กว่าจะ "ติด" หมอ

ลำดับตอนที่ #30 : "ความถนัดแพทย์" เตรียมตัวยังไง..ไปไง..มาไงดี ..

สืบเนื่องจากช่วงนี้พี่ก็วันๆก็ได้แต่รอว่าน้ำจะมาเมื่อไหร่
ทำให้พี่ก็ทำได้แต่นั่ง ๆ นอนๆ ไปวัน ๆ
พี่เลยคิดว่าน่าจะใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์บ้าง
แล้วช่วงนี้เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่
พี่ก็ได้ข่าวมาด้วยว่าน้องๆ เลื่อนสอบเลื่อนเปิดเทอมต่างๆกันวุ่นเลยใช่ไหมคะ
ทั้ง Gat Pat รวมถึง กสพท.ด้วย:DD
ก็ขอแสดงความยินดีที่น้องจะได้มีเวลาอ่านเพิ่มด้วยนะคะ55555555
เราต้องมองวิกฤติให้เป็นโอกาสค่ะคุณน้องงงง
5555555555555555>_<"

ว่าด้วย "ความถนัดแพทย์" คืออะไร? สำคัญยังไง?
ความถนัดแพทย์ก็คือ วิชา(น่าจะเรียกอย่างงี้ได้)สักอย่างที่ใช้ในการสอบแพทย์และทันตะ
มีคะแนนทั้งหมด 30%
อีกที่เหลือ 70% คือ วิชาสามัญ ซึ่งได้แก่ คณิต อังกฤษ ไทย สังคม เคมี ชีวะ ฟิสิกส์

ทีนี้เรามาดูว่า...โอ้โห..ความถนัดแพทย์นั้นเวดถึง 30%!!!!
มันมีอะไรดี ถึงมีน้ำหนักมากขนาดนั้น

ความถนัดแพทย์นั้นแบ่งเป็น 3 Part ได้แก่
Part 1 : Part IQ
Part 2 : Part จริยธรรม
Part 3 : Part เชื่อมโยง
พาร์ทละ 100 คะแนน รวม 300 คะแนน

ซึ่งจริงๆพี่เขียนไปแล้วในบทที่ 8 :: ย้อนอดีต ความถนัดแพทย์กับชีวิตม.6 เทอม 2
แต่พี่จะอธิบายซ้ำอีกรอบ


นั่นก็คือใน 3 พาร์ทนั้น พี่(คาดว่า)เค้าจะหมายถึงสิ่งต่างๆดังนี้
อืม...จากการวิเคราะห์(ของพี่) สามพาร์ทนี้น่าจะสื่อถึงคำว่าแพทย์อย่างนี้
พาร์ทแรก IQ การเรียนแพทย์น่าจะต้องฉลาดในระดับนึง ต้องจำได้เยอะ 
วิเคราะห์เป็น ดัดแปลงเป็น แก้ปัญหาเป็น ฉะนั้นไอคิวต้องดี
พาร์ทที่สอง จริยธรรม คนเป็นแพทย์นอกจากเก่งอย่างเดียวแล้วยังต้องมีคุณธรรม
จริยธรรมโดยเฉพาะต่อคนไข้มากกว่าอาชีพอื่น  ทั้งรู้ว่าในสถานการณ์แบบไหน
ควรจะแก้ไขปัญหาอย่างไรด้วย
พาร์ทที่สาม เชื่อมโยง งงคำว่าเชื่อมโยงป้ะ? ถ้างงลองไปเปิดข้อสอบ GAT พาร์ทเชื่อมโยงดู
เชื่อมโยงก็จะคล้าย ๆ การเขียนมายแมพ (แต่ไม่เหมือนนะ)
อืม..เนื่องจากการเรียนแพทย์จะมีชื่อโรค ชื่ออวัยวะเซลล์ต่าง ๆ เยอะแยะมาก
และโรคหรือเซลล์หลาย ๆ เซลล์มักมีความเกี่ยวข้องกัน
เมื่ออ่านไปเยอะ ๆ จะทำให้เราตาลาย เพราะแต่ละอันก็จะมีบางส่วนเกี่ยวข้องกัน
อย่างละนิดอย่างละหน่อย การที่เราทำแบบย่อเชื่อมโยงไว้
จะทำให้เราจำบทเรียนต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น


