คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Page VII : Wanted
สุดท้ายแล้ว สองพรานหนุ่มและหนึ่งบุคคลในคำทำนายต้องวนกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง จากเหตุผลที่ชายผมแดงรีบร้อนจะออกจากเมืองในคราวแรกมากเกินไป จนไม่ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับการเดินทางไกลไปด้วยเลย
“ เพราะความหุนหันของแกจะทำเด็กนี่แย่ไปด้วยไม่รู้หรือไง ” ชายผู้สวมหมวกขนสัตว์กล่าวขึ้นขณะทั้งสามกำลังเดินอยู่ในย่านตลาด ลูฟี่ถูกกำชับให้เอาผ้าคลุมปกปิดตัวตนเอาไว้ตลอดเวลา ทำได้เพียงเดินตามหลังต้อยๆพร้อมกับของกินเล็กน้อยในมือ
ถ้าหากไม่ผิดจากคำพูดที่เด็กหนุ่มกล่าวเอาไว้ เมืองหลวงที่ว่านั่นคงอยู่ไม่ไกลจากเมืองที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้นัก สำหรับคนไม่มีพาหนะเช่นรถม้า การเดินเท้าจึงจำเป็นต้องใช้เวลาหลายวัน หากจะไปตัวเปล่าจึงเปรียบเหมือนการไปฆ่าตัวตายในป่าก็ไม่เชิง
“ เออ ฉันมันแย่เอง พอใจหรือยัง? ” คนหน้าโหดตอบกลับด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นัก เขาไม่อยากจะถกเถียงกับชายคนนี้ให้มากความ เดิมทีก็ไม่ค่อยถูกกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดจึงมาร่วมทีมเดียวกันได้..
ที่รีบร้อนเพราะกังวลว่าใครจะมาชิงอัญมณีที่งดงามนี้ไปต่างหาก ใครที่ได้พบเจอเด็กหนุ่มคนนี้ก็ต้องคิดแบบเขาทั้งนั้น...
เป็นโชคร้ายที่ต้องมาร่วมเดินทางกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเอาเสียเลย เจ้านี่เล่นดับฝันที่จะออกเดินทางกับเด็กน่ารักคนนี้เพียงลำพังไปซะสนิท…
แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะบทสนทนาที่ชวนให้หัวเสีย เสียงระงมของฝีเท้าที่ไม่ได้มาจากประชาชนในเมืองแว่วให้ได้ยินไม่ไกล ภาพที่ปรากฏไม่ห่างออกไปคือชายกลุ่มใหญ่ในชุดเครื่องแบบสีเขียวหม่นตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่เอวมีอาวุธเหน็บเอาไว้บ่งบอกสถานะทางอาชีพ
เหตุใดจึงมีทหารอยู่ที่นี่เต็มไปหมด…
ถึงแม้เมืองนี้จะเป็นเขตปกครองของ ‘คนๆนั้น’ แต่ด้วยจำนวนนายทหารที่มากมายเกินไปก็ชวนให้รู้สึกราวกับว่า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ
“ ระวังตัวเอาไว้ด้วย พวกมันเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่… ” มือข้างที่เป็นโลหะของชายร่างใหญ่ยื่นมากันลูฟี่ที่ดูไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ไม่ให้เดินออกไปเกินกว่านี้ ใบหน้าน่ารักใต้ผ้าคลุมทำได้เพียงขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความงุนงงเท่านั้น
