ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #45 : ◣Fanfic◥ [AllxLuffy] Candied dream : Panthera & The rose garden(2) (Part4)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.66K
      56
      14 มิ.ย. 65

    Title: Candied dream : Panthera & The rose garden (2)
    Pairing: All x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 4/20

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


















     

    เสียงน้ำที่เอ่อล้นล้นจากบ่อขนาดใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ กระทบกับพื้นหินเย็นเฉียบ ไอน้ำสีขาวลอยคลุ้งบดบังความสวยงามของผนังหินที่มีโคมไฟลวดลายวิจิตรคอยให้ความสว่าง

      

    ร่างของเด็กหนุ่มในชุดกระโปรงยืนนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่งข้างๆกับบ่อน้ำร้อน มีโอกาสตั้งมากมายให้เขาหนีออกไปจากปราสาทนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ...ลูฟี่ทำแบบนั้นไม่ได้ 

     

    ดวงตากลมโตหรี่ลงด้วยความรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก พยายามหาสาเหตุที่ตัวเองไปไหนไมได้แบบนี้... อาจเพราะการขยับขาสำหรับเขามันช่างยากลำบากเหลือเกิน นิดหน่อยความเจ็บปวดก็แล่นขึ้นมาแล้ว... 

     

    เวลาผ่านมานานเท่าไรแล้วกันแน่ เขาจะหาทางกลับไปได้ยังไง ถ้าหากลองถามคนที่นี่ดู คนพวกนั้นจะพาเขาออกไปได้หรือเปล่านะ... ไม่ใช่เวลาที่ควรจะมาอยู่ที่นี่แล้วด้วยสิ

     

    จริงสิ... ถ้ามีโทรศัพท์อยู่คงพอทำอะไรได้บ้าง 

     

    กระเป๋า... กระเป๋าของฉันอยู่ที่ไหน

     

    คนตัวเล็กที่อยู่ๆก็ปิ๊งไอเดียดีๆขึ้นมารีบหันมองซ้ายขวา จากนั้นสีหน้าเหวอๆจึงค่อยๆปรากฏขึ้นมาด้วยความตกใจ ….จะไปมีได้ยังไงกัน 

     

    ดันไปลืมวางไว้ตอนที่เปลี่ยนเป็นชุดนี้แล้วต่างหากล่ะ...

      

    ก่อนที่สายตาคู่เดิมจะทอดมองไปยังร่างของใครอีกคนที่ยืนอยู่ในน้ำ ร่องรอยตามแขนขาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับลูฟี่ไม่น้อย ...ภายใต้เสื้อผ้าสีครึ้มที่แสนดูดีเหล่านั้นปกปิดลวดลายที่เหมือนกับเสือดาวที่ขึ้นเต็มทั้งแขนขา ...ผิวสีเหลืองกับลวดลายสีดำที่ตัดกันกำลังกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด 

     

    ถ้าหากมองไม่ผิดไป นั่นคือสิ่งที่เหมือนกับหางกำลังพ้นขึ้นมาจากผิวน้ำอยู่ด้วย... 

     

    ผู้ชายคนนี้... เป็นเสือจริงๆด้วย 

     

    สุดยอดเลย... เกิดมาเพิ่งเคยเห็นนี่แหละ 

     

    ความคิดมากมายหลั่งไหลเข้าสู่สมองของเด็กหนุ่ม คิ้วเรียวขมวดยุ่งเข้าหากันด้วยความสับสน ทั้งชื่นชมและแปลกใจไปพร้อมๆกัน แต่ขณะนั้นก็โดนใครอีกคนที่อยู่ด้วยกันพูดแทรกขึ้นมาเหมือนจะตำหนิ 

     

    “ ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น... ไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำของข้ามาสิ อยู่บนชั้นนั่น ” สายตาคมจ้องนิ่งที่ใบหน้าหวาน เรียกสติคนตัวเล็กให้สะดุ้งขึ้น ก่อนเดินออกไปหยิบชุดคลุมตามสายตาที่ร่างนั้นนำไปด้วยใบหน้างงๆ แรงส่งให้เดินไปมันพาลเหลือน้อย เมื่อความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อมันทำให้ท่าเดินไม่เสถียรนัก 

