ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #36 : ◣Fanfic◥ [ZoroxLuffy] Wha! It was just illusion wall X) (Part2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.89K
      56
      14 มิ.ย. 65

    Title: Wha! It was just illusion wall X)
    Pairing: Zoro x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 2/6

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




















     


    เพราะว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน

     สิ่งที่มันคอยกั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ก็คือกำแพงสูงตระหง่าน...

    ไม่ว่ายังไงก็จะไม่บอกความจริงไปเด็ดขาด ...หากมันจะทำให้ความสัมพันธ์แบบนี้ต้องจบลง

     

     

     

     

    ก็รู้อยู่หรอก... ว่าคนแบบหมอนั่นไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว ตัวโซโลเองก็ทำใจมาตั้งนานกว่าจะยอมรับความรู้สึกแปลกๆที่อยู่ในใจได้ เขามีเรื่องที่บอกเพื่อนสนิทตัวเล็กไม่ได้อยู่หนึ่งประการ... 

     

    ...ความสัมพันธ์แบบเพื่อนระหว่างเขากับลูฟี่มันยังคงดำเนินมาจนถึงตอนนี้ 

     

    แต่กว่าจะรู้ตัวอีกที... โซโลก็หยุดคิดกับหมอนั่นแค่เพื่อนไม่ได้อีกแล้ว 

     

    ลูฟี่เป็นคนน่ารัก ทั้งในทางหน้าตาและนิสัย ตัวเล็กบางๆ ผิวขาวๆแบบนั้น ไหนจะดวงตากลมโตกับใบหน้าที่น่ารักจนไม่เหมือนผู้ชายนั่นอีก นิสัยของเจ้าตัวที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีกับทุกคน จะมีใครมาชอบบ้างก็ไม่น่าแปลกใจเลย 

     

    รอยยิ้มแบบนั้นที่เขาเห็นมาตั้งแต่สมัยที่ยังขาสั้นๆอยู่ ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งมันก็ยังให้ความรู้สึกว่าบรรยากาศรอบข้างสว่างจ้าขึ้นมาทุกที เจ้านั่นยิ้มแล้วน่ารักมาก คงจะดีถ้าหากว่ารอยยิ้มนั้นมันกำลังส่งให้เขา ...ไม่ใช่คนอื่นแบบในตอนนี้ 

     

    แขนบอบบางกำลังกอดคอเพื่อนคิ้วม้วนอย่างสนิทสนม ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็พาลทำให้รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทุกที ถึงคนคิ้วม้วนนั่นออกจะเที่ยวม่อผู้หญิงไปทั่ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้านั่นจะไม่สนใจลูฟี่ซักหน่อย …กับคนที่ชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ แค่มีฝีมือทำอาหารเป็นเลิศอย่างหมอนั่นก็ดึงดูดลูฟี่ได้หนึบแล้ว 

     

    แขนขาวๆที่โอบรอบคอของคนที่ตัวสูงกว่า... และแขนของเจ้านั่นเองก็กำลังโอบไหล่นิ่มๆของลูฟี่ด้วยเหมือนกัน 

     

    เวลาที่นายแตะตัวคนอื่น และเวลาที่นายยอมให้คนอื่นแตะต้องตัวง่ายๆแบบนี้ ตัวฉันที่ทำได้เพียงแค่ยืนมองอยู่ข้างหลังเงียบๆ... 

     

    ...มันน่าโมโหสุดๆเลย 

     

    ทั้งๆที่เวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคน ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้ ...โซโลจะไม่แสดงสีหน้าผิดปกติอะไรออกไปให้เพื่อนตัวเล็กเห็นเด็ดขาด เขาพยายามทำตัวให้เหมือนกับที่เพื่อนสนิททั่วไปทำกัน 

     

    เวลาที่คนๆนั้นเอาใบหน้าเข้ามาใกล้ ...ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร ถึงได้ต้องรีบหลบสายตาคู่นั้นออกไปให้เร็วที่สุด... 

