คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : [SF] CRAZY ONLY! , THERE ARE NOTHING | 05
CRAZY ONLY! , THERE ARE NOTHING
05
10.46
น.
เลยเวลานัดมาประมาณสี่สิบกว่านาทีได้สำหรับปาร์คชานยอลที่เพิ่งเดินมาถึงหน้าโรงหนังที่มีแบคฮยอนกับน้องซูยอนยืนรออยู่ก่อนแล้ว
ชานยอลตั้งใจมาสาย..และในทีแรกเขาไม่อยากมาเสียด้วยซ้ำ
อยู่ๆ มันก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงว่าสองคนนั้นกำลังนั่งดูหนังกันอย่างมีความสุข
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือเพราะใครที่ทำให้ใจของเขารวนเรเช่นนี้
เอาเป็นว่าชานยอลกำลังสับสนและกำจัดความรู้สึกนี้ออกไปไม่ได้ซักทีก็เท่านั้น
“ช้า
เสียเวลาต้องรออีกครึ่งชั่วโมงเลยนะเว้ย” และเป็นแบคฮยอนที่โวยวายขึ้นมาทันทีเมื่อเจอหน้ากัน
“โทษ กูตื่นสาย”
ตอบออกไปส่งๆ
ทั้งที่ความจริงก็ไม่ได้ตื่นสายอะไร
แล้วหันไปยิ้มทักทายหญิงสาวหนึ่งเดียวที่วันนี้แต่งกายด้วยชุดเดรสสีหวานมันเหมาะกับเธอ
เขาคิดอย่างนั้น..แล้วอะไรอีกล่ะ? ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาต้องชมเธอหรือเปล่านะ
เขาต้องสนใจเธอมากกว่านี้ใช่มั้ย เขาต้องมีดอกไม้ซักช่อเอามาให้เธอด้วยซ้ำ
แต่..ทำไมกันล่ะ
“วันนี้พี่ชานยอลหล่อมากๆ เลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
เขาทำเพียงแค่เอ่ยปากขอบคุณไปเท่านั้น
ทั้งๆ ที่น้องซูยอนชมมาขนาดนี้เขาควรจะดีใจแต่ทำไมยังนิ่งเฉยมันไม่สมกับเป็นชานยอลเลยซักนิด
หรือเพราะเขาคิดว่าวันนี้เขาแต่งตัวมาแบบธรรมดาและน้องอาจจะชมแค่ตามมารยาท
ความรู้สึกเขายังคงเดิม
ใช่! มันควรเป็นแบบนั้นสิ
“แล้วพี่แบคคนนี้ไม่หล่อหรอครับ
เส้าจัย ;-;” แบคฮยอนแสร้งบีบน้ำตาให้ตัวเองดูน่าสงสาร
“พี่แบคฮยอนน่ารักต่างหากล่ะคะ”
“ได้ไง
พี่ออกจะหล่อเฟี้ยวฟ้าวขนาดเน้!”