ไม่เชิงเป็นศัตรู แต่ก็ไม่ได้ถูกจริตกับทหารซักเท่าไรนัก นายพรานก็เปรียบเสมือนดั่งนักล่าที่ไม่ขึ้นกับองค์กรใดๆทั้งสิ้น พวกเขาสามารถรับงานจากสองฝ่ายที่เป็นศัตรูกันในคราวเดียวกันได้ แล้วแต่ความปรารถนาของตน ในขณะที่ทหารต่างก็ทำทุกอย่างได้เพื่อราชวงศ์ที่ตนสังกัดอยู่เท่านั้น
“ เฮ้… มีปัญหาแล้วล่ะ เจ้าพวกนั้นกำลังตามหาสโนว์ไวท์อยู่ ”
ร่างของพรานผู้สวมหมวกขนสัตว์ซึ่งไม่รู้ว่าแยกตัวไปตั้งแต่เมื่อใด ปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลังของลูฟี่พร้อมเบาะแสสำคัญ ว่องไวเหนือสิ่งอื่นใดก็คงเป็นมือของเจ้าตัวที่คว้าเอาร่างเล็กตรงหน้าเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนโดยไม่ทันให้คนหน้าหวานได้ตั้งตัว
“ อย่าอยู่ห่างจากพวกฉันล่ะ ”
เสียงทุ้มกระซิบเบาๆข้างหูราวกับจงใจ ส่งให้ร่างเล็กขยับศีรษะหนีเล็กน้อยด้วยรู้สึกแปลกๆพิกล ตั้งแต่มาร่วมเดินทางกับผู้ชายสองคนนี้ก็มักโดนแตะเนื้อต้องตัวอยู่บ่อยๆแบบที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก ลงเอยด้วยการแงะแขนของอีกฝ่ายออกด้วยมือเล็กๆนั้น
“ ฉันไม่มีกระจิตกระใจจะมาสู้กับพวกทหารตอนนี้หรอกนะ ” ฝ่ายคนหน้าโหดที่มัวแต่มองเหตุการณ์ด้านหน้าจนไม่ได้สังเกตฉากฉวยโอกาสซึ่งๆหน้าของเพื่อนนายพรานก็ได้แต่จิ๊ปากด้วยความขัดใจ ข่าวลือเรื่องสโนว์ไวท์แพร่งพรายออกไปเร็วกว่าที่เขาคิด
วัดกันเรื่องฝีมือ ทหารแค่นั้นเขาไม่กลัวอะไรหรอก…แค่สิ่งที่ห่วงคือกลัวคนตัวเล็กพลอยได้รับอันตรายไปด้วย
เรื่องที่กังวลอยู่ตลอดมาเกิดขึ้นจนได้ เสียดายที่ไม่รีบออกจากเมืองตั้งแต่ตอนนั้น…
“ ห้ามเปิดหน้าจนกว่าคนพวกนี้จะไปล่ะ ไม่งั้นนายโดนจับไปแน่ ” หันกลับไปบอกเจ้าหญิงในคำทำนายที่ตอนนี้หลุดจากเกาะกุมของนายพรานตัวสูงได้แล้ว
“ ทำไมฉันถึงต้องโดนจับด้วยล่ะ ” ใบหน้าใต้ผ้าคลุมย่นเข้าหากันด้วยความงุนงง ดวงตากลมโตคู่สวยที่ไร้เดียงสานั่นทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของคนตัวเล็กเบาๆเหมือนสุนัขตัวน้อยๆ
“ เอาเถอะน่า เอาเป็นว่าเจ้าพวกนั้นต้องการตัวนาย และมันก็ไม่ได้หวังดีหรอกนะ ”
ยิ่งพูดคำว่าไม่หวังดี ชักเหมือนจะเข้าตัวเองพิกล…
ดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่ได้ทันรู้ตัวด้วยสิ ว่าตัวเองมีค่าขนาดไหน...