     

    แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจหรอก ว่าเขากำลังแสดงท่าทางแบบไหนออกไป... รู้แค่ว่ารู้สึกโมโหและขัดใจมากๆ ...อาจจะดูงี่เง่าที่ไปหึงหวงลูฟี่ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีสิทธิ์อะไรเลย... 

     

    เพื่อนสนิทอย่างเขา... จะไม่มีโอกาสนั้นบ้างเลยอย่างนั้นหรือ 

     

    “ -โล.. โซโลนี่นาย เป็นอะไรเนี่ย เอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่นั่นแหละ ” 

     

    เสียงเล็กๆเป็นตัวสะกิดให้ร่างสูงได้สติกลับมา ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองเดินตามเพื่อนในกลุ่มมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่หน้าโรงอาหารของโรงเรียน เจ้าของดวงตากลมโตตรงหน้ามุ่ยหน้ามองเขาด้วยท่าทางสงสัย 

     

    “ เปล่า... ไม่มีอะไร ” ดวงตาคมมองกลับไปอย่างนิ่งๆยืนยันคำพูดของตัวเอง ...ไม่ทันได้รู้ตัวหรอกว่าไปจ้องหน้าหมอนี่ตั้งแต่ตอนไหน 

     

    อาจเป็นเพราะท่าทางที่โซโลแสดงออกไปให้เห็น เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มจึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่คิดไม่ซื่อกับเพื่อนตัวเล็กคนนี้ จะมีก็เพียงลูฟี่เท่านั้นที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร และเขาก็ไม่อยากให้รู้ด้วย 

     

    “ งั้นหรอ ” ใบหน้ายังคงติดสงสัยอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยอมสลัดความคิดนั้นทิ้งไปเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยบทสนาใหม่ขึ้นมาแทรก 

     

    ด้วยความไม่ทันคนของเจ้าตัว ลูฟี่เชื่อคำโกหกหน้าตายแบบนี้ทุกครั้ง...

      

    “ นายนี่สนิทกับคนอื่นง่ายดีนะ ”

      

    ใบหน้าคมเบนหลบออกไปสนใจรายละเอียดบนบอร์ดข้างหลังของคนตัวเล็กแทน มันคือรายการระเบียบของโรงเรียนที่แปะติดเอาไว้อยู่ รวมไปถึงรูปถ่ายของกรรมการนักเรียนชุดใหม่ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ไม่นาน 

     

    “ หือ... นายอิจฉาฉันงั้นดิ ชิชิชิ ” 

     

    “ จะบ้าหรือไง ” 

     

    นายก็อย่าไปสนิทกับคนอื่นง่ายๆนักสิ... แล้วก็เลิกให้คนอื่นโดนตัวง่ายๆแบบนี้ซักที 

     

    มือหนายกขึ้นมาขยี้ผมยุ่งๆของเพื่อนสนิท ดวงตาคมสีดำแบบคนญี่ปุ่นเลื่อนไปเห็นภาพของประธานนักเรียนคนใหม่ พอดีกับจังหวะที่เพื่อนจมูกยาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างกันพูดขึ้นมา 

     

    “ พวกกรรมการชุดใหม่ของปีนี้อ่ะ เห็นยัง ” นิ้วมือเรียวของอุซปชี้ไปยังร้านอาหาร ที่มีกลุ่มคนใส่ปลอกแขนสีฉูดฉาดเอาไว้ที่ต้นแขนเสื้อนักเรียน ภาพของใครบางคนปรากฏขึ้นมาบนสายตาของโซโล คนเดียวกันกับภาพเมื่อครู่ที่ได้เห็นในบอร์ด 

     

    “ เห็นว่าเป็นหลานสาวของสโมคยันคนนั้นด้วยสินะ ” หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มยกมือขึ้นกอดอกพิจารณา สโมคยันที่ว่าก็คืออาจารย์ฝ่ายปกครองสุดโหด แต่ดูเหมือนว่าพวกนักเรียนจะไม่ค่อยเคารพในการเรียกชื่อเขาซักเท่าไร 