ถ้าไม่เจอแบคฮยอนน่ะนะ
…
หนังห่วยแตก
หนังที่รวมมุกห้าบาทสิบบาทมาเล่นแบบนี้เอาจริงๆ
ให้คนอย่างชานยอลไปดูละครลิงยังจะสนุกกว่านี้เลยแต่ก็ไม่เข้าใจว่าไอ้ศัตรูคู่อาฆาตแม่งขำไปได้ยังไง
แล้วแม่งขำใหญ่มากอยากถามว่ามึงขำเองหรือเล่นใหญ่ให้มันดูตลก
เอาเถอะมันก็คงสนุกกับหนังของมันนั่นแหละเห็นคุยกับน้องซูยอนไม่หยุดเลย
โธ่ไอ้สัสโคตรเอาหน้าอะ
“แล้วกูจะหงุดหงิดทำไมวะ”
บ่นกับตัวเองเบาๆ แถมยังตบหัวตัวเองไปทีนึงด้วยดูท่าจะสติไม่ดีแล้วมั้ยปาร์คชานยอล
จึงได้เอ่ยขอตัวไปเข้าห้องน้ำกับบุคคลด้านหน้าทั้งสองที่หัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนานก่อนที่ไอ้ศัตรูหัวใจมันจะโบกมือไล่ให้ไปเร็วๆ
หมั่นไส้โว้ยยยยยยยยยยยยยย
ทีนี้ก็เลยเหลือกันแค่สองคนชายหญิง
แบคฮยอนรู้สึกว่าวันนี้เขามีความสุขมากถึงตัวหนังจะไม่สนุกแต่พอได้มาดูกับคนที่ชอบมันก็ดันสนุกขึ้นมาเฉย
แล้วยิ่งมาคุยเกี่ยวกับหนังหลังออกจากโรงกับน้องซูยอนก็คือ..เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ
ฮือออ อยากหยุดเวลาเอาวั๊ยตรงเน้
จะทำให้พี่แบคคนนี้ชอบไปถึงหนายยย หลงจนใจจะเต้นเป็นชื่อเธอแร้ววววว ; - ;
“เอ่อ..พี่แบคคะ
หนูมีเรื่องจะบอกค่ะ”
“เรื่องอะไรหรอจ๊ะคนดี
พี่ยินดีรับฟังซัมเหมอ”
เงียหูพร้อมฟังเต็มที่มาแนวนี้ก็คือสารภาพรักชัวร์ๆ
แหงอะบรรยากาศตอนนี้มันให้มาก มันโคตรเป็นใจ
บอกเลยพี่แบคพร้อมมาตั้งกะแต่บ้านแล้วน้อง ถ้าสารภาพรักจริงๆ พี่คนนี้ก็เตรียมตัวกรี๊ดเลยนะ
วันนี้ที่รอคอย
“ขอบคุณพี่ที่ชอบหนูนะคะ”
หูยยย นั่นไงๆ
เกริ่นอย่างนี้ก็คือต้องสารภาพรักแร้วปร๊า
“แต่หนูมีคนที่ชอบอยู่แล้วอะค่ะ”
“อะ..อ้าว”
ถึงกับเสียศูนย์
ร่างกายเซไปทางขวาเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ ราวกับกระจกบานใหญ่ในใจพี่แบคแตกดังเพล้ง
ทุกถ้อยคำทุกพยางค์ที่เปล่งออกมามันกรีดร้าวลึกลงไปในใจจนเจ็บไปหมด
หมายความว่ายังไงที่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว
คนหล่องงไปหมด
มันเป็นใคร?
แล้วที่ผ่านมันคืออะไรอะน้องงงงงงงงงง
“คือ..วันนี้หนูว่าจะไปสารภาพรักกับเขาด้วยอะค่ะ
พี่แบคเป็นกำลังใจให้หนูหน่อยนะคะ” สาวเจ้าพูดไปพร้อมกับทำท่าเอียงอายราวกับกำลังเขินอะไรนักหนา
หงุดหงิด
หักอกคนอื่นแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าให้เป็นกำลังใจให้ด้วยอีกหรอ
คนอย่างเธอนี่มันยังไงอะซูยอน ถ้าจะทำกับพี่แบคอย่างนี้เธอเอามีดมากรีดเอาหัวใจพังๆ
ของพี่ไปเลยสิมันถูกเธอย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
“มีไรกัน” แบคฮยอนมองบุคคลมาใหม่ที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำที่กำลังทำหน้าสงสัยใส่เราทั้งสองคน
“ยังไงหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ
ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ” น้องซูยอนเอ่ยลาแล้วขอตัวกลับไปก่อน ทำให้บรรยากาศตอนนี้ที่มาคุอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้มันมาคุคูณสองจนอธิบายไม่ถูก
ชานยอลที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ทำหน้างงๆ
ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้าตอนออกมาจากโรงยังเห็นคุยหัวเราะสนุกสนานกันอยู่สองคนอยู่เลย
แต่ตอนนี้หน้าไอ้เตี้ยมันดูเศร้าๆ จนใจกังวลแปลกๆ ว่ามันเป็นอะไร
“ตกลงว่ามีอะไรกัน”
“พี่บอกไว้ตรงนี้เลยว่า
ที่ทำเหมือนไม่แคร์ที่แท้นั้นน้ำตาไหล เจ็บไปทั้งใจและหาคนเข้าใจไม่ได้เลย~”
“มึงเป็นบ้าอะไร” อยู่ๆ
แม่งก็ร้องเพลงขึ้นมาดื้อๆ
ไอ้เตี้ย สติ!
