คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : ◣Fanfic◥ [ZoroxLuffy] Wha! It was just illusion wall X) (Part2)
Rate: PG-13
Writer: PINKUHERO
Part: 2/6
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพราะว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน
สิ่งที่มันคอยกั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ก็คือกำแพงสูงตระหง่าน...
ไม่ว่ายังไงก็จะไม่บอกความจริงไปเด็ดขาด ...หากมันจะทำให้ความสัมพันธ์แบบนี้ต้องจบลง
ก็รู้อยู่หรอก... ว่าคนแบบหมอนั่นไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว
ตัวโซโลเองก็ทำใจมาตั้งนานกว่าจะยอมรับความรู้สึกแปลกๆที่อยู่ในใจได้
เขามีเรื่องที่บอกเพื่อนสนิทตัวเล็กไม่ได้อยู่หนึ่งประการ...
...ความสัมพันธ์แบบเพื่อนระหว่างเขากับลูฟี่มันยังคงดำเนินมาจนถึงตอนนี้
แต่กว่าจะรู้ตัวอีกที... โซโลก็หยุดคิดกับหมอนั่นแค่เพื่อนไม่ได้อีกแล้ว
ลูฟี่เป็นคนน่ารัก ทั้งในทางหน้าตาและนิสัย ตัวเล็กบางๆ
ผิวขาวๆแบบนั้น ไหนจะดวงตากลมโตกับใบหน้าที่น่ารักจนไม่เหมือนผู้ชายนั่นอีก
นิสัยของเจ้าตัวที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีกับทุกคน จะมีใครมาชอบบ้างก็ไม่น่าแปลกใจเลย
รอยยิ้มแบบนั้นที่เขาเห็นมาตั้งแต่สมัยที่ยังขาสั้นๆอยู่
ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งมันก็ยังให้ความรู้สึกว่าบรรยากาศรอบข้างสว่างจ้าขึ้นมาทุกที
เจ้านั่นยิ้มแล้วน่ารักมาก คงจะดีถ้าหากว่ารอยยิ้มนั้นมันกำลังส่งให้เขา ...ไม่ใช่คนอื่นแบบในตอนนี้
แขนบอบบางกำลังกอดคอเพื่อนคิ้วม้วนอย่างสนิทสนม
ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็พาลทำให้รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทุกที
ถึงคนคิ้วม้วนนั่นออกจะเที่ยวม่อผู้หญิงไปทั่ว
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้านั่นจะไม่สนใจลูฟี่ซักหน่อย …กับคนที่ชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ
แค่มีฝีมือทำอาหารเป็นเลิศอย่างหมอนั่นก็ดึงดูดลูฟี่ได้หนึบแล้ว
แขนขาวๆที่โอบรอบคอของคนที่ตัวสูงกว่า... และแขนของเจ้านั่นเองก็กำลังโอบไหล่นิ่มๆของลูฟี่ด้วยเหมือนกัน
เวลาที่นายแตะตัวคนอื่น
และเวลาที่นายยอมให้คนอื่นแตะต้องตัวง่ายๆแบบนี้
ตัวฉันที่ทำได้เพียงแค่ยืนมองอยู่ข้างหลังเงียบๆ...
...มันน่าโมโหสุดๆเลย
ทั้งๆที่เวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคน ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้ ...โซโลจะไม่แสดงสีหน้าผิดปกติอะไรออกไปให้เพื่อนตัวเล็กเห็นเด็ดขาด
เขาพยายามทำตัวให้เหมือนกับที่เพื่อนสนิททั่วไปทำกัน
เวลาที่คนๆนั้นเอาใบหน้าเข้ามาใกล้ ...ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร
ถึงได้ต้องรีบหลบสายตาคู่นั้นออกไปให้เร็วที่สุด...
แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจหรอก ว่าเขากำลังแสดงท่าทางแบบไหนออกไป... รู้แค่ว่ารู้สึกโมโหและขัดใจมากๆ ...อาจจะดูงี่เง่าที่ไปหึงหวงลูฟี่ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีสิทธิ์อะไรเลย...