     

    ประธานนักเรียนคนใหม่เป็นเด็กสาวผมยาวที่มัดรวบไปด้านหลัง สวมแว่นตากรอบเหลี่ยมสีแดง บุคลิกดูมั่นใจในตัวเองและเจ้าระเบียบเหมือนกับสโมคเกอร์คนนั้นไม่มีผิด ทั้งหน้าตาท่าทาง ทุกอย่างทำให้โซโลต้องชะงักลงทั้งอย่างนั้น ดวงตาคมเบิกขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง 

     

    เหมือนมาก... 

     

    ทำไมในโลกนี้ถึงมีคนที่เหมือนกันขนาดนี้อยู่ด้วย... 

     

    เหมือนกับคุอินะ.... 

     

    ท่าทางแบบนั้นทำให้ลูฟี่รู้สึกแปลกใจขึ้นมาอีกครั้ง คราวที่แล้วอยู่ๆโซโลก็จ้องหน้าเขาเหมือนคนกำลังโมโหอะไรซักอย่าง มาตอนนี้ก็ทำท่าทางอึ้งๆกับผู้หญิงที่ดูท่าจะเป็นประธานนักเรียนคนนั้นอีก 

     

    “ มีอะไรงั้นหรอโซโล ” 

     

    “ ...เปล่า ” 

     

    เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว... พี่สาวของเขาตายไปตั้งแต่ยังเด็กขนาดนั้น 

     

    ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแค่คนหน้าเหมือนกันก็เท่านั้น... 

     

    โซโลปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ คำตอบนั้นทำเอาคิ้วเรียวของคนตัวเล็กขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ พอถามว่ามีอะไรหรือเป็นอะไรกับคนๆนี้ไปกี่ครั้ง ก็มักจะได้คำตอบเดิมสั้นๆกลับมาทุกที... 

     

    “ งั้นหรอ... ” 

     

    ลูฟี่หันไปมองตามปลายสายตาของคนในกลุ่มด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับอุซปต่อโดยไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีก เพราะเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไร ถึงได้เดาความคิดของคนๆนี้ได้ยาก แต่เท่าที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ หากคนตัวเล็กกำลังรู้สึกยังไงอยู่ ก็คงจะเลือกพูดออกมาเองตรงๆซะมากกว่า 

     

    โซโลสลัดความคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้นออกไป หันกลับมาสนใจคนร่างบางที่กำลังฟังเรื่องโม้ของเพื่อนจมูกยาวด้วยท่าทางเชื่อสนิทใจ เพราะว่าซื้อบื้อแบบนี้ ถึงได้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาเลย เรื่องแบบนี้มันจะดีแล้วหรือเปล่านะ... การที่ไม่ให้เจ้านี่รู้อะไรซักอย่าง 

     

    “ โซโล เย็นนี้ไปสนามบาสกันมั๊ย ” 

     

    เจ้าของร่างกายบอบบางเกินกว่าผู้ชายเปลี่ยนเป้าหมายกลับมาสนใจเพื่อนผมเขียวของตัวเองอีกครั้ง แขนข้างหนึ่งที่อยู่ๆก็ยกขึ้นมากอดคอ ทำเอาลมหายใจของคนตัวสูงสะดุดเฮือกด้วยความตกใจ ใบหน้าหวานดูท่าจะกำลังตื่นเต้นไม่น้อย …ได้ยินลูฟี่บ่นๆมาว่าชมรมบาสทีมปีสามกำลังจะดวลกับทีมปีสองที่มีฝีมือร้ายกาจมากๆ 

     

    ใครจะไปคิดว่าคนอย่างเจ้านี่จะสนใจของแบบนี้ก็เป็น...