มีแต่ต้องออกจากที่นี่โดยอย่าให้ทหารเหล่านั้นผิดสังเกต ถึงนายพรานอย่างเขาและเจ้าคนอดนอนตรงนั้นจะไม่ได้คิดบริสุทธิ์ใจกับเด็กน่ารักคนนี้เท่าไรก็เถอะ แต่ก็ใช่ว่าเป้าหมายของคนที่บัญชาให้มาจับตัวสโนว์ไวท์จะเหมือนกันเสียหน่อย…
แม้ไม่ต้องสื่อสารอะไรให้มากความ ทราฟาลก้า ลอว์ อีกหนึ่งนายพรานก็รับรู้จากเพื่อนร่วมทางได้ทันทีว่าควรทำอย่างไรต่อไป เขาสำรวจหนทางที่จะนำทางไปสู่นอกเมืองจนแน่ใจว่าปลอดทหารแล้ว จึงพยักหน้าครั้งหนึ่งราวกับเป็นสัญญาณว่าให้เดินตามตนมาอีกทาง
“ มีรางวัลนำจับให้แก่ผู้สามารถจับเป็นสโนว์ไวท์ได้ หากผู้ใดพบเห็นเบาะแสสามารถแจ้งแก่ทางการได้ทันที! ”
ประโยคดังกล่าวเป็นตัวเรียกความสนใจให้แก่ประชาชนที่อยู่โดยรอบ เกิดเสียงฮือฮาตามมาหลังจากทหารบางนายนำเอาใบประกาศจับไปติดตามพื้นที่ต่างๆ …เพราะเจ้าหญิงผู้น่าสงสารมีโชคชะตาที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง ไม่แปลกนักที่จะโดนหมายหัวจากทางการที่ประชาชนต่างให้ความไว้วางใจ
แต่ค่าหัวที่สูงปรี๊ดนั่นมันอะไรกัน ราวกับจะล่อนักล่าค่าหัวทั้งเมืองให้มายังเด็กคนนี้ ...มันไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยหรือไง?!
“ ฉ..ฉันรู้! เด็กหนุ่มคนนั้นน่ะ..! ”
พ่อค้าจากแผงขายของร้านหนึ่งตะโกนขึ้นมาท่ามกลางความวุ่นวาย ใบหน้านั้นออกไปทางหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ก็ตัดสินใจกล่าวประโยคนั้นต่อไป ส่งให้คิ้วเรียวของคนหน้าโหดขมวดเข้าหากันด้วยสังหรณ์ใจไม่ดีนัก พร้อมๆกับลอว์ที่ดึงตัวของเด็กหนุ่มมาไว้ในอ้อมแขนโดยไร้การล่วงเกินใดๆ
ลูฟี่มองใบหน้าของพรานสองคนสลับกับพ่อค้าตรงหน้าด้วยความสับสน นั่นคือลุงร้านขายผลไม้ที่เขาเข้าไปถามหาแชงค์ไม่ใช่หรือไงกัน…
“ ข..เขามากับนายพรานผมแดง ยูทัส คิด นั่นยังไงล่ะ! ” ปลายนิ้วชี้มายังร่างของเจ้าของชื่อที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากกลุ่มทหารแทบจะทันที เป็นผลให้ปลายเท้านับสิบตรงมายังเป้าหมายโดยไม่ต้องคิด
“ โถ่เว้ย! ” ยูทัส คิด สบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก มือแกร่งคว้าเอาอาวุธที่เหน็บอยู่ตามลำตัวของตนมาเตรียมในท่าทางพร้อมสู้ พอดีกับจังหวะที่เจ้าของดาบเล่มยาวจะดันหลังลูฟี่ให้ห่างออกไป
“ หนีไปให้ไกลที่สุด ฉันจะรับมือกับเจ้าพวกนี้ก่อน! ” เสียงนุ่มทุ้มออกคำสั่ง กระชับดาบเล่มนั้นในมือแน่นราวกับจะช่วยป้องกันคนตัวเล็กจากศัตรูที่กำลังจะมาถึง
สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุดดันเกิดขึ้นเสียได้! ไม่มีทางยอมให้ได้ตัวเจ้าหญิงคนนี้ไปหรอกนะ!