เพื่อนสนิทอย่างเขา... จะไม่มีโอกาสนั้นบ้างเลยอย่างนั้นหรือ
“ -โล.. โซโล! นี่นาย เป็นอะไรเนี่ย
เอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่นั่นแหละ ”
เสียงเล็กๆเป็นตัวสะกิดให้ร่างสูงได้สติกลับมา
ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองเดินตามเพื่อนในกลุ่มมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่หน้าโรงอาหารของโรงเรียน
เจ้าของดวงตากลมโตตรงหน้ามุ่ยหน้ามองเขาด้วยท่าทางสงสัย
“ เปล่า... ไม่มีอะไร ” ดวงตาคมมองกลับไปอย่างนิ่งๆยืนยันคำพูดของตัวเอง ...ไม่ทันได้รู้ตัวหรอกว่าไปจ้องหน้าหมอนี่ตั้งแต่ตอนไหน
อาจเป็นเพราะท่าทางที่โซโลแสดงออกไปให้เห็น
เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มจึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่คิดไม่ซื่อกับเพื่อนตัวเล็กคนนี้
จะมีก็เพียงลูฟี่เท่านั้นที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร และเขาก็ไม่อยากให้รู้ด้วย
“ งั้นหรอ ” ใบหน้ายังคงติดสงสัยอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยอมสลัดความคิดนั้นทิ้งไปเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยบทสนาใหม่ขึ้นมาแทรก
ด้วยความไม่ทันคนของเจ้าตัว
ลูฟี่เชื่อคำโกหกหน้าตายแบบนี้ทุกครั้ง...
“ นายนี่สนิทกับคนอื่นง่ายดีนะ ”
ใบหน้าคมเบนหลบออกไปสนใจรายละเอียดบนบอร์ดข้างหลังของคนตัวเล็กแทน
มันคือรายการระเบียบของโรงเรียนที่แปะติดเอาไว้อยู่
รวมไปถึงรูปถ่ายของกรรมการนักเรียนชุดใหม่ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ไม่นาน
“ หือ... นายอิจฉาฉันงั้นดิ ชิชิชิ ”
“ จะบ้าหรือไง ”
นายก็อย่าไปสนิทกับคนอื่นง่ายๆนักสิ... แล้วก็เลิกให้คนอื่นโดนตัวง่ายๆแบบนี้ซักที
มือหนายกขึ้นมาขยี้ผมยุ่งๆของเพื่อนสนิท
ดวงตาคมสีดำแบบคนญี่ปุ่นเลื่อนไปเห็นภาพของประธานนักเรียนคนใหม่
พอดีกับจังหวะที่เพื่อนจมูกยาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างกันพูดขึ้นมา
“ พวกกรรมการชุดใหม่ของปีนี้อ่ะ
เห็นยัง ” นิ้วมือเรียวของอุซปชี้ไปยังร้านอาหาร
ที่มีกลุ่มคนใส่ปลอกแขนสีฉูดฉาดเอาไว้ที่ต้นแขนเสื้อนักเรียน
ภาพของใครบางคนปรากฏขึ้นมาบนสายตาของโซโล
คนเดียวกันกับภาพเมื่อครู่ที่ได้เห็นในบอร์ด
“ เห็นว่าเป็นหลานสาวของสโมคยันคนนั้นด้วยสินะ ” หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มยกมือขึ้นกอดอกพิจารณา
สโมคยันที่ว่าก็คืออาจารย์ฝ่ายปกครองสุดโหด
แต่ดูเหมือนว่าพวกนักเรียนจะไม่ค่อยเคารพในการเรียกชื่อเขาซักเท่าไร
ประธานนักเรียนคนใหม่เป็นเด็กสาวผมยาวที่มัดรวบไปด้านหลัง
สวมแว่นตากรอบเหลี่ยมสีแดง บุคลิกดูมั่นใจในตัวเองและเจ้าระเบียบเหมือนกับสโมคเกอร์คนนั้นไม่มีผิด
ทั้งหน้าตาท่าทาง ทุกอย่างทำให้โซโลต้องชะงักลงทั้งอย่างนั้น
ดวงตาคมเบิกขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เหมือนมาก...
ทำไมในโลกนี้ถึงมีคนที่เหมือนกันขนาดนี้อยู่ด้วย...
เหมือนกับคุอินะ....
ท่าทางแบบนั้นทำให้ลูฟี่รู้สึกแปลกใจขึ้นมาอีกครั้ง
คราวที่แล้วอยู่ๆโซโลก็จ้องหน้าเขาเหมือนคนกำลังโมโหอะไรซักอย่าง
มาตอนนี้ก็ทำท่าทางอึ้งๆกับผู้หญิงที่ดูท่าจะเป็นประธานนักเรียนคนนั้นอีก
“ มีอะไรงั้นหรอโซโล ”
“ ...เปล่า ”
เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว... พี่สาวของเขาตายไปตั้งแต่ยังเด็กขนาดนั้น
ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแค่คนหน้าเหมือนกันก็เท่านั้น...
โซโลปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ
คำตอบนั้นทำเอาคิ้วเรียวของคนตัวเล็กขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ พอถามว่ามีอะไรหรือเป็นอะไรกับคนๆนี้ไปกี่ครั้ง
ก็มักจะได้คำตอบเดิมสั้นๆกลับมาทุกที...
“ งั้นหรอ...
”
ลูฟี่หันไปมองตามปลายสายตาของคนในกลุ่มด้วยใบหน้านิ่งๆ
ก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับอุซปต่อโดยไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีก
เพราะเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไร ถึงได้เดาความคิดของคนๆนี้ได้ยาก
แต่เท่าที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ หากคนตัวเล็กกำลังรู้สึกยังไงอยู่
ก็คงจะเลือกพูดออกมาเองตรงๆซะมากกว่า
โซโลสลัดความคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้นออกไป
หันกลับมาสนใจคนร่างบางที่กำลังฟังเรื่องโม้ของเพื่อนจมูกยาวด้วยท่าทางเชื่อสนิทใจ
เพราะว่าซื้อบื้อแบบนี้ ถึงได้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาเลย
เรื่องแบบนี้มันจะดีแล้วหรือเปล่านะ... การที่ไม่ให้เจ้านี่รู้อะไรซักอย่าง
“ โซโล
เย็นนี้ไปสนามบาสกันมั๊ย ”
เจ้าของร่างกายบอบบางเกินกว่าผู้ชายเปลี่ยนเป้าหมายกลับมาสนใจเพื่อนผมเขียวของตัวเองอีกครั้ง
แขนข้างหนึ่งที่อยู่ๆก็ยกขึ้นมากอดคอ
ทำเอาลมหายใจของคนตัวสูงสะดุดเฮือกด้วยความตกใจ
ใบหน้าหวานดูท่าจะกำลังตื่นเต้นไม่น้อย …ได้ยินลูฟี่บ่นๆมาว่าชมรมบาสทีมปีสามกำลังจะดวลกับทีมปีสองที่มีฝีมือร้ายกาจมากๆ
ใครจะไปคิดว่าคนอย่างเจ้านี่จะสนใจของแบบนี้ก็เป็น...
เขาไม่ได้คิดไปเอง ...เวลาที่ลูฟี่เลือกจะทำอะไรบางอย่าง
ตัวเลือกแรกที่เด็กคนนั้นจะหันมาสนใจก็คือตัวเขาเอง
ก็แอบดีใจไม่น้อยที่มักจะได้ยินเสียงเล็กๆนั่นเรียกชื่อตัวเองขึ้นมา
ถึงแม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเหตุผลมันก็เพราะเป็นเพื่อนสนิทกันก็เถอะ
“ ก็เอาสิ...
”
แล้วคนอย่างเขาก็เป็นแบบนี้ ...ไม่เคยจะปฏิเสธคนตัวเล็กได้ซักที
ช่วงเวลาไม่ถึงห้านาทีที่เพื่อนตัวสูงขออาสาออกไปซื้อของกินจุกจิกให้
ทั้งที่พูดจนปากแทบจะฉีกแล้ว
แต่คนตัวเล็กก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมเดินเข้าไปในโรงยิมก่อนเลยซักนิด
เวลาเริ่มแข่งขันบาสเก็ตบอลตอนเย็นกำลังจะเริ่มในอีกไม่ช้า
ทั้งที่ให้เหตุผลไปแล้วว่าจะไม่เหลือที่ให้พวกเขานั่งชม
และเพราะสาเหตุนั้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ
ภาพแรกที่เห็นตอนที่หิ้วถุงออกจากร้านสะดวกซื้อมา
มันถึงได้กลายเป็นวงล้อมของนักกีฬาตัวสูงลิบ ยืนอยู่แถวๆหน้าประตูทางเข้า
เสียงเล็กๆที่แทรกออกมาท่ามกลางความวุ่นวายเหมือนเชิงตำหนิ
แต่ระยะห่างก็ไกลเกินกว่าจะฟังออก ทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่าเพื่อนสนิทของเขากำลังอยู่กลางวงนั้นไม่ผิดแน่
ลูฟี่เป็นคนประเภทที่หาตัวเจอได้ไม่ยากนัก
เพราะหากปล่อยให้อยู่คนเดียวแล้วล่ะก็
เจ้าตัวจะต้องดึงดูดเรื่องอะไรซักอย่างเข้าหาตัวเอง
แล้วก็กลายเป็นคนที่อยู่ท่ามกลางเสียงเอะอะอยู่เสมอ ปลายเท้าของคนตัวสูงรีบเร่งความเร็วเข้าไปใกล้
โดยไม่ได้ทันสังเกตอีกสองร่างที่เดินเข้ามาจากด้านหลังของเพื่อนสนิทตัวเล็ก
เพราะมัวแต่ทำตัวเงอะงะไม่เข้าไปดูซักที
จนเดินชนกับพวกนักบาสปีสามแล้วก็มีเรื่องกันจนได้...