     

     เขาไม่ได้คิดไปเอง ...เวลาที่ลูฟี่เลือกจะทำอะไรบางอย่าง ตัวเลือกแรกที่เด็กคนนั้นจะหันมาสนใจก็คือตัวเขาเอง 

     

    ก็แอบดีใจไม่น้อยที่มักจะได้ยินเสียงเล็กๆนั่นเรียกชื่อตัวเองขึ้นมา ถึงแม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเหตุผลมันก็เพราะเป็นเพื่อนสนิทกันก็เถอะ

      

    “ ก็เอาสิ... ” 

     

    แล้วคนอย่างเขาก็เป็นแบบนี้ ...ไม่เคยจะปฏิเสธคนตัวเล็กได้ซักที

     

     

     

     

     

     

    ช่วงเวลาไม่ถึงห้านาทีที่เพื่อนตัวสูงขออาสาออกไปซื้อของกินจุกจิกให้ ทั้งที่พูดจนปากแทบจะฉีกแล้ว แต่คนตัวเล็กก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมเดินเข้าไปในโรงยิมก่อนเลยซักนิด เวลาเริ่มแข่งขันบาสเก็ตบอลตอนเย็นกำลังจะเริ่มในอีกไม่ช้า ทั้งที่ให้เหตุผลไปแล้วว่าจะไม่เหลือที่ให้พวกเขานั่งชม 

     

    และเพราะสาเหตุนั้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ ภาพแรกที่เห็นตอนที่หิ้วถุงออกจากร้านสะดวกซื้อมา มันถึงได้กลายเป็นวงล้อมของนักกีฬาตัวสูงลิบ ยืนอยู่แถวๆหน้าประตูทางเข้า เสียงเล็กๆที่แทรกออกมาท่ามกลางความวุ่นวายเหมือนเชิงตำหนิ แต่ระยะห่างก็ไกลเกินกว่าจะฟังออก ทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่าเพื่อนสนิทของเขากำลังอยู่กลางวงนั้นไม่ผิดแน่ 

     

    ลูฟี่เป็นคนประเภทที่หาตัวเจอได้ไม่ยากนัก เพราะหากปล่อยให้อยู่คนเดียวแล้วล่ะก็ เจ้าตัวจะต้องดึงดูดเรื่องอะไรซักอย่างเข้าหาตัวเอง แล้วก็กลายเป็นคนที่อยู่ท่ามกลางเสียงเอะอะอยู่เสมอ ปลายเท้าของคนตัวสูงรีบเร่งความเร็วเข้าไปใกล้ โดยไม่ได้ทันสังเกตอีกสองร่างที่เดินเข้ามาจากด้านหลังของเพื่อนสนิทตัวเล็ก

      

    เพราะมัวแต่ทำตัวเงอะงะไม่เข้าไปดูซักที จนเดินชนกับพวกนักบาสปีสามแล้วก็มีเรื่องกันจนได้... 

     

    “ หืม... ไอเราก็คิดว่ามันมีเสียงเอะอะอะไรดังมาจากตรงนี้ซะอีก ” 

     

    เสียงทุ้มหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด ร่างสูงโปร่งของชายในชุดเครื่องแบบนักกีฬา ผิวออกไปทางสีแทน ใบหน้าคมคายมีรอยคล้ำใต้ตาชัดเจน สวมหมวกขนสัตว์ไว้บนศีรษะ เดินเข้ามาแทรกท่ามกลางความวุ่นวายนั้น พร้อมกับชายร่างใหญ่ผู้มีผมสีแดงแสบสันอีกคน เจ้าของใบหน้าโหดเกินเด็กมัธยมนั้นวางแขนแกร่งของตัวเองลงบนไหล่บางของคนตัวเล็กที่สุดในวงอย่างสนิทสนม พอดีกับจังหวะที่สายตาของโซโลไปเห็นเข้า

      

    เห้ยๆ... ”

      

    คิ้วเรียวของเพื่อนตัวสูงกระตุกเข้าหากันอย่างนึกขัดใจ รีบเร่งฝีเท้าเข้าไปใกล้มากขึ้นอีก จะเป็นฮีโร่ทั้งทีก็ไม่จำเป็นต้องไปแตะเนื้อต้องตัวนางเอกขนาดนั้นก็ได้นี่หว่า... 