“ แต่ฉัน…! ”
“ ไปซะ! ห้ามเปิดผ้าคลุมเด็ดขาด แล้วพวกฉันจะตามไปทีหลัง ”
ไม่มีจังหวะให้ลูฟี่ได้กล่าวแทรก นายพรานผู้ใช้ดาบคนนั้นก็เอ่ยกำชับอีกครั้ง ปลายเท้าคู่นั้นจึงทำได้เพียงแค่วิ่งออกไปจากบริเวณนั้นแม้จะไม่เข้าใจเรื่องราวต่างๆเลย แต่ถ้าสองคนนั้นบอกว่าจะตามมาแล้วล่ะก็… เขาก็จะเชื่ออย่างนั้น
ไม่ทันได้พูดออกไปเลยว่าเขาไม่ใช่คนที่ต่อสู้ไม่เป็นเสียหน่อย… ถึงจะไม่มีอาวุธอะไรเลยก็เถอะ
เจ้าของกายบอบบางสับเท้ามาจนถึงบริเวณชายป่าที่เคยเดินออกมาแล้วครั้งหนึ่ง เสียงที่วุ่นวายจากเมื่อครู่ค่อยๆจางหายลงไปตามระยะทาง นั่นจึงเป็นสัญญาณให้เขาหยุดวิ่งเพียงเท่านั้น ก่อนยืนหอบด้วยความเหน็ดเหนื่อย
“ ทำไมฉันต้องหนีด้วยเนี่ย… ” บ่นกับตัวเองพร้อมขมวดคิ้วยุ่ง นี่ก็วิ่งออกมาไกลพอสมควรแล้ว ใบหน้าหวานเอี้ยวกลับไปมองทางเดิมที่มองไม่เห็นระแวกชุมชนแล้วพร้อมพ่นลมหายใจด้วยรู้สึกขัดใจไม่น้อย
คงพ้นแล้วล่ะมั๊ง… รอสองคนนั้นอยู่ตรงนี้ก็ได้
ต่อให้พูดย้ำแล้วย้ำอีกอย่างไร ใครๆต่างก็พร้อมยัดเยียดให้เขาเป็นสโนว์ไวท์ทั้งที่เป็นผู้ชาย และด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง สโนว์ไวท์โดนตามล่าจากใครบางคน จนทำให้ต้องปกปิดหน้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา
และนั่นคือสิ่งที่ลูฟี่ประมวลผลได้ในเวลานี้…
คิดเยอะๆแล้วเหมือนจะเป็นไข้ นี่มันเรื่องวุ่นวายอะไรที่เขาต้องมาเกี่ยวข้องด้วยกันเนี่ย…
ผ้าคลุมที่ได้มาจากยูทัส คิดคนนั้นทั้งยาวทั้งรุ่มร่าม อากาศร้อนๆแบบนี้ชวนให้รู้สึกอยากโยนทิ้งไปให้รู้แล้วรู้รอด แถมยังบังทางเสียจนมองรอบข้างได้ไม่เต็มที่ด้วยอีก… แต่ก็โดนห้ามไว้ว่าไม่ว่ายังไงก็ห้ามถอดออกซะด้วยสิ
ร่างที่กำลังยุกยิกอยู่ภายใต้ผ้าคลุมผืนนั้นไม่ได้ทันสังเกตว่าทัศนียภาพโดยรอบเปลี่ยนไป ปลายเท้าของคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมเด็กหนุ่มเอาไว้อย่างเงียบเชียบ โดยที่ไม่ได้ทันตั้งตัว เด็กหนุ่มไม่ได้สังเกตอันตรายที่กำลังคืบคลานมาถึงตนเลยแม้แต่น้อย
ของมีคมเช่นดาบกำลังฟาดฟันมายังเจ้าหญิงตัวน้อยจากด้านหลังโดยไม่มีการลังเลใดๆทั้งสิ้น ความรวดเร็วของมันพอที่จะปลิดชีวิตเล็กๆนั้นได้อย่างง่ายดาย…!
ฉึก!