     

    ทำไมเขาจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ... ชักจะเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง 

     

    “ ใส่ให้ข้า... ” 

     

    พอหันหลังจะเดินกลับไป ก็พบกับร่างสูงของอีกคนที่มายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ...น้ำเกาะพราวตามผิวหนังและร่างกายสมส่วนนั้น ในสภาพที่ไม่มีอาภรณ์ใดๆสวมใส่ อดทำให้ลูฟี่ตกใจไม่ได้ แถมยังออกคำสั่งให้ใส่ให้เรียบร้อยอีกต่างหาก 

     

    ลูฟี่ขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความรู้สึกที่เริ่มจะหงุดหงิดเล็กน้อย ...ตอนนี้เขากำลังอยากกลับบ้านที่สุด กระโปรงที่รุ่มร่ามนี่ส่งผลให้ร่างเล็กขยับตัวลำบากแถมยังเปียกน้ำด้วยอีกต่างหาก รวมกับความเจ็บที่ขาเข้าไปมันช่างชวนให้หงุดหงิดดีจริงๆ

     

    เลิกออกคำสั่งซักทีเถอะน่า... ถ้าไม่ติดว่ามายืนขวางอยู่ข้างหลังแบบนี้เขาคงเดินหนีไปแล้ว

     

    แต่ด้วยความสูงของอีกฝ่ายที่มากกว่า คนตัวเล็กที่ตั้งใจจะรีบๆใส่ให้แล้วออกไปจากที่นี่จึงจำเป็นต้องเขย่งตัวขึ้น ความยาวของกระโปรงที่ถูกยัดเยียดให้ใส่ดันมีมากเกินไป ไหนจะพื้นห้องน้ำลื่นๆแบบนี้ด้วย... 

     

    “ เหวอ...!! ” เท้าเจ้ากรรมดันไปสะดุดชายกระโปรงที่เกะกะเข้าอย่างจัง

     

    คนตัวเล็กกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ... อีกไม่ถึงวิเขาต้องหงายหลังหัวฟาดฟื้นแน่ๆ 

     

    หมับ...

      

    พลันแขนแกร่งของใครอีกคนก็โอบเข้าหาเอวบางของร่างนั้นได้อย่างทันท่วงที ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มองกลับไปยังผู้ช่วยชีวิตอย่างอึ้งๆ ปนกับความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ร่างกายของอีกฝ่ายที่ยังคงไร้เครื่องปกปิดบดเบียดเข้ากับร่างกายของเขา สายตาคมดุจพยัคฆ์คู่นั้นเองก็กำลังจ้องมาในนัยน์ตาของเขาเช่นกัน... 

     

    ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันก็เถอะ... แต่แปลกชะมัด 

     

    สิ่งที่อยู่ใต้อกนี่มันกระตุกเร็วไม่เป็นจังหวะอย่างบอกไม่ถูก...ทำไมกันนะ 

     

    “ ..เอ่อ ขอบคุณนะ ...แล้วก็ขอโทษ ฉันทำชุดคลุมนายเปียกหมดแล้ว ” พอกลับมายืนที่เดิมได้ก็รีบเอ่ยปากขอโทษ ชูชุดคลุมในมือที่มีรอยน้ำเปียกเป็นปื้นในอีกฝ่ายดูพร้อมรอยยิ้มแหยๆ 

     

    “ เดี๋ยวฉันไปหยิบให้ใหม่ก็ได้ ” 

     

    “ เดี๋ยว ” แขนบอบบางถูกมือของคนตัวสูงคว้าเอาไว้ได้ก่อนที่จะก้าวออกไปอีกครั้ง ส่งให้เจ้าของใบหน้าหวานหันกลับมามองด้วยความงุนงง 

     

    คนๆนี้ทำให้ภาพอสูรที่เขาสร้างมาพลันสั่นคลอน ...สมองมันสั่งการให้เอื้อมมือไปประคองร่างนั้นไว้โดยอัตโนมัติ ด้วยกลัวคนตัวเล็กจะได้รับบาดเจ็บจากเขาคนนี้ไปมากกว่าเดิม  

     

    ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ...