“น้องซูยอนกำลังจะไปบอกรักคนอื่น
ฮืออออ”
“งั้นหรอ” พอไอ้เตี้ยพูดจบหัวใจที่เคยหนักอึ้งอยู่ๆ
มันก็รู้สึกโล่งแปลกๆ เดี๋ยวนะน้องซูยอนที่ตัวเองชอบกำลังจะไปบอกรักคนอื่นเลยนะเว้ยทำไมเขาไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไรมากมายแต่มันแค่รู้สึกเฟลๆ
ก็เท่านั้น
ไม่เข้าใจ..ไม่เข้าใจหัวใจตัวเองเลย
“เราสู้กันมาอย่างสมศักดิ์ศรีมาก”
แบคฮยอนพูดด้วยสีหน้าจริงจังกับน้ำตาที่ไหลลงมาเรื่อยๆ “แต่จรัมวั๊ย! ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา
ช้านม่ายด้ายร้องห้ายยย~”
แล้วหันหลังเดินจากไปทั้งน้ำตา
ปล่อยให้คนที่อยู่เบื้องหลังงงต่อไปว่ามันเป็นบ้าอะไรกันแน่
โอ้โหววว โคตรพระเอกฟิค พระเอกเอ็มวีถ้ามีใครเปิดเพลง
loser
ของ bigbang ตอนนี้ก็คือเข้าบรรยากาศมากๆ
แบบโคตรเท่
-love only-
ทั้งจงอินและจงแดต่างนั่งมองบุคคลที่สามที่นั่งเมานมกล้วยด้วยความรู้สึกเอือมระอาและเวทนาปนรำคาญ
หลังจากที่ไปดูหนังกับน้องซูยอนก็ผ่านมาสามวันแล้วไอ้แบคคนหลงตัวเองประจำกลุ่มก็มาฟูมฟายฟ้องพวกเขาเสียยกใหญ่
โทษนู่นนี่ว่าเป็นความผิดของไอ้ยักษ์ชานยอลบ้างล่ะ สายตาน้องซูยอนผิดปกติบ้างล่ะ โทษไอ้คนที่ทำให้ใจน้องไขว้เขว
โทษพระเจ้าที่ไม่ทำให้น้องซูยอนกับมันได้คู่กัน
โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง
“พี่มันไม่ดีตรงไหนอะน้อง อึก
พี่ไม่ดีตรงหนายยยยย!”
“เลิกคร่ำครวญได้แล้วหน่า
เขาไม่เอาก็ช่างเขาเถอะ” จงแดพูดปลอบพร้อมกับตบหัวเพื่อนเตือนสติเบาๆ
ดีนะที่วันนี้คาบบ่ายว่างแล้วพรุ่งนี้ก็ว่างอีกเพราะอาจารย์ยกคลาสก็เลยไม่ค่อยได้บ่นไอ้แบคมากเท่าไหร่
“ช่างอ่อ ชั่งเท่าไหร่อะถึงจะเอาความเสียใจในอกของพี่ออกไปให้หมด
แงงงง”
จงแดคิดว่าเขาคงตบหัวมันมากไปแหงถึงได้พูดอะไรเพ้อเจ้อแบบนี้
"จะเสียใจอะไรนักหนาวะ
มึงก็ไม่ได้รักน้องเขามากขนาดนั้นซักหน่อย"
จงอินพูดขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน
เขาว่าเขาต้องพูดอะไรบ้างแหละเพราะไอ้แบคก็ดูจะเชื่อฟังเขามากที่สุด..ล่ะมั้งนะ?
