอลนั่น"

     

    "อย่าพูดให้ขำสิวะ ฮ่าๆ คนอย่างพี่แบคสุดหล่อจะไปมีใจให้ชายอื่นได้ยังไงผู้หญิงทั้งมหาลัยต้องหลั่งน้ำตากันพอดี" ชกอกตัวเองด้วยความมาดแมนสุดๆ

     

    "เผื่อมึงไม่รู้ตัวนะ กูสังเกตตั้งแต่ตอนที่ชานยอลมันมาหามึงแล้วก็ไปบังคับให้มันขอโทษ ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันต้องมาขอโทษมึง เพราะมึงกัดมัน มันต่อยมึงคืนนั่นก็ถือว่าเจ๊ากันแล้ว" จงอินพูดออกมาอย่างมีเหตุผล

     

    "กะ..ก็ ก็พี่ไม่ให้อภัยมันไงมันทำหน้าพี่เป็นแผลเลยนะเว้ย"

     

    "มันก็เรื่องธรรมดาป้ะวะแผลแค่นั้นคนอื่นเขาไม่คิดเล็กนิดน้อยกันหรอก มีแต่จะไปต่อยคืนมึงคนเดียวอะแหละที่ให้เขามาขอโทษ แล้วชานยอลมันก็ดันขอโทษมึงจริงๆ"

     

    "หรือว่า..." จงแดเจ้าเดิมที่พูดขึ้นมาแล้วหยุดเพื่อลุ้น "มันอยากทำให้มึงตายใจแล้วค่อยแก้แค้นทีหละ..อั๊ก!"

     

    ฝ่ามืออรหันต์ประทับลงบนกลางหัวของคิมจงแดที่เล่นอะไรไม่รู้เวล่ำเวลาอีกแล้ว เจ้าตัวฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะกุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว

     

    "มันเจ็บนะโว้ย" จงแดกำหมัดขึ้นชกมาที่หน้าด้านข้างของจงอินแต่ผู้เคราะห์ร้ายก็ดันหลบได้ซะก่อนทำให้เจ้าของหมัดได้แต่ชกอากาศเปล่าๆ

     

    "เห็นมั้ยกูตบหัวไอ้จงแดมันก็จะต่อยกูคืนนี่คือเรื่องปกติ แต่ที่มันขอโทษเพราะมึงบังคับไม่ใช่เรื่องปกติ คำถามคือมีใครยอมขอโทษบ้างยิ่งเป็นศัตรูที่ไม่ถูกกันยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่"

     

    "มันก็อาจจะหลอกให้ตายใจแล้วค่อยแก้แค้นคืนหรือเปล่า" แบคฮยอนเอาคำพูดของจงแดขึ้นมาอ้าง ถ้ายอมขอโทษกันง่ายๆ คงจะมีแต่หลอกให้ตายใจเท่านั้นแหละ

     

    "เปล่าเลยถ้าจะแก้แค้นก็คงไม่รอจนถึงป่านนี้ วิเคราะห์ง่ายๆ เลยก็คือมันกำลังทำให้มึงชอบมันไม่ให้ไปชอบน้องซูยอน"

     

    "วิเคราะห์ซะใหญ่โตแต่เหตุผลแค่นี้เนี่ยนะ" จงแดถึงกับกุมขมับคือไอ้จงอินแม่งก็คิดอะไรไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่หรอกวะ โด่ววว

     

    "จะ..จริงหรอวะ" แบคฮยอนกลับมานั่งหลังตรงตั้งใจฟังแบบสุดๆ

     

    "มึงจะให้เพื่อนเราตกไปเป็นของเล่นของคนอื่นหรอวะจงแด เพื่อนกันก็ต้องปกป้องเพื่อน" หันไปสบตาจงแดอย่างจริงจังแล้วค่อยหันมาสบตากับผู้เคราะห์ร้ายตรงหน้า "กูว่านะชานยอลมันต้องเป็นคนที่เจ้าชู้มากแน่ๆ นอกจากน้องซูยอนแล้วมันก็คงมีมึงเป็นเป้าหมายของมันด้วย"

     

    "ไอ้จงอินกูว่ามันไม่ออกนอกทะเลเกินไปหรอวะ" จงแดพูดขัด

     

    "อย่าขัดกูสิวะจงแด ตอนนี้มันกำลังพีคก็คือ..น้องซูยอนไม่ได้ตกไปเป็นของใครแสดงว่าเป้าหมายต่อไปของชานยอลก็คือมึง คราวนี้แหละมันกำลังจะทำทุกวิถีทางให้มึงชอบมัน เพราะ..."