     

    “ เจ้าเจ็บขางั้นหรือ... ” ดวงตาคมกริบจ้องเข้าไปในแววตาสุกใสนั้น เจ้าตัวจึงพยักหน้าเบาๆกลับมาเป็นคำตอบ ...มันช่างเดาได้ง่ายดายเสียเหลือเกิน ว่าอาการบาดเจ็บนี้มันมีสาเหตุมาจากตัวเขาเอง... 

     

    คงจะเป็นในตอนนั้น... ที่เขาเหวี่ยงร่างกายที่บอบบางน่าทะนุถนอมนี่ลงกับพื้นอย่างไม่ปราณี 

     

    กลายเป็นเจ้าของร่างกายที่มีลวดลายเหมือนกับเสือที่เดินเข้าไปหยิบผ้าขนหนูบนชั้นมาเอง แล้วนำสิ่งนั้นมาพันรอบเอวตัวเอง มือของเขารวบเอาร่างบางตรงหน้าเข้าสู่อ้อมแขนในท่าเจ้าสาว คนที่ยังลำดับเหตุการณ์ไม่ได้เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ แขนเล็กเผลอโอบรอบคอของอีกฝ่ายไว้ด้วยความกลัวตก 

     

    “ ...เดี๋ยวนายกำลังจะทำอะไร! ” ร่างทั้งร่างที่อยู่ๆก็ลอยขึ้นมาจากพื้นส่งให้ใบหน้าหวานนั้นซีดลงอย่างเห็นได้ชัด และคำถามที่ถูกส่งออกมาตามราวกับว่าถูกอีกฝ่ายตั้งใจเมินเฉยไปทั้งอย่างนั้น 

     

    ปลายเท้าของตัวสูงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ผ่านอีกหลายห้องที่ลูฟี่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน จนกระทั่งมาหยุดในห้องที่มีเตาผิงกับเก้าอี้ยาวที่ถูกสลักด้วยลวดลายสวยงาม และบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงอย่างดี 

     

    ร่างเล็กถูกวางลงบนเก้าอี้ตัวนั้นอย่างแผ่วเบา คนตัวสูงเดินหายไปซักพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวสีครึ้ม ในมือมีสิ่งที่เหมือนกับกระปุกอะไรบางอย่าง 

     

    ข้อขาของคนตัวเล็กถูกมือของอีกฝ่ายคว้าออกมา ก่อนที่เขาจะเปิดกระปุกนั้น บางอย่างที่มีกลิ่นหอมฉุนถูกแตะลงที่ปลายนิ้ว ก่อนที่คนตัวสูงจะนวดคลึงบริเวณข้อเท้าของร่างบางที่เปล่งบวมจนเห็นได้ชัด... ลูฟี่เบิกตาขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ 

     

    ถึงจะมือหนักเกินไปหน่อยก็เถอะ... แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดทำให้รู้สึกเจ็บกว่าเดิม ...ชายคนนี้กำลังทายาให้เขา คนที่เหมือนจะไม่ชอบเขาตั้งแต่แรกในตอนนี้กำลังคุกเข่าทายาให้เขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้... ลูฟี่ไม่เข้าใจเลยว่าชายที่เหมือนกับอสูรคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ 

     

    แต่ใจดีจังเลย... 

     

    “ จริงๆนายก็เป็นคนดีนี่นา ...ขอบคุณนะ ” ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มกว้าง... มันช่างเป็นรอยยิ้มที่จริงใจไร้การเสแสร้งใดๆที่คนร่างสูงสัมผัสได้ จนแอบแปลกใจขึ้นมา... คนๆนี้ไม่เคยโกหกเขาเลย... 