"ไม่ได้รักมากขนาดนั้นหรอ
แล้วขนาดไหนมันถึงจะเรียกว่าความรักหรอ ต้องใหญ่เท่าจักรวาล
หรือต้องเป็นขนาดที่มึงพอใจมึงถึงจะตัดสินว่ามันเป็นความรักหรอจงอิน"
"เฮ้ยๆ ไม่ใช่อย่างนั้น"
"มึงกำลังดูถูกความรักของพี่อยู่นะเว้ย
จริงอยู่ที่ตอนเริ่มต้นมันมาจากความสนุกแต่แล้วยังไงอะจงอิน
เวลาเปลี่ยนใจคนก็ต้องเปลี่ยน"
"..."
"ถ้ามึงมีคนที่ชอบอะ
แค่ความรู้สึกเล็กๆ มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรักแล้วอะ
ไม่ว่ามันจะขนาดไหน"
"..."
"แค่ได้เจอหน้าทุกวัน
ได้คุยกัน ได้ทำอะไรร่วมกัน ได้มองหน้า ได้ทะเลาะ ได้กอด ได้กัด ได้ต่อย
และที่สำคัญคือได้รับคำขอโทษมันก็เป็นความรักทั้งนั้น"
จงอินกับจงแดเกือบจะคล้อยตามจากคำพูดของแบคฮยอนเพื่อนรักที่พูดอะไรก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
เกือบจะหยิบทิชชู่ขึ้นมาซับน้ำตา
แต่เดี๋ยวก่อนนะ
"เดี๋ยวนะ! ได้กัด?"
"ได้ต่อย?"
"!?" แบคฮยอนที่เพิ่งตั้งสติได้รีบย้อนกลับไปทบทวนคำพูดของตัวเองทันทีหลังถูกสหายทั้งสองแย้งขึ้นมา
เดี๋ยวนะ! มันเกี่ยวอะไรกับได้กัดได้ต่อยวะเนี่ย
ตอนพูดดันเผลอไปนึกถึงความหลังแล้วหน้าของไอ้ยักษ์ชานยอลก็โผล่มาพร้อมวีรกรรมที่มันทำไว้กับเขาก็เลยเผลอพูดออกไปโดยไม่ทันยั้งคิด
"นี่อย่าบอกนะว่า..."
จงแดหยุดพูดด้วยความลุ้นพร้อมกับชี้มาทางเขาอย่างตกตะลึง
"มึงไปกัดปาร์คชานยอลอีกแล้วอะ"
...
หลังจากจบประโยคของจงแดก็เกิดการเดธแอร์ขึ้นมาประมาณห้าวิพร้อมกับฝ่ามืออรหันต์ประทับลงไปเต็มๆ
กลางหัวคนที่เล่นอะไรไม่ดูบรรยากาศ
"โอ๊ย เจ็บๆๆ"
"กูไม่อ้อมค้อมนะ
ดูเหมือนมึงจะไม่ได้รักน้องซูยอนแต่มึงชอบปาร์คชานยอลมากกว่าว่ะ"
จงอินพูดออกมาด้วยอารมณ์ซีเรียสสุดชีวิต
"..."
"..."
"..."
"ชอบชานยอลสินะ"
จงแดถามย้ำ
"..."
"..."
"ฮ่าๆๆๆๆๆ"
แบคฮยอนระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่งถึงกับเอามือกุมท้องเพราะหัวเราะใหญ่ไปจนหายใจตามไม่ทัน
"โอ๊ยตลก ฮ่าๆๆ"
"ขำให้ตายไปเถอะมึง
ดูก็รู้ว่ามึงมีใจให้ชานยอลนั่น"
"อย่าพูดให้ขำสิวะ ฮ่าๆ
คนอย่างพี่แบคสุดหล่อจะไปมีใจให้ชายอื่นได้ยังไงผู้หญิงทั้งมหาลัยต้องหลั่งน้ำตากันพอดี"
ชกอกตัวเองด้วยความมาดแมนสุดๆ
"เผื่อมึงไม่รู้ตัวนะ
กูสังเกตตั้งแต่ตอนที่ชานยอลมันมาหามึงแล้วก็ไปบังคับให้มันขอโทษ
ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันต้องมาขอโทษมึง เพราะมึงกัดมัน
มันต่อยมึงคืนนั่นก็ถือว่าเจ๊ากันแล้ว" จงอินพูดออกมาอย่างมีเหตุผล
"กะ..ก็
ก็พี่ไม่ให้อภัยมันไงมันทำหน้าพี่เป็นแผลเลยนะเว้ย"
"มันก็เรื่องธรรมดาป้ะวะแผลแค่นั้นคนอื่นเขาไม่คิดเล็กนิดน้อยกันหรอก
มีแต่จะไปต่อยคืนมึงคนเดียวอะแหละที่ให้เขามาขอโทษ
แล้วชานยอลมันก็ดันขอโทษมึงจริงๆ"
"หรือว่า..."