     

    "มึงกลับมาก่อนจงอิน มึงกำลังออกนอกโลกแล้ว"

     

    "ไอ้จงแดอย่าเพิ่งขัดสิวะ พี่กำลังตั้งใจฟังอยู่"

     

    "เพราะ...เพราะชานยอลมันอยากให้มึงคุกเข่าขอโทษมันไง"

     

    "มึงกำลังโดนแบล็คโฮลดูดแล้วจงอิน" จงแดกุมขมับอีกครั้ง

     

    "จะ..จริงๆ หรอ"

     

    "เออสิวะ คราวนี้นะถ้ามันมีปฏิกิริยายังไงมึงก็ห้ามไปหวั่นไหวเด็ดขาดเลยนะ มึงห้ามไปตอบตกลงคบกับปาร์คชานยอลเด็ดขาดเพราะมันกำลังจะทำให้มึงแพ้แล้วให้คุกเข่าขอโทษมัน"

     

    "อ่อ มันเป็นอย่างนี้เองสินะถึงน้องซูยอนจะไม่ได้ตกไปเป็นของใครแต่การแข่งขันนี้มันยังไม่จบ ถ้าพี่แพ้พี่ได้ไปคุกเข่าขอโทษมันแน่ ขอบคุณที่เตือนนะจงอินเพิ่นรวั๊ก พี่ขอตัวไปขู่มันซักหน่อยให้มันรู้ตัวว่าพี่รู้แผนการมันแล้ว" ทำหน้ามุ่งมั่นก่อนจะออกตัววิ่งไปหาเป้าหมายถึงที่คณะ

     

     

     

     

     

     

    -love only-

     

     

     

     

     

     

    "อ้าวพี่แบคฮยอนรีบไปไหนอะครับผมกำลังจะโทรหาพี่ชวนมากินข้าวด้วยกัน"

     

    "ไงเซฮุน ไว้ก่อนนะตอนนี้พี่มีเรื่องคอขาดบาดตายต้องไปทำ" แบคฮยอนหยุดแวะทักทายน้องรหัสของตนเองชั่วครู่ก่อนจะหันไปมองบุคคลแปลกหน้าข้างกายรุ่นน้อง

     

    "งั้นหรอครับ อ่อนี่เมทผมคยองซูที่เคยเล่าให้ฟังว่าเป็นน้องรหัสของเดือนวิศวะปีสองอะครับ" เซฮุนผายมือแนะนำเมทให้พี่รหัสของตนรู้จัก พร้อมๆกับที่คยองซูโค้งตัวทักทาย

     

    "สวัสดีครับ"

     

    "น้องของไอ้ยักษ์ชานยอลหรอ มันอยู่ไหน" รีบเข้าไปประชิดตัวกดดันให้อีกฝ่ายรีบคายที่อยู่ของศัตรูออกมา

     

    "โว้วๆ พี่อย่าทำหน้าน่ากลัวใส่เมทผมสิ" เซฮุนรีบกันให้พี่รหัสออกห่างจากเมทของตัวเอง ปกติก็ทำอะไรบ้าๆ บอๆ อยู่แล้ว วันนี้ดูจะบ้าดีเดือดกว่าทุกวันซะอีก

     

    "เห็นว่าจะไปสนามบอลกัน แต่ผมจะมากินข้าวก่อนแล้วค่อยไปหา"

     

    "แต้งค์กิ๊วเจ้าเด็กหัวกลม ไว้พี่แบคสุดหล่อจะเลี้ยงไอติมพวกนายทีหลังนะ ไปล่ะ"

     

    "พี่รหัสดูบ้าๆ บอๆ ใช่มั้ย เฮ้อ ไปกินข้าวกันเถอะ" เซฮุนถอนหายใจเอือมระอา นี่ก็ไม่ได้อยากได้พี่รหัสอะไรหรอกแต่มันเป็นธรรมเนียมรุ่นต่อรุ่นก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มีพี่แบคฮยอนเป็นพี่รหัสก็ไม่เลวอย่างน้อยก็ได้กินข้าวฟรีบ้าง..ล่ะมั้ง

     

    พอนินทาเสร็จก็เดินหันหลังไปหาซื้อข้าวกินกันสองคนต่อ ส่วนคนพี่พอรู้ที่อยู่ของศัตรูก็รีบวิ่งไปหาเป้าหมายโดยทันที

     

    เตรียมนับเวลาถอยหลังที่จะใช้อากาศบนโลกหายใจได้เลยปาร์คชานยอล

     

     

     

     

    "ฮัดชิ้ววว!!"