     

    “ เหอะ... อย่าได้ใจไป ถ้าหากมีคนมาตายในปราสาทของข้าก็คงจะไม่ดีเท่าไร ” 

     

    เสียงทุ้มเอ่ยกลบเกลื่อนความรู้สึกของตน... ยามที่จ้องมองไปยังใบหน้าชวนฝันนั้น ก็ยังปรากฏเพียงแววตาใสซื่อและรอยยิ้มกว้างนั่น... 

     

    “ เจ้าไม่กลัวข้าหรือ... ” 

     

    ในแววตาสดใสนั่น ไม่ทอความหวาดกลัวที่มีต่อเขาแม้แต่นิด... 

     

    ไม่หวาดกลัวต่ออสูรตนนี้เลยหรืออย่างไร... 

     

    “ หือ... ทำไมฉันต้องกลัวด้วยล่ะ ? ” 

     

    คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความสงสัย คนตัวสูงไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาจัดการกับอาการปวดบริเวณข้อขาคนตัวเล็กจนรู้สึกว่ามันทุเลาดีแล้ว จึงเก็บอุปกรณ์ต่างๆและเดินกลับเข้าสู่ห้องนอนของตัวเอง... 

     

    แปลกใจจริง... อสูรที่มีแต่คนหวาดกลัวเช่นเขา... 

     

    แต่กลับไม่มีความหวาดกลัวนั้นอยู่กับเด็กหนุ่มผู้น่าทะนุถนอมคนนี้... 

     

    แปลกใจ...ยามที่สายตาประสานกัน 

     

    ยามที่ร่างกายบอบบางนั่นเข้ามาอยู่ในระยะประชิด 

     

    ทำไมก้อนเนื้อที่อยู่ในอกนี่จึงได้เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแบบนี้... 

     

    เจ้าทำอะไรกับข้าลงไปกันแน่... 

     

     

    อสูรร้ายนั้นไม่ทันได้รู้ตัว... ว่าช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาที่หัวใจกำลังรู้สึกแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลวดลายของพยัคฆ์ที่แสนน่ากลัวกลับกลายจางหายไปอย่างช้าๆ... จนไม่เหลือตราบาปแห่งอสูรผู้ไร้หัวใจอีกแล้ว

     

     

      

     

     

    สายลมอ่อนๆพัดพากลิ่นหอมของกุหลาบมาแตะจมูกชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ท้องฟ้ายามเช้าที่ปลอดโปร่งและแสงแดดอบอุ่น เบื้องหน้าคือสวนกุหลาบหลากสีสันกำลังประชันความสวยงาม

      

    ลูฟี่ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องโถงหลังจากเผลอหลับไปบนเก้าอี้ตัวยาวนั้น เขาไม่ได้ฝันไปจริงๆ... ภาพแรกที่เห็นหลังจากตื่นนอนยังคงเป็นปราสาทของชายที่เหมือนอสูรคนนั้น เสียงนาฬิกาดังลั่นไม่อาจทำให้เขาฝืนนอนหลับต่อได้ มันทั้งดังและน่ารำคาญอย่างไม่อาจหาอะไรเปรียบ 

     

    และเมื่อเดินออกมาสำรวจบริเวณรอบๆตามเสียงประท้วงของกระเพาะ ก็พบกับร่างของชายในชุดสีครึ้มที่กำลังยืนอยู่ในสวนกุหลาบ ไม่นานนักเขาก็ถูกออกคำสั่งให้เดินตามร่างนั้นไปยังโต๊ะที่มีกาน้ำชาตั้งไว้ โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนมาจัดไว้ให้ 

     