จงแดเจ้าเดิมที่พูดขึ้นมาแล้วหยุดเพื่อลุ้น
"มันอยากทำให้มึงตายใจแล้วค่อยแก้แค้นทีหละ..อั๊ก!"
ฝ่ามืออรหันต์ประทับลงบนกลางหัวของคิมจงแดที่เล่นอะไรไม่รู้เวล่ำเวลาอีกแล้ว
เจ้าตัวฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะกุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
"มันเจ็บนะโว้ย"
จงแดกำหมัดขึ้นชกมาที่หน้าด้านข้างของจงอินแต่ผู้เคราะห์ร้ายก็ดันหลบได้ซะก่อนทำให้เจ้าของหมัดได้แต่ชกอากาศเปล่าๆ
"เห็นมั้ยกูตบหัวไอ้จงแดมันก็จะต่อยกูคืนนี่คือเรื่องปกติ
แต่ที่มันขอโทษเพราะมึงบังคับไม่ใช่เรื่องปกติ
คำถามคือมีใครยอมขอโทษบ้างยิ่งเป็นศัตรูที่ไม่ถูกกันยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่"
"มันก็อาจจะหลอกให้ตายใจแล้วค่อยแก้แค้นคืนหรือเปล่า"
แบคฮยอนเอาคำพูดของจงแดขึ้นมาอ้าง ถ้ายอมขอโทษกันง่ายๆ
คงจะมีแต่หลอกให้ตายใจเท่านั้นแหละ
"เปล่าเลยถ้าจะแก้แค้นก็คงไม่รอจนถึงป่านนี้
วิเคราะห์ง่ายๆ เลยก็คือมันกำลังทำให้มึงชอบมันไม่ให้ไปชอบน้องซูยอน"
"วิเคราะห์ซะใหญ่โตแต่เหตุผลแค่นี้เนี่ยนะ"
จงแดถึงกับกุมขมับคือไอ้จงอินแม่งก็คิดอะไรไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่หรอกวะ โด่ววว
"จะ..จริงหรอวะ"
แบคฮยอนกลับมานั่งหลังตรงตั้งใจฟังแบบสุดๆ
"มึงจะให้เพื่อนเราตกไปเป็นของเล่นของคนอื่นหรอวะจงแด
เพื่อนกันก็ต้องปกป้องเพื่อน"
หันไปสบตาจงแดอย่างจริงจังแล้วค่อยหันมาสบตากับผู้เคราะห์ร้ายตรงหน้า
"กูว่านะชานยอลมันต้องเป็นคนที่เจ้าชู้มากแน่ๆ
นอกจากน้องซูยอนแล้วมันก็คงมีมึงเป็นเป้าหมายของมันด้วย"
"ไอ้จงอินกูว่ามันไม่ออกนอกทะเลเกินไปหรอวะ"
จงแดพูดขัด
"อย่าขัดกูสิวะจงแด
ตอนนี้มันกำลังพีคก็คือ..น้องซูยอนไม่ได้ตกไปเป็นของใครแสดงว่าเป้าหมายต่อไปของชานยอลก็คือมึง
คราวนี้แหละมันกำลังจะทำทุกวิถีทางให้มึงชอบมัน เพราะ..."