“ เหวอออ!! ”
ด้วยสัญชาตญาณที่ว่องไวของเจ้าตัว ร่างที่บอบบางนั้นสามารถเอี้ยวตัวหลบก่อนที่ดาบจะมาถึงตัวได้อย่างทันท่วงที เหลือเพียงอดีตผ้าคลุมที่ปัจจุบันขาดเป็นแนวยาววางพาดอยู่บนพื้นดินเท่านั้น
“ ทำอะไรของนายเนี่ย! มันอันตรายไม่รู้หรือไง! ” เสียงหวานโวยวายในขณะที่ปลายเท้าทั้งคู่ลงสัมผัสกับพื้นอย่างปลอดภัย เจ้าของดวงตากลมโตสีท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้นเพิ่งได้สังเกตว่าสถานการณ์รอบข้างของเขาเปลี่ยนไปเสียแล้ว
ชายร่างใหญ่หน้าตาน่ากลัวราวๆสิบคนในชุดที่เหมาะสำหรับการเคลื่อนไหว อาวุธที่เหน็บไว้ตามบริเวณต่างๆของร่างกาย และในมือของพวกเขาที่ยังมีอาวุธต่างกันออกไปพร้อมสรรพ ท่าทางเหล่านั้นราวกับว่า พร้อมจะโจมตีเหยื่อตัวน้อยที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมได้ทันที
“ พวกนายเป็นใคร? ” การแต่งตัวไม่เหมือนกับทหารที่อยู่ในเมือง ดูๆแล้วออกไปทางนายพรานมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
แต่เพราะร่างที่บอบบางนั้นหลุดออกมาจากผ้าคลุมที่คอยปกปิดตัวตนเอาไว้ตลอดเวลาได้แล้ว เจ้าหญิงผู้งดงามในคำทำนายจึงได้ปรากฏแก่สายตาของกลุ่มคนตรงหน้าอย่างชัดเจน
ตัวเล็กเสียจนคิดว่าเป็นผู้หญิงไปเสียแล้ว แขนขาและลำตัวบอบบางอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม ถึงแม้ร่างนี้จะอยู่ในชุดธรรมดาเฉกเช่นชาวบ้านทั่วๆไปแต่กลับแตกต่าง เส้นผมที่ดูนุ่มนิ่มกำลังพลิ้วไหวไปตามสายลมอ่อนๆ ใบหน้ากลมมนที่จัดวางเครื่องหน้าได้อย่างมีระเบียบ ริมฝีปากสีชมพูระเรือและจมูกรั้นขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะดวงตากลมโตคู่นั้นที่สุกใสราวกับอัญมณี…
ราวกับสิ่งนั้นกำลังดึงดูดให้ร่างใหญ่นับสิบชะงักไปเฉยๆเหมือนต้องมนตร์สะกด...
“ ย.. อย่าคิดว่าใบหน้านั่นจะมาหลอกพวกเราได้นะ! คิดว่าฉันจะยอมแพ้ง่ายๆหรือไง! ”
หนึ่งในนั้นที่ตั้งสติได้ก่อนตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงติดขัดเล็กน้อย ปลายดาบที่เคยจะใช้สังหารเมื่อครู่นั้นชี้ไปยังใบหน้าหวานที่กำลังขมวดคิ้วยุ่ง …ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมให้หนีไปง่ายๆแน่นอน
รางสังหรณ์กำลังบอกลูฟี่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีเสียแล้ว… ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อพาให้ตัวเองออกไปจากสถานการณ์อันตรายนี้ให้ได้
ด้วยความเสียเปรียบด้านอาวุธ ร่างของเด็กหนุ่มถอยหลังหนีของมีคมตรงหน้า กะระยะให้พอดีที่ตนเองจะสามารถหลบออกไปจากปลายแหลมที่กำลังชี้หน้านี่ได้ แต่ก็ช้ากว่าจังหวะโจมตีของศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าอยู่ดี…
หมับ!
ข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกคว้าไปโดยชายที่อยู่ด้านหลัง เหนือสิ่งอื่นใดคงเป็นแรงที่จับเอาไว้แน่นจนร่างนั้นไม่อาจสลัดออกไปได้เลย…!
“ ปล่อยนะ! นี่พวกนายกำลังเล่นอะไรกันอยู่เนี่ย…!? ”
ตัดจบโต้งๆแบบงงๆไปซะงั้น
แย่แล้วแน่ๆ พระเอกหายไปไหนหม๊ดดด
ฟี่กำลังแย่แล้วน้าาา
มาอัพแล้วนะคะหลังจากห่างหายไปนานมากกกก
ขออภัยไว้ล่วงหน้าถ้าเกิดภาษาเปลี่ยนไป(?)
ไรเตอร์ไม่ได้ทิ้งบทความนี้ไปไหนนะคะ
เพราะงั้นอย่างเพิ่งลืมกันไปน้าาT^T
แล้วพบกันพาร์ทหน้าค่ะ^^
ความคิดเห็น