    สวนกุหลาบที่แสนสวยงาม สวนที่อสูรผู้โหดร้ายนั้นแสนจะหวงแหน ไม่เคยมีผู้ใดได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้ามา... ในเวลานี้เขากลับเชื้อเชิญเด็กหนุ่มอย่างลูฟี่มาเชยชม ร่างสูงดื่มน้ำชายามเช้าพร้อมนั่งอยู่บนเก้าอี้เงียบๆ ในขณะที่ปล่อยให้ร่างบางที่ดูท่าแล้วคงจะกำลังตื่นตาตื่นใจไม่น้อยได้เดินเล่นต่อไป น่าแปลกที่ใบหน้ามีความสุขของคนหน้าหวานนั้น... มันกลับทำให้อสูรเช่นเขารู้สึกเพลิดเพลินได้ 

     

    “ สวยจัง... กุหลาบพวกนี้นายปลูกเองหมดเลยงั้นหรอ ” เสียงเล็กเอ่ยถามขึ้น สวนกุหลาบกว้างๆแบบนี้แม้แต่ในโตเกียวก็ยังหายากนัก แถมที่นี่ยังมีแต่กุหลาบสวยๆที่ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างเรียกให้เข้าไปหาตลอดเวลา 

     

    เป็นสีที่แปลก... สีที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน 

     

    “ อย่าแตะต้องนะ!! ” 

     

    เสียงทุ้มตะโกนขึ้นก้องเมื่อปลายนิ้วเรียวของคนตัวเล็กกำลังจะสัมผัสกับกุหลาบดอกหนึ่ง ไหล่บางคู่นั้นสะดุ้งขึ้น ก่อนหันไปขอโทษอีกฝ่ายด้วยใบหน้าตกใจ 

     

    “ อะ...ขอโทษ ” 

     

    สีหน้าของลูฟี่เจื่อนลงอย่าเห็นได้ชัด ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนๆนั้นจะหวงกุหลาบของตนขนาดนี้... ดวงตาคมสีอำพันเบิกกว้างขึ้นเมื่อรู้สึกตัวว่าตนได้เผลอตวาดเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้ตัว ...ร่างสูงยันตัวขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนตรงมาที่ร่างเล็กด้วยใบหน้าที่เหมือนกำลังขัดใจไม่น้อย มือข้างหนึ่งยื่นเข้ามาใกล้กับใบหน้าหวาน อดทำให้ลูฟี่ผวาไม่ได้ 

     

    จนกระทั่งมันเอื้อมเลยไปหยิบก้านของดอกกุหลาบเมื่อครู่ ก่อนผกาพรรณสีน้ำเงินจะถูกยื่นมาไว้ตรงหน้าของเจ้าของดวงตากลมโต ลูฟี่เบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ... 

     

    “ เจ้าอยากได้สิ่งนี้ใช่หรือไม่... ” 

     

    ถึงจะอยากเชยชมเพียงใด... ก็ไม่ได้ต้องการมาเป็นของตัวเอง... 

     

    ได้แต่รับกุหลาบดอกนั้นมาไว้ในมืออย่างช่วยไม่ได้ ริมฝีปากบางยิ้มตอบรับน้ำใจนั้นด้วยความจริงใจ อุตส่าห์ยอมสละกุหลาบที่แสนจะหวงแหนนั้นมาให้เขาทั้งที 

     

    “ ขอบคุณนะ... นายเนี่ยใจดีจริงๆ ” ทั้งที่เมื่อครู่ทำหน้าราวกับกำลังโกรธเคืองใครอยู่แท้ๆ 

     

     

    การปฏิเสธ การบอกลา การไม่สมหวัง...

      โดยไม่ได้ทันรู้ถึงความหมายโดยนัยของดอกไม้ดอกนั้นเลยแม้แต่น้อย...

     

      

    “ โบว์ของเจ้ากำลังจะหลุด ” นิ้วมือเรียวของคนตัวสูงชี้มายังบริเวณคอเสื้อของเด็กหนุ่ม โบว์ใต้ปกเสื้อที่ตั้งใจปลดออกเพราะความอึดอัดจากเมื่อคืน จนรุ่งเช้ามาแล้ว เจ้าตัวก็ยังไม่ได้จัดการมัดมันให้เข้าที่ ดวงหน้าหวานก้มลงมองอย่างที่คนตรงหน้าว่า ก็พบกับริบบิ้นที่จวนจะหลุดอยู่รอมร่อ 

     

    วิ้ว... 