"มึงกลับมาก่อนจงอิน
มึงกำลังออกนอกโลกแล้ว"
"ไอ้จงแดอย่าเพิ่งขัดสิวะ
พี่กำลังตั้งใจฟังอยู่"
"เพราะ...เพราะชานยอลมันอยากให้มึงคุกเข่าขอโทษมันไง"
"มึงกำลังโดนแบล็คโฮลดูดแล้วจงอิน"
จงแดกุมขมับอีกครั้ง
"จะ..จริงๆ หรอ"
"เออสิวะ
คราวนี้นะถ้ามันมีปฏิกิริยายังไงมึงก็ห้ามไปหวั่นไหวเด็ดขาดเลยนะ
มึงห้ามไปตอบตกลงคบกับปาร์คชานยอลเด็ดขาดเพราะมันกำลังจะทำให้มึงแพ้แล้วให้คุกเข่าขอโทษมัน"
"อ่อ
มันเป็นอย่างนี้เองสินะถึงน้องซูยอนจะไม่ได้ตกไปเป็นของใครแต่การแข่งขันนี้มันยังไม่จบ
ถ้าพี่แพ้พี่ได้ไปคุกเข่าขอโทษมันแน่ ขอบคุณที่เตือนนะจงอินเพิ่นรวั๊ก
พี่ขอตัวไปขู่มันซักหน่อยให้มันรู้ตัวว่าพี่รู้แผนการมันแล้ว"
ทำหน้ามุ่งมั่นก่อนจะออกตัววิ่งไปหาเป้าหมายถึงที่คณะ
-love only-
"อ้าวพี่แบคฮยอนรีบไปไหนอะครับผมกำลังจะโทรหาพี่ชวนมากินข้าวด้วยกัน"
"ไงเซฮุน
ไว้ก่อนนะตอนนี้พี่มีเรื่องคอขาดบาดตายต้องไปทำ"
แบคฮยอนหยุดแวะทักทายน้องรหัสของตนเองชั่วครู่ก่อนจะหันไปมองบุคคลแปลกหน้าข้างกายรุ่นน้อง
"งั้นหรอครับ
อ่อนี่เมทผมคยองซูที่เคยเล่าให้ฟังว่าเป็นน้องรหัสของเดือนวิศวะปีสองอะครับ"
เซฮุนผายมือแนะนำเมทให้พี่รหัสของตนรู้จัก พร้อมๆกับที่คยองซูโค้งตัวทักทาย
"สวัสดีครับ"
"น้องของไอ้ยักษ์ชานยอลหรอ
มันอยู่ไหน" รีบเข้าไปประชิดตัวกดดันให้อีกฝ่ายรีบคายที่อยู่ของศัตรูออกมา
"โว้วๆ
พี่อย่าทำหน้าน่ากลัวใส่เมทผมสิ" เซฮุนรีบกันให้พี่รหัสออกห่างจากเมทของตัวเอง
ปกติก็ทำอะไรบ้าๆ บอๆ อยู่แล้ว วันนี้ดูจะบ้าดีเดือดกว่าทุกวันซะอีก
"เห็นว่าจะไปสนามบอลกัน
แต่ผมจะมากินข้าวก่อนแล้วค่อยไปหา"
"แต้งค์กิ๊วเจ้าเด็กหัวกลม
ไว้พี่แบคสุดหล่อจะเลี้ยงไอติมพวกนายทีหลังนะ ไปล่ะ"
"พี่รหัสดูบ้าๆ บอๆ ใช่มั้ย
เฮ้อ ไปกินข้าวกันเถอะ" เซฮุนถอนหายใจเอือมระอา
นี่ก็ไม่ได้อยากได้พี่รหัสอะไรหรอกแต่มันเป็นธรรมเนียมรุ่นต่อรุ่นก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่มีพี่แบคฮยอนเป็นพี่รหัสก็ไม่เลวอย่างน้อยก็ได้กินข้าวฟรีบ้าง..ล่ะมั้ง
พอนินทาเสร็จก็เดินหันหลังไปหาซื้อข้าวกินกันสองคนต่อ
ส่วนคนพี่พอรู้ที่อยู่ของศัตรูก็รีบวิ่งไปหาเป้าหมายโดยทันที
เตรียมนับเวลาถอยหลังที่จะใช้อากาศบนโลกหายใจได้เลยปาร์คชานยอล
"ฮัดชิ้ววว!!"