     

    “ เห... เพิ่งรู้ว่าพวกรุ่นพี่ชอบรังแกเด็กตัวเล็กๆที่สู้ตัวเองไม่ได้นะเนี่ย ข่าวฉาวกันดีจริงๆนะ ” ชายผมสีแดงเหยียดยิ้มร้ายๆ ดวงตาคมกริบจ้องกลับไปอย่างยียวน ...แต่เพราะเป็นใบหน้าแบบนั้น จึงทำให้คนถูกกล่าวถึงรู้สึกกลัวขึ้นมาไม่น้อย 

     

    เด็กหนุ่มสองคนนั้นคือคนดังระดับโรงเรียน ที่มีดีที่หน้าตา แถมยังมีดีกรีเป็นถึงนักบาสฝีมือดี ...แต่สุดท้ายก็ยังไม่พ้นปัญหาเรื่องต่อยตีเก่งอยู่ดี พวกรุ่นพี่ปีสามสบถออกมาด้วยท่าทางขัดใจ นิ่วหน้าแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปกันทั้งกลุ่ม เหลือทิ้งไว้เพียงผู้ช่วยชีวิตกับผู้ถูกช่วยที่ยืนอยู่ตรงนั้น 

     

    “ พวกนายเป็นใครเนี่ย...? ” คนหน้าหวานเงยหน้ามองคนตัวสูงสองคนแบบงงๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ ก่อนที่มือบอบบางจะค่อยๆแงะเอาแขนของคนผมแดงออกจากไหล่ของตัวเอง เห็นเพียงแต่ใบหน้าของคนสองคนที่ทำหน้าเหมือนกับกำลังได้ของเล่นชิ้นใหม่มาอยู่ในมือ 

     

    เจ้าเด็กนี่จะเป็นใครก็ไม่รู้หรอก... แต่น่ารักชะมัด 

     

    “ ลูฟี่...! ”

      

    พร้อมๆกับเสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังไล่หลังมา ร่างของเพื่อนผมเขียวที่หิ้วถุงพลาสติกขนาดใหญ่เข้ามาด้วยท่าทางเร่งรีบ มาหยุดลงตรงหน้าคนตัวเล็ก มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ยื่นเข้าไปคว้าเอาแขนบอบบางของเพื่อนสนิท ก่อนจะดึงตัวออกมาทั้งแบบนั้น ท่ามกลางความงุนงงของคนที่เหลือ 

     

    “ หืม... ” คนสวมหมวกขนสัตว์เผยรอยยิ้มน้อยๆ ดวงตาคมสีดำสนิทมองตามใบหน้าที่ดูหึงหวงของคนมาใหม่อย่างรู้ทัน

      

    อะไรกัน... เด็กคนนี้มีผู้พิทักษ์ด้วยงั้นสิ

      

    ออด... ออด... 

     

    ไม่ทันได้คิดอะไรต่อ เสียงออดสัญญาณเรียกรวมนักกีฬาก็ดังขึ้นซะก่อน คนผิวแทนพ่นลมหายใจออกมาอย่างนึกเสียดาย แต่ก็ยอมก้าวเข้าไปในโรงยิมอย่างช่วยไม่ได้ 

     

    “ ไปกันเถอะ... เดี๋ยวคนแถวนี้เขาจะอารมณ์เสียซะก่อน ” 

     

    และก็ยังไม่วายเอ่ยประโยคกวนอารมณ์ให้คนตัวสูงอีกคนรู้สึกโมโหขึ้นมา คนผมแดงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ หยุดพูดกับคนผมเขียวเพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะเดินจากไปอีกคน 

     

    “ ก็ไม่แปลกเท่าไรหรอกนะ ที่คนน่ารักแบบนี้จะมีองครักษ์คอยอยู่ใกล้ๆ ...ถ้าอย่างนั้นก็ดูแลให้ดีด้วยล่ะ เด็กน่ารักคนนี้น่ะ ” 