     

    "เป็นไรมากเปล่าว่ะ วันนี้มึงดูเหม่อๆ นะ" เพื่อนในสาขาซักคนเอ่ยทักขึ้นขณะที่ชานยอลถูจมูกตัวเองไปมา เขาก็ไม่ได้ไม่สบายอะไร ตัวไม่ร้อน คอก็ไม่เจ็บแต่มีอาการเหม่อลอยอย่างที่เพื่อนว่าจริงๆ

     

    และอะไรที่ทำให้เขาเหม่อน่ะหรอ..

     

    "ปาร์คชานยอล!!!! ไอ้ยักษ์หลอกเจ้า" สิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่ชานยอลขนานนามมันว่าไอ้เตี้ยวิ่งตรงเข้ามาพร้อมฝ่ามืออรหันต์ที่เจ้าตัวกำลังกระโดดง้างมือนั้นขึ้นตบลงมากลางหัวของเขาแบบพอดิบพอดี

     

    "มันเจ็บนะเว้ยไอ้เตี้ย" กำคอเสื้ออีกฝ่ายกระชากมันเข้ามาใกล้ มันมาเยือนถึงถิ่นวิศวะแถมยังทำเขาขายหน้ากับเพื่อนในสาขาอีก มึงไม่ได้กลับไปตัวเปล่าแน่ไอ้เตี้ยแบคฮยอน

     

    นี่มันหยามหน้าปาร์คชานยอลเดือนวิศวะปีสองเกินไปแล้ว

     

    "หนอยแน่ มึงบังอาจมาเล่นแง่กับกูหรอ แผนซ้อนแผนของมึงอะกูอ่านออกหมดแล้ว"

     

    "เฮ้ย ชานยอลจัดมันเลยมั้ย" เพื่อนในสาขาของชานยอลเตรียมวิ่งเข้ามาช่วยแต่ก็ถูกเจ้าของชื่อห้ามไว้ ทุกคนจึงได้แต่ยืนอยู่กับที่คอยจับตาดูเดือนปีสองกับไอ้คนต่างคณะ ถ้ามันเล่นแง่กับเพื่อนของเขาล่ะก็มันได้เตรียมลงโลงแน่

     

    "แผนซ้อนแผนอะไรของมึง" ชานยอลทำหน้างง มาทำร้ายเขาแล้วยังพูดจาไม่รู้เรื่องอีกมึงลืมเอาสติออกมาจากท้องแม่ใช่มั้ย

     

    "อย่ามาแกล้งทำหน้าซื่อตาใส คนอย่างมึงมันร้ายไว้ใจไม่ได้ ดีที่น้องซูยอนไม่ต้องมาทนคบกับคนอย่างมึง" แบคฮยอนพูดตะคอกใส่อีกฝ่ายไม่ยั้งพร้อมกับที่พยายามดึงมือของไอ้ยักษ์ชานยอลออก แม้รอบข้างจะมีแต่วิศวะแต่เขาก็ไม่กลัวหรอก

     

    "มึงอย่ามาหาเรื่องกูนะไอ้เตี้ย เรื่องน้องซูยอนมันจบไปแล้ว"

     

    "ใช่! เรื่องน้องซูยอนมันจบไปแล้วแต่ระหว่างกูกับมึงมันยังไม่จบไง"

     

    "มึงจะพูดอะไร"

     

    "เหอะ มึงน่ะวางแผนจะทำให้กูแพ้..ให้กูคุกเข่าขอโทษมึงใช่มั้ย"

     

    "..." ชานยอลขมวดคิ้วแน่นจ้องหน้าไอ้เตี้ยด้วยความไม่เข้าใจล้วนๆ

     

    อะไรของมึงงงงง!

     

    "มึงกำลังจะทำให้ทุกลมหายใจเข้าออกของกูคิดถึงแต่มึงใช่มั้ย มึงกำลังจะทำให้หัวใจกูเต้นแรงเพราะมึงใช่มั้ยล่ะ"

     

    "..."