"เป็นไรมากเปล่าว่ะ
วันนี้มึงดูเหม่อๆ นะ" เพื่อนในสาขาซักคนเอ่ยทักขึ้นขณะที่ชานยอลถูจมูกตัวเองไปมา
เขาก็ไม่ได้ไม่สบายอะไร ตัวไม่ร้อน
คอก็ไม่เจ็บแต่มีอาการเหม่อลอยอย่างที่เพื่อนว่าจริงๆ
และอะไรที่ทำให้เขาเหม่อน่ะหรอ..
"ปาร์คชานยอล!!!!
ไอ้ยักษ์หลอกเจ้า"
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่ชานยอลขนานนามมันว่าไอ้เตี้ยวิ่งตรงเข้ามาพร้อมฝ่ามืออรหันต์ที่เจ้าตัวกำลังกระโดดง้างมือนั้นขึ้นตบลงมากลางหัวของเขาแบบพอดิบพอดี
"มันเจ็บนะเว้ยไอ้เตี้ย"
กำคอเสื้ออีกฝ่ายกระชากมันเข้ามาใกล้
มันมาเยือนถึงถิ่นวิศวะแถมยังทำเขาขายหน้ากับเพื่อนในสาขาอีก
มึงไม่ได้กลับไปตัวเปล่าแน่ไอ้เตี้ยแบคฮยอน
นี่มันหยามหน้าปาร์คชานยอลเดือนวิศวะปีสองเกินไปแล้ว
"หนอยแน่
มึงบังอาจมาเล่นแง่กับกูหรอ แผนซ้อนแผนของมึงอะกูอ่านออกหมดแล้ว"
"เฮ้ย
ชานยอลจัดมันเลยมั้ย"
เพื่อนในสาขาของชานยอลเตรียมวิ่งเข้ามาช่วยแต่ก็ถูกเจ้าของชื่อห้ามไว้
ทุกคนจึงได้แต่ยืนอยู่กับที่คอยจับตาดูเดือนปีสองกับไอ้คนต่างคณะ
ถ้ามันเล่นแง่กับเพื่อนของเขาล่ะก็มันได้เตรียมลงโลงแน่
"แผนซ้อนแผนอะไรของมึง"
ชานยอลทำหน้างง
มาทำร้ายเขาแล้วยังพูดจาไม่รู้เรื่องอีกมึงลืมเอาสติออกมาจากท้องแม่ใช่มั้ย
"อย่ามาแกล้งทำหน้าซื่อตาใส
คนอย่างมึงมันร้ายไว้ใจไม่ได้ ดีที่น้องซูยอนไม่ต้องมาทนคบกับคนอย่างมึง"
แบคฮยอนพูดตะคอกใส่อีกฝ่ายไม่ยั้งพร้อมกับที่พยายามดึงมือของไอ้ยักษ์ชานยอลออก
แม้รอบข้างจะมีแต่วิศวะแต่เขาก็ไม่กลัวหรอก
"มึงอย่ามาหาเรื่องกูนะไอ้เตี้ย
เรื่องน้องซูยอนมันจบไปแล้ว"
"ใช่!
เรื่องน้องซูยอนมันจบไปแล้วแต่ระหว่างกูกับมึงมันยังไม่จบไง"
"มึงจะพูดอะไร"
"เหอะ
มึงน่ะวางแผนจะทำให้กูแพ้..ให้กูคุกเข่าขอโทษมึงใช่มั้ย"
"..." ชานยอลขมวดคิ้วแน่นจ้องหน้าไอ้เตี้ยด้วยความไม่เข้าใจล้วนๆ
อะไรของมึงงงงง!
"มึงกำลังจะทำให้ทุกลมหายใจเข้าออกของกูคิดถึงแต่มึงใช่มั้ย
มึงกำลังจะทำให้หัวใจกูเต้นแรงเพราะมึงใช่มั้ยล่ะ"
"..."