“ หืม... ไอเราก็คิดว่ามันมีเสียงเอะอะอะไรดังมาจากตรงนี้ซะอีก ”
เสียงทุ้มหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด
ร่างสูงโปร่งของชายในชุดเครื่องแบบนักกีฬา ผิวออกไปทางสีแทน
ใบหน้าคมคายมีรอยคล้ำใต้ตาชัดเจน สวมหมวกขนสัตว์ไว้บนศีรษะ
เดินเข้ามาแทรกท่ามกลางความวุ่นวายนั้น
พร้อมกับชายร่างใหญ่ผู้มีผมสีแดงแสบสันอีกคน
เจ้าของใบหน้าโหดเกินเด็กมัธยมนั้นวางแขนแกร่งของตัวเองลงบนไหล่บางของคนตัวเล็กที่สุดในวงอย่างสนิทสนม
พอดีกับจังหวะที่สายตาของโซโลไปเห็นเข้า
“เห้ยๆ...
”
คิ้วเรียวของเพื่อนตัวสูงกระตุกเข้าหากันอย่างนึกขัดใจ
รีบเร่งฝีเท้าเข้าไปใกล้มากขึ้นอีก
จะเป็นฮีโร่ทั้งทีก็ไม่จำเป็นต้องไปแตะเนื้อต้องตัวนางเอกขนาดนั้นก็ได้นี่หว่า...
“ เห... เพิ่งรู้ว่าพวกรุ่นพี่ชอบรังแกเด็กตัวเล็กๆที่สู้ตัวเองไม่ได้นะเนี่ย
ข่าวฉาวกันดีจริงๆนะ ” ชายผมสีแดงเหยียดยิ้มร้ายๆ
ดวงตาคมกริบจ้องกลับไปอย่างยียวน ...แต่เพราะเป็นใบหน้าแบบนั้น
จึงทำให้คนถูกกล่าวถึงรู้สึกกลัวขึ้นมาไม่น้อย
เด็กหนุ่มสองคนนั้นคือคนดังระดับโรงเรียน ที่มีดีที่หน้าตา
แถมยังมีดีกรีเป็นถึงนักบาสฝีมือดี ...แต่สุดท้ายก็ยังไม่พ้นปัญหาเรื่องต่อยตีเก่งอยู่ดี
พวกรุ่นพี่ปีสามสบถออกมาด้วยท่าทางขัดใจ
นิ่วหน้าแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปกันทั้งกลุ่ม
เหลือทิ้งไว้เพียงผู้ช่วยชีวิตกับผู้ถูกช่วยที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ พวกนายเป็นใครเนี่ย...?
” คนหน้าหวานเงยหน้ามองคนตัวสูงสองคนแบบงงๆ
ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ
ก่อนที่มือบอบบางจะค่อยๆแงะเอาแขนของคนผมแดงออกจากไหล่ของตัวเอง
เห็นเพียงแต่ใบหน้าของคนสองคนที่ทำหน้าเหมือนกับกำลังได้ของเล่นชิ้นใหม่มาอยู่ในมือ
เจ้าเด็กนี่จะเป็นใครก็ไม่รู้หรอก... แต่น่ารักชะมัด
“ ลูฟี่...!
”
พร้อมๆกับเสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังไล่หลังมา
ร่างของเพื่อนผมเขียวที่หิ้วถุงพลาสติกขนาดใหญ่เข้ามาด้วยท่าทางเร่งรีบ
มาหยุดลงตรงหน้าคนตัวเล็ก
มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ยื่นเข้าไปคว้าเอาแขนบอบบางของเพื่อนสนิท
ก่อนจะดึงตัวออกมาทั้งแบบนั้น ท่ามกลางความงุนงงของคนที่เหลือ
“ หืม...
” คนสวมหมวกขนสัตว์เผยรอยยิ้มน้อยๆ
ดวงตาคมสีดำสนิทมองตามใบหน้าที่ดูหึงหวงของคนมาใหม่อย่างรู้ทัน
อะไรกัน... เด็กคนนี้มีผู้พิทักษ์ด้วยงั้นสิ
ออด... ออด...