     

    พลันสายลมอ่อนๆก็พัดผ่านใบหน้านวลนั้นเบาๆ... เส้นผมนุ่มพลิ้วไหวไปเบาๆตามแรงลม 

     

    “ จริงด้วยสิ... ขอบคุณนะ อ๊ะ...! ”

      

    ริบบิ้นที่หวิดจะหลุดอยู่รอมร่อนั้นปลิวออกไปอย่างน่าประหลาด ราวกับโชคชะตาเป็นใจ ร่างกายเล็กรีบขยับตามมันโดยอัตโนมัติ แต่ครั้นเอื้อมมือแล้วก็ไม่อาจถึง 

     

    “ เดี๋ยวฉันไปเก็บมาก่อนนะ ” บอกคนตัวสูงก่อนจะเริ่มเร่งฝีเท้าตามไป น่าแปลกที่ริบบิ้นนั้นกลับพัดไปในทางเดียวอย่างแน่วแน่ ทั้งๆที่สายลมนั้นมันไม่ได้รุนแรงแม้แต่น้อย... 

     

     

    เมื่อเวลานั้นมาถึง... สายลมจะนำพาโชคชะตามาให้

      โดยไม่ได้ทันรู้ตัว... ว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้พบกันอีก...

      

     

    “ ได้ซักที! ” 

     

    เด็กหนุ่มกระโดดกบเข้าไปหยิบริบบิ้นนั้นด้วยความรวดเร็ว ลมอ่อนๆที่พัดอยู่เมื่อครู่ก็พาลเงียบสงบลงไปด้วย... ร่างเล็กชันตัวขึ้นยืนเตรียมจะสาวเท้าเดินกลับไป แต่แล้วก็ต้องแปลกใจกับสภาพรอบตัวที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง...

      

    ไม่พบแม้แต่ปราสาทและสวนกุหลาบกว้างสุดลูกหูลูกตา ทั้งที่วิ่งออกมาได้ไม่ไกลแท้ๆ... 

     

    ทำไมโดยรอบจึงมีแต่ป่าทึบ... มีแต่ต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด 

     

    “ ทำไมกัน... ” 

     

     

    เขากำลังอยู่ที่ไหนกันแน่...

     

     

     

     

    สายลมแห่งโชคชะตา... เจ้าช่างโหดร้ายเหลือเกิน 

    ในระหว่างที่ข้าสามารถเปิดใจรับใครบางคนเข้ามาได้แล้ว... 

    เจ้าก็กลับพรากสิ่งนั้นออกไป...

     

        

    อา...สายลมแห่งโชคชะตา... 

    ข้ารู้ว่าเขาไม่ใช่สิ่งที่เกิดมาเพื่อข้าเพียงผู้เดียว... 

    ...แต่เราจะได้พบกันอีกหรือไม่ โปรดบอกแก่ข้าที...

     












    กว่าเรื่องจะเดิน ตอนของเมะคนนึงก็แบ่งเป็น2พาร์ท กว่าจะครบทุกคน

    คนอ่านคงรอจนแห้งตายพอดีค่ะ(?) ขออภัยที่ช้ามากๆเลยนะคะ คิดถึงคนอ่านมากกกก

     

    มาถึงตอนที่ลูฟี่ถูกแยกออกจากลุจจิแล้วค่ะ โฮฮฮ ทำไมไรเตอร์ทำงี้

    ตามที่บรรยายเนอะ กุหลาบสีน้ำเงินหมายถึงความเป็นอมตะ แต่อีกนัยหนึ่ง คือการจากลาและไม่สมหวังนั่นเองค่ะ

    ยังไงลูฟี่ก็เป็นของทุกคนเนอะ มาลองทายกันดูดีกว่าค่ะว่าคนต่อไปจะเป็นใครกันน้

     

    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×