โอเค ทีนี้เรามาดูในแต่ละพาร์ทว่าข้อสอบจริงมันเป็นยังไง


พาร์ท IQ
โดยปกติถ้าเราไปเรียนพาร์ท IQ ตามที่ต่างๆนั้น
มันจะมีโจทย์ให้ทำหลายแบบมากมาย แต่ส่วนใหญ่ที่พี่เห็นเค้ามักจะให้ฝึกเยอะๆ มักเป็นพวก
1 2 _ 4 5 ไอในช่องว่างคือ(?) ประมาณนี้
แต่ในข้อสอบจริงพี่กลับพบว่า จากข้อสอบทั้งหมด (จำไม่ค่อยได้ 25 ข้อมั้ง)
มีข้อที่เป็นแบบนี้แค่ 1 หรือ 2 ข้อเอง
ส่วนใหญ่จะเป็นโจทย์แบบเหมือนบรรยายยาวๆ แล้วให้เราวิเคราะห์แบบงงๆ

พี่ยกตัวอย่าง(ซึ่งไม่ใช่โจทย์จริง)

คำถาม ถ้าตัวแทนนายหน้าได้รับค่านายหน้า 10% จากการขายโรงแรมแห่งหนึ่ง โรงแรมแห่งนั้นขายไปในราคาเท่าใด
ข้อมูลประกอบชุดที่ 1 ราคาขายหักด้ยค่านายหน้าแล้วเหลือ 846000 บาท
ข้อมูลประกอบชุดที่ 2 ราคาขายเป็น 250% ของราคาทุน (ซื้อมา 360000 บาท)
จากข้อมูลข้างตก ท่านสามารถตัดข้อมูลชุดใดได้บ้าง โดยที่ยังคงสามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้
1. ตัดข้อมูลชุดที่ 1 ได้ชุดเดียวเท่านั้น
2. ตัดข้อมูลชุดที่ 2 ได้ชุดเดียวเท่านั้น
3. ตัดข้อมูลชุดที่ 1 หรือชุดที่ 2 ชุดใดชุดหนึ่ง
4. ไม่สามารถตัดข้อมูลชุดใดชุดหนึ่งได้เลย

ข้อสอบก็จะออกแนวเป็นบรรยายยาว ๆ ประมาณนี้ แต่ยากกว่านี้อะ
ที่เหลือก็จะมีการดูรูป แบบ เค้าให้รูปมาสามรูป ถามว่ารูปถัดไปคือรูปอะไร
ซึ่งมีแค่ข้อสองข้ออีกเหมือนกันในปีพี่ (ทั้งๆที่ ปกติเก็งกันว่าจะออกเยอะ)

พาร์ทไอคิว  ได้ชื่อว่าเป็นพาร์ทที่คนทำไม่ทันมากที่สุด
ซึ่งพี่ก็ทำไม่ทัน เหลือข้อสองข้อมั้งถ้าจำไม่ผิด
เพราะตอนนี้พี่ก็สอบความถนัดแพทย์มาได้ครบปี กับอีกวันสองวันแล้ว
ความทรงจำพี่บางอย่างก็เลยลางเลือนบ้าง

พี่ออกตัวว่าพี่แนะนำอะไรไม่ได้มากสำหรับพาร์ทนี้ ก้ได้แต่บอกแนวทางคร่าวๆ
เพราะพาร์ทนี้พี่ได้น้อยจริงๆค่ะT^T


พาร์ท จริยธรรม
เป็นพาร์ทที่ค่อนข้างเกี่ยวกับความเป็นแพทย์เยอะ
เค้าจะยกสถานการณ์ต่างๆมาให้น้อง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยากจะตัดสินใจ
ซึ่งเอาจริงๆ คำตอบที่ชัดเจนอาจจะไม่มีก็ได้ แต่น้องต้องเลือกตอบไปสักข้อ
เป็นพาร์ทที่ยากนะ เพราะหาคำตอบที่แน่นอนไม่ได้
ถึงจะไปฝึกเยอะ บางทีก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยอะ
เพราะหลายครั้ง โจทย์สองข้อ แม้ในสถานการณ์เดียวกัน
แต่แค่เปลี่ยนตัวบุคคลที่เป็นผู้กระทำต่างๆในเหตุการณ์นั้น
คำตอบก็ไม่เหมือนกันแล้ว บางทีคำตอบก็กลายเป็นตรงข้ามเลยด้วยซ้ำ
มันย๊ากกกอ้ะ 
TT_TT
ไม่มีคำแนะนำ ทำโจทย์เยอะๆเถอะ อย่างน้อยน้องก็จะได้เห็นแนวทางว่าเค้าจะออกยังไง
ในส่วนนี้ พวกหนังสือพิเศษที่วางขายทั่วไปก็แบบฝึก ที่ตรงกับข้อสอบจริงบ้างอยู่นะ