ไม่ทันได้คิดอะไรต่อ เสียงออดสัญญาณเรียกรวมนักกีฬาก็ดังขึ้นซะก่อน
คนผิวแทนพ่นลมหายใจออกมาอย่างนึกเสียดาย
แต่ก็ยอมก้าวเข้าไปในโรงยิมอย่างช่วยไม่ได้
“ ไปกันเถอะ... เดี๋ยวคนแถวนี้เขาจะอารมณ์เสียซะก่อน ”
และก็ยังไม่วายเอ่ยประโยคกวนอารมณ์ให้คนตัวสูงอีกคนรู้สึกโมโหขึ้นมา
คนผมแดงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ หยุดพูดกับคนผมเขียวเพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะเดินจากไปอีกคน
“ ก็ไม่แปลกเท่าไรหรอกนะ
ที่คนน่ารักแบบนี้จะมีองครักษ์คอยอยู่ใกล้ๆ ...ถ้าอย่างนั้นก็ดูแลให้ดีด้วยล่ะ
เด็กน่ารักคนนี้น่ะ ”
หมั่นไส้รอยยิ้มของเจ้าหน้าโหดนั่นแบบสุดๆ... ทั้งที่สถานการณ์ออกจะโจ่งแจ้งขนาดนี้แล้วแท้ๆ
ลูฟี่ก็ยังจะมายืนทำหน้าเอ๋อไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่างเหมือนเดิมอยู่อีก
“ ชิ...
” จิ๊ปากอย่างขัดใจ ...อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่า
ทำไมคนอย่างเขาจะไม่รู้ว่าสองคนนั้นเองดูก็ท่าว่าจะสนใจลูฟี่อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน... ว่าแล้วก็เลื่อนมือไปบีบจมูกรั้นๆของคนหน้าหวานข้างๆอย่างนึกหมั่นไส้
“ โอ๊ย !
” มือเล็กยกขึ้นมาแกะมือของโซโลออกด้วยความเจ็บปวด
ทั้งพยายามตบๆอยู่หลายครั้งกว่าจะยอมปล่อย จนจมูกของเขาขึ้นสีแดงแจ๋
เสียงใสเอ่ยโวยวายขึ้นมา คิ้วเรียวขมวดพันกันยุ่ง
“ ทำอะไรของนายเนี่ย !
”
อย่ามาทำท่าทางไม่รู้เรื่องแบบนั้นนะ... โดนคนอื่นลวนลามแล้วยังจะมีเวลามาซื้อบื้อได้อีก
มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือนิ่มก่อนจะออกแรงดึงน้อยๆให้เดินตามไป
พยายามซ่อนใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของตัวเองเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายเห็นไปมากกว่านี้
“ ไปๆ
อยากเข้าไปดูไม่ใช่หรือไง ...ซื้อของกินมาให้แล้ว ” จะยังไงก็โกรธเจ้าเด็กนี่ไม่ลงซักทีอยู่ดี... ลูฟี่ยกมือขึ้นลูบจมูกตัวเองป้อยๆ
ดวงตากลมโตพยายามมองไปยังใบหน้าของอีกคนเพื่อหาคำตอบ
ริมฝีบางเริ่มยู่เข้าหากันพร้อมๆกับคิ้วเรียวของเจ้าตัวอย่างขัดใจ
“ บู้ว... โซโลเป็นอะไรเนี่ย ”
บางทีเป็นแบบนี้อาจจะดีแล้วก็ได้… ถึงจะเป็นความสุขในแบบที่ตัวเขาต้องหลบๆซ่อนๆ
ถึงแม้จะต้องมีเพียงเขาที่รักเจ้านี่ข้างเดียว ...ก็ขอให้เวลาแบบนี้มันอยู่กับเขานานๆกว่านี้ …ก็คงจะดี
เพราะรู้จักกันดี
ก็เลยแอบคิดว่าความซื้อบื้อของนายมันจะพอช่วยยื้อเวลาแห่งความสุขออกไปได้อีก...
ให้ฉันได้ตักตวงความสุขใกล้ๆนายแบบนี้ไปก่อน
จนกว่าจะถึงเวลานั้นได้มั๊ยนะ
สวัสดีรีดเดอร์ด้วยจ้าาาาา เค้ามาอัพแล้วววว
เขียนเองแล้วก็เขินเอง ใกล้จะบ้าแล้วค่ะ-.,-
อยากให้ได้โมเมนต์แบบรักนะแต่ไม่แสดงออก ชอบนะแต่ต้องแอบๆชอบอะไรทำนองนี้แหละค่ะ
อย่างที่บอกไปตอนแรกล่ะเน้อ บางทีอาจจะได้เห็นตัวละครในมุมใหม่ๆก็เป็นได้ค่ะ
ความคิดเห็น