     

    จากคิ้วที่เคยขมวดแน่นของชานยอลก็ค่อยๆ คลายออกพร้อมกับมุมปากที่ยกขึ้น ยิ่งฟังทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของไอ้เตี้ยเขาก็ยิ่งค่อยๆ เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือเพราะใครที่ทำให้ไอ้เตี้ยมีความคิดแบบนี้ แต่ต้องขอขอบคุณที่ทำให้เขาตาสว่าง

     

    "มึงกำลังจะทำให้กูชอบมึงใช่มั้ยล่ะ แต่เสียใจด้วยที่แผนของมึงถูกกูอ่านออกหมดแล้ว เพราะฉะนั้นมึงอย่ามาทำให้กูชอบเด็ดขาดเพราะคนอย่างพี่แบคคนนี้จะไม่มีวันยอมคุกเข่าขอโทษให้กับคนอย่างมึง"

     

    "ห้ามทำให้ชอบหรอ" ชานยอลถามขึ้นพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปมันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และดูไม่น่าไว้ใจเอาซะเลยในความคิดของแบคฮยอน

     

    "ชะ..ใช่ ปะ..ปล่อยกูได้แล้วไอ้ยักษ์"

     

    "จะบอกอะไรให้นะ" ยื่นใบหน้าหล่อคมที่มีตำแหน่งเดือนวิศวะปีสองแปะอยู่เข้าไปกระซิบใกล้ๆ ใบหูของอีกฝ่าย "แผนอะไรกูไม่มีหรอก แต่.."

     

    ชานยอลเลื่อนใบหน้าของตัวเองเอาริมฝีปากเข้าไปประกบกับริมฝีปากของอีกฝ่าย นั่นทำให้แบคฮยอนที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวตกใจตาโต ยิ่งชายยอลขยับให้มันแนบแน่นเจ้าคนตัวเล็กยิ่งตกใจตาโตเข้าไปใหญ่ จนคนตัวสูงดั่งยักษ์พอใจนั่นแหละถึงได้ถอนริมฝีปากออกพร้อมๆ กับร่างของแบคฮยอนที่ร่วงลงไปกับพื้นเพราะทรงตัวไม่อยู่

     

    เหล่าวิศวะที่เห็นฉากจูบสดๆ คาตาก็พากันหันหลบแทบไม่ทัน บางคนถึงกับเอามือปิดปากกลั้นเสียงกรี๊ดสุดชีวิต

     

    "ต่อไปนี้อะไรที่มึงห้ามกูจะทำ เตรียมใจเอาไว้ให้ดี"

     

    "..."

     

    "กูรุกแรงกว่าตอนที่จีบน้องซูยอนแน่ ที่รัก" ยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

     

    "เฮ้!!!!!!" เหล่าวิศวะก็พากันดีใจส่งเสียงปรบมือแซวท่านปาร์คชานยอลแห่งเดือนวิศวะปีสองทั่วสนามนั่นยิ่งทำให้แบคฮยอนอับอายขายขี้หน้าเข้าไปใหญ่

     

    โดนไอ้ยักษ์มันจูบแล้ว อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!

     

     

     

     

    ตัดภาพมาที่เพิ่นรวั๊กซี้ปึ๊กสองจงของพี่แบคคนหล่อ จงอินยิ้มร้ายดูมีความสุขกว่าทุกวันจนจงแดต้องเอ่ยถามว่ามันพี้อะไรก่อนมาเรียนหรือเปล่า

     

    "ก็แหม กูก็แกล้งมันนิดๆ หน่อยๆ นั่นแหละ"

     

    "แกล้ง?" จงแดขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

     

    "ก็พรีเซ้นต์กลุ่มสองคนของอาจารย์คิมที่กูต้องคู่กับไอ้แบคอะ กลุ่มกูได้คะแนนน้อยเพราะไอ้แบคมันจำหน้าห้าบนสไลด์ไม่ได้ กูก็เลยแกล้งมันให้ไปหาเรื่องชานยอล ฮ่าๆๆๆ"

     

    "มึงมันเลวไอ้จงอิน ถ้าไอ้แบคร้องไห้กลับมามึงปลอบมันเลยนะ"

     

    "อะไรเล่า ช่วยกันปลอบสิวะมันเพื่อนมึงนะ"

     

    "มันก็เพื่อนมึงเหมือนกันนั่นแหละ"

     

     






    -.,-

    ขอโทษที่มาช้าน้าาาา
    น่ะ น่ะ น่ะ น้า นา นา น่ะ
    น้าาาา
    น่ะ น่ะ น่ะ น้า นา นา น่ะ


    ไหนดราม่า?






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×