พาร์ทสุดท้าย พาร์ทเชื่อมโยง
เหมือนข้อสอบ Gat เชื่อมโยงทุกประการค่ะ
ตอนแรกที่ฝึกทำโจทย์ไปพี่คาดว่า โจทย์มันจะยากกว่า GAT
แต่ปรากฎว่าก็เหมือน GAT ซึ่งในตอนที่พี่ทำนั้น
พี่คิดลึกเกินไปหน่อยเพราะคิดว่ามันต้องยากกว่าปกติเลยใส่คำตอบเกิน ผลก็คือได้ 94/100
ซึ่งคนส่วนใหญ่ได้ 100/100 ค่ะ (อย่าไปคิดลึกซึ้งมาก)

สำหรับความถนัดแพทย์นั้น
หลายคนเค้ามักจะแนะนำว่าไม่ต้องอ่านก็ได้ไปสดเอา
ซึ่งพี่ว่าไม่ว่าข้อสอบอะไร เราก็ควรจะทำโจทย์ไปบ้างดูแนวทางก่อนไปสอบทุกอย่างนะ
พี่ก็เลยว่า ไปสดเอาน่าจะเป็นวิธีที่ไม่ดีเท่าไหร่
ถึงการอ่านไปก่อนจะไม่ช่วยอะไรมากนัก เพราะข้อสอบจริงมันไม่เหมือนที่ทำ บฝ.เลย

ทำไมเขียนพาร์ทนี้แล้วรู้สึกเศร้าๆยังไงไม่รู้TT^TT
ก็เพราะพี่ได้คะแนนพาร์ทนี้ น้อยค่ะ TT_TT
มีนอยู่ที่ 171 คะแนน พี่ได้ 182 คะแนน
ซึ่งมาคิดคะแนนรวมเต็ม 100 รวมวิชาสามัญ(อีก 70 เปอร์เซ้นต์)
พี่ก็ได้คะแนน 18.2 คะแนน ซึ่งพี่เทียบกับเพื่อนๆพี่แล้ว
พี่ค่อนข้างเป็นคนที่ได้น้อยค่ะ 
(เป็นบทแรกที่พิมพ์แล้วรู้สึก เศร้า จริงๆนะ ดูดิบทนี้พี่ไม่เล่นมุขเลย555)

อย่างที่บอกไปแล้วว่า
ความถนัดแพทย์ไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ก็เป็นหลายๆอย่างเช่นกัน
เช่นพี่พบว่า ถ้าความถนัดแพทย์ดีกว่านี้สิบคะแนน พี่จะไปติดอีกที่
และถ้าเพิ่มมาสักอีกสามสิบ คงไปอีกที่
และอีกสี่สิบ พี่คงไปอีกที่ ซึ่งเป็นที่ีพี่ฝันไว้

พี่ก็อยากบอกน้องๆว่า ให้น้องๆอย่าละเลยความถนัดแพทย์นะคะ
แล้วถ้าได้คะแนนน้อยแบบพี่ ก็ไม่ต้องกังวล มันไม่ได้หมายความว่าความถนัดแพทย์น้องดีแล้วจะติด
พี่มีเพื่อนได้ 210 กว่า หลายคนที่ไม่ติด เป็นเรื่องที่ไม่แปลก
ถ้าได้คะแนนความถนัดแพทย์ดีๆ น้องก็อย่าทะนงตัวไปนะคะ
เตรียมสู้กับวิชาสามัญต่อไปนะคะ
พี่คงแนะนำคร่าวๆได้แค่นี้ ที่เหลือก็หน้าที่ของน้องแล้วนะคะ :DD

สู้ๆน้ะ ::):):)


ปอลิง ได้ข่าวปีนี้สอบวิชาสามัญก่อนความถนัดแพทย์อีก (เนื่องจากเลื่อนน้ำท่วม)
เจ๋งอ่ะน้องงงงงงงงงงงงงอิจฉาาาา>3< สู้วๆน้า