     

    หมั่นไส้รอยยิ้มของเจ้าหน้าโหดนั่นแบบสุดๆ... ทั้งที่สถานการณ์ออกจะโจ่งแจ้งขนาดนี้แล้วแท้ๆ ลูฟี่ก็ยังจะมายืนทำหน้าเอ๋อไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่างเหมือนเดิมอยู่อีก 

     

    “ ชิ... ” จิ๊ปากอย่างขัดใจ ...อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่า ทำไมคนอย่างเขาจะไม่รู้ว่าสองคนนั้นเองดูก็ท่าว่าจะสนใจลูฟี่อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน... ว่าแล้วก็เลื่อนมือไปบีบจมูกรั้นๆของคนหน้าหวานข้างๆอย่างนึกหมั่นไส้ 

     

    “ โอ๊ย ! ” มือเล็กยกขึ้นมาแกะมือของโซโลออกด้วยความเจ็บปวด ทั้งพยายามตบๆอยู่หลายครั้งกว่าจะยอมปล่อย จนจมูกของเขาขึ้นสีแดงแจ๋ เสียงใสเอ่ยโวยวายขึ้นมา คิ้วเรียวขมวดพันกันยุ่ง 

     

    “ ทำอะไรของนายเนี่ย ! ” 

     

    อย่ามาทำท่าทางไม่รู้เรื่องแบบนั้นนะ... โดนคนอื่นลวนลามแล้วยังจะมีเวลามาซื้อบื้อได้อีก 

     

    มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือนิ่มก่อนจะออกแรงดึงน้อยๆให้เดินตามไป พยายามซ่อนใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของตัวเองเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายเห็นไปมากกว่านี้ 

     

    “ ไปๆ อยากเข้าไปดูไม่ใช่หรือไง ...ซื้อของกินมาให้แล้ว ” จะยังไงก็โกรธเจ้าเด็กนี่ไม่ลงซักทีอยู่ดี... ลูฟี่ยกมือขึ้นลูบจมูกตัวเองป้อยๆ ดวงตากลมโตพยายามมองไปยังใบหน้าของอีกคนเพื่อหาคำตอบ ริมฝีบางเริ่มยู่เข้าหากันพร้อมๆกับคิ้วเรียวของเจ้าตัวอย่างขัดใจ 

     

    “ บู้ว... โซโลเป็นอะไรเนี่ย ” 

     

    บางทีเป็นแบบนี้อาจจะดีแล้วก็ได้… ถึงจะเป็นความสุขในแบบที่ตัวเขาต้องหลบๆซ่อนๆ 

      

    ถึงแม้จะต้องมีเพียงเขาที่รักเจ้านี่ข้างเดียว ...ก็ขอให้เวลาแบบนี้มันอยู่กับเขานานๆกว่านี้ …ก็คงจะดี 

     

     

     

     

    เพราะรู้จักกันดี ก็เลยแอบคิดว่าความซื้อบื้อของนายมันจะพอช่วยยื้อเวลาแห่งความสุขออกไปได้อีก...

     ให้ฉันได้ตักตวงความสุขใกล้ๆนายแบบนี้ไปก่อน จนกว่าจะถึงเวลานั้นได้มั๊ยนะ

     

     














    สวัสดีรีดเดอร์ด้วยจ้าาาาา เค้ามาอัพแล้วววว

    เขียนเองแล้วก็เขินเอง ใกล้จะบ้าแล้วค่ะ-.,- 


    อยากให้ได้โมเมนต์แบบรักนะแต่ไม่แสดงออก ชอบนะแต่ต้องแอบๆชอบอะไรทำนองนี้แหละค่ะ

    อย่างที่บอกไปตอนแรกล่ะเน้อ บางทีอาจจะได้เห็นตัวละครในมุมใหม่ๆก็เป็นได้ค่ะ



     
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×