จากคิ้วที่เคยขมวดแน่นของชานยอลก็ค่อยๆ
คลายออกพร้อมกับมุมปากที่ยกขึ้น
ยิ่งฟังทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของไอ้เตี้ยเขาก็ยิ่งค่อยๆ เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือเพราะใครที่ทำให้ไอ้เตี้ยมีความคิดแบบนี้ แต่ต้องขอขอบคุณที่ทำให้เขาตาสว่าง
"มึงกำลังจะทำให้กูชอบมึงใช่มั้ยล่ะ
แต่เสียใจด้วยที่แผนของมึงถูกกูอ่านออกหมดแล้ว
เพราะฉะนั้นมึงอย่ามาทำให้กูชอบเด็ดขาดเพราะคนอย่างพี่แบคคนนี้จะไม่มีวันยอมคุกเข่าขอโทษให้กับคนอย่างมึง"
"ห้ามทำให้ชอบหรอ"
ชานยอลถามขึ้นพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปมันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และดูไม่น่าไว้ใจเอาซะเลยในความคิดของแบคฮยอน
"ชะ..ใช่
ปะ..ปล่อยกูได้แล้วไอ้ยักษ์"
"จะบอกอะไรให้นะ"
ยื่นใบหน้าหล่อคมที่มีตำแหน่งเดือนวิศวะปีสองแปะอยู่เข้าไปกระซิบใกล้ๆ
ใบหูของอีกฝ่าย "แผนอะไรกูไม่มีหรอก แต่.."
ชานยอลเลื่อนใบหน้าของตัวเองเอาริมฝีปากเข้าไปประกบกับริมฝีปากของอีกฝ่าย
นั่นทำให้แบคฮยอนที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวตกใจตาโต
ยิ่งชายยอลขยับให้มันแนบแน่นเจ้าคนตัวเล็กยิ่งตกใจตาโตเข้าไปใหญ่
จนคนตัวสูงดั่งยักษ์พอใจนั่นแหละถึงได้ถอนริมฝีปากออกพร้อมๆ กับร่างของแบคฮยอนที่ร่วงลงไปกับพื้นเพราะทรงตัวไม่อยู่
เหล่าวิศวะที่เห็นฉากจูบสดๆ
คาตาก็พากันหันหลบแทบไม่ทัน บางคนถึงกับเอามือปิดปากกลั้นเสียงกรี๊ดสุดชีวิต
"ต่อไปนี้อะไรที่มึงห้ามกูจะทำ
เตรียมใจเอาไว้ให้ดี"
"..."
"กูรุกแรงกว่าตอนที่จีบน้องซูยอนแน่
ที่รัก" ยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
"เฮ้!!!!!!"
เหล่าวิศวะก็พากันดีใจส่งเสียงปรบมือแซวท่านปาร์คชานยอลแห่งเดือนวิศวะปีสองทั่วสนามนั่นยิ่งทำให้แบคฮยอนอับอายขายขี้หน้าเข้าไปใหญ่
โดนไอ้ยักษ์มันจูบแล้ว
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!
ตัดภาพมาที่เพิ่นรวั๊กซี้ปึ๊กสองจงของพี่แบคคนหล่อ
จงอินยิ้มร้ายดูมีความสุขกว่าทุกวันจนจงแดต้องเอ่ยถามว่ามันพี้อะไรก่อนมาเรียนหรือเปล่า
"ก็แหม กูก็แกล้งมันนิดๆ
หน่อยๆ นั่นแหละ"
"แกล้ง?" จงแดขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
"ก็พรีเซ้นต์กลุ่มสองคนของอาจารย์คิมที่กูต้องคู่กับไอ้แบคอะ
กลุ่มกูได้คะแนนน้อยเพราะไอ้แบคมันจำหน้าห้าบนสไลด์ไม่ได้ กูก็เลยแกล้งมันให้ไปหาเรื่องชานยอล
ฮ่าๆๆๆ"
"มึงมันเลวไอ้จงอิน
ถ้าไอ้แบคร้องไห้กลับมามึงปลอบมันเลยนะ"
"อะไรเล่า
ช่วยกันปลอบสิวะมันเพื่อนมึงนะ"
"มันก็เพื่อนมึงเหมือนกันนั่นแหละ"
ความคิดเห็น